ดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อ้างอิงจากยูโรมอนิเตอร์ ตลาดชุดชั้นใน มีมูลค่า 22,236 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 23.34% ของตลาดเสื้อผ้าแฟชั่น โดยซาบีน่ามีส่วนแบ่งตลาด 12.8% เป็น อันดับ 2 ของตลาด ทั้งนี้ ชุดชั้นในที่มีแบรนด์กินสัดส่วนประมาณ 50% ส่วนอีก 50% เป็นตลาด Non-Brand ซึ่งโอกาสของตลาดชุดชั้นในคือ กินตลาด Non-Brand และ ต้องเป็นมากกว่าชุดชั้นใน เพื่อกินสัดส่วนตลาดแฟชั่น
ดังนั้น ซาบีน่าจะเพิ่ม สินค้าที่มากกว่าชุดชั้นใน เป็นเสื้อผ้าที่ใส่ภายนอกได้ แต่ที่จะยังคง DNA ของแบรนด์ เช่น ชุดว่ายน้ำ ชุดกีฬา นอกจากนี้จะมี เน้นไอเทมที่ผู้หญิงอยากได้ เช่น ยางรัดผม โดยจะเริ่มทยอยออกของใหม่ ๆ ทุกไตรมาส ปัจจุบันสัดส่วนสินค้าที่ไม่ใช่ชุดชั้นในมีประมาณ 5%
“ตอนนี้คนเดินช้อปเขาต้องการบรรยากาศ ต้องการภาพรวม เราเลยต้องนำเสนออะไรที่มากกว่าชุดชั้นใน โดยเราวางไว้ 2 ส่วน ได้แก่ Everyday Wear หรือของที่ใช้ได้ทุกวัน และ Seasonal คอลเลกชั่นที่ออกเฉพาะเทศกาล เช่น ชุดว่ายน้ำ ถ้าชอบต้องรีบซื้อเพราะของอาจไม่มี”
นอกจากนี้ ในปี 2023 ซาบีน่าจะ รีแบรนด์ใหม่ โดยเริ่มจากการเปลี่ยน โลโก้ ให้มีความง่าย ชัดเจน มั่นคง และ เฟรนด์ลี่กว่าโลโก้เก่า พร้อมรับการเติบโตอีก 10 ปีข้างหน้า เพราะต้องยอมรับว่าโลโก้เก่าที่เป็นตัวเขียน อ่านยาก สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามแบรนด์ โดยเฉพาะกับลูกค้าต่างชาติ
“ลูกค้าไทยคิดเป็นสัดส่วน 80-90% ต้องยอมรับว่าแบรนด์เรายังไม่ใช่เป้าหมายของนักท่องเที่ยว ไม่ใช่ไพออริตี้แรกที่เขามองหา แต่เราพยายามจะสื่อสารให้เขามาลอง ซึ่งส่วนนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร”
นอกจากนี้ ซาบีน่ายังมองถึงการแตก ซับแบรนด์ เนื่องจากมองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันนั้น ไม่ยึดติดแบรนด์ ความลอยัลตี้ลดลง พร้อมจ่ายแพงหากเจอสินค้าที่ถูกใจ ดังนั้น จะมีไลน์สินค้าที่ไม่ทับกัน เริ่มแตกเป็นแบรนด์อื่น เช่น MAD MOISELLE เพื่อจับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม นอกจากนี้ ซาบีน่าจะยังมีการ Collab กับแบรนด์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้สินค้า เช่น SABINA x Gentlewomen เป็นต้น และการผลิตสินค้าจากนี้จะไม่ผลิตจำนวนมาก แต่จะผลิตซ้ำหากได้รับความนิยม
“ลอยัลตี้ต่ำมีดีมีเสียเพราะเขาจะไปจากเราได้ และเขาก็กลับมาหาเราได้ ถ้ากลุ่มลูกค้ากลุ่ม 50 ปีขึ้นไป ยังมีลอยัลตี้ แต่กลุ่มเด็ก ๆ 30 ลงมาเขาซื้อเพราะแค่รู้สึกคลิ๊ก แพงกว่าก็ซื้อ ดังนั้น เราจะมีสินค้าไฮแฟชั่นที่เสิร์ฟคนกลุ่มนี้ ในอนาคตก็มีความเป็นได้ที่จะแตกเป็นซับแบรนด์ แต่ตอนนี้เราทำเพื่อเพิ่มความหลากหลายก่อน”
นอกจากการรีแบรนด์เพื่อรองรับการเติบโตในอีก 10 ปีข้างหน้าแล้ว บริษัทก็ได้ลงทุนเพิ่มอีก 50-100 ล้านบาท ในด้านเครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานหลังบ้าน มีการพัฒนาระบบสมาชิก โปรโมชัน และบริการหลังการขาย เพื่อต่อยอดไปสู่การขยายตลาดต่างประเทศในอนาคต
“เราเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนหลังจากใช้เทคโนโลยีและการนำข้อมูลมาช่วยประกอบการตัดสินใจ โดยเฉพาะ ค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างมาก ช่วยให้เราไม่สูญเปล่าในเชิงการผลิต และจากนี้ต้องนำมาใช้ในกระบวนการอื่น ๆ เช่น แผนกบัญชี หน้าร้าน นอกจากนี้เรายังมองว่าโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเจาะตลาดต่างประเทศที่ซื้อออนไลน์เป็นหลัก”
สำหรับคอลเลกชั่นใหม่ของปี 2023 ที่จะออกมาทำตลาดคือ Braless ที่มีจุดเด่นที่ความ เบา (Skin Light) นุ่ม (Cloud on) และเย็น (Air Flow) เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เนื่องจากอยู่แต่บ้านทำให้ชินกับความสบาย และในเมื่อต้องออกมาทำงานอีกครั้ง ผู้บริโภคจึงมองหาบราที่สบาย ไม่อึดอัด จากเมื่อก่อนจะเน้นที่ แฟชั่นก่อนฟังก์ชัน
“หลังจากโควิดเกิดผู้บริโภคมองหาบราที่ใส่แล้วสบายตัว ชอบแบบง่าย ๆ ไม่ต้องมีโครง จากสมัยก่อนบราต้องเน้นช่วยให้ทรงสวยก่อน แต่ตอนนี้ขอสบาย แล้วถ้าใส่แล้วสวยด้วยยิ่งถูกใจ”
นอกจากนี้ ซาบีน่าจะเน้นผลักดันสินค้ากลุ่ม ความยั่งยืน (สินค้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล) ให้ได้สัดส่วน 5% เพราะถือเป็นอีกเทรนด์ในปีนี้
ในปี 2019 ก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 ซาบีน่าทำรายได้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 นี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะทำ New High เหนือปี 2019 โดยมั่นใจว่าจะ เติบโตขึ้นอย่างน้อย 10% จากรายได้ 3,295 ล้านบาท เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และปัจจัยหนุนจากนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังส่งผลดีกับส่วนของ OEM หรือการรับจ้างผลิต ปัจจุบันซาบีน่ามีรายได้จาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่
“ในปี 2019 เรามีสาขาประมาณ 600 สาขา แต่ปัจจุบันเหลือ 526 สาขา โดยสาขาไหนที่ไม่ทำกำไรเราปิดหมด โดยปีนี้เรามีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา นอกนั้นจะเน้นไปที่ป๊อปอัพสโตร์ เพราะการขายของซาบีน่าจากนี้จะไม่รอลูกค้ามาหา แต่ต้องออกไปหาลูกค้า”
ความท้าทายสำคัญของซาบีน่าคือ สิ่งที่คาดเดาไม่ได้ อย่างในปี 2022 ประเทศไทยมีปริมาณน้ำฝนเยอะเกือบ 900 ลูกบาศก์เมตร ทำให้การขายแบบป๊อปอัพสโตร์และเอาต์ดอร์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ซาบีน่ามองว่าเป็นความท้าทายคือ การสื่อสาร
การสื่อสารเป็นสิ่งที่ทำให้ซาบีน่าพ้นวิกฤตและประสบความสำเร็จได้ โดยภายในองค์กรมีการกำหนดเป้าหมายขององค์กรใน 3 กลุ่ม ได้แก่ ยอดขาย กำไร และค่าใช้จ่าย โดยให้แต่ละหน่วยงานเลือกว่าจะซัพพอร์ตเป้าหมายไหน ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ช่วยให้องค์กรพ้นวิกฤต
“อะไรที่มันวางแผนได้มันไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่คุมไม่ได้เราไม่รู้จะคาดการณ์อย่างไร แน่นอนว่าทุกคนได้รับผลกระทบ โจทย์คือเราจะปรับตัวอย่างไรได้เร็วกว่าเขา ดังนั้น การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ ทำอย่างไรให้บนกับล่างมันมีช่องว่างน้อยที่สุด”
สุดท้าย ดวงดาวมองว่า ที่ซาบีน่าฟื้นตัวได้เป็นเพราะการปรับตัว โชคดีที่ซาบีน่าปรับตัวเร็วกว่าคนอื่น และเราก็ปรับตัวทุกวัน ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ อย่างการไลฟ์ขายของที่ไม่เคยทำ ปัจจุบันก็ไลฟ์ขายบน TikTok วันละ 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ ธุรกิจต้องเน้นจับมือ ไปคนเดียวไปไม่รอด
]]>ในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ “ซาบีน่า” ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนต้องปรับตัวสู้วิกฤต ด้วยการปรับไลน์การผลิตชุดชั้นใน มาผลิตหน้ากากผ้าชั่วคราว ในตอนแรกได้ผลิตหน้ากากผ้าสำหรับแจกฟรี รวมถึงบริจาคแก่โรงพยาบาลต่างๆ จนถึงตอนนี้ซาบีน่าได้เริ่มทำตลาดหน้ากากผ้าอย่างจริงจังแล้ว
ซาบีน่าพลิกกลยุทธ์รับวิถีชีวิ
พร้อมเตรียมวางจำหน่ายหน้ากากผ้
บุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA เปิดเผยว่า
“จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้หน้ากากผ้ากลายเป็
ตอนนี้นี้โรงงานผลิตของซาบีน่
นอกจากการรับผลิตของลูกค้าองค์กร ยังมีการผลิตหน้ากากผ้าภายใต้
โดยเริ่มขายผ่านช่องทางออนไลน์
ซาบีน่าเดินหน้ารับมือ COVID-19 เปิดไลน์ผลิตหน้ากากผ้าเต็มรู
บุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
“หลังจากซาบีน่าเริ่มผลิตหน้
ซาบีน่าได้รับความไว้
ในส่วนของการรับผลิตหน้ากากผ้
ขณะที่โรงงานอื่นๆ เริ่มเปิดสายการผลิตหน้ากากผ้
บุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
“เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้
นอกจากโรงงานซาบีน่าที่จังหวั
ล่าสุดทางโรงงานได้รับการติดต่อให้ผลิ
วัสดุของหน้ากากผ้าได้รับมาตรฐานการรับรองด้
นางสาวพิชชา ธนาลงกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า “ซาบีน่า” ได้เปิดตัวชุดชั้นในคอลเลคชั่นใหม่ “วุ้นเส้น คอลเลคชั่น” Woonsen Collection-Furious Obsession (WS Collection) โดยดึงวีเจสาวสุดแซ่บ “วุ้นเส้น–วิริฒิพา ภักดีประสงค์” ร่วมสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบชุดชั้นในคอลเลคชั่นนี้ โดยมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มสาวๆ ที่มั่นใจในตัวเอง และมีความต้องการใช้สินค้าไฮแฟชั่น ซึ่งภาพลักษณ์และบุคลิกของ “วีเจวุ้นเส้น” สามารถสะท้อนตัวตนของผู้หญิงกลุ่มนี้ได้อย่างชัดเจน
“คอนเซ็ปต์ของคอลเลคชั่นนี้ต้องการนำเสนอชุดชั้นในยุคสมัยใหม่ที่สามารถสวมใส่ได้จริง และนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแจ๊คเก็ต เบลเซอร์ หรือ กางเกงยีนส์ ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้หญิงในทุกครั้งที่แต่งตัว นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของวัสดุที่ใช้ รวมถึงการฟิตติ้ง และดีไซน์ที่คำนึงถึงสรีระผู้หญิงเป็นอย่างดี และปัจจุบันนี้ ชุดชั้นในไม่จำเป็นต้องใส่ข้างในอีกต่อไปแล้ว แต่สามารถเป็นหนึ่งในแฟชั่นของทุกคนได้ เพียงแต่สวมใส่ให้ถูกกาลเทศะ ก็สวยมั่นใจได้ทุกลุค” นางสาวพิชชากล่าว
สำหรับเหตุผลที่เลือกวีเจสาว “วุ้นเส้น วิริฒิพา” ร่วมเป็นดีไซเนอร์ในคอลเลคชั่น เนื่องจากหลายคน มองว่า วีเจวุ้นเส้นเป็นสาวหวาน ลุคเซ็กซี่ แต่ในอีกมุมที่หลายคนยังไม่เคยได้สัมผัส คือ สาวหวานคนนี้ยังมีความสตรอง และเท่แบบผู้หญิงยุคใหม่ รวมทั้งมีความแข็งแกร่ง ที่ถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดของผู้หญิง นอกจากนี้วีเจสาวคนนี้มีความหลงใหลเรื่องความเร็ว ชอบการแข่งรถ และชอบแฟชั่น Streetwear จึงเป็นแรงบันดาลใจที่มาของการออกแบบผลงานสุดพิเศษและยังถือเป็นบทบาท “New Designer” ที่ยังไม่เคยปรากฎที่ไหนมาก่อน ซึ่งจะเป็นการสร้างเซอร์ไพรส์ใหม่ๆ ให้กับคอลเลคชั่นนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ นอกจากชุดชั้นใน “วุ้นเส้น คอลเลคชั่น-Furious Obsession” จะตอกย้ำว่า ซาบีน่าเข้าใจผู้หญิงทุกกลุ่ม และมีสินค้ารองรับทุกความต้องการของผู้หญิงแล้ว ยังเป็นการขยายฐานสินค้ากลุ่มไฮแฟชั่น โดยคาดว่า จะทำให้ยอดขายของสินค้ากลุ่มนี้เติบโตขึ้น 13% จากยอดขายสินค้ากลุ่มไฮแฟชั่นซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 5% ของยอดขายทั้งหมดของซาบีน่า
พบกับชุดชั้นใน “วุ้นเส้น คอลเลคชั่น-Furious Obsession’ ได้ที่ซาบีน่าช็อป และเคาน์เตอร์ซาบีน่าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ Shopee เมื่อซื้อสินค้า WS Collection ครบ 1,500 บาท รับฟรี Exclusive Premium กระเป๋า WS มูลค่า 590 บาทฟรี สินค้ามีจำนวนจำกัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Line@ : @SabinaThailand, www.sabina.co.th, Facebook: SabinaThailand, IG :Sabina_ig # wscollectionbysabina
]]>