มหาวิทยาลัยกรุงเทพ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 29 Apr 2013 00:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘Youดี Meสุข’ นิทรรศการศิลปกรรมเพื่อชุมชม https://positioningmag.com/56355 Mon, 29 Apr 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56355

หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพภูมิใจนำเสนอ ‘Youดี Meสุข’ นิทรรศการศิลปกรรมเพื่อชุมชน ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และต่อยอดให้เกิดความรู้ใหม่ นิทรรศการครั้งนี้จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ทางด้านศิลปะและการออกแบบ โดยเหล่าคณาจารย์และนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประกอบด้วยภาควิชาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ ภาควิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ ภาควิชาทัศนศิลป์ และภาควิชาการออกแบบนิเทศศิลป์

‘Youดี Meสุข’ นิทรรศการศิลปกรรมเพื่อชุมชน นำเสนอเนื้อหา 3 ประเด็น ได้แก่ ถักสาน ความเป็นไปได้ใหม่ สร้างแรงบันดาลใจใหม่จากกลุ่มแม่บ้านทำพรมเช็ดเท้าคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี สัญลักษณ์ การสืบทอดทางวัฒนธรรม ว่าด้วยคุณค่าทางสัญลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์มอญของหมู่บ้านศาลาแดงเหนือ ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี และบันทึกจากชุมชน สะท้อนมุมมองของนักสร้างสรรค์ที่เข้าไปหาแรงบันดาลใจจากส่งที่พบเจอในชุมชนต่างๆ และถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานสร้างสรรค์

จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม- 6 มิถุนายน 2556 ณ หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต (ชั้น 2 หอสมุดสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์) พิธีเปิด วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2556 เวลา 14.00 – 16.00 น.

]]>
56355
จัดเต็ม…ศึกโฆษณามหาวิทยาลัย ดึงเอเยนซี่ดังและผู้กำกับมือดี เจาะลูกค้า ม.6 https://positioningmag.com/14768 Fri, 13 Jul 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14768

 

ลืมได้เลย…โฆษณามหาวิทยาลัยที่เน้นวิชาการเชยๆ เพราะปีนี้ มหาวิทยาลัยเอกชนทุกแห่งจัดเต็มกับการใช้สื่อโฆษณา ทั้ง “เนื้อหา” วิธีการนำเสนอ รวมถึงการใช้สื่อครอบคลุมทั้งทีวี ออนไลน์ และโซเชี่ยลมีเดีย ทุ่มทุนจ้างเอเยนซี่ดัง ผู้กำกับฝีมือดีจากค่ายจีทีเอช สร้าง Story ที่มีทั้งทีวีซี มินิซีรี่ส์ หนังรัก หนังให้กำลังใจ ชนิดที่ต้องกระชากใจกลุ่มเป้าหมาย วัยรุ่นมัธยมอยู่หมัด  

ม.กรุงเทพ ตอกย้ำ Creative University 

ปีนี้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มาพร้อมกับการตอกย้ำจุดยืนของการเป็น “มหาวิทยาลัยสร้างสรรค์” หรือ Creative University ผ่าน TVC ที่ใช้ชื่อว่า “ชุดลักพา”  ภายใต้สโลแกนที่ว่า “คนมีความคิดสร้างสรรค์ มักเป็นที่ต้องการ” นำเสนอผ่าน…ภาพมนุษย์ยุคหินจุดไฟด้วยก้อนหิน นักวิทยาศาสตร์ที่ชอบทดลอง คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ถูกโป๊ะยาสลบลักพา ภาพ สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอApple เปิดตัว โปรดักต์  iPad บนเวทีถูกนางฟ้าอุ้มไปสวรรค์ 

ตามมาด้วยหนังโฆษณาที่ตอกย้ำแนวคิดนี้ ด้วยเนื้อหาที่ให้บัณฑิตที่นั่งเป็นแถว 4 ชั้นกำลังนั่งถ่ายรูปแล้วถูกบรรดาบริษัทต่างๆ เข้ามายกบัณฑิตไปทั้งหมด โดยมีข้อความที่สื่อสารถึงแบรนด์โพสิชันนิ่ง คือ ทุกหลักสูตร เน้นความคิดสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยสร้างสรรค์ ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้เลือกใช้ครีเอทีฟมืออาชีพจากเอเยนซี่ค่ายNudeJEH นำทีมโดย จุรีพร ไทยดำรงค์ หรือ จูดี้ ครีเอทีฟชื่อดัง ฝีมือดี เข้ามาดูแลทั้งแคมเปญโฆษณาเป็นปีแรก

จุรีพร หรือ เจ๊จูดี้ บอกว่า หากมองมหาวิทยาลัยเป็นโปรดักต์ มหาวิทยาลัยชั้นนำแต่ละแห่งจะมีจุดยืนชัดเจน เช่น จุฬาลงกรณ์ เด่นด้านวิชาการ ธรรมศาสตร์ ดังเรื่องของสังคมการเมือง ส่วนมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้วางจุดยืนของเป็นมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์มาแล้ว 

แต่ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่ยังมองว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นด้านศิลปะเท่านั้น มหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องตอกย้ำจุดยืนด้วยโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ต่อเนื่อง โดยเพิ่มคำ The Creative University นำเสนอให้รูปแบบง่ายๆ คนดูเข้าใจได้ทันที พร้อมกับการตอกย้ำแบรนด์โพสิชันนิ่งไปในตัว การเลือกใช้สื่อทีวีซียังเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อดึงดูดคนดู สนใจและติดตาม และจดจำแบรนด์ได้เร็ว จากนั้นเมื่อต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หลักสูตร จะนำเสนอผ่านเว็บไซต์ โบรชัวร์ ที่จะให้รายละเอียดได้ดีกว่า 

 

ม.หอการค้า เลิกใช้ TVC 

จัดเต็มซีรี่ส์ออนไลน์กระชากใจวัยรุ่น

มหาวิทยาลัยหอการค้าปีนี้ ปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การโฆษณาอย่างชัดเจน โดยหันหลังให้กับสื่อ TCV เปลี่ยนมาใช้สื่อออนไลน์เต็มพิกัด โดยสร้างสีสันใหม่ในรูปแบบของ “มินิซีรี่ส์” ภาพยนตร์ออนไลน์จำนวน 4 ตอน ใช้ชื่อหนังรักวัยรุ่น “Love 18+รักต้องเลือก” โดยนำเสนอผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.love18themovie .com พร้อมจัดทำMovie Catalogue 

 มานา คุณธาราภรณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการโฆษณามหาวิทยาลัยหอการค้า มองว่า การเลือกทำเป็น “มินิซีรี่ส์” และMovie Catalogue สามารถนำเสนอข้อมูลต่างๆ ได้หลากหลายและครบถ้วนกว่า TVC ที่มีเวลาจำกัด และการเลือกสื่อออนไลน์เป็นหลัก เพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมวัยรุ่น ระดับมัธยม 6 ที่ผ่านการวิจัยมาแล้วว่ามักเลือกใช้สื่อออนไลน์ เปิดรับสื่อฟรีทีวีน้อยลง 

โจทย์สำคัญ คือ ทำอย่างไรให้ “มินิซี่รี่ส์” ได้รับความสนใจจนเกิดเป็นกระแส “ไวรัล” บอกต่อและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก “เนื้อหา” จึงต้องเป็นเรื่องใกล้ตัวกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น เด็กมัธยม และพฤติกรรมของวัยรุ่นมักสนใจกับเรื่องความรัก การเรียน และชีวิต มาเป็นธีมเดินเรื่อง นั่นคือที่มาของการออกแบบให้มินิซีรี่ส์ชุดนี้เล่าเรื่องให้วัยรุ่นสนใจและติดตาม ผ่านตัวละครเอก 4 คน นักเรียนชายม.6 ที่ตกหลุมรักนักศึกษาสาวสวยหญิงรุ่นพี่ 2 คน โดยมีรุ่นพี่ชายอีกคนหนึ่ง ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ดังนั้น จึงกลายเป็นรักต้องเลือก   

จากนั้นจึงสอดแทรกแนะนำหลักสูตรของคณะต่างๆ บรรยากาศในห้องเรียน รูปแบบการเรียนการสอน เข้าไปในเนื้อเรื่องแบบเนียนๆ ด้วยวิธีแบบนี้ มียอดคนดูรวมทั้งเว็บไซต์ ยูทูบ เฟซบุ๊ก ทะลุ 6 แสนวิวเลยทีเดียว 

มินิซีรี่ส์ออนไลน์เรื่องนี้ ได้เลือกเอเยนซี่ที่เชี่ยวชาญสื่อดิจิตอล บริษัทซีเจ เวิร์ค  CJ WORX ของจิณณ์ เผ่าประไพ อดีตผู้บริหาร ที่เคยฝากผลงานมาแล้วกับแคมเปญโฆษณาออนไลน์ มินิซีรี่ส์ออนไลน์ ผลงานล่าสุดของเขา คือ การปั้นแฟนเพจให้กับ AXE Thailand ด้วยมุขจีบสาว จนติดอันดับแฟนเพจสูงสุด มินิซีรี่ส์เรื่องนี้ยังได้ คมกฤษ ตรีวิมล ผู้กำกับมืออาชีพจากภาพยนตร์ไทยเงินล้าน เพื่อนสนิท และแฟนฉัน จากค่ายGTH เป็นผู้ดูแลการผลิตมินิซีรี่ส์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน 

 

ม.ศรีปทุม ตีโจทย์ 4 ปีเปลี่ยนได้แน่

สำหรับมหาวิทยาลัยศรีปทุม เคยสร้างความฮือฮากับหนังโฆษณาทีวีมาแล้ว เมื่อหลายปีที่แล้ว มาปีนี้ เลยจัดเต็มแคมเปญโฆษณาโฆษณาทีวี 4ชุด (ชื่อชุดว่า พ่อตา, เด็ก, ร้าน และมรดก) ผสมผสานไปกับใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียเพิ่มมากขึ้น โดยเลือกใช้เอเยนซี่ชั้นนำอย่าง JWT คิดแคมเปญมีชื่อว่า “4 years change”  

ปีนี้มหาวิทยาลัยศรีปทุมยังคงต้องตอกย้ำโพสิชันนิ่ง ของการเป็นมหาวิทยาลัยของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีความพร้อมในทุกด้านที่เตรียมไว้ให้กับนักศึกษา ให้เห็นว่า เวลา 4ปีกับการเปลี่ยนแปลงเด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งให้เป็นมืออาชีพทุกวงการ โดยปีนี้จะเน้นการเล่าเรื่อง (Story Telling) และวิธีการนำเสนอที่มีทั้งสื่อทีวี ออนไลน์ โซเชี่ยลมีเดีย โรดโชว์ ซีอาร์เอ็ม ใช้ทุกรูปแบบ 

“การสื่อสารกับเด็กวัยรุ่นสมัยนี้จำเป็นต้องใช้ช่องทางสื่อสารครบทุกมิติ กับเครื่องมืออย่างหลากหลาย ทั้งทีวีและโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของเด็กวัยรุ่นในยุคนี้ เพราะช่องทางหาข้อมูลและเป็นทางลัดตรงเข้าถึงกลุ่มเด็กวัยรุ่น” เทพ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานกิจการสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อธิบายถึงที่มาของกลยุทธ์โซเชี่ยลมีเดีย 

การนำเสนอข้อมูลในเฟซบุ๊ก จะเน้นเนื้อหาวาไรตี้ที่นักเรียน นักศึกษาสามารถเข้ามาดูแล้วทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น เกิดแรงบันดาลใจ อยากเป็นอะไรในอนาคต จากนั้นจึงสอดแทรกข้อมูลหลักสูตร คณะสาขาต่างๆ ในเนื้อหาอีกที ขณะที่ Twitter นำเสนอข้อมูลแคมเปญและรายละเอียดคณะ สาขาวิชา กิจกรรมของมหาวิทยาลัย เพื่อสื่อสารว่าเวลา 4 ปีในมหาวิทยาลัยมีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ควบคู่ไปกับการสื่อสารด้วยภาพยนตร์โฆษณาทางทีวี

เนื้อหาในTVC จะมี 4 ชุด (ชุดพ่อตา, เด็ก, มรดก และร้าน) มีบทบาทเป็นเพียงส่วนเสริม และดึงดูดให้คนเข้ามาดูในเว็บไซต์อีกต่อ ซึ่งสามารถนำข้อมูลรายละเอียดหลักสูตรจำนวนมากได้ดีกว่าโฆษณาทีวีไม่สามารถใส่ข้อมูลทั้งหมดนำเสนอได้ภายใน 30 วินาที อย่างไรก็ตาม TVC ก็ยังสร้างการรับรู้แบรนด์ให้กับผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ ผู้ปกครอง บริษัทต่างๆ อีกด้วย ได้รู้ความมีตัวตนของมหาวิทยาลัย 

 

ม.รังสิต CSR University 

มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นอีกแห่งที่เลือกใช้สื่อออนไลน์มาเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง ทั้งการให้รุ่นพี่แชตกับรุ่นน้อง จนบางแคมเปญกวาดรางวัลทั้งในและต่างประเทศมาแล้ว  

ผศ.สมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่า ปีนี้ยังคงมุ่งเน้นการนำ “นิวมีเดีย” มาเป็นสื่อที่ใช้ในการสื่อสาร เพราะเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังคงไม่ทิ้งสื่อหลักอย่างทีวีซี โดยเป็นการผสมผสานระหว่างการใช้สื่อทีวีซี พรีเซนเตชั่น ซีรี่ส์ออนไลน์ เพื่อตอกย้ำ Brand Positioning ของการเป็น CSR University  

แนวคิดมหาวิทยาลัย CSR เป็นการฉีกแนวจากเดิมที่มุ่งประเด็นความสำเร็จของนักศึกษาหรือศิษย์เก่า (Success Stories) โดยได้ตอกย้ำประเด็นนี้มาเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2546-2550 แต่เมื่อมหาวิทยาลัยอื่นๆ นำเรื่อง Success Stories มาใช้กันแพร่หลาย  ม.รังสิตจึงได้ฉีกแนวมาเป็นประเด็นจิตสาธารณะตั้งแต่ปี 2551 โดยนำเรื่องราวชีวิตจริงของนายแพทย์กันตพงศ์ เล่าลือพงศ์ศิริ หรือ “หมอม้ง” ที่ได้รับโอกาส หรือทุนการศึกษาเป็นกรณีพิเศษจากมหาวิทยาลัยรังสิต มาผลิตเป็นภาพยนตร์โฆษณา 

“หนังแนวนี้คนดูจะรู้สึกว่าเป็นองค์กรที่ดี เสียสละไม่มุ่งแสวงหากำไร กลุ่มผู้ใหญ่ ผู้ปกครองชอบ แต่ต้องยอมรับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอาจจะเฉยๆ”

จึงเป็นโจทย์ให้หนังโฆษณาทีวีปีนี้ ที่ใช้ชื่อชุดว่า Why Sharing หรือ ทำไมเราต้องแบ่งปัน ทำควบคู่กับพรีเซนเตชั่น 4 ชุด โดยใช้วิธีตั้งคำถามแบบโดนใจวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย “ทำไมฉันเกลียดที่นี่” ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องของมหาวิทยาลัยรังสิตในรูปแบบใหม่ เพื่อให้เกิดการอัพโหลด และแชร์ต่อในเฟซบุ๊ก มีความยาว 4.59 นาที ใช้เวลา 10 เดือนในการผลิตทั้งวางโครงการ วิธีเล่าเรื่องและพัฒนาบท

ซีรี่ส์ออนไลน์จำนวน 4 ชุด เพื่อตอบโจทย์ให้รับรู้โลกความจริงว่าเป็นเช่นไรและบทสรุปของศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จแล้วในอาชีพ โดยมีกลยุทธ์ซีรี่ส์ออนไลน์อินไซต์ จากพฤติกรรมของนักเรียน มัธยมปลาย กำหนดให้ออกทุกวันศุกร์จำนวน 4 ครั้ง เริ่มตอนแรกศุกร์ที่ 11 พฤษภาคมนี้ ใช้ชื่อว่า “ฉันเกลียดที่นี่” โดยความเกลียด ได้แก่ เกลียดระบบการศึกษาของประเทศไทย ทำไมต้องสอบเข้า และเกลียดการทำข้อมูล ทำไมต้องมีข้อสอบ เป็นต้น 

ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ชูจุดขาย 4ทศวรรษ.

 ส่วนโฆษณาของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ไม่ได้หวือหวาเหมือนกับคู่แข่ง โดยยังคงพยายามเน้นย้ำเรื่องความน่าเชื่อถือ เพื่อลบภาพลักษณ์ในอดีต ภายใต้ TVC ที่ใช้ชื่อชุดว่า “Discover the pride in you” โดยใช้ Key Massages คือ 44 ปีแห่งความภูมิใจของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่ร่วมสร้างบุคลากรคุณภาพสู่สังคมไทย 

โดยนำเอาผลงานที่แล้วมา เช่น คณะนิติศาสตร์ ปรีดี พนมยงค์, วิทยาลัยนานาชาติจีนที่เป็นการร่วมกันกับมหาวิทยาลัยคุนหมิง, วิทยาลัยนานาชาติ DPUIC, รางวัลชนะเลิศหุ่นยนต์นานาชาติ เพื่อตอกย้ำถึงตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นย์ภายในมหาวิทยาลัย 

ร.ร.ปัญญาภิวัฒน์ รีแบรนด์ใหม่ PIM  

อีกแห่งที่ต้องจับตา คือ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์แห่งนี้ เดิมใช้ชื่อว่า “โรงเรียนปัญญญาภิวัฒน์” เปิดสอนหลักสูตรในระดับ ปวช.และ ปวส. ล่าสุดได้เพิ่มหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโท จึงได้รีแบรนด์ใช้ชื่อใหม่ว่า “สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หรือ PIM” พร้อมกับออกภาพยนตร์โฆษณาทีวีชุดใหม่ ความยาว60 วินาที โดยใช้ผู้กำกับในวงการโฆษณาอย่าง อรรณพ ชั้นไพบูลย์ จากเอเยนซี่โฆษณา บริษัท เอ็ม เอ เอ็ม ฮาร์ท จำกัด 

แนวคิดของภาพยนตร์โฆษณาฯ ยังคงตอกย้ำ เรื่องของหลักสูตรการเรียนทฤษฎีควบคู่ปฏิบัติกับสาขาวิชาที่เรียนจริง (Work-Based Learning) ตลอดทั้ง 4 ปี ซึ่งเป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง PIM กับมหาวิทยาลัยทั่วไป 

เนื้อเรื่องเล่าผ่านกลุ่มนักศึกษาในห้องเรียน ผลักกำแพงห้องเรียนออกไปพบกับการเรียนปฏิบัติในสถานที่จริง ภาพเห็นตึกทรู (True) ที่นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ ฝึกประสบการณ์การจัดการข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ กับ บริษัท ทรู ทัช จำกัด ขณะที่นักศึกษาอีกกลุ่มผลักกำแพงอีกด้านเข้าไปฝึกประสบการณ์จริงกับ ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศจีน 

ขณะที่กลุ่มนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาชาวิชาการจัดการค้าปลีก ผลักกำแพงห้องพบกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยพวกเขาได้เรียนประสบการณ์กับผู้นำธุรกิจค้าปลีกตั้งแต่ขั้นตอนการคัดสรรสินค้า เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพแก่ลูกค้ากว่า 8 ล้านคนต่อวัน

กิมมิกของภาพยนตร์ ยังได้นำ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ CEO บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และผู้ก่อตั้งสถาบันการจัดการ PIM มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสะท้อนถึงความใส่ใจของมืออาชีพกับบุคลากรในอนาคต 

การปรับเปลี่ยนของปัญญาภิวัฒน์ หรือ PIM ครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่ง ที่เพิ่มดีกรีการแข่งขันของมหาวิทยาลัยเอกชน ที่รุนแรงอยู่แล้วให้เพิ่มขึ้นไปอีก

 

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

style=”vertical-align: top; text-align: center;”>กลยุทธ์การสื่อสารของสถาบันการศึกษา-มหาวิทยาลัยเอกชน
2012

style=”vertical-align: top; font-weight: bold; text-align: center;”>แบรนด์
(สถาบันการศึกษา )

style=”vertical-align: top; font-weight: bold; text-align: center;”>แบรนด์โพสิชันนิ่ง/คีย์แมสเสจ

style=”vertical-align: top; font-weight: bold; text-align: center;”>กลยุทธ์สื่อสาร/แคมเปญโฆษณาปี
2555
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยสร้างสรรค์/ทุกหลักสูตรเน้นความคิดสร้างสรรค์ ออกภาพยนตร์โฆษณา TVC ชุดลักพา
+โฆษณาแบนเนอร์ผ่านเว็บไซต์ดังและโฆษณาสถานีบีทีเอส เน้นตอกย้ำ
การมีความคิดสร้างสรรค์เป็นที่ต้องการ มหาวิทยาลัยรังสิต

ซีเอสอาร์
ยูนิเวอซิตี้/การทำอะไรดีๆให้กับสังคมมันอยู่ในดีเอ็นเอพวกเราทุกคน ออกภาพยนตร์โฆษณาTVC ชุดWhy
Sharing 1 ชุด+พรีเซ็นเตชั่นผ่านเว็บไซต์ม.รังสิต 4 ชุด+ซีรี่ส์ออนไลน์ 4
ชุด+Live Chat โดยทีมรุ่นพี่ถาม-ตอบสดกับ น.ร. มหาวิทยาลัยหอการค้า สถาบันการศึกษาชั้นนำเอเชีย
(มุ่งสร้างผู้ประกอบการอาชีพ-เน้นในปี 2555 ) ทำมินิซีรี่ส์ 4 ชุด+Movie
Catalogue ผ่านเว็บไซต์ target=”_blank”>www.love18themovie.com มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยชั้นนำเพื่อคนรุ่นใหม่/เราจะทำให้
4 ปีของนักศึกษาหมุนไปกับสปีดของโลก ออกภาพยนตร์โฆษณาTVC 4ชุด
(ชุดพ่อตา, เด็ก, มรดก, ร้าน)+เว็บไซต์ href=”http://www.4yearschange.com/” target=”_blank”>www.4yearschange.com

ทำโรดโชว์, ใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียครบครัน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยคุณภาพมาตรฐานนานาชาติ*/
44
ปีแห่งความภูมิใจของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ที่ร่วมสร้างบุคลากรคุณภาพสู่สังคมไทย** ภาพยนตร์โฆษณาทางทีวี ชุด
Discover the pride in you สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
( PIM ) สถาบันการจัดการมืออาชีพ/
ประสบการณ์ จากองค์กรที่มีคุณภาพ หล่อหลอมให้บัณฑิตที่นี่
พร้อมทำงานอย่างมืออาชีพ ออกภาพยนตร์โฆษณาทางทีวี
1ชุดสร้างภาพลักษณ์แบรนด์และประชาสัมพันธ์ นศ.ใหม่ ที่มา :
กองบรรณาธิการ POSITIONING Magazine รวบรวม */** 
ข้อมูลจากเอกสาร

]]>
14768
ม.กรุงเทพฯ ขอท้าพลังสมองคนรุ่นใหม่ ส่งสุดยอด “Creative APP” https://positioningmag.com/55122 Mon, 06 Feb 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55122

Mobile Application ไหนที่ว่าเจ๋ง อาจสยบกับไอเดียของคุณ! คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กำลังตามหาสุดยอดครีเอทีพไอเดียแอพพลิเคชั่น บนมือถือ ที่ไม่เหมือนใคร ถ้ามั่นใจว่าไอเดีย โดน ก็ส่งมาประชันได้เลยกับโครงการ “Creative APP” ชิงทุนการศึกษาและของรางวัลแบบไม่ธรรมดากว่า 5 แสนบาท วันนี้-21 ก.พ.55 เท่านั้น!

ร่วมส่งผลงานได้ที่ www.playpark.com/bu/index.html

]]>
55122
เปิดสูตรลับการตลาดมหา’ลัย พิชิตใจวัยเรียน https://positioningmag.com/11807 Fri, 05 Jun 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=11807

ดุเดือดไม่แพ้ธุรกิจไหน การแข่งขันของมหาวิทยาลัย ต้องงัดกลยุทธ์การตลาดสารพัดรูปแบบช่วงชิงลูกค้า ปั้นหลักสูตรใหม่ๆ หวังให้เป็น Product โดนใจ ตามด้วยโปรโมชั่นทุกรูปแบบ ทุ่มเงินไม่น้อยกว่า 20 ล้าน ผลิตหนังโฆษณา ยิงกันถี่ยิบทุกสื่อ ไม่รวมอีเวนต์ทั้งและนอกสถานที่ เว็บไซต์ แชตรูม สื่อใหม่ ชิงลูกค้านักเรียน 3.5 แสนคนต่อปี นับเป็นอีกกรณีศึกษาน่าสนใจ

เมื่อทุกมหาวิทยาลัย ต้องเจอกับสถานการณ์เดียวกัน “เค้กก้อนเล็กลง” เมื่อเด็กเกิดใหม่น้อยลง จำนวนเด็กนักเรียนที่หยุดนิ่ง 3.5 แสนรายมาหลายปี กลายเป็นแรงผลักดันให้ทุกมหาวิทยาลัยต้องงัดเกมกลยุทธ์มาใช้กันเต็มพิกัด เพื่อช่วงชิงเค้กก้อนเดียวกันที่เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ สวนทางกับเม็ดเงินลงทุน ที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา

โปรดักส์ต่าง…สร้างจุดขาย

นอกจากการตกแต่งอาคารสถานที่ อุปกรณ์เครื่องมือ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่ทุกมหาวิทยาลัยต้องทุ่มทุนสร้างให้เป็นหน้าตาของมหาวิทยาลัยแล้ว

“คณะ” หรือ “หลักสูตร” เป็นอีกจุดขายที่ได้กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่มหาวิทยาลัยต้องสร้าง Product ให้โดนใจลูกค้า

ทุกวันนี้มหาวิยาลัยต้องวาง Positioning สร้างจุดขายใหม่ๆ ด้วยปั้นหลักสูตรใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเป็น “แม่เหล็ก” ดึงดูดลูกค้า ที่เป็นนักเรียน ไม่กี่ปีมานี้มหาวิทยาลัยจึงมี“คณะ” ให้เลือกมากมาย โดยมุ่งตอบโจทย์ด้านอาชีพมากยิ่งขึ้น

มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นรายแรกๆ ที่สร้าง “จุดต่าง” ของการมีคณะแปลกใหม่ ที่ยังไม่มีการสอนในไทย และเน้นความเป็นอินเตอร์ เช่น คณะการบินพลเรือน ทัศนศาสตร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ความพยายามนี้เป็นผลมาจาก “คอนเนกชั่น” ของผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถจัดตั้งหลักสูตรที่หลากหลายรองรับตลาดแรงงานทั้งในไทยและต่างประเทศ

แนวคิดนี้ ไม่ต่างจากมหาวิทยาลัยศรีปทุม แทรกตัวขึ้นมา โดยอาศัย “ICT” มาเสริมทุกหลักสูตร และพยายามตอบโจทย์แรงงาน ด้วยการดึงองค์กรธุรกิจมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตรการเรียน เช่นล่าสุด การตั้งคณะวารสารสนเทศ เพื่อสร้างความต่าง ม.ศรีปทุม เลือก สื่อดิจิตอล เน้นสร้างนักข่าวยุคไซเบอร์ แทนนักข่าวหนังสือพิมพ์ และทีวี มุ่งเน้นนักเขียนข่าวอินเทอร์เน็ต ให้จบไปทำงานด้านนี้ได้ทันที

ขณะที่คู่แข่งอย่างมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หันมาโฟกัสคณะด้านธุรกิจ โดยแต่ละหลักสูตรต้องมีรายวิชาเกี่ยวกับธุรกิจเพิ่มอีก 2 รายวิชา เพื่อให้เรียนรู้ธุรกิจจากศาสตร์ที่นักศึกษาเลือกเรียน หรือมี Business Mind

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ใช้ความโดดเด่นของคณะนิเทศศาสตร์ นำมาขยายผล สร้างเป็นจุดขายใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการเป็น Creative University” เพื่อสร้างความแตกต่างให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

“เราโตมาด้วยคณะนิเทศศาสตร์ แม้ภาพนี้จะมีมานานแล้ว แต่วันนี้จะทำให้ภาพชัดเจนมากขึ้น ไม่ได้มีแค่คณะเดียว แต่สามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์ในทุกคณะ” เพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานบริหาร และ Chief Creative Officer มหาวิทยาลัยกรุงเทพ บอกถึงการปรับภาพให้ชัดมากยิ่งขึ้นโดยผ่านตัวเขา ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในวงการครีเอทีฟมาตลอดทั้งชีวิต

เม็ดเงินทะลักจอ

การสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มเป้าหมาย กระตุ้นให้การตัดสินใจเลือกเข้าเรียน มีปัจจัยซ้ำซ้อนมากขึ้น การอาศัยเครื่องมืออย่าง “หนังโฆษณา” เป็นสื่อแมสสิ่งจำเป็นที่ทุกมหาวิทยาลัยเลือกใช้ เพราะสร้างการรับรู้ได้เร็วกว่า

ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ถือเป็นห้วงเวลาของการชิงดำด้านการตลาดของมหาวิทยาลัย ที่ต้องทุ่มเม็ดเงิน 20-30 ล้านบาท ในการผลิตหนังโฆษณา สร้างการรับรู้แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ปกครอง และนักศึกษา ยิ่งการแข่งขันสูง การทุ่มเม็ดเงินโฆษณาก็ยิ่งจำเป็น อย่างเช่นปีนี้ ที่งบเพิ่มไปถึง 40-45 ล้านบาท

รูปแบบโฆษณา แต่เดิม จะเน้น “กระบวนการผลิตนักศึกษา” ที่ให้เห็นภาพความพร้อมในทุกด้าน ทำง่ายๆ เหมือนสารคดี ให้เห็นองค์ประกอบ หรือ “ความสำเร็จของนักศึกษาหรือศิษย์เก่า” (Success Stories)

ปีนี้ มหาวิทยาลัยรังสิต ฉีกรูปแบบในการทำโฆษณาสถาบันที่ต่างไปจากเดิม นำเรื่อง “CSR” สร้างการรับรู้ใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จในการเอาใจผู้ปกครอง

“เราต้องการสื่อสารให้เด็กเห็นว่า ไม่เพียงแต่ทำการเรียนการสอนเพียงอย่างเดียว แต่การรับผิดชอบต่อสังคมรอบด้าน เป็นสิ่งที่สถาบันไม่ได้ละทิ้ง และหวังจะดึงใจคนรุ่นใหม่ให้มาเรียนที่นี่จากภาพลักษณ์ของสถาบันที่รับผิดชอบต่อสังคมในเวลาเดียวกัน”

สำหรับมหาวิทยาลัยกรุงเทพแล้ว ภาพ “มหาวิทยาลัยแห่งความคิดสร้างสรรค์” สะท้อนผ่าน นักศึกษาและศิษย์เก่า ที่รับชนะเลิศการแข่งขันในเวทีต่างๆ มาทำเป็นหนังโฆษณา ตอกย้ำจุดยืนให้ชัดเจนมากขึ้น

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ห่างหายไปจากจอตู้นานร่วม 2 ปี ปลุกกระแสของแบรนด์อีกครั้งด้วยการนำเสนอเนื้อหาผ่านนักศึกษากับความคิดผ่านการ “ขายน้ำ” ซึ่งนำเอาเรื่องราวจริงที่นักศึกษาจบใหม่ถูกทดสอบจากผู้ประกอบการ แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์องค์ความรู้ที่เรียนมาใช้กับสถานการณ์จริง

New Media ถูกและแรง

นอกเหนือจากโฆษณาผ่านหน้าจอทีวีแล้ว สื่อดิจิตอลเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มหาวิทยาลัยใช้สื่อสารกับเด็กนักเรียนโดยตรง มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นรายแรกที่คิดค้นกลยุทธการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลโดยให้รุ่นพี่แนะนำรุ่นน้อง ผ่าน “แชตออนไลน์” ผ่านเว็บเด็กดี

ส่วนรุ่นพี่ จะถูกคัดเลือกมาจากคณะต่างๆ 25 เรียกว่า “สมาร์ท ทีม” ให้คำแนะนำกับรุ่นน้องแชตออนไลน์พร้อมกันตลอด 60 วัน ผ่านเว็บไซต์เด็กดี

“เสียงตอบรับดีมาก ยิ่งช่วงโค้งสุดท้ายวันที่ 1-15 พฤษภาคม ทีมงานทั้งหมดต้องแชตตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึง 3 ทุ่ม เพราะเป็นช่วงที่มีผลต่อการตัดสินใจมากที่สุด โครงการนี้ทำให้มียอดนักศึกษาที่มาสมัครเพิ่มถึง 20% และปีนี้ก็ยังถือเป็นช่องทางหลักที่มหาวิทยาลัยรังสิตยังสานต่อจากปีที่ผ่านมา”

เช่นเดียวกันกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่เลือกจะเริ่มตั้งทีม BU Idol บุกช่องทางออนไลน์เหมือนกัน โดยอาศัยวิธีการแชตผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีรุ่นพี่ 10 คน ให้คำแนะนำเช่นกัน

ขณะที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม หันมาสื่อสารกับกลุ่มเด็กมัธยมทั่วประเทศกว่า 1 ล้านคน ด้วยการสร้างอีเมลของโรงเรียน เป็นการลดการใช้จ่ายที่ใช้เงินในการลงทุนน้อยเพียงปีละ 2 ล้านบาท แต่ช่วยให้กลุ่มเด็กเห็นแบรนเนอร์ของม.ศรีปทุมในหน้าเว็บเพจแรก

ทั้งลด…ทั้งแถม

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เลือกที่จะมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายด้วยการลดค่าบำรุงการศึกษา 3, 500 บาทต่อคน ให้กับญาติ พี่น้อง หรือคนรู้จักของศิษย์เก่า เพื่อช่วยทำให้การตัดสินใจได้เร็วและง่ายขึ้น โดยหวังว่าแคมเปญนี้จะกระตุ้นยอดนักศึกษาได้ 5%

ส่วนมหาวิทยาลัยกรุงเทพ แจกทุนการศึกษาให้นักเรียนมัธยมจำนวน 50 ทุน โดยคัดเลือกผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช้เกรดเฉลี่ยเหมือนที่อื่น ตอกย้ำจุดยืนของมหาวิทยาลัย เชื่อว่าช่วยกระตุ้นให้เด็กฉายความครีเอทีฟออกมาได้
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เลือกแจก “มินิบุ๊ก” ของเอชพี ไม่รวมอยู่ในค่าเทอม ส่วนนักศึกษาระดับปริญญาโท จะได้ไอโฟน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อนำเนื้อหาการเรียนให้นักศึกษาดูผ่านไอโฟนได้อีกด้วย

“ครูแนะแนว” พลังตลาดที่ต้องไม่พลาด

ด้วยบทบาทและหน้าที่ของครูแนะแนว ครูเหล่านี้จึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกสถานที่เรียนของเด็กนักเรียน ทุกมหาวิทยาลัยจึงให้ความสำคัญกับช่องทางนี้ เลือกใช้วิธีสร้างกิจกรรม Below the line ที่มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์

มหาวิทยาลัยรังสิตยึดหัวหาดนี้ก่อนใคร จัดเทรนนิ่งให้ครูแนะแนวกว่า 40 คน ตบท้ายด้วยการพาทัวร์ในมหาวิทยาลัยและต่างจังหวัด 5 วัน สร้างคอมมูนิตี้เล็กๆ ในกลุ่มวิชาชีพเดียวกัน ส่งผลให้การติดต่อขอความช่วยเหลือได้ง่าย มีเด็กเข้ามาร่วมกิจกรรมจาก 5, 000 คน เพิ่มขึ้นถึง 8,000 คน

ด้านมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เริ่มโครงการเปิดบ้าน ภายใต้ชื่อ “EDU Fest@ DPU” ด้วยการเจาะช่องทางครูแนะแนว และผนึกกำลังด้วยการ Road Show ไปตามโรงเรียนในตัวเมืองกว่า 400 โรงเรียน ทำให้มียอดเด็กเข้าร่วมกิจกรรมราว 6,500 คนในปีแรกที่ใช้อีเวนต์นี้

ส่วนมหาวิทยาลัยศรีปทุม ออกโรดโชว์ 100 โรงเรียนต่อปี เก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายนำทำการตลาดแบบ One to One ส่งข้อมูลผ่าน SMS ให้ข้อมูลแบบเฉพาะแบบตัวต่อตัว

การจัด Event ในมหาวิทยาลัยเป็นการชักชวนกลุ่มเป้าหมายให้มาสัมผัสกับมหาวิทยาลัยโดยตรง (Experience Marketing) มีหลากหลายรูปแบบและจูงใจด้วยการจัดประกวดการแข่ง การฝึกอบรมระยะสั้น (Workshop) เช่น ทำหนังสั้น ทำหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสได้มาเห็นของจริง ทั้งสถานที่ อุปกรณ์การเรียนการสอน สุดท้ายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกสถานที่เรียนนั่นเอง

กลยุทธ์ดารายังได้ผล

การใช้พรีเซ็นเตอร์ยังมีมนต์ขลังไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหน หลายคนเชื่อว่า นี่คือเส้นทางลัดในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้ง่ายและเร็ว ไม่ต่างอะไรกับการเลือกดารามาโฆษณาสินค้า แม้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จะยอมรับว่าไม่มีตัวเลขว่าการใช้กลยุทธ์นี้จะทำให้มีผู้มาสมัครเรียนมากเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับว่าเจาะจงใช้ดารานักร้องเป็นแม่เหล็กในการดึงดูงกลุ่มเป้าหมายได้ผลไม่น้อยจากปีที่ผ่านมา

ทางสถาบันมีข้อเสนอพิเศษให้เหล่าดารา ด้วยการเรียนฟรี ทั้ง อ๊อฟ AF2 ศุภณัฐ ซึ่งเลือกคณะบริหารธุรกิจ, แตงโม ภัทรธิดา เข้าเรียนที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ ทั้งต้องทำเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 ขณะที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยกรุงเทพต้องได้เกรดเฉลี่ย 2.5 ขึ้นไป

ทุกมหาวิทยาลัย ผลัดกันรุกผลัดกันรับ งัดกลยุทธ์การตลาดมาใช้สารพัดรูปแบบ จะโดนใจลูกค้าได้ ต้องใช้ทั้ง 4 P ส่วนใครจะพิชิตใจได้ด้วย P ตัวไหนไม่นานก็รู้ ที่แน่ๆ เกมกลยุทธ์รอบนี้ยังมีอีกหลายตอน

Position มหา’ลัย ที่ต่างกัน

มหาวิทยาลัย รังสิต
Position เน้นความหลากหลายของคณะที่รองรับความต้องการในตลาด และสร้างความต่างด้วยการเรียนสองภาษาในบางหลักสูตร
New Product คณะทัศนศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซ่อมบำรุงอากาศยาน คณะคอมพิวเตอร์เกมมัลติมีเดีย
การเลือกใช้สื่อ
– New Media ตั้งสมาร์ททีม ห้องแชตออนไลน์ กับกลุ่มเป้าหมายตลอด 60 วัน 25 คณะ ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ผ่านเว็บเด็กดี
– TVC แนว CSR การทำประโยชน์เพื่อสังคม จากโครงการต่างของนักศึกษา ทำให้ต่างจากหนังของม.อื่น
งบประมาณ 25 ล้านบาท
จุดอ่อน
– ค่าเทอมแพง
– สถานที่ตั้งไกล ทั้งที่ใกล้กว่า ม.ธรรมศาสตร์(รังสิต)

มหาวิทยาลัย กรุงเทพ
Position เป็น Creative University เชื่อมโยงเกิดความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้การนำของ “เพชร”
New Product คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขามัลติมีเดีย และระบบอินเทอร์เน็ต
การเลือกใช้สื่อ
– New Media สร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์ กับ Live Chat BU Idol ผ่านหน้าเว็บไซต์มหา’ลัย เพิ่งเริ่มทำ 10 คณะ เพื่อให้เข้าใกล้ชิดกลุ่มวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น
– TVC สะท้อนความเป็นCreative University ซึ่งผ่านการประกวดหรือการชนะการแข่งขันต่างๆ ของนักศึกษา เป็นเวลา60 วินาที ครั้งแรกในวงการศึกษา
งบประมาณ
จุดอ่อน
– ติดภาพลักษณ์ ม.คุณหนู
– ค่าเทอมแพง

มหาวิทยาลัย ศรีปทุม
Position เป็นมหาวิทยาลัยสำหรับคนรุ่นใหม่ เน้นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ในการเรียนทุกหลักสูตร
New Product คณะวารสารสนเทศ
การเลือกใช้สื่อ
– New Media ลงทุนสร้างอีเมลให้กับโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศ สร้างการรับรู้ผ่าน Banner Ads บนหน้าแรกของเว็บเพจ
– TVC หนังเก่ามา Re-run ตัดงบการสร้างหนังโฆษณา
งบประมาณ 37 ล้านบาท แบ่งเป็นงบโฆษณา 17 ล้านบาท งบกิจกรรม 20 ล้านบาท
จุดอ่อน
– สถานที่คับแคบ
– บุคลากรเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่มีฐานความรู้วิจัยที่มากพอ

มหาวิทยาลัย ธุรกิจบัณฑิตย์
Position เป็นมหาวิทยาลัยด้านธุรกิจ เน้นการนำ Business Mind ประยุกต์กับการเรียนทุกหลักสูตร
New Product คณะบูรณาการสุขภาพและความงาม
การเลือกใช้สื่อ
– New Media ตั้งทีม DPU Connect สื่อสารผ่าน Webboard ของเว็บเด็กดีและเว็บมหาวิทยาลัย และส่ง SMS ข้อมูลให้กับกลุ่มเด็ก เมื่อมีโปรโมชั่นใหม่
– TVC แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของนักศึกษา ที่สามารถนำความรู้มาประยุกต์ในการทำงานได้ 2 ปี ทำใหม่ 1 ครั้ง
งบประมาณ 22 ล้านบาท แบ่งเป็นงบโฆษณา 12 ล้านบาท งบประชาสัมพันธ์และกิจกรรม 10 ล้านบาท
จุดอ่อน
– ยังมีจุดอ่อนด้านวิชาการ
– ชื่อเสียงทางด้าน วิศวกรรมหรือวิทยาศาสตร์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ
– ศิษย์เก่ายังไม่สามารถสร้างชื่อเสียงหรือเป็นที่ยอมรับในสังคมได้มาก

มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย
Position เป็นสถาบันระดับนานาชาติที่นักศึกษามีคุณสมบัติแข่งขันกับต่างประเทศได้
New Product ผลิตอุปกรณ์ไอทีสำหรับการเรียนการสอน เพื่อจำหน่ายให้สถาบันการศึกษาทั่วโลก
การเลือกใช้สื่อ
– New Media ผ่านแชตรูม เว็บบอร์ด วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
– TVC พรีเซนต์การเรียนด้วยระบบไฮเทค ให้ความรู้สึกเป็นวัยรุ่นผ่านเพลงประกอบของวง Slur
งบประมาณ 27 ล้านบาท
จุดอ่อน – สถานที่คับแคบ ทำให้การขยายอาคารและสร้างบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมให้สวยงาม หรือหรูหราทำได้ยาก ขณะที่นักศึกษารุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบกับสถานที่ที่มีสีสัน

]]>
11807
ม.กรุงเทพ เปิดมิติใหม่การศึกษา จับมือกับ Babson มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของอเมริกา https://positioningmag.com/46724 Wed, 11 Mar 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=46724

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ยกระดับการศึกษาไทย ก้าวสู่เวทีการศึกษาระดับโลก โดยร่วมมือกับ มหาวิทยาลัย Babson สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ในหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในด้านการพัฒนา การเรียนการสอน รวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ในหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการอย่างครบวงจร โดยมี เพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานบริหาร มหาวิทยาลัยกุรงเทพ เป็นประธานใน พิธีลงนาม ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการในด้านการพัฒนาการเรียนการสอน รวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ในหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ระหว่างมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดย ดร.มัทนา สานติวัตร อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ มหาวิทยาลัย Babson สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา โดย Mr.Walter Esquivel Executive Director of William F. Glavin Center for Global Management จัดขึ้นเพื่อขยายความร่วมมืออย่างครบวงจร ในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ให้มีความ ทันสมัย สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมถึงโครงการพัฒนาคณาจารย์ร่วมกัน และการแลกเปลี่ยนนักศึกษาเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ สร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ ตลอดจนกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักสูตรธุรกิจของผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อรองรับภาวะตลาดการค้าในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นนิมิตหมายอันดีของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในการยกระดับการศึกษาของไทย ก้าวเข้าสู่เวทีการศึกษาในระดับโลก

สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2249-5132 ถึง 6 หรือ 0-2350-350 ต่อ 1582 ถึง 1585 หรือ [email protected] และ www.bu.ac.th

]]>
46724
คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพจัดการประกวด “iDream 4: RHYTHM OF MOTIO https://positioningmag.com/43132 Thu, 04 Sep 2008 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=43132

คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพร่วมกับ iStudio ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ apple เปิดโครงการ “iDream 4 : RHYTHM OF MOTION” ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายส่งผลงาน Motion Graphic ประกอบเพลงของศิลปินวง Tattoo Colour ชิงรางวัล iPod Touch คอมพิวเตอร์ iMac และผลิตภัณฑ์อื่นๆจาก iStudio รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท

สนใจติดต่อได้ที่ iStudio สาขาพารากอน และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เว็บไซต์หรือโทร 02 902 0299 ต่อ 2610 โดยมีนายสรรเสริญ มิลินทสูต (ที่ 4 จากซ้าย) คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ เหล่าศิลปินวง Tattoo Colour กลุ่มผู้ให้การสนับสนุน และกลุ่มนักเรียน มาร่วมงานที่ลาน Atrium 2 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆนี้

บุคคลในภาพจากซ้าย
1. นายธนบดี ธีรพงศ์ภักดี ศิลปินวง Tattoo Colour
2. นายรัฐ พิฆาตไพรี ศิลปินวง Tattoo Colour
3. นายเต็มยศ บัณฑิตธรรม อาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หัวหน้าโครงการ “iDream 4”
4. นายสรรเสริญ มิลินทสูต คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
5. นายหรินทร์ สุธรรมจรัส ศิลปินวง Tattoo Colour
6. นายเอกชัย โชติรุ่งโรจน์ ศิลปินวง Tattoo Colour

]]>
43132
ม.กรุงเทพร่วมกับ Coke Zero เฟ้นหาสุดยอดนักโฆษณาหน้าใหม่ MADD AWARDS 2008 https://positioningmag.com/38787 Thu, 17 Jan 2008 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=38787

ภาควิชาการโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมกับ Coke Zero จัดโครงการ “การประกวดแคมเปญโฆษณาระดับประเทศ MADD AWARDS 2008” เพื่อเป็นเวทีในการแสดงผลงานในการค้นหานักโฆษณาหน้าใหม่เข้าสู่วงการวิชาชีพ เชิญชวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและนิสิต- นักศึกษา จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ แสดงออกซึ่งพลังความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มศักยภาพ จุดประกายความสำเร็จในสายวิชาชีพการโฆษณา

อีกทั้งการประกวดผลงานดังกล่าวยังเป็นการการันตีถึงความมีศักยภาพเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ให้ประจักษ์ต่อสาธารณชนในการเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนการสอนด้านการโฆษณาที่สมบูรณ์แบบสามารถผลิตนักโฆษณาที่มีคุณภาพ สร้างผลงานจนเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

การประกวดแคมเปญโฆษณาระดับประเทศ MADD AWARDS 2008 ชิงทุนการศึกษา
4 แสนบาท โดยแบ่งเป็น 2 สาย ได้แก่

– สาย A ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั่วประเทศ
แคมเปญโฆษณาทางสิ่งพิมพ์ เพื่อส่งเสริมสังคม

– สาย B ระดับอุดมศึกษา ทั่วประเทศ
แคมเปญโฆษณาเพื่อการสื่อสารแบรนด์ Coke Zero

โดยจะมีการแถลงรายละเอียดการประกวด (รับบรีฟ) วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2551ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ โรงละคอน ชั้น 16 อาคาร ดร. เจริญ คันธวงศ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท

นักเรียน นิสิต-นักศึกษาที่มีความสนใจ เปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่วันที่ 12-28 มกราคม พ.ศ. 2551 ส่งผลงานด้วยตัวเองได้ที่อาคาร 11 ชั้น 2 นิเทศศาสตร์คอมเพล็กซ์ฯ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต หรือสามารถส่งทางไปรษณีย์โดยจ่าหน้าซองถึง อ. นวฤทธิ์ อัคควรกิจ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต 9/1 ม.5 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 และระบุมุมซองว่า “ผลงานประกวดMADD Awards 2008 สาย A หรือ สายB” หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://buca.bu.ac.th/madd

กำหนดการ
รายละเอียดการประกวด MADD AWARDS 2008
วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2551 เวลา 13.00 – 15.30 น.
ณ โรงละคอน ชั้น 16 อาคาร ดร. เจริญ คันธวงศ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท

13.00 น. ลงทะเบียน

13.30 น. วิดีทัศน์แนะนำโครงการ MADD Awards 2008
พิธีกร อ. นวฤทธิ์ อัคควรกิจ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์
กล่าวต้อนรับและนะนำโครงการ MADD Awards 2008

13.40 น. แถลงรายละเอียด สายมัธยมศึกษาตอนปลาย โดย ผศ.ดร.ธีรพล ภูรัต
อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์
Q&A

14.00 น. แถลงรายละเอียด สายอุดมศึกษา โดย คุณบุญสืบ จันทร์แจ่มศรี
Senior Brand Manager บริษัท โคคาโคล่า (ประเทศไทย) จำกัด
Q&A

14.20 น. วิดีทัศน์เกี่ยวกับกติกา เกณฑ์การตัดสิน และรางวัล

14.30 น. Q&A เกี่ยวกับกติกา เกณฑ์การตัดสิน และรางวัล

]]>
38787
นิทรรศการอักขรศิลป์ "ทรงพระเจริญ" https://positioningmag.com/38319 Fri, 07 Dec 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=38319

ขอเชิญชมนิทรรศการโครงการอักขรศิลป์ “ทรงพระเจริญ” อันเป็นนิทรรศการที่กลุ่มคณะวิชาศิลปกรรมศาสตร์ คณาจารย์ นักออกแบบ ศิลปิน สมาคมนักออกแบบเรขศิลป์แห่งประเทศไทย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และองค์กรเอกชนต่างๆได้ร่วมกันจัดกิจกรรมการออกแบบ และเผยแพร่อักขรศิลป์ (Lettering) คำว่า ” ทรงพระเจริญ” รูปแบบใหม่ขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา

โครงการอักขรศิลป์ “ทรงพระเจริญ” นี้ จะนำมาสู่การเปิดโอกาสให้ปวงชนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังเป็นการนำเสนอรูปแบบตัวอักษรไทยรูปแบบใหม่อันเป็นศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยมีการประชาสัมพันธ์ให้นักออกแบบมาร่วมกันออกแบบอักขรศิลป์คำว่า “ทรงพระเจริญ” รูปแบบใหม่ๆขึ้น และจะมีการรวบรวมผลงานอักขรศิลป์คำว่า ” ทรงพระเจริญ ” จากการออกแบบเผยแพร่ในเว็บไซต์ www.songpracharoen.org และนำจัดแสดงนิทรรศการ และยังมีการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการออกแบบอักขรศิลป์ควบคู่กับนิทรรศการหลักให้ครั้งนี้ด้วย โดยจะเป็นการบรรยายถึงหลักวิธีการสร้างอักขรประดิษฐ์โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและให้ผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายได้ออกแบบอักขรศิลป์คำว่า “ทรงพระเจริญ” พร้อมกัน

นิทรรศการโครงการอักขรศิลป์ “ทรงพระเจริญ” นี้ จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14-17 ธันวาคม 2550 โดยจะมีพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม 2550 เวลา 15.00 น. โดยฯพณฯ พลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรีได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ บริเวณชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ และภายในงานจะมี Workshop การออกแบบตัวอักษร วันที่ 15 และ 16 ธันวาคม 2550 เวลา 13.00-15.00 น.ซึ่งผู้สนใจเข้าร่วมสามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซด์ก่อนวันที่ 12 ธันวาคม 2550

]]>
38319
นิทรรศการแสดงผลงาน “เก้าอี้กับความทรงจำที่จับต้องได้” https://positioningmag.com/34782 Mon, 28 May 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=34782

กลุ่มนักศึกษาภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน 11 คนร่วมกันนำเสนอผลงานการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ชื่อ Tangible Memory หรือความทรงจำที่จับต้องได้

ชารีฟ ลอนา และพชร ชัยยศบูรณะ 1หนุ่ม 1 สาวตัวแทนกลุ่มเล่าว่า พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบเก้าอี้ จากเหตุการณ์และเรื่องราวที่ถือเป็นความทรงจำในแต่ละช่วงของแต่ละคน ที่มีเรื่องราวที่ซ่อนด้วยความประทับใจและความรู้สึกอีกมากมายที่ถูกนำมาเล่าสู่กันฟัง บางคนอาจแค่จินตนาการย้อนกลับไปทบทวนหรือนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งเป็นควาทรงจำ เป็นแค่ช่วงเวลา และเหตุการณ์ที่ประหนึ่งเกิดขึ้นแค่ได้จดจำเท่านั้น

พวกเราทั้ง 11 คนนี้ได้รวมตัวกันนำเอาความทรงจำและความรู้สึกเหล่านั้นมาตีความหมายและแสดงผลงานผ่านรูปแบบเก้าอี้ ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง และด้วยเรื่องราวที่เป็นส่วนเฉพาะของแต่ละบุคคล จึงทำให้รูปแบบของเก้าอี้และวัตถุประสงค์การใช้งานมีความพิเศษและน่าสนใจ เพราะเก้าอี้

ของพวกเรา ได้แสดงออกถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ ดังนั้น การได้นั่งลงไปที่เก้าอี้เหล่านี้ จึงแตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป

เปรียบเสมือนคุณได้นั่งลงรับรู้และสัมผัสกับเรื่องราวเก่าๆ ของพวกเขาที่มันไม่เคยเลือนหายไปกับเวลา และในความคิดเห็นของพวกเขา แน่นอนว่า มันยังคงจับต้องได้อยู่เสมอ

จรินทร ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ พร้อมให้การสนับสนุนพื้นที่การจัดแสดงผลงานของนักศึกษาและศิลปิน เพื่อให้เป็นเวทีในการแสดงงานต่อสาธารณชน นอกจากนี้ด้วยความเป็นสเปเชียลมอลล์ จำหน่ายของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ การจัดแสดงงานในแนวทางเดียวกันถือว่าเป็นการสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจและเพิ่มสีสันให้กับลูกค้าที่เข้ามาช้อปปิ้ง ได้มีโอกาสสัมผัสงานศิลปะซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าชมงานยกระดับจิตใจและรู้สึกผ่อนคลาย

แม้ว่าจะเป็นสาขาที่ตั้งอยู่นอกพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ เรามองว่ากลุ่มผู้บริโภคที่มีที่พักอาศัยอยู่นอกเมืองก็น่าจะได้มีโอกาสได้สัมผัสกับงานศิลปะ นอกจากนี้ยังเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชมงานให้กว้างขึ้น จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมเพื่อให้กำลังใจกับกลุ่มนักศึกษาทางด้านศิลปะ

สนใจแวะชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2550 ที่บริเวณชั้น 1 อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ บางใหญ่ โทร. 02-595-0900 www.indexlivingmall.com

]]>
34782
ดาต้าคร้าฟท์ ได้รับความไว้วางใจจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ให้เป็นผู้ออกแบบและวางระบบเครือข่ายไอทีใหม่ https://positioningmag.com/33879 Thu, 05 Apr 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=33879

กรุงเทพฯ,ประเทศไทย–29 มี.ค.–ซินหัว-พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

บริษัทดาต้าคร้าฟท์ (Datacraft) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการและจัดหาโซลูชั่นไอทีอิสระระดับแนวหน้าในภูมิภาค ได้รับเลือกจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (BU) ให้ออกแบบและวางระบบเครือข่ายใหม่ในวิทยาเขตเพื่อรองรับความต้องการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที ที่เพิ่มมากขึ้น

มหาวิทยาลัยกรุงเทพก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2505 โดยมีหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีวิทยาเขต 2 แห่งคือ วิทยาเขตกล้วยน้ำไทและวิทยาเขตรังสิต ซึ่งอยู่ห่างกัน 42 กิโลเมตร และรองรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีและการศึกษาขั้นสูงกว่าปริญญาตรีประมาณ 30,000 คน รวมทั้งคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ราว 1,200 คน

มหาวิทยาลัยกรุงเทพกำลังเผชิญกับความต้องการโครงสร้างไอทีที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อรองรับชุมชนแห่งนี้ และตระหนักดีว่าเครือข่ายใหม่ที่มีการวางแผนทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างดีและต้านทานต่อภัยคุกคามต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการรบกวนการบริการ และเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยรวม

“นักศึกษาของเราพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นเพื่อช่วยในการศึกษาและวิจัยของพวกเขา ขณะที่คณาจารย์และเจ้าหน้าที่บริหารมีความต้องการด้านไอทีที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็มีความสำคัญไปแพ้กัน” อาจารย์ อัฏฐิภา จุลพิสิฐ ผู้อำนวยการศูนย์คอมพิวเตอร์ประจำมหาวิทยาลัยกรุงเทพกล่าว “เราต้องการเครือข่ายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากขึ้นในวิทยาเขต ซึ่งดาต้าคร้าฟท์ สามารถตอบโจทย์ของเราได้”

การให้บริการระดับมืออาชีพของดาต้าคร้าฟท์ ได้ดึงเอาความท้าทายของการคิดค้นระบบโครงสร้างเครือข่ายใหม่ๆที่ตอบสนองความต้องการของมหาวิทยาลัย ด้วยการออกแบบที่มาพร้อมกับระบบการจัดการที่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการวางระบบ นอกจากนี้ การออกแบบเครือข่ายยังมีการทำงานที่สามารถรองรับความต้องการในปัจจุบันและครอบคลุมถึงการตอบสนองความจำเป็นในอนาคต ทั้งนี้ ที่ปรึกษาของดาต้าคร้าฟท์ได้ออกแบบระบบโดยมุ่งเน้นที่ความน่าเชื่อถือ โดยระบบเครือข่ายรูปแบบใหม่ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพมีความซ้ำซ้อนระดับที่เชื่อมโยงกัน เพื่อขจัดข้อบกพร่องและเป็นการสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย

นายสมชาติ กัณหา ผู้จัดการทั่วไปของดาต้าคร้าฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การสื่อสารที่เป็นเลิศเป็นสิ่งจำเป็น ต่อความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันด้านการเรียนการสอนขั้นตติยภูมิ ซึ่งเราได้ให้บริการการสื่อสารแบบองค์รวมเพื่อรองรับกิจกรรมการเรียนการสอนของหาวิทยาลัยกรุงเทพทั้งสองวิทยาเขตผ่านการทำงานด้วยระบบเครือข่าย IP ระดับโลก นอกจากนี้เรายังได้ออกแบบเครือข่ายให้สามารถยกระดับการปฏิบัติงานได้โดยง่าย เพื่อทำให้วิทยาลัยกรุงเทพสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายจึงเป็นสิ่งจำเป็น”

ด้วยเครือข่ายรูปแบบใหม่นี้ มหาวิทยาลัยกรุงเทพจะสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแก่นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ โดยดาต้าคร้าฟท์ได้ใช้ระบบโทรคมนาคมแบบ VoIP เพื่อสร้างความเชื่อมโยงที่ราบรื่นไร้รอยต่อระหว่างวิทยาเขตกล้วยน้ำไทและวิทยาเขตรังสิต นอกจากนี้ โซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยระบบจัดการมากนัก อีกทั้งยังทำให้การทุ่มงบประมาณด้านการวางระบบในครั้งนี้ได้ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยม

เกี่ยวกับดาต้าคร้าฟท์
ดาต้าคร้าฟท์ บริษัทเจ้าของรางวัล”ผู้รวมระบบที่ยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชีย”ยาวนาน 5 ปีซ้อน จากเทเลคอมเอเชีย เป็นบริษัทที่ให้บริการและโซลูชั่นด้านไอทีชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บริษัทได้ช่วยลูกค้าวางแผน สร้าง และสนับสนุนโครงสร้างไอที ดาต้าคร้าฟท์ ผสมผสานความเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเครือข่าย ความปลอดภัย การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดเก็บ และการติดต่อกับศูนย์กลางเทคโนโลยี ด้วยทักษะการปรึกษา การรวมตัว และบริการจัดการในขั้นสูง เพื่อสร้างไอที โซลูชั่นส์สำหรับธุรกิจ

ดาต้าคร้าฟท์ เป็นสมาชิกของไดเมนชั่น ดาต้า กรุ๊ป และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ รวมทั้งเป็นบริษัทในดัชนีสเตรทไทมส์ซึ่งบริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ ดาต้าคร้าฟท์มีสำนักงานมากกว่า 50 แห่งและมีพนักงานมากกว่า 1,200 รายทั่วตลาดเอเชีย แปซิฟิก 13 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ www.datacraft-asia.com

]]>
33879