พฤติกรรมการใช้มือถือ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 15 Aug 2017 07:02:55 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทย มีการใช้มือถืออย่างไรบ้าง https://positioningmag.com/1136036 Sun, 13 Aug 2017 00:55:53 +0000 http://positioningmag.com/?p=1136036 Vpon Big Data Group บริษัทด้านบิ๊กดาต้า และเทคโนโลยีจากประเทศจีน ได้เผย รายงานสถิติและแนวโน้มการโฆษณาทางอุปกรณ์มือถือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2017 ครึ่งปีแรก ซึ่งไฮไลต์สำคัญอยู่ที่พฤติกรรมการใช้อุปกรณ์มือถือของนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางมายังประเทศไทย 

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย คิดเป็น 20.6% ของ GDP ในปี 2016 ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวกลายเป็นเสาหลักหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนก็ได้กลายเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวเช่นกันเพราะมีการเดินทางมาในไทยมากขึ้นทุกปี คนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง

สัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด คิดเป็น 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่มาไทยในปี 2559 มีจำนวน 8.7 ล้านคน เติบโต 10% พบว่าคนจีนที่มาเยือนไทย เดินทางมาจากเซี่ยงไฮ้ และกว่งโจวมากที่สุด ในขณะเดียวกันชาวจันก็นิยมไปเกาหลีเช่นกัน มีสัดส่วนถึง 55% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เยือนเกาหลี คิดเป็น 8 ล้านคน เติบโตขึ้น 35%

เมื่อดูพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ สามารถแบ่งได้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง คนจีนมีการใช้มือถือเฉลี่ย 3.9 ชั่วโมงต่อวัน คนฮ่องกง 3.1 ชั่วโมงต่อวัน และคนไต้หวัน 2.8 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนแอปพลิเคชั่นที่ใช้มากที่สุด 3 อันดับแรกจะเป็นเรื่องการสื่อสาร การท่องเที่ยว และการเงิน

ส่วนช่วงเวลาที่ท่องเที่ยวอยู่ คนจีนใช้ว่าอยู่ในประเทศไทยเฉลี่ย 5 วัน  มีการเข้าใช้งานแอปต่าง ๆ (นอกเหนือจากโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ) สูงสุด 10 ครั้งต่อวัน ดังนั้นในการเดินทางช่วงสั้นๆ นี้ มือถือจึงเป็นช่องทางสำคัญในการค้นหาข้อมูลต่างๆ

จังหวัดที่คนจีนนิยมมาเยือนไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 55.7% ชลบุรี 15.9% สมุทรปราการ 15.1% ภูเก็ต 7.1% และเชียงใหม่ 5.7%

]]>
1136036
อัพเดต ! คนไทยใช้โทรมือถือ 50.61 นาที/วัน ใช้ทำงานแค่ 24.14 นาที https://positioningmag.com/1124406 Wed, 03 May 2017 09:56:56 +0000 http://positioningmag.com/?p=1124406 คนไทยใช้มือถือ 50.61 นาที/วัน ใช้ทำงานหรือทำธุรกิจหลัก 24.14 นาทีต่อวัน โดยช่วงอายุ 31 – 40 ปี เป็นช่วงอายุที่มีผู้ใช้มือถือสร้างรายได้มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 38.99

ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดำเนินการสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการโทรคมนาคมของประชากรไทย พ.ศ. 2559 จากผู้ตอบแบบสอบถามทั่วประเทศจำนวน 7,619 ราย พบว่า มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เฉลี่ย 50.61 นาทีต่อวัน ในจำนวนนี้ เป็นการใช้เพื่อการทำงานหรือทำธุรกิจหลัก เฉลี่ย 24.14 นาทีต่อวัน โดยมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อสร้างรายได้ คิดเป็นร้อยละ 27.28 

หากแบ่งตามช่วงอายุ พบว่าอายุ 31 – 40 ปี เป็นช่วงอายุที่มีผู้ใช้มือถือสร้างรายได้มากที่สุด

  • ช่วงอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 ปี ร้อยละ 9.47    
  • ช่วงอายุ 21 – 30 ปี ร้อยละ 28.60
  • ช่วงอายุ 31 – 40 ปี ร้อยละ 38.99
  • ช่วงอายุ 41 – 50 ปี ร้อยละ 34.51
  • ช่วงอายุ 51 – 60 ปี ร้อยละ 29.26
  • ช่วงอายุ 61 ปีขึ้นไป ร้อยละ 22.13

ที่มา : ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.)

]]>
1124406
จริงหรือ ! มือถือเรื่องใหญ่ ใครๆ ก็ขาดไม่ได้ https://positioningmag.com/1121682 Wed, 05 Apr 2017 09:35:24 +0000 http://positioningmag.com/?p=1121682 มาอัพเดตพฤติกรรมการใช้มือถือคนไทยยุคนี้ มาดูกันว่าพวกเขาเสพเนื้อหากันอย่างไร อะไรคือเทรนด์การใช้งาน ที่นักการตลาดไม่ควรพลาด

กรุ๊ป เอ็ม มีเดียเอเยนซี่ ได้วิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของกลุ่มคนที่เริ่มใช้มือถือ New Internet User มาเป็นเวลา 2 ปี และพบว่า เวลานั้นส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการใช้ไลน์ ใช้เฟซบุ๊ก โดยบางคนไม่รู้ว่าการเล่นไลน์กับเพื่อน หรือกับลูกหลานเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ 

ในปีนี้ทางกรุ๊ป เอ็มจึงได้สานต่องานวิจัยติดตามผลจากใน 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อศึกษาเรื่องพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนกลุ่มเดิม ในเดือนตุลาคมปี 2559 จากกลุ่มตัวอย่าง 300 คนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีอายุตั้งแต่ 18-60 ปี ใน 3 หัวข้อ ได้แก่ การใช้ชีวิต การเสพสื่อออนไลน์ และการใช้เงิน พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และพบว่า คนกลุ่มนี้ Internet User อย่างเต็มตัวแล้ว มีการใช้โซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชั่นมากขึ้น ทั้งเรื่องการดูคอนเทนต์ ทำธุรกิจ การเงินต่างๆ ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น และใช้เวลาใช้งานนานมากขึ้นด้วย ไม่ได้แค่ใช้โทรศัพท์ หรือใช้ไลน์อย่างเดียวอีกต่อไป

หลับตื่น ต้องไม่ลืมมือถือ

การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในกลุ่มตัวอย่างมีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อินเทอร์เน็ตได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของคนทุกคนไปแล้ว มีการใช้อินเทอร์เน็ตหนักขึ้น ผลสำรวจในเรื่องของระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตของกลุ่ม New Internet User ในปี 2559 พบว่ามีระยะเวลาในการใช้คือครึ่งวันแต่ผลสำรวจใหม่ในปี 2560 พบว่าคนกลุ่มนี้มีการใช้เพิ่มขึ้นเป็นใช้ทั้งวันหยุดใช้เพียงแค่ตอนนอนเท่านั้น เท่ากับว่ามือถือกลายเป็นสิ่งสำคัญเวลาที่ตื่น เวลานอนก็ยังวางไว้ข้างตัว

ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้สร้างอาชีพให้พวกเขาในการสร้างธุรกิจ SME ในการขายของออนไลน์ หรือการใช้อินเทอร์เน็ตช่วยโปรโมต มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากเดิมมากที่มีอาชีพเกษตรกรรม หัตถกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมเป็นอาชีพหลัก แต่ทุกวันนี้อาชีพเกษตรกรรมยังคงมีอยู่ เพราะมีต่างจังหวัดยังเป็นอาชีพหลัก และบางครอบครัวมีพื้นที่ที่สืบทอดต่อกัน แต่หัตถกรรมถูกแทนที่ด้วยงานบริการ และอุตสาหกรรมถูกแทนที่ด้วยธุรกิจ SME โดยคนรุ่นใหม่

ในกรุงเทพฯ ก็พบว่ามีการใช้อินเทอร์เน็ตในการขายของออนไลน์เพื่อสร้างอาชีพให้ตัวเองเช่นกัน และเริ่มใช้ก่อนต่างจังหวัดมานานแล้ว มีการใช้เรื่องการบริการด้วย อย่าง การจองร้านอาหาร สั่งซื้ออาหารต่างๆ

6 กลุ่มแอปฯ ที่คนไทยขาดไม่ได้

คนกลุ่มนี้ยังมีพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชั่นมากขึ้น ไม่ได้ใช้แค่แอปพลิเคชั่นหลักอย่างไลน์ เฟซบุ๊ก ยูทิวบ์แล้ว เขามองว่าแอปพลิเคชั่นบนมือถือสามารถช่วยทำให้ใช้ชีวิตดีขึ้น สะดวกขึ้น และมีความสุขมากขึ้น

แอปพลิเคชั่นสำหรับคนยุคนี้หลักๆ แบ่งได้ถึง 6 กลุ่มด้วยกัน

  1. โซเชียลมีเดีย ได้แก่ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ เมสเซนเจอร์
  2. บันเทิงได้แก่ยูทิวบ์ ไลน์ทีวี และจู๊กซ์
  3. การเงิน เป็นแอปพลิเคชั่นของธนาคาร เช่น กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรีฯ และกรุงไทย
  4. การเดินทาง กูเกิลแมป เฟซบุ๊ก อูเบอร์ และแกร็บ
  5. ช้อปปิ้ง ได้แก่ ลาซาด้า ขายดี ซาโลร่า และร้านค้าทั่วไปในโซเชียลมีเดีย
  6. อาหาร ได้แก่ ไลน์แมน แกร็บ และอื่นๆ

ในเรื่องของการใช้มือถือ แต่ก่อนเป็นการใช้ร่วมกันในครอบครัว ซื้อมา 1 เครื่องแล้วใช้ร่วมกัน แต่ตอนนี้มือถือได้กลายเป็น Personal ID ทุกคนเป็นเจ้าของคนละเครื่อง เพราะมือถือมีราคาถูกลง สามารถครอบครองได้ และในมือถือของแต่ละคนจะมีข้อมูลส่วนตัว กลายเป็นว่าในการทำกิจกรรม หรือการซื้อของบนโลกออนไลน์ก็จะมีข้อมูลเก็บไว้ เพราะฉะนั้นจะระมัดระวังในการใช้มากขึ้น มีความรู้เรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

วิดีโอ เพลง สื่อออนไลน์ยอดนิยม

สื่อออนไลน์ยอดนิยมที่ผู้บริโภคนิยมใช้ยังเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เขามองว่าถ้าอยากรู้อะไรสามารถค้นหาภายในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือในโซเชียลมีเดียอื่นๆ ได้ทันที ตอบรับกับพฤติกรรมใจร้อนที่อยากรู้อะไรต้องได้รู้ตอนนั้น

ในวิจัยชิ้นนี้ได้ระบุถึงสื่อออนไลน์ยอดนิยมที่คนกลุ่มนี้ชอบใช้นอกจากโซเชียลมีเดีย แบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ สื่อแบบวิดีโอ และเพลง

โดยที่พฤติกรรมการเสพวิดีโอ นิยมดูผ่านยูทิวบ์ และไลน์ทีวี ส่วนเพลงมีการฟังผ่านยูทิวบ์ และ JOOX เพราะมีฟีเจอร์เพลย์ลิสต์ที่สามารถสื่อสารแทนตัวตนของตัวเองได้หรือแทนความรู้สึกในตอนนั้นหาฟังได้ง่าย

อย่าคิดว่าแมสนะ

การทำคอนเทนต์บางรายการที่คิดว่าแมสแล้ว แต่จริงๆ ยังไม่แมส ไม่สามารถเข้าถึงคนได้ทั่วประเทศ บางคอนเทนต์คนต่างจังหวัดก็ไม่อินไปตามกระแส

ในขณะที่คนกรุงเทพฯ อินกับรายการ The Mask Singer กันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่คนต่างจังหวัดแต่เขาบอกว่าไม่ได้ดู เขาชอบดูการประกวด Miss Universe มากกว่า ถึงขนาดยอมลบแอปในมือถือเพื่อมีพื้นที่ในมือถือและสามารถดูรายการได้

หรือ คนต่างจังหวัด ชอบดูไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ คอนเทนต์แรงๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงจากเพจบันทึกของตุ๊ดทำให้ผู้บริโภคชอบดู

จากพฤติกรรมนี้บอกได้ว่าเขายังเลือกดูคอนเทนต์ที่เขาชอบอยู่ ไม่ได้เลือกดูคอนเทนต์ตามกระแส ต่างจากคนกรุงเทพฯ ที่ไม่ยอมตกเกทรนด์ต้องดูคอนเทนต์ตามกระแส เพื่อให้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง ผู้ผลิตคอนเทนต์สามารถทำคอนเทนต์เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายแต่ละพื้นที่ได้ตามความสนใจของแต่ละกลุ่ม

ไลน์ทีวี – ยูทิวบ์ ตอบโจทย์คนดูต่างกัน

จากผลสำรวจผู้บริโภคได้มองความแตกต่างของไลน์ทีวี และยูทิวบ์ว่า ไลน์ทีวีมีเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ที่ทำให้ดูพิเศษหาดูที่อื่นไม่ได้ และมีการอัปโหลดเร็วกว่ายูทิวบ์ ถ้าเขารู้ว่าตัวเองอยากดูอะไรก็มาหาในไลน์ทีวีได้เลย แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าตอนนั้นอยากดูอะไรไปค้นหาในยูทิวบ์ก็จะมีให้เลือกเยอะกว่าเพราะมีคอนเทนต์มากกว่า

นิยมใช้ไวไฟฟรี

เรื่องพฤติกรรมการใช้เงินพบว่าคนต่างจังหวัดยังมีข้อจำกัดในการใช้จ่ายเงินกับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถืออยู่ ยังไม่มีการซื้อแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมากนัก ส่วนใหญ่ใช้ไวไฟฟรีตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งโอเปอเรเตอร์ก็เริ่มมีการทำแคมเปญที่ฟังเพลงผ่านแอปพลิเคชั่นแล้วไม่เสียดาต้าอย่างดีแทค ทำให้มีผู้ใช้บริการ แบรนด์สามารถทำโปรโมชั่นกับกลุ่มลูกค้าได้ผ่านมือถือที่เขาใช้อยู่

ส่วนการทำธุรกรรมทางการเงินพบว่า คนกลุ่มนี้เปิดใจในการใช้แอปพลิเคชั่นผ่านมือถือของธนาคารมากขึ้นจากเดิมที่กังวลเรื่องความปลอดภัยไม่กล้าใช้ตอนนี้มีพฤติกรรมการใช้มากขึ้นเพราะสะดวก หลายคนบอกว่ามีเวลาทำอย่างอื่นได้ มองว่าไม่พกกระเป๋าเงินก็ไม่เป็นไรยังสามารถโอนเงินผ่านมือถือได้

]]>
1121682
นิด้าเผยคนไทยใช้เน็ตบนมือถือไม่เคยพอ เน็ตปรับลดสปีด ปัญหาใหญ่-โปรเสริมไม่เคลียร์ https://positioningmag.com/1116008 Thu, 09 Feb 2017 15:58:37 +0000 http://positioningmag.com/?p=1116008 คนไทยใช้เน็ตบนมือถือพุ่ง นิด้าโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นพฤติกรรมการใช้เน็ตบนมือถือ ชี้กว่าครึ่งคนไทยไม่เข้าใจแพ็กเกจ ‘ใช้เน็ตได้ไม่อั้น’ ผู้ใช้บริการแบบรายเดือน เจอปัญหาใหญ่ ‘เน็ตปรับลดสปีด’ ขณะที่ ผู้ใช้บริการแบบเติมเงิน รู้ไม่เท่าทันข้อจำกัด ’โปรเสริม’

จากอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย จนมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของคนไทย ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” จึงทำการสำรวจความคิดเห็นพฤติกรรมการใช้เน็ตบนมือถือ ในกลุ่มตัวอย่างคนไทยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,529 คน ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 2560 เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อผู้บริโภคมากขึ้น

โดยพบว่าปัญหาหลักที่พบจากการใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตทางมือถือ เป็นเรื่องความต้องการการใช้อินเทอร์เน็ตมีมากกว่าแพ็กเกจที่ทางผู้ให้บริการเสนอขายอยู่ คิดเป็นร้อยละ 43.99

รองลงมาคือเรื่องราคาของแพ็กเกจสูงเกินไป ทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตให้เพียงพอกับความต้องการใช้ได้ คิดเป็นร้อยละ 36.01 และแพ็กเกจของผู้ให้บริการมีความซับซ้อน เข้าใจยาก บางครั้งจึงได้ในสิ่งที่ไม่ตรงตามความต้องการ คิดเป็นร้อยละ 28.47

จากสองอันดับแรก นับได้ว่าร้อยละ 80.00 ของกลุ่มตัวอย่างมีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตพุ่งสูงเกินกว่าแพ็กเกจที่ผู้ให้บริการนำเสนอขายในปัจจุบัน

ใช้เน็ตบนมือถือต่อวัน

โดยผลสำรวจระยะเวลาการใช้งานเน็ตบนมิอถือ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง ใช้เวลา 1 – 2 ชั่วโมงต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 24.72 ซึ่งมากที่สุด รองลงมา ใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 21.91 และใช้เวลา 2 – 3 ชั่วโมงต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 19.23 ตามลำดับ

85% ใช้ส่งไลน์-เฟซบุ๊ก-ไอจี

วัตถุประสงค์ในการใช้อินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์พกพาเคลื่อนที่ พบว่า ส่วนใหญ่ใช้เพื่อพูดคุยติดต่อกับบุคคลที่รู้จัก คิดเป็นร้อยละ 85.61 โดยผ่าน Line Facebook และ Instagram ตามลำดับ

รองลงมา คือ โพสต์ข้อความ/รูปภาพ คิดเป็นร้อยละ 63.90 โดยผ่าน Facebook Instagram และ Line ตามลำดับ และติดตามข่าวสารทั่วไป เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สังคม กีฬา คิดเป็นร้อยละ 55..79 ตามลำดับ

สับสนแพ็กเกจใช้ไม่อั้น

เมื่อสอบถามถึงความเข้าใจเกี่ยวกับแพ็กเกจแบบ ‘ใช้ได้ไม่อั้น’ หรือ ‘Unlimited’ ร้อยละ 49.05 เข้าใจว่า เมื่อใช้อินเทอร์เน็ตจนถึงจุดหนึ่งที่กำหนดไว้ในแพ็กเกจ อินเทอร์เน็ตจะถูกปรับลดความเร็ว แต่ยังใช้ต่อไปได้

ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของกลุ่มสำรวจ ขณะที่ร้อยละ 35.45 ที่เข้าใจว่าสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด ด้วยความเร็วที่ดีที่สุดของเครือข่ายมือถือนั้น และอีกร้อยละ 15.30 เข้าใจว่า สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด ตามจำนวนวันที่ซื้อ

เมื่อสำรวจเจาะลึกถึงปัญหาของผู้ใช้บริการแบบรายเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้เน็ตได้ไม่อั้น พบว่าปัญหาใหญ่ของกลุ่มนี้ คือ ‘เน็ตปรับลดสปีด’ ร้อยละ 40.25 อินเทอร์เน็ตจะถูกปรับลดสปีด ทำให้วิ่งช้าลง เมื่อการใช้งานผ่านไประยะหนึ่ง รองลงมา ร้อยละ 35.17 จำนวนอินเทอร์เน็ตที่ให้มาตามแพ็กเกจ ไม่เคยใช้พอ และร้อยละ 21.89 ค่าโทรที่ให้มาตามแพ็กเกจ ไม่เคยใช้พอ

รู้ไม่เท่าทันโปรเสริม

ด้านผู้ใช้บริการแบบเติมเงิน พบว่า ร้อยละ 41.18 เจอปัญหาโปรเสริมมีข้อจำกัดมากมาย บางครั้งไม่สามารถรู้เท่าทัน จึงทำให้เสียเงินไปในสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือได้จำนวนเน็ตหรือโทรที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดไว้ รองลงมา ร้อยละ 26.66 โปรเสริมมีมากมาย ซับซ้อน ยุ่งยาก ไม่เข้าใจรายละเอียดในการใช้งาน และร้อยละ 20.45 ยอดเงินที่เติมหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

ทั้งนี้ระดับความพึงพอใจต่อแพ็กเกจในอุปกรณ์พกพาเคลื่อนที่ จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ผู้ใช้บริการแบบเติมเงิน มีความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.52 คะแนน และผู้ใช้บริการแบบรายเดือน มีความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.67 คะแนน สำหรับข้อเสนอแนะ หรือวิธีการแก้ไขปรับปรุงเกี่ยวกับแพ็กเกจแบบรายเดือน หรือแพ็กเกจแบบเติมเงิน พบว่า ร้อยละ 28.38 สัญญาณอินเทอร์เน็ตควรมีความเร็วสม่ำเสมอ ร้อยละ 16.59 ควรปรับปรุงสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้มีความเสถียร และร้อยละ 15.72ควรเพิ่มจำนวนชั่วโมงเน็ตที่เยอะขึ้นแต่ราคาแพ็กเกจถูกลง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐฐา วินิจนัยภาค ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” ระบุว่า “ผลสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นปัญหาที่แท้จริงของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ ซึ่งความสับสนเกี่ยวกับแพ็กเกจแบบใช้ได้ไม่จำกัด เป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้ให้บริการต้องเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือออกแพ็กเกจที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ผู้ใช้บริการรายแบบเดือนประสบปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพและปริมาณของสัญญาณทั้งอินเทอร์เน็ตและการโทร ขณะที่ผู้ใช้บริการแบบเติมเงินประสบปัญหาเกี่ยวกับโปรโมชั่นเสริมและยอดเงินเป็นหลัก

惵‘°√√¡°“√„™ÈÕ‘π‡µÕ√χπÁµ

惵‘°√√¡°“√„™ÈÕ‘π‡µÕ√χπÁµ

]]>
1116008
เจาะพฤติกรรมคนไทยใช้สมาร์ทโฟน ไตรมาส 3 ดาต้าพุ่ง เล่นเกม ดูหนังฟังเพลงเพิ่ม เวลา 1-5 ทุ่มพีคสุด https://positioningmag.com/1109590 Tue, 29 Nov 2016 23:50:06 +0000 http://positioningmag.com/?p=1109590 นีลเส็น บริษัทวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค ได้เปิดเผยถึงใช้ข้อมูล (data consumption) ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในประเทศไทย ช่วงไตรมาส 3 (ระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2559) พบว่า อัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว

ใช้สมาร์ทโฟน 4 ชั่วโมงต่อวัน

ผู้ใช้สมาร์ทโฟนชาวไทยใช้เวลาเฉลี่ย 230 นาที หรือเกือบ 4 ชั่วโมงต่อวัน ใกล้เคียงกับไตรมาสสอง

คนไทยใช้สมาร์ทโฟนไปกับเรื่องอะไรบ้าง 

เมื่อลงลึกถึงกิจกรรมที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทยใช้เวลาด้วยมากที่สุด ในช่วง 4 ชั่วโมง จะพบว่า

  • อันดับหนึ่งคือ การสื่อสาร (communications) โดยใช้เวลา 75 นาทีต่อวัน
  • อันดับสอง แอปพลิเคชั่น ซึ่งใช้เวลาอยู่ที่ 67 นาทีต่อวัน เช่น ใช้เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม กูเกิล
  • อันดับ 3 เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ใช้เวลา 45 นาทีต่อวัน โดยใช้เล่นเกม, ดูยูทิวบ์ ฟังเพลง
  • อันดับ 4 เบลาสซิ่ง เสิร์ชหาข้อมูล  24 นาทีต่อวัน
  • อันดับ 5 จัดการเกียวกับตัวเครื่องสมาร์ทโฟน เช่น ตั้งค่าความปลอดภัย 18 นาทีต่อวัน
  • โดยทั้ง 5 ลำดับนี้ยังคงเป็นลำดับเดียวกันกับเมื่อไตรมาสที่ 2

1_smartphone

เอ็นเตอร์เทนใช้เพิ่ม

นีลเส็นยังได้ลงรายละเอียดว่าใน 5 อันดับนี้ มีการใช้งานเพิ่มหรือลดอย่างไรเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 และ ไตรมาส 2  ซึ่งก็พบว่าการใช้งาน สื่อสาร (communication) และการจัดการเกี่ยวกับเครื่องสมาร์ทโฟน (Device Management) ลดลง

ในขณะที่การใช้ในเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์เพิ่มขึ้น สาเหตุที่เพิ่มมาจากเกมโปเกมอนที่เข้ามาไทยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และที่ใช้เพิ่มคือการค้นหาข้อมูลส่วนการใช้แอปพลิเคชั่นคงที่

2_smartphone

ใช้โทรปกติเหลือแค่ 7 นาที/วัน
โทรผ่านไลน์

เมื่อลงรายละเอียดในการใช้งานทั้ง 5 อันดับ พบว่า ในการใช้ด้านสื่อสาร 75 นาทีนั้น ใช้ไปกับการ แชตและโทรผ่าน VoIP (โทรผ่านไลน์เฟซบุ๊ก แมสเซนเจอร์) มากสุด 65 นาที ใช้โทรศัพท์เหลือแค่ 7 นาที เท่านั้น

ในขณะที่ใช้กับ Entertainment 45 นาที ในจำนวนนี้ใช้ไปกับการเล่นเกม 22 นาที และมัลติมีเดีย เช่น ดู Youtube ฟังเพลง 23 นาที

3_smartphone

ช่วงพีคสุด 1 ทุ่ม-3 ทุ่ม

มาดูช่วงเวลาที่มีการใช้งานสมาร์ทโฟนมากที่สุด คือระหว่างเวลา 8 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ด้วยค่าเฉลี่ยการใช้งานที่ 10 นาทีต่อชั่วโมง

  • ช่วงที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีความตื่นตัวมากที่สุดคือช่วงระหว่าง 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม ซึ่งมีการใช้เวลากับสมาร์ทโฟนถึง 13 +นาทีต่อชั่วโมง
  • ส่วนช่วงเวลาที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนใช้เวลาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยคือ 5 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า

นีลเส็นเสนอแนะว่า หากแบรนด์ต้องการสื่อสารออนไลน์ ควรเลือกช่วงเวลา 1 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม

4_smartphone

ใช้ดาต้าพุ่งเยอะสุด 2-5 ทุ่ม

ทั้งนี้สิ่งน่าสนใจที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้ พบว่า ถึงแม้เวลาที่ใช้งานกับสมาร์ทโฟนจะคงที่แต่ตัวเลขของการใช้ข้อมูลนั้นเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 689 MB ต่อวัน เป็น 810 MB ต่อวัน เพิ่มขึ้น ทั้งจากการใช้งานผ่าน wi-fi และการใช้งานผ่าน cellular

เมื่อรวมการใช้งานของทั้ง wifi และ cellular เข้าด้วยกัน จะเห็นได้ว่ามีอัตราการใช้งานทั้งหมดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง ไตรมาสที่ 2 กับไตรมาสที่ 3 ในปี 2559

ทั้งนี้ช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนใช้งานด้านข้อมูล (data consumption) เยอะที่สุดคือช่วง 2 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม

แนะแบรนด์อยากเข้าถึงลูกค้ายุคนี้
ต้องใช้มือถือ + เนื้อหา

5_smartphone
ยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์

ยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทนีลเส็น ประเทศไทย กล่าวว่า การใช้ปริมาณของดาต้าเพิ่มขึ้น เหตุผลหลักน่าจะมาจากการใช้งานด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ 42 นาทีเป็น 45 นาที เฉลี่ยต่อคนต่อวันโดยข้อมูลชี้ให้เห็นว่าระยะเวลาในการใช้งานด้านเกมส์นั้นสูงขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว

นอกจากนี้ เธอได้แนะนำว่า การใช้งานสมาร์ทโฟนนั้นมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องมาจากประโยชน์ของการใช้งานมือถือไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงของข้อมูลที่ง่ายขึ้น การส่งต่อข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น รวมไปถึงการใช้งานเพื่อความบันเทิง เช่นการดูหนัง ฟังเพลง หรือการเล่นเกมส์ ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคสามารถอยู่ในเทรนด์และตามกระแสของสังคมได้ ฉะนั้นแบรนด์ควรที่จะตื่นตัวในการเข้าถึง รวมถึงวิธีการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านทางช่องทางนี้ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของพวกเขา ไม่ว่าจะผ่านทางกิจกรรมการใช้มือถือ หรือผ่านเนื้อหา หรือคอนเทนต์ ที่จะสื่อถึงพวกเขา

]]>
1109590