ช่องเรตติ้งสูงสุด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 10 Jul 2018 06:16:50 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ช่องข่าวฮอต คนดูเกาะติดพาหมูป่ากลับบ้าน-เรือล่ม พาเรตติ้งทีวีพุ่ง https://positioningmag.com/1177999 Mon, 09 Jul 2018 12:21:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1177999 ช่วงสถานการณ์ที่คนไทยต้องการรับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็ว กับภารกิจสำคัญการนำน้องๆ ทีมฟุตบอลหมูป่าออกจากถ้ำหลวงกลับบ้านอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังมีข่าวเรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่จังหวัดภูเก็ต รายการข่าวของทุกช่องทุกสถานี จึงเป็นรายการยอดนิยม ได้รับความสนใจจากผู้ชมมาก เรตติ้งรายการข่าวสูงขึ้นทุกช่องทุกช่วงเวลา

เรตติ้งเฉลี่ยของ 25 ช่องทีวีดิจิทัลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 2-8 กรกฎาคม 2561 ช่องที่มาแรงที่สุดคือ ไทยรัฐทีวี ที่ยกผังรายการปกติ จัดรายการข่าวเกาะติดสถานการณ์ที่ถ้ำหลวง ตั้งแต่เช้าจนมืด เรตติ้งรายการที่สูงที่สุดคือช่วงรายการ “ไทยรัฐนิวส์โชว์” เรตติ้งของวันที่ 8 กรกฎาคม ช่วงที่เด็กๆ ทีมหมูป่า 4 คนแรกได้รับการช่วยเหลือออกมาจากถ้ำหลวงแล้ว เรตติ้งรายการจึงพุ่งสู่สูงสุดมาอยู่ที่ 4.414 เป็นเรตติ้งรายการข่าวที่สูงที่สุดของไทยรัฐนิวส์โชว์ สูงกว่าทุกรายการในช่วงเดียวกันรวมทั้งละครของช่อง 7 และช่อง 3

อมรินทร์ทีวี คู่แข่งรายการข่าวของไทยรัฐทีวี ขึ้นจากอันดับ 7 ในสัปดาห์ที่แล้ว มาอยู่ที่อันดับ 6 เรตติ้งเฉลี่ยทั้งช่อง 0.628 โดยมีรายการหลักที่ทำเรตติ้งสูงคือ รายการ “ทุบโต๊ะข่าว” นอกจากนี้ยังมีการจัดรายการพิเศษรายงานข่าวจากถ้ำหลวงในหลายๆ ช่วงเวลา และยังมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกด้วย

ด้วยรายการข่าวล้วนๆ จากการจัดรายการสดหลายช่วง ทำให้ช่องข่าว ThaiPBS เรตติ้งขึ้นมาอยู่ในอันดับ 11 เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 0.302 สูงที่สุดของช่อง ThaiPBS, ช่อง 9 อสมท ที่รื้อผังจัดรายการสด ส่งใจไปถ้ำหลวง จัดผู้สื่อข่าวภาคสนามเกาะติดส่งภาพเหตุการณ์สดๆ ทุกช่วง เรตติ้งมาทุกช่วง ทำให้ภาพรวมเรตติ้งเฉลี่ยของช่องขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 9 จากอันดับ 13 เมื่อสัปดาห์ก่อน

โมโน ในกลุ่มของเอ็มไทย ที่ทวิตเตอร์แอคเคาน์@mthai แจ้งเกิดมาแล้วจากช่วงรายการข่าวสถานการณ์ที่ถ้ำหลวง ได้ความดังของ@mthai มีช่วงรายการข่าวสถานการณ์ แถมยังแนะนำโปรโมตรายการของช่องเป็นระยะ โดยเฉพาะการจัดหนังดังต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของหน่วยซีลต่างประเทศลงจอ เข้ากับสถานการณ์และเรียกเรตติ้งได้ไม่น้อย เช่นเรื่อง Lone Survivor ปฏิบัติการพิฆาตสมรภูมิเดือดในวันดีเดย์ 8 กรกฎาคม ที่ช่วยทีมหมูป่าออกมาได้ 4 คนแรก โดยออกอากาศช่วงเวลาทองก่อนข่าวและหลังข่าว 2 ทุ่มได้เรตติ้ง 1.453 และ 2.618 ทำให้โมโนเรตติ้งฟื้นกลับมาอยู่ที่อันดับ 4 ได้เรตติ้ง 0.736 ขึ้นมาจากอันดับ 6 เรตติ้ง 0.598 ในสัปดาห์ก่อน

ช่องทรูโฟร์ยูและช่อง 5 อีก 2 ช่องที่ได้ถ่ายทอดฟุตบอลโลก แม้ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสดในรอบ 16 ทีมและ 8 ทีมสุดท้าย แต่มีจำนวนแมตช์ที่ถ่ายทอดน้อยลง และยังต้องเฉลี่ยให้ครบทั้ง 3 ช่อง เรตติ้งจึงลดลง ทรูโฟร์อยู่อยู่ในอันดับ 13 ลดลงจากอันดับ 11 ในสัปดาห์ที่แล้ว และช่อง 5 อยู่ในอันดับ 16 ลงจากอันดับ 14

]]>
1177999
วิกฤติ เวิร์คพอยท์ เรตติ้งหล่นกระทบหุ้นร่วง https://positioningmag.com/1161504 Wed, 14 Mar 2018 00:59:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1161504 ไม่มีอะไรแน่นอน สำหรับสถานการณ์ของทีวีดิจิทัลที่พลิกผันได้ตลอด เมื่อเวิร์คพอยท์เคยแจ้งเกิดจากรายการ วาไรตี้ เกมโชว์ได้อย่างงดงาม จนขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 3 ของทีวีดิจิทัลที่ถูกจับตามองมากที่สุด แต่เวลานี้กลับต้องเผชิญหน้ากับความพลิกผันอย่างหนัก จากเรตติ้งที่กำลังหล่น จนส่งผลถึงราคาหุ้น

ราคาหุ้นของเวิร์คพอยท์ เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ลดลงในวันเดียวถึง 8.75 บาท จากราคาเปิดตลาดอยู่ที่ 77.75 บาท มาปิดที่ 69 บาท เป็นการลงแรงถึง 11.25% ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เคยมีราคาสูงสุดในวันที่ 7 พ.ย. 2560 ในราคาที่ 104 บาท

ส่วนหนึ่งเป็นผลสะท้อนจากเรตติ้งทั้งช่อง และรายการหลักระดับ “แม่เหล็ก” ของเวิร์คพอยท์อย่าง “The Mask Singer” หรือ “หน้ากากนักร้อง” กำลังดิ่งลงอย่างหนัก

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้จับตามองเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านผลตอบรับความนิยมของทั้งช่องและรายการสำคัญมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ส่งผลให้เรตติ้งเริ่มลดลงแพ้ช่องโมโน ที่นำเสนอภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศ แต่โดยรวมทั้งปีก็ยังประคองตัวรักษาอันดับเรตติ้งเป็นช่องอันดับ 3 ได้

ส่งสัญญาณไตรมาส 4 ปี 60 ขาดทุน

ปีที่แล้ว 2560 ถือว่าเป็นช่วงทองของ “เวิร์คพอยท์” แจ้งผลประกอบการปี 2560 ว่าบริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,852.50 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2559 ที่มีรายได้รวม 2,667.05 ล้านบาท คิดเป็น 44% โดยมีกำไรสูงถึง 904.09 ล้านบาท สูงกว่าปี 2559 ถึง 355% ซึ่งปี 2559 มีกำไรอยู่ที่ 198.63 ล้านบาท

รายได้หลักมาจากกิจการโทรทัศน์ ซึ่งมีรายได้รวม 3,478.35 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนนี้มาจากรายได้ของช่องเวิร์คพอยท์จำนวน 3,208.76 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 979.72 ล้านบาท หรือ 44% เมื่อเทียบกับปี 2559

ความสำเร็จของเวิร์คพอยท์ในปีที่แล้ว มาจากรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ที่เปิดตัวซีซั่นแรก ก็กระชากเรตติ้งถล่มทลายได้เรตติ้งสูงสุดถึง 13.371 โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 6.55 แซงหน้าละครหลังข่าวช่วงเวลาไพรม์ไทม์ทั้งของช่อง 7 และช่อง 3 เป็น Talk of the town ไม่มีใครไม่รู้จัก ทุกคนต้องดู

ในขณะที่ซีซั่น 2 ออกอากาศช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคมปีที่แล้ว แม้เรตติ้งจะลดลงไปบ้างแต่ก็ได้เฉลี่ยทั้งซีซั่นอยู่ที่ 7.311 และเคยได้สูงสุดอยู่ที่ 9.383 ส่วนซีซั่น 3 ที่ออกอากาศต่อเนื่องกันมาและจบไปเมื่อต้นเดือน ก.พ. 2561 ได้เรตติ้งเฉลี่ย 3.579

แม้ว่าภาพรวมทั้งปีกำไรพุ่งสูงสุด แต่ว่าผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2560 มีตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 22 ล้านบาท

ตัวเลขเรตติ้งช่วงไตรมาส 4 เริ่มถดถอยลงต่อเนื่อง เมื่อรายการใหม่ๆ ที่คาดหวังไว้ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะรายการ The X Factor จบลงไปด้วยเรตติ้งเฉลี่ยเพียง 1.309

เปิดปีใหม่ รายการใหม่ ยังไม่ปัง

เมื่อเปิดศักราชใหม่เวิร์คพอยท์ ยังคงให้น้ำหนักกับรายการ วาไรตี้ “เกมโชว์” ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของช่อง รายการที่เวิร์คพอยท์หวังจะเป็นหมัดเด็ดดึงเรตติ้งก็ไม่เป็นไปตามคาดหมาย

The Show : ศึกชิงเวที ที่เป็นการ battle กันระหว่างนักร้องทีมชายและทีมหญิง จัดลงผังทุกวันอังคาร หลังข่าวในช่วงไพรม์ไทม์ แต่เปิดตัวออกอากาศครั้งแรกได้เรตติ้งไปเพียง 1.73 และค่อยๆ ลดลง จนสัปดาห์ที่แล้วได้เรตติ้งไปเพียง 1.32 เท่านั้น

ในขณะที่ซีรีส์อินเดียศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์” ซีรีส์ประวัติศาสตร์อินเดีย สงครามครั้งสุดท้ายของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช เวิรค์พอยท์จัดลงทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ หลังรายการวาไรตี้ช่วงไพรม์ไทม์ ที่หวังว่าจะเปรี้ยง แต่เรตติ้งก็ไม่มาตามคาด สัปดาห์ที่ผ่านมา เรตติ้งอยู่ในระดับ 0.4 – 0.6 เท่านั้น

รายการใหม่อย่าง My Mom Cook หรือเชพไม่ทิ้งแถว ในวันเสาร์ ได้เรตติ้งในเสาร์ที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมาเพียง 0.799

นอกจากนี้ช่วงละครไทย “สาวน้อยร้อยหม้อ” ที่ลงผังไพรม์ไทม์วันหยุด ตอนจบในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เรตติ้งอยู่ที่ 1.51 โดยจะมีละครใหม่ “คู่ซี้ผีมือปราบ” ได้สองนักแสดงใหญ่ “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ และ ชาคริต แย้มนาม ออนแอร์ต่อ

ส่งผลให้เรตติ้งของเวิร์คพอยท์ที่เคยอยู่อันดับ 3 ในปี 2560 ต้องหล่นมาอยู่อันดับ 4 ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 โดยช่องโมโนเบียดขึ้นมาเป็นอันดับ 3

“บุพเพสันนิวาส” เอฟเฟกต์ กระทบ 2 รายการหลัก

ที่ผ่านมา รายการ I can see your voice หรือ นักร้องซ่อนแอบ และ The Mask Singer แม้ว่าจะมีเรตติ้งลดลงไป แต่ทั้งสองรายการยังคงเป็น “รายการหลัก” ให้กับช่องเวิร์คพอยท๋ สร้างเรตติ้งสม่ำเสมอในผังวันพุธ และพฤหัส ทุกสัปดาห์ สามารถสู้กับละครช่องของช่อง 3 และช่องวัน ซึ่งเป็นช่องที่มีฐานผู้ชมเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันอย่างคนกรุงเทพฯ และคนหัวเมืองหลักได้อย่างสูสีบ้าง

แต่เมื่อละครไทยเริ่มมาแรง ตั้งแต่ ”เรือนเบญจพิษ” ของช่องวัน ทำให้เรตติ้งทั้งสองรายการเริ่มได้รับผลกระทบ

อีกทั้งยังมาเจอ “บุพเพสันนิวาส” ฟีเวอร์ ที่ช่อง 3 จัดลงผังวันพุธและพฤหัส ทั้งสองรายการหลักของเวิร์คพอยท์ก็ต้องรับผลกระทบเข้าอย่างจังๆ

“บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศตอนแรก ก็ชนะทั้งสองรายการ แต่เรตติ้งยังไม่ทิ้งห่างมากนัก ได้เรตติ้ง 3.417 และ 4.769 โดยที่ I can see your voice ได้เรตติ้ง 2.791 ในขณะที่ The Mask Singer 4 อยู่ที่ 3.186

พอมาสัปดาห์ต่อมาตอนที่ 3 และ 4 ของบุพเพสันนิวาส เริ่มกวาดเรตติ้งไปที่ 7.311 และ 8.197 ทำให้ทั้งสองราย การเรตติ้งลงลงอีก โดย I can see your voice ได้เรตติ้งอยู่ที่ 2.136 และ The Mask Singer 4 ได้ 1.888 เท่านั้น

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ “บุพเพสันนิวาส” เรตติ้งถล่มทลาย 11.354 และ 12.645 I can see your voice เหลือเพียง 1.992 ในขณะที่ The Mask Singer 4 รูดลงหนักมาอยู่ที่ 1.609 เท่านั้น

สถานการณ์ในทุกวันพุธ และพฤหัสทุกสัปดาห์ ก็คงจะเป็นเช่นนี้ไปอีกระยะของกระแส “บุพเพสันนิวาส” จนกว่าจะจบลง และหวังว่าจะไม่มีละครชุดใหม่มาปังต่อเนื่องอีก จึงส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างหนักในช่วงนี้

น่าจับตามองว่าในวิกฤติเช่นนี้ เวิร์คพอยท์ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นบริษัทที่มีครีเอทีฟสูง สร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ พร้อมปรับเปลี่ยนจัดรายการใหม่ลงผังได้อย่างรวดเร็ว จะใช้กลยุทธ์อะไรในการสร้างรายการใหม่ ฟื้นความนิยมกลับคืนมา เพื่อพร้อมที่จะสู้ชิงทั้งเรตติ้ง และสร้างกระแสขึ้นมาได้อีกครั้ง

เพราะบทเรียนการต่อสู้ในสังเวียนทีวีดิจิทัลที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่า ไม่มีใครชนะได้ตลอดกาล อยู่ที่ว่าใครมีคอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชมได้มากที่สุด กระแสก็พร้อมเหวี่ยงกลับไปมาได้ตลอดเวลา.

]]>
1161504
เจาะลึกท็อปแฟน 10 ช่องทีวีดิจิทัล ทำใจไร้เรตติ้งคนรุ่นใหม่ แต่ได้ใจสูงวัย 50 ปี https://positioningmag.com/1156163 Thu, 08 Feb 2018 23:15:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1156163 เจาะเรตติ้งทีวีดิจิทัล ปี 2560 ท็อป 10 ช่องเรตติ้งสูงสุด แฟนจอต่างจังหวัดดันเรตติ้งช่อง แชมป์ตลอดกาลช่อง 3 ยึดที่ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้ง 10 ช่องหาจุดเด่น แบ่งเค้กผู้ชมชายหญิง จุดเสี่ยงทุกช่อง ได้เรตติ้งจากคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน น้อยกว่าคนอายุ 50 ปีขึ้นไป

ช่องทีวีดิจิทัลที่ได้เรตติ้งสูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2560 อันดับ เป็นของช่อง ไล่เรียงต่อ  กันมา คือช่อง เอชดี เวิร์คพอยท์ โมโนช่อง ช่องวัน อมรินทร์ ช่อง เอสดี ไทยรัฐ และ อสมท นับเป็นช่องที่ได้ผู้ชมทีวีไปส่วนใหญ่จากทั้งหมด 25 ช่องที่เป็นฟรีทีวี เป็น 22 ช่องเพื่อธุรกิจหารายได้จากโฆษณา และอีก ช่องเป็นช่องเพื่อสาธารณะคือไทยพีบีเอส ที่มีรายได้จากรัฐ และอีก คือช่อง และช่อง 11 ที่มีรายได้จากการหาโฆษณาด้วย 

จากตัวเลขเรตติ้งของนีลเส็น ที่เจาะลึกกลุ่มผู้ชมแบ่งตามพื้นที่ เพศ และอายุ ในกลุ่มท็อป 10 นี้ พบว่าช่องที่มีเรตติ้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงกว่าในต่างจังหวัด มีถึง ช่อง อันดับแรกคือช่อง เอชดี ตามมาด้วยเวิร์คพอยท์ โมโน วัน อมรินทร์ ช่อง เอสดี ไทยรัฐ และ อสมท

ส่วนช่องที่ได้ผู้ชมต่างจังหวัดสูงกว่ามีแค่ ช่อง คือช่อง ที่ได้เรตติ้งในต่างจังหวัดสูง ทิ้งห่างจากทุกช่อง และอีกช่องคือช่อง ที่ได้เรตติ้งในต่างจังหวัดสูงกว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่ทั้งสองพื้นที่ตัวเลขไม่ห่างกันมากนัก 

เจาะลึกลงไปอีกถ้าดูกลุ่มผู้ชม ตามเพศ ผู้หญิง และผู้ชายพบว่า กลุ่มผู้ชมชายมากกว่าหญิง คือ โมโน ช่อง อมรินทร์ ไทยรัฐ อสมท อีก ช่องหญิงมากกว่าชาย คือยักษ์ใหญ่ทั้งสองช่องคือช่อง และ 3 HD เวิร์คพอยท์ ช่องวัน และช่อง 3 SD

นี่คือผลงานของแต่ละช่องในช่วงปีที่ผ่านมา ที่ช่อง ยังคงยึดฐานผู้ชมส่วนใหญ่ของประเทศคือต่างจังหวัด ทั้งจากละคร วาไรตี้ และข่าว ที่มีเนื้อหา และรูปแบบที่ต่อเนื่อง ย้ำจุดยืนเป็นช่องของกลุ่มแมส

ขณะที่ช่อง แม้จะพยายามแข่งชิงพื้นที่ในต่างจังหวัดบ้าง แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะตัวเลขเรตติ้งในต่างจังหวัดยังห่างจากช่อง แต่ผลงานที่ช่วยปลอบใจผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นช่อง ได้บ้างคือในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ 2.162 เป็นที่ ชนะช่อง ที่ได้ 1.866 แต่จุดเสี่ยงคือทิ้งห่างช่อง ไม่มาก และยังมีเบอร์ อย่างเวิร์คพอยท์ และโมโน ที่ประกาศพร้อมชิงฐานผู้ชมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกด้วย

ขณะที่โมโนเน้นจุดยืนที่เป็นช่องหนัง และจัดหนังพรีเมียม บล็อกบัสเตอร์มาลงในช่วงไพรม์ไทม์หลังสองทุ่มอย่างต่อเนื่องจนเกือบเที่ยงคืนที่ตอบโจทย์คนเมืองที่นอนดึกมากกว่าคนในต่างจังหวัด และผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

สำหรับช่องที่เหลือที่ยังมีแนวโน้มพร้อมเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายได้อีก เพราะทั้งตัวเลขพื้นที่รับชม และชายหญิงพอ  กัน คือช่องวัน อมรินทร์ ไทยรัฐ 3 SD และ อสมท

ความท้าทายที่ทุกช่องต้องเผชิญ คือฐานอายุผู้ชมทั้ง ช่องได้เรตติ้งจากกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไปสูงสุดของช่อง เช่น ช่อง กลุ่มผู้ชมอายุ 50 ปีขึ้นไปมีเรตติ้ง 2.700 กลุ่มที่น้อยที่สุดคือ 15-19 ปีมีเรตติ้งประมาณ 1.400 ขณะที่โมโนได้กลุ่มอายุ 40-44 ปี ทำเรตติ้งสูงสุดของช่องได้ประมาณ 1.040  ขณะที่กลุ่มอายุอื่น  ได้เรตติ้งไม่ถึง 

ฐานผู้ชมที่แบ่งตามอายุของแต่ละช่องนั้น ตัวเลขเรตติ้งที่สูงของแต่ละช่องจะเริ่มเห็นเรตติ้งบ้างตั้งแต่กลุ่มอายุประมาณ 35 ปี โดยกลุ่มที่เป็นวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ต่ำกว่า 35 ปีนั้น แต่ละช่องมีเรตติ้งไม่สูงนัก 

ยกตัวอย่างช่อง มีเรตติ้งกลุ่มอายุวัยทำงานตั้งแต่ 20-35 ปีนั้น มีเรตติ้งประมาณ 0.660-1.000 ส่วนกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 1.200-2.000 

ช่อง กลุ่มอายุ 20-35 ปี มีเรตติ้ง 1.100-1.700 ส่วน 35 ปีขึ้นไปมีเรตติ้ง 1.900-2.700.

]]>
1156163