ธุรกิจโรงพยาบาล – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 31 Oct 2025 05:15:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “เกษมราษฎร์” ลงทุนใหญ่ 5-6 พันล้านบาท ปั้น 4 รพ.ใหม่ หนุนรายได้โต 10% ต่อปี https://positioningmag.com/1544956 Fri, 31 Oct 2025 04:15:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1544956 ที่ผ่านมาธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน เติบโตแบบ Double Digit จากเทรนด์สุขภาพมาแรง หนึ่งในผู้เล่นใหญ่ของตลาด “รพ.เกษมราษฎร์” ซึ่งได้เปิดยุทธศาสตร์ใหญ่ลงทุนระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2568 – 2571) ขยายเครือข่าย รพ. ต่อเนื่อง!

ลงทุน 5-6 พันล้านบาท เปิด 4 รพ.ใหม่

กันตพร หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และ กรรมการ บริษัท บางกอก เชน ฮอส    ปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนราว 5,000 – 6,000 ล้านบาท ขยาย โรงพยาบาลให้ครบ 20 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 16 แห่ง เพื่อเพิ่มการเติบโตให้บริษัท

เบื้องต้น วางแผนสร้างโรงพยาบาลใหม่ 4 แห่ง ปัจจุบันได้ที่ดินแล้ว 3 แห่ง (อีก 1 แห่งอยู่ระหว่างพิจารณา) ได้แก่

1.รพ.เกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ (บริเวณบางพลี) งบลงทุน 1,650 ล้านบาท พื้นที่ 25 ไร่ เริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ คาดเปิดให้บริการราวปี 2570 กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยกลุ่มประกันสังคม

2.รพ.เกษมราษฎร์ ระยอง มูลค่า 1,480 ล้านบาท ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ ศาลากลางจังหวัดระยอง เริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ คาดเปิดบริการปี 2570 กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยกลุ่มประกันสังคม

3.รพ.เวิลด์ เมดิคอล พัทยา มูลค่า 2,000 – 3,000 ล้านบาท บริเวณติดถนนสุขุมวิท วางโพสิชันนิ่งให้เป็น    โรงพยาบาลรับลูกค้ากลุ่มอินเตอร์ฯ คาดเปิดบริการปี 2571-2572

“เราคาดว่า จะใช้เวลาก่อสร้างราว 720 วัน ช่วงเปิดเฟสแรกจะทำประมาณ 100 เตียง แต่ รพ.ใหม่ทุกแห่ง สามารถขยายได้เต็มศักยภาพที่ 200 – 300 เตียง พร้อมมีพื้นที่เหลือสำหรับขยายตึกได้อีกด้วย ส่วนการขยาย รพ. เพิ่มในต่างประเทศ ยังไม่มีแผนชัดเจน แต่ถ้าจะไปจริง ๆ มองพื้นที่ฝั่งลาวใต้ อาทิ ปากเซ จากปัจจุบันมี รพ. ในลาว 1 แห่งแล้วที่เวียงจันทน์”

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ

สำหรับในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2568 BCH มีรายได้รวม 5,974 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และกำไรสุทธิ 709.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% (YoY)

สัดส่วนรายได้หลักมาจากประกันสังคม 30-40% และ 60-70% เป็นลูกค้ากลุ่มเงินสด ในจำนวนนี้เป็นประกันราวครึ่งหนึ่ง ส่วนอีก 5-7% เป็นลูกค้าต่างชาติ

“ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 12,000 ล้านบาท ส่วนปี 2569 ตั้งเป้าไว้ที่ 13,000 ล้านบาท คาดว่ารายได้จะเติบโตไว้ที่ปีละ 10-12% ส่วนเป้ารายได้ทะลุ 20,000 ล้านบาท ประเมินว่าจะทำได้เมื่อมีการขยาย รพ. ครบ 25 แห่ง“

ผู้บริหารเกษมราษฎร์
กันตพร หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และ กรรมการ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH

คูเวตหาย รอเจรจาปลายปีนี้ ด้าน รพ.เอกชนต่างจังหวัด แห่เสนอดีล M&A

กันตพร กล่าวว่า เมกะเทรนด์ในอนาคต ธุรกิจสุขภาพ ยังคงมาแรง เพราะคนอายุยืน แต่ก็เป็นโรคเรื้อรังมากขึ้น หนุนการรักษาใน รพ. สูงขึ้น ขณะที่คนไม่ป่วยก็มีแนวโน้มเข้า รพ. สูงขึ้น จากกระแสรักษาสุขภาพเชิงป้องกัน โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z

ส่วนกลุ่มที่หดตัวลง จะเป็นลูกค้าต่างชาติในบางประเทศ คือ “คูเวต” ลูกค้าใหญ่สุดในพอร์ตฯ ตะวันออกกลาง หายไปประมาณ 1 ปีครึ่ง จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายส่งออกผู้ป่วยจากรัฐบาลคูเวต ทำให้รายได้ส่วนนี้ลดลงประมาณ 60 ล้านบาท/เดือน

อย่างไรก็ดี ช่วงปลายปี 2568 รัฐบาลคูเวตเตรียมหารือฟื้นฟูความร่วมมือกับ 8 รพ.เอกชนในไทย ซึ่ง BCH เป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อถามถึงประเด็น M&A กันตพร กล่าวว่า ปัจจุบันมี รพ.เอกชน ในพื้นที่ต่างจังหวัดได้เข้ามาเสนอดีลกับ BCH และกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาเช่นกัน

“แม้ธุรกิจ รพ.เอกชน จะเติบโต แต่คู่แข่งเข้ามาไม่ง่าย ด้วยเป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับชีวิต ทำให้ต้องอาศัยความเชื่อมั่นจากผู้ป่วย และต้องใช้เวลา 8 ปีในการคืนทุน”

รพ.เกษมราษฎร์ เวียงจันทน์

คอแลบส์ร้านอาหารสุขภาพชื่อดัง รุกหนักอาหารเสริม

ขณะที่อีกแผนใหญ่ คือ การแตกไลน์ทำธุรกิจอาหารเสริมเต็มตัว โดยปลายปี 2567 BCH ได้เข้าลงทุนถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS ผู้ผลิตอาหารเสริมสมุนไพรไทยรายใหญ่

โดยเตรียมคอแลบส์กับ ร้านอาหารสุขภาพชื่อดัง เปิดตัวธุรกิจอาหารเสริม นำร่องกลุ่มโปรตีน คาดลอนช์สินค้าประมาณไตรมาส 1 ปี 2569 วางทาร์เก็ตกลุ่มระดับกลาง ราคาประมาณ 500-600 บาท

ทั้งนี้ พาร์ตเนอร์ร้านอาหาร มีจุดแข็งเรื่องซัพพลายสินค้าออแกนิก ส่วน BCH เป็นธุรกิจโรงพยาบาลมีจุดแข็งด้านการรักษาสุขภาพและความน่าเชื่อถือ

“ธุรกิจอาหารเสริม เติบโตสูงมาก คาดว่าปี 2569 จะมีมูลค่าแตะ 90,000 ล้านบาท โดยเฉพาะเซกเมนต์โปรตีนและไฟเบอร์ โปรไบโอติก ขยายตัวสูงสุด ทำให้เราตัดสินใจเข้ามารุกธุรกิจนี้”

]]>
1544956
“กัมพูชา” แห่รักษาโรงพยาบาลไทยสูงสุด “พญาไท 1” ครองแชมป์ เปิดโซนอินเตอร์เจาะต่างชาติ https://positioningmag.com/1240121 Tue, 23 Jul 2019 12:49:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1240121 โรงพยาบาลเอกชนถือเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มคนไทยจากการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยและลูกค้าต่างประเทศจากนโยบาย Medical Tourism ของภาครัฐ รวมทั้งความเชื่อมั่นด้านการรักษาของแพทย์ไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่าปี 2561 มีคนไข้ชาวต่างชาติมาใช้บริการรักษาพยาบาลประมาณ 3.42 ล้านครั้ง โดยกลุ่มคนไข้หลักคือชาวเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น เมียนมา และจีน

ดร.นพ. เกริกยศ ชลายนเดชะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 1 กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลในประเทศไทยมีลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางสะดวกและใช้เวลาไม่นาน สัดส่วนลูกค้าของพญาไท 1 เป็นกลุ่มคนไทย 65% และต่างชาติ 35% ในจำนวนนี้ 80% มาจากประเทศกัมพูชา รองลงมา คือ เมียนมา อาเซียน ยุโรป อเมริกา และจีน ปี 2561 จำนวนลูกค้าต่างประเทศเติบโต 8.6% และคาดว่าในปี 2562 จะขยายตัว 10%

ดร.นพ. เกริกยศ ชลายนเดชะ

“กัมพูชา” ใช้บริการ รพ.ไทยอันดับ 1

สำหรับลูกค้ากัมพูชา ที่เป็นตลาดต่างชาติอันดับ 1 ของโรงพยาบาลพญาไท 1 เป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง เดินทางเข้าไทยโดยรถยนต์ 50% ผ่านด่านคลองลึก ใช้เวลาราว 2.30 ชั่วโมงถึงกรุงเทพฯ และเดินทางโดยเครื่องบิน 50% ส่วนใหญ่เดินทางเข้ามารักษาทุกโรค สัดส่วนมากสุดคือโรคที่โรงพยาบาลพญาไท 1 เชี่ยวชาญ คือ โรคหลอดเลือดสมองและมะเร็ง

ปีที่ผ่านมามูลค่าด้านเฮลท์แคร์ของกัมพูชามีมูลค่า 25,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้พบว่าเป็นการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไทย 4,000 ล้านบาท ซึ่งไทยถือเป็นอันดับ 1 ของประเทศที่ชาวกัมพูชาเดินทางมาใช้บริการโรงพยาบาล จากเดิม “เวียดนาม” เป็นอันดับ 1 ขณะที่ พญาไท 1 เป็นโรงพยาบาลที่ลูกค้าชาวกัมพูชามาใช้บริการรักษาโรคมากที่สุดในประเทศไทย

จากแนวโน้มการขยายตัวของลูกค้าต่างประเทศดังกล่าวโรงพยาบาลจึงพัฒนาพื้นที่ International Zone ขึ้นมารองรับลูกค้าต่างชาติที่ต้องการ การรักษาโรคกลุ่มที่มีความซับซ้อน และโรคเฉพาะทาง (Innovative Product) สำหรับลูกค้ากัมพูชาจะมี International Lounge ให้บริการพิเศษ มีคอลเซ็นเตอร์และพยาบาลพูดภาษากัมพูชา สำหรับสอบถามข้อมูลและติดตามอาการ

“พญาไท 1 มีรายได้จากลูกค้ากัมพูชามากที่สุด และสูงกว่าโรงพยาบาลไทยที่ไปเปิดสาขาในกัมพูชา จึงไม่มีแผนเข้าไปเปิดโรงพยาบาลในกัมพูชา เพราะระยะเวลาเดินทางมาไทยไม่นาน ทั้งทางรถยนต์และเครื่องบิน ชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการรักษาของแพทย์ไทยและต้องการเดินทางมาใช้บริการในไทย”

ปรับโครงสร้าง 3 เครือข่ายโรงพยาบาล PMC

ปัจจุบันได้ปรับโครงสร้างเครือข่ายโรงพยาบาล 3 แห่ง คือ พญาไท 1, พญาไท 2 และ เปาโล พหลโยธิน รวม 1,000 เตียง ที่อยู่ในทำเลใกล้กันให้เป็นรูปแบบ Phayathai Medical Campus หรือ PMC โดยวางนโยบายพัฒนานวัตกรรมและบริการสุขภาพสู่การเป็น State of the Art ที่เป็นมาตรฐานระดับโลก ตามความเชี่ยวชาญของแต่ละโรงพยาบาล

โดย พญาไท 1 เป็นศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งมีบริการ Mobile stroke unit คันแรกของประเทศไทย ที่สามารถตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง และให้การรักษาในรถฉุกเฉินได้ตั้งแต่หน้าบ้านผู้ป่วย รวมถึงระบบการดูแลผู้ป่วย 24 Hours Stroke Fast Track ตลอดจนได้นำแนวทางการดูแลผู้ป่วย stroke ที่เป็นสากล (International guideline for acute stroke) มาใช้ในกระบวนการดูแลผู้ป่วย

Mobile stroke unit คันแรกในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง โดยใช้วิธีรักษารูปแบบ Precision Medicine การตรวจยีนส์เพื่อหาเซลล์ผิดปกติ เพื่อการรักษาที่แม่นยำ โดยจะมีการจัดตั้งแล็บ ร่วมกับมหาลัยในสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย เพื่อตรวจสอบยีนส์และทำการรักษา การจัดตั้งแล็บในประเทศไทยจะทำให้การรักษามีค่าใช้จ่ายลดลง 30%

ลงทุนอาคารใหม่ 17 ชั้นกว่าพันล้าน

ปัจจุบันโรงพยาบาลพญาไท 1 มี 3 อาคารรองรับผู้ป่วย 220 เตียงทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 1,500 รายต่อวัน เฉลี่ยมีผู้ป่วย 40,000 รายต่อเดือน มีศูนย์ทางการแพทย์ 26 ศูนย์ กลางปีหน้าจะลงทุนสร้างอาคารแห่งใหม่ ความสูง 17 ชั้น ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท มากที่สุดในรอบ 43 ปี คาดแล้วเสร็จปี 2565 หลังจากเปิดให้บริการอาคารใหม่ จะมีจำนวนเตียงรวม 350 เตียง

โดยมีศูนย์การรักษาด้านอายุรศาสตร์ประสาทวิทยาครบวงจรที่มีมาตรฐานระดับโลก ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการเป็นศูนย์โรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร Comprehensive Stroke Center สู่การเป็น State of the Art of Neurology หรือศูนย์การรักษาโรคทางด้านสมองและประสาทวิทยาที่มีคุณภาพระดับโลก.

]]>
1240121
เปิด “อูเบอร์ เฮลท์” บริการรับส่งผู้ป่วยแบบ B2B https://positioningmag.com/1159836 Sat, 03 Mar 2018 06:00:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1159836 เป็นการมองเห็นช่องว่างในตลาดที่น่าสนใจอีกครั้งหนึ่งของ อูเบอร์ (Uber) กับการเปิดตัว อูเบอร์ เฮลท์ (Uber Health) บริการรับส่งผู้ป่วยแบบ B2B สำหรับช่วยธุรกิจโรงพยาบาล สถานพักฟื้น หรือศูนย์สุขภาพต่าง ๆ ให้สามารถเรียกรถจากอูเบอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของตัวเองได้ โดยที่ฝั่งของผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชันอูเบอร์แต่อย่างใดด้วย

สำหรับการเกิดขึ้นของอูเบอร์ เฮลท์ มาจากข้อมูลชุดหนึ่งที่พบว่า ผู้ป่วยชาวอเมริกัน 3.6 ล้านคน ไม่มาตามที่หมอนัดดูอาการ เนื่องจากขาดแคลนบริการรถรับส่ง หรือมีรถรับส่ง แต่ไม่สามารถไว้วางใจได้ การดูแลผู้ป่วย หรือการติดตามผลในการตรวจรักษาจึงไม่ต่อเนื่อง คิดเป็นความเสียหายในระบบสุขภาพถึง 150 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เป้าหมายของอูเบอร์ เฮลท์ คือ การลดสถิติผู้ป่วยที่ไม่มาพบแพทย์ตามนัดให้น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ 

ส่วนการใช้งานนั้น จะเป็นศูนย์สุขภาพ หรือโรงพยาบาลเป็นผู้จองรถอูเบอร์ให้ โดยจะมีการระบุชื่อคนป่วย จุดที่ให้ไปรับ ประเภทของรถที่เหมาะสม ส่วนคนไข้ก็จะได้รับข้อความที่ระบุว่า สถาบันการแพทย์ หรือคลินิกต่าง ๆ มีการจองรถให้แล้ว พร้อมกับแจ้งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง URL ที่เชื่อมโยงไปยังแผนที่ออนไลน์ โดยจะแสดงผลให้ทราบว่า รถคันที่กำลังมารับนั้นอยู่ ณ จุดใดแล้ว และจะมาถึงเราเมื่อไร เป็นต้น

ส่วนของโมเดลธุรกิจอูเบอร์ เฮลท์ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยอูเบอร์จะคิดค่าบริการจากลูกค้าเฉพาะค่าเดินทางส่วนบุคคลเท่านั้น ส่วนการใช้แดชบอร์ด และเครื่องมือในการรายงานนั้นมีให้บริการฟรี ปัจจุบัน อูเบอร์มีองค์กรด้านสุขภาพอยู่ในแพลตฟอร์มแล้วมากกว่า 100 ราย และยังสามารถเชื่อมต่อ API กับระบบหลังบ้านขององค์กรเหล่านั้น เพื่อนำเซอร์วิสของอูเบอร์ไปใช้งานได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม อูเบอร์บอกว่า อูเบอร์ เฮลท์ นี้จะไม่เข้ามาทดแทนบริการรถพยาบาลฉุกเฉินแต่อย่างใด.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000021040

]]>
1159836