ธนาคารซิตี้แบงก์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 11 Mar 2021 07:20:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ผนึกกำลังพันธมิตรร้านค้า – ร้านอาหาร สร้างแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่าย ตอกย้ำการเป็น Shopping Destination ตลอดทั้งปี https://positioningmag.com/1322910 Fri, 12 Mar 2021 10:00:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1322910

เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจร้านค้า – ร้านอาหาร ร่วมกันจัดแคมเปญส่งต่อโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ มอบความคุ้มค่าทุกการใช้จ่าย ตอกย้ำการเป็น Shopping Destination กระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา ไปด้วยกัน

เริ่มด้วยแคมเปญ “THE MALL SHOPPING CENTER FIGHT TOGETHER” กับการจับมือกับ 5 ร้านอาหารค่ายใหญ่อย่าง Sizzler คุณนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด, ฮั่ว เซ่ง ฮง คุณพิสุทธิ พิริยะเลิศศักดิ์ ผู้บริหาร, MoMo Paradise คุณสุรเวช เตลาน Managing Director, แหลมเจริญซีฟู้ด คุณไชยทัศน์ นรากุลสุขพิภัทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Mister Donut พร้อมด้วย บัตรเครดิต SCB M VISA และ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จัดใหญ่มอบโปรโมชั่นเอาใจสายกิน สายช้อป พร้อมแจกหนัก!! บัตรกำนัลศูนย์ฯ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ตลอดเดือนมีนาคม 2564

มีนามาช้อป รวมได้ทุกบิล ฟินได้ทุกร้าน เพียงรวมใบเสร็จใช้จ่ายในศูนย์ฯ ครบ 2,000 บาท

คุ้มที่ 1 ลูกค้า M Card รับส่วนลดสูงสุด 100 บาท สำหรับทานอาหารตามเงื่อนไขที่ 5 ร้านอาหารยอดนิยมของทุกครอบครัว (Sizzler, ฮั่ว เซ่ง ฮง, Momo Paradise, แหลมเจริญซีฟู้ด และ Mister Donut)

คุ้มที่ 2 ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต SCB M Visa หรือ บัตรเครดิต Citi รับเพิ่มบัตรกำนัลศูนย์ฯ อีก 200 บาท

คุ้มที่ 3 ลูกค้าบัตรเครดิต SCB M VISA และ สมาชิกบัตรเครดิต Citi ลุ้นเป็น 20 Top Spenders รับเพิ่มบัตรกำนัลศูนย์ฯ มูลค่า 2,000 บาท เมื่อสะสมยอดใช้จ่ายภายในศูนย์การค้าตลอดเดือนมีนาคม

พิเศษ! อีกต่อ สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต SCB M VISA กับแคมเปญ SCB M DINING เพียงอิ่มอร่อยที่ร้านอาหารในศูนย์ฯ, Gourmet Eats และ FoodHall ที่ร่วมรายการ ผ่านบัตรเครดิตครบ 1,000 บาท รับเพิ่ม บัตรกำนัลศูนย์ฯ 200 บาท นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์การค้าอีกมากมายเพื่อนักช้อปทุกๆ ไลฟ์สไตล์

พบความคุ้มค่าทั้งสายกิน สายช้อป ในแคมเปญ “THE MALL SHOPPING CENTER FIGHT TOGETHER” และ “SCB M DINING”  โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันนี้ – 31 มีนาคม 2564 พร้อมโปรโมชั่นแบบเต็มอิ่มตลอด 365 วัน ที่ เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ทุกสาขา และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน

]]>
1322910
ซื้อมาขายไป ! “ทิสโก้” ต้องขายธุรกิจบัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคลให้ “ซิตี้แบงก์” หลังจากซื้อต่อจาก “ชาร์เตอร์ดฯ” ไม่ถึงปี https://positioningmag.com/1164177 Sun, 01 Apr 2018 11:35:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1164177 เป็นช่วงที่ธนาคารพาณิชย์ของไทยต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับยุคดิจิทัลแล้วยังต้องปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ยืนหยัดอยู่ได้

อย่างกรณีของ ธนาคารทิสโก้ เมื่อปลายปี 59 เคยซื้อธุรกิจรายย่อยมาจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) ประกอบด้วย บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อธุรกิจรายย่อย บริการธนบดีธนกิจ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ (ประกันชีวิต) และเงินฝากรายย่อย มีมูลค่าทรัพย์สิน 5,500 ล้านบาท

โดยมียอดสินเชื่อประมาณ 41,600 ล้านบาท และเงินฝากประมาณ 36,100 ล้านบาท ส่วนลูกค้าบัตรเครดิตที่มีอยู่ 1 แสนราย ซึ่งทิสโก้  ได้ตั้งบริษัทลูกชื่อออลเวย์ส” ขึ้นมาเพื่อดูแลลูกค้าบัตรเครดิตโดยเฉพาะ

แต่แล้วธนาคารทิสโก้ ก็ต้องตัดสินใจเฉือนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ไปให้ธนาคารซิตี้แบงก์ มูลค่า 6.9 พันล้านบาท หลังจากการโอนธุรกิจผ่านไป 6 เดือน

หลังจากทบทวนแล้วว่า ถนัดธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันมากกว่า ประกอบกับธนาคารซิตี้แบงก์ให้ความสนใจ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และบริการที่ต่อเนื่อง จึงเห็นว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสม 

โดยธนาคารซิตี้แบงก์ ซึ่งเชี่ยวชาญลูกค้ารายย่อย มองว่า การซื้อลูกค้าของทิสโก้ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ซิตี้แบงก์ขยายฐานธุรกิจในไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันซิตี้แบงก์มีลูกค้าบัตรเครดิตในเอเชียแฟซิฟิกกว่า 16 ล้านคน ซึ่งลูกค้าที่โอนมาจะได้รับสิทธิ์เช่นเดียวกัน.

ที่มา : mgronline.com/onlinesection/detail/9610000031995

]]>
1164177
องค์การแพลนจับมือซิตี้แบงก์ ต่อยอดธนาคารโรงเรียน จัดกิจกรรมตลาดนัดนักธุรกิจน้อย ส่งเสริมการออมและการเพิ่มมูลค่าเงินออมจากการลงทุนให้เด็กนักเรียน https://positioningmag.com/57218 Wed, 18 Sep 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=57218

องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล สำนักงานประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิซิตี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ สานต่อเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความรู้ด้านบริหารการเงินและปลูกฝังจิตสำนึกรักการออมในหมู่เยาวชน ล่าสุด จัดโครงการตลาดนัดนักธุรกิจน้อย ซึ่งเป็นกิจกรรรมต่อยอดโครงการธนาคารโรงเรียน มุ่งส่งเสริมการออมและเพิ่มมูลค่าเงินออมในเด็กนักเรียนผ่านการลงทุนในโครงการธุรกิจขนาดเล็ก อันจะเป็นรากฐานที่ดีที่จะทำให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ มีวินัยทางด้านการเงิน และเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป

นายดาเรน บัคลีย์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของมูลนิธิซิตี้ที่มุ่งมั่นในการโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่บุคคลและครอบครัวที่ด้อยโอกาสในชุมชนต่างๆ เราจึงริเริ่มโครงการปลูกฝังให้เด็กไทยมีวินัยทางการเงินและรู้จักการออมเงินเพื่อความมั่นคงในอนาคต ซึ่งเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างมูลนิธิซิตี้กับองค์การแพลนฯ ในการสนับสนุนโครงการธนาคารโรงเรียนให้กับ 4 โรงเรียนในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยพบว่าเยาวชนที่ร่วมโครงการได้เรียนรู้ทักษะการบริหารการเงินส่วนบุคคลขั้นพื้นฐานเป็นอย่างดี เห็นได้จากจำนวนบัญชีเงินฝากและจำนวนเงินออมของโรงเรียนมีมากถึง กว่า 1.5 ล้านบาท

“ด้วยเหตุนี้ เราจึงเดินหน้าสานต่อโครงการส่งเสริมความรู้ด้านบริหารการเงิน โดยได้จัดโครงการนักธุรกิจน้อย ซึ่งเป็นกิจกรรรมต่อยอดโครงการธนาคารโรงเรียน เพื่อเพิ่มพูนทักษะและปลูกฝังให้เด็กนักเรียนรู้จักวางแผนทางการเงินในขั้นที่สูงขึ้น และเรียนรู้ทักษะในการเพิ่มมูลค่าเงินออมจากการลงทุนผ่านโครงการธุรกิจขนาดเล็กของตนเอง ซึ่งเราหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เยาวชนไทยกลุ่มนี้กลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมไทย ในแง่ของการสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งต่อไปในอนาคต” นายดาเรน กล่าว

สำหรับกิจกรรมตลาดนัดนักธุรกิจน้อย จะเป็นการนำเงินทุนที่ได้จากการออมไปลงทุนต่อยอดเพิ่มผลกำไรให้กับพวกเขาอีกต่อหนึ่ง ซึ่งโครงการนี้ได้ริเริ่มขึ้นในปี 2555 ในโรงเรียนนำร่องที่มีเด็กนักเรียนรวมกันกว่า 1,500 คน จาก 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนบางละมุง โรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โรงเรียนวัดโขดทิมทาราม และโรงเรียนวัดเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

โดยมีการอบรมการวางแผนธุรกิจของตนเองจากองค์การแพลนฯ เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการเตรียมตัวทำธุรกิจและต้นทุนในการทำธุรกิจ รวมถึงการจัดการด้านการเงิน การประชาสัมพันธ์ และเทคนิคด้านการตลาดเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้สนุกกับการสร้างธุรกิจด้วยตัวเอง โดยจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ และมีการทดลองทำธุรกิจจริง อีกทั้งยังมีการทดลองขายในสถานที่ต่างๆ ทำให้นักเรียนได้เข้าใจระบบธุรกิจอย่างถ่องแท้โดยมีคุณครูของแต่โรงเรียนร่วมเป็นที่ปรึกษาและดูแลนักเรียนอีกด้วย

ด้าน นางมหา คิวบาร์รูเบีย ผู้อำนวยการแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า เราหวังว่าการต่อยอดโครงการธนาคารโรงเรียนด้วยกิจกรรมนักธุรกิจน้อย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างองค์การแพลนฯ และซิตี้แบงก์ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการออม และเพิ่มพูนทักษะในการบริหารการเงินส่วนบุคคลของเยาวชนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น อันเป็นรากฐานที่ดีที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบและเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป โดยโครงการนี้จะเป็นโครงการต่อเนื่องที่เราจะขยายพื้นที่ในการจัดไปสู่โรงเรียนอื่นๆ ในจังหวัดชลบุรี ระยอง อยุธยา ปทุมธานี เชียงรายและเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนกว่า 16 ล้านบาทใน 80 โรงเรียนภายใน 5 ปีข้างหน้านี้

]]>
57218
ซิตี้แบงก์ จับมืออโกด้า มอบส่วนลดโรงแรมสูงสุด 10% แก่สมาชิกบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ https://positioningmag.com/55781 Fri, 12 Oct 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55781

ณวรา สินเจริญกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารซิตี้แบงก์ ร่วมกับ อนพัทย์ สุวรรณสุทธิ หัวหน้าฝ่ายการตลาดพันธมิตรธุรกิจ Agoda.com เปิดตัวแคมเปญ “จองห้องพัก รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10%” อภิสิทธิ์เฉพาะสมาชิกบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ ในการจองห้องพักกับเว็บไซต์ อโกด้า ผ่านเว็บไซต์

]]>
55781
บัตรแพลตตินั่มหรูพอแล้ว ให้ตลาดแมสบ้าง https://positioningmag.com/14498 Tue, 28 Feb 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14498

เมื่อการออกบัตรเครดิต เป็นอีกหนึ่งในกลยุทธการตลาดที่ห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตดึงดูดลูกค้ามาเป็นขาประจำและซื้อสินค้าได้ถี่ขึ้น ล่าสุดบิ๊กซีใช้จังหวะเงินเดือนคนจบปริญญาตรีเริ่มต้น15,000 บาท จับมือซิตี้แบงก์ ออกบัตรเครดิตระดับแพลตตินั่ม เงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 ก็รูดปรื้ดได้แล้ว 

รีจิส พรีจอง รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า การร่วมมือกับบัตรซิตี้แบงก์นอกจากทำให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลงกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้ามาซื้อของที่บิ๊กซีมากขึ้น เพราะใช้บัตรแล้วได้ส่วนลด ที่สำคัญคือยังได้รอยัลตี้จากลูกค้า เพราะส่วนลดที่ได้รับนั้นไม่มีวันหมดอายุ รวมทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับบัตรบิ๊กการ์ดได้ ทำให้ได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นไปอีก จึงเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ประหยัดมากขึ้น 

ไฮไลต์ที่ทำให้บัตรเครดิตซิตี้แบงก์-บิ๊กซี วีซ่า แพลตตินั่ม ต่างจากบัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า แพลตตินั่ม ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงคือเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปสามารถสมัครใช้บริการได้ ขณะที่บัตรเครดิตของเทสโก้ โลตัส จะต้องมีรายได้ตั้งแต่ 4 หมื่นบาทขึ้นไปถึงจะสามารถเป็นเจ้าของบัตรแพลตตินั่มได้ 

นอกจากใช้ฐานเงินเดือนต่ำกว่ากวาดต้อนลูกค้าระดับแมสมาอยู่ในมือให้ได้มากที่สุดแล้ว บิ๊กซี ยังจูงใจด้วยการให้ผลตอบแทนถึง 5% ขณะที่บัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า แพลตตินั่ม ให้เพียง 3.5% สามารถรับเงินคืนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ ใช้เป็นส่วนลดในร้านอาหารและศูนย์อาหารภายในห้าง รวมถึงสิทธิพิเศษอื่นๆ จากร้านค้าที่ร่วมรายการกับซิตี้แบงก์ได้ทั่วประเทศ ซึ่งมีความอิสระในการใช้งานมากกว่าของคู่แข่งที่จำกัดเพียงแค่การใช้จ่ายภายในห้างเท่านั้น

แนวทางของบิ๊กซีเลยไปตรงใจบัตรเครดิต “ซิตี้แบงก์ แพลตตินั่ม” ที่แต่เดิมมักชูจุดเด่นด้วยสิทธิพิเศษและส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ โดยจับกลุ่มลูกค้าระดับ B ขึ้นไป แต่วันนี้มีการแข่งขันเข้าขั้นดุเดือด เพราะคู่แข่งหลายรายต่างไม่ยอมแพ้และใช้กลยุทธ์เดียวกันมาสู้ ทำให้ซิตี้แบงก์ต้องออกแรงมากขึ้น ดังนั้นการจับมือกับพันธมิตรคือห้างค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างบิ๊กซีซึ่งมีจำนวนกว่า 170 สาขาทั่วประเทศ และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับแมสจึงช่วยตอบโจทย์ได้มากขึ้น 

“เราตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตซิตี้แบงก์-บิ๊กซี วีซ่า แพลตตินั่มไว้ 5 แสนใบภายใน 5 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ร่วมมือกับห้างค้าปลีกรายใหญ่ ที่มีกว่าร้อยสาขา มีลูกค้าใช้บริการหลายล้านคนต่อวัน ซึ่งจะช่วยเราขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มแมสได้”วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารซิตี้แบงก์กล่าว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซิตี้แบงก์ขยายฐานลูกค้าของตัวเองโดยการเป็นพันธมิตรกับห้างสรรพสินค้า เพราะก่อนหน้านี้เคยเป็นพันธมิตรร่วมกันกับห้างสรรพสินค้ารายใหญ่อย่างกลุ่มเดอะมอลล์ในชื่อ Citi M Visa แพลตตินั่ม รีวอร์ด และห้างค้าส่งขนาดใหญ่อย่างแม็คโครในชื่อซิตี้แบงก์ แม็คโคร แพลตตินั่มรีวอร์ดมาก่อนแล้ว 

แม้ว่ากลุ่มลูกค้าของแม็คโครกับบิ๊กซีอาจจะดูจะใกล้เคียงกัน แต่วรลักษณ์มองว่าพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแม็คโครนั้นส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าในปริมาณมากๆ และมักใช้ในรูปแบบบัตรเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต ขณะที่พฤติกรรมของลูกค้าบิ๊กซีคือชอบซื้อสินค้าราคาถูกเพราะมีการการันตีราคาสินค้าว่าถูกห้างอื่นแน่นอน โดยผู้ใช้บัตรนี้จะได้รับส่วนลด 5% เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรรวม 6,000 บาทเมื่อซื้อของที่บิ๊กซี วันเสาร์อาทิตย์ได้รับส่วนลด 5% เมื่อใช้บริการร้านอาหารภายในห้าง และเมื่อซื้อคูปองที่ฟู้ดเซ็นเตอร์ทุก 100 บาทจะได้รับเพิ่มอีก 5% นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น เติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ รับส่วนลด 2% สามารถผ่อนชำระค่าสินค้า 0% นาน 10 เดือน ส่วนลดจากร้านอาหารต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้การเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการล่วงหน้า 3 อาทิตย์ก่อนที่จะแถลงข่าวจึงทำให้มีผู้สมัครบัตรนี้ถึงหลักหมื่นราย ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมั่นใจว่าภายในปีแรกจะมีจำนวนผู้ใช้บัตรถึง 1 แสนใบตามที่ตั้งเป้าไว้ได้ไม่ยาก 

 

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

style=”font-weight: bold;”>ผู้ท้าชิง

style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>ชื่อบัตร

style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>รายได้ขั้นต่ำ

style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>กลุ่มลูกค้า
บัตรเครดิตซิตี้แบงก์-บิ๊กซี
วีซ่า แพลตตินั่ม 15,000 บาท ตั้งแต่ระดับ C ขึ้นไป
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีพฤติกรรมชอบสินค้าราคาถูก

บัตรเครดิตเทสโก้
วีซ่า แพลตตินั่ม 40,000 บาท ตั้งแต่ระดับ C ขึ้นไป
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีพฤติกรรมชอบสินค้าราคาถูก บัตรเครดิต
ซิตี้แบงก์ แม็คโคร แพลตตินั่ม รีวอร์ด 15,000 บาท ตั้งแต่ระดับ C ขึ้นไป
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มักจะซื้อสินค้าในปริมาณมากๆ บัตรเครดิต
Citi M Visa แพลตตินั่ม รีวอร์ด 30,000 บาท ตั้งแต่ระดับ B+ ขึ้นไป
ไม่เน้นเรื่องราคาแต่สนใจเรื่องคุณภาพและบริการเป็นอันดับแรก

]]>
14498
“ทิสโก้-ซิตี้แบงก์” สู้ที่ Mass Affluent https://positioningmag.com/14212 Mon, 17 Oct 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14212

“ในเวลาที่ต้องเลือก ก็ขอเลือกกลุ่มที่มีโอกาสในปัจจุบัน มีจำนวนมากพอ และพร้อมจะเป็นอนาคตของแบงก์” นี่คือคอนเซ็ปต์ที่ทั้งธนาคารทิสโก้ และธนาคารซิตี้แบงก์เลือกสำหรับทำตลาดลูกค้าระดับไฮเอนด์ ที่ขอสตาร์ทที่กลุ่มลูกค้าในระดับ 2 ล้านบาทก่อน

ทิสโก้มีบริการที่เรียกว่า Tisco Platinum สำหรับลูกค้าระดับ 5-20 ล้านบาท และ Tisco Private ในระดับ 20 ล้านบาท ส่วนซิตี้แบงก์มุ่งมั่นกับกลุ่มซิตี้โกลด์ ในระดับ 2 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนกลุ่มที่มีสินทรัพย์ทางการเงินสูงกว่านั้น ซิตี้แบงก์ถือเป็นเซ็กเมนต์ย่อยในซิตี้โกลด์ที่ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องลงทุนทำแคมเปญเฉพาะ

ทั้งทิสโก้ และซิตี้แบงก์มองว่าสิ่งที่เคแบงก์พยายามทำแคมเปญตลาดกลุ่มไพรเวทแบงกิ้ง ที่มีสินทรัพย์ทางการเงินสูงกว่า 50 ล้านบาท ถือเป็นสีสันการตลาด และยังไม่คิดว่าเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจใช้บริการของลูกค้ากลุ่มนี้ 

“พิชา รัตนธรรม” หัวหน้าสายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด บอกว่าเกมของการทำตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการมากที่สุด เช่นเดียวกับ “วีเจย์ ศิวะรามัน ผู้อำนวยการสายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ที่บอกว่า Value คือสิ่งสำคัญที่ลูกค้าต้องการ ส่วนการเข้าถึงความต้องการด้านการลงทุนและไลฟ์สไตล์ลูกค้าในธุรกิจนี้ คือสิ่งที่ต้องมีอยู่แล้ว

โมเดลของธุรกิจนี้การเข้าถึงความต้องการเหล่านี้ มีทั้งผ่าน RM หรือ Relation Management คือพนักงานที่คอยติดต่อประสานงานและช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่างๆ  และผ่านกระบวนการบันทึกประวัติและสอบถามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ระดับที่เป็น High net worth สำหรับซิตี้แบงก์จึงมีกิจกรรมต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้น

กลุ่มเป้าหมายหลักที่ซิตี้แบงก์พยายามสร้างแบรนด์เข้าไปให้ถึงคือกลุ่ม 2 ล้านบาทขึ้นไปที่เรียกว่าเป็น Mass Affluent  ที่ “วีเจย์” บอกว่าซิตี้แบงก์ต้องการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มนี้ พร้อมๆ กับการขยายสาขาเพิ่มขึ้น ที่เมื่อเขาเข้ามาในช่วงเริ่มต้นอาจมีสินทรัพย์เพียง 2 ล้านบาท แต่อนาคตเขาต้องมีสินทรัพย์ร่ำรวยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับทิสโก้แล้ว ในกลุ่มลูกค้าระดับ 20 ล้านบาทของทิสโก้มีส่วนแบ่งประมาณ 10% ซึ่งมาจากฐานเดิมที่ทิสโก้เติบโตมาจากบริษัทเงินทุน การดูแลลูกค้าก็มีตั้งแต่การดินเนอร์ทอล์ก การจัดพบปะกันระหว่างลูกค้าในกลุ่มผู้บริหาร และที่สำคัญการมี RM ที่มีประสบการณ์และดูแลลูกค้ามานาน

ขณะที่กลุ่มลูกค้าระดับ 5 ล้านบาทยังมีส่วนแบ่งไม่ถึง 1% เพราะทิสโก้เพิ่งมีสถานะเป็นแบงก์ได้ไม่เกิน 5 ปีเท่านั้น แต่ 1% นี้จะสามารถเติบโตได้อีก เพราะตลาดลูกค้าระดับ 5 ล้านบาทกำลังเติบโต เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 10-15% ขณะที่ลูกค้าระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไปเติบโตไม่สูงนัก

โอกาสของทิสโก้ และซิตี้แบงก์อยู่ตรงไหน ในเมื่อทุกแบงก์ต่างจับลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ปล่อย 

อาจจะไม่ใช่ดัชนีวัดโดยตรงว่าคนรวยมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่คือการเปรียบเทียบได้อย่างเห็นภาพจาก “พิชา” ที่บอกว่า “ทำไมคนกินสตาร์บัคส์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” นอกจากนี้คนรุ่นใหม่ๆ อย่างรุ่นลูก เริ่มมองหาสถาบันการเงินอื่น นอกเหนือจากที่พ่อแม่เคยใช้บริการอยู่ กลุ่มนี้พร้อมจะช้อปผลตอบแทนการลงทุนดีกว่า ดังนั้นเมื่อมาเพราะผลตอบแทนแล้ว โจทย์ต่อไปคือทำอย่างไรให้เขาอยู่อย่างต่อเนื่องมากกว่า

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

rowspan=”1″>ว่าที่
High net worth
เอชเอสบีซี HSBC Premier 3 ล้านบาทขึ้นไป ไทยพาณิชย์ SCB Platinum 3 ล้านบาทขึ้นไป ซิตี้แบงก์ Citi Gold 2 ล้านบาทขึ้นไป เคแบงก์ Wisdom 10 ล้านบาทขึ้นไป ทิสโก้ Platinum 5-20 ล้านบาท กรุงเทพ Bualuang Exclusive 3 ล้านบาทขึ้นไป กรุงศรีอยุธยา Exclusive Banking 5 ล้านบาทขึ้นไป

rowspan=”1″>กลุ่ม
High net worth
ไทยพาณิชย์-ธนบดีธนกิจ ธนบดีธนกิจ (Private Bank) 20 ล้านบาทขึ้นไป ทิสโก้ Tisco Private 20 ล้านบาทขึ้นไป เคแบงก์ Private Bank 50 ล้านบาทขึ้นไป

]]>
14212
อภินิหารร่มสร้างแบรนด์ https://positioningmag.com/13734 Tue, 10 May 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13734

ไม่ว่าจะร้อนหรือฝนตก ร่มกับเมืองไทยก็เป็นอะไรที่เหมาะกันมาก

แม้ว่าคนไทยจะไม่ค่อยนิยมพกร่ม แต่ตามท้องถนนหรือจุดสำคัญๆ เรามักจะพบร่มสารพัดแบรนด์เรียงรายให้เห็นเต็มไปหมด จนดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะไม่ตายและหาดูได้ทุกที่ในเมืองไทยเท่านั้นจริงๆ เสียแล้ว

ตัวอย่างจากสองธนาคารอินเตอร์ล่าสุดอย่างซิตี้แบงก์ และเอชเอสบีซี ซึ่งปล่อยร่มชุดใหม่ออกมาแล้ว เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการการเงินนึกถึงธนาคารทุกที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ด้วยความเป็นธนาคารต่างชาติ ทั้งสองธนาคารพยายามสร้างแบรนด์เพื่อเข้าถึงตลาดท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด ธนาคารเอชเอสบีซีนั้นถึงกับมีสโลแกนว่าเป็น Local Bank ของทุกๆ ที่ไปเปิดดำเนินงาน ก่อนหน้านี้เอชเอสบีซีเคยสร้างแบรนด์ด้วยการห่องวงช้างของสนามบินใน 23 ประเทศพร้อมๆ กัน เพื่อให้ผู้บริโภคไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนในโลกก็จะต้องได้เจอกับเอชเอสบีซีก่อนเป็นแบรนด์แรก

แต่สำหรับเมืองไทย เมื่อเอชเอสบีซีเริ่มเปิดสาขาแห่งแรกที่ทองหล่อ นอกจากตัวสาขาของธนาคารที่ตกแต่งอย่างโดดเด่นด้วยสีแดงซึ่งเป็นสีองค์กร ยังเพิ่มสีน้ำเงินขึ้นมาขับความเด่นของสีแดง เชิญดาราดังระดับนางเอกช่อง 7 อย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ มาเดินแบบเปิดงาน ก็ยังไม่ลืมสร้างแบรนด์ให้คนย่านทองหล่อรับรู้ด้วยการปักร่มแม่ค้า สีแดงขาว สัญลักษณ์ธนาคารชนิดที่ปูพรมทองหล่อด้วยแบรนด์เอชเอสบีซีให้เห็นกันทุกซอกซอย

ร่มเป็นรูปแบบเฉพาะท้องถิ่นไทยจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปไหน รูปแบบโฆษณาของเอชเอสบีซีที่เห็นตามท้องถนนในเมืองนั้นๆ เต็มที่ก็แค่ห่อเสาตอม่อรถไฟฟ้าอย่างในมาเลเซีย ทำซุ้มประตูแบบที่นิยมในมาเลเซียและสิงคโปร์ หรือไม่ก็เป็นป้ายโฆษณาทั่วๆ ไป มีก็แต่เมืองไทยนี่แหละที่ร่มนอกจากให้ประโยชน์กับแม่ค้าริมถนน ยังสร้างประโยชน์ให้กับการสร้างแบรนด์ขององค์กรกันแบบเห็นชัดทุกที่จริงๆ

เพียงแค่มีเทคนิคง่ายๆ ว่า ต้องกางเรียงกันเป็นพืดยาวต่อเนื่อง ไม่ใช่กระจัดกระจาย ซึ่งนับว่าสภาพถนนไทยเอื้ออำนวยเสียด้วย เพราะมีร้านค้าริมทางที่ต้องการใช้ร่มอยู่มากมาย จุดผ่อนปรนเป็นร้อยเป็นพันแทบทุกริมถนนให้เลือกแจกร่มได้ไม่อั้น จนทำให้เกิดกระแสแข่งขันแจกร่มสร้างแบรนด์ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาธนาคารทั้งหลายแทบจะไม่มีธนาคารไหนที่ไม่เคยผลิตร่มแจกแม่ค้าเลยก็ว่าได้

ทางฝั่งซิตี้แบงก์ ก็ใช้หลักการเดียวกัน แต่ล่าสุดด้วยการใช้สิทธิพิเศษในแนวถนัด ซึ่งไม่ใช่ธนาคารเท่านั้นที่จัดให้ลูกค้าได้ แต่ลูกค้าของธนาคารก็มอบสิทธิพิเศษคืนกลับให้ได้ด้วย โดยค่ายเดอะมอลล์ ซึ่งเป็นพันธมิตรออกบัตรร่วมกับซิตี้แบงก์ ให้สิทธิ์ซิตี้แบงก์ กางร่มหน้าห้างให้กับลูกค้าที่รอใช้บริการแท็กซี่ ไม่ว่าจะวันฝนตกหรือแดดออก

กลยุทธ์ง่ายๆ เท่านี้ซิตี้แบงก์ ก็ได้พื้นที่หน้าห้างซึ่งมีสายตาผ่านไปมาวันหนึ่งนับหลายแสนคู่ที่จะปะทะกับแบรนด์ ขนาดแค่ช่วงเวลาปกติที่คนต่อแถวรอแท็กซี่โดยไม่มีร่ม ใครเดินผ่านไปมาก็สะดุดตาอยู่แล้ว มีร่มติดแบรนด์มากางให้แบบนี้จะไม่ยิ่งดึงดูดความสนใจได้อย่างไร

แบรนด์ดิ้งง่ายๆ ด้วยร่ม คงจะเป็นอภินิหารที่แสดงออกอย่างได้ผลของการสร้างแบรนด์ที่ยังคงใช้ในไทยต่อไปอีกนานแสนนาน

แบรนดิ้งแบบนี้ Thailand Only
การสร้างแบรนด์ในไทย นอกจากร่ม ยังมีรูปแบบอื่นๆ เช่น การ Wrap รถเข็น ที่ได้รับความนิยมมากคือรถเข็นที่เป็นร้านน้ำของแบรนด์กาแฟและแบรนด์นมข้น ที่ช่วยเปลี่ยนรูปแบบรถเข็นให้ดูทันสมัยและสดใสขึ้น ส่วนหนึ่งได้ไอเดียมาจากรถขายไอศกรีมที่วิ่งไปทุกตรอกซอกซอย ต่อมาก็มีการพัฒนาไปในส่วนของอุปกรณ์อื่นๆ ที่แม่ค้าต้องใช้งานเป็นหลัก เช่น ผ้ากันเปื้อน ตัวนี้นิยมมากในกลุ่มเครื่องปรุงรสอาหาร ตามมาด้วยถุงพลาสติกใส่เครื่องดื่ม ซึ่งทำกันเป็นเพียงระยะสั้น เหตุผลเพราะต้นทุนสูง ถ้าไม่ให้ฟรี แม่ค้าพ่อค้าก็ไม่ลงทุนซื้อถุงติดแบรนด์ และมีข้อเสียที่การสร้างแบรนด์ทำได้ในระยะสั้นมากและมองไม่ชัด สุดท้ายถ้าถุงที่ถือกลายเป็นขยะอยู่ไม่ถูกที่ถูกทางก็มีผลลบต่อแบรนด์ได้ด้วย ถุงพลาสติกถ้าไม่ใช่ของห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่ต้องการแสดงความนิยมจึงไม่ได้รับความนิยม

แต่ที่แน่นอนและอยู่นานที่สุด คือ ร่มแม่ค้า เพราะเป็นทรัพย์สินที่แม่ค้าจะดูแลเพราะเป็นอุปกรณ์จำเป็นในการค้าขายที่ต้องใช้อยู่ทุกวัน เพียงเท่านี้ร่มติดแบรนด์จึงมีคนช่วยดูแลให้คงอยู่คู่ถนนไปตลอด

]]>
13734
บัตรเครดิตซิตี้แบงก์มอบความสุขคุ้ม 3 ต่อ เอาใจคนชอบท่องเที่ยว https://positioningmag.com/54298 Thu, 21 Apr 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54298

บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ ร่วมกับ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค และบริษัท บางกอก แทรเวล คลับ เอาใจคนรักการเดินทางด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้ม 3 ต่อกับแคมเปญ “Triple Holidays” เพียงซื้อตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัดเส้นทางยุโรป โดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ ราคาเพียง 39,500 บาท รับฟรี! ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดเส้นทางฮ่องกง หรือสิงคโปร์ โดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค และเส้นทางภูเก็ต โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สำรองที่นั่งกับบางกอก แทรเวล คลับ โทร. 0-2255-8966 ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม ศกนี้ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ซิตี้โฟน แบงก์กิ้ง โทร. 1588

]]>
54298
Holidays Happiness Powered by CITI https://positioningmag.com/54275 Mon, 18 Apr 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54275

ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “เที่ยวเพลินใจ ไปกับซิตี้แบงก์” โดยร่วมกับ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด จัดงาน “HOLIDAYS HAPPINESS POWERED BY CITI” ขึ้น ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2554 ณ Hall of Fame บริเวณด้านหน้าโซน M สยามพารากอน

ภายในงานจะมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม รีสอร์ท สายการบิน รถเช่า สถานบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจ บัตรบุฟเฟต์และร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับเชิญ (Exclusive Travel) จำนวน 50 ราย มาจำหน่ายแพ็คเกจให้สมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตฯ รวมถึงผู้เข้าชมงานทั่วไปในราคาพิเศษ โดยไฮไลท์จะจัดขึ้น 5 วัน ตั้งแต่วันพุธ ถึงวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10.00-22.00 น. พร้อมกันกับวัน Mid Night Sale ของศูนย์การค้าสยามพารากอน รวมทั้งมีกิจกรรม Redemption จากบัตรเครดิต CITIBANK ทุกประเภท ให้สมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตฯ ลุ้น-ลด-รับ-แลกของรางวัลพิเศษ พร้อมการแสดงมากมายบนเวทีให้ชมตลอดงาน

HOLIDAYS HAPPINESS Powered by CITI จะเป็นอีกหนึ่งผลงานคุณภาพด้านการท่องเที่ยวของบริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานไทยเที่ยวไทย สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมแสดงงาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call 02-683-3065 หรือ www.pkexhibition.com

]]>
54275
ทั้งรวย ทั้งเท่ แค่ “แพลทินัม” ไม่พอ https://positioningmag.com/13444 Mon, 07 Feb 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13444

บัตรเครดิตที่เรียกว่า ”แพลทินัม” ในยุคนี้กลายเป็นบัตรธรรมดาไปแล้ว เพราะแบงก์ที่ให้บริการต่างลดสเปกลูกค้า ไม่ว่าจะมีเงินเดือนน้อยหรือมากก็มีแพลทินัมได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่คนรุ่นใหม่รวยขึ้น Work hard Play hard และพร้อมแสดงความต่างให้สมฐานะ ว่ารวยและเท่ด้วย ตลาดบัตรเครดิตจึงต้องจัดเซ็กเมนต์กันใหม่อีกรอบ เพื่อรักษาลูกค้าเก่า และเพิ่มลูกค้าใหม่ โดยจะเรียกพวกเขาแค่คำว่า ”แพลทินัม“ เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว แต่ต้องพิเศษกว่าแพลทินัม และจะให้เพียงสิทธิพิเศษแบบส่วนลด และคะแนนสะสมเท่านั้นไม่พออีกต่อไป แต่ต้องให้บริการที่รู้สึกพิเศษจริงๆ

มีเลานจ์ในห้างหรูให้นั่งชิลล์ มีรถลีมูซีนรับส่งจากสนามบินกลับบ้านหลังจากเดินทางไปกลับต่างประเทศ ตัวอย่างบริการพิเศษที่เหมือนเป็นเพียงของแถมแต่ถูกใจเป็นพิเศษ นอกเหนือจากสิทธิพิเศษส่วนลดในบริการต่างๆ ที่แต่ละบัตรมีไม่ต่างกัน คือเสน่ห์ของการตลาดบัตรเครดิตระดับไฮเอนด์วันนี้ที่ผู้เล่นรายใหญ่อย่างไทยพาณิชย์ และซิตี้แบงก์กำลังแข่งกันจัดให้

นี่คือความต้องการแบบพิเศษของลูกค้ากลุ่มใหม่ ”ยิ่งกว่าแพลทินัม” ที่เป็นเศรษฐีใหม่ ในกลุ่มเจนเนอเรชั่น X และ Y หรืออายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ที่กำลังเติบโตและมีรายได้เกินแสนบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่ทำตลาดแล้วคุ้มค่า เพราะกลุ่มนี้หากถูกใจก็ถือบัตรและใช้เป็นบัตรแรก โดยรูดปรื้ดแต่ละเดือนเม็ดเงินสะพัดอย่างเต็มที่

คนรุ่นใหม่ขอรวยและเท่เต็มที่

รูปแบบการแบ่งเซ็กเมนต์ตลาดบัตรเครดิตเดิมนั้น แยกประเภทลูกค้าตามบัตรที่เรียกตามวัสดุ คือบัตรเงิน เป็นลูกค้ากลุ่มล่างสุดเงินเดือน 15,000 บาท ระดับ 20,000 บาทถือบัตรทอง และมากกว่า 30,000-50,000 บาทถือบัตรแพลทินัม จากนั้นคือกลุ่มสูงสุดไปที่บัตรซูเปอร์ไฮเอนด์ เช่น คนที่มีเงินฝากมากกว่า 20 ล้านบาท มีรายได้หลายแสน หรือหลักล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมีอยู่แค่ 1-2% ของตลาดบัตรรวมที่มีอยู่ 13 ล้านบัตรเท่านั้น

ช่องว่างของตลาดระหว่างกลุ่มแพลทินัมกับซูเปอร์ไฮเอนด์ เริ่มเห็นชัดขึ้นเมื่อกลุ่มวัยทำงานเริ่มเติบโตและมีรายได้สูงขึ้น และมีไลฟ์สไตล์ทำงานเต็มที่ และใช้จ่ายเต็มที่เช่นกัน ตามเทรนด์ของโลกที่ “ไอลีน วี” รองประธานและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทมาสเตอร์การ์ดเวิลด์วายด์ จำกัด บอกว่า การเชื่อมโยงข่าวสารของผู้คนในโลกทำให้ผู้คนมีไลฟ์สไตล์ และจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ใช้ชีวิตเต็มที่ทั้งทำงานและไลฟ์สไตล์ จนตลาดบัตรเครดิตเติบโต และเซ็กเมนต์ต่างจากเดิม แบ่งได้เป็น 3 เซ็กเมนต์ใหญ่ คือ กลุ่ม Super Affluent หรือระดับสูงสุด กลุ่ม Affluent ระดับไฮเอนด์ Mass Affluent

“รุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์” ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายผลิตภัณฑ์สินเชื่อลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า สิ่งที่เขามองเห็นความเปลี่ยนแปลงในตลาดบัตรเครดิตหลายปีที่ผ่านมา มี 2 ส่วน คือ1.จำนวนคนถือบัตรไม่มากและเติบโตช้า จากตลาดรวมของบัตรที่มีรายงานจากแบงก์ชาติว่ามีประมาณ 13 ล้านบัตร แต่จริงๆ แล้วมีคนถือบัตรประมาณ 6-7 ล้านคน หรือเฉลี่ยคนหนึ่งถือ 2-3 บัตร และแต่ละปีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก

ส่วนที่ 2 คือ จากโครงสร้างประชากร มีกลุ่มเด็กลดลง ทำให้คนทำงานใหม่ๆ เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท ซึ่งไม่ถึงเกณฑ์ทำบัตรเครดิตได้ลดลง และเฉลี่ยต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะได้เงินเดือนเพิ่ม ขณะที่กลุ่มที่ทำงานมาแล้วระยะหนึ่งเป็นกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ เฉลี่ยอายุ 30 ปีขึ้นไปเริ่มมีรายได้สูงขึ้น และแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่ต่างกัน

บทสรุปคือ หากไทยพาณิชย์เน้นทำตลาดบัตรใหม่ในกลุ่มคนทั่วไป แม้จะมีบัตรใหม่ หรือฐานบัตรจำนวนมาก แต่ไม่มีการใช้งานจริงก็ไม่มีความหมาย ทิศทางคือต้องมองหาลูกค้าที่มีบัตรแล้วหยิบมาใช้จริง ซึ่งนอกจากจะเป็นฐานลูกค้าเดิมของไทยพาณิชย์ที่เป็นกลุ่มเซเลบริตี้ เศรษฐีเมืองไทยแล้ว ยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่เริ่มมีเงินมากขึ้น

ไทยพาณิชย์เร่งเกมเบียดซิตี้แบงก์

เดิมไทยพาณิชย์ไม่เคยมีบัตรสูงกว่าระดับแพลทินัมมาก่อน เซ็กเมนต์ที่ร่ำรวยมากๆ ก็ปนอยู่ในกลุ่มนี้ แต่เมื่อไลฟ์สไตล์คนต่างกัน คนรุ่นใหม่รวยขึ้น จึงเพิ่มบัตรใหม่ในกลุ่ม Affluent เป็น ”บียอนด์ แพลทินัม” สำหรับเซ็กเมนต์ที่มีฐานเงินเดือนอย่างต่ำเดือนละ 1 แสนบาท เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน ที่ต้องการบริการหรือการดูแลเป็นพิเศษในการจับจ่ายใช้สอย เช่น ต้องการความหรูหรา ความสะดวกสบายและแตกต่าง นอกจากสิทธิประโยชน์ และส่วนลดในบริการต่างๆ

การเดินเข้ามาในตลาดของไทยพาณิชย์เท่ากับเข้ามาเบียดซิตี้แบงก์ที่ทำตลาดกลุ่มนี้มาก่อนแล้วหลายปีภายใต้บัตรที่ชื่อว่า ”แพลทินัม ซีเล็คท์”

“รุ่งเรือง” บอกว่า หากไม่ทำตลาดโดยดึงเซ็กเมนต์นี้ออกมาให้ชัดเจน จะไม่สามารถเอาใจลูกค้าได้ตามที่เขาต้องการ โจทย์ของไทยพาณิชย์คือ ต้องติดตามลูกค้าให้ได้ว่าชอบอะไร ด้วยกลยุทธ์การสร้าง Brand Loyalty และมีบริการที่ทำให้ลูกค้าประทับใจ และอยากใช้บริการซ้ำ เพราะไม่เช่นนั้นลูกค้าจะวอกแวกและหันไปสนใจถือบัตรอื่นแทน

แม้ความสำเร็จของบียอนด์ แพลทินัม คือประมาณ 1 ปีหลังเปิดตัว สามารถดึงลูกค้าในเซ็กเมนต์นี้ได้ประมาณ 50,000 ราย พอๆ กับซิตี้แบงก์ และมีส่วนแบ่งตลาดนี้ประมาณ 20% แต่ก็ไม่อาจประมาทได้ เพราะในฐานะผู้มาก่อนหลายปีอย่างซิตี้แบงก์คงไม่นิ่งเฉยแน่นอน

ค่ายซิตี้แบงก์ เก็บลูกค้าในกลุ่มวัยเริ่มทำงานมาแล้วอย่างเต็มที่ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นผู้บุกเบิกตลาดแพลทินัม และยิ่งกว่าแพลทินัมก่อนใคร ด้วยกลยุทธ์ที่ “วรลักษณ์ ตุลาภรณ์” ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารซิตี้แบงก์ บอกว่า ซิตี้แบงก์ใช้ส่วนผสมหลายอย่างในการทำตลาด ทั้งการสร้างแบรนด์ และสิทธิประโยชน์ในการทำตลาดทุกเซ็กเมนต์

สำหรับกลุ่ม ”ซีเล็คท์” มีแนวโน้มเติบโตสูง เพราะแต่ละปีกว่า 20% ของลูกค้าในกลุ่มแพลทินัมทั่วไป จะขยับขึ้นมาถือ “ซีเล็คท์” ซึ่งหมายถึงยอดการใช้จ่ายต่อบัตรของลูกค้าเพิ่มขึ้น ในหลักหลายหมื่นบาทต่อเดือน การแยกเซ็กเมนต์ชัดเจนเป็นซีเล็คท์เพื่อทำตลาดให้สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด นอกจากนี้ในอนาคตซิตี้แบงก์พยายามจะสื่อสารให้เรียกบัตรนี้เหลือเพียง ”ซีเล็คท์” ตามแนวโน้มในต่างประเทศ เพื่อความต่างจากบัตรแพลทินัมที่มีอยู่จำนวนมากในตลาด แต่ขณะนี้ยังต้องมีคำว่า ”แพลทินัม” เพราะคนไทยยังคุ้นเคยคำนี้

การบุกทำตลาดอย่างหนักของทั้งบียอนด์ แพลทินัม ของไทยพาณิชย์ และแพลทินัม ซีเล็คท์ ของซิตี้แบงก์ ต่างมาจากระบบการดูแลลูกค้าหรือซีอาร์เอ็มที่เตรียมพร้อมเรื่องเทคโนโลยี และการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการใช้บัตรของลูกค้ามานาน จนสามารถเสนอโปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษให้ลูกค้า แม้จะไม่ถึงขั้นคนต่อคน แต่ก็ใกล้เคียงมากที่สุด เมื่อตรงกับความต้องการจริง ก็เกิดความประทับใจ

“วรลักษณ์” สรุปได้ว่าลูกค้าระดับพรีเมียม หรือระดับไฮเอนด์นั้น ต้องการบริการที่ดี มีคุณภาพ และความคุ้มค่า เพราะกลุ่มนี้ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี หากทำได้จะทำให้ลูกค้าคุ้นเคยและเกิด Brand Loyalty ในที่สุด ต่างจากลูกค้าทั่วไปที่สนใจเรื่องส่วนลด และการสะสมแลกของมากกว่า นอกจากนี้สิ่งที่ซิตี้แบงก์มองคือไม่ทิ้งกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่เมื่อเขาเติบโต ก็จะกลายเป็นไฮเอนด์ในอนาคต

]]>
13444