ตลาดสัตว์เลี้ยง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 16 Jan 2023 08:57:01 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดอินไซต์ตลาด ‘สัตว์เลี้ยง’ กับโอกาสทำเงินจาก ‘ทาส’ ที่มากกว่าขายอาหาร-อาบน้ำ-ตัดขน https://positioningmag.com/1415523 Mon, 16 Jan 2023 07:45:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1415523 ปี 2022 น่าจะเป็นปีที่เห็นภาพของ ตลาดสัตว์เลี้ยง ได้อย่างชัดเจนที่สุดในแง่ของการเติบโต เพราะจะเห็นผู้เล่นรายใหญ่หน้าใหม่ตบเท้าเข้ามาในตลาดมากมาย อาทิ ‘Lifemate (ไลฟ์เมต)’ แบรนด์อาหารสัตว์ของอาร์เอส, ‘PET ‘N ME’ (เพ็ท แอนด์ มี) ร้านค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงครบวงจรของเซ็นทรัล และ Pet Us (เพ็ทอัส) ของโลตัส ยังไม่รวมถึงบริการอื่น ๆ อย่าง GrabPet (แกร็บเพ็ท) ที่ให้เจ้าของพาสัตว์เลี้ยงเดินทางได้ จากการที่แบรนด์ใหญ่เห็นโอกาส ทำให้ตลาด 40,000 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตเป็น 60,000 ล้านบาทได้ภายในปี 2026 เลยทีเดียว

สาว Gen Y ตกเป็นทาสมากที่สุด

“วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล” หรือ “CMMU” ได้ทำผลสำรวจตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในไทย โดยพบว่า ทาสส่วนใหญ่นั้นเป็น ผู้หญิง (66.8%) รองลงมาเป็น เพศชาย (22.3%) และเพศทางเลือก (10.9%) โดยเจนเนอเรชั่นที่มีมากที่สุดคือ Gen Y (77.3%) ตามด้วย Gen Z (12%) และ Gen X (10.7%) สำหรับสาเหตุที่ทำให้คนหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้นมี 3 เหตุผล ได้แก่

  • เลี้ยงเป็นลูก (49%) : เกือบครึ่งของคนที่มีสัตว์เลี้ยงมองว่า เขาเลี้ยงแทนลูก เลี้ยงคลายเหงา ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเกิดน้อยลง แต่อัตราการเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ขณะที่ 80% ของคนเลี้ยงสัตว์เป็นโสด
  • เลี้ยงเพื่อสถานะทางสังคม (33%) : บางคนเลือกจะเลี้ยงสัตว์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ บ่งบอกตัวตน หรือสเตตัสทางสังคม
  • เลี้ยงเพื่อช่วยเหลือหรือเยียวยาจิตใจ (18%) : มีบางส่วนที่เลี้ยงสัตว์เพื่อบำบัด คลายเหงา คลายความเครียดจากการทำงาน ช่วยเพิ่มความสุข หรือเยี่ยวยาจิตใจผู้ป่วย ผู้สูงอายุ

น้องหมาสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับ 1

จากผลสำรวจพบว่า 40.4% ของกลุ่มตัวอย่างเลี้ยง สุนัข ตามด้วย น้องแมว 37.1% และอีก 22.6% เลี้ยงสัตว์ Exotic โดยสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ปลาสวยงาม,นก, กระต่าย, เต่า และ หนู นอกจากนี้ยังมี สัตว์เลี้ยงเฉพาะกลุ่ม โดยที่ส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงมากที่สุดจะเป็น กิ้งก่า, ชูก้าไกลเดอร์, แมงมุม, งู และ ไก่สวยงาม

สำหรับช่องทางที่เหล่าผู้เลี้ยงสัตว์ Exotic ใช้ในการ รับข่าวสาร คือ Facebook และ Facebook Group ส่วน ช่องทางในการหาความรู้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเลี้ยง ดูแลรักษาจะหาจาก YouTube แต่ถ้าเป็นช่องทางที่ใช้เพื่อ หาความบันเทิง เช่น คลิปสัตว์ตลายเคลียดจะเป็น TikTok

ปีละ 2 หมื่นบาท ทาสจ่ายกับอะไรบ้าง

อาหาร : โดย 4 ช่องทางที่สำคัญสุดที่เหล่าทาสใช้หาข้อมูล คือ โซเชียลมีเดีย (39.8%) เพื่อนและครอบครัว (28%) เสิร์ชเอนจิ้น (22.3%) และ โฆษณาทีวี (9.9%) สำหรับพฤติกรรมการซื้ออาหารของเหล่าทาสนั้นจะคำนึงถึงสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง ไม่ตุนของ และไม่เปลี่ยนแบรนด์ เนื่องจากกังวลเรื่องความไม่คุ้นเคยอาจทำให้สัตว์เลี้ยงอาจไม่ทาน หรืออาจทำให้ท้องเสีย

สำหรับปัจจัยที่จะ กระตุ้นการซื้อ ได้แก่ โปรโมชัน, ความหลากหลาย และคุณภาพ ในส่วนของ ช่องทางการซื้ออาหารสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ร้านขายสินค้าสัตว์เลี้ยง (34.8%) อีคอมเมิร์ซ (22.2%) ซูเปอร์มาร์เก็ต (12.4%) ไฮเปอร์มาร์เก็ต (11.8%) และคลินิกรักษาสัตว์ (8.2%) ขณะที่ความถี่ในการซื้อ กว่า 50% ซื้อมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,001 – 2,000 บาทต่อเดือน

บริการ : ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำตัดขน, ฝากเลี้ยง, สปานวด ฯลฯ เป็นอีกส่วนที่เหล่าทาส ใช้บริการทุกเดือน โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 – 3,000 บาทต่อครั้ง โดยบริการยอดนิยม ได้แก่ อาบน้ำตัดขน (60.1%) รับฝากเลี้ยง (25.9%) สปานวด (6.7%) บริการทำเล็บ (5.8%) ส่วน ปัจจัยในการเลือกใช้บริการ ได้แก่ ทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง, ความน่าเชื่อถือ, พนักงานมีจำนวนเพียงพอและเชี่ยวชาญ และชื่อเสียงของแบรนด์

การรักษา : ในส่วนของการรักษา เหล่าทาส 43.3% เลือกที่จะรักษากับ คลินิกเอกชน ตามด้วยโรงพยาบาลสัตว์เอกชน (41.2%) และโรงพยาบาลสัตว์ของรัฐ (9.8%) โดยสาเหตุที่คลินิกเอกชนมาเป็นอันดับ 1 เพราะความเชื่อมั่น ทำเล เวลายืดหยุ่นและชื่อเสียงคลินิก

ยังมีอะไรที่เหล่าทาสมองหา

นอกจากความต้องการพื้นฐานแล้ว ยังมีอีกหลายบริการที่เหล่าทาสมองหา อาทิ Pet Wellness Center บริการตรวจสุขภาพ รักษาโรค อาบน้ำ ตัดขน สปาสัตว์เลี้ยง ฝากสัตว์เลี้ยง จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ และปรึกษาแพทย์ออนไลน์ Pet Training ฝึกนิสัยสุนัขพันธุ์ดุ คลินิกดัดนิสัยสุนัข-แมว หรือการฝึกกีฬาเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน

After Death Service บริการรูปปั้นสัตว์เลี้ยงหลังเสียชีวิต สร้อยล็อกเก็ตแทนใจ หรือตุ๊กตาสุนัขเหมือนจริง นอกจากนี้ อีกสิ่งที่เหล่าทาสสัตว์ Exotic คือ คลินิกเฉพาะทางที่ยังมีจำนวนน้อย ขณะที่ผู้ขายไม่มีคำแนะนำมากพอที่จะแนะนำการเลี้ยงสัตว์ประเภทนี้

ใช้สัตว์ช่วยขายของอย่างไรให้ได้ใจทาส

สำหรับกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์เลือกใช้สัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นอัตลักษณ์ส่วนหนึ่งของแบรนด์ถือเป็นสิ่งที่มีมานาน แต่โฆษณาที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสอนค้าของผู้บริโภคมากที่สุดนั้นการมี สัตว์และสินค้า จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดีที่สุด โดย 43.82% ของผู้ทำแบบสำรวจมองว่า สัตว์ช่วยดึงดูด เปรียบเทียบขนาดสินค้าชัดเจน และไม่ดูยัดเยียดเกินไป

ตามมาด้วยโฆษณาที่มี สินค้าอย่างเดียว (37.08%) และสุดท้ายโฆษณาที่มี คน สัตว์ สินค้า (19.10%) แม้จะไม่ช่วยเรื่องปิดการขาย แต่ช่วยเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดูอบอุ่น เห็นความสัมพันธ์ ทั้งนี้ สำหรับสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคอยากเห็นสัตว์เลี้ยงในการสื่อสารการตลาด ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค สายการบิน เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์

สำหรับแบรนด์ที่กำลังมองหา Pet Influencer หรือเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังบนโซเชียลมาใช้เพื่อโปรโมตสินค้า หรือบริการ ซึ่งคอนเทนต์ที่สามารถดึงดูดคนได้มากที่สุด คือ คอนเทนต์บันเทิง ขำขัน (68%) แต่ถ้าจะใช้วิธีนี้ต้องรีวิวอย่างสร้างสรรค์ ไม่ฮาร์ดเซลล์ อีก 48% มองว่าเขาชอบดูวิดีโอคลิปสั้น ๆ และส่วนใหญ่จะติดตามไปยาว ๆ หาเพจยังรักษาคุณภาพ ไม่ขายของมากเกินไป

สรุปกลยุทธ์มัดใจเหล่าทาสให้เปย์

  • Personalization – ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน
  • Easy Access – ความสะดวกและเข้าถึงง่าย คือ หัวใจ
  • Trustworthiness – มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ
  • Social Influence – อิทธิพลจากคนในสังคมสำคัญต่อการตัดสินใจ
  • Uniqueness – สร้างเอกลักษณ์ให้โดดเด่นและเป็นที่จดจำ
  • Mental Support – การสื่อสารโดยใช้สัตว์เพื่อคลายเครียด
  • Engagement – สร้างความผูกพันกับลูกค้าจนเกิด Loyalty
  • Rights – ให้ความสำคัญกับสิทธิของสัตว์เลี้ยง
]]>
1415523
“โลตัส” เปิดตัวร้าน Pet Us อาณาจักรตลาดสัตว์เลี้ยง นำร่องสาขาบางนา-พัฒนาการ https://positioningmag.com/1382657 Mon, 25 Apr 2022 13:35:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1382657 ตลาดสัตว์เลี้ยงช่างหอมหวาน ในยุคที่เหล่าทาสเปย์น้องๆ เหมือนลูกหลาน ล่าสุดโลตัสได้ลุยตลาดสัตว์เลี้ยงเต็มตัว เปิดตัว Pet Us อาณาจักรสินค้า และบริการสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร นำร่อง 2 สาขา บางนา และพัฒนาการ

มีตั้งแต่สินค้า ยันบริการตัดขน

Pet Us (เพ็ทอัส) ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และให้บริการครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง ตอบสนองเทรนด์ Pet Humanization ที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว ชูจุดขาย คลับของของคนรักสัตว์ที่สะดวก-ครบ-จบ-คุ้ม มีทั้งสินค้าและบริการที่ครบครันและตอบโจทย์ทุกความต้องการในราคาที่คุ้มค่า ด้วยสินค้าหลากหลายแบรนด์ให้เลือกสรร ครอบคลุมสัตว์เลี้ยงหลายประเภท

พร้อมบริการ Pet Care แนะนำยารักษาโรค ให้คำปรึกษา และฉีดวัคซีนโดยสัตวแพทย์ และบริการ Pet Grooming อาบน้ำตัดขนจากทีมงานมืออาชีพ นำร่อง 2 สาขาที่โลตัส สาขาบางนา และสาขาพัฒนาการ

โชติมา ลาภเวโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าอุปโภค โลตัส กล่าวว่า

“ปัจจุบันสมาชิกในครอบครัวไม่ได้จำกัดเพียงแค่คน แต่รวมถึงสัตว์เลี้ยงในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจโดย Euro Monitor ในปี พ.ศ. 2563 พบว่า กว่า 1 ใน 3 ของครัวเรือนในประเทศไทยมีสัตว์เลี้ยง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปัจจัยต่างๆ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 การใช้ชีวิตในสมัยใหม่ ไลฟ์สไตล์ และมุมมองต่อสัตว์เลี้ยง ปรากฏการณ์ Pet Humanization ที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ได้มองตนเองเป็นเพียงเจ้าของ แต่เป็นเหมือนพ่อแม่ของสัตว์เลี้ยง (Pet Parent) ดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในฐานะสมาชิกของครอบครัว มีความต้องการซื้อสินค้าและบริการที่ดีที่สุดเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยง ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้กได้ดียิ่งขึ้น โลตัส จึงได้พัฒนาร้าน Pet Us ขึ้น เพื่อจำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงหลากหลายประเภทพร้อมให้บริการครบวงจร ต่อยอดจากสินค้าประเภทอาหารและของใช้สัตว์เลี้ยงที่เราจำหน่ายในไฮเปอร์มาร์เก็ตและสาขาทั่วๆ ไป”

ปัจจุบัน Pet Us เปิดให้บริการแล้วใน 2 สาขา ได้แก่ สาขาพัฒนาการ และสาขาบางนา โดยคอนเซ็ปต์ของ Pet Us คือการเป็นคลับของคนรักสัตว์เลี้ยง โดยจะเป็น One-stop shopping destination ที่มีสินค้าหลากหลายชนิด หลายประเภทสินค้า และครอบคลุม ตั้งแต่สินค้าระดับพรีเมียมจนถึงสินค้าแบรนด์ยอดนิยม

นอกเหนือจากสินค้าแล้ว ยังมีบริการ Pet Care และ Pet Grooming ที่ให้น้องๆ ได้สามารถมาพบสัตวแพทย์ รับคำปรึกษา ฉีดวัคซีน และอาบน้ำ-ตัดขน สมาชิกมายโลตัส ยังสามารถสะสมแต้มสมาชิกและรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อีกด้วย

  • ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง มีสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงหลายชนิด ทั้งน้องหมา น้องแมว กระต่าย หนูแฮมสเตอร์ นก ปลา ครอบคลุมทุกประเภทสินค้า ได้แก่ อาหารคุณภาพดีจากหลายแบรนด์ดัง ทั้งอาหารเม็ด อาหารเปียก อาหารเสริม ขนมขบเคี้ยว, ผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น อุปกรณ์ให้อาหาร ห้องน้ำสำหรับน้องๆ แปรง, ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและกำจัดกลิ่น, อุปกรณ์สำหรับน้องๆ เช่น ปลอกคอ สายสูง อุปกรณ์กันเลีย, เสื้อผ้าและเครื่องประดับน่ารัก ๆ หลากหลายแบบ หลากหลายดีไซน์ หลากหลายขนาดให้เลือกสรร

  • Pet Care โซนสัตวแพทย์ ที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพและการดูแลน้องๆ รวมถึงให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์และยารักษาโรคที่จำเป็นให้กับน้องๆ พร้อมบริการฉีดวัคซีน

  • Pet Grooming บริการอาบน้ำ ตัดและตกแต่งขนสำหรับน้องหมาและน้องแมว โดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจากชมรมช่างตัดขนแห่งประเทศไทย และการันตีด้วยรางวัลการตัดแต่งขนสุนัข จากสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) โดยมีความเข้าใจและรักสัตว์เลี้ยง พร้อมทั้งใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับการยอมรับ ถูกสุขอนามัยและปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง โดยโซน pet grooming เป็นพื้นที่ที่เป็นกระจกใสให้ลูกค้าอุ่นใจ สามารถมองเห็นสัตว์เลี้ยงอยู่ในสายตาในทุก ๆ ขั้นตอน
]]>
1382657
เมื่อ ‘สัตว์เลี้ยง’ ตลาดใหญ่ไร้ผู้นำ ‘เซ็นทรัล’ เลยส่ง ‘PET ‘N ME’ เพ็ทช็อปครบวงจรชิงตำแหน่ง https://positioningmag.com/1365864 Wed, 08 Dec 2021 11:35:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1365864 คงไม่ต้องบอกว่าตอนนี้ ‘ตลาดสัตว์เลี้ยง’ ร้อนแรงแค่ไหน เพราะขนาด ‘เฮียฮ้อ’ แห่ง ‘อาร์เอส’ ยังเอาด้วยโดยเปิดตัวแบรนด์อาหารสัตว์ ‘Lifemate (ไลฟ์เมต)’ หรือแม้แต่ 1 ใน 3 ร้านค้าออนไลน์ในลาซาด้าที่โกยยอดขายหลักล้านภายในวันเดียวก็เป็นร้านขายอาหารและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ล่าสุด ‘เซ็นทรัล’ เองก็ขอขยับเข้ามาสู่ตลาดเต็มตัวโดยเตรียมเปิด ‘PET ‘N ME’ Specialty Store สัตว์เลี้ยงครบวงจร ว่าแต่ทำไมตลาดสัตว์เลี้ยงถึงมาได้รับความนิยมเอาตอนนี้เราจะไปเจาะลึกกัน

ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่เลี้ยงสัตว์แทนลูก

หากคนทั่วไปที่ไม่ใช่ทาสหมาทาสแมวคงจะไม่รู้ว่าเหล่าทาสหมดเงินไปกับสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยเดือนละกว่า 4,000 บาท โดยปัจจุบันตลาดสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าถึง 40,000 ล้านบาท เติบโตราว 10% ต่อเนื่องตลอด 5 ปี โดยแบ่งเป็น

  • อาหารสัตว์ 70%
  • บริการ และการรักษา 20 – 30%
  • แฟชั่น และสินค้าไลฟ์สไตล์ 5%

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโตก็เพราะ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น

  • โสดมากขึ้น หลายประเทศทั่วโลกคนแต่งงานช้าลง และเป็นโสดมากขึ้น อย่างในไทยข้อมูลการจดทะเบียนสมรสของกรมการปกครองพบว่าจากปี 2550 เทียบกับปี 2560 จำนวนการจดทะเบียนสมรสลดลง 5.1%
  • คู่รักไม่มีลูก หากอ้างอิงจากอัตราการเกิดในไทยปี 2564 เกิดต่ำกว่า 6 แสนคนครั้งแรกในรอบ 3 ปี และมีแนวโน้มจะลดลงอีก ซึ่งคนมีคู่หลายคนเลือกจะไม่มีลูก รวมถึงคู่รักกลุ่ม LGBTQ+ ที่ไม่สามารถมีลูกได้ ดังนั้น การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแทนถือเป็นอีกทางเลือก
  • สังคมสูงวัย ไทยกำลังจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society) ในปี 2565 ปัจจุบัน ประชากรอายุ 60 ปีขึ้น มีสัดส่วน 10% ของประชากรทั้งประเทศ และการเลี้ยงสัตว์ไว้คลายเหงา ก็เป็นหนึ่งในเทรนด์
  • อยู่บ้านมากขึ้น เมื่อ COVID-19 ทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น หลายคนเลือกที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนเพื่อคลายเหงา
  • Social Media จะเห็นถึงการเติบโตของเพจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่มียอดผู้ติดตามเป็นหลักล้าน ซึ่งความน่ารักของเหล่าสัตว์เลี้ยงเซเลบก็อาจจะตกให้หลายคนหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้น
  • ความต้องการสินค้าหลากหลายขึ้น เช่น เตียง ชุด เริ่มมีขายเยอะขึ้น การดูแลก็ดีขึ้น มีสปา ต้องให้วิตามิน มีโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มตาม จะเห็นว่าองค์ประกอบต่าง ๆ ทำให้ดูน่าสนใจมาก

ตลาดใหญ่ไร้ผู้นำ

จะเห็นว่าตลาดสัตว์เลี้ยงถือเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีปัจจัยบวกจำนวนมาก แต่ที่น่าสนใจคือ ยังไม่มีผู้นำตลาดชัดเจน เพราะ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นรายย่อยและร้านแบบครบวงจรก็มีน้อย ส่วนใหญ่มี 1-2 สาขาเท่านั้น ดังนั้น ทาง เซ็นทรัล เลยถือโอกาสเปิดตัวแบรนด์ใหม่ PET ‘N ME เพื่อรุกตลาดสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม จากเดิมที่เคยมีแบรนด์อย่าง PETSTER และ Cool Pets

สำหรับ PET ‘N ME จะเป็น Specialty Store สัตว์เลี้ยงครบวงจร ของเซ็นทรัล รีเทล ขณะที่ PETSTER จะเป็นโซนจำหน่ายอาหารและของใช้สำหรับสัตว์ในเครือ ท็อปส์ เน้นจับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ส่วน Cool Pets เป็นโซนจำหน่ายอาหาร ของเล่น ของใช้โดยจะเปิดในโซนห้างเซ็นทรัล ปัจจุบันมี 7 สาขา

โดยคอนเซ็ปต์ PET ‘N ME คือ pet lover community โดยจะมีโซนขายอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง, โซนอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง grooming ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นขน รวมกว่า 6,000 รายการ มีโซน other pet ไว้บริการ เช่น บริการตรวจเช็กสุขภาพ อาบน้ำ ตัดขน และสปา มีพื้นที่ pet park สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และมี cafe จาก Arigato ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารทานเล่น

ลูกค้า The one card กว่า 18 ล้านคน มีราว 4 แสนคนที่ซื้อสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ แนวโน้มก็เริ่มมาใช้เงินกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เราเห็นเทรนด์ว่ามันเพิ่มขึ้นแน่นอน และเรามองว่าตอนนี้ไม่มีใครให้ประสบการณ์กับลูกค้าได้ครบ” ไท จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล กล่าว

ปักเป้า พันล้าน ปีแรก ขยาย 50 สาขาใน 5 ปี

เบื้องต้น PET ‘N ME เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวสต์เกต และจะขยายให้ได้ 50 สาขาภายใน 3-5 ปี เน้นเปิดในศูนย์การค้า หรือติดกับศูนย์การค้า ทั้งของเซ็นทรัลพัฒนา,​ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ และใน Community Mall ที่เซ็นทรัลพัฒนาซื้อกิจการจากสยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเมนท์​ (SF) โดยวางไว้ 4 รูปแบบ คือ

  • ร้านขนาดเล็ก 100 – 150 ตารางเมตร จำนวน 25 – 30 สาขา
  • ร้านขนาดกลาง 300 – 400 ตารางเมตร จำนวน 10 – 15 สาขา
  • ร้านขนาดใหญ่ 600 – 700 ตารางเมตร จำนวน 8 สาขา
  • Flagship 1,000 ตารางเมตร จำนวน 2 สาขา

และในปีหน้า PET ‘N ME จะเดินกลยุทธ์แบบ Omnichannel โดยเปิดช้อปออนไลน์ที่มีสินค้ากว่า 10,000 รายการควบคู่กันไป สามารถซื้อออนไลน์, Click and Collect สั่งออนไลน์รับของที่ร้าน หรือส่งด่วนใน 2 ชั่วโมง รวมถึงสามารถคุยกับพนักงานผ่านโทรศัพท์หรือไลน์เพื่อให้ช่วยเลือกสินค้าได้ด้วย โดยภายในปีแรกตั้งเป้ารายได้ที่ 1,000 ล้านบาท

เล็งจับพาร์ตเนอร์ขยายบริการ

PET ‘N ME มีแผนที่จะต่อยอดไปบริการอื่น ๆ เช่น สร้างช่องทางออนไลน์ให้เป็น Community คนรักสัตว์ โดยสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญได้ รวมถึงเพิ่มบริการ ฝึกสัตว์เลี้ยง ซึ่งทาง PET ‘N ME จะเน้น ‘จับมือ’ กับผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการในด้านนั้น ๆ อาทิ โรงพยาบาลสัตว์, สถานที่รับฝากสัตว์เลี้ยง, Training Center เป็นต้น

หากดูจากแผนแล้วก็ต้องถือว่าเซ็นทรัลรุกหนักตลาดสัตว์เลี้ยง แต่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่แค่เซ็นทรัลที่เห็นโอกาส เพราะอาร์เอสเองก็ประกาศว่าไม่หยุดแค่อาหารสัตว์แน่นอน ที่น่าห่วงอาจเป็นผู้เล่นรายย่อยที่ต้องเจอคู่แข่งสุดแข็งที่ทุนหนากว่ามาแย่งลูกค้า

]]>
1365864
บูมมาก! “ธุรกิจสัตว์เลี้ยง” กำลังฮิตในอเมริกา คาดปีนี้ใช้จ่ายสูงถึง 7.5 หมื่นล้านเหรียญ https://positioningmag.com/1257318 Tue, 17 Dec 2019 07:00:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1257318 Photo : Pixabay

ยามเหงาบางทีเราก็มีสัตว์เลี้ยงนี่เเหละเป็นเพื่อน บ่อยครั้งก็ผูกพันกันเหมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ไม่แปลกใจที่ยุคนี้ “ธุรกิจสัตว์เลี้ยง” รวมไปถึงคาเฟ่หมาเเมวต่างๆ กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศ เเละตอนนี้ในอเมริกาก็กำลังบูมสุดๆ

รายงานจาก cnbc ระบุว่า ในปี 2018 ชาวอเมริกันใช้จ่ายไปกับเหล่าสัตว์เลี้ยงตั้งแต่ซื้อของเล่น อุปกรณ์เทคโนโลยี ไปจนถึงการดูแลรักษาสัตว์ มากถึง 72,560 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ราว 69,510 ล้านเหรียญ เเละคาดว่าในปีนี้ ยอดใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงในอเมริกาจะเพิ่มขึ้นเป็น 75,380 ล้านเหรียญ เลยทีเดียว (ราว 2.2 ล้านล้านบาท )

David Westenberg นักวิเคราะห์จาก Guggenheim Securities กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ที่ชื่นชอบสัตว์เลี้ยงอย่างหมาและแมว เริ่มดูแลเอาใจใส่พวกมันเหมือนกับการดูแลลูกของพวกเขา ซึ่งวัฒนธรรมนี้เเตกต่างจากในอดีตที่จะมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเเค่ “สัตว์ที่ช่วยดูแลบ้านหรือเฝ้าบ้าน” มากกว่าเป็นเพื่อนคลายเหงาของมนุษย์

สัตว์เลี้ยงมีผลอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรุ่นใหม่ชาวมิลเลนเนียล ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง มีอัตราการเเต่งงานน้อยลงเเละมีลูกช้าขึ้น จึงมักหันไปดูเเลสัตว์เลี้ยงในฐานะตัวแทนของลูกน้อยที่ต้องให้ความสำคัญ เเละยอมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อดูเเลสัตว์เลี้ยงของพวกเขาให้มีชีวิตที่ดี

ชมคลิป : here’s how dogs and cats became big business

 

]]>
1257318
รู้จักตลาดสัตว์เลี้ยง มูลค่า 3.2 หมื่นล้าน https://positioningmag.com/1192266 Thu, 11 Oct 2018 08:56:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1192266 1192266