จีน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 19 Nov 2025 08:11:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จีน-ญี่ปุ่น ตึงเครียดหนัก! ล่าสุด ลามถึงอนิเมะถูก ‘ห้ามฉาย’ และสั่ง ‘ยกเลิกทริป’ ไปญี่ปุ่น https://positioningmag.com/1547766 Wed, 19 Nov 2025 02:56:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1547766 หลายคนน่าจะรู้ว่า จีน และ ไต้หวัน เป็น 2 ประเทศที่มีประเด็นความขัดแย้งกันอยู่ เนื่องจากจีนอ้างความเป็นเจ้าของเกาะไต้หวัน ซึ่งที่ผ่านมา ญี่ปุ่น เองก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงสถานการณ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน เพื่อไม่ให้เป็นการยั่วยุจีน

จนกระทั่งการมาของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) นายกรัฐมนตรีหญิงของญี่ปุ่น ที่​​กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า “หากจีนโจมตีไต้หวัน จนคุกคามต่อความอยู่รอดของญี่ปุ่น ก็อาจกระตุ้นให้ประเทศของเธอมีการตอบสนองทางทหาร” และความเห็นนี้เองที่เป็นชนวนสำคัญของความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่น

ล่าสุด แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่หลายแห่งของจีนได้ หยุดขายแพ็กเกจทัวร์ไปญี่ปุ่น หลังจากที่ รัฐบาลจีนเรียกร้องให้พลเมืองไม่เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้โรงแรมบางแห่งในญี่ปุ่นเริ่มมีการยกเลิกการจองจากนักท่องเที่ยวจีน

ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ผลกระทบดังกล่าวได้ลุกลามไปถึง อุตสาหกรรมบันเทิง โดยมีการเลื่อนการฉายภาพยนตร์ญี่ปุ่นในจีน เช่น Crayon Shin-chan the Movie: Super Hot! Scorching Kasukabe Dancers หรือ Cells at Work

นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายนปีนี้ ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 31.65 ล้านคน โดยประมาณ 7.49 ล้านคนมาจากจีน เพิ่มขึ้น 42.7% จากปีก่อน และนับเป็นประเทศที่มีการเดินทางมาญี่ปุ่นมากที่สุด โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน การบริโภคของนักท่องเที่ยวชาวจีนในญี่ปุ่นมีมูลค่าประมาณ 590,000 ล้านเยน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวทุกประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทางหัวหน้าสมาพันธ์ธุรกิจ 3 แห่งในญี่ปุ่นได้พบ มาซาอากิ คานาอิ (Masaaki Kanai) อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เพื่อเรียกร้องให้มีการเจรจากับจีนเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทางการทูต

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า มาซาอากิ คานาอิ จะเดินทางไปเจรจากับ หลิวจินซง (Liu Jinsong) รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีนในสัปดาห์นี้ แต่ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ (18 พฤศจิกายน) กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า หลี่เฉียงไม่มีแผนพบทาคาอิจิในการประชุม G20 ที่ประเทศแอฟริกาใต้

]]>
1547766
‘อินเดีย-เวียดนาม’ กอดคอแซง ‘จีน’ ส่งออกสมาร์ทโฟนไปสหรัฐฯ มากที่สุด! https://positioningmag.com/1531752 Thu, 31 Jul 2025 05:06:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1531752 ​​นับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ และจีน ทำสงครามการค้ากันมานาน ทำให้หลายแบรนด์ โดยเฉพาะ สมาร์ทโฟน ได้เลือก อินเดีย เป็นประเทศใหม่สำหรับผลิตสินค้า เพื่อลดการพึ่งพาจีน จนล่าสุด ยอดส่งออกสมาร์ทโฟนไปยังสหรัฐฯ ของอินเดียได้ แซงจีน เรียบร้อยแล้ว

Canalys รายงานว่า อินเดียแซงหน้าจีน ในการเป็นผู้ส่งออกสมาร์ทโฟนไปยังสหรัฐอเมริกา โดยในไตรมาส 2/2025 สหรัฐฯ นำเข้าสมาร์ทโฟนที่ประกอบขึ้นในอินเดียคิดเป็น 44% จากที่ไตรมาส 2/2024 สหรัฐฯ นำเข้าสมาร์ทโฟนจากอินเดียในสัดส่วนเพียง 13% เท่านั้น ขณะที่ปริมาณผลิตรวมของสมาร์ทโฟนในอินเดียเพิ่มขึ้น 240% จากปีก่อน

ไม่ใช่แค่อินเดียที่แซงจีน แต่ เวียดนาม ก็เป็นอีกประเทศที่แซง โดยมีส่วนแบ่งการส่งออกสมาร์ทโฟนไปยังสหรัฐฯ ถึง 30% ขณะที่สัดส่วนการส่งออกสมาร์ทโฟนจากจีนไปสหรัฐฯ หดตัวเหลือ 25% จากปีก่อนมีสัดส่วนสูงถึง 61% โดยตัวเลขดังกล่าวได้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของซับพลายเชนการผลิตออกจากจีน ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภาษี

ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของการจัดส่งสมาร์ทโฟนจากอินเดียมาจาก iPhone ของ Apple โดย Sanyam Chaurasia นักวิเคราะห์หลักของ Canalys กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่อินเดียส่งออกสมาร์ทโฟนไปยังสหรัฐอเมริกามากกว่าจีน ซึ่งแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เร่งตัวขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน

มีรายงานว่า ในปีนี้ Apple ได้เร่งแผนการผลิต iPhone ในโรงงานในอินเดีย โดยเฉพาะรุ่นที่ขายในสหรัฐอเมริกา และมีเป้าหมายระระยาวในการใช้อินเดียเป็นฐานการผลิต iPhone ในสัดส่วน 1 ใน 4 ของประเทศ ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่ Apple ด้วยการขึ้นภาษีเพิ่มเติมและเรียกร้องให้ Tim Cook ซีอีโอของบริษัท ผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะจะยิ่งทำให้ราคา iPhone ให้สูงขึ้น

Renaud Anjoran รองประธานบริหารของ Agilian Technology ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศจีน กล่าวว่า ผู้ผลิตทั่วโลกจํานวนมากได้ย้ายการประกอบขั้นสุดท้ายไปยังอินเดียมากขึ้น โดยจัดสรรกําลังการผลิตมากขึ้นในประเทศเอเชียใต้เพื่อให้บริการตลาดสหรัฐอเมริกา

ขณะที่บริษัท Agilian Technology ที่มีโรงงานในมณฑลกวางตุ้งเอง ก็กําลังปรับปรุงโรงงานในอินเดีย โดยมีแผนที่จะย้ายการผลิตบางส่วนไป โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มการทดลองผลิตในเร็ว ๆ นี้ก่อนที่จะเพิ่มการผลิตเต็มรูปแบบ

Source

]]>
1531752
งานเข้าไทย! หลัง ‘สหรัฐฯ’ จ่อแบนส่งออก ‘ชิป AI’ เพราะกลัวส่งต่อให้จีน https://positioningmag.com/1529023 Mon, 07 Jul 2025 03:35:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1529023 อย่างที่รู้กันว่า สหรัฐอเมริกา มีความกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงของ จีน โดยเฉพาะความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ เพราะกลัวจีนจะนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ในกองทัพ ล่าสุด สหรัฐฯ กำลังพิจารณาการส่งออกชิป AI ไปยังภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะกลัวจะถูกส่งต่อให้จีน

โดย Reuters อ้างแหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับสถานการณ์ ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานชิปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากพบว่ามีการนำเข้าชิป AI เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในบางประเทศแถบนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่ามีการใช้ประเทศเหล่านี้เป็นทางผ่านเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการควบคุมการส่งออกที่มุ่งเป้าไปที่จีน

ซึ่ง 2 ประเทศที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณาออกมาตรการจำกัดการส่งออกชิป AI ก็คือ ไทย และ มาเลเซีย เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการผลิตและประกอบชิปที่สำคัญในซัพพลายเชนระดับโลก รวมถึงมีการลงทุนด้าน Data Center และโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

อย่างในปี 2024 ทางมาเลเซียได้มีการนำเข้าชิป AI เพิ่มขึ้นถึง 3,400% การเพิ่มขึ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า มาเลเซียอาจ ทําหน้าที่เป็นประตูหลังที่มีศักยภาพสําหรับการเข้าถึงโปรเซสเซอร์ Nvidia ขั้นสูงของจีน ทั้งนี้ หากมาตรการนี้มีผลบังคับใช้จริง อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการลงทุนด้านเทคโนโลยีและ AI ในภูมิภาค

แม้ว่ามาตรการดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาและยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่คาดว่าอาจมีข้อยกเว้นบางประการสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและประกอบชิปในภูมิภาค เพื่อไม่ให้กระทบต่อซับพลายเชนทั่วโลก มากนัก

]]>
1529023
‘จีน’ ส่งออก ‘อาเซียน’ โตกระฉูด +21% สวนทางตลาดสหรัฐฯ -21% ส่วน ‘ไทย’ สินค้าจีนทะลักเพิ่ม +28% https://positioningmag.com/1521202 Fri, 09 May 2025 08:51:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1521202 หลายคนก็คงจะคิดไว้แล้วว่า จีน จะต้องหาทางระบายสินค้าก่อนที่มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ ในอัตราสูงถึง 145% จะมีผลบังคับใช้ และยอดส่งออกของจีนในเดือนเมษายนก็แสดงให้เห็นว่า อาเซียน เป็นตลาดที่มาชดเชยการหายไปของสหรัฐฯ

ตามข้อมูลจาก สำนักงานศุลกากรจีน เปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น +8.1% แม้ว่าการส่งออกไปยัง สหรัฐอเมริกา จะ ลดลงมากกว่า -21% ก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของจีนยังเติบโตก็คือ ตลาดยุโรป (+8%) และ ตลาดอาเซียน ที่เติบโตถึง +21% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

โดยประเทศ เวียดนาม และ มาเลเซีย ถือเป็น 2 ประเทศปลายทางหลักในการส่งออกของจีนในอาเซียน แต่ อินโดนีเซีย และ ไทย มีการจัดส่งจากจีนเพิ่มขึ้น +37% และ +28% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี

ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม ยอดส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ พุ่งขึ้น +9.1% เนื่องจากผู้ส่งออกเร่งส่งออกไปล่วงหน้าก่อนมีการปรับขึ้นภาษี แต่เมื่อนับการส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปี การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐอเมริกา ลดลง -2.5% ในขณะที่การ นําเข้า จาหสหรัฐฯ ไปยังจีน ลดลง -4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน 

นับตั้งแต่มีการขึ้นกำแพงภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้ กิจกรรมโรงงานของจีน ในเดือนเมษายน ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ในขณะที่ คําสั่งซื้อส่งออกใหม่ ลดลงสู่ระดับ ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022

Source

]]>
1521202
‘จีน’ ขู่! ประเทศไหนที่ร่วมมือกับสหรัฐฯ กีดกันจีนเพื่อยกเว้นภาษี เจอมาตรการตอบโต้แน่ https://positioningmag.com/1518980 Mon, 21 Apr 2025 11:32:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1518980 สงครามการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา และ จีน ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปสู่ประเทศอื่น ๆ เพราะล่าสุด จีน ออกคำเตือนว่าจะตอบโต้ประเทศที่ให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในลักษณะที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ

หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ ระงับการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ ในหลาย ๆ ประเทศไปเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้น จีน ที่เพิ่มภาษีเป็น 145% ซึ่งก็มีรายงานว่า ทรัมป์กำลังวางแผนใช้การเจรจาเรื่องภาษีเพื่อกดดันให้พันธมิตรของสหรัฐฯ จำกัดการทำธุรกิจกับจีน 

โดย กระทรวงพาณิชย์จีน ได้ออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์ดังกล่าว โดยวิจารณ์การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ เป็นการ ใช้ภาษีในทางที่ผิด และ รังแกฝ่ายเดียว ในขณะที่จีนเต็มใจจะร่วมมือกับทุกฝ่าย และปกป้องความเป็นธรรมและความยุติธรรมระหว่างประเทศ

“จีนคัดค้านอย่างหนัก ต่อการที่ฝ่ายใดก็ตาม ทำข้อตกลงโดยแลกกับผลประโยชน์ของจีน หากเกิดกรณีเช่นนี้ จีนจะไม่ยอมรับและจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด” กระทรวงพาณิชย์จีน กล่าว 

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จีน ยังได้เตือนถึง ความเสี่ยง ที่การค้าระหว่างประเทซจะกลับไปสู่ กฎแห่งป่า (Law of jungle) หรือ ผู้ที่แข็งแรงกว่าเท่านั้นที่เป็นผู้อยู่รอด และในท้ายที่สุดทุกประเทศจะกลายเป็นเหยื่อ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้เยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา โดยสี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้มีความพยายามร่วมกันในการ ต่อต้านภาษี และการรังแกฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มการค้ากับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปัจจุบันถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในระดับภูมิภาค ส่วนสหรัฐฯ ยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในระดับประเทศ

ที่ผ่านมา จีนได้ตอบโต้การขึ้นภาษีสหรัฐฯ ด้วยการเก็บภาษี 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากอเมริกา อีกทั้งยังได้ จำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญ และขึ้นบัญชีดำบริษัทสหรัฐฯ หลายราย แต่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็ก เพื่อจำกัดความสามารถในการทำงานร่วมกับบริษัทจีน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ไม่คาดว่าสหรัฐฯ และจีนจะบรรลุข้อตกลงในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า

Source

]]>
1518980
‘จีน’ เพิ่มงบสนับสนุน ‘เทคโนโลยี’ เป็น 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเร่งพัฒนานวัตกรรมไว้งัดกับ ‘อเมริกา’ https://positioningmag.com/1515439 Thu, 20 Mar 2025 03:14:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1515439 อย่างที่ทราบกันดีว่า จีน ได้ถูก สหรัฐฯ คว่ำบาตร ทำให้บริษัทเอกชน โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีไม่สามารถทำธุรกรรมกับบริษัทจีนได้ ส่งผลให้จีนเองพยายามดิ้นรนในการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หรือ AI

กระทรวงการคลังของจีน เปิดเผยว่างบประมาณกลางปี ​​2025 จะจัดสรรเงิน 398,120 ล้านหยวน (55,000 ล้านดอลลาร์) สำหรับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2024 การจัดสรรดังกล่าวถือเป็นรายการงบประมาณที่ใหญ่เป็นอันดับสาม รองจากการป้องกันประเทศ และการชำระดอกเบี้ยเงินกู้

การเพิ่มงบขึ้น 10% แสดงให้เห็นว่าจีนต้องการเร่งการวิจัยและพัฒนาภายในประเทศภายในปีนี้ เพื่อเร่งแผนการพึ่งพาตนเองในภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม เซมิคอนดักเตอร์ และแม้ว่างบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์จะไม่ช่วยให้ประเทศก้าวกระโดด แต่จะช่วยในโครงการที่มีอยู่ โดยเฉพาะในสาขาต่าง ๆ เช่น เซมิคอนดัก เตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การสำรวจอวกาศ และการคำนวณเชิงควอนตัม

ทั้งนี้ จีนวางเป้าที่จะประกาศความสำเร็จและชัยชนะใน้านการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมขั้นสูง เช่น AI,  เซมิคอนดักเตอร์, พลังงานสะอาด, Bio Technology ทั้งหมดมีฐานสำคัญที่การพัฒนาเทคโนโลยี 6G ภายในปี 2030 ส่งผลให้รัฐบาลมักจะลงทุนเงินในโครงการที่อาจไม่คุ้มทุนเป็นเวลาหลายปี เพื่อจะทำให้จีนมีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกในอุตสาหกรรมหลักเหล่านี้ภายไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแข่งขันที่ยังคงดำเนินอยู่ของจีนกับสหรัฐอเมริกา

]]>
1515439
เด็กน้อย-เด็กหนวดชาวอเมริกันเตรียมหยอดกระปุกเพิ่ม หลังราคา ‘ของเล่น’ อาจแพงขึ้น 20% เพราะ ‘ทรัมป์’ ขึ้นภาษีจีน https://positioningmag.com/1514036 Mon, 10 Mar 2025 06:21:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1514036 อย่างที่รู้กันว่า จีน เปรียบเสมือนโรงงานผลิตสินค้าของโลก อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนล่าสุด ที่ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน กำลังส่งผลกระทบในหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึง ของเล่น

เนื่องจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศว่า เขาวางแผนที่จะเก็บภาษีพิเศษจากการนําเข้าสินค้าทุกชนิดจากจีนเป็น 20% ซึ่งนั่นกำลังจะส่งผลกระทบต่อ ราคาของเล่น ในตลาดสหรัฐฯ เพราะ เกือบ 80% ของของเล่นที่ขายในสหรัฐฯ มาจากจีน ตามรายงานของ The Toy Association

โดย Greg Ahearn ประธานและซีอีโอของ The Toy Association คาดว่า ราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 15 – 20% สําหรับเกม ตุ๊กตา รถของเล่น และของเล่นอื่น ๆ โดยขณะนี้ ผู้ผลิตของเล่นจํานวนมากกําลัง เจรจาราคาใหม่ กับร้านค้าปลีก และกำลังพิจารณาถึงการ ลดต้นทุน ได้อย่างไรบ้าง เพราะช่วงราคาที่ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยินดีจ่ายปัจจุบันอยู่ที่ระหว่าง 4.99 – 19.99 ดอลลาร์ (ราว 170 – 670 บาท) ทําให้มีช่องว่างเพียงเล็กน้อยในการขึ้นราคา 

ขณะที่บริษัทของเล่นบางแห่งกําลังมองหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงการขึ้นราคา โดยการ ย้ายฐานการผลิต อาทิ Steve Rad ซีอีโอของผู้ผลิตของเล่น Abacus Brands Inc. กล่าวว่า บริษัทเขา กําลังพิจารณาเปลี่ยนไปใช้โรงงานในประเทศต่าง ๆ เช่น กัมพูชาหรือเวียดนาม

แต่ต้องยอมรับว่า ทั้ง 2 ประเทศยังไม่มีทักษะในระดับเดียวกันกับผู้ผลิตในจีน ดังนั้น เป็นไปได้ว่าอาจหยิบสินค้าบางชนิดกลับมาผลิตในสหรัฐฯ รวมถึงอาจจะ ตัดฟังก์ชัน บางอย่างของของเล่น เพื่อลดต้นทุน รวมถึงการ เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์

ด้าน Jay Foreman ซีอีโอของ Basic Fun เจ้าของคาแรกเตอร์ Tonka และ Care Bears กล่าวว่า เขาพยายามที่จะโน้มน้าวให้ผู้ค้าปลีกแบ่งช่วยแก้ปัญหาต้นทุนจากภาษี เพื่อจะไม่ผลักภาระไปที่ผู้บริโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเล่นเกือบทั้งหมดของ Basic Fun ผลิตในประเทศจีน ยกเว้น K’Nex ซึ่งเป็นชุดก่อสร้างที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ ธุรกิจของเล่นขนาดเล็ก คิดเป็นสัดส่วน 96% ของอุตสาหกรรมของเล่นในอเมริกาเป็นธุรกิจขนาดเล็ก

Source

]]>
1514036
เชือดไก่ให้ลิงดู? ‘Calvin Klein’ และ ‘Tommy Hilfiger’ แบรนด์แฟชั่นสหรัฐฯ ถูก ‘จีน’ ขึ้น ‘บัญชีดำ’ หนักสุดอาจโดนปิดหน้าร้านและโรงงานทั้งหมด https://positioningmag.com/1509895 Fri, 07 Feb 2025 04:27:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1509895 หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศมาตรการ ขึ้นภาษี นำเข้าสินค้าจาก จีน 10% มายังสหรัฐฯ ทั้งหมด ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้โดยการกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่ม 10-15% ล่าสุด แบรนด์แฟชั่นสัญชาติสหรัฐฯ อย่าง  PVH ได้ถูกจีนขึ้น บัญชีดำ ยิ่งย้ำถึงสงครามการค้าระหว่างสองประเทศปะทุขึ้นอีกครั้ง

ย้อนไปช่วงเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้เริ่มสอบสวน บริษัท PVH ในข้อหา ปฏิเสธที่จะจัดหาฝ้ายจากภูมิภาคซินเจียง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ล่าสุด รัฐบาลจีน ได้เพิ่มบริษัท PVH เจ้าของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Calvin Klein และ Tommy Hilfiger ไปยังรายชื่อ หน่วยงานที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือ บัญชีดำ ของรัฐบาลจีน ซึ่งทำให้ให้รัฐบาลจีนมีอำนาจจะ ปรับ ห้ามกิจกรรมนําเข้าและส่งออก เพิกถอนใบอนุญาตทำงาน และปฏิเสธการนำพนักงานต่างชาติเข้าประเทศ

ดังนั้น จีนสามารถบังคับให้บริษัท ปิดหน้าร้าน ที่ดําเนินงานในภูมิภาคและ ห้ามขายสินค้าให้กับผู้บริโภคชาวจีนทางออนไลน์ หรือพนักงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในจีน ก็มีโอกาสที่จะ ถูกเนรเทศ ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าจีนจะพยายามบังคับใช้การดําเนินการกับ PVH ในเขตปกครองตนเองของฮ่องกงหรือไม่ เนื่องจาก ฮ่องกงเป็นที่ตั้งของสํานักงานใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกของบริษัท

หลังจากมีคำสั่งดังกล่าวออกมา PVH ได้ออกแถลงการณ์ว่า “บริษัทประหลาดใจและผิดหวังอย่างสุดซึ้งต่อการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์ของจีน” อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัท PVH ยังคงดําเนินธุรกิจในจีนตามปกติ

ในช่วง 20 ปีของการดําเนินงานในประเทศจีนและให้บริการผู้บริโภคของเรา PVH ยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และดําเนินงานตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติของอุตสาหกรรมที่กําหนดไว้ เราจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป และหวังว่าจะได้รับการแก้ไขในเชิงบวก” บริษัทกล่าว

ตัวเลขผลประกอบการของ PVH ในปี 2023 แสดงให้เห็นว่า ยอดขายในตลาดจีนคิดเป็นสัดส่วน 6% และคิดเป็น 16% ของรายได้ แม้ว่ายอดขายและรายได้จะไม่ได้มีสัดส่วนสูงมาก แต่บริษัทต้องพึ่งพาประเทศจีนใน การผลิต มากกว่า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 18% ซึ่งทำให้ธุรกิจทั่วโลกมีความเสี่ยงไปด้วย

Neil Saunders กรรมการผู้จัดการและนักวิเคราะห์การค้าปลีกของ GlobalData กล่าวว่า การถูกขึ้นบัญชีดำในจีน ถือเป็นปัญหาที่ก่อกวน PVH อย่างมาก เพราะบริษัทจะต้องแย่งชิงเพื่อหาแหล่งกําลังการผลิตใหม่อย่างแน่นอน และแม้จะหาได้ทัน แต่อีกปัญหาที่ตามมาก็คือ คุณภาพ เพราะแม้ว่าบริษัทจะทํางานกับซัพพลายเออร์และโรงงานในกว่า 30 ประเทศ แต่บริษัทปักหลักอยู่ในจีนมานานถึง 20 ปี และสินค้าระดับไฮเอนด์ที่ผลิตอาจผลิตได้ยากก็ผลิตที่จีน

ในขณะที่คุณสามารถเปลี่ยนกําลังการผลิตได้อย่างง่ายดายพอสมควร แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรับประกันคุณภาพ รับประกันกระบวนการผลิต สิ่งเหล่านั้นต้องใช้เวลาในการพัฒนาทักษะ และจีนมีทักษะเหล่านั้น เพราะ PVH ดําเนินงานที่นั่นมานานหลายศตวรรษ ในขณะที่ประเทศอื่น โรงงานผลิตอื่น อาจไม่มีทักษะเหล่านั้นในตอนนี้”

ด้าน Sam Eide รองประธานของ Asia Group บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียด้านจีน มองว่า จีนต้องการทำให้บริษัท PVH เป็นตัวอย่างแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องเจอกับการขึ้นบัญชีดำ จากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทที่โดนจีนขึ้นบัญชีดำส่วนใหญ่เป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมกลาโหมของสหรัฐฯ หรือบริษัทที่มีบทบาทในด้านเทคโนโลยีความมั่นคง

ดังนั้น มีโอกาสที่จีนจะใช้ PVH เป็นตัวต่อรองเพื่อเจรจากับทรัมป์ และใช้เป็นตัวอย่างเพื่อแสดงอํานาจที่จะเกิดให้เกิดผลเสีบต่อธุรกิจอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ที่มีการดําเนินงานหลักและฐานลูกค้าในประเทศ เช่น Nike, Apple เป็นต้น

]]>
1509895
ชื่อทรัมป์ทำพิษ! ฉุดส่งออก ‘จีน’ ชะลอตัวลง นักวิเคราะห์เชื่อ ผลกระทบจะยิ่งชัดในเดือนธ.ค.-ม.ค https://positioningmag.com/1502693 Wed, 11 Dec 2024 01:55:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1502693 การส่งออกของ จีน ในเดือนพ.ย. เติบโตในอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่การนำเข้าหดตัวกว่าที่คาด ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวลสำหรับเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ที่นำมาซึ่งความเสี่ยงทางการค้าใหม่

ข้อมูล ศุลกากรจีน แสดงให้เห็นว่า การส่งออกของประเทศในเดือนพ.ย. เติบโตเพียง +6.7% ซึ่งน้อยกว่าการสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์ของ Reuters ที่ระบุว่า เพิ่มขึ้น +8.5% และน้อยกว่าในเดือนตุลาคมซึ่งเพิ่มขึ้น +12.7%

ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ ปริมาณ การนำเข้าหดตัว 3.9% ซึ่งถือเป็นผลงานที่แย่ที่สุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ส่งผลให้มีการเรียกร้องให้มีการสนับสนุนนโยบายเพิ่มเติมเพื่อพยุงอุปสงค์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง

โดยผลการส่งออกที่ลดลง ได้เกิดขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะจัดเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 10% เพื่อกดดันให้รัฐบาลจีน หยุดยั้งการค้าสารเคมีที่ใช้ในการผลิตเฟนทานิล และก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนเกิน 60%

ในขณะเดียวกัน จีนยังไม่สามารถจัดกับความตึงเครียดกับสหภาพยุโรปกรณีภาษีนำเข้าสูงถึง 45.3% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน ถือเป็นภัยคุกคามที่จะเปิดแนวร่วมที่สองในการทำสงครามการค้าระหว่างจีนกับฝ่ายตะวันตก ดังนั้น การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อจีนมากขึ้น เนื่องจากการส่งออกของเศรษฐกิจจีนที่มีมูลค่า 19 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นแรงกระตุ้นการเติบโตหลักประการหนึ่ง ในขณะที่ความเชื่อมั่นของครัวเรือนและธุรกิจ ลดลงจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์

“สัญญาณเริ่มแรกของการเร่งรัดการค้าเพื่อเตรียมรับมือภาษีของทรัมป์ในปีหน้าเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว แต่ผลกระทบเต็มที่จะไม่ปรากฏให้เห็นจนกว่าจะถึงเดือนต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะเดือนธันวาคมและมกราคม” Xu Tianchen นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Economist Intelligence Unit กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการนำเข้าที่ลดลง ส่งผลให้การค้าของจีนเกินดุลเพิ่มขึ้นเป็น 97,440 ล้านดอลลาร์ ในเดือนที่แล้ว จาก 95,720 ล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม โดยเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจบ้างเล็กน้อยเมื่อไม่นานนี้ โดยผู้ผลิตรายงานสภาวะการดำเนินธุรกิจที่ดีที่สุดในรอบ 7 เดือนจากการสำรวจโรงงานในเดือนพฤศจิกายน

บริษัทต่าง ๆ กล่าวว่า พวกเขายังคง ได้รับคำสั่งซื้อส่งออกน้อยลง แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อยังคงหายากในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และผู้ส่งออกกำลังย้ายสินค้าไปยังคลังสินค้าในต่างประเทศ เนื่องจากคาดว่าความต้องการจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

ขณะที่การส่งออกของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการนำเข้าของจีน ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนในเดือนพฤศจิกายน และการส่งออกสินค้าของเกาหลีใต้ไปยังจีนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ผลิตในจีนซื้อส่วนประกอบของเกาหลีใต้น้อยลงเพื่อส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูปอีกครั้ง

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาของรัฐบาลแนะนำให้ปักกิ่งคงเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ประมาณ 5% ในปีหน้า และดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของสหรัฐฯ โดยอาศัยตลาดผู้บริโภคภายในประเทศ

]]>
1502693
สาวจีนไม่ทน! แบรนด์ “ผ้าอนามัย” ขายสินค้าไม่ตรงปก สั้นกว่าโฆษณาถึง 10 มม.  https://positioningmag.com/1501289 Thu, 28 Nov 2024 10:17:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1501289 บริษัทผู้ผลิตผ้าอนามัยรายใหญ่ในประเทศจีนหลายแห่งทยอยออกมาขอโทษผู้บริโภคเพศหญิงในจีน เนื่องจากมีการผลิตและวางจำหน่ายผ้าอนามัยที่มีความยาว “สั้น” กว่าที่มีการโฆษณาเอาไว้

โดยที่มาของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว มาจากวิดีโอไวรัลที่มีการเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นว่า มีผู้หญิงจีนรายหนึ่งได้ทำการวัดความยาวของผ้าอนามัยจากแบรนด์ยอดนิยมภายในประเทศ โดยผลการวัดแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯผ้าอนามัยส่วนใหญ่ผลิตและจำหน่ายผ้าอนามัยที่มีความยาวสั้นกว่าที่มีการระบุไว้

ทำให้ผู้หญิงชาวจีนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงความคับข้องใจจากการกระทำของเหล่าบริษัทผู้ผลิตผ้าอนามัยของจีน ที่ไม่ใส่ใจเรื่องสุขอนามัยของผู้หญิง ซึ่ง “ผ้าอนามัย” เป็นผลิตภัณฑ์สุขอนามัยที่ผู้หญิงในประเทศใช้กันบ่อยที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีกระแสวิจารณ์เรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ผู้หญิงในประเทศจีนเช่นกัน

โดยในหนึ่งในวิดีโอที่มีการเข้าชมเยอะที่สุดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน คือวิดีโอของผู้ใช้ Xiaohongshu ที่ได้ตรวจสอบผ้าอนามัยเก้ายี่ห้อด้วยการใช้เทปวัดความยาว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความยาวทั้งหมดยาวไม่ถึงขนาดที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ พร้อมเขียนแคปชั่นในวิดีโอว่า

“การตัดขนาดผ้าอนามัยออกไปกี่เซนติเมตร จะช่วยให้คุณรวยขึ้นได้จริงหรือ” 

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็ทําให้มีผู้บริโภคเข้ามาแสดงความคิดเห็นกล่าวหาว่าผู้ผลิตผ้าอนามัยนั้นมีการหลอกลวงผู้บริโภค โดยมีความเห็นยอดนิยมที่ระบุว่า “ความยาวของแผ่นอนามัยที่พองตัว ก็เหมือนกับพื้นรองเท้าใต้ฝ่าเท้าของผู้ชาย” 

ท่ามกลางกระแสที่ร้อนแรงบนโซเชียล ทำให้สํานักข่าวจีน The Paper ได้ทำการตรวจสอบผ้าอนามัยที่แตกต่างกันกว่า 20 แบบ โดยพบว่าเกือบ 90% ของผลิตภัณฑ์ วัดออกมาแล้วมีขนาดสั้นกว่าที่กล่าวอ้างบนบรรจุภัณฑ์อย่างน้อย 10 มม. โดยเฉพาะบริเวณที่ใช้ดูดซับรอบเดือน

ตามกฎหมายมาตรฐานแผ่นอนามัยของจีนระบุว่า ผ้าอนามัยสามารถสั้นหรือยาวกว่าที่โฆษณามีการเอาไว้ได้ 4% ซึ่งหลังจากที่มีการร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ทางการจีนกล่าวว่าพวกเขากำลังจะพิจารณาแก้กฎหมายดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ABC บริษัทผู้ผลิตผ้าอนามัยแบรนด์ยอดนิยมของจีน กลับสร้างความไม่พอใจของผู้บริโภคสาวมากกว่าเดิม เนื่องจากมีรายงานว่าฝ่ายบริการลูกค้าได้ตอบสนองต่อการร้องเรียนโดยกล่าวว่า “หากคุณไม่สามารถยอมรับความแตกต่างของความยาวได้ คุณสามารถเลือกที่จะไม่ซื้อได้”

ABC กล่าวในแถลงการณ์เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนว่า บริษัทฯรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งสําหรับการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนที่ไม่เหมาะสมและสัญญาว่าจะปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อให้ตอบสนองต่อผู้บริโภคมากขึ้น ด้าบริษัทอื่น ๆ รวมถึง Shecare และ Beishute ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตผ้าอนามัยก็ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ สื่อของรัฐจีนได้แสดงความคิดเห็นว่า เนื่องจากผ้าอนามัยเป็นของใช้ในชีวิตประจําวันที่จำเป็นสําหรับผู้หญิง ทำให้คุณภาพของผ้าอนามัยมีผลโดยตรงต่อสุขภาพและความสะดวกสบายของผู้ใช้ จากกรณีดักงล่าว ถือเป็นปัญหาที่ไม่สามารถเพิกเฉยหรือละเลยได้

ผ้าอนามัยถือเป็นผลิตภัณฑ์สุขอนามัยของผู้หญิงที่มีอัตราการใช้บ่อยที่สุดในประเทศจีน ซึ่งตลาดมีมูลค่า 13 พันล้านดอลลาร์ (44,838,300,000 บาท) 

ในปี 2016 ตํารวจได้จับกุมขบวนการผ้าอนามัยปลอมขนาดใหญ่ได้ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งผ้าอนามัยหลายล้านชิ้นถูกผลิตในโรงงานโดยไม่มีมาตรการด้านสุขอนามัยที่เหมาะสม ซึ่งล้วนแล้วแต่มีการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นของแบรนด์ยอดนิยมมาใช้ในกระบวนการผลิต

ในปี 2021 แบรนด์สุขอนามัยของผู้หญิงยอดนิยม อย่าง Space 7 ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษและสาบานว่าจะตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ หลังมีผู้หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเธอพบเข็มในผ้าอนามัยของแบรนด์

จากปัญหาด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของผู้หญิงที่มีมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความใส่ใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อผู้หญิงที่ไม่มากพอ สร้างความโกรธเคืองในใจของเหล่าปู้บริโภคสาว จนเกิดเป็นแฮชแท็กที่กําลังมาแรงบนโซเชียลมีเดียจีนอย่าง Weibo อย่าง “มันยากขนาดนั้นเลยเหรอที่ผ้าอนามัยจะจัดการกับความต้องการของผู้หญิง” รวมถึงวลีที่ว่า “แผ่นอนามัยให้ผลผลิตหนึ่งเซนติเมตร ผู้หญิงให้ผลผลิตตลอดชีวิต” ซึ่งกําลังมาแรงในโซเชียลมีเดียของจีนเช่นกัน

ที่มา : BBC

]]>
1501289