ถือเป็นการจับมือแบบ วิน-วิน ระหว่าง ผู้ให้บริการรับส่งพัสดุ และร้านสะดวกซื้อ ที่จะร่วมมือกันในการเปิดจุดให้บริการรับส่งพัสดุ ทีมีมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท

ด้วยทำที่ตั้งของร้านสะดวกซื้อ ที่อยูในแหล่งชุมชน และมีสาขากระจายอยู่ทั่วไป จึงเป็นเป้าหมายของผู้ประกอบธุรกิจบริการรับส่งพัสดุ หวังจับจองเป็นพันธมิตรเพื่อเปิดจุดรับบริการให้กระจายไปได้ทั่วถึงในทำเลสำคัญ ๆ ซึ่งนับวันจะหายาก การเปิดเองก็ใช่ว่าจะทำได้ง่าย สู้จับมือกับร้านสะดวกซื้อ ที่มีพร้อมทั้งทำเล สถานที่ และระบบหลังบ้าน พร้อมจะปลั๊กอิน เชื่อมต่อได้ไม่ยาก

ในขณะที่ร้านสะดวกซื้อยุคนี้ การสู้ศึกในการแข่งขันในยุคนี้ได้ ก็ต้องมีสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ ๆ ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ ซึ่งการจับมือกับธุรกิจรับส่งพัสดุ เท่ากับเป็นการเพิ่มบริการ สร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และยังมีสวนร่วมในเทรนด์ของการเติบโตอีคอมเมิร์ซไปในตัว

จึงเป็นที่มาความร่วมมือระหว่างเคอรี่ เอ็กซเพรส หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ ที่ต้องเร่งสปีดขยายเครือข่ายจุดให้บริการ หลังจากจับมือกับออฟฟิศเมท และแฟมิลี่ มาร์ทไปแล้ว คราวนี้มาถึงคิวของ “ท็อปส์ เดลี” โมเดลร้านสะดวกซื้อของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ในเครือเซ็นทรัล เพื่อเปิดจุดรับส่งพัสดุของเคอรี่ในร้านท็อปส์ เดลี่

โดยจะนำร่องเปิดให้บริการสาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวน 47 สาขา ภายในเดือนมีนาคม 2561 และคาดว่าจะทยอยเปิดให้ครบทั้ง 70 สาขาในอนาคตอันใกล้

ในฟากของท็อปส์นั้น ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับคอนเซ็ปต์ร้านรูปแบบใหม่ในบางสาขา เป็น “โกกรีน” เน้นลดการใช้พลังงาน ใช้วัสดุที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังได้เพิ่มบริการใหม่ ๆ ให้ลูกค้าท็อปส์  เดลี่ อาทิ เพิ่มมุมโค เวิร์คกิ้ง สเปซ ให้ลูกค้าสามารถนั่งทำงานหรือนั่งพักผ่อน พร้อมฟรีไวไฟ (Wi-Fi) ปลั๊กสำหรับชาร์จมือถือและจุดเสียบ USB, เพิ่มมุมจำหน่ายอาหารเช้า, มุมถ่ายเอกสาร ปริ้นซ์ ส่งแฟกซ์ เคลือบบัตร, บริการจ่ายบิล Cen Pay จ่ายค่าธรรมเนียม 5 บาท เป็นต้น

ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหาร ท็อปส์ เดลี่ (Tops Daily) เปิดเผยว่า การร่วมกับเคอรี่ เอ็กซ์เพรส เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ เช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือ SMEs ที่ต้องการจุดส่งพัสดุใกล้บ้าน มีพื้นที่สำหรับการแพ็กสินค้าหรือแชตคุยกับลูกค้าก่อนส่งสินค้า

บริการของเคอรี่ เอ็กซ์เพรสเอง จัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าภายในวันถัดไป ในราคา เริ่มต้น 35 บาท ช่วงเริ่มต้นให้บริการจัดแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 19 – 25 มีนาคม 2561 ลูกค้า 10 คนแรก รับกล่องพัสดุฟรีแบบไม่จำกัดไซส์

ด้าน ไมเคิล ฉ่อย ผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจรับ-ส่งพัสดุ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเป้าหมายของการให้กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์และเอสเอ็มอี โดยเราเชื่อมั่นว่า รูปแบบการค้าผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Commerce) จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นต่ออนาคตของประเทศไทย

ปัจจุบัน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) มีจุดที่ให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไป 1,500 สาขาทั่วประเทศ ศูนย์กระจายสินค้าอีกกว่า 600 แห่ง ทุกจังหวัด โดยในปีนี้ มีแผนที่จะใช้งบลงทุนอีกอย่างน้อย 1 พันล้านบาท พร้อมเพิ่มอัตราการจ้างงานขึ้นอีก 6,000 คนภายในปี 2561.

ทั้งนี้ ลูกค้าของบริษัท aCommerce สามารถส่งพัสดุด้วยราคามาตรฐานของบริษัท aCommerce โดยมีค่าบริการเริ่มต้นเพียง 35 บาทต่อชิ้น และไม่มีค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใดๆ และลูกค้าที่ใช้บริการส่งพัสดุยังสามารถติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์แทรคกิ้ง และการันตีส่งพัสดุถึงปลายทางภายในวันถัดไปด้วยระบบ Smartship

“สำหรับการผนึกพันธมิตรชั้นนำด้านดารขนส่งสินค้าและบริการพัสดุครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซที่คาดว่าจะมีมูลค่า 2.8 ล้านล้านบาทในปีนี้ โดยจุดแข็งของ aCommerce คือการสรรค์สร้างโซลูชั่นส์ทางอีคอมเมิร์ซให้แก่บริษัทชั้นนำทั้งระดับโลกและระดับภูมิภาครวมถึง ลอรีอัล ไลน์ แอ๊บบอต ยูนิลีเวอร์ และเนสกาแฟ เป็นต้น และการซีนเนอร์ยีดังกล่าวจะส่งผลให้บิ๊กซีเป็นจุดรับ–ส่งพัสดุที่มีเครือข่ายจุดบริการที่ใหญ่และครอบคลุมมากที่สุดของ บริษัท aCommerce อีกด้วย“