บริการเครือข่ายสังคม – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 13 Mar 2018 03:58:59 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 หลังกำไรครั้งแรก Twitter เอาจริงตะลุยลบบัญชีที่เข้าข่าย ”ขโมยทวีต” https://positioningmag.com/1161256 Mon, 12 Mar 2018 10:37:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1161256 ทวิตเตอร์ (Twitter) บริการเครือข่ายสังคมข้อความสั้นเดินหน้าจัดระเบียบขบวนการขโมยทวีต และการปูพรมทวีตแบบกระจายทั้งระบบหรือที่รู้จักในนาม tweetdecker โดยบัญชีส่วนใหญ่เป็นที่นิยมมีผู้ติดตามหลักพันถึงล้าน ถือเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดที่ทำให้ Twitter เป็นข่าวดังหลังจากประกาศผลประกอบการกำไรครั้งแรกในรอบ 11 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว

tweetdecker นั้นเป็นชื่อเรียกกลุ่มบัญชีที่ส่งข้อความทวีตแบบวงกว้าง หรือ mass-tweeting ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างไวรัลที่จะถูกพูดถึงทั่วโลกออนไลน์ ล่าสุด Twitter ลงมือระงับบางบัญชีในกลุ่มนี้แม้ว่าจะเป็นบัญชียอดนิยมที่มีผู้ติดตามหลักล้าน ขณะเดียวกันก็ระงับบัญชีที่ Twitter สงสัยว่าเคยขโมยทวีตมาแบบไม่ให้เครดิตที่มา

ตามรายงานจากสำนักข่าวบัซฟีด (Buzzfeed) บัญชีดังทั้ง @Dory, @GirlPosts, @SoDamnTrue, Girl Code/@reiatabie, Common White Girl/@commonwhitegiri, @teenagernotes, @finah, @holyfag และ @memeprovider ล้วนถูก Twitter ระงับ 

นอกเหนือจากการขโมยข้อความทวีตโดยไม่มีเครดิตแล้ว บัญชีเหล่านี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการรวมกลุ่มกันในนามทีม Tweetdeck ซึ่งจะมีการเปิดให้แบรนด์ที่สนใจ จ่ายเงินให้กับบัญชีเหล่านี้หากต้องการกระตุ้นให้เกิดการส่งทวีตแบบไวรัล จุดนี้เองที่ Twitter ตัดสินว่าละเมิดนโยบายสแปมของ Twitter อย่างชัดเจน ซึ่ง Twitter ระบุว่าไม่อนุญาตให้มีการ “ขาย ซื้อ หรือพยายามเพิ่มการโต้ตอบของบัญชี”

 

ตามกฎนี้ Twitter ระบุว่าบัญชีใดที่ละเมิดนโยบายนี้จะถูกระงับบัญชีชั่วคราว ซึ่งล่าสุดมีการสร้างบัญชีใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการระงับที่เกิดขึ้นแล้ว

การจัดระเบียบนี้เกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา การศึกษาของนักวิชาการสถาบัน Massachusetts Institute of Technology (MIT) พบว่าข่าวลวงถูกแพร่กระจายกว้างด้วยฝีมือมนุษย์บน Twitter มากกว่าระบบหุ่นยนต์หรือบ็อตอัตโนมัติ

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่า Twitter กำลังพยายามปรับตัวอย่างจริงจัง หลังจากรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2017 ว่ามีกำไรสุทธิ 141 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นไตรมาสแรกที่ทำกำไรได้หลังจากให้บริการมา 11 ปี

กำไรนี้เกิดขึ้นบนรายได้ 732 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเพียง 2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน นอกจากนี้ Twitter โชว์จำนวนผู้ใช้งานประจำทุกเดือน (MAU) ว่ามีราว 330 ล้านคน ไม่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว แถมผู้ใช้ในสหรัฐฯยังลดลง 1 ล้านคน แต่โชคดีที่ผู้ใช้ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมา 1 ล้านคนเท่ากัน จุดนี้ทำให้มีการวิเคราะห์ว่า Twitter ทำกำไรได้จากการรัดเข็มขัดลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่การเติบโตยังไม่สวยงามเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม หากมองที่รายได้ Twitter ระบุว่าเป็นรายได้จากอเมริกาบ้านเกิด 406 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าลดลง 8% และพื้นที่อื่น 326 ล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้น 17%) โดยไตรมาสปลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสที่ Twitter มีรายได้เพิ่มขึ้น

ที่น่าสนใจคือ Twitter ไม่เปิดเผยจำนวนผู้ใช้งานรายวันหรือ DAU โดยระบุเพียงว่าเติบโต 12% จุดนี้ซีอีโอ “แจ็ค ดอร์ซีย์” (Jack Dorsey) ยืนยันว่าไตรมาส 4 ที่ผ่านมาถือเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่ง เนื่องจากรายได้เติบโตอีกครั้ง และจำนวนผู้ใช้ DAU มีการเติบโตต่อเนื่องในระดับเลข 2 หลัก.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000024831

]]>
1161256
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก โพสต์ความผิดพลาดคือเครื่องมือสร้างเฟซบุ๊ก https://positioningmag.com/1155807 Tue, 06 Feb 2018 03:19:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1155807 มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอ เฟซบุ๊ก (Facebook) ถือโอกาสใช้วันครบรอบวันเกิด 14 ปีของเฟซบุ๊กบอกเล่าประสบการณ์ความผิดพลาดของตัวเองในอดีต ทั้งความพลาดในด้านเทคนิคไปจนถึงการไว้ใจคนผิด ผ่านเพจส่วนตัว 

โดยสิ่งที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ระบุว่าตนเองได้ทำพลาดไปตลอดระยะเวลา 14 ปีนั้นมีตั้งแต่ การไว้ใจคนผิด, การเจรจาที่ไม่ประสบความสำเร็จ, การใช้คนไม่ถูกกับงาน, ความผิดพลาดในเรื่องของการมองเทรนด์, การออกตัวช้ากว่าคนอื่นในเรื่องของฟีเจอร์ใหม่ และอื่น ๆ อีกมากมาย

อย่างไรก็ดี ซีอีโอเฟซบุ๊กระบุว่า ในช่วงเริ่มต้นสร้างแพลตฟอร์มนี้ เขาเพิ่งอายุ 19 ปี และเพิ่งออกจากดอร์มของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อีกทั้งยังไม่รู้เรื่องการตั้งบริษัท และการให้บริการอินเทอร์เน็ตใด ๆ แต่การที่คอมมูนิตี้นี้ยังอยู่มาจนถึงวันนี้ ไม่ใช่เพราะการที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด แต่เป็นเพราะคนในเฟซบุ๊กให้ความสำคัญ และเชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นมีความหมายมากพอที่จะทำต่อไป

การล้มครั้งแล้วครั้งเล่าคือหนทางเดียวที่จะทำให้เราพัฒนาขึ้น

มร.ซักเคอร์เบิร์ก กล่าว

เขายังได้บอกด้วยว่า ทุกคนในเฟซบุ๊กจะยังคงพัฒนางานของตัวเองต่อไป รวมถึงภารกิจที่จะทำให้ครอบครัวและเพื่อนนั้นมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น

แน่นอนว่าคำกล่าวของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กย่อมเป็นที่สนใจ เพราะทำให้เกิดการสืบหาความผิดพลาดที่เขาเคยทำไว้ เช่น กรณีของความผิดพลาดทางเทคนิค, การใช้คนผิดงาน, การไว้ใจผิดคน หรือการเจรจาที่ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับเฟซบุ๊ก ปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 2 พันล้านคน (ล็อกอินเข้ามาอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง) รวมถึงมีรายได้ในไตรมาสที่ผ่านมา 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย แต่สิ่งที่เฟซบุ๊กในวันนี้ต้องเผชิญก็คือการถูกตรวจสอบจากรัฐบาล รวมถึงเพื่อนร่วมอาชีพอย่างกูเกิล (Google) และทวิตเตอร์ (Twitter) ด้วย ว่ามีระบบหลังบ้านอย่างไรจึงปล่อยให้เอเจนท์จากรัสเซียเข้ามาซื้อโฆษณาที่สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นภายในสังคมได้เป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้ เมื่อมาพิจารณาจากสิ่งที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กโพสต์แล้ว เป็นไปได้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่เฟซบุ๊กมีการปรับตัวครั้งใหญ่เลยก็เป็นได้

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000012090

]]>
1155807