โจทย์ของดีโด้ในปีนี้คือขยายตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายคนในเมืองมากขึ้น และสร้างแบรนด์ให้ดูทันสมัย เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต และเริ่มเจาะตลาดอาเซียน บุกเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

ดีโด้เลยทุ่มงบการตลาด 200 ล้านบาท เลือก “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด เพื่อเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ และมาริโอ้ก็เป็นนักแสดงเป็นที่รู้จักของคนในเอเชียด้วย ทำให้ง่ายต่อการทำตลาดต่างประเทศ

จันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด กล่าวว่า “ดีโด้ต้องการที่จะขยายตลาดในกลุ่มเป้าหมายสังคมเมืองให้มากขึ้น โดยการสร้างแบรนด์ให้ดูทันสมัย และจะเป็นโอกาสในการสร้างยอดขายให้มากขึ้นอีกด้วย จึงได้ทำการเลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของคนทั่วไปทั้งในประเทศและตลาดอาเซียน

นอกจากเรื่องของการสร้างแบรนด์ยังได้ทุ่มงบกว่า 700 ล้านบาท ลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ที่ทันสมัยมาเพิ่มกำลังการผลิต รวมถึงสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นใหม่ในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยมุ่งเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน ทั้งตลาดในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV

ขณะที่ดีโด้อยู่ในกลุ่มตลาดน้ำผลไม้ 20-39% หรือกลุ่มอีโคโนมี และกลุ่มซูเปอร์อีโคโนมี โดยมีส่วนแบ่งกว่า 40%

บุกตลาดเพื่อนบ้าน

ดีโด้เน้นบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) มีการเติบโตของธุรกิจเครื่องดื่มอย่างน่าจับตา ดังนั้นทิศทางของการเข้าไปบุกตลาดจะมีความเข้มข้นมากขึ้น เริ่มต้นจากค้าขายผ่านชายแดน ไปสู่การหาตัวแทนจำหน่ายในตลาดที่มีศักยภาพและมียอดขายเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อย่างเมียนมา มีแผนสร้างแบรนด์ ทำแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง ผลักดันยอดขายอย่างเต็มที่

หลังจากปูพรมสินค้าและทำการตลาดอย่างครอบคลุมแล้ว ทิศทางจากนั้นจะเข้าไปตั้งออฟฟิศประจำในแต่ละประเทศ โดยคาดว่าตลาดสำคัญๆ ในต่างประเทศจะต้องมีสำนักงานเข้าไปตั้งได้ครบภายในระยะเวลา 3 ปี

จากการทำตลาดต่างประเทศ ในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศเติบโต 40% ทำให้สัดส่วนการขายต่างประเทศจาก 20% ขยับขึ้นมาเป็น 30% ของภาพรวมบริษัทฯ และยังมองหาโอกาสจากการเข้าไปเปิดตลาดใหม่ๆ เช่น อินเดีย จีน

รายได้ของฟู้ดสตาร์ในปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท เติบโต 7% ในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% มีรายได้ทะลุ 4,000 ล้านบาท