บุพเพสันนิวาส – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 16 Oct 2019 03:49:01 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ออเจ้าบุกอินโด! ราชาวาลีทีวีซื้อลิขสิทธิ์ “บุพเพสันนิวาส” เปิดตลาดละครไทยในแดนอิเหนา https://positioningmag.com/1249880 Tue, 15 Oct 2019 09:35:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1249880 ราชาวาลีทีวี สถานีโทรทัศน์ชั้นนำของประเทศอินโดนีเซีย บรรลุข้อตกลงกับ บริษัท เจเคเอ็น โกล บอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ในการนำบุพเพสันนิวาส ละครของช่อง 3 ไปออกอากาศที่ช่องราชาวาลีทีวี หรือ RTV 

ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของละครจากประเทศไทยที่ได้ออกฉายทางโทรทัศน์ที่ประเทศอินโดนีเซีย ข้อตกลงนี้ถือเป็นครั้งแรกระหว่าง เจเคเอ็น และราชาวาลีทีวี นับเป็นอีกก้าวสำคัญของเจเคเอ็นในการนำคอนเทนต์ของประเทศไทยไปต่างแดน โดยประเทศอินโดนีเซียถือเป็น 1 ในตลาดที่มีความสำคัญอีกประเทศหนึ่ง ด้วยประชากรกว่า 250 ล้านคน จาก 56 ล้านครัวเรือน

ราชาวาลีทีวี หรือ RTV จะนำบุพเพสันนิวาสออกอากาศบนฟรีทีวี ซึ่งสามารถรับชมได้มากกว่า 200 เมืองทั้งประเทศ โดย RTV ยังสามารถรับชมได้ทางดาวเทียม เคเบิลทีวี รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มในประเทศ โดย RTV จะมีการทำการตลาด เพื่อโปรโมตบุพเพสันนิวาส ทั้งทางทีวีและบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม

“บุพเพสันนิวาส” เป็นผลงานของ บมจ.บีอีซีเวิลด์ หรือ ช่อง 3 ซึ่งผลิตโดย บจก.บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น เป็นละครที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมากที่สุด ทั้งกระแสความนิยมในละครและนักแสดง อีกทั้งยังสร้างกระแสทางบวกต่อสังคมไทยอย่างกว้างขวาง อาทิ กระแสรักษ์ความเป็นไทย ที่สามารถกระตุ้นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยให้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ละครออกอากาศ โดยทางอินโดนีเซียจะมีการพากย์เป็นภาษาอินโดนีเซีย หรือภาษา Bahasa เพื่อผู้ชมชาวอิเหนาทุกคนจะได้อรรถรสในการรับชมมากขึ้น

สำหรับช่อง 3 แล้ว การที่ละครบุพเพสันนิวาสได้ออกอากาศที่อินโดนีเซียครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการขยายตลาดของคอนเทนต์ไปตลาดต่างประเทศ หลังจากการขายคอนเทนต์ละครไปยังประเทศเกาหลีเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกของละครไทยในเกาหลี โดยมีเจเคเอ็นเป็นผู้ดำเนินการรวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกาใต้  

อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการได้แสดงความยินดีต่อข้อตกลงนี้ ซึ่งถือเป็นการเริ่มมิติใหม่ของละครไทยที่ได้ออกอากาศที่อินโดนีเซีย โดยเปิดเผยว่า “การที่บุพเพสันนิวาสเป็นละครไทยเรื่องแรกจากประเทศไทยที่ได้ออกอากาศบนโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวสำหรับ บีอีซี เวิลด์ พวกเราหวังว่าผู้ชมอินโดนีเซียจะรักละครไทยเหมือนกับอีกหลายๆ ประเทศ สำหรับบุพเพสันนิวาส ผมเชื่อว่าจะทำให้ผู้ชมในประเทศอินโดนีเซียได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้น ทั้งเรื่องของวัฒนธรรม อาหาร การแต่งกาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของไทย ผ่านละครเรื่องนี้ และ ผมหวังว่าจากก้าวแรกนี้ ต่อไปก็จะมีก้าวต่อๆ ไปกับการทำงานร่วมกับ ราชาวาลีทีวี ในอินโดนีเซียอีกด้วย” 

]]>
1249880
“ช่อง 3” ส่ง “หมอยาฯ-บุพเพสันนิวาส” ขึ้น Netflix ดันละครไทยเจาะตลาดเอเชีย https://positioningmag.com/1247176 Sun, 22 Sep 2019 02:59:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1247176 เดินหน้ากลยุทธ์หารายได้ใหม่อย่างจริงจัง กับการ “ขายลิขสิทธิ์” คอนเทนต์ ช่อง 3 โดยเฉพาะละคร ที่ถือเป็นนโยบายหลักในการเข้ามานำทัพ บีอีซี เวิลด์ ของ “บี๋ อริยะ พนมยงค์”  

การทำตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ช่อง 3 ร่วมมือกับพันธมิตร “เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย” ให้สิทธินำละครช่อง 3 กว่า 130 เรื่องในปัจจุบัน รวมทั้งที่สร้างใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี ไปขายลิขสิทธิ์ทั่วโลก (ยกเว้น จีน อินโดจีน สหรัฐอเมริกา และ Global Platforms)

ตลาดหลักๆ อยู่ในเอเชีย ล่าสุดถือเป็นก้าวแรกของวงการละครไทย ที่เจเคเอ็นสามารถขายลิขสิทธิ์ละครช่อง 3 เบื้องต้น 8 เรื่อง ให้กับสถานี TVA PLUS และ SMILE PLUS จากเกาหลี ซึ่งจะนำละคร ไปออกอากาศทางเคเบิลทีวีครอบคลุมทั่วประเทศเกาหลี

ประเดิม 2 เรื่องลง Netflix

ล่าสุดช่อง 3 ขายลิขสิทธิ์ ละคร 2 เรื่อง “ทองเอก หมอยาท่าโฉลง” และ “บุพเพสันนิวาส” เพื่อให้บริการสตรีมมิ่งบน Netflix ที่มีสมาชิกกว่า 151 ล้านคนใน 190 ประเทศ โดยละคร “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” สตรีมมิ่งเรื่องแรกในวันศุกร์ที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา และตามมาด้วย “บุพเพสันนิวาส” ในวันจันทร์ที่ 7 ต.ค. 2562 พร้อมกับการแปลหลายภาษาของเอเชีย

อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Netflix ครั้งนี้ ถือเป็นการเผยแพร่ละคร ช่อง 3 และศิลปะวัฒนธรรมไทย ไปสู่ตลาดเอเชีย ซึ่ง “บุพเพสันนิวาส” และ “ทองเอก หมอยาท่าโฉลง” เป็นละครที่มีกระแสตอบรับดีมาก ทั้งการรับชมสดผ่านโทรทัศน์ ที่มีเรตติ้งสูงสุดถึง 18.6 และ 8.5 นอกจากนี้ยังมียอดวิวบนออนไลน์ที่สูงถึง 1.8 พันล้านวิว (นับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2561) สำหรับบุพเพสันนิวาส และ 265 ล้านวิว นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 สำหรับ ทองเอกหมอยาท่าโฉลง

การออกอากาศละครทั้ง 2 เรื่องทางช่อง 3 ทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์ไปทั่วประเทศ ทั้งการแต่งกายชุดไทย ยาสมุนไพรไทย อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของไทย เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะถูกพูดถึงอีกครั้งในหลายประเทศของเอเชีย จากความร่วมมือกับ Netflix ในครั้งนี้   

]]>
1247176
ฮาเรียกเรตติ้ง! “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ละครพีเรียด ช่อง 3 ตอนแรกไปถึง 4 อาจตามรอย “บุพเพสันนิวาส” https://positioningmag.com/1211747 Fri, 01 Feb 2019 06:16:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1211747 หลังจากละครใหม่ช่อง 3 โดนวิพากษ์วิจารณ์หนัก ทั้งเรื่องบท และนักแสดง มาตั้งแต่ช่วงปลายปี มาวันนี้ดูเหมือนช่อง 3 กำลังจะกลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง กับละครใหม่ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ด้วยเรตติ้งตอนเปิดตัวถึง 4 เป็นเรื่องแรกของช่อง 3 ในปีนี้ ที่มีแนวโน้มว่าจะเดินตามรอยละครปรากฏการณ์ของปีที่แล้ว “บุพเพสันนิวาส” 

“ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ละครพีเรียด ยุครัชกาลที่ 5 เรื่องราวของหมอยา แพทย์แผนไทยโบราณ ที่นอกจากจะต้องรักษาผู้คน สู้กับโรคร้ายในสมัยนั้นแล้ว ยังต้องสู้กับความเชื่อทางไสยศาสตร์ที่ผู้คนเชื่อถือมาอย่างยาวนาน ละครพีเรียดคอมเมดี้ที่สอดแทรกความรู้ตำรับยาไทยโบราณไว้

ละครที่มีพระ-นางลูกครึ่งเยอรมัน ทั้ง มาริโอ้ เมาเร่อ และ คิม คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ แต่กลับไม่มีคนตำหนิเรื่องหน้าไม่ไทยเล่นละครพีเรียด เพราะบทและองค์ประกอบของเรื่องจัดเต็มมากับความฮา แทรกสาระเชิดชูยาไทยโบราณเพียบ

เปิดตัวด้วยฉากต่อสู้ ราวกับนักสู้ยุคบางระจันของ แม่ชบา (คิมเบอร์ลี่) ที่ประกาศพร้อมสู้เพื่อรักษากรุง แต่กลายเป็นอารมณ์มโนของแม่ชบา ที่แม้จะเป็นหญิงแต่กลับโลดโผน ทะโมนยิ่งกว่าชายใดๆ ในอยุธยา

ฟากพระเอก พ่อทองเอก ที่มาพร้อม ฟรอยด์–ณัฏฐพงษ์ คู่หู คู่ฮา จากพี่มากพระโขนง เพิ่มเติมด้วยจุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม กลายเป็น 3 บอยแบนด์จากอยุธยา มาเปิดตัวนั่งหั่นซอยขูดเครื่องยาจากสมุนไพรไทยโบราณ แทรกความรู้ตำรับยาไทย หน้าตาต้นไม้ใบหญ้าพื้นบ้าน ที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ โดยมีหมอทองอิน (รอง เค้ามูลคดี) เป็นหมอยาโบราณ

แค่เบรกแรก ก็จัดเต็มด้วยธีมหนังผีไทยในตำนานทุกเรื่อง ความหลอนปนฮาของมุกกลัวผี ที่แสดงคาแร็กเตอร์นักแสดงหลักทุกคน ไม่มีใครไม่กลัวผี และเมื่อเจอผี ความฮาที่คาดเดาได้ก็เกิด ไม่เว้นแม้แต่นักแสดงนำ เล่นกันแบบไม่ห่วงสวยหล่อ

แถมยังมีแม่หมอผี ระดับดีว่าตัวแม่ “หมอผีมั่น” (รัดเกล้า อามระดิษ) ตัวแม่ผู้นำทางไสยศาสตร์แห่งยุค ครอบงำจิตใจชาวบ้านได้เพราะความเชื่องมงาย และตำนานผีหลอน พร้อมกับฉากเด็ด ปรุงผัดกะเพรา ที่ท่ายากราวกับปรุงสูตรยาไสยศาสตร์ (ฮา)

ตอนแรกก็สามารถแจ้งเกิดนักแสดงใหม่ 2 คน “พ่อเพิ่ม” (สาริน รณเกียรติ) พระเอกจากซีรีส์ลูกผู้ชาย ชุดภูผา และ แม่รำพึง (เบสท์-ด.ญ.ภัทรภร มุกโชควัฒนา) เด็กน้อยผมม้าเต่อ หน้าตาไม่เหมือนชาวบ้านใดๆ ในสมัยอยุธยา สองพี่น้องที่แตกต่างกันสุดขั้ว พ่อเพิ่มแสนเรียบร้อย ร้อยมาลัย ส่วนแม่รำเพยน้องสาว แสนซนไม่แพ้พี่ชบา นางเอก

ที่สำคัญยังมีนักแสดงรับเชิญ โผล่ฉากเดียวแล้วโดนเท “แม่รำพึง หรือแม่สะพรึง” ตุ๊กตาผีแสนน่าเกลียด ตัวแทนความเชื่อทางไสยศาสตร์ ที่ต้องพ่ายแพ้ต่อตำรับไทย โดยหมอทองอิน ที่หลายคนอาจจะต้องนึกถึง ซีรีส์เกาหลีชื่อดัง “คนดีที่โลกรอ หมอโฮจุน” 

ในตอนแรกของการออกอากาศ กระแสเริ่มมา ทั้งเทรนด์ทวิตเตอร์ และจาก Influencer ในโลกโซเชียล ถึงขนาดเพจ อีเจี๊ยบ ยังต้องชม รวมถึง Tops Thailand ไม่เคยพลาดกระแสอยู่แล้ว จัดเต็มให้กับโฆษณา “ของเด็ด หมูยอ ถ้าฉลอง“ เลียนแบบฟอนต์โปรโมต “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” เต็มๆ

อย่างไรก็ตาม ละครเรื่องนี้ออกอากาศต่อจาก “บ่วงนฤมิต” ละครดราม่าที่เผชิญแต่เรื่องร้อนๆ ตั้งแต่ต้นปีนี้ ด้วยอิทธิพลข่าว “แมท-ภีรนีย์” แถมได้เรตติ้งเฉลี่ยต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของละครใหม่ ที่มาออนแอร์หลังข่าว 2 ทุ่มช่อง 3 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 1.767 โดยตอนจบมีเรตติ้งอยู่ที่ 2.079

แม้จะโดน “บ่วงนฤมิต” ขุดหลุมเรตติ้งเอาไว้เยอะ แต่เรตติ้งตอนเปิดตัว ได้ไปถึง 4.006 สูงที่สุดของช่อง 3 ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศตอนแรก ได้ไป 3.4 แต่ด้วยเนื้อเรื่อง บทสนุก นักแสดงจัดเต็ม ทำให้ละคร “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” กลายเป็นหนึ่งในละครที่คนกล่าวถึงเป็นกระแสในโลกออนไลน์มากที่สุดในตอนนี้

ต้องดูกันต่อไปว่า ตอนต่อๆ ไป ละครเรื่องนี้จะสามารถทำสถิติขึ้นมาได้อย่างไร จะเทียบเคียง “บุพเพสันนิวาส” ได้หรือไม่.

]]>
1211747
ช่อง 3 ยังอ่วม! ออเจ้าไม่ช่วย ไตรมาส 1 ขาดทุน 126 ล้าน https://positioningmag.com/1169737 Fri, 11 May 2018 10:41:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1169737 ถึงแม้ว่า ช่อง 3 จะได้กระแสความปังของละคร “บุพเพสันนิวาส” แต่ก็ยังไม่ทำให้ช่อง 3 พ้นจากวิกฤติรายได้

เมื่อผลประกอบการ ไตรมาสแรก ปี 61 บริษัท บีอีซี เวิลด์ ประกาศออกมาต้องขาดทุนสุทธิกว่า 125 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 375 ล้านบาท หรือกว่า 150% หลังจากรายได้หลักจากการโฆษณายังทรุดตัวจากปีก่อน 21% รวมทั้ง “วรวรรธน์ มาลีนนท์” ประกาศลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท

พิริยดิส ชูพึ่งอาตม์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายงานการเงินและบัญชี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC แจ้งผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาสแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิ 125.99 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ  249.00 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท หรือขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 374.99 ล้านบาท คิดเป็น 150.60%

รายได้โฆษณาโฆษณาทีวีลด ออนไลน์เพิ่ม

รายได้จากการขายเวลาโฆษณาอยู่ที่ 2,157.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% ของรายได้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/60 ประมาณ 13.7% แต่ลดลง 21.2% จาก Q1/60

• รายได้หลักยังคงมาจากการขายเวลาโฆษณาของ “ช่อง 3” อย่างไรก็ตามรายได้ของช่องดิจิทัลสองช่อง (ช่อง 28 และช่อง 13) มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจำกไตรมาสที่ 4/2560

• รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์ และบริการอื่น อยู่ที่ 173.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.6% จาก Q4/60 ที่ 118.4 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 9.5% จาก Q1/60

โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจออนไลน์ที่ได้แรงส่งจากกระแสของละคร บุพเพสันนิวาส ผ่านแพลตฟอร์ม Mello และแพลตฟอร์มพันธมิตร

• รายได้จากการจัดคอนเสริ์ตและการแสดง Q1/61 อยู่ที่71.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 214.2% จาก Q4/60 และเพิ่มขึ้น 9.4% จาก Q1/60  เกิจกรรม และรับจ้างจัดคอนเสิร์ตในไตรมาสนี้อได้แก่ Disney On Ice, Ninja Exhibition, Imagine Dragons, และ Russell Peters เป็นต้น

โดยรายได้รวมของกลุ่ม BEC อยู่ที่ 2,420.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% จาก Q4/60 ที่ 2,060.2 ล้านบาท แต่ลดลง 18.9% จาก Q1/60 ที่ 2,983.3 ล้านบาท โดยที่รายได้จากการขายเวลาโฆษณายังคงเป็นรายได้หลัก อยู่ที่ประมาณ 90% ของรายได้รวมทั้งหมด

ค่าใช้จ่ายอ่วม แบกต้นทุนรายการอ่วม

ส่วนค่าใช้จ่ายรวมของกลุ่ม BEC ไตรมาสแรกปี 61  อยู่ที่ 2,110.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จาก Q4/60 แต่ลดลง 4.3% จาก Q1/60 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากต้นทุนรายการที่เพิ่มขึ้น โดยประมาณ 64% ของค่าใช้จ่ายรวมของกลุ่ม BEC

อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 310.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,485.8% จาก Q4/60 ที่ 19.6 ล้านบาท แต่ลดลง 60.2% จาก Q1/60 ที่ 779.7 ล้านบาท

วรวรรธน์ มาลีนนท์

วรวรรธน์ มาลีนนท์ ลูกชายประวิทย์ ลาออกกรรมการ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ. บีอีซี เวิลด์ ครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2561 ได้รับทราบการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทของ นายวรวรรธน์ มาลีนนท์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 2561

ทั้งนี้ วรวรรธน์ เป็นบุตรชายคนโตของ ประวิทย์ มาลีนนท์ ที่ได้ประกาศขายหุ้นทั้งหมดรวมทั้งของลูกทั้ง  3 คน รวม 4.41% ไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561.  

]]>
1169737
ละครจบ การตลาดไม่จบ! เก็บตกแบรนด์ดัง กระพือ “ออเจ้ามาร์เก็ตติ้ง” ระลอกใหม่ https://positioningmag.com/1166699 Fri, 20 Apr 2018 10:08:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1166699 ยังคงสร้างปรากฏการณ์ทางการตลาดไม่รู้จบสำหรับพลังของละครแห่งชาติ “บุพเพสันนิวาส” ที่ถึงแม้ละครจะอวสานไปแล้ว แต่บรรดาแบรนด์ดังยังคงติดอกติดใจนำกลยุทธ์ “ออเจ้ามาร์เก็ตติ้ง” มาใช้

เป็นละครที่แรงข้ามภพไม่พอ ยังแรงข้ามค่าย เพราะค่ายมือถือทั้ง “เอไอเอส” และ “ทรู” ต่างดึงพระนางไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่หลังจบละครสิ่งที่เห็นทั้ง 2 ค่ายเกาะกระแสความฮอตของละคร คือปล่อย “คอนเทนต์” และ “โฆษณา” มาเรียกเรตติ้งให้แบรนด์เป็นว่าเล่น โดยเอไอเอสนอกจากเป็นเสือปืนไว หรือ Real Time Marketing คว้า “เบลล่า ราณี” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ยังออกหมัดรัว ใช้กลยุทธ์ Co-Creator ร่วมมือกับช่อง 3 และบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ผู้ผลิตละครบุพเพสันนิวาส ผลิคคลิปโฆษณาตอนพิเศษฉายบน “ออนไลน์”

โดยคลิปตอนพิเศษก็ไม่ได้มีแค่ตอนเดียว แต่ออกมาเยอะมาก เช่น “บุพเพสันนิวาส…ฟินเฟ่อร์” ฉากไฮไลต์ที่แม่การะเกดนางเอกสั่งหมูกระทะมากิน ซึ่งแบรนด์ต้องการสื่อความแรงของสัญญาณมือถือข้ามภพข้ามชาติในฐานะ “เจ้าตลาด” โดยเดือนเดียวมีผู้ชมคลิปมากกว่า 4 ล้านวิว หรือ บุพเพสันนิวาส…คิวท์บอย แรปโย่ว โอ้วว้าว ที่โปรโมตเครือข่ายอินเตอร์แบบสุดๆ และยอดวิวของคลิปนี้ขึ้นไปถึง 2 ล้านวิว ใน 2 สัปดาห์ เรียกว่ายอดไลก์ ยอดแชร์ และคอมเมนต์ทะลุหลักหมื่น หลักพัน ได้ Engagement กับแบรนด์ไปเต็มๆ

ฝั่งทรู ที่ได้ตัว “พระเอก โป๊ป ธนวรรธน์” ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็เริ่มฉากใหม่หลังละครจบ ด้วยการออนแอร์โฆษณายึดช่วงนาทีทอง “ไพรม์ไทม์” ของทุกช่อง เมื่อขุนโป๊ปเชิญชวนให้ร้านค้ายุคใหม่มา “ฝากร้าน” ได้ที่ แอปพลิเคชั่น “True Merchant 4.0” หรือ “ทรูเถ้าแก่ 4.0” นับเป็นการดึงหนุ่มโป๊ปเป็นแม่เหล็กเรียกร้านค้ามาเป็นพันธมิตรเพื่อค้าขายบนโลกออนไลน์ให้เยอะๆ

หลัง TrueYou ปล่อยวิดีโอออกมากว่า 1 สัปดาห์ ผลตอบรับล้นหลามมาก เพราะโกยยอดวิวทะลุ 5.9 ล้านไปแล้ว ยอดไลก์อีกเป็นแสน! ยอดแชร์หลักหมื่น เรียกว่า พลังของขุนโป๊ป ทำให้ติ่ง แฟนคลับเข้ามาตรึม แถมถามไถ่การดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอีกมากมาย

ผลลัพธ์ดีขนาดนี้ แบรนด์ไหนจะยอมพลาดตกกระแสล่ะ!

หนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่ทำ Real Time Marketing ชิงขาย “มะม่วงน้ำปลาหวาน” ตีคู่ฉากในละครคือร้านสะดวกซื้อเบอร์ 1 อย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” แต่หลังละครจบ เซเว่นฯ ก็ไม่จบ เพราะหยิบยกพระ-นาง ทั้งพี่หมื่นและแม่การะเกดมาต่อยอดคอนเทนต์ “บุพเพเมนูแซ่บ” ตอกย้ำบทบาทร้าน “อิ่มสะดวก” เพราะทุกฉากในคอนเทนต์มีการหยิบเมนูทั้งคาวและหวานมาโปรโมตเต็มๆ สอดคล้องกับสัดส่วนของสินค้าในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นที่เป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่มมากถึง 70%

ยิ่งกว่านั้น ยังยกร้านสะดวกซื้อไปอยู่ข้ามภพเลยทีเดียว สะท้อนให้ผู้บริโภคเห็นว่า จะอยู่ในตรอก ซอกซอยไหน ก็เจอร้านเซเว่น อีเลฟเว่นได้หมด เพราะปัจจุบันมีร้านมากกว่า 1 หมื่นแห่ง และมีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ยมากกว่า 11ล้านคนต่อวัน

นอกจากพลังของละครแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ทำให้หลังคลิปปล่อยออกมาเพียง 2 วัน โกยยอดวิวทะลุ 4.9 ล้านวิวแล้ว ยอดไลก์อีกเกือบ 3 แสนไลก์ ยอดแชร์ก็พุ่งปรี๊ดเกิน 3.5 หมื่นครั้งแล้ว  

เห็นเงียบๆ แต่ก็จัดเต็มเหมือนกัน สำหรับเครื่องสำอางแบรนด์ไทย “มิสทิน” ที่ปล่อยแคมเปญบุพเพสันนิวาส ตอน “มิสทินสันนิวาส น้ำลดตอผุด สุดพิเศษ” ที่นอกจากจะตอกย้ำไก่งามเพราะขน คนงามพราะแต่ง (หน้า) มุ่งขายเครื่องสำอาง โดยเน้นไปที่อายไลเนอร์ ซึ่งกำลังมีโปรโมชั่นอยู่พอดี นี่ยังเป็นการเผยให้รู้ว่า “เบลล่า ราณี” คือพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของมิสทิน ซึ่งเป็น “จุดแข็ง” ของแบรนด์ที่ดึงดาราตัว “ท็อปลิสต์” มาเป็นตัวแทนของแบรนด์จำนวนมาก

นอกจากนี้ มิสทิน ยังใช้จังหวะดังกล่าว ชูเอกลักษณ์การขายสินค้าผ่าน “สาวมิสทิน” กับประโยคฮิต “มิสทินมาแล้วค่ะ” เพื่อโกยให้คนสนใจมาเป็นตัวแทนการทำตลาดแบบตรงหรือขายตรง

นี่เป็นส่วนหนึ่งของพลัง Content is King อย่างละครบุพเพสันนิวาส ที่แม้ละครลาจอจบไปแล้ว แต่การตลาดไม่จบ ได้เห็นการออกสตาร์ท “ต่อยอด” คอนเทนต์ที่ทรงพลัง เพื่อตอบโจทย์สาวกและกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์

ส่วนแบรนด์ไหนได้ Engagement ได้พลังการบอกหรือแชร์ต่อ ขึ้นอยู่กับการทำคอนเทนต์ได้โดนใจ ตรง Insight ของผู้บริโภค ส่วนยอดขายก็คงไปวัดกันที่หน้าเชลฟ์เหมือนเดิม!.

]]>
1166699
ใครกันแน่ ! แชมป์ทีวีรีรัน ยูทูป VS ไลน์ทีวี   https://positioningmag.com/1166220 Wed, 18 Apr 2018 05:08:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1166220 สงคราม “จอแก้ว” ในยุคที่ดิจิทัลที่ว่าร้อนฉ่า! แล้ว การรับชมรายการทีวีย้อนหลัง หรือ “ทีวีรีรัน” บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง “Youtube” และ “LINE TV” ก็แซ่บไม่แพ้กัน

เป็นที่รู้กันว่า “ยูทูป” เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ที่เกิดและทำตลาดมา 10 ปี มีฐานผู้ชมมากถึง 90 ประเทศทั่วโลก ส่วนไทย “ยูทูป” เข้ามาปักหลักลุยธุรกิจเพียง 4 ปี แต่ผลงานท็อปฟอร์มจนติดอันดับ “ท็อป 10” ประเทศที่มีคนดูวิดีโอออนไลน์สูงสุด จากผู้ใช้งานมากถึง 40 ล้านคน หรือราว 92-93% จากจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด 46 ล้านคน

จุดเด่นของยูทูปที่ดึง Eyeball คนดูมาได้ เพราะมีเนื้อหารายการต่างๆหรือคอนเทนต์ ทั้งเพลง รายการทีวี กิน เที่ยว ที่สร้างสรรค์โดยผู้ใช้งาน (User Generated Content:UGC) สัดส่วน 50% และอีก 50% เป็นคอนเทนต์ที่มาจากผู้ผลิตรายการทีวี สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เข้ามาป็นพันธมิตรเสริมจุดแข็งด้านเนื้อหารายการอีกทาง

ทว่า สิ่งที่เคยเป็น “จุดแข็ง” ของยูทูปวันนี้ กำลังถูก “เขย่าบัลลังก์” หลังคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง “ไลน์ทีวี” เดินเกมรุกหนักแย่ง “ฐานคนดู” ควบคู่การกว้าน “ผู้ผลิตคอนเทนต์” เป็น “พันธมิตร” นำคอนเทนต์มาฉายซ้ำหลังช่อง 48 ชั่วโมงเหมือนกับยูทูป  

“ไลน์ทีวี” ผุดแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ให้บริการในไทยราว 3 ปี แต่ปลายปี 2560 ก็ “เคลม” เป็น “ผู้นำ” แพลตฟอร์มรับชมทีวีรีรันเรียบร้อยแล้ว! พร้อมยกสถิติทั้งยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น 20 ล้านครั้ง ยอดวิวดูทีวีรีรันเฉลี่ย176 นาที หรือราว 2 ใน 3 ของคนดูทีวีจอแก้วปกติ พันธมิตรตบเท้านำคอนเทนต์มาออกอากาศย้อนหลังแบบ “เอ็กซ์คลูซีฟ” จำนวนมาก และยังมี “ออริจินัล คอนเทนต์” ของไลน์นำมาเสริมทัพ ไม่พอ! เพราะไลน์ได้จับมือกับผู้ผลิตและช่องเตรียม “ผลิต” ซีรีส์ ละคร และรายการต่างๆ เองด้วย

เรียกว่าทุ่มเททำทุกทางเพื่อให้เป็น “แชมป์” ทีวีรีรันยาวๆ ไป

เมื่อ “ไลน์” เปิดเกมรุกหนักขนาดนี้ “ยูทูป” อยู่เฉยไม่ได้ เพราะในงานยูทูปเดย์ ปีนี้ “เจ้าตลาด” เล่นใหญ่! เพื่อประกาศศักดาทั้งสถิติสารพัดความนิยมรับชมวิดีโอออนไลน์และทีวีรีรัน ไม่ว่าจะเป็นการเคลม “ยอดวิว” คนดูละครแห่งชาติ “บุพเพสันนิวาส” ช่วง 1 เดือน มีมากถึง 34.7 ล้านคน แต่กระแสความแรงของละคร ก็ทำให้ทาง “ไลน์ทีวี” ยกสถิติเกทับเช่นกัน ว่าขายโฆษณา VTR สั้นๆ ได้หมดเกลี้ยง!

ยูทูปยังยกรายการเด่นของไทย ที่มีคนดูเยอะ! จนสร้างปรากฎการณ์ระดับโลก เมื่อเพลง “ตราบธุลีดิน” จากรายการ “The mask Singer Season 2” ของพันธมิตรอย่าง “ช่องเวิร์คพอยท์” เป็นคอนเทนต์ที่มีคนดูมากสุดเทียบชั้นเพลงฮิตอย่าง Shape of You ของ Ed Sheeran เลยทีเดียว “ไลน์ทีวี” ก็มีดี เพราะมีคอนเทนต์ดังไปคว้ารางวัลระดับเอเชียได้ ออกหมัดแลกกันทุกสเต็ป เป็นสงครามแพลตฟอร์มทีวีรีรันกินกันไม่ลงเลยทีเดียว

“การเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 เพื่อชมทีวีรีรัน ต้องดูว่าวัดจากอะไร จำนวน Reach หรือเปล่า Win ใน Metric ไหน เพราะอย่างยูทูปมียูสเซอร์ 40 ล้านคน” มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจบันเทิง YouTube ประเทศไทย ให้ความเห็น

มุกพิม หยิบยกรายการของ TNS Research ให้ข้อมูลผู้ใช้งาน “ยูทูป” ณ เดือนมกราคม 2561 มีคนไทยราว 40 ล้านคน ส่วนใหญ่จะเน้นฟังเพลงดูมิวสิกวิดีโอ 70% และดูละครรีรัน 51% และคอนเทนต์ที่มีก็มาจากทั้งคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ยูทูปเบอร์ต่างๆ รวมทั้งผู้ผลิต ช่องทีวีต่างๆ ด้วย ทำให้รายการมีความหลากหลายอย่างมาก

คอนเทนต์บนยูทูป

ที่น่าสนใจคือการรับชมทีวีย้อนหลังผ่านยูทูป ของกลุ่มผู้บริโภคอายุ 25-34 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่สุดราว 59% พฤติกรรมดูรายการทีวีรีรันจาก 2 เหตุผล คือเป็นคนติดทีวี แต่พลาดไม่มีเวลาดูที่บ้านจึงต้องตามเก็บทีหลัง หรือเป็นคนที่ดูทีวีแล้ว แต่ยังอยากเมาท์กับเพื่อนซ้ำถึงละครนั้นๆ ทำให้คนกลุ่มนี้ “ไหลไปมา” ระหว่าง Screen ค่อนข้างมาก  

เมื่อดู “ท็อปโปรแกรม” หรือรายการทีวีพรีเมียมของพาร์ตเนอร์ฉายซ้ำบนยูทูป มุกพิมบอกว่า สามารถโกย “ยอดวิว” มากถึง 89% เทียบแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นว่ายูทูปเป็น “ทางเลือก” อันดับ 1 ที่คนต้องการเข้ามา Engage กับรายการทีวีอยู่ 

เพราะเนื้อหารายการคือหัวใจของชัยชนะแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์หรือ Content is King ยูทูปจึงทำงานกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิด หาคอนเทนต์เสริมแนวรบสะกดคนดูเพิ่มยอดวิว

ทว่า คู่แข่งก็รุกหนักจับมือผู้ผลิตคอนเทนต์ช่องต่างๆ ซึ่ง “มุกพิม” ยอมรับว่ามีพันธมิตรบางราย “โยก” คอนเทนต์ไปฉายซ้ำอีกแพลตฟอร์ม แต่นั่นถือเป็น “ทางเลือก” ในการ “ทดลอง” เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ

แต่ละแพลตฟอร์มถูกนำไปต่อยอดธุรกิจในบริบทที่ต่างกัน และยอดวิวทั้งหมดไม่ได้อยู่บนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น

นอกจากนี้ รายได้ของยูทูปมาจาก “โฆษณา” จึงต้องหยิบตัวเลขยูสเซอร์ 40 ล้านคนมาการันตีให้สินค้าและบริการ ตลอดจนแบรนด์ดังรู้ว่า “ยูทูป” ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ “ทรงพลัง” สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รักแก่ผู้บริโภค (Building Brand love) สร้าง Engagement สร้าง Impact ได้ด้วย

“เรามีคอนเทนต์ครอบคลุมรายการทีวีรีรัน เพลง จนถึง How to และ Passion คอนเทนต์จากนักสร้างสรรค์ เพื่อตอบสนองคนดู และยังสร้างความแตกต่างด้วยการโฟกัสจุดแข็งด้านเทคโนโลยี Data ผู้ชมที่มีใช้ประโยชน์ให้พันธมิตร เอเยนซีโฆษณา และลูกค้า”

“มุกพิม อนันตชัย” หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจบันเทิง YouTube ประเทศไทย

ฟากไลน์ทีวี ปี 2561 ยังคงมุ่งสร้างแพลตฟอร์มให้ครองใจผู้ชม (Top of Mind) จึงเร่งเครื่องเสริมจุดแข็งให้แกร่งกว่าเดิมด้วยการผนึกช่องต่างๆ หาคอนเทนท์น้ำดี น้ำเน่า ดราม่า เพลง วาไรตี้ มาลงกันให้พรึ่บ! เพราะปี 2560 มีคอนเทนต์มากถึง 161 รายการ เติบโต 90% จากความหลากหลายทำให้ดึงคนดูเพิ่ม ยอดวิวพุ่ง โกย “เม็ดเงินโฆษณา” โตกว่า 100%

ไตรมาส 1 เสริมคอนเทนต์ไฮไลต์ ตรึงคนดูเพียบทั้ง ล่า เรือนเบญจพิษจากช่อง ONE, ซิทคอม เป็นต่อ และรายการวาไรตี้โชว์ เดอะ เฟส 4 ของกันตนา ต้องรัวหมัดฮุกต่อด้วยการดึงคอนเทนต์ชั้นดีหรือระดับ A list เข้าคิวออกอากาศยาวถึงสิ้นปี เช่น “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ของช่อง 3 นำแสดงโดยพระ-นางแม่เหล็ก “แต้ว-เจมส์จิ” ตามด้วย “ลิขิตรัก The Crown Princess ได้คู่ขวัญ “ณเดชน์-ญาญ่า” นำแสดง ยังมีคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ The Gifted นักเรียนพลังกิฟต์ จาก GMMTV รีรัน ปิดท้ายไตรมาส 4 มีละครเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ สงครามนักปั้นจากช่อง One

ยังไม่หมด เพราะ “ออริจินัลคอนเทนต์” ต้องมา ซึ่งไลน์ทีวีส่งละครสยองขวัญ The Collector คนประกบผี ออกอากาศ ตามด้วยเรียลลิตี้โชว์ Drag Race Thailand รายการประเภทแดนซ์ๆ เต้นๆ รวมถึงคอนเทนต์เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) นอกเหนือจากหญิงและชายด้วย

“ไลน์ทีวีเป็นเบอร์ 1 ทีวีรีรันแพลตฟอร์ม เหตุผลหลักเพราะเรามีเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์เยอะมาก อย่างปีที่ผ่านมาคอนเทนต์ที่เรตติ้งสูงๆ เราได้มาหมด และคอนเทนต์ที่ดูที่ไลน์ทีวีที่แรกที่เดียว ทำให้ช่วยพันธมิตรขายโฆษณา ขยายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้มากขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม คอนเทนต์ที่อยู่บนไลน์ทีวียอดวิวจะพุ่งขึ้นสูงมาก 80% ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ดังนั้นการนำคอนเทนต์มาออกอากาศต้องเร็วสำคัญมาก เพราะเป็นการดึงให้ผู้ชมได้ดูเร็วที่สุด” กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย กล่าว

กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย

สถิติที่ยกมา “ข่ม” แข่งกันแล้ว วิวาทะของ 2 ค่ายก็กินกันไม่ลงทีเดียว แต่แพลตฟอร์มไหนโดนใจผู้ชมดูทีวีย้อนหลังมากกว่ากัน “คนดู” คือผู้ตัดสิน!

]]>
1166220
“บุพเพฯ” ลาจอ สร้างสถิติเรตติ้งสูงสุดยุคทีวีดิจิทัล ช่อง 3 ลุ้นต่อ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ “รักชาติ” https://positioningmag.com/1165865 Thu, 12 Apr 2018 11:01:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1165865 “บุพเพสันนิวาส” ละครที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการทีวีดิจิทัล สร้างกระแสนิยมไทย แต่งกายไทยย้อนยุค, ศึกษาประวัติศาสตร์ไทย, อาหารไทย เป็นละครที่เปิดช่องทางให้เห็นว่า ทีวีและออนไลน์ สามารถไปด้วยกันได้ และส่งเสริมซึ่งกันและกัน เมื่อคอนเทนต์ปัง ออนไลน์ก็พร้อมตาม อีกทั้งยังช่วยสร้างการตลาดออนไลน์ สินค้ามากมายเกาะกระแสละคร เสนอขายสินค้าไปจนตลอดทั้งเรื่องจนถึงตอนจบ

บทสรุปของละครเรื่องนี้ เรตติ้งตอนจบ วันที่ 11 เมษายน วันที่ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เรตติ้งเฉลี่ยตอนจบทั่วประเทศอยู่ที่ 18.633 แต่ถ้าแยกตามพื้นที่ กรุงเทพ และ หัวเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นฐานของกลุ่มคนเมืองทั่วประเทศ ซึ่งเป็นฐานผู้ชมหลักของช่อง 3 อยู่แล้ว มีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 23.013 แต่ถ้าแยกย่อยลงมาเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่รวมหัวเมืองจะได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 23.396 ส่วนพื้นที่นอกเมืองต่างจังหวัด เรตติ้งได้ไป 16.052

ในแง่การตลาด เรตติ้งของกลุ่ม F15+BU คือกลุ่มผู้หญิงอายุ 15 ปีขึ้นไป และอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ เรตติ้งได้สูงถึง 27.732 ถือเป็นเป้าหมายของสินค้าที่ลงโฆษณาในทีวีทั้งหมด

ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าสำหรับผู้หญิง ทั้งเครื่องใช้ส่วนตัวและสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหมด และเป็นกลุ่มคนเมืองทั่วประเทศ ที่มีกำลังซื้อสูง ตรงกับเป้าหมายของสินค้า ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นตัวเลขสูงที่สูงมาก ทางการตลาดถือว่า คุ้มค่ากับการลงโฆษณามากที่สุด

สำหรับเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง อยู่ที่ 13.384 สูงกว่าละคร “นางชฎา” ช่อง 7 ในปี 2558 ที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 11.465  และ “นาคี” ของช่อง 3 ในปี 2559 ที่ได้เรตติ้งเฉลี่ย  10.902 กลายเป็นละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในยุคทีวีดิจิทัลไปแล้ว

ฟื้นเรตติ้งช่องขึ้นอันดับ 1

“บุพเพสันนิวาส” เป็นละครที่ช่วยปลุกเรตติ้งช่อง 3  จากเดิมที่เคยโดนช่องใหม่มาแรงท้าทาย ทั้งโมโน ,เวิร์คพอยท์ , ช่อง 8 และช่องวัน  แต่ช่อง 3 กลับมาตั้งตัวและแซงหน้าช่อง 7 แชมป์เก่าขึ้นมาเป็น ผู้นำเรตติ้งอันดับ 1 ของทีวีดิจิทัลในเดือนมีนาคมได้เป็นครั้งแรก หลังจากเพียรพยายามสู้กันมาตั้งแต่ยุคอนาล็อค

เรตติ้งเดือนกุมภาพันธ์ ช่อง 7 ยังเป็นแชมป์เรตติ้งอยู่ที่ 1.916 ในขณะที่ช่อง 3 อยู่อันดับ 2 ที่ 1.216  พอมาเดือนมีนาคม ช่อง 3 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ที่ 1.856 และ 1.804 หลังจากที่ “บุพเพสันนิวาส” เริ่มออนแอร์ตั้งแต่ วันที่ 21 กุมภาพันธ์

นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับช่อง 3 ไม่ต่ำกว่า  500 ล้านบาท ในช่วงที่ละครนี้ออนแอร์ ตั้งแต่รายได้จากค่าโฆษณาทางทีวี และออนไลน์ การออกอีเว้นท์ ขายสินค้าลิขสิทธิ์ และสติ๊กเกอร์ไลน์ รวมถึงรายได้จากการขายโฆษณาในช่วงที่จะมารีรีนอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ในช่วงละครเย็นอีกด้วย

ส่งไม้ต่อ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว 

ช่อง 3 ได้วางแผนมาไว้ล่วงหน้าก่อนที่ละครออเจ้าจะดังว่า ชุดในวันพุธและพฤหัสนี้ จะเป็นชุดละครพีเรียดต่อเนื่องจาก “บุพเพสันนิวาส” และต่อด้วย “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” แต่เมื่อกระแสของบุพเพฯมาดัง ปังแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ละครที่ตามต่อมาเริ่มคิดหนัก เป็นความกดดันของผู้จัดละคร “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามกำหนดเดิมจะต้องออนแอร์ต่อเนื่องในวันที่ 12  เมษายนทันที การออกอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นความน่ากังวลที่เป็นช่วงคนดูไม่มาก เรตติ้งอาจจะไม่มา มีผลต่อภาพรวมของทั้งช่อง และรายได้

บุพเพ ภาคพิเศษ ฟันรายได้ 45 ล้านบาท

ทำให้ช่อง 3 หาทางออก โดยให้มีบุพเพฯตอนพิเศษอีก 3 วัน ยืดเวลาการออกอากาศ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ออกไปเป็นวันที่ 25 เมษายน ช่วงที่คนกลับมาจากเทศกาลแล้ว ในขณะเดียวกันช่อง 3 ก็ยังมีรายได้เพิ่มจากการขายโฆษณาในอีก 3 ตอนพิเศษ ในราคานาทีละ 480,000 บาทต่อนาที ออกอากาศวันละ 2.30 ชั่วโมง มีเวลาโฆษณา 31.25 นาทีต่อวัน เท่ากับมีรายได้ 15 ล้านบาทต่อวัน  รวมทั้งหมดได้ 45 ล้านบาท เป็นการจบสวย win win ทั้งผู้จัดละครเรื่องเก่า เรื่องใหม่ และช่อง 3 ด้วย

สำหรับ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” เป็นละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ แนวรักชาติ รักแผ่นดินเข้มข้น โดยค่ายทีวีซีน เป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ในยุคปลายกรุงศรีอยุธยาก่อน และหลังเสียงกรุง จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี โดยเดินเรื่องผ่าน “ขันทอง”ชายหนุ่มที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นขันทีในวังหลวง เพื่อสืบเรื่องราวความลับของคนทรยศชาติ

ละครเน้นเรื่องความรักชาติ เพื่อปลุกกระแสความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ที่สร้างชาติไทยขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ โดยหวังว่าจะสร้างความกระแสความนิยมไทยและให้คนไทยสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ขึ้นมาต่อเนื่อง โดยมี”เอกลิขิต” ที่เคยเขียนบทให้กับ”ข้าบดินทร์”มาเป็นผู้เขียนบท กำกับโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล นักแสดงหลัก “เจมส์ จิรายุ” “แต้ว ณฐพร” และ “อั้ม อธิชาติ”.

]]>
1165865
บทสรุป “บุพเพสันนิวาส” แรงส่งช่อง 3 สารพัดแบรนด์ อิงออเจ้ามาร์เก็ตติ้ง กระหึ่ม! ทั้งแผ่นดิน https://positioningmag.com/1165839 Thu, 12 Apr 2018 09:05:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1165839 ในการทำธุรกิจทีวี การสื่อสารการตลาด สิ่งที่นักการตลาดย้ำอยู่เสมอ คือการให้ความสำคัญกับ “เนื้อหา” หรือ Content is King นั่นเอง และความสำเร็จของละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่ออกอากาศทางช่อง 3 และเพิ่งจบลงไปนั้น เป็นตัวอย่างคอนเทนต์ที่ดีจนดังเปรี้ยงปร้าง สร้าง “ปรากฏการณ์” ออเจ้าทั้งแผ่นดิน

นอกจากช่อง 3 จะโกยเรตติ้งทะลุทะลวง เฉพาะกรุงเทพฯ ตอนที่ 14 ทะลุ 23 ฝ่าขาลงของธุรกิจทีวี เพราะมี “หลายจอ” ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ มาแย่ง Eyeball อิทธิฤทธิ์ของละครทำให้นักการตลาดต้องหยิบยกเป็น “กรณีศึกษา” เพื่อให้แบรนด์นำต่อยอดได้อีกด้วย

++แบรนด์ปักธงอิงกระแสออเจ้า

“ปัทมวรรณ สถาพร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย จำกัด ฉายภาพ “เทรนด์” พฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยมีความรักชาติ (Nationalism) สนใจการแต่งกายชุดไทย ภูมิใจในความเป็นไทยเป็นทุนอยู่แล้ว เมื่อมีงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นการปลุก “กระแส” ความเป็นไทยยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับละคร “บุพเพสันนิวาส” ถือเป็นกระแสและสร้างปรากฏการณ์ไม่ต่างจาก “ตูน บอดี้สแลม” ที่วิ่งจากใต้จรดเหนือเพื่อระดมทุนช่วยซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ 11 โรงพยาบาล ต่างกันที่ละคร Mass เข้าถึงคนในวงกว้าง และถูก “จริต” ผู้บริโภคชาวไทยให้อินตามได้อย่างมาก

จึงไม่แปลกที่จะเห็นสินค้าและบริการจำนวนมากอิง “ออเจ้ามาร์เก็ตติ้ง” เจาะกลุ่มเป้าหมายกันยกใหญ่ เพราะจะว่าไป “นักการตลาด” เห็นตารางรายการ กิจกรรมต่างๆ ตายตัว เช่น ช่วงนี้มีละครบุพเพสันนิวาส มีเทศกาลสงกรานต์ ถัดไปกลางปีมีมหกรรมฟุตบอลโลก ตามด้วยวันแม่ ทำให้นักการตลาดและทีมจับตาดูพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้น แล้วนำแผนงานที่วางไว้ล่วงหน้าปล่อยออกไปรับกระแสได้อย่างรวดเร็ว (Adaptive Marketing)

 ++ เล่นกับความฮอตวูบวาบแบรนด์ต้องสปีด

ออเจ้าฟีเวอร์ นอกจากทำให้เว็บไซต์ Mello ของช่อง 3 แจ้งเกิด โดยยอดวิวคนดูละครเป็นร้อยล้านวิว ความฮอตของหลายฉากหลายตอน ไม่ว่าจะเป็นการ์ดเชิญร่วมงานแต่งงาน “พี่หมื่น-แม่การะเกด” โล้สำเภา กินมะม่วงน้ำปลาหวาน ตีกระทะ เครื่องกรองน้ำ ผายปอด ทำให้สินค้าจำนวนมากขอมีเอี่ยวทำตลาดด้วย  

หากเป็นไปได้แบรนด์เห็นกระแสมาละ ควรชิงจังหวะโดดเกาะให้เร็วเป็นรายแรก เพื่อสร้างคุณสมบัติการจดจำแบรนด์ให้เกิดกับผู้บริโภค และนึกถึงสินค้าบริการนั้นๆ อยู่เสมอ (Brand Recall) เหมือนยุคไทเกอร์วู้ด นักกอล์ฟที่อยู่ในช่วงขาขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก สินค้าทั้งนาฬิกาหรู แบรนด์กีฬาคว้าไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่ภาพที่คนจดจำมากจะเป็นกีฬาไนกี้ เพราะแบรนด์แรกที่คว้าตัวทำตลาดได้ก่อน

“แบรนด์แรกที่ดึงกระแสไปต่อยอดการทำตลาดจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิด Brand recall เป็นเจ้าแรกๆ เมื่อแบรนด์ที่ 2 เล่นตาม ถ้า Positioning ไม่แข็งแรงพอ คนอาจไม่จดจำ และไปนึกถึงเจ้าแรกแทน ดังนั้นถ้ามีกระแส แบรนด์ต้องเล่นที่สปีด ทำธุรกิจยุคนี้ต้องเร็วเท่าแสง คิดปุ๊บต้องทำปั๊บ ไม่งั้นอาจไม่ทันการณ์ สปีดยังจำเป็นเมื่อกระแสตก ต้องรีบออกไม่ใช่ขี่กระแสต่อ” ชลิต ลิมปนะเวช อุปนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ให้มุมมอง    

ทั้งนี้ เอไอเอส เป็นกรณีศึกษาที่ดีในการเป็น “รายแรก” ที่ใช้ประโยชน์จากกระแสออเจ้ามาร์เก็ตติ้ง ด้วยการดึง “เบลล่า” เป็นพีเซ็นเตอร์ พร้อมนำเสนอละครตอนพิเศษ เอาใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมโปรโมตความแรงของสัญญาณมือถือเอไอเอส

“ต้องยกนิ้วให้เอไอเอส นอกจากจะดึงนักแสดงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และสร้างละคร ซึ่งไม่ว่าจะทำก่อนหรือหลังละครบุพเพสันนิวาสดัง ก็สะท้อนให้เห็นว่าทีมงานคาดการณ์ตลาดได้อย่างดี” 

ถือเป็นการย้ำภาพ “ผู้นำตลาด” ให้กับแบรนด์เอไอเอสได้ดียิ่งขึ้นด้วย 

“ละครบุพเพสันนิวาส สินค้าไหนที่ไปผูกทำตลาดเป็นบุพเพสันนิวาสได้ อาจครองใจผู้บริโภคให้ใช้สินค้าได้นาน” 

++ ความเชื่อมั่นช่อง 3 ฟื้น       

ละครดีมีคนดูตรึม ประโยชน์เต็มๆ แน่นอนตกที่เจ้าของช่อง “ภวัต เรืองเดชวรชัย” ผู้อำนวยการธุรกิจ–สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณาบริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ จํากัด (MI) บอกว่า ละครเรื่องนี้ทำให้ช่อง 3 เรียกความเชื่อมั่นจากคนดูได้สูงมาก โดยเรตติ้งและการขายโฆษณาเกลี้ยง! และยังขาย VTR 3-5 วินาทีช่วงพักเบรกได้เต็มแม็ก จากที่ผ่านมาเผชิญความเหนื่อยยากลำบากทั้งเรตติ้งและรายได้

นอกจากนี้ “ราคาหุ้น” ยังรีบาวน์หรือดีดปรับตัวขึ้นในช่วงที่ละครออกอากาศด้วย หากไม่รวมผลกระทบจากหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งจนฉุดหุ้นไทย และหุ้นของ BEC แดงเล็กน้อย

“ปรากฏการณ์บุพเพสันนิวาส ไม่ต่างจากตูน บอดี้สแลม ที่ทำให้คนทุกเพศทุกวัยสนใจ ออเจ้าทำให้คนกลุ่มกว้าง 60 ล้านคนอินร่วมกัน ตูนก็ทำให้เด็ก ผู้ใหญ่ คนรวย คนฐานรากอินหมด ลุ้นว่าตูนจะวิ่งจนจบไหม แม้กระทั่ง The Mask Singer ซีซั่นแรก ก็เป็นปรากฏการณ์ทำเรตติ้งแซงละครได้”

ภวัต สะท้อนคอนเทนต์ดี ชูโรงธุรกิจให้โดดเด่นได้มาก   

แต่ที่น่าสนใจ ช่อง 3 กำลังขาขึ้น จากนี้ไปจะรักษา “โมเมนตัม” ความฮอตให้ยืนระยะยาว ซึ่งหากช่องต้องการอยู่จุดนั้น เป็นไปได้ที่จะนำละครกลับมารีรันอีกครั้ง โดยไม่ต้องรอเวลา 4-5 เดือนให้ซา อาจเป็น “แม่เหล็ก” ตรึงคนดูได้และช่วยดึงเรตติ้งช่องโดยรวมได้  

ส่วนแบรนด์ที่เข้ามาเล่นกับกระแสออเจ้า เป็นเรื่องคลาสสิกมาก แต่ต้องยอมรับว่าแบรนด์ที่อยู่ในเกมการตลาดนี้ได้โดดเด่นคือ “เอไอเอส” เพราะเป็นการออกสเต็ปที่เร็ว (Agility) และหยิบนักแสดงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำผลงานโฆษณาออกมาเร็ว ขณะที่แบรนด์อื่นๆ หยิบแค่ “Wording” ของละครมาสร้างสีสัน.  

“พี่หมื่น-แม่การะเกดจูงมือสร้างปรากฏการณ์ตลาดเพียบ”

“บุพเพสันนิวาส” คือละครกระชาก! เรตติ้งช่อง 3 จากอยู่ในระดับต่ำให้พุ่งปรี๊ด 23.7 (EP.14) ทุบสถิติละครหลายเรื่องในรอบหลายปี แถมยังทำเงินให้ช่องเป็นกอบเป็นกำ ทั้งจากการขายโฆษณา อีเวนต์ ลิขสิทธิ์ สินค้า สติกเกอร์ไลน์ อีกสารพัดธุรกิจเกี่ยวเนื่องอยู่ที่หลัก 500 ล้านบาท 

แจ้งเกิด Mellow 

แพลตฟอร์มออนไลน์ของช่องมีคนดูละครเรื่องนี้จนยอดวิวทะลุ “ร้อยล้าน” อย่างรวดเร็ว

ดาราห้างแตก 

โดย “หนุ่มโป๊ป ธนวรรธน์” กลายเป็นพระเอกสุดฮอต มีบรรดาแฟนคลับพี่หมื่นไปเกาะติดงานอีเวนต์เพียบ โดยพระนาง คว้างานพรีเซ็นเตอร์รับทรัพย์กันหลัก “สิบล้านบาท” ส่วนพระรอง ตัวประกอบ ดังกันถ้วนหน้า มีอีเวนต์เข้ามาให้ดูดทรัพย์กันพรึ่บ!

 เพลงประกอบละครฮิต 

และกำลังทำเงิน เพราะช่อง 3 นำมาจัดเป็นอัลบั้มขายที่ช็อปของช่องเรียบร้อยแล้ว

เป็นละครที่ฮิต

จนช่อง 3 และเอไอเอส จะเอาใจกลุ่มเป้าหมายด้วยการฉายรอบพิเศษให้ดูก่อนใคร และไม่ธรรมดา เพราะยึดโรงหนังสยามภาวลัย ความจุพันที่นั่งให้ดูกันเลยทีเดียว

วงการหนังสือคึกคัก 

เพราะประจวบเหมาะละครดังระหว่างงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติครั้งที่ 46 ทำให้ยอดพิมพ์นิยาย “บุพเพสันนิวาส” ทะลุแสนเล่ม พิมพ์มากกว่า 90 ครั้งภายเดือนเดียว อีกทั้งหนังสือแบบเรียนไทยเล่มแรก “จินดามณี” ฮิตขายดิบขายดีไปด้วย

การท่องเที่ยวกระหึ่มสุดๆ

คนไทยแห่แต่งชุดไทยตามรอย “ออเจ้า” ไปยังวัดวาอารามในจังหวัดอยุธยา เมืองเก่า เช่น วัดไชยวัฒนาราม พระราชวังโบราณ มากถึง 4-5 เท่าตัว หรือเฉพาะเดือนมีนาคมมีนักท่องเที่ยวเพิ่มหลัก “แสนคน”

ด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลายฉากปรากฏในละคร ทำให้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์จะมีเม็ดเงินสะพัดจากเมืองท่องเที่ยวตามรอยละครบุพเพสันนิวาสในปีนี้จะมีมากถึง 20,000-30,000 ล้านบาท

• ชุดไทยกลับมาบูม

เพราะผลของละครดัง ทำให้ประชาชนชาวไทยใส่ชุดไทยไปทำงาน เที่ยว กินข้าว ทำทุกกิจกรรมก็ว่าได้

การเมืองยังต้องมีเอี่ยว

เพราะบรรดาผู้จัดและนักแสดงละครเข้าพบ “นายกรัฐมนตรี” ในวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรณรงค์การแต่งกายชุดไทย

วงการธุรกิจและ “การตลาด” 

เป็นนาทีทองที่ “แบรนด์” นับไม่ถ้วนแห่เกาะกระแสความดังเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ โปรโมตสินค้า กระตุ้นยอดขายกันทุกฉากทุกเบรกที่ตรงกับสินค้า ผ่านทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เช่น กระทะ เครื่องกรองน้ำ ผ้าอนามัย เครื่องมือทางการแพทย์ ถุงยางอนามัย มะม่วงน้ำปลาหวาน ปิ้งย่าง น้ำจิ้มสุกี้ นมข้นหวาน-ครีมเทียมข้นหวาน ค่ายมือถือ ห้างค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น

]]>
1165839
พี่หมื่น ยุคดิจิทัล ข้ามเวลา เชื่อมต่อออเจ้า ก่อนละครจบคืนนี้ https://positioningmag.com/1165635 Wed, 11 Apr 2018 06:47:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1165635 กลุ่มทรูเตรียมเปิดตัวหนังสั้นความยาว 6 นาที นำแสดงโดย “พี่หมื่น-โป๊ป ธนวรรธน์” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของกลุ่มทรู ในคอนเซ็ปต์ “เถ้าแก่ 4.0” โดยพี่หมื่นจะข้ามเวลาจากอดีต มาหาบรรดาออเจ้าในยุคดิจิทัล ที่มีการใช้งานแอปพลิเคชั่น “True Merchant 4.0” สำหรับร้านค้ายุคใหม่ ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพิ่มรายได้ และการเติบโตอย่างรวดเร็ว   

โดยหนังสั้นนี้จะออกอากาศในเวลา 19.00 น. ทางช่องทางออนไลน์ FACEBOOK และ YOUTUBE TrueYou และทีวีดิจิทัลในเครือทรูทางช่อง True4U และ TNN ก่อนที่จะตัดเป็นโฆษณาออกอากาศทางทีวีทั่วประเทศในวันที่ 19 เมษายนนี้ ก่อนละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่จะออกอากาศในตอนจบวันนี้

“โป๊ป ธนวรรธน์” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของกลุ่มทรูในปีนี้ ก่อนหน้านี้มี BNK48 และยังมีกลุ่มนักแสดงที่ยังอยู่ในสัญญาตั้งแต่ ณเดชน์ ญาญ่า, บอย ปกรณ์, แพนเค้ก, เจ้านาย, เจเจ, ออกแบบ, มินท์ และ ไอซ์สึ.

]]>
1165635
ออเจ้าฟินต่อ! ช่อง 3 ควง AIS จัดอีเวนต์ส่งท้าย โกยรายได้ “บุพเพสันนิวาส” ตอนอวสาน 11 เม.ย. เตรียมส่งลงละครเย็นเดือน พ.ค. นี้ https://positioningmag.com/1165527 Tue, 10 Apr 2018 11:24:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1165527 ตอนจบละครแห่งชาติ “บุพเพสันนิวาส” วันที่ 11 เมษายนนี้ ช่อง 3 ไม่รอช้า จัดกิจกรรมรับแฟนละคร แฟนคลับ ลูกค้า สปอนเซอร์ ปิดโรงหนัง เข้าชมตอนจบก่อนใคร ภายใต้ชื่องาน “ฟินข้ามภพ ตอนจบแห่งชาติ”

เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของละคร “บุพเพสันนิวาส” เพื่อช่วยปลุกกระแสให้ต่อเนื่องไปยัง 3 ตอนพิเศษที่จะออกอากาศต่อในช่วงสงกรานต์ วันที่ 12, 18 และ 19 เมษายนนี้ อีเวนต์ส่งท้ายนี้ช่อง 3 ได้เอไอเอส ค่ายมือถือรายใหญ่เข้ามาร่วมในฐานะสปอนเซอร์ และ Co Creation ร่วมกับบรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น ผู้จัด โดยปิดโรงหนังสยามภาวาลัย โรงหนังที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีความจุ 1,091 คน

ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร ช่อง 3 บอกว่า กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมส่งท้ายละครที่จัดขึ้นมาให้ลูกค้าผู้ชมได้รับชมละครก่อนออนแอร์ในวันสุดท้าย โดยจะได้ชมต่อเนื่องในโรงหนังแบบไม่มีเบรกเป็นเวลา 110 นาที ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00- 19.30 น. โดยมีกิจกรรม meet and greet กับนักแสดงหลัก ให้ถ่ายรูปร่วมกัน เพื่อให้บรรดาผู้ชมทุกคนได้มีโอกาสใกล้ชิดนักแสดง และยังสามารถกลับไปดูละครออนแอร์สดในวันเดียวกันได้ทันอีกด้วย

สำหรับนักแสดงที่จะมาร่วมงานนั้น จะเป็นนักแสดงหลักๆ เช่น คู่เอกของเรื่อง “พี่หมื่น – โป๊ป” และ “แม่การะเกด – เบลล่า “, “ขุนเรือง – ปั้นจั่น และ แม่หญิงจันทร์วาด – ปราง“  และ “แม่มะลิ –ซูซี่” ขาดเพียง “ฟอลคอน – หลุยส์ สก๊อต” ที่ติดงานต่างจังหวัดไม่สามารถมาร่วมงานได้

เอไอเอส-ทรู จัดเต็มรับตอนจบ 

ละครตอนจบ เป็นช่วงเวลาทองที่บรรดาสินค้าที่เป็นเมนสปอนเซอร์กับดารานักแสดงหลักในเรื่อง ต่างทุ่มเต็มที่ในการเกาะกระแสออเจ้าในรอบสุดท้าย

โดยเฉพาะสินค้าค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ 2 ราย เอไอเอส และทรู ที่ต่างคนต่างได้นักแสดงนำไปอย่างละคน เมื่อเอไอเอสคว้า แม่การะเกด “เบลล่า ราณี” ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้ก่อน ฝ่ายทรูที่ตามที่หลัง ได้ “พี่หมื่น – โป๊ป ธนวรรธน์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยที่เอไอเอสได้เปิดโฆษณาทางออนไลน์ต่อเนื่องไปแล้ว

ครานี้เอไอเอสเมื่อพลาดหวังจากการได้ “พี่หมื่น-โป๊ป” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ จึงไม่รอช้า ร่วมเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของอีเวนต์ส่งท้าย ที่มีนักแสดงหลักทั้งหมดมาร่วมงานและอยู่ในเฟรมเดียวกัน แม้ว่าจะเอไอเอสจะมีเพียง เบลล่า เป็นพรีเซ็นเตอร์หลัก และนักแสดงอื่นๆ ที่ร่วมแสดงในโฆษณาออนไลน์ แต่ก็ยังสามารถได้ภาพนักแสดงครบทีม รวมถึง “โป๊ป ธนวรรธน์” เข้าร่วมเฟรมได้

ส่วนทรู ที่ได้ “โป๊ป” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ก็จัดเต็มที่รับละครตอนจบ เตรียมเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ทางออนไลน์ ในเย็นวันเดียวกันนี้ ก่อนที่จะออกโฆษณาชุดใหญ่ทางทีวีในวันที่ 19 เมษายน อย่างเป็นทางการ

ช่อง 3 สร้างความฟินต่อ จัดรีรัน ลงละครเย็น พ.ค. นี้ 

เมื่อกระแสของออเจ้าเป็นปรากฏการณ์ที่นานๆ เกิดขึ้นครั้งหนึ่ง ช่วยฟื้นเรตติ้งของช่อง 3 ขึ้นมา และกลายเป็นช่องที่ได้เรตติ้งอันดับ 1 ประจำเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แซงชนะแชมป์เก่าอย่างช่อง 7 ลงได้ราบคาบ

งานนี้ช่อง 3 จึงไม่รอช้า “น้ำขึ้นให้รีบตัก” จึงจัด “บุพเพสันนิวาส” ลงรีรันในช่วงละครเย็นต่อเนื่อง โดยจะเริ่มออกอากาศต่อจาก “Mr Merman แฟนฉันเป็นเงือก” ละครเย็นของช่อง 3 ที่กำลังออกอากาศตอนนี้ โดยจะเริ่มออนแอร์ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้

แหล่งข่าววงการเอเจนซี่ เปิดเผยว่า สำหรับช่วงเวลาออกอากาศอีกรอบนี้ ช่อง 3 ได้เริ่มแจ้งเอเจนซี่ให้เริ่มทำการขายโฆษณาช่วงใหม่นี้แล้ว โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 360,000 บาทต่อนาที โดยมีการออกอากาศวันละ 1 ชั่วโมง ใช้เวลาออกอากาศเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน

การนำมารีรีนอีกครั้งในช่วงเย็นนี้ คาดว่าจะช่วยสร้างกระแส ”บุพเพฟีเวอร์” ได้อย่างต่อเนื่องไปอย่างน้อยอีกประมาณ 2 เดือน ที่คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ต่อเนื่องให้กับช่อง 3 ออกไปอีก.

]]>
1165527