ทิปโก้ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 01 Sep 2022 10:15:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ทิปโก้’ ขอร่วมวง ‘น้ำโซดากลิ่นผลไม้’ ชูจุดเด่น ‘ฟังก์ชันนอล’ เหนือคู่แข่ง มัดใจสายรักสุขภาพ https://positioningmag.com/1398520 Thu, 01 Sep 2022 08:59:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1398520 หากพูดถึงตลาด น้ำผลไม้ ที่ปี 2561 เคยมีมูลค่าสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากนั้นตลาดก็หดตัวลงกว่า 10% มาอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2563 มูลค่าก็เหลืออยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตลาดไม่เติบโตมาจากการมาของ COVID-19 ที่ทำให้เกิด เทรนด์รักสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเลือกที่จะหลีกเลี่ยงน้ำผลไม้เพราะกังวลถึง ปริมาณน้ำตาล แต่ก็มีตลาดเกิดใหม่คือ เครื่องดื่มผสมวิตามิน 0 cal ที่กำลังมาแรง

หาตลาดใหม่แทนที่น้ำผลไม้

ดูเหมือนว่าจากทิศทางของตลาดน้ำผลไม้ที่มีแต่ทรงกับทรุด ทำให้หลายแบรนด์เบนเข็มไปหาตลาดอื่น ๆ ที่มีโอกาสเติบโตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาด สมุนไพร ไม่ว่าจะเป็น กัญชา กัญชง ต่าง ๆ และที่กำลังมาแรงสุดในตอนนี้คือ ตลาด 0 cal หรือ เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล ที่เติบโตสูงถึง 30-40% มาต่อเนื่องหลายปี

โดยเฉพาะตลาด น้ำโซดากลิ่นผลไม้ 0 Cal หรือ น้ำใส ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มตลาดที่กำลังเป็นที่จับตาในตลาดน้ำอัดลม เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็น โคล่า หรือ ตลาด น้ำดำ และตลาด น้ำสี แต่ตลาดน้ำใสกลับมาแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไม่ใช่แค่ไม่มีน้ำตาล แต่ยังได้ใจของผู้บริโภคในยุคที่หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น เพราะมี ฟังก์ชันนอล อย่าง วิตามินซี

ทิปโก้ร่วมวงน้ำอัดลม

หากนับเฉพาะ ตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบบกระป๋อง คาดว่ามีมูลค่า 13,000 ล้านบาท บวกกับเทรนด์รักสุขภาพทำให้กลุ่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใคร ๆ ก็อยากเข้ามาเล่นในตลาดนี้ รวมไปถึง ทิปโก้ (Tipco) ที่ถือเป็น 1 ใน 3 ของผู้เล่นใหญ่ในตลาดน้ำผลไม้ในไทยที่ทำตลาดมานานถึง 46 ปี ที่ขอร่วมวงในตลาดนี้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของทิปโก้ ที่ขยาย Portfolio สินค้าในการเข้าตลาดเครื่องดื่มโซดา

สิ่งแรกที่ทิปโก้ใช้สร้างความแตกต่างคือ รสชาติ ที่ส่วนใหญ่ตลาดจะเน้นหนักไปทางรส เลม่อน หรือ ส้ม แต่ ทิปโก้ อิซซี่ ก็คลอดออกมาถึง 4 รสชาติ ได้แก่ พีช, ส้มยูสุ, มิกซ์เบอร์รี่ และ มะม่วง ปริมาณ 330 มล. ราคา 16 บาท แม้จะหันมาทำน้ำโซดากลิ่นผลไม้ แต่ทิปโก้ก็ไม่ทิ้งจุดแข็งของน้ำผลไม้ โดยเพิ่ม ทิปโก้ โซซ่า น้ำผลไม้แท้สปาร์คกลิ้งให้เป็นทางเลือก มี 2 รสชาติ ได้แก่ สับปะรดหอมสุวรรณ และ องุ่นแดง ราคา 35 บาท โดยทุกรสชาติที่เลือกทำตลาด จะเป็นรสชาติที่ขายดีของทิปโก้

“ตลาดน้ำโซดากลิ่นผลไม้ตอนนี้ยังใหม่ แต่ก็เริ่มเห็นแบรนด์ใหญ่แบรนด์ย่อย ซึ่งเราเชื่อว่ายังมีผู้บริโภคกลุ่มที่เอาเรื่องรสชาติน้ำผลไม้เป็นตัวตั้ง และเรามั่นใจว่าเราเชี่ยวชาญ” จักรภพ ฉิมอำพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ในกลุ่ม บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

ชูฟังก์ชันนอลที่มากกว่า

นอกจากเรื่องรสชาติที่จะสร้างความแตกต่างแล้ว อีกกลยุทธ์ที่ทิปโก้ได้นำจากการทำตลาดน้ำผลไม้ก็คือเรื่องของ ฟังก์ชันนอล ที่ไม่ใช่แค่วิตามิน แต่ยังมี คอลลาเจน หรือ ไฟเบอร์ เพราะในตลาดน้ำผลไม้ปัจจุบันไม่ได้แข่งที่การออกรสชาติใหม่ ๆ แล้ว แต่เป็นการแข่งด้วยฟังก์ชันนอล ซึ่ง จักรภพ ระบุว่า ยังมีผู้บริโภคที่ตัดสินใจเลือกจากฟังก์ชันนอล ใครเบเนฟิตมีมากกว่าก็เลือกอันนั้น

“เรามองว่าการมีคู่แข่งใหม่ ๆ เข้ามาก็ยิ่งเพิ่มทางเลือกให้ตลาด ซึ่งเราก็ศึกษาตลาดแล้วว่ามีผู้บริโภคที่ต้องการฟังก์ชันนอลอื่น ๆ ซึ่งถ้ามีสินค้าเหมือนกัน ราคาใกล้กัน เขาก็จะดูว่าใครมีคุณประโยชน์มากกว่า”

เน้นสร้างการรับรู้ก่อนยอดขาย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ ทิปโก้ อิซซี่ และ ทิปโก้ โซซ่าจะเน้นไปที่ คนรุ่นใหม่ และ ผู้ที่ดูแลสุขภาพ โดยในช่วง 2-3 เดือนแรก ทิปโก้จะพยายามสร้างการรับรู้ ทั้งจากสื่อโซเชียลมีเดีย การใช้งานอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงสื่อ Out of Home ต่าง ๆ รวมถึงระจายจุดชิม ในส่วนของตัวสินค้ากำลังทยอยเข้าไปขายในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน ส่วนการเข้าเซเว่น อีเลฟเว่นกำลังอยู่ในช่วงการประชุมและนำเสนอ

“เราเป็นน้องใหม่ในตลาด มาเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค ดังนั้น ในช่วงต้นเรายังไม่โฟกัสเรื่องยอดขาย แต่เน้นสร้างการรับรู้ก่อน”

]]>
1398520
“น้ำผลไม้” เปลี่ยนทิศ! หมดยุคเล่นด้วยรสชาติ แต่เป็นเกมของ “นวัตกรรม-ฟังก์ชันนอล” https://positioningmag.com/1347844 Fri, 20 Aug 2021 06:28:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1347844 สถานการณ์ของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจหดตัวลง แม้แต่ตลาด “น้ำผลไม้” ก็ยังติดลบถึง 10% ผู้เล่นใหญ่อย่าง “ทิปโก้” จึงต้องออกมาแก้เกมหวังกระตุ้นตลาด เปลี่ยนกลยุทธ์จากการออกรสชาติใหม่ๆ เป็นนวัตกรรม และแพ็กไซส์ใหม่ๆ หวังเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่มากขึ้น

รสชาติใหม่หลบไป เทรนด์ใหม่ต้องวิตามิน เสริมภูมิต้านทาน

ในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เติบโตขึ้นเล็กน้อยเพียงแค่ 0.5-1.5% มีมูลค่า 200,000 ล้านบาท ส่วนตลาดน้ำผลไม้มีมูลค่า 3,000 ล้านบาท ติดลบถึง 10% เป็นผลพวงจากวิกฤต COVID-19 ที่ทำให้ตลาดค่อนข้างซบเซา

ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตลาดน้ำผลไม้นั้น ส่วนมากสีสันในตลาดจะอยู่ที่การออกสินค้าใหม่ๆ ด้วยรสชาติใหม่ หรือผลไม้ที่กำลังเป็นเทรนด์นิยมในตอนนั้น พอมีรสชาติใหม่ๆ ก็สามารถกระตุ้นการลอง การซื้อ และทำให้ตลาดเติบโตได้

แต่การมาของ COVID-19 ทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ถึงแม้ว่าน้ำผลไม้จะขึ้นชื่อว่าดีต่อสุขภาพก็จริง แต่ว่ายุคนี้ผู้บริโภคมองหาอะไรที่มากกว่าสุขภาพไปแล้ว นั่นคือเลือกอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ และสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วย

ทิปโก้เรียกว่าเป็น 1 ใน 3 ของผู้เล่นใหญ่ในตลาดน้ำผลไม้ในไทย ทำตลาดมากว่า 45 ปี ถึงกับบอกเลยว่า ตอนนี้ไม่ใช้ “Favor Game” อีกต่อไป นั่นก็คือไม่ใช่เกมของการออกรสชาติใหม่ๆ แล้ว แต่เป็นการแข่งด้วย “ฟังก์ชันนอล” อาจจะเป็นการใส่วิตามิน หรือสารอาหารมากขึ้น

จักรภพ ฉิมอำพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ในกลุ่ม บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“COVID-19 ทำให้คนดูแลสุขภาพมากขึ้น เลือกอาหารที่สร้างภูมิคุ้มกัน ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มเครื่องดื่มวิตามินซีสูง จากเดิมที่ตลาดเน้นการนำเสนอรสชาติใหม่ จะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไปแล้ว ต้องพัฒนาไปเป็นฟังก์ชันนอล มีไลน์สินค้าใหม่ๆ มีวิตามิน มีสารอาหารมากขึ้น”

แพลตฟอร์มใหม่ ไซส์ใหม่

ในปีนี้ทิปโก้ได้ออกสินค้าใหม่ 2 รายการ เป็นแพลตฟอร์มใหม่ และแพ็กไซส์ใหม่ ได้แก่ น้ำส้มแมนดารินผสมน้ำส้มสีทอง มีจุดเด่นที่ผสม้ำส้ม 2 ชนิด และให้วิตามินซีสูง 110% RDI เป็นวิตามินซีจากธรรมชาติ พร้อมกับไซส์ใหม่ Jumbo Size 225 มิลลิลิตร แต่ราคา 18 บาทเท่าเดิม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่แก่ผู้บริโภค และสร้างความแตกต่างบนเชลฟ์

สินค้าอีก 1 รายการอยู่ในกลุ่ม Less Sweet ก่อนหน้านี้ทิปโก้ได้วางจำหน่ายรสชาติแรก คือ น้ำผักผสมน้ำผลไม้รวม กล่องสีฟ้า เมื่อปลายปี 2563 ในปีนี้จึงเปิดตัวรสชาติใหม่ในซีรีส์ Less Sweet คือ น้ำผลไม้ผสมน้ำผักรวม 100% สูตรหวานน้อย กล่องสีแดง เน้นน้ำผลไม้นำน้ำผัก ช่วยบำรุงผิวพรรณ เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ผิวพรรณ และความงามโดยเฉพาะ มีค่าน้ำตาลที่ 4.6 กรัม

“ตอนนี้เทรนด์ของตลาดน้ำผลไม้จะไปที่การมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพราะเกมของการออกรสชาติใหม่ไม่ได้ช่วยสร้างการเติบโตแล้ว พอทางแบรนด์ไปนำเสนอห้างค้าปลีกต่างๆ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ทางห้างฯ ก็อยากได้สินค้าใหม่ๆ มาเติมเชลฟ์มากขึ้น”

สำหรับตัวน้ำส้มแมนดารินผสมน้ำส้มสีทอง เริ่มจำหน่ายวันที่ 19 ส.ค. ส่วนน้ำผลไม้ผสมน้ำผัก เริ่มจำหน่ายวันที่ 16 ก.ย. เริ่มที่ช่องทางเซเว่นฯ ก่อน ถือเป็นช่วงของการทดลองตลาด ก่อนที่จะขยายไปยังช่องทางอื่นๆ ในอนาคต

เบนเข็มจับทางวัยรุ่นมากขึ้น

ด้วยความแบรนด์ทิปโก้ทำตลาดมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่อายุ 35-40 ปีขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่เติบโตมากับแบรนด์ ข้อดีของกลุ่มนี้คือมีแฟนพันธุ์แท้ที่เหนียวแน่น มีลอยัลตี้สูง แต่ข้อเสียก็คือ เมื่อกลุ่มนี้มีอายุสูงวัยมากขึ้น ก็มีการหยุดดื่มน้ำผลไม้ไปตามวัย แล้วไปดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้น

ทำให้ทิปโก้เองก็ต้องเร่งที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ เน้นจับกลุ่ม “วัยรุ่น” หรือคนรุ่นใหม่มากขึ้น การที่จะจับคนกลุ่มนี้ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่นัก เพราะเป็นกลุ่มที่มีทางเลือกสูงมาก อีกทั้งมีลอยัลตี้ค่อนข้างต่ำ มักลองสิ่งใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ

เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทิปโก้ได้เปิดแคมเปญใหญ่ Tipco #จู๊ซที่ใช่คุณ เป็นการเล่าเรื่องน้ำผลไม้ ผ่าน Creative Idea ที่สนุกสนาน เช่น ผู้ดื่มทุกคนมีลักษณะอุปนิสัย ความต้องการ ความชอบส่วนตัวที่แตกต่างกัน รวมถึงความมีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำใคร เหมือนกับรสชาติของน้ำผลไม้ทิปโก้ ที่มีหลากหลายแต่ครบทุกสไตล์ ตอบโจทย์ผู้ดื่มได้ทุก ถือเป็นการรีเฟรชแบรนด์ให้เข้ากับวัยุร่นมากขึ้น

“ตอนนี้ทิปโก้มีน้ำผลไม้ทั้งหมด 15 รสชาติ ข้อดีก็คือผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะ แต่การบริหารจัดการ การทำสื่อการขายก็ยากตามไปด้วย ตอนนี้ต้องเน้นในการขยายเซ็กเมนต์มากขึ้น ต้องแตกเพื่อโต หากลุ่มเป้าหมายใหม่ ถ้าสินค้าหลักทำไม่ได้ ก็ต้องออกสินค้าใหม่เพิ่ม ในอนาคตอาจจะมีน้ำผลไม้อัดสปาร์คกิ้งก็ได้ เพื่อเป็นการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น”

รสชาติที่ขายดีสุดในตอนนี้ก็ยังคงเป็นตระกูลน้ำส้ม อย่างน้ำส้มสายน้ำผึ้ง และน้ำส้มเขียวหวาน ส่วนน้ำผลไม้อื่นๆ ที่ขายดีที่สุด ได้แก่ น้ำทับทิม

เห็นได้ว่าทิศทางของตลาดน้ำผลไม้เริ่มมีการเปลี่ยนทิศทาง เพราะการอยู่กับที่ แล้วใช้กลยุทธ์เดิมๆ เริ่มไม่สร้างผลลัพธ์ที่ดีอีกต่อไปแล้ว เพราะผู้บริโภคเองก็มีทางเลือกใหม่ๆ และจำเป็นต้องเลือกสินค้าที่ตอบโจทย์แก่ร่างกายให้มากที่สุด ในยุคที่กำลังซื้อยังไม่แน่นอน…

]]>
1347844
“ทิปโก้” เผยสูตรทำธุรกิจต้องมอง “กลับด้าน” ใช้ต่อยอดจากน้ำผลไม้สู่อาหารสุขภาพ https://positioningmag.com/1232112 Wed, 29 May 2019 11:01:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1232112 ปี 2018 ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก Nielsen ได้ระบุว่า “ตลาดน้ำผลไม้” มีมูลค่า 11,279 ล้านบาท ลดลงถึง 11% เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร และตลาดเครื่องดื่มได้รับผลกระทบจากภาษีความหวานในเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มรุนแรงมากขึ้นเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด

แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด! แท้จริงแล้ว “ผลไม้สด” ในเมืองไทยไม่ได้หายาก จึงเป็นเหตุผลที่ผู้บริโภคมองว่า “กินน้ำผลไม้ได้อะไร?” สู้กินสดๆ ไม่ดีกว่าเหรอ อีกทั้งยังไม่ได้มีคุณสมบัติที่เด่นชัด ตัวอย่างเช่น “กาแฟ” กินแล้วได้กาเฟอีนช่วยให้สดชื่นทันที

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นโจทย์หลักที่ “ทิปโก้” ซึ่งระบุว่าเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่ง 30% ในตลาดน้ำผลไม้ 100% หรือเซ็กเมนต์พรีเมียมมูลค่า 4,500 ล้านบาท ต้องเร่งแก้ไขจึงเป็นที่มาของการปรับแพ็กเกจจิ้งใหม่ในรอบ 10 ปี

เริ่มต้นด้วย 2 รสชาติน้ำส้มและน้ำสับปะรดพันธุ์หอมสุวรรณ ซึ่งเป็นพันธ์ุที่ทิปโก้พัฒนาขึ้นมาเอง เดิมขายเป็นลูกในซูเปอร์มาร์เก็ตและส่งออกเป็นหลัก

เอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า

“ผู้บริโภคไม่แน่ใจว่ากินน้ำผลไม้เพื่ออะไร สดชื่นหรือคุณประโยชน์ กลายเป็นความท้าทายของทิปโก้ที่ต้องทำให้ชัดเจน ขณะเดียวกันมีความกังวลเรื่องน้ำตาล แต่น้ำผลไม้ 100% ปรกติไม่ได้ใส่อยู่แล้ว จึงต้องค้นหาสายพันธ์ุที่ให้ทั้งคุณประโยชน์และน้ำตาลน้อยด้วย”

ขณะเดียวกันเทรนด์การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรง ทิปโก้จึงสนใจที่จะลงมาเล่นในตลาดนี้ด้วย ผ่านการนำสินค้า “เครื่องดื่มไฮโปรตีน” กลับมาขายอีกครั้ง โดยเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วได้ทดลองวางขายเครื่องดื่มไฮโปรตีน “ทิปโก้บีท” (Tipco Beat) สกัดจากถั่วพีสีเหลืองจากประเทศแคนาดา ราคา 35 บาท ขายในร้านสะดวกซื้อ

ผลปรากฏว่าทำยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร? “เอกพล” ยอมรับว่าความผิดพลาดเกิดจากวางตลาดเร็วเกินไป ในวันนั้นพฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพไม่ได้เด่นชัดมากนัก แต่วันนี้มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สังเกตได้จากงานวิ่งที่ทิปโก้จัดเองปีแรกยังมีคนมาราว 1,500 คน คาดปีนี้จะมีกว่า 4,500 คน แสดงว่าคนให้ความสนใจมากขึ้น ส่วนการวางขายเครื่องดื่มไฮโปรตีนจะเกิดขึ้นภายในปีนี้

นอกจากเครื่องดื่มแล้วทิปโก้ได้สนใจเรื่อง “อาหารสุขภาพ” อีกด้วย ปัจจุบันคนสนใจกินอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นและกินแทบทุกมื้อ ต่างจากเมื่อก่อนจะกินแค่บ้างมื้อเท่านั้น

เมื่อ 1 ปีก่อนจึงได้เปิดร้าน “August Organic Eatery” เน้นขายอาหารออร์แกนิกและอาหารคลีนในราคาเฉลี่ย 120 – 150 บาทต่อจาน ปัจจุบันมี 3 สาขาที่เมกาบางนา, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 และเซ็นทรัลเวิลด์

การทำร้านอาหารยังถือเป็นช่วงทดลองเพราะยังมีโจทย์ยากเรื่องฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มไม่ได้แมส อีกทั้งราคาที่แพงกว่า 20 – 30% จึงต้องค่อยๆ ปรับกันไป

Source : Facebook August Organic Eatery

ในส่วนของรีเทลยังมีร้านเครื่องดื่ม Squeeze Juice Bar by Tipco ขณะนี้มีทั้งหมด 40 สาขา โดยทิปโก้วางแผนเพิ่มฟอร์แมตร้านใหม่ๆ เน้นขยายไปในโรงพยาบาล ซึ่งสาขาที่มีแล้วขายดีเป็นอย่างมาก และยังเตรียมเพิ่มเมนูอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกันเรื่องเทคโนโลยีที่เข้ามาดิสรัปต์หลายๆ ธุรกิจ ฟากทิปโก้ได้เตรียมรับมือผ่านการค้นหาสตาร์ทอัพเพื่อเข้ามาช่วยธุรกิจ เช่น การสกัดสารสำคัญ สมาร์ทฟาร์มมิ่ง และอาหาร

โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยลดโรคที่ไม่ติดต่อร้ายแรง เช่น เบาหวาน ความดัน ขณะนี้ได้ทำอาหารมาทดลองกับพนักงานบ้างแล้ว

การทำธุรกิจของทิปโก้วันนี้ต้องมองกลับด้าน ด้วยคนรู้จักน้ำผลไม้และน้ำแร่ออร่าดีอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อคือถามว่าผู้บริโภคต้องการอะไร แล้วค่อยออกสินค้าเข้าไปอุด

ความร่วมมือกับกลุ่มสตาร์ทอัพเป็นอีกแนวทางในการแสวงหาธุรกิจใหม่ จะมีทั้งการเข้าไปเป็นลูกค้า หรือเข้าไปถือหุ้น 10 – 20% ตอนนี้มีคุยแล้วหลายรายทั้งในและต่างประเทศ

ภาพรวมของ “ทิปโก้” ในปีที่ผ่านมามีรายได้ 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นเครื่องดื่ม 2,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 1,400 – 1,500 ล้านบาท เป็นน้ำผลไม้ ที่เหลือ 500 – 600 ล้านบาท เป็นน้ำแร่ออร่า อีก 1,700 ล้านบาท เป็นสับปะรดกระป๋องที่เหลือ 800 ล้านบาท มาจากธุรกิจอื่นๆ ปี 2019 ตั้งเป้าโต 4-5%

]]>
1232112
กล้ามจงมา ! ตลาดไฮโปรตีนเดือด ทิปโก้ปั้น “ทิปโก้ บีท” ลงตลาดอีกราย https://positioningmag.com/1136239 Tue, 15 Aug 2017 12:28:03 +0000 http://positioningmag.com/?p=1136239 เทรนด์เรื่องการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพของคนไทยยังคงเป็นที่นิยม และเติบโตสูงขึ้นในประเทศไทย เรียกว่าเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสินค้าที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ด้วย

จึงได้เห็นตลาดเครื่องดื่มไฮโปรตีนเป็นอีกหนึ่งตลาดดาวรุ่ง ออกมาจับกลุ่มหนุ่มสาวนักกล้ามที่เล่นฟิตเนสมากขึ้น ในปี 2559 มีมูลค่าตลาด 360 ล้านบาท มีการคาดการณ์จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 15-20%

โดยแบรนด์ผู้เล่นใหญ่ในตลาดคือเมจิส่งเครื่องดื่มไฮโปรตีนมาได้ 1-2 ปีแล้ว และมีแบรนด์ย่อยๆ ในตลาดอีก ทำให้ในปีนี้มีผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นทั้งดัชมิลล์และดีน่า

รวมทั้งทิปโก้เองก็ได้แตกพอร์ตมายังเครื่องดื่มไฮโปรตีน ปั้นแบรนด์ทิปโก้ บีท” ลงตลาด ได้ใช้จุดเด่นเป็นสกัดโปรตีนจากถั่วพีสีเหลือง หรือถั่วลันเตา เป็นการสร้างความแตกต่างจากเครื่องดื่มไฮโปรตีนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะใช้นมวัวเป็นวัตถุดิบหลัก และผสมเวย์โปรตีน จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบออกกำลังกาย ผู้เล่นฟิตเนสจะนิยมดื่มเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ อายุ 20-45 ปี

เป็นการแตกไลน์มายังเครื่องดื่มสุขภาพมากขึ้น หลังจากเมื่อต้นปีได้เปิดตัวทิปโก้ เวฟ เครื่องดื่มเกลือแร่ จับกลุ่มคนออกกำลังกายเช่นกัน โดยขยายฐานสินค้าให้มากกว่าแค่น้ำผลไม้ที่เป็นรายได้หลัก

ทิปโก้มองว่ายุคนี้เป็นยุคสำหรับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะเครื่องดื่มไฮโปรตีน เพราะคนดูแลสุขภาพมากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น และมีการคาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มไฮโปรตีนในระดับทั่วโลกมีการเติบโต 10.56% ในช่วงปี 2560-2564

แต่เทรนด์โลกก็มีการเปลี่ยนแปลง แหล่งโปรตีนในอาหารเริ่มมีการสกัดจากพืชมากขึ้น เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา มีสัดส่วน 20% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมี 18% โดยส่วนใหญ่โปรตีนจะมาจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ ราว 80% ทิปโก้จึงเลือกเครื่องดื่มไฮโปรตันที่สกัดจากถั่วลันเตา เพราะเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโต

เอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าด้วยเทรนด์การดูแลสุขภาพของผู้บริโภคมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้ต้องมีสินค้าใหม่ๆ ออกมาเพื่อตอบโจทย์ เครื่องดื่มไฮโปรตีนกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด เพราะคนออกกำลังกายเพิ่มขึ้น และต้องการทางเลือกแทนการดื่มเวย์โปรตีน

ได้ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาทในการทำการตลาด และได้เลือกน้ำตาลชลิตา ส่วนเสน่ห์มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2016 เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะไม่ใช่แค่ความสวยอย่างเดียว แต่มีคาแร็กเตอร์ ความมั่นใจ และทัศนคติในการใช้ชีวิต และการออกกำลังกาย เป็นตัวแทนสาวไทยที่ต้องสวย และแข็งแกร่งด้วย

สาเหตุที่ใช้พรีเซ็นเตอร์ผู้หญิงเพราะต้องการจับกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น ยุคนี้ผู้หญิงก็ออกกำลังกายมากขึ้น ส่วนผู้ชายมีความรู้ความเข้าใจเรื่องเครื่องดื่มไฮโปรตีนอยู่แล้ว หรือปกติดื่มเวย์โปรตีนอยู่แล้ว อาจจะเอาตรงนี้มาเป็นทางเลือกมากขึ้น

ตั้งเป้ารายได้ 250 ล้านบาท ภายใน 3 ปี และมีส่วนแบ่งตลาด 30% ในตลาดเครื่องดื่มไฮโปรตีน

]]>
1136239
“ทิปโก้ เวฟ” เขย่าตลาดสปอร์ตดริ้งค์ https://positioningmag.com/1123954 Thu, 27 Apr 2017 10:21:10 +0000 http://positioningmag.com/?p=1123954 เทรนด์เรื่องดูแลสุขภาพ หรือการออกกำลังกายยังคงมีการเติบโตในประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการเติบโต เครื่องดื่มเกลือแร่ หรือสปอร์ตดริ้งค์ก็เป็นหนึ่งในตลาดที่ได้รับอานิสงส์ ได้เห็นแบรนด์ใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี

เมื่อดูภาพรวมตลาดเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคลาสสิกซึ่งเป็นสินค้าบรรจุขวดแก้ว ขนาดเล็ก เน้นเกลือแร่ ราคาไม่เกิน 15 บาท มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 85% และกลุ่มโมเดิร์นเป็นสินค้าบรรจุขวด PET ขนาดใหญ่ ราคามากกว่า 15 บาท มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 15% เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเทรนด์เรื่องพฤติกรรมการดื่มที่ชอบแบบพกพาสะดวก

ปัจจุบันมีแบรนด์เครื่องดื่มเกลือแร่ที่เป็นแบรนด์หลักๆ ในตลาดอยู่ 7-8 แบรนด์ เรียกว่าผู้เล่นในตลาดเครื่องดื่มเกือบทุกรายในไทยต้องมีไลน์สินค้าเครื่องดื่มเกลือแร่เพื่อจับตลาด การแข่งขันในช่วงหลังจะเห็นการใส่ส่วนผสมใหม่ๆ หรือการแตกเซ็กเมนต์ใหม่เพื่อสร้างความแตกต่าง อย่างเช่น 100 พลัส และอควาเรียส ที่ชูจุดขายที่เป็นเครื่องดื่มอัดลมผสมเกลือแร่ และแต่ละแบรนด์ต่างพรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างการรับรู้

ทิปโก้ เวฟ เป็นแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาในตลาดสปอร์ตดริ้งค์ เป็นการต่อยอดจากตลาดน้ำผลไม้ แตกไลน์สู่เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทอื่น ได้ใช้งบการตลาดรวม 80 ล้านบาท

กิตติเชษฐ์ สถิตย์นพชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

ทิปโก้ เวฟได้วางจุดยืนเป็นเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ระดับพรีเมียม เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพที่ชื่นชอบวิถีธรรมชาติ รักการออกกำลังกาย อายุระหว่าง 20-50 ปี ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 15-20% โดยมั่นใจว่าภายใน 3-5 ปีจะเป็นผู้นำเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์จากธรรมชาติ

งบการตลาดกว่า 80 ล้านบาท เน้นสร้างการรับรู้ ควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ พร้อมได้จัดกิจกรรมโรดโชว์และสินค้าตัวอย่างตามสถานที่ออกกำลังกาย อีกทั้งร่วมสนับสนุนส่งเสริมด้านกีฬาในการทำกิจกรรมกับกลุ่มนักออกกำลังกาย เช่น นักวิ่ง นักปั่นจักรยาน และฟิตเนส

]]>
1123954
น้ำผลไม้ยุคนี้สุขภาพอย่างเดียวไม่พอ “ทิปโก้” ใส่คอลลาเจน เพิ่มเรื่องความงาม https://positioningmag.com/1102972 Fri, 16 Sep 2016 04:11:42 +0000 http://positioningmag.com/?p=1102972 ทิปโก้ทุ่ม 100 ล้าน แตกไลน์ฟังก์ชันนอลจุ๊ยส์ หรือน้ำผลไม้ผสมคอลลาเจน ใส่บิวตี้ให้น้ำผลไม้ 100% ดึง “ใหม่ ดาวิกา” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งเป้าเติบโต 5%

ด้วยกระแสการดูแลสุขภาพที่มีมาหลายปี ทำให้น้ำผลไม้ก็มีส่วนได้อานิสงส์ในการเติบโตด้วย แต่ว่าไม่ได้โตอย่างหวือหวามากนัก เฉลี่ยปีละ 5% เท่านั้น เพราะด้วยพฤติกรรมการดื่มน้ำผลไม้ของคนไทยยังดื่มเพื่อความสดชื่น ไม่ได้ดื่มเป็นประจำทุกวันเหมือนในต่างประเทศ ในปีที่ผ่านมาน้ำผลไม้มีมูลค่า 14,000 ล้านบาท เป็นน้ำผลไม้ 100% มูลค่า 4,500 ล้านบาท ทิปโก้เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด 51%

ด้วยความทิปโก้เป็นผู้นำตลาด จึงต้องกระตุ้นตลาดด้วยสินค้าใหม่ๆ และในปัจจุบันเทรนด์เรื่องสุขภาพมาพร้อมกับความสวยความงาม สินค้าใหม่ของทิปโก้จึงใส่ความงามเข้าไปเพิ่มให้เป็นมากกว่าสุขภาพ แตกไลน์ทิปโก้ พลัส คอลลาเจนเป็น Functional Juice 

เอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด กล่าวว่า ปกติคนไทยดื่มน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ เพื่อผิวพรรณที่ดีอยู่แล้ว เป็นการตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและความงาม ในปัจจุบันก็มีเทรนด์เรื่องความงามเพิ่มมากขึ้น จึงใส่คอลลาเจนเข้าไปเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ให้สินค้า และตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น

1_tipco

ปกติทิปโก้มีการออกสินค้าใหม่ในแต่ละปีเฉลี่ย 4-5 สินค้าอยู่แล้ว เพื่อให้ตลาดคึกคัก เป็นทั้งสินค้าถาวร และเป็นเทศกาล เอกพลเสริมอีกว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญของทิปโก้ที่จะไม่ลงไปเล่นสงครามราคามากนัก แต่จะออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือก เพราะผู้บริโภคยังต้องการอะไรแปลกใหม่ และเปิดรับการทดลองอยู่ตลอด

ในเบื้องต้นได้นำร่อง 3 รสชาติก่อน ได้แก่ ส้ม ทับทิม และอโลเวร่าองุ่น สาเหตุที่เลือก 3 รสชาตินี้ เพราะเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง จะดูดซึมกับคอลลาเจนได้ดี 

และมีราคาสูงกว่าน้ำผลไม้ปกติ 10% มีราคา 79 บาทในขนาด 1 ลิตร ปกติ 69 บาท แต่การจากทำสำรวจผู้บริโภคยอมจ่ายเพิ่มถ้ามีมูลค่าเพิ่มเข้ามา เพราะบางคนได้ซื้อคอลลาเจนแบบผงมาชงผสมกับน้ำผลไม้อยู่แล้ว

ในครั้งนี้ได้ใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท พร้อมทั้งใช้ใหม่ ดาวิกาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้าง

ทิปโก้ได้เลือกเปิดตัวช่วงนี้ เพราะใกล้เทศกาลกินเจ เป็นอีกช่วงที่มียอดขายสูงพอๆ กับช่วงฤดูร้อน และปีใหม่ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติราว 20%

ในปีนี้ทิปโก้ตั้งเป้ารายได้ 3,300 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำผลไม้ 70% น้ำแร่ออร่า 20% และชาทีพลัส 10% 

]]>
1102972
ทิปโก้ ทุ่มทุน 1,200 ล้าน ผุดโรงงาน ณ อำเภอวังน้อย พระนครศรีอยุธยา https://positioningmag.com/45865 Fri, 30 Jan 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=45865

เรียม ทรัพย์สาคร ผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจทิปโก้ (กลาง) ร่วมด้วย วิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล กรรมการผู้จัดการ (ที่สองจากซ้าย) อนุรัตน์ เทียมทัน ประธานกรรมการบริษัท (ที่สองจากขวา) ณภัทร ทรัพย์สาคร ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ (ขวาสุด) บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ อาคิโอะ นากาโน่ (ซ้ายสุด) ผู้จัดการสำนักงานผู้แทน สำนักงานกรุงเทพฯ บริษัท ซันโตรี จำกัด ร่วมพิธีเปิดโรงงานทิปโก้ สาขาอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเป็นฐานการผลิตสินค้าน้ำผลไม้ เครื่องดื่มธัญญาหารและเครื่องดื่มเสริมคุณค่า (Functional Drink) ด้วย ทุนการก่อสร้างและเครื่องจักรมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท (หนึ่งพันสองร้อยล้านบาท) หวังเป็นฐานกำลังการผลิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตกว่า 130 ล้านลิตรต่อปี ณ โรงงานทิปโก้ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร็วๆ นี้

]]>
45865
ทิปโก้ จับมือ ซันโทรี่ มั่นใจส่ง “ดาการะ” เครื่องดื่ม ฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ ตัวจริงจากญี่ปุ่น https://positioningmag.com/44368 Fri, 31 Oct 2008 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=44368

จากภาพ : ดาการะ “เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สมดุล” ด้วยคุณสมบัติ “3-In and 3-Out” หรือ “ขจัด 3 ตัวร้าย ได้แก่ ไขมัน น้ำตาล และเกลือ พร้อมเสริม 3 คุณประโยชน์ ให้กับร่างกาย ได้แก่ แมกนีเซียม แคลเซียม และไฟเบอร์” รสชาติเกรฟฟรุต แคลอรีต่ำ มีกรรมวิธีบรรจุแบบ “Cold Aseptic”บรรจุในขวดเพ็ทขนาด 300 มิลลิลิตร ราคาขวดละ 18 บาท

ทิปโก้ ร่วมกับ ซันโทรี่ ส่งเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ แบรนด์ญี่ปุ่น ลุยตลาดเมืองไทยครั้งแรกในชื่อ “ดาการะ” (DAKARA) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สมดุล” รับกระแสคนรักสุขภาพ พร้อมทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท ปล่อยภาพยนตร์โฆษณา และสื่ออื่นๆ รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการขาย หวังเจาะกลุ่มลูกค้าอายุ 20 ปีขึ้นไป เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ “ดาการะ”

มร.ชิมาดะ โทโมฮิโกะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท ซันโทรี่ จำกัด กล่าวว่า “บริษัท ซันโทรี่ (โตเกียว) ในประเทศญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็น บริษัทยักษ์ใหญ่ค่ายหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มต่างๆ มากมาย ได้แก่ เครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์ เช่น กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ ชาพร้อมดื่ม และกาแฟ โดยรายได้หลักของซันโทรี่ มาจากกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพถึง 55% ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ซันโทรี่ มีความเชี่ยวชาญ มีหน่วยงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) คอยดูแลทั้งผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ และต่างประเทศ”

“ในประเทศไทยแนวโน้มของตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี ยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมา มีผู้แข่งขันรายใหม่ ทั้งค่ายใหญ่ และเล็ก ทยอยส่งสินค้าใหม่ๆเข้าสู่ตลาด จึงทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงสินค้าเครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ มากยิ่งขึ้น ประกอบกับกระแสคนใส่ใจสุขภาพที่ยังคงค้นหาวิธีใหม่ๆ เพื่อดูแลสุภาพ ท่ามกลางไลฟ์สไตล์ที่ต้องใช้ชิวิตอย่างเร่งรีบ โดยคาดว่าสิ้นปี 2552 นี้ ตลาดรวมของเครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ จะมีมูลค่าประมาณ 2,400 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งความเป็นจริงแล้วตลาดเครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่ช่วย ดับกระหายแล้วยังให้คุณประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างชัดเจน” มร.ชิมาดะ กล่าวเสริม

“ดาการะ” เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ น้องใหม่ที่เพิ่งจะเข้าสู่ตลาดในไทย เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สมดุล ด้วยคุณสมบัติ “3-In and 3-Out” หรือ “ขจัด 3 ตัวร้าย พร้อมเสริม 3 คุณประโยชน์” ให้กับร่างกาย ขจัด 3 ตัวร้าย (Detoxifying) ได้แก่ ไขมัน น้ำตาล และเกลือ ที่อาจได้รับมากเกินไปจากการรับประทานอาหาร พร้อมเสริม 3 คุณประโยชน์ ได้แก่ แมกนีเซียม แคลเซียม และไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่เรามักได้รับไม่เพียงพอในแต่ละวัน

นายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ทิปโก้ และ ซันโทรี่ มุ่งมั่นและเชื่อมั่นในการทำตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ ในประเทศไทยครั้งนี้มาก เนื่องจากทางซันโทรี่ เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มประเภทนี้มานาน และ “ดาการะ” ก็ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2543 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง “ดาการะ” ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย มีกรรมวิธีบรรจุแบบ “Cold Aseptic” ในขวด PET ขนาด 300 มิลลิลิตร โดยผลิตที่โรงงาน ทิปโก้ เอฟแอนด์บี อำเภอวังน้อย จังหวัดอยุธยา

ด้านการสื่อสารทางการตลาด ซันโทรี่ ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท โดยเน้นโฆษณาทางโทรทัศน์ (TVC) พร้อมสื่ออื่นๆ เช่น วิทยุ สื่อในรถไฟฟ้า บีทีเอสและอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับสินค้า และเพื่อให้ข้อมูลความรู้ด้านคุณสมบัติของสินค้าแก่ผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภครู้จักลุ้นเคยกับชื่อ “ดาการะ” ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการแจกเครื่องดื่มชิมฟรี เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในรสชาติ รวมถึงการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการทดลอง และตัดสินใจ
ซื้อ” นายวิวัฒน์ กล่าวปิดท้าย

]]>
44368
ทิปโก้เปิดเกมส์รุก ตอกย้ำผู้นำตลาดน้ำผลไม้อันดับหนึ่ง https://positioningmag.com/31789 Thu, 07 Dec 2006 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=31789

ทิปโก้เปิดเกมส์รุก ตอกย้ำผู้นำตลาดน้ำผลไม้อันดับหนึ่ง พร้อม Rebrand ออรา ชูคอนเซ็บน้ำแร่เย็นยี่ห้อเดียวของไทย เปิดตัวยิ่งใหญ่ที่มหกรรมพืชสวนโลก ราชพฤกษ์ 2549

ด้วย Market Share เกือบ 50% ในตลาดน้ำผลไม้ 100% ทิปโก้นำกองทัพสินค้าใหม่ตอบรับกระแสรักษาสุขภาพมาแรง

1.) น้ำพรุนผสมน้ำองุ่นแท้ 100% ที่นำสองความลงตัวของผลไม้เพื่อผิวสวยและหุ่นดี ด้วย รสชาติที่ดื่มง่ายกว่าน้ำพรุนในตลาด ซึ่งรสชาติเข้มดื่มยาก

2.) น้ำมะเขือเทศแท้ 100% ที่ชูจุดขายเพิ่มไลโคปีนและไม่เติมเกลือ ทิปโก้ได้คัดสรร วัตถุดิบจากแหล่งมะเขือเทศพันธุ์ดี พร้อมเพิ่มไลโคปีนซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยบำรุง ผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และไม่เติมเกลือ จึงไม่มีผลต่อความดันโลหิต

3.) น้ำส้มโชกุน 100% และ น้ำส้มสายน้ำผึ้ง 100% ที่อุดมด้วยวิตามินเอ และซี สูง เพื่อตอกย้ำความเป็น King of Orange

4.) ในด้านน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์ ก็ออกตัวแรงไม่แพ้กัน ด้วยทิปโก้สควีซ รวมหลาก สายพันธุ์เบอร์รี่ อุดมด้วยสุดยอดของสารต้านอนุมูลอิสระ Super Antioxidant

5.) น้ำทิปโก้สควีซน้ำมะม่วงผสมน้ำผลไม้รวมแท้ 100% นำเสนอ Oriental Taste เอาใจ ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติ ผลตอบรับดีเกินคาด นำแบรนด์ทิปโก้สควีซมี Market Share 45% ครองความเป็นเจ้าตลาดน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์

ในไตรมาสสุดท้ายของปี ทิปโก้วางแผนรุกตลาดอย่างหนัก เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาน้ำมะเขือเทศแท้ 100% และน้ำพรุนแท้ 100% ซึ่งออกอากาศตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยเน้นจุดขายที่ชัดเจนของสินค้า คือ เพิ่มไลโคปีน และไม่เติมเกลือ และตามด้วยโฆษณา Squeeze Cherry Berry และ Mango ทางนิตยสารชั้นนำ นอกจากนี้ในส่วน Below the line เน้นการแจกชิมที่จุดขาย และโฆษณาที่จุดขาย โดยใช้สื่อโฆษณาวิทยุในห้างเป็นหลัก

ในส่วนผลิตภัณฑ์ เนเจอร์ อัพ ก็มีน้องใหม่ล่าสุด อีก 1 รสชาติ คือ เครื่องดื่มธัญญาหารน้ำนมข้าวผสมลูกเดือยและฮาเซิลนัท สูงด้วยแคลเซียม วิตามินบี1 บี2 และอี ไม่มีไขมัน และ โคเลสเตอรอล หอม อร่อย กลมกล่อมด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวของลูกเดือย น้ำนมข้าว และความหอมของฮาเซิลนัท ครองส่วนแบ่ง 50% เป็นเจ้าตลาดเครื่องดื่มธัญญาหาร

ทุ่มงบ Rebrand น้ำแร่ออรา น้ำแร่เย็นรายเดียวของไทย

ออรา ปรับโฉมสินค้าใหม่ ให้ดูทันสมัยขึ้น พร้อมภาพยนตร์โฆษณาทางทีวีชุดใหม่ โดย ชูประเด็นถึงเรื่องที่น้ำแร่ธรรมชาติออรา คือ น้ำแร่เย็น เกิดจากน้ำฝนที่ไหลกรองผ่านชั้นหิน ลึกหลายพันฟุต แล้วพุขึ้นตามธรรมชาติ กลายเป็นน้ำแร่เย็นแท้ 100% ซึ่งมีแร่ธาตุธรรมชาติไม่ผ่านการปนเปื้อนของมลพิษ, สารคลอรีน และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จึงใสสะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับเป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพของผู้ที่ต้องการความสดชื่น และร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพดี

ทิปโก้ ได้ส่งน้ำแร่เย็นธรรมชาติออรา ไปตรวจวิเคราะห์จากสถาบันเกี่ยวกับน้ำดื่มที่เป็น ที่ยอมรับในต่างประเทศ น้ำแร่เย็นออรา ได้รับใบประกาศรับรองคุณภาพจากหลายสถาบัน เช่น Japan Food Hygiene Association, Tokyo Food Sanitation จากประเทศญี่ปุ่น และ สถาบัน NTL (National Testing Laboratory) ที่เป็นสถาบันตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงภาพถ่ายผลึกน้ำ ที่ทางน้ำแร่ออรา ได้ส่งไปถ่ายที่ห้องแล็บปฎิบัติการของสถาบัน I.H.M. Co., LTD ประเทศญี่ปุ่น ได้แสดงให้เห็นว่าน้ำแร่เย็นออรา มีภาพถ่ายผลึก ที่สวยงาม แสดงถึงความเป็นธรรมชาติของน้ำแร่ที่ไม่มีมลภาวะหรือสารเคมี

ความมหัศจรรย์กำลังจะเกิดขึ้นบนถนนทุกสายของเมืองเชียงใหม่ เมื่อ ทิปโก้ ได้ร่วม เฉลิมฉลองมหกรรมพืชสวนโลกในงานราชพฤกษ์ 2549 โดยนำขบวนคาราวาน “ออรา มหัศจรรย์แห่งน้ำแร่เย็น” มาแจกความสดชื่นจากธรรมชาติให้กับประชาชนทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ทางทิปโก้ขึ้นป้ายโฆษณา Billboard ขนาดใหญ่ที่หน้าสนามบินนานาชาติเชียงใหม่และหน้าทางเข้างานมหกรรมพืชสวนโลก สื่อทางวิทยุกระจายในเมืองเชียงใหม่และจังหวัดรอบๆ รวมถึงได้เตรียม น้ำแร่ออราเพื่อไว้สำหรับแจกผู้ชมงาน ทั้งนี้ทางทิปโก้ได้ติดตั้งบูธร้านสควีซ ซึ่งเป็นร้านน้ำผลไม้คั่นสด/ปั่นสดเพื่อสุขภาพภายในงานมหกรรมพืชสวนโลก โดยตั้งอยู่ใกล้กับหอคำหลวง นอกจากนี้บูธร้านสควีซ ยังมีบริเวณทางเข้าที่เรียกว่า พฤษาโดมอีกสองจุด โดยธุรกิจร้านสควีซบายทิปโก้ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้นำในธุรกิจจูซบาร์อยู่ในปัจจุบัน โดยล่าสุดได้เปิดสาขาเพิ่มเติมที่สนามบินสุวรรณภูมิถึง 5 จุด ทั่วบริเวณสนามบินใหม่ และมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 30 สาขาในปีหน้า เพิ่มจาก 40 สาขาที่มีอยู่ในปีนี้

]]>
31789