ถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 03 Sep 2018 03:45:02 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดเบื้องลึก เอเชียนเกมส์ 2018 ไม่ปัง แพ็กเกจทำข่าวสุดแพง https://positioningmag.com/1185823 Sat, 01 Sep 2018 03:00:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1185823 มหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย กำลังจะปิดฉากลงในวันที่ 2 กันยายนนี้แล้ว ท่ามกลางความเงียบเหงา มาดูสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข่าวกีฬาเอเชียนเกมส์ปีนี้ดร็อปลง

ออกอากาศเพียง 2 ช่อง 

ในยุคทีวีเดิมที่ยังอยู่ในระบบแอนะล็อก การซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดกีฬาเอเชียนเกมส์จะเป็นเป็นภารกิจของทีวีพูล หรือโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว โดยทีวีพูลที่มีสมาชิกหลักคือ ช่อง 3, 5,7 ,9 และ 11 เวียนถ่ายทอดสดวันละช่องตามลำดับ

เมื่อเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัล ที่มีช่องทีวีถึง 25 ช่อง ประกอบกับลิขสิทธิ์ของเอเชียนเกมส์ตกอยู่ในเอเจนซี่ เดนท์สุ ซึ่งเสนอขายทีวีพูล แต่เมื่อทีวีพูลยังไม่ตอบรับเดนท์สุจึงไปสนอขายให้กับทีวีดิจิทัลช่องอื่นๆ จนกระทั่งมาสรุปที่เวิร์คพอยท์ ซึ่งกลุ่มเดนท์สุเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของเวิร์คพอยท์อยู่แล้วการเจรจาจึงไม่ยาก

การซื้อลิขสิทธิ์เอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เพราะเวิร์คพอยท์ต้องการขยายฐานผู้ชมของช่องเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ดูกีฬา

แม้ไม่มีรายงานเป็นทางการว่าค่าลิขสิทธิ์ที่เวิร์คพอยท์ซื้อในครั้งนี้เท่าไร แต่มีรายงานว่ามูลค่าอยู่ที่ประมาณ 70-100 ล้านบาท ซึ่งรวมค่าจัดการประสานงานและการถ่ายทอดทั้งหมด

เดิมทีเวิร์คพอยท์ตั้งใจว่าจะถ่ายทอดสดรายการนี้แต่เพียงผู้เดียว แต่ก็ติดปัญหากฎ Must Have ของ กสทช.ที่ระบุให้กีฬาเอเชียนเกมส์เป็นหนึ่งใน 7 ประเภทกีฬาที่จะต้องออกอากาศทางฟรีทีวี โดยมีเงื่อนไขว่า แมตช์ที่คนไทยแข่งขันจะต้องมีการเผยแพร่อย่างทั่วถึง ทำให้เวิร์คพอยท์ต้องวิ่งหาทีวีดิจิทัลช่องอื่นๆ มาร่วมถ่ายทอดสดด้วยตามคำแนะนำของ กสทช.

หลังจากการเจรจากับหลายช่อง เวิร์คพอยท์ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะร่วมมือกับ NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ แต่เกิด accident ในนาทีสุดท้าย เมื่อ กสทช.ไม่อนุมัติให้ NBT มีโฆษณาได้

พีพีทีวีจึงส้มหล่น เข้ามาเสียบแทน ด้วยราคาพิเศษประมาณ 5 ล้านบาท สำหรับการ Sub licence ในครั้งนี้

เมื่อมีเพียง 2 ช่องที่ได้สิทธิถ่ายทอดสด แม้ว่าเวิร์คพอยท์จะอยู่ในกลุ่มช่องแถวหน้าอันดับ 3-4 ส่วนพีพีทีวีอยู่ในระหว่างอันดับ 10-12 แต่ด้วยฐานผู้ชมที่ยังไม่ได้แมสทั่วประเทศ การโหมประชาสัมพันธ์มหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ทำได้แค่เพียงที่ช่องเวิร์คพอยท์เพียงช่องเดียวเท่านั้น เทียบกับในอดีตในนามทีวีพูล การโหมโปรโมตพร้อมๆ ทั้งทุกช่องใหญ่ และทำกันล่วงหน้าก่อนมหากรรมกีฬาแข่งขันประมาณ 1 เดือน ทำให้เกิดกระแสความตื่นเต้น รับรู้ในประชาชนในวงกว้างได้มากกว่า

ราคาแพ็กเกจทำข่าวสูงลิ่ว

ในอดีต เมื่อลิขสิทธิ์เป็นของทีวีพูล ช่องทีวีทั้ง 5 ช่องสมาชิก สามารถส่งทีมไปทำข่าวได้ตามปกติ โดยเฉพาะกีฬาที่มีนักกีฬาไทยไปร่วมทำการแข่งขัน แต่เนื่องจากในครั้งนี้ลิขสิทธิ์ครั้งนี้ตกอยู่ในมือของเอกชน คือ เวิร์คพ้อยท์ ซึ่งได้คิดค่าลิขสิทธิ์จากช่องทีวีต่างๆ ที่ต้องการไปทำข่าวที่สนามแข่งขันมาออกอากาศในช่องตัวเอง

มีทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาท, 3 ล้านบาท, 2 ล้านบาท และถูกสุด 2 แสนบาทต่อวัน

 

ด้วยราคาค่าลิขสิทธิ์ที่สูงลิบเช่นนี้ ทำให้บรรดาช่องทีวีดิจิทัลส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่ส่งทีมข่าวไปรายงานข่าว และไม่ซื้อภาพข่าว บางช่องใช้วิธีรายงานแห้ง หรือไม่รายงานเลย

ในขณะที่ช่องใหญ่ๆ อย่างช่อง 7 ก็หันไปใช้ภาพนิ่ง หรือผลงานในอดีตของนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลแทน และส่งทีมข่าวไปเจาะในแคมป์นักกีฬาไทย บางช่องใช้ภาพข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศมารายงานแทน ส่วนช่อง 3 ส่งนักข่าวไปทำข่าว และซื้อภาพข่าวลิขสิทธิ์จากเวิร์คพอยท์บ้าง

นอกนั้นมีเพียงไม่กี่ช่องที่ซื้อภาพข่าวบ้าง แต่มีการต่อรองราคากันอย่างเต็มที่ แถมบางช่องที่ส่งทีมข่าวไปทำข่าว เลี่ยงไม่จ่ายค่า AD Card โดยการไปขอ AD Card จากการกีฬาแห่งประเทศไทยแทน

ทำให้ความเข้มข้นความตื่นเต้นของการรายงานข่าวในครั้งนี้ลดดีกรีความเร้าใจในหมู่ผู้ชมลงไป

ฟุตบอลไทย ตกรอบแรก คอนเทนต์ไฮไลต์ลดลง

ความนิยมของการถ่ายทอดสดรายการกีฬามีความสัมพันธ์กับผลงานของนักกีฬาไทยที่ลงแข่งด้วย เมื่อฟุตบอลชายไทย กีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดของไทย และเป็นความหวังของคนไทย ต้องตกรอบแรกเร็วกว่าความคาดหมาย ความสนใจของผู้ชมรายการถ่ายทอดสดจึงยิ่งลดน้อยลงไป

ยิ่งถ้าไปเทียบกับกีฬาเอเชียนเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้ แมตช์ที่ทีมฟุตบอลชายไทยลงแข่งขันกับรอบรองชนะเลิศกับเกาหลีใต้ และแพ้ไป 0-2 ประตู ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 เป็นแมตช์ที่เรียกเรตติ้งได้สูงสุดของเอเชียนเกมส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยได้เรตติ้งสูงถึง 7.883

เมื่อไม่มีฟุตบอล แถมฟุตบอลหญิงก็ตกรอบสองตามไป ยังดีที่กีฬาวอลเลย์บอล กีฬายอดฮิตของคนไทย โดยแมตช์ที่ทีมหญิงไทยโค่นทีมญี่ปุ่น คู่รักคู่แค้นได้ แข่งวันที่ 23 สิงหาคม

และเป็นแมตช์ที่ได้เรตติ้งสูงสุด ตั้งแต่มีการถ่ายทอดเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้ โดยได้เรตติ้งอยู่ที่ 5.347 (สำหรับผลเรตติ้งที่ออกมาตั้งแต่เปิดการแข่งขันจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม)

อีกทั้งผลการแข่งขันล่าสุดในวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย สามารถเอาชนะทีมเกาหลีใต้ เข้าชิงเหรียญทองเอเชียนเกมส์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จึงคาดได้ว่า

แมตช์ถายทอดสดทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ น่าจะทำเรตติ้งได้สูงที่สุด

นอกจากวอลเลย์บอล ก็มีแบดมินตัน และมวยสากลสมัครเล่น ที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน แต่เมื่อนักแบดมินไทยไทยทั้งชายและหญิง ตกรอบไปหมดแล้วก่อนหน้านี้ แถมนักมวยไทยมีเหลือเข้าชิงเหรียญทองเพียงคนเดียว ในประเภทนักมวยหญิงเท่านั้น จึงเหลือมวยอีกรายการหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมควบคู่ไปกับวอลเลย์บอล

แม้เอเชียนเกมส์ไม่เปรี้ยง แต่การมีแค่ 2 ช่องที่ถ่ายทอด ทำให้เวิร์คพอยท์กลับมายืนในตำแหน่งอันดับ 3 เหนือช่องโมโนอีกครั้ง และทำเรตติ้งเข้าใกล้ช่อง 3 ที่อยู่ในช่วงวิกฤตละครหลังข่าวความนิยมลด เรตติ้งตกต่ำ มีเพียงอังกอร์ละครบู๊ แนวระเบิดภูเขา เผากระท่อม แถมมีฉากปิ้งไก่ในตำนาน ที่ผู้ชมรอดู เพียงเรื่องเดียวที่ช่วยกู้หน้าช่อง 3 เอาไว้ได้ในขณะนี้

ยิ่งเข้าโค้งสุดท้ายของการถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ น่าจะผลักดันให้เวิร์คพอยท์ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ได้หรือใกล้เคียง ส่วนพีพีทีวีก็ได้รับอานิสงส์เช่นดียวกัน แม้จะได้ถ่ายทอดในแมตช์ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีพลังพอให้พีพีทีวีทะยานขึ้นมาติดท็อปเท็นได้สำเร็จมาแล้วในสัปดาห์ที่แล้ว

จับตา ซีเกมส์ 2019 ใครจะได้สิทธิ์ถ่ายทอดสด ถ้าเทียบกันระหว่างเอเชียนเกมส์และซีเกมส์แล้ว กีฬาซีเกมส์จะได้รับความนิยม และความสนใจในหมู่ผู้ชมและคนไทยทั่วประเทศได้มากกว่า เพราะสภาพร่างกายนักกีฬาใกล้กัน แถมไทยยังเป็นเจ้าเหรียญทอง พี่ใหญ่ของภูมิภาคนี้ เรตติ้งผลตอบรับโฆษณาก็มีมากกว่า จึงเป็นอีกหนึ่งมหกรรมกีฬาที่หลายช่องทีวีดิจิทัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก กับกีฬาซีเกมส์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

อย่างไรก็ตาม ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์อยู่ในมือของการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. โดยทีวีพูลเป็นผู้ถ่ายทอดสดตลอด แต่ในครั้งหน้านี้หลายช่องต่างจับจ้องตาเป็นมัน

โดยเฉพาะช่องที่มีเงินทุนหนา ซึ่งเชื่อว่า กกท.ก็ต้องพิจารณาผลตอบรับจากการเปลี่ยนมือสิทธิ์ของกีฬาเอเชียนเกมส์ปีนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งเรื่องความนิยม การโปรโมต และการมีส่วนร่วมของผู้ชมในเกมการแข่งขัน

แต่สุดท้ายจะลงเอยที่ช่องไหน หรือกลุ่มไหน น่าติดตามอย่างยิ่ง.

]]>
1185823
เวิร์คพอยท์ ได้เอเชียนเกมส์ กู้เรตติ้งขึ้นอันดับ 3 หายใจรดต้นคอช่อง 3 แล้ว https://positioningmag.com/1185197 Mon, 27 Aug 2018 23:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1185197 แม้ว่าถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ จะไม่ได้มีกระแสแรงมากในกลุ่มผู้ชม เนื่องจากถ่ายทอดสดเพียง 2 ช่องทีวีดิจิทัล ทางเวิร์คพอยท์ และพีพีทีวี แต่ก็สร้างเรตติ้งเฉลี่ยช่องเวิร์คพอยท์ทะยานขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ได้อีกครั้ง หลังจากที่เรตติ้งเฉลี่ยตกลงมาอยู่ในอันดับ 4 มาตลอดทั้งปีนี้

เวิร์คพอยท์ ยอมยกผังรายการทั้งวัน เพื่อถ่ายทอดสดในแมตช์ที่นักกีฬาทีมชาติไทยลงแข่งขันแทบทุกรายการ เรตติ้งของช่วงเวลาถ่ายทอดสดในเวลากลางวัน ทำเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ในระดับ 1 กว่า ตลอดวัน สูงกว่ารายการปกติที่ออกอากาศในช่วงกลางวัน ที่มีทั้งรายการวาไรตี้รีรัน ซีรีส์ และรายการข่าว ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องขึ้นจากอันดับ 4 ตามช่องโมโน แซงมาอยู่ที่อันดับ 3 เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง เพิ่มขึ้นถึง 0.468 จาก 0.821 มาอยู่ที่ 1.289

อย่างไรก็ตาม การที่ฟุตบอลกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ต้องตกรอบไปก่อน ทำให้ประเภทกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดกลายเป็นวอลเลย์บอล โดยแมตช์ที่ได้เรตติ้งสูงสุด เป็นการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ไทยชนะญี่ปุ่น 3-0 เซต ได้เรตติ้งไป 5.347 

ที่สำคัญ เอเชียนเกมส์ ทำให้เรตติ้งช่องเวิร์คพอยท์เขยิบเข้าใกล้ช่อง 3 ที่อยู่อันดับ 2 ชนิดสูสีที่สุดเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาช่อง 3 เกิดวิกฤตกับละครหลังข่าว 2 ทุ่ม ช่วงวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี เรตติ้งตกลงอย่างน่าใจหาย เรตติ้งเฉลี่ยต่ำกว่า 2 ทั้งเรื่อง “ดวงใจในไฟหนาว” และ “นางบาป” แต่ยังโชคดีที่ได้ละครบู๊ล้างผลาญชุดใหม่ “อังกอร์” เสริมทัพในช่วงวันหยุด เข้ามาช่วยชีวิต เรตติ้งเปิดตัวถึง 3.850 ขึ้นมาถึง 5.170 ชนะละครโรแมนติกดราม่า “เจ้าสาวจำยอม” ช่อง 7 ในการออกอากาศเพียงแค่ตอนที่ 3 เท่านั้น

แต่ช่อง 3 ยังได้ชุดละครรีรันทั้งช่วงเช้า “จำเลยรัก” ช่วงเวลาละครดังข้ามเวลา และละครรีรันบ่าย “บ่วงหงส์” ได้เรตติ้งเฉลี่ยเกิน 2 ทั้ง 2 เรื่อง เข้ามาช่วยทำให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.313 รอดจากการโดนเวิร์คพอยท์แซงได้อย่างหวุดหวิด

อย่างไรก็ตาม เรตติ้งของเวิร์คพอยท์และช่อง 3 ห่างกันเพียง 0.024 เท่านั้น แต่กีฬาเอเชียนเกมส์กำลังเข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 ที่เป็นช่วงอาทิตย์สุดท้ายของการแข่งขันแล้ว น่าจับตาว่าเรตติ้งของเวิร์คพอยท์จะแซงหน้าช่อง 3 ได้หรือไม่

กีฬาเอเชียนเกมส์ยังช่วยให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องพีพีทีวี ที่เข้ามาเสียบซื้อลิขสิทธิ์ต่อจาก NBT อย่างกะทันหัน ขึ้นมาติดอยู่ในอันดับ 10 ได้สำเร็จ แต่แมตช์ที่พีพีทีวีถ่ายทอดมักจะเป็นแมตช์ที่ไม่ใช่นักกีฬาไทยแข่งขัน เรตติ้งของการถ่ายทอดจึงไม่ได้สูงมาก แต่ก็ช่วยทำให้ช่องพีพีทีวีมีเรตติ้งเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น โดยได้เรตติ้งสูงสุด 1.193 สำหรับการถ่ายทอดสดการแข่งขันกรีฑา ในวันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค.

สำหรับช่อง 7 แชมป์เรตติ้ง มีละครพื้นบ้านช่วงเช้า “สังข์ทอง” เป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงสุดของช่อง เรตติ้งขึ้นไปอยู่ที่ 7.275 และ 7.440 ในวันเสาร์ที่ 25 ส.ค. และอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. เป็นรายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดประจำสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้เป็นช่วงตอนจบของละครแซ่บกระแสแรงในตอนนี้ “เมีย 2018” ช่องวัน เหลืออีก 2 ตอน ในวันที่ 27-28 ส.ค.นี้แล้ว เรตติ้งของสัปดาห์ก่อนหน้าทำไว้สูงถึง 5.873 สำหรับกลุ่มอายุ 4+ และ 6.182 สำหรับ 15+ กลายเป็นละครที่มีเรตติ้งสูงสุดของช่องวัน มาดูกันว่า 2 ตอนที่เหลือ เรตติ้งจะพุ่งสูงสุดทำสถิติใหม่ไว้ที่เท่าไร.

]]>
1185197
ส้มหล่น! พีพีทีวี เสียบแทน NBT ถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ หลัง บอร์ด กสทช.ไม่ให้โฆษณา https://positioningmag.com/1182823 Thu, 09 Aug 2018 09:52:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1182823 เป็นเรื่องวุ่นๆ สำหรับถ่ายทอดสดกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่ต้องเปลี่ยนตัวจากช่อง NBT มาเป็น PPTV ถ่ายทอดสดกะทันหัน หลังจากบอร์ด กสทช.ไม่อนุมัติให้ NBT มีโฆษณาได้

เดิมที เวิร์คพอยท์ได้ข้อสรุปการเจรจาขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาเอเชียนเกมส์ให้กับสถานี NBT หรือช่อง 11 ของกรมประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ในการถ่ายทอดสดร่วมกัน

NBT ก็ต้องการให้โครงการถ่ายทอดสดครั้งนี้เป็นโครงการนำร่องของสถานี ที่จะขายโฆษณาช่วงการถ่ายทอดสดได้เป็นครั้งแรก แต่ทุกอย่างก็จบลง โดยที่บอร์ดกสทช.ที่มีการประชุมกันในวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมาไม่อนุมัติแผนการดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ คสช.มีคำสั่ง ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ประกาศพักการชำระหนี้ 3 ปีให้กับทีวีดิจิทัล รวมทั้งยังได้เปิดทางให้กรมประชาสัมพันธ์สามารถมีโฆษณาในรายการที่ออกอากาศได้ แต่ต้องมีโฆษณาเท่าที่จำเป็น และเพียงพอต่อการผลิตรายการ โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องเป็นไปตามประกาศของกสทช.ต่อไป

อย่างไรก็ตามกสทชยังไม่ทันได้ออกกฏเกณฑ์การมีโฆษณาของกรมประชาสัมพันธ์ออกมา เพราะอยู่ระหว่างการร่างประกาศ กรมประชาสัมพันธ์ก็ได้ดีลถ่ายทอดสดกีฬาเอเชียนเกมส์จากเวิร์คพอยท์ ที่กำลังมองหาพาร์ทเนอร์มาถ่ายทอดสดร่วมในบางแมตช์ที่นักกีฬาไทยลงแข่งขัน เพื่อให้ถูกต้องตามประกาศ Must Have ของกสทช.

เวิร์คพอยท์ในฐานะช่องใหม่ ที่หวังว่าการถ่ายทอดสดเอเชียนเกมส์ครั้งนี้จะช่วยสร้างความนิยมของช่อง และมีเรตติ้งสูงขึ้นจึงไม่ต้องการเจรจากับช่องใหญ่ หรือช่องคู่แข่งโดยตรง จึงเล็งไปที่ช่องขนาดเล็ก ทั้งช่อง NBT ไทยพีบีเอส และพีพีทีวี จนมาได้ข้อสรุปที่ NBT

แต่ NBT ไม่มีงบประมาณในการจัดซื้อ จึงต้องไปขอรับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเข้ามาก่อน จากนั้นเมื่อมีรายได้จากค่าโฆษณาแล้ว จึงนำไปคืนให้การกีฬาฯ  ซึ่งไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมูลค่าทั้งหมดในการซื้อต่อลิขสิทธิ์ในครั้งนี้

กรมประชาสัมพันธ์จึงทำหนังสือถึงกสทช.เพื่อขออนุมัติให้มีการโฆษณาได้ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะบอร์ดกสทช.เสียงข้างมากสรุปว่าไม่สามารถอนุมัติได้ เนื่องจากกสทช.ยังไม่ได้ออกกฏเกณฑ์รองรับ

เมื่อ NBT โฆษณาไม่ได้ ดีลที่ทำกับ เวิร์คพอยท์จึงต้องล้ม  ซึ่งเวิร์คพ้อยท์จึงรีบติดต่อไปยังพีพีทีวี  ให้มาถ่ายทอดสดแทน NBT   โดยหลังจากนี้ จะนำเสนอผังใหม่ของพีพีทีวี เข้าบอร์ดกสทช.เพื่อขออนุมัติต่อไป.

]]>
1182823