ชำระเงินออนไลน์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 18 Nov 2024 13:15:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ออสเตรเลีย” บังคับร้านค้า “รับเงินสด” เผื่อรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน หลังคนจ่ายออนไลน์เพิ่มขึ้น ร้านรับเงินสดน้อยลง https://positioningmag.com/1499562 Mon, 18 Nov 2024 10:24:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1499562 ปัจจุบัน ผู้คนทั่วโลกหันมาทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น โดยเฉพาะกับการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ที่มีความสะดวกและรวดเร็วตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคดิจิทัล

เช่นเดียวกับ “ออสเตรเลีย” ที่ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สนับสนุนการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัล โดยมีการเข้าร่วมกับประเทศต่างๆ ตั้งแต่สเปนไปจนถึงเดนมาร์ก ข้อมูลของธนาคารกลางแสดงให้เห็นว่า อัตราการใช้ธนบัตรสําหรับการทําธุรกรรมมีการลดลง 

ในขณะเดียวกัน มูลค่าของธุรกรรมกระเป๋าเงินมือถือ (E-Wallet) ในออสเตรเลียเติบโตที่ 93,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (60,000 ล้านดอลลาร์) ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจาก 746 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในปี 2018 เพิ่มขึ้นมากกว่า 12,000% ตามการวิเคราะห์โดย RBA

Jim Chalmers รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า แม้การทำธุรกรรมทางการเงินดิจิทัลจะเพิ่มขึ้น แต่ยังมีชาวออสเตรเลียกว่า 1.5 ล้านคนยังคงใช้เงินสดในการทำธุรกรรมทางการเงินมากกว่า 80% แต่จํานวนธุรกิจร้านค้าที่รับการชำระเงินแบบเงินสดกลับมีน้อยลง

แต่เงินสดก็เป็นทางเลือกสำรองที่เข้าถึงได้ง่ายในช่วงที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติและเหตุขัดข้องทางออนไลน์ ทำให้รัฐบาลฯมีการหารือและต้องการทําให้แน่ใจว่า ประชาชนจะยังสามารถใช้จ่ายซื้อสิ่งของจำเป็นต่อการใช้ชีวิตได้ ภาคธุรกิจร้านค้าต่างๆ ทั่วออสเตรเลียจึงจำเป็นจะต้องยอมรับการชำระเงินสดสำหรับสินค้าจำเป็น เช่น ของชำและเชื้อเพลิง โดยอาจได้รัการยกเว้นในบางกรณีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อกําหนดทางกฎหมายสําหรับธุรกิจในออสเตรเลียที่จะต้องรับการชำระเงินแบบเงินสด โดยรายละเอียดสุดท้ายของคำสั่งดังกล่าว จะประกาศให้ทราบภายในปี 2025 และจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2026 เป็นต้นไป

อีกทั้งรัฐบาลฯ มีแผนจะหยุดออกเช็คภายในเดือนมิถุนายน 2028 โดยจะให้ลูกค้ารวมถึงธุรกิจต่างๆ ปรับตัวให้เข้ากับวิธีการชำระเงินแบบอื่น และจะหยุดรับเช็คภายในเดือนกันยายน 2029

ที่มา : Bloomberg

]]>
1499562
ปลอดภัยหรือยัง? Google Assistant ทดลองระบบ “ยืนยันตัวตน” ซื้อสินค้าด้วย “คำสั่งเสียง” https://positioningmag.com/1280712 Tue, 26 May 2020 11:55:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1280712 Google Assistant เปิดทดลองโครงการนำร่อง สั่งซื้อสินค้าด้วย “คำสั่งเสียง” จากเดิมที่มีเฉพาะการยืนยันด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า โดยผู้บริโภคบางกลุ่มเท่านั้นที่เข้าถึงระบบทดลองนี้ และยังใช้ได้เฉพาะการซื้อสินค้าหรือบริการบางประเภท

โฆษกบริษัท Google เปิดเผยกับ Android Police ว่าฟังก์ชันการยืนยันตัวตนด้วยคำสั่งเสียง เพื่อซื้อสินค้า-บริการเริ่มทดลองแล้ว แต่เปิดให้ใช้ผ่านผลิตภัณฑ์ลำโพงอัจฉริยะ (Smart Speakers) และผลิตภัณฑ์กลุ่มหน้าจออัจฉริยะ (Smart Display) ของ Google เท่านั้น

รวมถึงจะซื้อได้เฉพาะสินค้าหรือบริการภายในแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดผ่าน Google Play (in-app purchase) กับการสั่งอาหารจากร้านอาหารบางแห่ง และจำกัดเพดานมูลค่าการซื้อด้วยวิธียืนยันตัวตนรูปแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันนี้ยังเป็นโครงการนำร่องจึงเปิดให้ใช้เฉพาะผู้บริโภคกลุ่มเล็ก โดยทั่วไปแล้วหากจะสั่งซื้อสินค้าผ่าน Google Assistant จะยังยืนยันตัวตนได้เพียง 2 ระบบคือลายนิ้วมือกับระบบจดจำใบหน้า

รวมถึงแพลตฟอร์มจะยังแจ้งเตือนก่อนใช้งานว่า “ผู้ที่มีเสียงเหมือนกับเจ้าของบัญชีหรือการอัดเสียงเจ้าของบัญชีมาใช้งาน อาจจะยืนยันการสั่งซื้อบนอุปกรณ์นี้ได้เช่นกัน”

หน้าจอแสดงฟังก์ชันซื้อสินค้าด้วยระบบคำสั่งเสียงของ Google Assistant (Photo: Android Police)

แม้ว่าจะดูเป็นระบบที่ไม่ปลอดภัยนักในขณะนี้ แต่ในทางทฤษฎีแล้ว การใช้ระบบยืนยันตัวตนด้วยเสียงมีศักยภาพที่จะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการยืนยันตัวตนเมื่อเทียบกับการใช้ลายนิ้วมือหรือใบหน้า

หรือหากเทียบกับระบบ Alexa ในคู่แข่งลำโพงอัจฉริยะ Echo ที่มีระบบยืนยันด้วยคำสั่งเสียงแล้วแต่ต้องตั้ง PIN และเจ้าของต้องพูดเลข PIN เหล่านั้นเพื่อยืนยันอีกขั้น ทำให้การใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้น ถ้าหาก Google Assistant สามารถทำให้การยืนยันด้วยเสียงมีความปลอดภัยในขั้นตอนเดียว น่าจะได้เปรียบเรื่องความสะดวกสบายมากขึ้น

สำหรับ Google Assistant นั้นเป็นระบบ “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” เหมือนกับ Siri ใน iOS หรือ Alexa จาก Amazon เหมือนกับเป็นเลขานุการส่วนตัวที่เราสามารถคุยตอบโต้ สอบถาม และสั่งการต่างๆ ได้ โดยมีฟังก์ชันหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันตัวตนคือจัดการซื้อสินค้าและบริการให้ เช่น สั่งซื้อของใช้ในบ้านจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ สมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่งเพลงหรือภาพยนตร์ ซื้อไอเทมหรือคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ เป็นต้น

เดิมที Google ตั้งใจจะเปิดตัวฟังก์ชันยืนยันตัวตนด้วยเสียงที่งาน Google I/O 2020 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากงานต้องยกเลิกไปด้วยเหตุการระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้เปิดการทดลองโครงการอย่างเงียบๆ ทั้งนี้ Google ยังไม่มีข้อมูลออกมาว่าจะเปิดให้ใช้ระบบยืนยันตัวตนด้วยคำสั่งเสียงในวงกว้างมากขึ้นเมื่อไหร่

Source

]]>
1280712
ดีลเเพง! Visa ซื้อกิจการ Plaid สตาร์ทอัพพัฒนา API การเงิน มูลค่ากว่า 1.6 แสนล้านบาท https://positioningmag.com/1260572 Tue, 14 Jan 2020 21:02:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1260572 ยักษ์ใหญ่ธุรกิจผู้ให้บริการชำระเงินผ่านบัตรอย่าง Visa ประกาศเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพฟินเทคดาวรุ่ง “Plaid” ด้วยมูลค่ากว่า 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.6 เเสนล้านบาท) เเพงขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเพิ่มทุนครั้งล่าสุด เมื่อปี 2018 ที่บริษัทเคยมีมูลค่า 2,700 ล้านเหรียญ

สำหรับ Plaid เป็นสตาร์ทอัพผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ API เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลบัญชีธนาคารของผู้ใช้งานเข้ากับแอปพลิเคชั่นบริการทางการเงินต่าง ๆ เป็นที่รู้จักกันอย่างเเพร่หลายในเหล่าผู้พัฒนาฟินเทค (fintech) เเต่คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยรู้จักกัน

Plaid มีลูกค้าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง Venmo แอปพลิเคชั่นชำระเงินยอดนิยม, Robinhood แอปฯ สำหรับซื้อขายหุ้น เเละ Coinbase ที่ให้บริการซื้อขายเงินคริปโต เป็นต้น

ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผู้มีบัญชีธนาคารกว่า 1 ใน 4 ของอเมริกาเชื่อมต่อสู่บริการแอปฯ ฟินเทคต่าง ๆ ด้วย Plaid

บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นคู่เเข่งกันทั้ง Visa, Mastercard, Citi, American Express รวมถึง Goldman Sachs ต่างก็ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ Plaid

อ่านเพิ่มเติม : Mastercard ซื้อกิจการ RickRecon สตาร์ทอัพประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

Photo : plaid.com

 

ในปี 2018 ทาง Plaid ระดมทุนได้ 250 ล้านเหรียญเเละได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทเป็น 2,700 ล้านเหรียญ มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปี 2017 ถึง 2018 เเละกำลังขยายไปยังสหราชอาณาจักรและแคนาดา

Al Kelly ซีอีโอของ Visa เปิดเผยว่า Plaid มีการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2015 ด้วยอัตราเฉลี่ยกว่า 100% โดยข้อตกลงนี้จะช่วยในการวางเเผนอนาคตของ Visa ในระยะยาว เเละจะช่วยขยายตลาดเเละเพิ่มรายได้ของบริษัท พร้อมเชื่อมความสัมพันธ์กับกลุ่มฟินเทคด้วย

ด้าน Zach Perret ซีอีโอของ Plaid บอกกับ CNBC ว่า แบรนด์ของ Visa จะช่วยให้บริษัทพัฒนาความสามารถ พร้อมขยายขนาดบริษัทเเละผลิตภัณฑ์ไปทั่วโลกได้ เเละรู้สึกโชคดีที่จะได้มีส่วนช่วยพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลของ
เทคโนโลยีฟินเทค

 

ที่มา : cnbc

]]>
1260572
จ่ายหนัก! PayPal เข้าซื้อ Honey Science สตาร์ทอัพหาส่วนลดซื้อของออนไลน์ 1.2เเสนล้านบาท https://positioningmag.com/1254390 Thu, 21 Nov 2019 14:02:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1254390 PayPal ประกาศเข้าซื้อกิจการ Honey Science ด้วยมูลค่าถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 120,780 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเเพงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษของการซื้อกิจการครั้งใหญ่ของ PayPal เลยก็ว่าได้ เพื่อต่อยอดการซื้อสินค้าออนไลน์ที่กำลังบูมในตอนนี้

สตาร์ทอัพดาวรุ่งอย่าง Honey Science เป็นที่รู้จักกันดีในด้านให้บริการช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้ส่วนลดกับผู้ค้าปลีกออนไลน์กว่า 30,000 ร้านค้าเเละมีผู้ใช้มากถึง 17ล้านคนต่อเดือน โดยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2012 โดย George Ruan และ Ryan Hudson ได้รับเงินเพิ่มทุนไปแล้วราว 31.8 ล้านเหรียญ

สำหรับ Honey เป็นส่วนขยาย (extension) เพื่อติดตั้งกับเว็บเบราว์เซอร์ โดยมื่อเราเข้าไปช้อปปิ้งออนไลน์ในเว็บไซต์ค้าปลีกที่รองรับเเล้ว ในขั้นตอนการจ่ายเงินนั้น ส่วนขยายของ Honey จะเข้ามาช่วยค้นหาดีลส่วนลดต่างๆ ให้ พร้อมทั้งยังมีระบบเเจ้งเตือนสินค้าที่เราสนใจเมื่อมีการปรับลดราคาลงด้วย

PayPal บอกว่าด้วยเทคโนโลยีของ Honey Science ที่โดดเด่นด้านการค้นหาส่วนลดที่รวดเร็วเเละมีประสิทธิภาพนั้น จะช่วยให้ลูกค้าได้รับการบริการเเละข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น

โดย George Ruan และ Ryan Hudson สองผู้ร่วมก่อตั้งจะยังคงนำทีมการพัฒนาผลิตภัณฑ์เเละเทคโนโลยีต่อไป  โดยขึ้นตรงต่อการดูเเลของ John Kunze รองประธานอาวุโสด้าน Consumer Product ของ PayPal

Ryan Hudson เเละ George Ruan สองผู้ก่อตั้ง Honey Science

บริษัทคาดว่าจะปิดข้อตกลงได้ในไตรมาสแรกของปี 2020 เเละ Honey Science จะยังคงมีสำนักงานใหญ่ในนครลอสแองเจลิส หลังจากการซื้อกิจการครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ PayPal ได้เข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัพด้านฟินเทคสัญชาติสวีเดนที่มีชื่อว่า iZettle ด้วยเงินจำนวน 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่ผ่านมา โดยบริษัท iZettle เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ด้านการเงินสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงในยุโรป มีระบบการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน ใน 9 ประเทศแถบยุโรปตะวันตก รวมไปถึงในบราซิลและเม็กซิโก

Photo : @honey via facebook

Source

]]>
1254390