จุดเริ่มของรสชาติไข่เค็ม ส่วนหนึ่งมาจากแบรนด์ Irvins หนังปลากรอบเคลือบไข่เค็ม ที่ชาวสิงคโปร์เองและนักท่องเที่ยวชาวไทย ต้องยอมต่อคิวเข้าแถวซื้อ พรีออเดอร์กันชุดใหญ่ ชนิดที่ว่า ใครไม่ยังไม่กิน ถือว่าเชยกันเลย จนทำให้ Irvins ต้องเดินทางมาเปิดสาขาในไทย ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงต้นปีนี้

ในไทยเอง ขนมขบเคี้ยว อย่าง มันฝรั่งเลย์ เถ้าแก่น้อย สาหร่ายเถ้าแก่น้อยสาหร่ายเทมปุระไข่เค็ม มาม่ารสผัดไข่เค็ม เทสโก้รสไข่เค็มสไปซี่

แม้แต่ร้าน Auntie Anne’s (อานตี้ แอนส์) โด่งดังมาจากขนมปังอบ เพรทเซล หรือคนไทยเรียกกันว่า ขนมป้าแอน ยังต้องอินไปกับเทรนด์ไข่เค็มออก ขนมเพรทเซลป็อป ชีสลาวาไข่เค็ม ออกวางขาย

ล่าสุด คริสปี้ ครีม โดนัทสัญชาติอเมริกัน ยังต้องยอมใจกับกระแสไข่เค็ม ออกไส้ ไข่เค็มลาวา ฟิล ริง โดนัท ราคา 35 บาท ออกมาวางขาย ทั้ง 34 สาขา แต่รสชาตินี้ไม่ได้มีตลอดไป มีถึงแค่ 30 มิถุนายน

ไข่เค็มเวลานี้ ไม่ได้มีแค่ขนมหวานเท่านั้น แต่ยังลามไปถึง ไอศกรีม แดรี่ควีน ที่ทนกระแสไม่ไหว ออกไอศกรีม บลิซซาร์ดไข่เค็ม ออกมาให้คอไอศกรีมได้ชิมกัน โดยเอาไอศกรีมไปปั่นผสมซอสไข่เค็ม ราดด้วยซอสไข่เค็มอีกรอบ

เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง บอกไว้ว่า ต้องออกรสชาติใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดขนมขบเคี้ยว มูลค่า 37,000 ล้านบาท และการเลือกออกรสชาติ เลย์ รสไข่เค็ม เพราะต้องการอิงไปกับกระแส “ไข่เคมฟีเวอร์” โดยเปิดตัวในไทยเป็นประเทศที่ 3 ต่อจากจีนและอินโดนีเซีย

เดือนที่แล้ว “เถ้าแก่น้อย” ประกาศชัดเจนไม่จำกัดตัวอยู่ในธุรกิจ “ขนมขบเคี้ยว” เท่านั้น แต่ต้องการก้าวไปสู่ผู้ประกอบด้าน “นวัตกรรมอาหาร” หรือ innovation food company

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ยกตัวอย่าง การพัฒนาสูตรไข่เค็มมาจากประเทศสิงคโปร์ มาใช้ในสินค้าใหม่ ที่แตกต่างจากสินค้าที่วางตลาดอยู่เดิม คือ ทินเท็น สแน็คปลาหมึก” ปลาหมึกแผ่น และปลาหมึกย่าง ผสมซอสไข่เค็มเน้นความเข้มข้น เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาด เน้นกลุ่มเป้าหมาย นักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น และกลุ่มคนเริ่มทำงานที่ต้องการขนมขบเคี้ยวที่มีความอร่อยแปลกใหม่

เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งในกระแสฟีเวอร์ที่ยังไม่จางหายไปง่ายๆ.

“แผนธุรกิจใหม่ที่เราวาง มุ่งก้าวสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมอาหารให้ได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยมีเป้ารายได้ที่ 1 หมื่นล้านภายใน 5 ปี ดังเราจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์และธุรกิจตัวใหม่ๆ เข้ามาเสริม สำหรับปีนี้บริษัทมีโปรเจกต์ใหญ่ที่เตรียมจะออกหลังจากนี้อีก 2 โปรเจกต์”

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN กล่าว

เขายกตัวอย่าง การซื้อลิขสิทธิ์ “สูตรซอสไข่เค็ม” มาจากประเทศสิงคโปร์ แล้วนำมาผสมกับ “สาหร่าย” รวมถึงพัฒนามาเป็น “ปลาหมึกไข่เค็ม” ”เถ้าแก่น้อย” ทินเท็น ขนมขบเคี้ยวที่นำมาวางขาย เพื่อสร้างความแตกต่างจาก “สแน็คปลาหมึก” ที่วางขายในตลาด

เถ้าแก่น้อยใช้งบประมาณ 25 ล้านบาทในการทำตลาด ผ่านกลยุทธ์ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” โดยมี 6 สาว BNK48 ได้แก่ น้องวี น้องจูเน่ น้องฟ้อนด์ น้องมายยู น้องนิว และน้องมิวนิค มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อต้องการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มโอตะ โดยจะมีทั้งภาพยนตร์โฆษณา กิจกรรม

“ที่ผ่านมาเถ้าแก่น้อยเลือกใช้ดาราชายและบอยแบนด์เป็นพรีเซ็นเตอร์มาตลอด สามารถสร้างฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งวัยรุ่นหญิง และคนวัยทำงานมาแล้ว ในปีนี้เราเลือก BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังโด่งดังมีแฟนคลับที่แข็งแกร่งมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าใหม่ ทินเท็น เพราะเชื่อว่านอกจากจะช่วยสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ และยังจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตมีส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 10% ภายใน 2 ปี”