บัวขาว – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 17 Dec 2019 03:32:19 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 อ่านเกม “กู๊ดเยียร์” 2020 บุกยางรถกระบะ ขยายตลาดต่างจังหวัด ดัน “บัวขาว” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ https://positioningmag.com/1257218 Mon, 16 Dec 2019 11:32:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1257218 เเม้อุตฯ รถยนต์จะอยู่ในช่วงขาลง เเต่ “กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย” ยังเดินหน้าขยายลงทุนโรงงานเฟส 2 พร้อมเปิดตัว Cargo Max ยางพรีเมียมเจาะกลุ่มรถกระบะเเละรถตู้ อัดเเคมเปญการตลาดในปี 2020 ดึง “บัวขาว” นักชกขวัญใจชาวไทยขึ้นเเท่นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ สะท้อนความอึดความทน 

เรียกได้ว่าเตรียมเดินเกมการตลาดอย่างหนัก เพราะกู๊ดเยียร์ห่างหายจากการโปรโมตผ่านคนดังมานาน นับตั้งเเต่ “ ก้อง-สหรัถ” พรีเซ็นเตอร์คนแรกของกู๊ดเยียร์ในไทย เมื่อปี 2556 ที่มาพร้อมยางเอฟฟิเชี่ยนกริป เอสยูวี ชูจุดขายเป็นยางเงียบที่สุดและนุ่มที่สุด เข้ากับคาเเร็กเตอร์ของหนุ่มก้อง ผ่านมาหลายปีก็มาถึง บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยดุดัน เข้าคาเเร็กเตอร์กับยางรถกระบะรุ่นใหม่ชูความทนอย่าง Cargo Max เช่นกัน 

เปิดตัว Cargo Max เอาใจคนรักระกระบะ-รถตู้ 

ยางรถกระบะ Cargo Max ที่กำลังจะจำหน่ายทั่วประเทศในเดือนมกราคม ปี 2020 นี้ โดยออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถกระบะและรถตู้ เน้นจุดขายเรื่องความทนทาน ทางกู๊ดเยียร์เคลมว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ายางคู่แข่งถึง 20% ซึ่งผ่านการทดสอบทั้งในสหรัฐฯ เเละในไทย

ความสำคัญของยางตัวนี้ได้มีการใช้เทคโนโลยีแมกซ์โหลด (MaxLoad) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของกู๊ดเยียร์ ทำให้ขีดความสามารถในการรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น และเหมาะสมกับทุกสภาพถนนในไทย ออกแบบหน้ายาง และปรับปรุงเนื้อยางสูตรพิเศษ ที่ช่วยลดการสึกหรอเเละยังรักษาคุณสมบัติเรื่องการยึดเกาะบนถนนเปียก การรีดน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะกับฤดูฝนของประเทศไทย

ทำไมเลือกรุกตลาดรถกระบะ? 

ผู้บริหารกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย บอกว่า Cargo Max เกิดขึ้นจากการค้นหาว่าอะไรคือ Pain point และ Unmet needs ของลูกค้า พบว่า กระบะเป็นรถที่ใช้ 1 ใน 3 ของไทย ที่สำคัญนอกจากใช้เพื่อการขนส่งแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน จึงมีการใช้งานที่หนัก ดังนั้นต้องหายางที่มีความทนทานใช้ได้นาน ซึ่งกู๊ดเยียร์ต้องการตอบโจทย์นี้

ก่อนหน้านี้ กู๊ดเยียร์ได้ตีตลาดกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เเละกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ไปเเล้ว จึงต้องขยายให้ครอบคลุมสู่รถกระบะ เเละมองว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ใช้ขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดที่นิยมใช้รถกระบะมากกว่าในเมือง ให้เข้ากับเเผนขยายช่องทางการขายที่ในปีหน้าตั้งเป้าจะมีร้านตัวเเทนจำหน่ายให้ถึง 1,000 ร้านทั่วประเทศด้วย 

“ปัจจุบันเรามียางรุ่น แอสชัวแรนซ์ ทริปเปิลแมกซ์ (Assurance TripleMax) สำหรับกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และ แรงเลอร์ ทริปเปิลแมกซ์ (Wrangler TripleMax) สำหรับกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) การเปิดตัวกู๊ดเยียร์ Cargo Max สำหรับกลุ่มรถกระบะและรถตู้ จึงทำให้ยางในตระกูลแมกซ์ครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งานในกลุ่มยางพรีเมียมของลูกค้า”

“บัวขาว” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ สะท้อนความอึด 

ล่าสุดกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ได้ดึงยอดนักชกขวัญใจมหาชนอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” มาเป็นแบรนด์พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เพื่อต้องการสื่อถึงความแข็งแกร่ง ทนทาน

ลูก้า เครปาโชลี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกว่า

“บัวขาวมีความเหมาะสมกับแบรนด์กู๊ดเยียร์ เป็นยอดนักชกที่โด่งดังท่ามกลางบรรดายอดนักชกมวยไทยมากว่า 30 ปี พร้อมทั้งมีสถิติคว้าชัยชนะในการขึ้นชกระดับโลกมาแล้วอีกนับครั้งไม่ถ้วน สะท้อนความเเกร่ง เเละทรงพลังเหมือนยางรถยนต์ของกู๊ดเยียร์”

ฮึดสู้รอบใหม่ของธุรกิจยางรถยนต์ 

ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุคขาลง เหล่าผู้ผลิตหลายใหญ่ต่างพากันหั่นค่าใช้จ่าย ปลดพนักงานเพื่อปรับโครงสร้างบริษัทกันถ้วนหน้า สำหรับอุตสาหกรรมยางรถยนต์เเล้วนั้นก็ย่อมได้รับผลกระทบตามๆ กัน

ผู้บริหารกู๊ดเยียร์ เปิดเผยว่า “ในปี 2019 นับเป็นความท้าทายอย่างมาก ทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลกเเละอุตสาหกรรมรถยนต์ ขณะที่ธุรกิจยางรถยนต์ก็ต้องเผชิญกับปัญหา “วัตถุดิบที่มีราคาสูงขึ้น” เเต่ด้วยความพยายามที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เเละการปรับกลยุทธ์การสื่อสารของกู๊ดเยียร์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้มองเห็นโอกาสที่จะกลับมาเป็นบวกมากขึ้นในปีหน้า” 

“หากมองอีกมุมเราจะเห็นว่ามีรถใหม่ออกมาจำนวนมากเช่นกัน เเละจะต้องมีการเปลี่ยนยาง นี่คือโอกาสของกู๊ดเยียร์ ที่เราจะเสนอโปรดักส์ใหม่ที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนานกว่าคู่เเข่ง 20% ให้กับผู้บริโภคที่กำลังลังเลใจในการซื้อ” 

สำหรับการลงทุนขยายโรงงานในจังหวัดปทุมธานี นับเป็นการลงทุนเฟส 2 ของงบการลงทุนกว่า 2.97 พันล้านบาทในเเผนปี 2018-2022 ที่คาดว่าจะเพิ่มผลผลิตยางรถยนต์ได้มากขึ้นราว 5-10 % ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยโรงงานในประเทศเเห่งนี้ จะผลิต Cargo Max ยางพรีเมียมรุ่นใหม่ รวมไปถึงยางที่ใช้ในเครื่องบินด้วย

ด้านภาพรวมการตลาดของอุตฯ ยางรถยนต์ในไทย เครปาโชลี่ เปิดเผยว่า ตั้งเเต่ช่วงไตรมาสที่ 1-3 ของปีนี้ยังติดลบอยู่ที่ -4% ถึง -5% เเละมียอดขายยางรถยนต์โดยรวมมากกว่า 10 ล้านเส้น อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 2020 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น 

รวมถึงกลยุทธ์หลักในปีหน้าที่จะมี “กลุ่มยางติดรถยนต์ (OEM)” เพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการเจรจาเพิ่มสัญญากับเหล่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งรับรองว่ารถยนต์ป้ายเเดงที่จะออกมาในปี 2020 นั้นจะมีโอกาสได้ใช้ยางรถยนต์ของกู๊ดเยียร์ พร้อมกันนั้นจะมีการขยายโรงงานในจังหวัดปทุมธานีเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต 

รวมไปถึงขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุม โดยในปีหน้าตั้งเป้าจะมีร้านตัวเเทนจำหน่ายให้ถึง 1,000 ร้าน 

]]>
1257218
ติดกลยุทธ์ที่ปลายนวม “บิ๊กซี” เติมพอร์ต “เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์” ดึงแบรนด์ “บัญชาเมฆ” เอาใจแฟน “บัวขาว” สาวกมวยไทย https://positioningmag.com/1166782 Sat, 21 Apr 2018 03:08:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1166782 กลยุทธ์สินค้า (Product Strategy) ถือเป็นหนึ่งใน “หัวใจ” สำคัญของการทำตลาดค้าปลีก นอกจากจะต้องเพิ่มรายการสินค้าให้หลากหลาย จับกลุ่มป้าหมายให้กว้างมากสุด สินค้าที่ขายจะต้องสร้างความ “แตกต่าง” จากคู่แข่ง หาซื้อที่ไหนไม่ได้ ต้องมาที่ห้างนี้ห้างเดียวเท่านั้น ผู้บริโภคจึงเห็นสินค้า House Brand หรือแบรนด์ของห้างออกมาทำตลาดในหลายหมวดมาก

ไม่เพียงเท่านั้น สินค้าที่เป็น “Exclusive Brand” ก็เป็นจุดขาย และทำให้ห้างค้าปลีกมี “จุดแข็ง” มากขึ้นด้วย เพราะนั่นหมายความว่าลูกค้าที่ป็นสาวกของแบรนด์จะต้องตรงดิ่งมาช้อปปิ้งที่ห้างนั้นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ล่าสุด “บิ๊กซี” เดินเกมเติมพอร์ตสินค้า Exclusive Brand ในหมวดสินค้าภายในบ้าน (Home Line) ด้วยการจับมือแบรนด์ “บัญชาเมฆ” ของนักชกดัง สิบโท สมบัติ บัญชาเมฆ” หรือที่รู้จักกันในสมญานาม “บัวขาว” และบริษัท เอส.เค.เอ.สปอร์ต จำกัด ตัวแทนจำหน่ายสินค้ากีฬาแบรนด์ “บัญชาเมฆ” เพื่อนำสินค้มาจำหน่ายที่ร้านบิ๊กซีในรูปแบบ Exclusively@BigC” ผ่านสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 10 สาขา เน้นสาขาที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ก่อนขยายให้ครบร้านรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตร้อยสาขาภายในสิ้นปีนี้ นับเป็นขยายช่องทางขายจากเดิมแบรนด์ดังกล่าวขายผ่านช่องทางออนไลน์ “โซเชียลคอมเมิร์ซ”อย่างเฟซบุ๊กเท่านั้น

สำหรับสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ “บัญชาเมฆ” ที่นำมาขายภายในร้านมีมากกว่า 500 รายการ (SKU) เช่น นวม เสื้อยืดทั้งแบรนด์บัญชาเมฆ รวมถึงแบรนด์ที่มีการ Collaboration กับสิงห์ โดยมีราคาขายตั้งต้น 99 บาท ไปถึงหลัก 2,000-3,000 บาท 

ปัจจุบันสินค้าหมวด Home Line ที่เป็นเสื้อผ้ามีสัดส่วนราว 10% เท่านั้น และถ้าเป็น “เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์” ก็กินสัดส่วน 30% ซึ่งยังถือว่าไม่มากนัก และสินค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบรนด์ของห้าง (เฮาส์แบรนด์) และอยู่กลุ่มสินค้าเครื่องนอนเป็นหลัก   

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มไลน์สินค้ากีฬาและเป็นเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ครั้งนี้ ยังช่วยรองรับกระแสคนไทยรักสุขภาพด้วย รวมถึงตอบโจทย์สปอร์ตแฟชั่น เพราะปัจจุบันคนที่ใส่ชุดกีฬาไม่ได้ใส่เพื่ออกกำลังกาย แต่ยังใส่เพื่อเชียร์กีฬา และใส่เพราะชื่นชอบนักกีฬาดังที่เป็นไอดอลด้วย   

ขณะที่แบรนด์ “บัญชาเมฆ” ซึ่งเป็นของนักมวยดัง “บัวขาว” ยังช่วยเรียกสาวกให้เข้ามาซื้อสินค้าด้วย เพราะในแง่ของแบรนด์บัญชาเมฆ ต้องยอมรับว่าตลาดมีการรับรู้ (Awareness) ที่ดีระดับหนึ่ง อีกทั้งฐานลูกค้าและแฟนคลับของบัวขาวผ่านเพจเฟซบุ๊กบัญชาเมฆยิม ก็มีมากกว่า 3.9 ล้านบาท จากที่เคยซื้อสินค้าในโลกออนไลน์ วันนี้ก็สามารถไปช้อปออฟไลน์ที่บิ๊กซีได้ด้วย   

“สิบโท สมบัติ บัญชาเมฆ” ผู้ก่อตั้งแบรนด์บัญชาเมฆ กล่าวว่า สินค้ากีฬาแบรนด์บัญชาเมฆ แต่เดิมขายแค่ช่องทางออนไลน์เท่านั้น เมื่อกระแสตอบรับค่อนข้างดี มีลูกค้าเรียกร้องมาว่าให้เปิดหน้าร้านจึงขยายช่องทางใหม่ๆ เพิ่ม”   

อย่างไรก็ตาม หลังทำตลาดแบรนด์บัญชาเมฆ บิ๊กซีตั้งเป้าหมายยอดขาย 100 ล้านบาท.

]]>
1166782