Tim Cook ซีอีโอ Apple ให้สัมภาษณ์กับสื่ออเมริกัน “ซีเอ็นบีซี” (CNBC) ว่า ยอดจำหน่าย iPhone ในจีนที่ลดลง เป็นเพราะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง รวมถึงความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างประเทศที่กดดันมากในขณะนี้

จุดนี้ Cook ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ได้ถูกกำหนดเป็นเป้าหมายในการสั่งแบนโดยรัฐบาลจีน แม้ว่าผู้บริโภคจีนบางรายจะมีแนวคิดไม่ยอมซื้อ iPhone หรืออุปกรณ์ Apple อื่น เพราะการเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน

“ปัญหาที่ใหญ่กว่า คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความตึงเครียดทางการค้าที่กดดันต่อเนื่อง”

คำแถลงของ Cook นั้นตอบข้อสงสัยในใจนักสังเกตการณ์หลายคน เนื่องจากการประกาศลดตัวเลขประเมินรายได้ของ Apple ทำให้เกิดคำถามว่า Apple กำลังตกเป็นเหยื่อของเจ้าหน้าที่จีนหรือไม่ เช่นเดียวกับหลายธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน สิ่งเหล่านี้รวมถึงหัวเว่ย (Huawei Technology Cos Ltd,) ซึ่งก็เป็นเหยื่อถูกเจ้าหน้าที่โทรคมนาคมของสหรัฐอเมริกากีดกัน และกำลังพิจารณาสั่งห้ามจำหน่ายมากขึ้น

สำหรับกรณีของ Apple เจ้าพ่อไอทีค่ายผลไม้ประเมินรายได้ช่วงปลายปี 2018 ซึ่งจะเป็นไตรมาสแรกของปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุดวันที่ 29 ธันวาคม ว่าจะอยู่ที่ 84,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 91,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตัว Apple เอง เคยคาดการณ์รายรับของตัวเองไว้ว่าจะอยู่ระหว่าง 89,000-93,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในจดหมายถึงนักลงทุน Cook กล่าวว่า แม้ Apple จะมองเห็นโอกาสในตลาดเกิดใหม่ แต่บริษัทก็เห็นความท้าทายเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในประเทศจีน ทำให้รายได้ของบริษัทไม่เติบโตตามเป้าที่วางไว้ 

มากกว่า 100% ของรายได้ทั่วโลก Apple ปี 2018 ที่ลดลงนั้น เกิดขึ้นในประเทศจีน ครอบคลุมทั้งสินค้ากลุ่ม iPhone, Mac และ iPad

คุก ระบุ

การปรับลดรายได้ Apple ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ Apple ออกคำเตือนเกี่ยวกับรายได้ก่อนที่จะเปิดเผยผลประกอบการอย่างเป็นทางการ ครั้งสุดท้ายที่ Apple ประกาศลดเป้าหมายรายได้คือเมื่อครั้งเปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007 

นอกจากนี้ การประกาศล่าสุดของ Apple ยังเป็นครั้งแรกที่ Cook ยอมรับว่า ยอดขายสินค้าในตลาดจีนไม่เป็นไปตามที่หวัง เนื่องจากในการแถลงผลประกอบการ Apple ในเดือนพฤศจิกายน Cook อ้างว่า การเติบโตที่ชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่ เช่น บราซิล อินเดีย และรัสเซีย ทำให้บริษัทประมาณการยอดขายไว้ต่ำกว่าที่คาด

สำหรับครั้งนี้ หุ้นของ Apple ร่วงลง 7.7% ทันที ฉุดให้มูลค่าตลาดของบริษัทต่ำลงเหลือราว 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จุดนี้เชื่อว่าเป็นผลจากที่โบรกเกอร์ประเมินทิศทาง Apple ในแง่ลบมากขึ้น โดยเฉพาะการลดการผลิต iPhones ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกปี 2019 ซึ่งผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายรายออกมาคาดการณ์ยอดขายของตัวเองที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ตั้งแต่ช่วง พ.ย.ที่ผ่านมา

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีน วารสารธนาคารกลางของจีน ตีพิมพ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอาจลดลงต่ำกว่า 6.5% ในไตรมาส 4 ปี 2018 ดังนั้น Apple จึงถือเป็นบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ส่งสัญญาณเตือนว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ โดยนอกจาก Apple ผู้ผลิตรถยนต์ เช่น ฟอร์ด ฮุนได และนิสสัน ก็กล่าวก่อนหน้านี้ว่าได้วางแผนลดการผลิตในประเทศลงเช่นกัน.

Source