ขณะที่ร้านบุฟเฟต์ในไทยก็ได้รับความนิยม ตั้งแต่ร้านหมูกระทะ ชาบูสุกี้ และซูชิ สะท้อนจากการแข่งขันและการขยายตัวของจำนวนร้านที่สูงขึ้น
ล่าสุด “พิซซ่า ฮัท” ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ได้คัมแบ็ก โมเดลบุฟเฟต์ โดยทำราคาออกมา 3 รูปแบบ ดังนี้
1. BUFFET TIER 299 บาท (ราคา Net) : เฉพาะพิซซ่า + น้ำ
2. BUFFET TIER 399 บาท (ราคา Net) : พิซซ่า + น้ำ + ของทานเล่น 40 รายการ
3. BUFFET TIER 499 บาท (ราคา Net) : พิซซ่า + เมนูทานเล่น + น้ำ + เมนูพรีเมียม 70 รายการ
ทั้งนี้ สำหรับเด็กความสูงต่ำกว่า 90 ซม. รับประทานฟรี ส่วนถ้าเด็กมีความสูงระหว่าง 90-120 ซม. จะได้ราคาบุฟเฟต์ ดังนี้
สำหรับโมเดลบุฟเฟต์ เริ่มตั้งแต่ 17 มี.ค. – 29 พ.ค. 68 เฉพาะวันจันทร์-พฤหัสบดี (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดชดเชย) เวลา 2 ชม./รอบ/คน ไม่สามารถห่อกลับบ้านได้ กินไม่หมดปรับเงิน 60 บาท/ขีด
]]>ชวนา กีรติยุตอมรกุล General Manager และ Strategic Planning Director บริษัท CJ WORX บอกว่า กลยุทธ์การทำ Collaboration มีมานานแล้ว อย่าง หลุยส์วิตตองที่ Collaboration กับออฟไวท์ ปลายทางคือทำให้คนรู้สึกว่ามีประสบการณ์ร่วม และได้ Brand Image ที่มองว่าเท่ จากเดิมที่อาจรู้สึกว่าเข้าถึงได้ยาก ก็ทำให้ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ รู้สึกเข้าถึงง่าย สัมผัสง่ายขึ้น เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม เปิดใจให้ยอมรับได้มากขึ้น
“การ Collaboration จะเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันหรือข้ามประเภทธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับการสร้าง Experienceใหม่ให้กับผู้บริโภค หรือไม่บางคนอาจไม่เคยซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์หนึ่ง แต่เมื่อมีการ Collaboration แล้วก็อาจสร้างให้เกิดโมเมนต์กระตุ้นให้เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ให้อยากซื้อและใช้สินค้าและบริการเมื่อมีการผนึกกำลังกันแล้วก็ได้”
สำหรับ “ธุรกิจอาหาร” กำลังเป็นที่นิยมในการ Collaboration กันอย่างมากนั้น เป็นการสร้างความตื่นเต้นใหม่ให้เกิดประสบการณ์ใหม่ในมุมมองของผู้บริโภค ซึ่งในเชิงการตลาดคือการจับมือกันของทั้ง 2 แบรนด์เพื่อกระตุ้นให้เกิดอยากลองชิมของผู้บริโภค รวมถึงการสร้างการพูดถึงในวงกว้าง
ไม่พูดถึงคงไม่ได้สำหรับ “Bar B Q Plaza” หนึ่งในแบรนด์ที่นำกลยุทธ์ Marketing Collaboration มาใช้อย่างจริงจังตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน ไล่มาตั้งแต่ดึงบัตรเครดิต 11 ธนาคารมาทำแคมเปญร่วมกัน ต่อมาก็ทำอีกเรื่อยๆ ทั้งทรานส์ฟอร์มไปอยู่ใน Air Asia, Grab Car, Coke รวมถึงนำคาแร็กเตอร์ “บาร์บีก้อน” ไปปรากฏตัวบนเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ Anitech หรือปีที่ผ่านมาก็ไปร่วมกับสาหร่ายมาชิตะของค่ายสิงห์ ออกรสชาติ “เบคอนย่างซอสบาร์บีคิวพลาซ่า”
เช่นเดียวกันในปี 2019 ที่ Bar B Q Plaza วางให้เป็นปีแห่ง “Marketing Collaboration” เพราะน่าจะมีดีลการทำร่วมกันราว 3 ครั้งด้วยกัน
บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แบรนด์บาร์บีคิว พลาซ่า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เล่าให้ฟังว่า Bar B Q Plaza มีแนวคิดอย่างหนึ่งคือ “First Move” การทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เพื่อเข้าไปยังมุมที่แบรนด์ยังไม่เคยเข้าถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ Collaboration ผ่านพาร์ตเนอร์ชิพกับแบรนด์อื่นๆ
เพราะสิ่งที่แบรนด์จะได้มานอกเหนือจากการเพิ่มฐานลูกค้าระหว่างแบรนด์ที่เข้าไปจับมือเพิ่ม Brand Awareness – Brand Value – Brand Perceptionแล้ว ที่สำคัญที่สุดสามารถนำแนวคิด Know-how ของแบรนด์นั้นๆ มาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับต่อยอดเกมการตลาดได้
สำหรับดีลแรกของปี 2019 Bar B Q Plaza เลือกจับมือกับเชนร้านพิซซ่า “Pizza Hut” ธุรกิจที่อยู่ภายใต้ “ตระกูลมหากิจศิริ” เป้าหมายของดีลนี้นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนฐานลูกค้าระหว่างกันผ่านการออกเมนูใหม่ของทั้งคู่ ได้แก่ “ชุดหมูบาร์บีฮัท” กับเมนูทานเล่นและของหวานอีก 2 เมนู และพิซซ่าหน้าใหม่ “พิซซ่าฮัทบีก้อน”
แต่สิ่งที่เข้ามาช่วย Bar B Q Plaza แก้โจทย์ที่กำลังเจอคือการที่ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในโหมด “Auto Pilot” เดินเข้ามาไม่ต้องดูเมนูสามารถสั่งได้เลย แต่แทนที่จะเป็นจุดได้เปรียบว่าเป็นแฟนคลับจริงๆ แต่กลับสร้างผลเสียแทน
เพราะแม้จะสร้างแบรนด์ได้ดีแค่ไหนแต่เมื่อมีแต่อาหารซ้ำๆ ก็ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า ยิ่งกินแต่เมนูเดิมๆ ก็อาจจะสร้างความเบื่อหน่ายและไม่มีความกระตือรือร้นที่อยากจะเดินเข้ามาที่ร้าน ทางออกจึงต้องเพิ่มเมนูใหม่ๆ เพื่อสร้างNeed ให้ลูกค้าโดย Bar B Q Plaza วางแผนจะออกแคมเปญใหม่ทุกไตรมาส
อย่างไรก็ตาม การ Collaboration ถือเป็นครั้งแรกในวงการที่แบรนด์อาหารมาจับมือร่วมกัน เพราะปรกติแล้วแต่ละแบรนด์มักจะหวงฐานลูกค้าของตัวเองมาก
“ปรกติคนทำอาหารจะหวงลูกค้ากันมาก จะไม่ยอมมา Collaboration ร่วมกันเลย แต่การร่วมมือของเรา ถือเป็นวิธีคิดแบบใหม่และเป็นครั้งแรกในวงการอาหาร เพราะมองว่าคนทำแบรนด์สมัยนี้ต้องใจกว้าง หมดยุคลูกค้าเป็นของฉันทั้งชีวิต การร่วมกันกลับจะยิ่งทำให้ธุรกิจแข็งแรงมากยิ่งขึ้น”
อีกหนึ่งในแบรนด์ธุรกิจอาหารที่นำกลยุทธ์ Collaboration มาสร้างความตื่นเต้นให้กับแบรนด์ในจังหวะนี้เช่นกันสำหรับ MK Restaurants เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ Gen Y-Z ที่มีความเป็นตัวเองมากขึ้น ชื่นชอบและสนใจ Passion Point ที่ต่างกัน
พัชนีวรรณ ตันประวัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ส่วนงานการตลาด MK บริษัท เอ็มเคเรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มองว่า การทำตลาดที่มีประสิทธิภาพและ “โดนใจ” ผู้บริโภคในยุคนี้คือการเปิดรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของผู้บริโภค “เอ็มเค” จึงสร้างโปรเจกต์ MK Xเพื่อเป็นพื้นที่หรือแพลตฟอร์ม เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วม หรือเรียกว่ามา “Collab กับแบรนด์“
รูปแบบการมีส่วนร่วมในโปรเจกต์ MK X คือการที่แบรนด์ X กับ Passion Point ต่างๆ ของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น การทำอาหาร เล่นเกม ฟังเพลง ศิลปะ เพื่อสร้างประสบการณ์และความประทับใจกับแบรนด์ “เพราะเอ็มเคเชื่อว่าการร่วมมือกันทำอะไรขึ้นมาสักอย่างจะสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ที่ดีได้”
“วันนี้แบรนด์ร้านอาหารต้องเป็นมากกว่าร้านอาหาร เพราะการทำแบรนด์ไม่ใช่แค่บอกว่าแบรนด์ขายอะไร แต่แบรนด์ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภค โดยเข้าใจผู้บริโภค รู้ว่าวันนี้ผู้บริโภคต้องการอะไรและสนใจอะไร
เส้นทางของโปรเจกต์ MK X ได้เริ่มทำกิจกรรมบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ MK Restaurants โดยโพสต์ “โปรเจกต์ MK X มาบอกให้โลกรู้ว่าอยากเห็น MK X กับอะไร” เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามาเขียนไอเดียต่างๆ ว่าต้องการเห็น MK X กับอะไรซึ่งก็มีการเสนอไอเดียเข้ามาหลากหลายหลังจากนี้เอ็มเคจะรวบรวมไอเดียเป็นกลุ่มๆ เพื่อศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของการร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ที่ผู้บริโภคเสนอเข้ามา
เอ็มเคเชื่อว่าโปรเจกต์ MK X เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถดึงทุกเจนเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้แม้ว่าผู้บริโภคเจนต่างๆ จะมีความสนใจแตกต่างกัน แต่เมื่อทุกคนมาอยู่บนโลกโซเชียลมีเดียก็สามารถเป็น Gen Collaboration ได้เหมือนกันหมด เพราะทุกคนใช้โซเชียลมีเดีย เสพสื่อออนไลน์เหมือนกัน และต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์บนโลกออนไลน์
“การที่แบรนด์จะ Move Forward เพื่อให้โดนใจผู้บริโภค การใช้แพลตฟอร์มสื่อโซเชียลจึงเป็นช่องทางสร้างสัมพันธ์กับทุกเจนและลูกค้าทุกกลุ่มของเอ็มเค”
ในอุตสาหกรรมอาหารการ Collaboration มีให้เห็นกันหลากหลายรูปแบบ แต่ 4 กุญแจสำคัญที่ทำให้การ “X” ประสบความสำเร็จคือรสชาติ (Tasty) คุณภาพ (Quality) สุขภาพ (Healthy) และความแตกต่าง (Differentiation) ต้องบอกว่าทั้งหมดคือเป้าหมายของการจับคู่ X ครั้งใหม่ระหว่าง “วีคอร์นXซอสต๊อด” ข้าวโพดหวานกับความเผ็ดจัดจ้านเป็นความแตกต่างที่ท้าทายนักชิม
อภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วีฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและทำการตลาดผลิตภัณฑ์ข้าวโพดพร้อมทานและน้ำนมข้าวโพดแบรนด์ “วีคอร์น” (V Corn) เล่าที่มาของการ X อย่างลงตัวของ “วีคอร์นซอสต๊อด” ว่าเกิดขึ้นจากความบังเอิญและความอยากลอง
ด้วย “วีคอร์น” ถือเป็นเมนูประจำบ้านที่มีติดตู้เย็นไว้เสมอ วันหนึ่งบังเอิญเปิดตู้กับข้าวพบ “ซอสต๊อด” จึงนำมาคลุกเคล้ากับข้าวโพดและเมื่อรองรับประทานพบว่ามีรสชาติอร่อยถูกใจ เข้ากันได้อย่างลงตัว เมื่อนำไปให้คนอื่นชิมก็ชื่นชอบ
จึงเกิดเป็นความร่วมมือของ “วีคอร์น” และ “ซอสต๊อด” ของ “ต๊อด–ปิติ ภิรมย์ภักดี” ด้วยการนำซอสต๊อดมาร่วมทำเป็นเมนูพิเศษกับวีคอร์น ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการ X ข้ามสายพันธุ์ระหว่างความหวานและจัดจ้าน ทำให้ได้รสชาติใหม่เรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องแล็บ แต่อยู่ที่ไหนและการใช้ชีวิตประจำวันก็ทำให้เกิดขึ้นได้สิ่งใหม่ได้
กระแสของธุรกิจที่เห็น Collaboration กันมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้ ชวนา กีรติยุตอมรกุล จาก CJ WORX มองว่า มาจาก 3 ปัจจัยหลัก
บัตรเครดิตทีเอ็มบี จัดแคมเปญ Can’t Miss Deal !! สำหรับสมาชิกบัตรฯ เพียงลูกค้ารับประทานอาหารที่พิซซ่าฮัท โทรสั่งเดลิเวอรี่ 1150 หรือ คลิกสั่งออนไลน์ที่ www.pizzahut.co.th และชำระด้วยบัตรเครดิตทีเอ็มบี เพียงแค่ 500 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป รับเงินคืนถึง 100 บาท (1 สิทธิ/ บัตร/ เดือน) ทั้งนี้ลูกค้าสามารถร่วมรายการได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนผ่านทาง SMS พิมพ์ TMBPH เว้นวรรค 1 ครั้ง ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิตทีเอ็มบี 12 หลักสุดท้าย แล้วส่งไปที่ 4806026 พร้อมรอข้อความยืนยันการรับสิทธิ์ ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2556 นี้เท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถาม ได้ที่ tmbbank.com หรือ TMB Contact Center โทร. 1558
พิซซ่าฮัท รุกตลาดออนไลน์ ตอบรับนิวไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ส่งโปรโมชั่นสุดคุ้มเฉพาะลูกค้าที่สั่งผ่าน Pizza Hut Online Ordering ซื้อ 1 ถาด แถมฟรี 1 ถาด เพียงนำรหัส pizzahut มากรอกในช่องรหัสโปรโมชั่นเพื่อรับสิทธิ ทั้งนี้ลูกค้าที่สั่งพิซซ่าแป้งหนานุ่มหรือพิซซ่าขอบชีส และไส้กรอกชีสถาดกลางขึ้นไปในราคาปกติ (ยกเว้นนุ่มฮิตพิซซ่า, นุ่มฮิตว้าว และชุดสุดคุ้ม) รับฟรี! พิซซ่าแป้งหนานุ่ม ถาดกลางอีก 1 ถาด มูลค่า 299 บาทโดยสามารถเลือกพิซซ่าฟรีได้ 4 หน้า ได้แก่ ฮาวายเอี้ยน ไอส์แลนด์ดีไลท์ ชีส และเว็จจี้ ซึ่งโปรโมชั่นสุดคุ้มนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 15 สิงหาคม ศกนี้ เข้าไปติดตามดูรายละเอียดและสั่งซื้อพิซซาฮัทออนไลน์ได้ที่ www.pizzahut.co.th
เอไอเอส นำโดย นางวิลาสินี พุทธิการันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริการลูกค้าและการบริการ ร่วมกับ นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ พิซซ่า ฮัท ควงแขนจัดเต็มสิทธิพิเศษเอาใจลูกค้าคอพิซซ่าแบบคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ที่มาพร้อมกับไอเดียสุดเก๋ แพคเกจจิ้งสุดคูล “น้องอุ่นใจ” เคียงข้างความอร่อย ด้วยพิซซ่าขนาดกลาง 1 ถาดมูลค่า 295 บาทฟรี! ทันที กับ 3 หน้ายอดฮิต ฮาวายเอี้ยน, ไอส์แลนด์ดีไลท์ และชริมพ์แอนด์สโมคกี้ชิกเก้น เมื่อซื้อพิซซ่าถาดกลางขึ้นไปหน้าใดก็ได้ในราคาปกติ (ราคา 295 บาทขึ้นไป) พิเศษยิ่งกว่านั้น พร้อมรับคูปองฟรี! สปาเกตตี้สไปซี่ซีฟู้ดและเบรดสติ๊กส์และดิปปิ้งซอสมูลค่า 158 บาท เพื่อใช้สิทธิ์ในครั้งต่อไป
ลูกค้าเอไอเอสรับสิทธิพิเศษสองต่อนี้ได้ง่ายๆ เพียงกด *545*41# แล้วโทรออก (ฟรี) แล้วนำรหัสที่ได้รับมาแสดงที่ร้านพิซซ่า ฮัท และผ่านบริการโทรสั่งพิซซ่า ฮัท เดลิเวอรี่ 1150 ทุกสาขา ทั่วประเทศ พร้อมอิ่มอร่อยได้แล้วทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เม.ย. 2554
คาดหวังให้เซอร์ไพรส์เต็มที่กับหมายกำหนดการแถลงข่าวเปิดตัวพาสต้าแบรนด์ใหม่โดยไม่ระบุชื่อแบรนด์ ชื่อบริษัท และชื่อผู้บริหาร เพียงแต่กำหนดสถานที่แถลงข่าว เป็นร้านออเรนเจอรี่ ชั้น 4สยามพารากอนเท่านั้น เพื่อสร้างความรู้สึกเหนือความคาดหมาย อันเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเปิดตัว “พาสต้า เพอร์เฟคโต้” (Pasta Perfetto) ของพิซซ่า ฮัท มาแล้วทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ พิซซ่า ฮัท ได้เปิดตัว PASTA HUT ว่าจะมาแทนที่ PIZZA HUT ในราวๆ 2 ปีเศษที่ผ่านมา (เปิดตัวในวัน April’s Fool Day 2008) โดยเริ่มที่สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นการ Re-naming เพื่อกิมมิกเท่านั้น
แต่ในเมืองไทยและอีกหลายประเทศในเอเชีย แปซิฟิก ยังไม่ถึงกับ Re-nameใหม่ โดยเลือกใช้คำว่า พาสต้า เพอร์เฟคโต้ มาโปรโมตแทน และยังคงชื่อร้านเป็นพิซซ่า ฮัท เช่นเดิม
การถือกำเนิดเมนูพาสต้าสำหรับ Delivery ถือเป็นการเพิ่ม Value Added ให้กับ “1150” ตอกย้ำ Positioning ของการเป็น Food Delivery Expert ของพิซซ่า ฮัท ด้วยงบการตลาด 30 ล้านบาท จากงบการตลาดทั้งปีของพิซซ่า ฮัท 150 ล้านบาท
“เป็นทิศทางของพิซซ่า ฮัทที่ต้องการรุกตลาดขยายไลน์อาหารเพื่อเพิ่มความหลากหลายของเมนู โดยยึดเอาพาสต้าเป็นธงที่จะดึงดูดลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยใช้บริการ 1150ขณะเดียวกันก็เพิ่มความถี่ในการสั่งอาหารผ่าน 1150 ของแฟนๆ พิซซ่า ฮัท ให้มากขึ้นด้วย” นงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดพิซซ่า ฮัท บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด บอก
ในอีกด้านหนึ่ง การใช้ “พาสต้า” เป็นเรือธงในการทำตลาดครั้งนี้ เท่ากับว่าพิซซ่า ฮัทไม่ต้องสู้ในตลาด “พิซซ่า” กับเดอะพิซซ่าของค่ายไมเนอร์โดยตรง เพราะในตลาดนี้ต้องยอมรับว่า พิซซ่า ฮัทตกเป็นรองคู่แข่งอย่างน่าเป็นห่วง ทั้งจำนวนสาขา และความแรงของแคมเปญ พิซซ่า ฮัทจึงต้องหา “บลูโอเชียน” เพื่อสร้างดีมานด์และลูกค้าใหม่ขึ้นมาในตลาด
ก่อนหน้านี้ พิซซ่า ฮัทได้ลงทุนจ้างให้ The Nielsen Company ประเทศไทย สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายต่อการวางตลาดพาสต้า พบว่า มี 93% บอกว่ามีความแปลกใหม่ และ 99% บอกว่ามีความเป็นไปได้ในการตัดสินใจซื้อ ทำให้พิซซ่า ฮัทมั่นใจว่าพาสต้าจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวได้
“เมื่อนึกถึงพาสต้า คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นอาหารราคาแพง ต้องกินในร้านอิตาเลียนหรูๆ เท่านั้น พิซซ่า ฮัทจึงต้องการ Breakthrough เพราะภาพลักษณ์ของพิซซ่า ฮัท คนมองว่า Approachable และนี่คือโอกาสสำคัญสำหรับการใช้ช่องทางที่แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่นด้วย”
เมื่อ มกราคม 2552 พิซซ่า ฮัท ก็ออกเมนู “ข้าว” มาเพิ่ม Variety of Choice ให้กับผู้บริโภคมาแล้ว
“เราใช้เวลาพัฒนาอยู่หลายปีโดยแผนก Food Innovator และต้องการสร้างพาสต้าให้เกิดอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่กินพิซซ่าแล้วพ่วงอย่างอื่น อยากให้นึกถึงพาสต้าแล้วโทร 1150″
โดยพาสต้า เพอร์เฟคโต้ ก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของ Combo Set เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้ตัดสินใจโทรสั่งได้ง่ายขึ้นด้วย
เบื้องต้นจะทำการจัดส่ง 5 เมนู คือ ลาซานญ่า สปาเก็ตตี้อบชีสแฮมเห็ดในไวท์ครีมซอส ฟูซิลี่อิตาเลียนซีฟู้ด สปาเก็ตตี้สไปซี่ซีฟู้ดผัดฉ่า และสปาเก็ตตี้สไปซี่ซอสเซจ ในราคาเริ่มต้น 109 บาท และในช่วงโปรโมชั่นเริ่มต้นที่ 89 บาท
ปัจจุบันยอดขายของพิซซ่า ฮัทราว 60% มาจาก Delivery และคาดว่าจากการเปิดตัวพาสต้า เพอร์เฟคโต้ ในครั้งนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 65% แต่ทั้งนี้นงนุชยืนยันว่าต้องการที่จะทำให้สัดส่วนของ Dine-inโตขึ้นไปพร้อมๆ กันด้วย
ทุกวันนี้ พิซซ่า ฮัท มีสาขาเหลือเพียง 82 สาขา อันเป็นผลมาจากจากการปิดตัวในศูนย์การค้าของเซ็นทรัลในปีที่ผ่านมา และการเปลี่ยนผู้บริหาร ทำให้พิซซ่า ฮัท ยิ่งต้องดิ้นรนในการหารายได้จาก Delivery เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เมนูอาหารมากขึ้นนอกเหนือจากพิซซ่า และจะเพิ่มความถี่ในการออกเมนูใหม่ในทุกๆ 8-9 สัปดาห์
นางนงนุช บูรณะเศรฐกุล ผู้อำนวยการตลาด – พิซซ่า ฮัท ต้อนรับเปิดเทอม ส่งเมนูโดนใจวัยกิ๊ก ด้วย 3 หน้าซูเปอร์กิ๊ก พิซซ่า ให้อร่อยกิ๊กแบบไม่มีกั๊ก กับพิซซ่า 3 หน้าใหม่ บนแป้งหนานุ่มเต็มคำ ซึ่งอัดแน่นถึง 12 ชิ้น ในถาดเดียวกัน มีทั้ง หน้าปลาปรุงรสเข้มข้นด้วยสมุนไพรฝรั่ง หน้ากุ้งอัดแน่นกับปูอัด และ หน้าไก่เทอริยากิ ชุ่มซอส หนักชีส ในไบท์เดียว ด้วยราคาเพียง 299 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ 21 ก.ค. ศกนี้ ที่ร้าน พิซซ่า ฮัท ทุกสาขา หรือผ่านช่องทางบริการส่งร้อนถึงบ้าน พิซซ่า ฮัท ฮ็อต 1150
ทรู พริวิเลจ มอบสิทธิพิเศษต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก ให้ลูกค้ากลุ่มทรูอิ่มอร่อยสุดคุ้ม เมื่อสั่งพิซซ่าขนาดกลางขึ้นไป หน้าใดก็ได้ รับฟรีทันที Strawberry Cream Pie มูลค่า 120 บาท ที่ร้านพิซซ่า ฮัท ทุกสาขาทั่วประเทศ ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ ลูกค้าทรูมูฟรับสิทธิพิเศษง่ายๆ เพียงพิมพ์ Pizza ส่ง SMS มาที่ 9989 (ค่าบริการ ข้อความละ 3 บาท) เพื่อรับ SMS คูปอง ลูกค้าวีพีซีที โทร.02-689-0916 เพื่อรับรหัสข้อความ สำหรับลูกค้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์บ้านทรู และ Wi-Fi by TrueMove แสดงใบแจ้งค่าบริการเพื่อรับสิทธิ์
อนึ่ง ทรู พริวิเลจ เป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการของทรู ทั้งโทรศัพท์พื้นฐานบ้าน และแบบพกพา (WE PCT) โทรศัพท์มือถือทรูมูฟ บริการไฮสปีดอินเทอร์เน็ต และสินค้าอื่น ๆ ในกลุ่มทรู โดยลูกค้าสามารถรับทราบข่าวสารผ่านเว็บไซต์ www.trueprivilege.com หรือ www.truecorp.co.th หรือ SMS เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ครั้งแรกกับการจับมือของสองยักษ์ใหญ่ต่างวงการ นายศรัณย์ สมุทรโคจร (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทน พิซซ่า ฮัท และ นายธนา เธียรอัจฉริยะ (ที่ 2 จากซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค โชว์บัตรเติมเงิน พิซซ่า ฮัท – แฮปปี้ อิ่มนี้มีแต่รอยยิ้ม มอบความสุขแก่ลูกค้าผ่านบัตรเติมเงินแฮปปี้ โดยสามารถใช้เติมเงินแฮปปี้และเป็นส่วนลดเมื่อรับประทานพิซซ่าที่ร้านพิซซ่า ฮัท หรือ พิซซ่า ฮัท ดิลิเวอรี่ 1150 บัตรเติมเงินดังกล่าวผลิตขึ้นจำนวน 100 ล้านใบ ซึ่งหากคำนวณส่วนลดที่สองยักษ์ใหญ่มอบให้กับลูกค้าแล้วจะสูงถึง 680 ล้านบาทเลยทีเดียว
บัตรเติมเงิน พิซซ่า ฮัท – แฮปปี้ อิ่มนี้มีแต่รอยยิ้ม มี 2 ราคา คือ บัตรเติมเงินมูลค่า 60 บาท ใช้เป็นส่วนลด 60 บาท เมื่อสั่งพิซซ่าถาดกลาง และบัตรเติมเงินมูลค่า 100 บาทใช้เป็นส่วนลด 100 บาท เมื่อสั่งพิซซ่าถาดใหญ่ที่พิซซ่า ฮัท ทุกสาขา ร่วมอิ่มอร่อยพร้อมรอยยิ้มได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ต.ค. ศกนี้ ลูกค้าสามารถซื้อบัตรเติมเงินได้ที่ดีแทคช็อปและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายบัตรเติมเงินแฮปปี้ทั่วประเทศ.
นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจ Cash Management ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดรายการส่งเสริมการขาย สำหรับลูกค้า TMB Internet Banking 400 ท่านแรก ที่ใช้บริการโอนเงินระหว่างธนาคารแบบ Online (IORFT) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะได้รับฟรี คูปองเงินสด Pizza Hut มูลค่า 100 บาททันที โดยไม่ต้องรอลุ้น ไม่ต้องจับฉลาก ไม่ต้องรอแลก หรือสะสมแต้มใดๆทั้งสิ้น
การที่ธนาคารทหารไทยเลือกทำแคมเปญกับ Pizza Hut เนื่องจากธนาคารทหารไทยและ Pizza Hut ร่วมเป็นพันธมิตรที่ต้องการนำเสนอความทันสมัยให้กับลูกค้า รวมทั้งต้องการขอบคุณลูกค้า TMB Internet Banking ของธนาคาร และเป็นการส่งเสริมให้ลูกค้าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ TMB Internet Banking ซึ่งมีความสะดวก รวดเร็ว
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับคูปองเงินสดดังกล่าว สามารถนำไปใช้เป็นส่วนลด เพื่อรับประทานในร้าน นำกลับบ้าน หรือโทรสั่ง Pizza Hut 1150 เพื่อบริการจัดส่งก็ได้
สำหรับผู้ที่ร่วมรายการส่งเสริมการขาย จะต้องเป็นลูกค้า TMB Internet Banking (www.tmbdirect.com) บริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ตของธนาคารทหารไทย ที่ทำรายการโอนเงินระหว่างธนาคารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และยังคงสถานภาพสมาชิกอยู่จนกระทั่งถึงวันที่มีการมอบรางวัล ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 242 3842