ท็อปซุปเปอร์มาเก็ต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 16 Nov 2018 05:38:52 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ ชวนส่งกระเช้าของขวัญปีใหม่ ที่ให้ความสุขคืนกลับไม่รู้จบ https://positioningmag.com/1197831 Fri, 16 Nov 2018 04:45:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1197831 ไม่มีการให้ครั้งไหนที่จะมีความหมายและยิ่งใหญ่เท่ากับการให้ครั้งนี้ การให้ที่ไม่ได้ให้เพียงแค่ความสุขที่ส่งไปยังผู้รับที่เราเคารพรักเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการให้ความสุขที่คืนกลับไปสู่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ปีใหม่นี้ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อจากโครงการหลวง โครงการดอยตุง ผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรและชุมชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มารังสรรค์เป็นกระเช้าของขวัญที่ล้ำค่าและมีความหมายในการให้ที่มากกว่าทุกครั้ง ให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม มีความสุขไปด้วยกันอย่างยั่งยืนไม่รู้จบ

ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บจ.เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล บอกว่า “ในเทศกาลส่งความสุขปีนี้ บริษัทฯ อยากเชิญชวนส่งมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ Season’s Giving 2019 ภายใต้แนวคิด Gifts That Give Back ของขวัญที่ให้ความสุขคืนกลับไม่รู้จบ เพราะกระเช้าทุกใบที่เราคัดสรรจะเป็นตัวกลางในการส่งต่อความสุขไปถึงผู้ผลิต ผู้ให้ และผู้รับ โดยคัดสรรสินค้าที่มีเรื่องราว มีความเป็นต้นตำรับ มีคุณค่าต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม  จากทั่วทุกมุมโลกไปจนถึงผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรและชุมชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติดีต่อสุขภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มารังสรรค์เป็นกระเช้าของขวัญที่ล้ำค่า มีความหมายในการให้มากกว่าทุกครั้ง โดยมีกระเช้าตามแบบให้เลือกมากกว่า 120 แบบ กิ๊ฟท์เซ็ทมากกว่า 220 แบบ คัดสรรสินค้าสินค้าแบรนด์ชั้นนำ รวมถึงสินค้า Exclusive Only @ Tops มากกว่า 100 รายการ สินค้า Festive New Year Seasonal ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม คุณภาพดี โดยราคากระเช้าเริ่มต้นที่ 350 บาท ถึง 19,500 บาท

สำหรับไฮไลต์กระเช้าของขวัญปีใหม่ครั้งแรกกับการเปิดตัว กระเช้าอัตลักษณ์ของขวัญที่ให้ความสุขคืนกลับสู่ชุมชน 4 ภาคทั่วไทย โดยดึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นมาใช้ทั้งดีไซน์กระเช้าและการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ในกระเช้า ภาคเหนือ – กระเช้าม่วนใจ๋ โดดเด่นด้วยสินค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ภาคอีสาน-กระเช้าฮักเด้อ สร้างเอกลักษณ์ด้วยการใช้ผ้าขาวม้าจากวิสาหกิจชุมชน กลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิดบ้านด่านเหนือ จ.กาฬสินธุ์ มาตกแต่งกระเช้าให้สวยงาม ภาคใต้ – กระเช้าหรัก จังฮู้ คัดสรรของดีของเด่นจากภาคใต้หลากหลายรายการ และภาคตะวันตก – กระเช้าถิ่นรัก รวมถึงกระเช้าสินค้าจีไอ (GI) และกระเช้าสินค้าชุมชน เป็นการส่งความสุขกลับคืนสู่เกษตรกร ชุมชน ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งท็อปส์ได้ร่วมส่งเสริม สนับสนุนกว่า 140 ชุมชน 49 จังหวัด มีผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการกว่า 2,000 รายการ และในปีนี้ท็อปส์ได้คัดเลือกสินค้าชุมชนจัดลงในกระเช้าทั้งหมด 45 รายการ มากกว่า 2 แสนชิ้น นอกจากนั้นยังได้สนับสนุนกระเช้าผักตบชวาจากกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านบางตาแผ่น จ.อ่างทอง และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมพื้นบ้านผักตบชวา อ.บางเลน จ.นครปฐม เป็นการนำวัชพืชธรรมชาติที่ไร้ประโยชน์มาแปรสภาพด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ก่อเกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ คืนความสุขกลับสู่คนในชุมชน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างท็อปส์ ชุมชน และหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์เพื่อพัฒนารูปแบบกระเช้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด กระเช้าดีไอวาย (Do it yourself) เพื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการครีเอท มิกซ์แอนด์แมตซ์ด้วยตัวเองตามความชอบ เช่น ถุงของขวัญดีไซน์ทันสมัย กระเช้าหลากรูปแบบ กล่องของขวัญที่ใช้ผ้าทอพื้นเมืองของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง อุปกรณ์ตกแต่งพร้อมเลือกสินค้าตามต้องการ กระเช้าเอ็กซ์คลูซีฟจากโครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงราย ของขวัญแห่งความสุขคืนกลับสู่ชาวไทยภูเขา ออกแบบโดยใช้ริมผ้าถักทอกับกระเช้าและโบว์ตามแบบฉบับดอยตุง สร้างอาชีพให้กับชาวเขากลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ตะเข็บชายแดนภาคเหนือ อีกตัวอย่างของความสำเร็จในการสร้างผลลัพธ์ร่วมกัน กระเช้า Healthier Choice สำหรับผู้ที่รักสุขภาพคัดสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ กระเช้าผัก – ผลไม้ออร์แกนิค Gift set ผลไม้ ที่คัดเลือกผลไม้ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศจัดลงแพกเกจจิ้งที่ออกแบบมาใหม่อย่างสวยงาม”

ด้าน หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “เป็นอีกหนึ่งปีที่เราได้สร้างสรรค์กระเช้าปีใหม่ดอยตุงรูปแบบพิเศษเฉพาะท็อปส์เท่านั้น โดยกระเช้าดอยตุงอัดแน่นไปด้วยผลิตภัณฑ์และงานฝีมือที่เกิดจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวของวัตถุดิบธรรมชาติ และอัตลักษณ์แห่งชนเผ่าที่ผสมผสานกับดีไซน์ที่ทันสมัย จนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว อาทิ ผ้าทอมือ เครื่องเคลือบดินเผา ผลิตภัณฑ์กระดาษสา รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติที่ปลูกขึ้นด้วยใจ นอกจากนี้ยังมีการนำเศษผ้ามารีไซเคิลทำเป็นโบว์และกระเช้า ด้วยฝีมือและภูมิปัญญา ผสมผสานกับเอกลักษณ์อย่างลงตัว ซึ่งทุกกระเช้าดอยตุงที่จำหน่ายในท็อปส์จึงเปรียบเสมือนความสุขที่ได้ส่งต่อกลับไปยังกลุ่มแม่บ้าน สมาชิกในมูลนิธิฯ ให้มีงาน มีรายได้ที่สุจริตเลี้ยงชีพและยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากการนำวัสดุเหลือใช้มาต่อยอดอีกด้วย”

เอ๋-ภูวดี คุนผลิน บอกว่า “ทุกปีต้องเลือกซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่เพื่อมอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพรักอยู่แล้ว ส่วนตัวเลือกกระเช้าโดยดูความเหมาะสม และให้คนที่รับได้ใช้จริงอย่างตัวกระเช้าผักตบชวาจากท็อปส์ เป็นอีกหนึ่งกระเช้าที่นอกจากจะมอบให้คนที่รักแล้ว ยังเป็นการส่งความสุขกลับคืนสู่ชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้สินค้าประเภทผัก ผลไม้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการส่งมอบสุขภาพที่ดีให้กับผู้รับ มาที่ท็อปส์รับรองมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มาที่นี่ที่เดียวครบ และถูกใจแน่นอนค่ะ”

ส่วนดีไซเนอร์สาว หนูใหม่-ตะวันนา ธารรา บอกว่า “ทุกปีก็ซื้อกระเช้าของขวัญให้อยู่แล้ว เป็นการให้ความเคารพผู้ใหญ่ที่เรานับถือ ส่วนใหญ่จะเลือกอะไรที่เรารู้สึกว่าพรีเมียมและดี เทรนด์ตอนนี้มันเปลี่ยนไป ไม่ว่าอะไรก็ตาม อย่างผลไม้หรือของที่เมืองไทยปลูกเอง ผลิตเอง เราอยากให้การสนับสนุนด้วยราคาก็สมเหตุสมผล แล้วยังได้ช่วยคนไทยด้วยกันด้วย อย่างที่ท็อปส์เค้าคัดสรรสินค้าชุมชนกว่า 140 ชุมชน 49 จังหวัด มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากว่า 2,000 รายการ เยอะมากจริงๆ ค่ะ มาร่วมกันมอบของขวัญที่ให้ความสุขคืนกลับชุมชนด้วยการมอบกระเช้าของขวัญกันค่ะ”

ปิดท้ายด้วย มิลค์กี้-จิราภา ลักษณวิศิษฏ์ บอกว่า “เลือกซื้อกระเช้าของขวัญกับครอบครัวทุกปีอยู่แล้วค่ะ ส่วนใหญ่เราก็จะดูว่ามอบให้ใคร เลือกของให้ตรงใจผู้รับ แต่สินค้าบางอย่างในกระเช้าก็ไม่ใช่ของที่เราอยากให้ พอมาเลือกซื้อที่นี่ที่มีคอนเซปต์กระเช้าดีไอวายให้เราเลือกได้เอง จัดกระเช้าเองในแบบของเรา ทั้งถุงผ้าดีไซน์สวยๆ กล่องใส่ของหลากหลายแบบ มันจึงเป็นของขวัญปีใหม่ในแบบของเราเอง อย่างกล่องที่ผลิตจากผ้าทอพื้นเมืองนาหมื่นศรีใครจะคิดว่าพอเอามาทำเป็นกล่องใส่สินค้าจะเป็นการเพิ่มมูลค่า และทำให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น รู้สึกดีที่ท็อปส์ช่วยสนับสนุนชุมชน อย่างคนเมืองถ้าไม่ได้ไปในพื้นที่ก็จะไม่รู้ว่ามีของดีๆ แต่พอเอามาวางในค้าปลีกสมัยใหม่ ก็ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น ลองมาเลือกสินค้าและจัดกระเช้าที่ท็อปส์นะคะ รับรองว่าสุขใจผู้ให้ ถูกใจผู้รับแน่ๆ ค่ะ”

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความสุขคืนกลับไม่รู้จบ ผ่านกระเช้าของขวัญที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์และ ท็อปส์ ตั้งแต่วันนี้ – 8 มกราคม 2562 พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า เลือกรับส่วนลดเงินสด หรือ บัตรของขวัญ รวมสูงสุด 35% และ รับเครดิตเงินคืนเพิ่มสูงสุด 20% เมื่อช็อปผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ จาก 6 สถาบันชั้นนำ และเลือกผ่อนชำระ 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมช็อปผ่านออนไลน์ ทั้งท็อปส์ออนไลน์ www.tops.co.th, www.JD.co.th, www.Officemate.co.th ท็อปส์ไลน์แอด @Topsonline หรือผ่านทีมไดเรคเซลล์ โทร.0-2831-7300 ต่อ 8014-8019 และเบอร์ฮอตไลน์ โทร 063-204-5202-4

]]>
1197831
เปิดวาร์ป #บุพเพสันนิวาส ละครพีเรียด แต่ทำไมถึงปังทั้งออนแอร์-ออนไลน์ https://positioningmag.com/1158406 Fri, 23 Feb 2018 01:10:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1158406 ละครล็อตใหม่ของช่อง 3 กำลังกลับมา หลังจาก ”เงินปากผี” ที่สร้างความหลอน สยองขวัญจนเรตติ้งพุ่งในล็อตละครหลังข่าววันจันทร์ อังคาร ตามมาด้วย “บุพเพสันนิวาส” ที่เพิ่งลงจอเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.)

ผลตอบรับด้านเรตติ้งการออกอากาศวันแรก “บุพเพสันนิวาส” ได้เรตติ้งทั่วประเทศ 3.417 อยู่ในอันดับ 3 โดยที่อันดับ 1 คือ “มือปราบเหยี่ยวดำ” ละครบู๊เรื่องราวของตี๋ใหญ่ทางช่อง 7 และ ”เรือนเบญจพิษ” ละครพีเรียดดราม่าเข้มข้นช่องวัน

แม้ว่าจะเรตติ้งทั่วประเทศเป็นรอง แต่ ”บุพเพสันนิวาส” ได้แชมป์เรตติ้งในพื้นที่กรุงเทพฯ สูงสุดของวัน โดยได้เรตติ้งอยู่ที่ 5.882 เป็นเคสไม่ธรรมดาสำหรับละครที่ออกอากาศวันแรก ก็สร้างเรตติ้งได้ปังขนาดนี้

ยิ่งเมื่อพฤติกรรมคนดูแบบมัลติสกรีน เมื่อเรตติ้งทีวีมา ส่งผลให้เกิดกระแสบนโซเชียลมีเดีย ติดทวิตเตอร์เทรนด์ 2 วันเต็ม ที่ติดใจกับละครแนวพีเรียดแนวตลกขบขัน สร้างความแปลกใหม่ นำมุกขบขันสมัยใหม่ เหตุการณ์ใส่เข้าไปเล่นในละคร ช่วยดึงกลุ่มคนรุ่นต่ำกว่า 35+ เข้ามารับชมละครมากยิ่งขึ้น แทนที่จะเป็นคนสูงอายุที่เป็นฐานผู้ชมดูทีวีในปัจจุบันเท่านั้น

กระแสความแรงของละครเรื่องนี้ ทำให้แบรนด์เสือปืนไวอย่าง ท็อปซูเปอร์มาเก็ต” ขึ้นชื่อในเรื่อง ใช้เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง รีบออกแคมเปญโฆษณา อีโน ยาคลายกรดในกระเพาะอาหาร ด้วยคำว่า “บุพเฟ่ต์ฉันมิพลาด” ด้วยฟอนต์ตัวอักษรและรูปเลียนแบบฟอนต์ของชื่อละคร ”บุพเพสันนิวาส” มาใช้ เพื่อเรียกกระแส

ช่อง 3 เอง ก็ใช้จังหวะนี้ โปรโมตแอป mello ของตัวเอง ด้วยการให้ดูย้อนหลังก่อนแอปพันธมิตรอื่นๆ เรียกว่า ได้ทั้งออนแอร์ บวกออนไลน์

ถอดรหัส บุพเพสันนิวาสทำไมถึงปัง

“บุพเพสันนิวาส” เป็นละครที่สร้างมาจากนิยายชื่อดังของ ”รอมแพง” นิยายที่ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นของเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประจำปี พ.ศ. 2553  และยังเป็นนิยายที่มีผู้อ่านเรียกร้องให้สร้างเป็นละครมากที่สุด ต้องใช้เวลารอคอยกันอย่างยาวนาน จนกระทั่งช่อง 3 เข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ ค่ายบรอดคาซท์ ของ ”หน่อง อรุโณชา” เป็นผู้จัด เริ่มวางตัวนักแสดง ฟิตติ้ง และใช้เวลาถ่ายทำอีก 2 ปี

เป็นละครเรื่องหนึ่ง ที่ให้ความสำคัญในแต่ละรายละเอียด เช่น ผ้านุ่ง ผ้าสไบสำหรับนักแสดง มีการส่งพิมพ์ลายเลียนแบบลายโบราณที่ต่างประเทศเพื่อให้สมจริงที่สุด ชนิดที่นักเขียนมีอึ้งมาแล้ว

เนื้อเรื่องเกิดสองยุค คือสมัยปัจจุบัน และสมัยพระนารายณ์ ยุครุ่งเรืองทางการค้าของไทยในยุคกรุงศรีอยุธยา เป็นเรื่องย้อนยุค เมื่อ เกศสุรางค์ สาวนักโบราณคดีร่างตุ้ยยุ้ยผู้แสนร่าเริง เกิดอุบัติเหตุ วิญญาณออกจากร่าง แต่พอจะกลับเข้าร่างได้ กลับกลายย้อนเข้าไปอยู่ในร่างของแม่นางการะเกด สาวสวยใจอำมหิต ในสมัยพระนารายณ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่แสดงโดย ”เบลล่า ราณี”

พล็อตเรื่องแนวใหม่ของละครพีเรียด ที่เหมือนเอาพล็อตหากินของนิยายเรื่องต่างๆ มาจัดวาง ตั้งแต่พล็อตการที่วิญญาณออกจากร่าง ต้องสลับร่าง แต่งานนี้ไม่ใช้สลับร่างแบบผู้หญิงผู้ชาย หรือคนทั่วไปในสังคม แต่สลับกับร่างย้อนยุคไปหลายร้อยปีกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า เอาทั้งการสลับร่าง และการย้อนยุคเข้าไปในอดีต มาจับรวมพร้อมกันทีเดียว

 

ในขณะเดียวกัน ก็ยังจับเอาพล็อตความฝันสูงสุดของคนอ้วนที่อยากผอม ใส่เข้ามาในละครได้อย่างสนุกสนาน เมื่อ เกศสุรางค์ สาวร่างอ้วนเข้าไปอยู่ในร่างแม่นางการะเกด สาวสวยหุ่นอรชร ทันทีที่สาวอ้วนเห็นตัวเองในกระจก ก็ต้องฮากระจาย นึกว่าฝันไป “ทำไมฝันดีแบบนี้..ฝันว่าผอม“ ย้อนยุคมาผอมมันดีแบบนี้นี่เอง

นอกจากนี้ยังใส่ตัวละครจริงลงไปในเรื่อง เมื่อเกดสุรางค์ในร่างการะเกดต้องแสดงอาการดุ ให้บ่าวเกรงกลัว แต่นึกไม่ออก จึงต้องเปรยออกมา ขอยืมคาแร็กเตอร์ นางร้ายต้นตำรับของจริง ”กิ๊ก สุวัจนี” มาใช้ในเรื่อง ด้วยการทำหน้าเหยียด ปากเบี้ยว จนโลกออนไลน์ไปจับเอารูปจริงในการแสดงของ ”กิ๊ก สุวัจนี” มาเปรียบเทียบกับ ”เบลล่า ราณี”

ฝ่ายพระเอกก็ฉีกกฎแหวกแนวพระเอกหล่อเหลา และเป็นคนดี ไม่แสดงอาการหลุดจากมาดพระเอก มาเป็นหมื่นสุทรเทวา หรือพ่อเดช ที่แสดงโดย “โป๊ป ธนวรรธ์” ​ที่คิดอยากทำอะไรโดยไม่ต้องคีฟลุคพระเอก เปิดมาก็แสดงท่าทางรังเกียจคู่หมั้นอย่างแม่นางการะเกดที่แสนใจร้าย พร้อมทั้งยังพยายามสาปแช่ง ”แม่นางการะเกดไปนรกเสียเถิด” (ฮา)

นอกจากนี้ ในตอนแรก สร้างเรื่องราวเดินเรื่องตัดต่ออย่างกระชับ สร้างความเร้าใจ ใส่ทั้งเวทมนตร์ ไสยศาสตร์ ความฮา โก๊ะของนางเอกอ้วน และความร้ายของนางเอกสวย ที่ช่อง 3 มีการเตรียมทีมตัดต่อการเดินเรื่องใหม่ก่อนออกอากาศ เพื่อต้องการสร้างความพีคให้ได้ทุกเบรก เพื่อตรึงผู้ชมให้อยู่หน้าจอ ไม่กดรีโมตหนีไปช่องอื่นๆ ทันที ที่สำคัญเรื่องนี้ได้ “ศัลยา” นักเขียนบทมือหนึ่งที่การันตีด้วยผลงานรางวัลมากมาย มาเขียนบทละครให้

สำหรับนักแสดงหลักอย่าง ”เบลล่า ราณี” บทนี้เรียกว่าเป็นอีกบทส่งการแสดงของเธอให้ชัดเจนมากขึ้น ความจริงแล้ว “เบลล่า” เริ่มแสดงครั้งแรกๆ ในช่อง 3 จากบทร้ายมาก่อน ในฐานะนางร้ายจากเรื่อง “รอยมาร” ในบทพี่สาวร้ายเงียบของนางเอก “มาร์กี้ ราศรี” มาแล้ว ก่อนที่จะมาดังบทนางเอก ในละครชุด ”สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร” ที่จับคู่กับ ”เจมส์ จิรายุ”

ภาพจาก : pantip

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะมาลงตัวที่ “เบลล่า” ช่อง 3 เคยวางตัว “ชมพู่ อารยา” ไว้ในบทนี้ แต่ชมพู่ติดงานละครซ้อน และต้องการเตรียมตัวท้องเสียก่อน

สิ่งที่สอดแทรกผ่านละครเรื่องนี้ คือการที่คนรุ่นใหม่จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยผ่านละคร และยังมีประวัติของ ท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์ สาวชาวโปรตุเกส ที่มาแต่งงานกับคอนสแตนติน ฟอลคอน ชาวกรีกที่มารับราชการในกรุงศรีอยุธยา มาทำงานเป็นต้นเครื่องในวัง ต้นกำเนิดขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ในประเทศไทย.

]]>
1158406