นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ธนาคารปฏิวัติความคิดในการขายประกันผ่านแบงก์ (Bancassurance) โดยมองตัวเองเป็นผู้สร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้ามีความสุข และมีสุขภาพที่ดีบนชีวิตที่ยืนยาว ด้วยการเริ่มต้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ธนาคารจึงเสนอแผนประกันซึ่งช่วยปิดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพให้ลูกค้า ผ่านแผนประกันชีวิต ซีไอเอ็มบี ไทย เฮลท์ พลัส (CIMB Thai Health Plus) แผนประกันชีวิต ซึ่งโดดเด่นด้วยความคุ้มครองสุขภาพที่ครบครัน

ขณะเดียวกัน ธนาคารจะเชิญชวนลูกค้าเริ่มต้นวางแผนการเงินด้วยแบบสอบถาม “ติ๊ก-โชว์-รวย” ที่ทำง่าย สนุก แต่ช่วยจุดประกายการเริ่มต้นค้นหาตัวตน เพื่อนำไปสู่การเดินตามความฝันของตัวเองได้เป็นอย่างดี แบบสอบถาม “ติ๊ก-โชว์-รวย” มีวัตถุประสงค์เพื่อบอกนิสัยในการออมเงิน หลังจากลูกค้ารู้จักนิสัยเรื่องเงินๆทองๆของตัวเองแล้ว จึงเริ่มมองทางในการสร้างเกราะคุ้มครองเงินออม ว่าอยากได้ความคุ้มครองชีวิต ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล เก็บออมระยะยาว หรือสิทธิประโยชน์ภาษี

“คนเรามีชีวิตยืนยาวขึ้น แต่วิถีการใช้ชีวิตไม่ได้เอื้อให้สุขภาพดีมากขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพแพงขึ้นมาก ธนาคารจึงอยากเสนอให้ลูกค้าปิดความเสี่ยง ธนาคารเริ่มจะเปลี่ยนแนวคิด ในการมองตัวเองว่าทำอย่างไรจะให้ลูกค้าดูแลสุขภาพ ชีวิตยั่งยืน และสนุกกับชีวิตมากขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตรงกับความต้องการลูกค้ามากขึ้น เพราะการจะสนุกกับชีวิต ต้องมีทั้งเงิน และสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ธนาคารจะเริ่มจากค้นหาความต้องการของลูกค้าก่อน ผ่านกระบวนการสอบถามแล้วจึงหาผลิตภัณฑ์มาเสริมความต้องการของลูกค้า การวางแผนทางการเงินที่ดี คุณต้องค้นหาตัวตนตัวเอง มีแผนที่เหมาะสมกับความฝันของคุณ ธนาคารอยากให้ลูกค้ามีเวลาไปหาความสุข ให้รางวัลตัวเองและคนรอบข้าง” นายอดิศร กล่าว

น.ส.ดุษณี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออมและสินเชื่อมีหลักประกัน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า แผนประกันชีวิต ซีไอเอ็มบี ไทย เฮลท์ พลัส (CIMB Thai Health Plus) เป็นแผนประกันที่ออกแบบร่วมกันระหว่างธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และบริษัท ไทยประกันชีวิต ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างหลักประกันครอบครัวและเกราะคุ้มครองเงินออมหากเกิดเจ็บป่วย บาดเจ็บ หรือทุพพลภาพ โดยมีความโดดเด่นด้านสุขภาพที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมเรื่อง ค่ารักษาพยาบาล ความคุ้มครองอุบัติเหตุและฆาตกรรมลอบทำร้าย ตลอดจนค่าชดเชยรายวันกรณีพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในให้กับผู้เอาประกัน

สำหรับแผนประกันมี 3 แผนให้เลือกซื้อได้แก่ GOLD, PLATINUM และ PREFERED ด้วยจำนวนเงินเอาประกันภัย 150,000 บาท, 300,000 บาท และ 750,000 บาทตามลำดับ จุดเด่นที่ต่างจากที่อื่นๆคือ สัญญาความคุ้มครองค่าชดเชยรายวันที่จ่ายชดเชยถึง 20 เท่าของค่าชดเชยรายวันหากรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในจากโรคร้ายแรง ได้แก่ เอดส์ มะเร็ง ตับแข็ง โปลิโอ ถุงลมโป่งพอง กล้ามเนื้อเสื่อม การแข็งตัวของเนื้อเยื่อทั่วไป และหากต่อมาเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรงข้างต้นยังมีเงินทดแทน 200 เท่าของค่าชดเชยรายวันให้กับทายาทผู้รับประโยชน์ นอกจากนี้ ผู้เอาประกันยังอุ่นใจกับการเข้ารับบริการผ่านเครือข่ายบริการเมดิแคร์ กว่า 215 แห่ง ทั่วประเทศ

สำหรับผลประโยชน์และความคุ้มครอง กรณีมีชีวิตอยู่ รับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาลดหย่อนภาษีได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง บริษัท ไทยประกันชีวิต จะเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยให้อย่างต่อเนื่อง โดยผู้เอาประกันภัยยังได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดิมตามเงื่อนไขของสัญญาพิเศษเพิ่มเติมทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (เฉพาะภัยมาตรฐาน) ส่วนกรณีเสียชีวิต ผู้เอาประกันจะได้รับจำนเงินเงินเอาประกันภัย หรือเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ตามจำนวนที่มากกว่า

“ข้อมูลจากสำนักวิจัยและสถิติ บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด พบว่าปัจจุบันอัตราการเข้าถึงระบบประกันสุขภาพเอกชนยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และมีถึง 21% ของกลุ่มประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไม่มีประกันสุขภาพ โดยขนาดฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยภาพรวมผู้ให้บริการประกันสุขภาพยังไม่สามารถเข้าถึงคนไทยได้อีกเกือบ 40 ล้านคน ดังนั้นทางธนาคารได้เล็งเห็นโอกาสและคุณค่าในการสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับคนไทย และเห็นว่าการสร้างหลักประกันสุขภาพเป็นเรื่องจำเป็นขั้นพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้าม ทางธนาคารจึงขยายบริการทางงานเงินให้ครบวงจรมากขึ้น โดยคัดสรรเครื่องมือการออมที่มีประสิทธิภาพอย่างการประกันชีวิตภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ CIMB Thai Health Plus มาเพื่อบริการสร้างความอุ่นใจให้กับคนไทย” น.ส.ดุษณี กล่าว

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 2,966,533,592 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคารตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตรา 2 หุ้นใหม่ต่อ 9 หุ้นเดิม ในราคา 1 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 11-15 ตุลาคม 2553 นี้ โดยกลุ่มซีไอเอ็มบี ประเทศมาเลเซีย พร้อมเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนที่อยู่ในธนาคารจำนวน 93.15%

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 16 ของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2553 ได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,966,533,592 หุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท ต่อหุ้น ทั้งนี้ ธนาคารจะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร (Rights Offering) ในอัตรา 2 หุ้นใหม่ต่อ 9 หุ้นเดิม ที่ราคา 1 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ธนาคารได้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคารตามสัดส่วนการถือหุ้นในวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2553 ( Record Date ) และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันอังคารที่ 28 กันยายน 2553 และกำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่างวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2553 ถึงวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2553 โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ทุนจดทะเบียนของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 8,157,967,378 บาท จากปัจจุบัน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 6,674,700,582 บาท และหากมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายเหลือจากการเสนอขายตามสิทธิ ให้นำหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือดังกล่าวไปจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายที่จองเกินสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นจนกว่าหุ้นดังกล่าวจะหมด

นายสุภัคยังกล่าวว่า การเพิ่มทุนของธนาคารในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจและการเติบโตของธนาคารในอนาคต นอกจากนี้ ทางกลุ่มซีไอเอ็มบี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้แจ้งถึงความพร้อมในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารตามสัดส่วน ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ต้องการจะสร้างความเติบโตให้กับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ตลอดจนแสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารสามารถพลิกกลับมามีกำไรครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2552 จำนวน 1.7 ล้านบาท หลังจากที่มีผลขาดทุนตลอด 3 ปีก่อนหน้านี้ อีกทั้งในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 ก็มีกำไรสูงถึง 714 ล้านบาท ดังนั้นจึงเชื่อว่าการขายหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ถือหุ้นปัจจุบันอย่างแน่นอน

นางสาวดุษณี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการทางการเงิน พร้อมช่วยแบ่งเบาภาระรายเดือนของลูกค้า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จึงได้ออกแคมเปญ สินเชื่อบุคคล เพอร์ซันนัลแคช เอ็กซ์ตร้าลอง (PersonalCash Xtra Long) ที่ให้ลูกค้าผ่อนแบบสบายๆ นานสูงสุดถึง 84 เดือน และผ่อนคลายยิ่งขึ้นกับอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก สำหรับระยะเวลากู้ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พร้อมฟรี ค่าธรรมเนียมดำเนินการสินเชื่อ และค่าอากรแสตมป์อีกด้วย สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อบุคคลดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้เท่านั้น

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีบริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคลใหม่ในรูปแบบวงเงินหมุนเวียน สมัครครั้งเดียว รับเงินสดติดตัวตลอดไป ไม่มียอดเบิกใช้ไม่คิดดอกเบี้ย ด้วย สินเชื่อ ExtraCash ในรูปแบบของบัตรกดเงินสด (บัตรเอ็กซ์ตร้าแคช) ที่เพิ่มความสะดวกสบายและความคล่องตัวให้แก่ลูกค้าสามารถเบิกใช้เงินสดได้สูงสุดวันละ 100,000 บาท จากเครื่องเอทีเอ็มของทุกธนาคารทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเบิกเงินสดแต่อย่างใด

“ที่ผ่านมา ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าผู้ที่ต้องการใช้บริการสินเชื่อบุคคลกับธนาคารอีกด้วย” นางสาวดุษณีกล่าว

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการขอใช้บริการสินเชื่อบุคคลกับธนาคาร เพียงเป็นผู้มีรายได้ประจำต่อเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถขอรับสินเชื่อได้สูงถึง 5 เท่าของรายได้ หรือสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยไม่ต้องมีบุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอื่นๆ ได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือ CIMB THAI Care Center หรือ โทร 02-626-7777 กด 0

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เสนอชุดเงินออมสบายใจ เพียงลูกค้าซื้อประกันชีวิต CIMB Express Savings (12/7) ด้วยวงเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำเพียง 30,000 บาท รับสิทธิ์เปิดบัญชีเงินฝากประจำ 7 เดือนกับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในวงเงินสูงสุด 5 เท่าของวงเงินเอาประกันภัย พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษ 2.5 % ต่อปี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ

นางสาวดุษณี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางพิเศษ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ “ชุดเงินออมสบายใจ” เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนให้แก่ลูกค้า โดยลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิต CIMB Express Savings 12/7 ในวงเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำเพียง 30,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามารถใช้สิทธิ์เปิดบัญชีเงินฝากประจำ 7 เดือน กับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในวงเงินสูงสุด 5 เท่าของวงเงินเอาประกันภัย เริ่มต้นที่ 30,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษ 2.5 % ต่อปี โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่สามารถได้รับสิทธิ์เปิดบัญชีเงินฝากประจำดังกล่าว จะต้องเป็นบุคคลธรรมดา อายุไม่เกิน 70 ปี

“สำหรับลูกค้าชุดเงินออมสบายใจ ที่ได้รับสิทธิ์ในการเปิดบัญชีเงินฝากประจำ 7 เดือน กับธนาคาร สามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้มากกว่า 1 รายการ ภายใน 30 วัน และภายในสาขาเดียวกัน นับจากวันที่ซื้อประกัน โดยยอดเงินฝากรวมทุกรายการจะต้องไม่เกินวงเงินฝากสูงสุดที่ธนาคารกำหนดไว้” นางสาวดุษณีกล่าว

ทั้งนี้กรมธรรม์ CIMB Express Saving 12/7 จะมอบความคุ้มครองเป็นระยะเวลา 12 ปี โดยที่ลูกค้าชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 7 ปี นอกจากนี้ ผู้เอาประกันภัยยังจะได้รับผลประโยชน์รวมจากกรมธรรม์สูงถึง 759% ของวงเงินเอาประกันภัย พร้อมกันนี้เบี้ยประกันภัยสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ หรือ CIMB Thai Care Center โทร.02-626-7777 กด 0

จากภาพ : นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด CIMB ATM Regional Link

กรุงเทพฯ: กลุ่มธนาคารซีไอเอ็มบีเปิดให้บริการ CIMB ATM Regional Link เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ ผู้ถือบัตรเอทีเอ็มของกลุ่มธนาคาร ซีไอเอ็มบี ในการทำธุรกรรม ถอนเงินสดสกุลเงินต่างประเทศ ข้ามพรมแดน ใน 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในขณะนี้กลุ่มธนาคาร ซีไอเอ็มบี ได้เปิดให้บริการ CIMB ATM Regional Link ซึ่งเป็นบริการถอนเงินสดข้ามประเทศ ตลอดจนการเช็คสอบยอดบัญชีคงเหลือ โดยผู้ถือบัตรเอทีเอ็มของกลุ่มธนาคารซีไอเอ็มบี สามารถทำธุรกรรมทางการเงินข้ามพรมแดนได้ผ่านเครื่องเอทีเอ็ม 3,750 เครื่อง ใน 4 ประเทศของเครือข่ายสมาชิกกลุ่มธนาคาร ซีไอเอ็มบี ซึ่งประกอบด้วย ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และประเทศไทย โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ

“บริการ CIMB ATM Regional Link นั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของกลุ่มซีไอเอ็มบี และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในการยกระดับการทำธุรกรรมทางการเงินแบบครบวงจร ภายใต้เป้าหมายการเป็นธนาคารครบวงจรที่มีคุณค่ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะนับตั้งแต่นี้ไป ลูกค้าผู้ถือบัตรเอทีเอ็มของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่ต้องเดินทางไปในประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย จะสามารถถอนเงินสด หรือสอบถามยอดบัญชีผ่านทางเครื่องเอทีเอ็มได้ฟรีโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ“ นายสุภัค กล่าว

นายสุภัค ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เงินสดที่ลูกค้าถอนรวมถึงยอดเงินที่สอบถาม จะคิดเป็นสกุลเงินของประเทศที่เดินทางไป เช่น หากลูกค้าเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ก็สามารถถอนเงินสด เป็นสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย ขณะเดียวกันยอดเงินบัญชีคงเหลือที่ปรากฏในหน้าจอเครื่องเอทีเอ็ม จะเป็นสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย และหากลูกค้าอยู่ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ยอดเงินที่ปรากฏจะเป็นสกุลเงินรูเปียอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าจะสะดวกต่อการเดินทางสำหรับลูกค้าอย่างแน่นอน

“นี่คือหนึ่งตัวอย่างบริการที่เราสามารถนำเสนอให้แก่ลูกค้าของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในฐานะที่ขณะนี้เราได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มซีไอเอ็มบี ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารผู้ให้บริการแบบครบวงจรในระดับภูมิภาคที่มีเครือข่ายสาขามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 1,150 สาขา” นายสุภัคกล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ CIMB Thai Care Center โทร.02-626-7777 กด 0

นายสุรชัย จิตตรัตน์เสนีย์ (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และนาย ซุง ชุน ปาร์ค (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท จินยัง ไวร์โรป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลวดให้กับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในยุโรป ได้ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม128.78 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และใช้จัดซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิต รวมถึงใช้ในการก่อสร้างโรงงานหลังใหม่ ณ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สำนักงานใหญ่ ถนนหลังสวน เมื่อเร็วๆนี้

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศแต่งตั้งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ 2 ตำแหน่ง เพื่อดูแลงานในด้านสายงาน Transaction Banking และสายงานธุรกิจรายย่อย

ทั้งนี้ ผู้บริหารทั้งสองท่าน ประกอบด้วยนางวดาภรณ์ เตชะสุวรรณา ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีมการตลาดธุรกิจระหว่างประเทศ สายงาน Transaction Banking และนางสาวดุษณี เกลียวปฏินนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางพิเศษ สายธุรกิจรายย่อย โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นางวดาภรณ์ เตชะสุวรรณา อายุ 55 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ด้านการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยก่อนหน้านี้ได้ดำรงตำแหน่ง Executive Vice President, Head of Trade Finance Department สายงานธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โดยก่อนหน้านั้นเคยดำรงตำแหน่งสำคัญที่ธนาคารชั้นนำ อาทิ Citibank, Chase Manhattan Bank และ UOB ตามลำดับ

ด้านนางสาวดุษณี เกลียวปฏินนท์ ปัจจุบันอายุ 44 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ (MBA) จาก Drexel University Philadelphia, P.A., สหรัฐอเมริกา โดยก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เคย ดำรงตำแหน่ง Marketing and Sales Director, Home Mortgage Department บริษัท เงินทุน จีอี มันนี่ จำกัด (มหาชน) และ senior vice president, Wealth Product Division, ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน)

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ร่วมกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดตัวบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทางเลือกใหม่ “ซีไอเอ็มบี ไทย แอร์เอเชีย เซฟเวอร์” (CIMB Thai AirAsia Savers Account) บัญชีเงินฝากออมทรัพย์แบบออนไลน์ ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งให้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่สูงกว่าอัตราปกติพร้อมด้วยสิทธิในการรับคืนเงินสดและสิทธิในการแลกรับตั๋วเครื่องบิน

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ออนไลน์ “ซีไอเอ็มบี ไทย แอร์เอเชีย เซฟเวอร์” (CIMB Thai AirAsia Savers Account) ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างธนาคารกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย และยังนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ความเป็นธนาคารระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนการประสานพลัง (synergy) ระหว่างกลุ่มซีไอเอ็มบี ในด้านทีมงาน ประสบการณ์ และความรู้ร่วมกันผ่านข้ามพรมแดน โดยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2552 ที่ผ่านมา ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ประเทศมาเลเซีย และสายการบินแอร์เอเชีย ได้ร่วมมือกันนำเสนอบัญชีเงินฝากที่มีลักษณะนี้ให้แก่ลูกค้าของธนาคารซีไอเอ็มบีมาแล้วเช่นกัน

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ “ซีไอเอ็มบี ไทย แอร์เอเชีย เซฟเวอร์” (CIMB Thai AirAsia Savers Account) นอกจากจะได้มอบความสะดวกรวดเร็วในการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบออนไลน์ CIMB Thai I-Banking และผ่านบัตร CIMB Thai ATM รวมทั้ง Phone Banking 0-2626-7777 แล้ว ยังจะได้รับสิทธิพิเศษอีกมากมาย ทั้งจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทยและสายการบินไทยแอร์เอเชีย โดยบัญชีเงินฝากที่มียอดเงินคงเหลือเฉลี่ยในแต่ละไตรมาสทุกๆ 30,000 บาท จะได้รับคะแนน 1 คะแนน เพื่อใช้ในการลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินและ E-Voucher จากสายการบินไทยแอร์เอเชีย ตามแคมเปญที่กำหนด ตลอดจนสิทธิพิเศษด้านอัตราดอกเบี้ยและรับเงินสดคืนจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย รวมถึงได้รับการแจ้งเตือนโปรโมชั่นใหม่ล่วงหน้าจากสายการบินไทยแอร์เอเชีย ซึ่งจะทำให้คุณมีสิทธิ์คว้าโอกาสที่จะได้รับบัตรโดยสารราคาพิเศษก่อนใคร ช่วยเพิ่มสีสันในการเดินทางให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ผู้ที่สนใจเพียงเปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท พร้อมทั้งสมัครใช้บริการ ATM และ CIMB Thai อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งก็สามารถเปิดใช้บริการเงินฝาก “ซีไอเอ็มบี ไทย แอร์เอเชีย เซฟเวอร์” (CIMB Thai AirAsia Savers Account) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ตรงตามความต้องการมากที่สุดจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ซึ่งครอบคลุมไปถึงการได้รับความสะดวกด้านการใช้จ่ายในประเทศต่างๆ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเครือข่ายสาขาของกลุ่มซีไอเอ็มบีอีกด้วย   

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ และ CIMB Thai Care Center 0-2626-7777 กด 0 และสมัครใช้บริการ CIMB Thai I-Banking รวมถึงเสนอขอรับสิทธิในการใช้คะแนนแลกรับของรางวัลจากสายการบินแอร์เอเชีย ได้ที่ http://ebanking.cimbthai.com

บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“ศรีอยุธยาประกันภัย”) และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) (“ซีไอเอ็มบีไทย”) ได้ร่วมกันประกาศว่าทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการที่บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะเข้าซื้อหุ้นจำนวน 99.99% ใน บริษัท บีทีประกันภัย จำกัด (“BTI”) จากธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย ณ ราคาอ้างอิงขั้นต้นที่ 392 ล้านบาท และจะกำหนดราคาขายสุดท้ายในวันปิดธุรกรรมซื้อขายหุ้น ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่จะกำหนดปรับเปลี่ยนในสัญญาซื้อขายการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2553 นี้

การเห็นพ้องต้องกันในการขายกิจการครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัยจะลงนามในข้อตกลงทางธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ประกัน (Bancassurance) อายุสัญญา 10 ปี กับ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เพื่อให้ธนาคารเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยของบริษัทบีที ประกันภัย และบริษัทศรีอยุธยาประกันภัย โดยผ่านสาขาต่างๆของธนาคาร ทั่วประเทศ

มร. โรวัน ดี อาซี่ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า“คณะกรรมการของบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการเข้าซื้อกิจการของบริษัท บีทีประกันภัย การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้สถานะในตลาดของบริษัทศรีอยุธยาประกันภัย แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ได้รับประโยชน์ทางธุรกิจที่ยังคงมีอยู่มากในตลาดการประกันวินาศภัยในประเทศไทย”

มร. โรวัน ดี อาซี่ กล่าว “ในปัจจุบันจะเห็นได้จากอัตราการทำประกันวินาศภัยของประเทศไทยว่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชีย อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวและนโยบายของภาครัฐที่จะสนับสนุนให้มีการทำประกันภัยผ่านมาตรการต่างๆมากมาย บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าจะทำให้ธุรกิจประกันภัยของไทยมีอนาคตที่สดใส ดังนั้น บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทประกันภัยรายแรกๆที่ใช้โอกาสทางธุรกิจดังกล่าวมาเสริมความแข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะทำให้บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจประกันวินาศภัยซึ่งเราประสบความสำเร็จอยู่แล้วได้ในทันที”

ด้านนายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย การขายกิจการดังกล่าว สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในระดับภูมิภาคของกลุ่มซีไอเอ็มบี ซึ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากความรู้ความเชี่ยวชาญของบริษัทประกันภัยชั้นนำในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งใช้ศักยภาพเครือข่ายของธนาคารให้เป็นจุดจำหน่าย ธนาคารจะเน้นการใช้ศักยภาพของธนาคารในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยใหม่ๆอันหลากหลายแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายสาขากว่า 147 แห่งทั่วประเทศ” นายสุภัคกล่าว

นายสุภัคยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าที่ผ่านมาบริษัทบีที ประกันภัย จะเป็นบริษัทที่มีผลกำไรและมีการบริหารจัดการที่ดี แต่ด้วยกฎระเบียบที่เคร่งครัดมากขึ้นรวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นในอุตสาหกรรมประกันภัย เชื่อว่ากิจการที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขยายธุรกิจได้ ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจของบริษัท บีทีประกันภัย จึงมีความเหมาะสมกับกิจการที่มีความแข็งแกร่งอย่างบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย อีกทั้งบริษัทศรีอยุธยาประกันภัยซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และยังเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการประกันวินาศภัยชั้นนำมานานถึง 60 ปีอีกด้วย ธนาคารจึงมั่นใจว่าจะได้พันธมิตรทางธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ประกัน (Bancassurance) ที่แข็งแกร่ง”

อย่างไรก็ตาม ทั้งบริษัทศรีอยุธยาประกันภัย และบริษัท บีทีประกันภัย จะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปตามปกติจนกว่าขั้นตอนการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆตามกรมธรรม์ประกันภัยทั้งหมดของบริษัทจะยังคงเป็นไปตามที่ได้ตกลงไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหลักเกณฑ์การเรียกร้องและชดเชยค่าเสียหายต่างๆแต่อย่างใด โดยลูกค้าซึ่งมีกรมธรรม์ที่จะครบกำหนดจะได้รับการติดต่อจากผู้จัดการหน่วยที่ดูแลลูกค้าเพื่อการต่ออายุหรือการโอนย้ายกรมธรรม์ หรือสามารถติดต่อสายด่วน ที่ 02-657-1672

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะต้องเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยและผู้ถือหุ้นของบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

มร. ดี อาซี่ ยังกล่าวอีกว่า “การเข้าซื้อกิจการนี้จะช่วยให้ทั้ง บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย และ บริษัท บีทีประกันภัย สามารถผสมผสานจุดแข็งของกันและกันได้ดียิ่งขึ้น และช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และการบริการอันหลากหลายได้ง่ายมากขึ้น บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้นแก่นักลงทุนและก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมระหว่างผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม”

เกี่ยวกับ บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)
บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2493 โดยเป็นบริษัทประกอบธุรกิจทางด้านการรับประกันภัยต่อบุคคลทั่วไปได้แก่ การรับประกันอัคคีภัย การรับประกันภัยทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยเบ็ดเตล็ด รวมทั้งการประกันภัยรถยนต์ ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 18 สาขา และมีพนักงาน 350 คนในประเทศไทย ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 บริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารดีเด่น อันดับ 1 ติดต่อกันสองปีซ้อนประจำปี 2550 และ 2551 จาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และได้รับรางวัลบริษัทประกันวินาศภัยที่มีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ดีที่สุด (Best Product Innovation) ประจำปีจาก หอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย ในปี พ.ศ. 2552

เกี่ยวกับซีไอเอ็มบีไทย
ซีไอเอ็มบีไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย มีเครือข่ายสาขา 147 สาขาทั่วประเทศและให้บริการทางการเงินที่หลากหลายทั้งแก่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบรรษัท นอกจากนี้ ยังให้บริการที่ปรึกษาแก่กิจการธุรกิจ การซื้อขายหุ้น ธุรกิจกองทุนรวม การบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยผ่านบริษัทในเครือต่างๆ

ซีไอเอ็มบีไทย เดิมชื่อ ไทยธนาคาร ได้เป็นส่วนหนึ่งของซีไอเอ็มบีกรุ๊ปในปี 2552 หลังจากซีไอเอ็มบีกรุ๊ปเข้าถือหุ้นร้อยละ 93.15 ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ซีไอเอ็มบีไทยมีสินทรัพย์รวมและส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 126,000 ล้านบาทและ 7,700 ล้านบาทตามลำดับ