ดีเจนุ้ย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 12 Feb 2018 03:51:21 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ใครกันแน่คือลูกค้า ? ผ่า 5 เกมการตลาด “Garden Me” ขายครีมออนไลน์ทะลุ 1.7 พันล้านใน 2 เดือน https://positioningmag.com/1156346 Sat, 10 Feb 2018 01:00:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1156346 ธุรกิจขายครีมออนไลน์ที่กำลังเป็นกระแสให้ต้องจับตา ในนาทีนี้ไม่มีใครเกิน Garden Me ที่ผู้ก่อตั้งประกาศว่า มียอดขาย 1.7 พันล้านบาท ขายสินค้าได้มากกว่า 4.4 ล้านชิ้นใน 2 เดือน แต่ก็มีเสียงแย้งว่า ยอดขาย 4.4 ล้านชิ้นนี้คือการขายปล่อยให้ตัวแทน และลูกค้าตัวจริงยังใช้ไม่ถึง 4.4 ล้านชิ้น

จิ๊บ ชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์เจ้าของแบรนด์ Garden Me ประกาศกลางรายการอายุน้อยร้อยล้านว่าบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 4 หมื่นคน ซึ่งหากหารเฉลี่ยยอดขายสินค้ารวม 4.4 ล้านชิ้น จะพบว่าทุกคนได้รับสินค้ากระจายไปเฉลี่ย 110 ชิ้น

บอสจิ๊บ ให้สัมภาษณ์ว่าจะประสานงานการขายผ่านการคุยกับแม่ทีม 30 คน โดยทุกคนจะออกบัตรตัวแทนให้ตัวแทนที่แต่ละคนดูแลอยู่  ซึ่งหลายคนมองว่า ไม่ต่างจากธุรกิจ MLM ที่ใช้กันอยู่

แต่บอสจิ๊บยืนยันว่าโมเดลของ Garden Me ไม่ใช่ MLM ไม่ใช่ขายตรง แค่ซื้อมาขายไป

แค่เราขายดีมาก เท่านั้นเอง

1. โปรไฟล์ต้องไม่ธรรมดา

ในเทปรายการอายุน้อยร้อยล้านที่ออกอากาศปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บอสจิ๊บระบุว่า ที่สามารถทำธุรกิจหลักพันล้านได้เพราะการนำเงินมัดจำของแม่ทีมมาสั่งของกับโรงงาน โดยบอกว่าที่สามารถสร้างความมั่นใจจนทำให้ระดุมทุนได้ก่อนสินค้าจะเกิด เนื่องจากเธอทำธุรกิจนี้มา 6 ปีแล้วและไม่เคยมีเรื่องเสียหาย

ก่อนหน้า Garden Me บอสจิ๊บเคยออกรายการอายุน้อยร้อยล้านแล้วเมื่อกันยายนปี 2016 โดยสะท้อนตัวเองผ่านภาพหญิงแกร่งที่หนีออกจากบ้านมาต่อสู้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะต้องการพิสูจน์ให้ครอบครัวยอมรับในตัวเธอ ด้วยแบรนด์ B’ Secret ทำให้ช่วง 2 ปีก่อน ภาพของบอสจิ๊บ คือนักธุรกิจ Skincare ทำยอดขายกว่า 1 ล้านชิ้น สร้างรายได้ 360 ล้านบาทภายใน 3 เดือน

ก่อนที่จะเป็น B’ Secret บอสจิ๊บเคยเป็นที่รู้จักในนามพี่จิ๊บ ABSOLUTE” เน็ตไอดอลบนโลกโซเชียลที่ชูตัวเองผ่านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ ABSOLUTE by JIB ในปี 2015 สตอรี่ที่ถูกถ่ายทอดบนโลกออนไลน์ในช่วงเวลานี้คือเธอต้องปากกัดตีนถีบต่อสู้ชีวิตมานานหลายปี ถึงขั้นเคยโดนเพื่อนดูถูกว่าเป็นแค่แม่ค้าขายหมูทอดปมที่เคยโดนเพื่อนดูถูก กลายเป็นแรงผลักดันทำให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเอง และตั้งใจว่าชีวิตนี้ต้องมีเงินล้านให้ได้

ด้วยสตอรี่ของการต่อสู้สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากศูนย์ทำให้เธอได้รับความสนใจจากสื่อและถูกพูดถึงในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

2. จัดงานยิ่งใหญ่

Garden Me จัดงานใหญ่หลายงานโดยดึงตัวศิลปินดาราอารมณ์ดี มาร่วมสีสันให้แบรนด์ มีทั้ง ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์, ตั๊ก ศิริพร, ซาร่า นลิน, หนูเล็ก ก่อนบ่าย และ ซอ จียอน  

งานเหล่านี้เปิดให้ตัวแทนจัดเต็มแต่งตัวสวยงามหรูหรามาร่วมโชว์ที่ห้างใหญ่กลางกรุงด้วย เรียกสายตาจากผู้สัญจรไปมาได้อยู่หมัด และเป็นข่าวบนโซเชียล สร้างกระแสให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก

จุดนี้บอสจิ๊บระบุว่าไม่ได้เปิดกว้างเฉพาะงานเลี้ยง แต่ตัวแทน Garden Me สามารถเสนอโปรโมชั่นสำหรับแบรนด์ได้เสรี

3. ของมีจำกัด

เมื่อเปิดตัวสินค้า Garden Me จะเปิดโกดังปล่อยของเป็นล็อตใหญ่ วิธีการเล่นกับปริมาณที่จำกัดทำให้ตัวแทนรู้สึกว่าสินค้ากำลังจะหมดลงในพริบตาเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสินค้าหมดที่เจ้าของแบรนด์แต่ตัวแทนต้องใช้เวลากว่าจะขายสินค้าหมด

เรื่องนี้ ตัวแทน Garden Me ยืนยันว่าขายหมดนะคะโดยตัวแทน Garden Me บนโซเชียลยืนยันว่าไม่รู้สึกอะไรกับการที่บริษัททำการตลาดเช่นนี้ และยอมรับว่าบางคนยอมสต๊อกสินค้าเพื่อให้ได้ตุ้นทุนสินค้าราคาต่ำ เพราะเชื่อว่าจะสามารถขายได้ยาว 

กลยุทธ์นี้ทำให้เพียงครึ่งชั่วโมง ยอดจองของ Garden Me ทะลุ 1 ล้านชิ้น เพราะคำยืนยันว่าสินค้านี้ใช้ดีมาก และเมื่อของดีและมันก็ดัง ยังไงมันก็ขายได้นอกจากนี้ยังมีเสียงกดดันว่า การรอล็อต 2 ค่อยสั่งจองสินค้านั้นไม่ทันการณ์ เพราะอีกนานกว่าล็อต 2 จะออกอีก

4. ตัวแทนต้องสู้กัน

เช่นเดียวกับแบรนด์ครีมออนไลน์ทั่วไป ผู้ที่เป็นตัวแทนของ Garden Me จะต้องพยายามโฆษณาตัวเองเพื่อชิงฐานตัวแทนให้มาอยู่ในเครือให้ได้มากที่สุด ส่วนใหญ่พยายามบอกว่าตัวเองคือรายใหญ่ต่อตรงบริษัท มีตัวแทนดูแล บริหารทีมทั่วประเทศไทย

ขายไม่เป็น ไม่เคยขายไม่ต้องกังวล เราสอนให้”, “สมัครแล้ว รับบัตรตัวแทน มีการเทรนงานดูแลให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี รับรองไม่มีเท”, “ตัวแทน VIP รายใหญ่ภาคใต้นี่คือส่วนหนึ่งของคำโฆษณา ซึ่งบางส่วนระบุว่าจะมีโยนออเดอร์ โยนตัวแทนให้” 

5. กล้าเปย์

หากไม่นับกรณีที่บอสจิ๊บเคยประกาศหาผู้โชคดีพาไปทำศัลยกรรมแบบส่วนตัว Garden Me ถือเป็นแบรนด์ที่พยายามเพิ่มค่าตอบแทนเสริมให้ตัวแทนที่สั่งจองสินค้าจำนวนมาก

ไม่รู้ว่าแหวนอะไร แต่ตัวแทนที่ขายได้ 100 กล่องจะได้รับแหวนทอง 1 วงมูลค่า 1,550 บาท ทุก 30,000 กล่องจะได้แหวนทอง 300 วง และสะสมยอดได้ 2 แสนกล่อง รับเบนซ์ไปเลย CLA200 คันละ 2.2 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เกมการตลาดนี้ทำให้ตัวแทนจำหน่ายต้องรับความเสี่ยงไว้ 100% ส่วนผู้ก่อตั้งได้เงินเข้ากระเป๋าเต็ม 100% ไม่เพียงกำไรแน่นอนจากตัวแทน ยังคูณด้วยยอดขายเป็นล็อตใหญ่ แม้จะหักค่าทองครึ่งสตางค์ ค่าการตลาด กำไรก็ยังเต็มเม็ดเต็มล้านอยู่ดี

แม้จะยังไม่ได้ประกาศยอดทั้งปี แต่ยอดขาย Garden Me เวลานี้ ทะลุ 1.7 พันล้านบาทนี้เทียบได้กับแบรนด์ความงามชั้นนำของไทยแล้ว เช่น Beauty มีรายได้รวม 2,559 ล้านบาท (เป็นกำไร 656 ล้านบาท) หรือ Oriental Princess ที่มีรายได้รวม 2,553 ล้านบาท (กำไร 181 ล้านบาท)

ที่สำคัญคือ Mistine มีรายได้รวม 10,140 ล้านบาท เป็นกำไร 1,254 ล้านบาท จุดนี้มีรายงานว่ารายได้ Mistine ลดลงจากปีก่อน 2.9% มากกว่า Oriental Princess ที่มีรายได้ลดลงจากปีก่อน 2.1%.

ที่มา :

]]>
1156346
ชั่วโมงนี้ต้อง “เป๊ก ผลิตโชค” โออิชิ ดึงเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “ชาเขียว” https://positioningmag.com/1134248 Wed, 26 Jul 2017 11:26:12 +0000 http://positioningmag.com/?p=1134248 จากกระแสความดัง และแฟนคลับขาประจำติดตามมากมาย สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียต่อเนื่อง ของเป๊ก ผลิตโชค โด่งดังมาจาก หน้ากากจิงโจ้ ในรายการ The Mask Singer ซีซั่นแรก ทำให้โออิชิ กรุ๊ปไม่รอช้า ต้องคว้าตัวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับโออิชิกรีนที

โดยจะเริ่มประเดิมงานแรก ในหนังโฆษณาชุดใหม่ โออิชิ กลิ่นองุ่นเคียวโฮ” ในคอนเซ็ปต์ “เคี้ยวหนึบโดนใจ” ซึ่งโออิชิกลิ่นองุ่นเคียวโฮที่ถือเป็นสินค้าดาวรุ่งของโออิชิ สร้างรายได้เป็นอันดับต้นๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น โดยจะเริ่มออนแอร์ตั้งแต่วันนี้ (26 กรกฎาคม) เป็นต้นไป

หนังโฆษณาชุดนี้ ยังได้ดึงเอาเหล่าทีมกรรมการจาก The Mask Singer ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี อย่าง ดีเจนุ้ยซาร่า, ป๋าเต็ด ยุทธนา และหนึ่ง จักรวาล มาร่วมแสดงด้วย เพื่อสื่อสาร และสร้างการจดจำให้มากยิ่งขึ้น

เป๊ก ผลิตโชค ถือเป็นอีกหนึ่งนักร้องดังที่กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในรายการ The Mask Singer เขายังมีแฟนคลับที่คอยติดตามอย่างเหนียวแน่น ผ่านการใช้โซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี ทวิตเตอร์ จนกลายเจ้าของฉายา ตั้งแต่สามีแห่งชาติไปจนถึงเรือนคุณหลวงที่แฟนคลับตั้งให้ในทวิตเตอร์ และยังสร้างปรากฏการณ์ห้างแตก ได้เกือบทุกครั้งที่ปรากฏตัว จนเป็นที่ต้องการของแบรนด์สินค้าต่างๆ ให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ เช่น ค่ายโอเปอเรเตอร์มือถือ อย่างเอไอเอส ที่ดึงไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ คู่กับ ทอม Room 39 เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นกลุ่มแมส

เช่นเดียวกับชาเขียวโออิชิที่วางจุดยืนในการสร้างแบรนด์เพื่อจับกลุ่มวัยรุ่นมาตลอดหลายปี จึงเลือกพรีเซ็นเตอร์คนในกลุ่มเหล่านี้ โดยเมื่อปีที่แล้ว โออิชิ ได้ดึงเอา ดีเจพุฒิ เกษตรสิน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรโมตชาเชียวมาแล้ว 

สำหรับสถานการณ์ ชาพร้อมดื่มนั้น ไม่ได้สดใสเหมือนกับในอดีต ตลาดติดลบทุกปี แต่โออิชิยังทำยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นได้ หนึ่งในสินค้าสำคัญ คือ โออิชิองุ่น เคียวโฮ ที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จทั้งในแง่ยอดขายและภาพลักษณ์ โดยเน้นการทำการตลาดและการสื่อสาร ผ่านช่องทางที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นวัยรุ่น

]]>
1134248