บริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้รวบรวมผลสำรวจจากกลุ่มผู้หางานแบ่งตามช่วงอายุได้แก่ ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปหรือกลุ่ม Baby Boomer (7%) ผู้ที่มีอายุระหว่าง 34-49 ปีหรือ Gen X (49%) ผู้ที่มีอายุระหว่าง 26-33 ปี หรือ Gen Y (27%) และผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-25 ปี หรือกลุ่ม Gen Z (16%) ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560

ในประเด็นเกี่ยวกับ “องค์กรที่พนักงานต้องการร่วมงาน และปัจจัยสนับสนุนให้พนักงานอยากร่วมงานกับองค์กรนั้นๆ” พบว่า

อันดับแรกเป็นของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ตามมาด้วย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ถือเป็นสององค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยที่ครองใจคนทำงาน

อันดับ 3 เป็นของ ด้านบริษัทเสิร์ชเอ็นจิ้นระดับโลก Google ประเทศไทย ซึ่งโดดเด่นในด้านผลิตภัณฑ์ และวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นที่ประทับใจ ซึ่งขยับขึ้นจากปีที่แล้วหนึ่งอันดับ

ตามมาด้วยเป็นลำดับที่ 4 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นและเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศไทย

ในส่วนของธุรกิจด้านโทรคมนาคม DTAC หรือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ไต่อันดับจากรองสุดท้ายขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 5

ขณะที่บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL ธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อชื่อดังติดลำดับที่ 6  และบริษัทที่ได้รับการโหวตเป็นลำดับที่ 7 ได้แก่ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส

ด้านธุรกิจสายการบินชั้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ติดอันดับที่ 8 ส่วนธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ อย่าง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ได้รับการโหวตเป็นลำดับที่ 9 และลำดับสุดท้ายเป็นของบริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด 

และหากเปรียบเทียบจากผลสำรวจระดับภูมิภาคยังชี้ให้เห็นว่าองค์กรธุรกิจชั้นนำระดับโลกที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศเอเชีย เช่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ยังคงติดอันดับเป็นบริษัทในฝันของพนักงานและมีสัดส่วนเท่ากันกับบริษัทท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลยังติดอันดับต้นๆ ของทุกประเทศ

สำหรับ Google ติดลำดับที่หนึ่งในประเทศฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ ติดลำดับที่ 3 ในประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ติดลำดับที่ 4 ในประเทศเวียดนาม เช่นเดียวกันกับธุรกิจสินค้าอุปโภค-บริโภคชั้นนำของโลกยังติดอันดับบริษัท 1 ใน 10 บริษัทในฝันของพนักงานในภูมิภาคนี้ด้วย ขณะที่บริษัทท้องถิ่นที่ติดอันดับต้น ๆ ของแต่ละประเทศยังคงเป็นธุรกิจโทรคมนาคม ธนาคาร และกลุ่มบริษัทในเครือต่างๆ

นางนพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากพิจารณาจากผลสำรวจจะเห็นได้ชัดว่า บริษัทที่พนักงานอยากร่วมงานทั้งสิบอันดับในครั้งนี้ยังคงเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว อันเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นในองค์กร ภาพลักษณ์ รวมทั้งการพัฒนาและขยายองค์กรสู่ตลาดใหม่ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค ส่งผลให้คนหางานรุ่นใหม่ เล็งเห็นโอกาสของการสร้างความสำเร็จในชีวิต ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและพร้อมกระโจนสู่ความท้าทายที่จะเกิดขึ้น

สภาพแวดล้อมองค์กร -ใช้ชีวิตสมดุล แรงดึงดูดคนทำงาน

ผู้ตอบแบบสำรวจคนไทยระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกบริษัท คือ ความก้าวหน้าในอาชีพ ความมั่นคงในหน้าที่การงาน และวัฒนธรรมองค์กรที่มีความยืดหยุ่น รวมไปถึง สภาพแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาลของนายจ้างและอุปนิสัยของเพื่อนร่วมงานด้วย

จากปัจจัยข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า สภาพแวดล้อมขององค์กรที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดคนหางานและยังช่วยรักษาพนักงานให้ทำงานกับองค์กรนั้นๆ ได้นาน ปัจจัยถัดมาคือเรื่องของความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว นอกจากนี้การสร้างสิ่งจูงใจเพื่อดึงดูดพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะทำให้องค์กรมีตัวเลือกมากขึ้น

ด้านมุมมองของนักศึกษาจบใหม่ พบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการยื่นใบสมัครงานคือการที่บริษัทให้โอกาสเติบโตในอาชีพและหน้าที่การงานการมีทีมบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพและมีความเป็นผู้นำ และโอกาสในการได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานคุณภาพ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ในการทำงาน

ดังนั้นในปัจจุบันองค์กรหลายแห่งจึงพยายามที่จะสร้างเอกลักษณ์กำหนดคุณค่าองค์กรและทำให้องค์กรมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก รวมไปถึงการบริหารทรัพยากรบุคคลทั้งในด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการที่คุ้มค่ากับการทำงาน ความก้าวหน้าในสายงาน และโอกาสในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้เป็นองค์กรที่ผู้หางานเลือกทำงานด้วย

“ปัจจัยข้างต้นนับเป็นสาระสำคัญที่นายจ้างทั้งรายใหญ่และรายเล็กควรพิจารณาเพื่อให้ได้คนคุณภาพมาร่วมงาน รวมไปถึงการปรับกลยุทธ์ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรรูปแบบใหม่ที่ต้องเอื้อต่อไลฟ์สไตล์ของคนทำงานยุคนี้

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับนักศึกษาที่จะต้องมองหาองค์กรและงานทำหลังจากเรียนจบ แต่จากการสำรวจความคิดเห็นของคนยุคใหม่แล้วพบว่า บริษัทที่มีนโยบายในการทำงานที่ยืดหยุ่น และสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางด้านนวัตกรรมให้เกิดขึ้นได้นั้น ถือเป็นตัวเลือกลำดับแรก ๆ ของคนกลุ่มนี้ แถมยังพบว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลนั้น ขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ตดังกล่าวไปอย่างขาดลอย ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากก่อนหน้านี้กูเกิลเคยถูกสหภาพยุโรป สั่งให้จ่ายค่าปรับมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจเสิร์ชเอนจิน

โดยสิ่งหนึ่งที่พบว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน คือ พฤติกรรมการหางานของคนทำงานรุ่นใหม่ ที่ไม่หางานจากสื่อสิ่งพิมพ์กันแล้ว แต่หาจากช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ มากกว่า ดังนั้น บริษัทไหนที่ยังประกาศรับสมัครงานลงในนิตยสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ก็อาจเข้าไม่ถึงผู้สมัครงานกลุ่มนี้อีกแล้วก็เป็นได้ 

โดยหากเรียงลำดับบริษัทที่คนรุ่นใหม่สายธุรกิจของสหภาพยุโรปอยากทำงานด้วยจากมากไปน้อย สามารถเรียงได้ดังนี้

1. Google
2. L’Oreal Group
3. Microsoft
4. PricewaterhouseCoopers
5. Ernst & Young
6. KPMG
7. Deloitte
8. Goldman Sachs
9. McKinsey & Company
10. Boston Consulting Group

แต่ถ้าเป็นนักศึกษาในสาขาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีแล้วพบว่า กูเกิลก็ยังคงครองอันดับหนึ่งอยู่ดี ตามมาด้วยไมโครซอฟท์ และไอบีเอ็ม (IBM) ดังนี้

1. Google
2. Microsoft
3. IBM
4. Siemens
5. General Electric
6. Daimler/Mercedes-Benz
7. Bosch
8. Airbus
9. BMW
10. Intel

สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันระหว่างนักศึกษาวิศวกรรมกับนักศึกษาธุรกิจ คือ ต้องการที่ทำงานที่ยืดหยุ่น และทำให้พวกเขาใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันก็คือ นักศึกษาสายธุรกิจต้องการโอกาสในการเติบโต และก้าวขึ้นเป็นผู้นำ ขณะที่นักศึกษาสายวิศวกรรมมองหางานที่มั่นคงมากกว่านั่นเอง

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000108629

นักศึกษาอยากทำงานกับบริษัทขนาดกลางมากที่สุด

นักศึกษาทั้งสองสาขาคือสาขาธุรกิจและวิศวกรรม/ไอที 74% ต้องการทำงานกับบริษัทที่มีพนักงานไม่ถึง 1,000 คน แม้ว่านักศึกษาส่วนใหญ่ในเยอรมนี ฝรั่งเศส และบราซิล จะต้องการทำงานกับบริษัทใหญ่ แต่โดยรวมแล้ว นักศึกษาในสามประเทศนี้ก็อยากทำงานกับบริษัทที่มีพนักงานไม่ถึง 1,000 คนด้วยเช่นกัน

บริษัทไอที ได้รับความนิยม แซงหน้าแบงก์-รถยนต์-FMCG

การจัดอันดับในปีนี้ได้เพิ่มบริษัทด้านอีคอมเมิร์ซ ประกัน และโลจิสติกส์เข้ามาด้วย นอกจากนี้ การที่นักศึกษาสนใจบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์และคอมพิวเตอร์มากขึ้น ได้ส่งผลให้ธนาคาร บริษัทยานยนต์ และบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) มีอันดับร่วงลง

ทั้งนี้ บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงติดอันดับเป็นจำนวนมาก แต่หลายบริษัทมีอันดับร่วงลง ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่อุตสาหกรรมโดยรวม แต่นักศึกษารู้สึกว่าหลายๆ บริษัทไม่เข้าถึงตนเอง

ประเภทงานที่อยากทำ

สำหรับประเภทงานที่นักศึกษาสาขาธุรกิจอยากทำงานด้วยมากที่สุด คือ การบริหารจัดการและการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ การธนาคาร และบริการทางการเงิน ต่างจากเมื่อปีที่แล้วซึ่งภาคธนาคารต้องแข่งขันอย่างหนักกับภาคเทคโนโลยีเพื่อดึงดูดนักศึกษาหัวกะทิให้มาทำงานด้วย

สำหรับประเภทงานที่นักศึกษาสาขาวิศวกรรม/ไอที อยากทำมากที่สุด 3 ภาคส่วนที่นักศึกษาสาขาวิศกรรม/ไอที อยากทำงานด้วยมากที่สุดคือ ซอฟต์แวร์ บริการคอมพิวเตอร์ และการพัฒนามัลติมีเดียและความบันเทิงดิจิทัล ขณะที่ภาคยานยนต์ได้รับความนิยมลดลงในภาพรวม ยกเว้นบริษัทใหญ่ 2-3 แห่งที่ยังคงได้รับความนิยมเช่นเดิม

ยูนิเวอร์ซัม เป็นบริษัทวิเคราะห์ วิจัย ให้คำปรึกษา และดำเนินกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลเชิงลึก ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัทต่างๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมและผลการจัดอันดับทั้งหมดได้ที่ http://www2.universumglobal.com/worlds-most-attractive-employers-2017

ที่มา : http://www2.universumglobal.com/worlds-most-attractive-employers-2017/พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

อันดับแรก คือบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ตามมาด้วย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้ง 2 องค์กรเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีการขยายกิการไปยังภูมิภาคอาเซียน โตโยต้า เป็นอันดับ 3 ตามมาด้วย Google เสิร์ชเอ็นจิ้น จากสหรัฐอเมริกมาเป็นอันดับ 4 ฮอนด้า เป็นอันดับ 5 อันดับ 6 เป็นของ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส อันดับ 7 เป็นของยูนิลีเวอร์ อันดับ 8 เชฟรอน อันดับ 9 ดีแทค และอันดับ 10 เนสท์เล่

คนไทยมองความมั่นคงเป็นอันดับแรก

ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย ระบุถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลในการเลือกงานในฝัน คือ สวัสดิการและความมั่นคงในอาชีพเป็นหลัก

ในหลายๆ ประเทศเลือก สวัสดิการ เป็นอันดับแรก ในขณะที่คนไทยเลือกความมั่นคงเป็นหลัก

นอกจากนี้ ความต้องการยังแตกต่างกันออกไปวัดได้จากตำแหน่งของผู้สมัครงาน โดยผู้สมัครงานที่มีประสบการณ์จะคำนึงถึงภาพลักษณ์และแบรนด์ขององค์กรมากกว่า ในขณะที่คนจบใหม่ให้ความสำคัญกับโอกาสในการพัฒนาตนเองในหน้าที่ทำงาน

ที่มา : สอบถามผ่านออนไลน์ ไปยังผู้ตอบแบบสอบถาม 446 คน ทั่วประเทศไทย ครอบคลุมทั้งนักศึกษาจบใหม่, เจ้าหน้าที่, เจ้าหน้าที่ระดับกลาง, ระดับหัวหน้างานและผู้จัดการ