มาสเตอร์การ์ด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 17 Jun 2024 02:26:20 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Visa และ Mastercard ยื่นข้อเสนอ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยุติคดีผูกขาด แต่ผู้พิพากษาสหรัฐฯ เตรียมปัดตกดีลดังกล่าว https://positioningmag.com/1478305 Mon, 17 Jun 2024 01:40:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1478305 วีซ่า (Visa) และ มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ได้ยื่นข้อเสนอที่จะยอมความในคดีผูกาขาด ซึ่งมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรที่เหล่าภาคธุรกิจในสหรัฐฯ มองว่าแพงมากเกินไป อย่างไรก็ดีในคดีความดังกล่าวผู้พิพากษาในคดีความนี้เตรียมที่จะปัดตกในข้อตกลงยอมความ

Visa และ Mastercard ได้ยื่นข้อเสนอมากถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1.1 ล้านล้านบาท ในการยุติคดีผูกขาดซึ่งกินระยะเวลาเกือบ 20 ปี หลังจากที่ผู้ประกอบการรายย่อยในสหรัฐอเมริกาได้ฟ้องร้องว่าทั้ง 2 นั้นผูกขาดในธุรกิจ ทำให้เกิดต้นทุนในการจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตสูงเกินไป

ตามบันทึกของศาลในสหรัฐอเมริกา Margo Brodie ผู้พิพากษาในเขตบรูคลิน ได้กล่าวกับทนายความของฝั่ง Visa และ Mastercard ในการพิจารณาคดีว่าเธอ “มีแนวโน้มจะไม่อนุมัติข้อตกลงในข้อเสนอดังกล่าว”

ผู้พิพากษาในเขตบรูคลินรายนี้ยังกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าข้อตกลงที่เหมาะสมจะเป็นอย่างไร แต่ฉันรู้ว่าฉันรู้สึกหนักใจกับข้อตกลงนี้ และไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่ฉันได้ยินในวันนี้แล้วสามารถเปลี่ยนใจได้ว่า ข้อตกลงนี้ควรจะได้รับการอนุมัติ”

สำหรับคดีความดังกล่าวผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในสหรัฐอเมริกาได้ฟ้องร้อง Visa และ Mastercard ในปี 2005 ว่าทั้ง 2 นั้นมีการผูกขาดตลาด ส่งผลทำให้ต้นทุนในการจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตสูงเกินไป และยังมีการขัดขวางไม่ให้ธุรกิจต่างๆ ในการหาวิธีที่ทำให้มีการจ่ายเงินได้ถูกลง

คดีความดังกล่าวนี้ได้มีการยอมความเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา โดย Visa และ Mastercard จะลดค่าธรรมเนียมลงอย่างน้อยปีละ 0.04% เป็นเวลา 3 ปี และสามารถขยายได้ถึง 5 ปี รวมถึงสามารถให้ลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กสามารถให้ทางเลือกในการจ่ายเงินรูปแบบอื่นแก่ลูกค้าได้

ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกามากกว่า 90% ของผู้ค้าที่ตกลงที่จะยุติคดีความดังกล่าวกับ Visa และ Mastercard

สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ (NRF) มองว่าการยุติคดีดังกล่าวนั้นไม่ได้มอบผลประโยชน์ให้เหล่าธุรกิจมากพอ รวมถึงข้อเสนอจาก Visa และ Mastercard ถือว่ามีระยะเวลาสั้นไป รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมลงนั้นถือว่าน้อยมาก และข้อตกลงดังกล่าวยังทำให้ 2 บริษัทควบคุมค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรต่อไปได้

ปัจจุบันค่าธรรมเนียมรูดบัตรของ Visa และ Mastercard อยู่ในช่วง 1.5% ถึง 3.5%

ภาคธุรกิจในสหรัฐอเมริกาได้มีความพยายามอย่างหนักในการที่จะลดค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรลงมา อย่างไรก็ดีนอกจาก Visa และ Mastercard ที่ได้รับค่าธรรมเนียมแล้ว ทางธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น JPMorgan Chase Bank of America และ Citibank รวมถึงธนาคารรายอื่นก็ได้รับค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วย

ในกรณีการยอมความดังกล่าวผู้พิพากษา Margo ยังเตรียมวางแผนที่จะเขียนความคิดเห็นเพื่ออธิบายการตัดสินใจพร้อมทั้งยกเหตุผลว่าทำไมเธอถึงปัดตกในเรื่องการยุติคดี

ที่มา – Reuters, Bloomberg

]]>
1478305
“เซ็นทรัลเวิลด์” จัดโปรแรงส่งท้ายปี Happy Everyday Tap & Go with Mastercard เปย์ความสุข สนุกทุกไลฟ์สไตล์ https://positioningmag.com/1409796 Sat, 26 Nov 2022 10:00:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1409796

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 เรียกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันอย่างเต็มที่ แบรนด์ต่างๆ ได้จัดแคมเปญเพื่อส่งความสุขแก่ผู้บริโภคกันอย่างจัดเต็ม เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อีกทั้งยังได้ฟินกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองอีกด้วย

และในปีนี้ “เซ็นทรัลพัฒนา” ไม่พลาดที่เปิดแคมเปญมอบความสุขส่งท้ายปี ได้ร่วมมือกับ “มาสเตอร์การ์ด” เปิดแคมเปญ Happy Everyday Tap & Go with Mastercard จัดโปรโมชั่นแรงสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้คนไทยทั้งประเทศได้เปย์ความสุข สนุกครบทุกไลฟ์สไตล์ทั้งกิน เที่ยว ช้อป ได้ทุกวันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. – 30 พ.ย. 65

งานนี้เป็นการมอบประสบการณ์พิเศษสำหรับลูกค้าบัตร Mastercard ที่เป็นสมาชิก The1 เพียงแค่ช้อปปิ้งด้วย Mastercard ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มีสิทธิพิเศษมากมายจากกว่า 200 ร้านดังทั่วศูนย์การค้าที่เข้าร่วมในแคมเปญ แถมยังปลอดภัยในทุกการช้อปอีกระดับกับบริการ Tap & Go

สิทธิพิเศษสำหรับสายกิน สายหวาน เพียงแตะจ่ายผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ด ครบ 800 บาทขึ้นไปรับฟรีเครื่องดื่ม 1 แก้ว จาก Xing Fu Tung มูลค่าแก้วละ 140 บาท

ส่วนสายแฟชั่น เพียงชำระผ่านเครื่องรูดบัตรมาสเตอร์การ์ด ครบ 6,000 บาทขึ้นไป เลือกรับฟรี Cash Voucher จาก Pandora หรือ Cath Kidston มูลค่า 1,000 บาท

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“การร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังกันระหว่างพันธมิตรชั้นนำระดับโลกอย่างมาสเตอร์การ์ด และเซ็นทรัลเวิลด์ ในฐานะการเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนระดับโลก และ The Biggest food destination ที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดังทุกรูปแบบไว้มากที่สุด เพื่อมอบประสบการณ์ความสุขและสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตรมาสเตอร์การ์ดที่เป็นสมาชิก The1 ด้วยการรวมร้านค้าชั้นนำมากมายกว่า 200 ร้านค้า ทุก Category ให้ลูกค้าได้กิน-เที่ยว-ช้อป ครบจบในที่เดียว

โดยเซ็นทรัลเวิลด์ คือเดสติเนชั่นที่รวมคาเฟ่ของหวานไว้เยอะที่สุด โดยเฉพาะชานมไข่มุกทุกรูปแบบทั้งฟิวส์ชั่น, ร้านในกระแส และร้านต้นตำหรับอย่างร้าน Xing Fu Tung หรือจะเป็นแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง อย่าง Pandora และ Cath Kidston ที่ได้ร่วมแคมเปญพิเศษกับเรา ซึ่งแคมเปญนี้จะช่วยกระตุ้น Consumer spending ได้เป็นอย่างดีเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันที่ต้องการความคุ้มค่า สะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย โดยเราพร้อมมอบข้อเสนอพิเศษมากมายสำหรับสมาชิก The 1 และบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด”

ทางด้าน ไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า

“ประเทศไทยได้รับการขนานนามในฐานะหนึ่งในเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักชิมทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และเซ็นทรัลเวิลด์เองก็เป็นหนึ่งในแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ด้วยความหลากหลายทั้งอาหารไทยและนานาชาติ นอกจากนี้ยังโดดเด่นในเรื่องของการเป็น Fashion destination ที่มีแบรนด์แฟชั่นดังระดับโลกมากมายหลอมรวมอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างลงตัว  มาสเตอร์การ์ดรู้สึกภาคภูมิที่ได้จับมือกับเซ็นทรัลพัฒนา สรรค์สร้างข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายแก่ผู้บริโภค อีกทั้งส่งมอบประสบการณ์การใช้จ่ายแบบไร้รอยต่อที่พร้อมด้วยความปลอดภัย

มาสเตอร์การ์ดเชื่อมั่นว่ากิจกรรมส่งเสริมการตลาด “Happy Everyday Tap & Go® with Mastercard” ที่พัฒนาขึ้นบนวิสัยทัศน์ของทั้งสององค์กรในครั้งนี้ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ ได้ทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์ และส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”

สำหรับเงื่อนไขในแคมเปญนี้ เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าบัตรมาสเตอร์การ์ด ที่เป็นสมาชิก The 1 เท่านั้น (1 สิทธิ์/ท่าน/วัน หรือจนกว่าสินค้าจะหมด) สามารถรวมใบเสร็จได้ไม่เกิน 3 ใบ และสงวนสิทธิ์ในการเลือกคูปอง โดยที่ 1 ใบเสร็จสามารถเลือกรับสิทธิ์อย่างใดอย่างนึงเท่านั้น และจำนวนจำกัดรวม 2,000 สิทธิ์ตลอดแคมเปญ

]]>
1409796
วีซ่า-มาสเตอร์การ์ด ทิ้งบอมลูกใหญ่! ประกาศระงับการทำธุรกรรมในรัสเซีย https://positioningmag.com/1376485 Sun, 06 Mar 2022 05:33:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1376485 วีซ่า (Visa) และ มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) 2 ผู้ให้บริการบัตรชำระเงินยักษ์ใหญ่ ได้ประกาศว่ากำลังระงับการดำเนินงานในรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการทิ้งบอมระบบการเงินของประเทศรัสเซียครั้งล่าสุด หลังจากที่มีการบุกโจมตียูเครน

โดยมาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า บัตรที่ออกโดยธนาคารในรัสเซียจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายอีกต่อไป และบัตรมาสเตอร์การ์ดที่ออกนอกประเทศจะสามารถใช้งานที่ร้านค้าหรือตู้เอทีเอ็มของรัสเซีย

“เราไม่ได้ใช้การตัดสินใจนี้อย่างไม่ใส่ใจ แต่การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการหารือกับลูกค้า พันธมิตร และรัฐบาล” มาสเตอร์การ์ดกล่าว

ด้าน วีซ่า กล่าวว่า กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าและคู่ค้าในรัสเซียเพื่อยุติการทำธุรกรรมของวีซ่าทั้งหมดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดย อัล เคลลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวีซ่า ระบุในถ้อยแถลงว่า “เราถูกบังคับให้ดำเนินการหลังจากการรัสเซียบุกโจมตียูเครนอย่างไม่มีเหตุ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ยอมรับไม่ได้”

เมื่อต้นสัปดาห์วีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ได้ประกาศการเคลื่อนไหวที่จำกัดมากขึ้นเพื่อบล็อกสถาบันการเงินจากเครือข่ายที่ทำหน้าที่เป็นหลอดเลือดแดงสำหรับระบบการชำระเงิน ทำให้ชาวรัสเซียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการคว่ำบาตรรวมถึงบทลงโทษทางการเงินที่บังคับใช้โดยรัฐบาลสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของ มาสเตอร์การ์ดและวีซ่า ก็ส่งผลต่อกำไรทั้ง 2 บริษัท เพราะรายได้จากรัสเซียคิดเป็น 4% ของรายรับสุทธิทั้งหมดของวีซ่าในปีงบประมาณที่แล้ว ซึ่งรวมถึงเงินที่ได้จากกิจกรรมในประเทศและข้ามพรมแดน ส่วนประเทศยูเครนมีสัดส่วนประมาณ 1% ส่วนมาสเตอร์การ์ดเปิดเผยว่ารายได้จากรัสเซียคิดเป็น 4% ของรายรับสุทธิ อีกประมาณ 2% มาจากยูเครน

ทั้งนี้ นับตั้งแต่การรุกรานของยูเครน ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียก็ลดลงมากกว่า 1 ใน 3 สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นั่นเป็นการผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้กับครัวเรือนในรัสเซีย ทำให้ชาวรัสเซียแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร และไม่ใช่แค่สถาบันการเงิน แต่บริษัทอื่น ๆ ทั่วโลกได้เคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มแรงกดดันทางการเงินต่อรัสเซียและผู้คนในรัสเซีย เนื่องจากการจู่โจมยูเครน บางคนขายหุ้นของตนในบริษัทรัสเซีย เช่น BP ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน เป็นต้น

Source

]]>
1376485
‘มาสเตอร์การ์ด’ เปิดตัวเครื่องวัด ‘คาร์บอน’ โดยคำนวณจากรายการสินค้า https://positioningmag.com/1327772 Tue, 13 Apr 2021 08:04:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1327772 สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างและสุขภาพคงจะถูกใจหากอาหารที่ทานมีการบอกจำนวนแคลอรี แต่สำหรับผู้ที่อยากมีส่วนร่วมในการ ‘ลดโลกร้อน’ ก็อาจจะอยากรู้เหมือนกันว่าตนเองมีส่วนช่วยในการลด ‘คาร์บอน’ ได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ‘มาสเตอร์การ์ด’ (Mastercard) ต้องการให้ลูกค้าเข้าใจว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายของพวกเขามีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและภาวะโลกร้อนมากเพียงใด จึงเกิดเป็นเครื่องที่ใช้วัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการซื้อของ

บริษัทบัตรเครดิต ‘มาสเตอร์การ์ด’ ได้สร้างเครื่องคำนวณที่ใช้วัดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้บริโภคโดยพิจารณาจากสิ่งที่พวกเขาซื้อ โดยเครื่องมือนี้จะพร้อมใช้งานบนเว็บไซต์และแอปของ Mastercard โดยเน้นไปที่หมวดการใช้จ่ายที่เฉพาะเจาะจง แต่ไม่ได้ติดตามธุรกรรมแต่ละรายการ

เครื่องมือดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการที่เรียกว่า Doconomy Åland Index ซึ่งรวบรวมข้อมูลจาก Trucost ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Environmental, Social, Governance: ESG) ที่ประเมินค่าใช้จ่ายแอบแฝงของธุรกิจในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่ยั่งยืน

ดัชนีดังกล่าวจะคำนวณผลกระทบของธุรกรรมโดยใช้ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์เฉลี่ยสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น ‘อาหารและเครื่องดื่ม’ หรือ ‘เครื่องแต่งกาย’ โดยเครื่องดังกล่าวยังแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนต้นไม้ที่ต้องใช้ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณเดียวกันที่ปล่อยออกมาจากการซื้อของผู้บริโภคอีกด้วย

“แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีมากเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโดยรวมของคุณในเดือนนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อบาลานซ์กึ่งกลางระหว่างความเป็นส่วนตัวและการให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค” Jorn Lambert ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลของ Mastercard กล่าว

การสร้างเครื่องคำนวณคาร์บอนเป็นความพยายามล่าสุดของบริษัทในการมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน โดยก่อนหน้านี้มาสเตอร์การ์ดเริ่มดำเนินการเพื่อลดการใช้พลาสติกครั้งแรกในการผลิตบัตรเครดิต และในเดือนมกราคมบริษัทให้คำมั่นว่าจะปล่อยก๊าซให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยเข้าร่วมในรายชื่อบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีพันธสัญญาในลักษณะเดียวกัน

Source

]]>
1327772
กรุงเทพฯ เบียดปารีส-ลอนดอน ขึ้นแท่น “เมืองยอดนิยม” ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แชมป์ 4 ปีซ้อน https://positioningmag.com/1245338 Thu, 05 Sep 2019 06:58:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1245338 นับเป็นข่าวน่ายินดีสำหรับประเทศไทย เมื่อผลสำรวจของ “มาสเตอร์การ์ด อิงค์” ประกาศว่า “กรุงเทพฯ” ยังสามารถเบียดเมืองท่องเที่ยวระดับโลก “ปารีสและลอนดอน” นั่งแท่นเมืองยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกสมัย หลังจากก่อนหน้านี้เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับยอดชาวต่างชาติขาเข้าที่ลดลง

ในการจัดอันดับประจำปีโดยมาสเตอร์การ์ด อิงค์ พบว่ากรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 22.78 ล้านคน และคาดว่าในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นอีก 3.3% ขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอังกฤษ

ปารีสและลอนดอน รั้งอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ โดยมีนักท่องเที่ยวขาเข้าเมืองละราวๆ 19.1 ล้านคน ตามมาด้วยดูไบ ซึ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 15.9 ล้านคน

ส่วนเมืองอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่น สิงคโปร์และกัวลาลัมเปอร์ รั้งอันดับ 5 และ 6 ตามลำดับ ขณะที่นิวยอร์ก อิสตันบูล โตเกียวและเมืองอัลตัลยาของตุรกี ก็ต่างติดเข้ามาในท็อปเท็นของโลกเช่นกัน ในการจัดอันดับ 200 เมืองน่าเที่ยวของโลกวัดตามจำนวนนักท่องเที่ยวและข้อมูลการใช้จ่ายเงิน

ในผลสำรวจยังพบด้วยว่านักท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วทั้ง 200 เมืองนั้นเพิ่มขึ้นถึง 76% ในช่วง 10 ปีหลังสุด

แม้ กรุงเทพฯ ยังคงครองบัลลังก์แชมป์เอาไว้ได้อีกสมัย แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกำลังเผชิญกับสภาวการณ์ที่สวนทางกัน ด้วยนักเดินทางขาเข้าในเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.03% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ก่อนที่ในเดือนมิถุนายน จะฟื้นคืนสู่การเติบโต 0.89% เมื่อเทียบกับหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่การท่องเที่ยวคิดเป็น 12% ของเศรษฐกิจไทย

ด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนค่อนข้างอ่อนแอและอุบัติเหตุเรือล่มเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยลดลงพอสมควรในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

อย่างไรก็ตามตัวเลขที่ลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ถูกชดเชยบางส่วนจากการเดินทางเข้าไทยมากขึ้นของนักท่องเที่ยวอินเดีย

ไทยคาดหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียมาเยือนในปี 2019 ราวๆ 2 ล้านคน มากกว่าที่วางเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้ ในขณะที่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลขยายเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอตรวจลงตราเพื่อเข้าประเทศละ 2,000 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวขาเข้าจาก 18 ประเทศ ในนั้นรวมถึงจีนและอินเดีย.

Source

]]>
1245338
เตรียมรับทรัพย์ ! มาสเตอร์การ์ดเผย กว่าครึ่งคู่รักไทยนิยมฉลองร้านอาหาร https://positioningmag.com/1116045 Fri, 10 Feb 2017 07:03:49 +0000 http://positioningmag.com/?p=1116045 มาสเตอร์การ์ดเผยผลสำรวจการให้ความสำคัญในการใช้จ่ายของผู้บริโภคปี 2559 ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยผลสำรวจในประเทศไทยอิงกับการสำรวจการให้ความสำคัญในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในครึ่งหลังของปี 2559 โดยการสำรวจดังกล่าวได้สอบถามถึงแผนการใช้จ่ายระหว่างช่วงวันวาเลนไทน์ กับผู้ตอบแบบสอบถาม 8,779 คน ที่มีช่วงอายุระหว่าง 18-64 ปี จาก 17 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า กว่า 69% ของคู่รักในประเทศไทยวางแผนที่จะฉลองวันวาเลนไทน์ที่ร้านอาหาร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และคู่รักชาวไทยยังเป็นคู่รักที่โรแมนติกมากที่สุดเป็นอันดับที่สองรองจากคู่รักในประเทศจีน (75%) เนื่องจาก 74% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยยอมรับว่าตนวางแผนซื้อของขวัญให้กับคู่รัก

ตั้งงบ 4 พัน-นิยมให้ดอกไม้อันดับ 1

งบประมาณเฉลี่ยที่คนไทยวางแผนใช้จ่ายในช่วงวันวาเลนไทน์อยู่ที่ 4,155 บาท โดย 35% ตั้งใจจะซื้อดอกไม้ให้เป็นของขวัญ ตามด้วยเครื่องประดับ 26% และเครื่องหนัง 18%

นอกจากนี้ ผู้จับจ่ายใช้สอยชาวไทยกว่า 49% ยังมองว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับการขอแต่งงาน หรือการตกลงแต่งงานอีกด้วย

การสำรวจจากมาสเตอร์การ์ดยังให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความชอบที่แตกต่างกันในวันวาเลนไทน์ของคู่รักในชาติต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก อาทิ

  • คู่รักในประเทศอินโดนีเซียกว่า 85% ไม่นิยมซื้อของขวัญให้แก่กันและมักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
  • 80% ของคู่รักชาวเมียนมาซึ่งวางแผนที่จะอยู่ที่บ้านในวันสำคัญแห่งความรักนี้
  • คู่รักชาวญี่ปุ่น 56% และเกาหลีใต้ 40% ยังคงมองว่าการให้ช็อกโกแลตและขนมเป็นของขวัญที่ยอดนิยม ส่วนชาวเมียนมานิยมมอบเครื่องแต่งกายและเครื่องหนังแก่คู่รักของตนในวันแห่งความรัก

อินเด็กซ์แนะทำตลาดกับเจนวาย 

ส่วนบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า วันวาเลนไทน์เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่มีความคึกคักในกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเจนวาย เทรนด์สร้างสรรค์การตลาดสำหรับแบรนด์ใน “วันวาเลนไทน์” เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่นักการตลาด และกลุ่มผู้ประกอบการต่างให้ความสำคัญ

เทศกาลนี้กลุ่มเจนวาย เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่สำคัญ ที่มีกำลังซื้อ และมีแนวโน้มการเติบโตของการใช้จ่ายเพื่อเทศกาลพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยแบรนด์ต้องมีกลยุทธ์สร้างความแตกต่างให้กับการจัดกิจกรรมพิเศษ โดยสร้างกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ และใส่ใจในเรื่องของรายละเอียด ทั้งในรูปแบบของการจัดโปรโมชั่น อีเวนต์ และพื้นที่ต่างๆ เพื่อกระตุ้นเม็ดเงินการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค และสะท้อนภาพลักษณ์จุดยืนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน

เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ กลุ่มผู้ประกอบการส่วนมากมักจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแก่ลูกค้าคู่รักทั้งหลาย เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้จำกัดเฉพาะในมุมของคนรักอีกต่อไป แต่รวมถึงความรักของครอบครัว ญาติ และเพื่อนๆ อีกด้วย

หากทำการวิเคราะห์ถึงกลุ่มเป้าหมายของวันวาเลนไทน์จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้ใหญ่

พบว่ากลุ่มวัยรุ่นมีการแสดงออกในวันวาเลนไทน์มากกว่า เห็นได้จากตามโรงเรียนที่มีการมอบดอกไม้ ของขวัญ หรือการติดสติกเกอร์ตามชุดนักเรียนกันอย่างครึกครื้น นับเป็นช่องว่างและโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ และนักการตลาดจะหากิมมิกและลูกเล่นใหม่ๆ แทนวัฒนธรรมแบบเดิมที่เป็นอยู่ อาทิ ผู้ประกอบการประเภทรถเช่า ทำการประชาสัมพันธ์ โดยออกโปรโมชั่นพิเศษ เช่น บริการให้เช่ารถหรู ประเภทลีมูซีน เพื่อไปรับส่งคู่รักในวันพิเศษ  ธุรกิจร้านเบเกอรี่ ออกเค้กพิเศษ แบบลิมิเต็ด อิดิชั่น เพิ่มความพิเศษให้แก่ผู้รับ

หรือแม้กระทั่งการทำการตลาดตามพื้นที่ โดยพิจารณาจากจุดเด่นของพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ นำมาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ อาทิ จังหวัดตรัง จัดงานจดทะเบียนสมรสใต้น้ำ หรือภาคเหนือ อาจจะมีลูกเล่นชวนคู่รักนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปช่วงอากาศหนาว ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์ผลิบานพร้อมกัน เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่สร้างความโรแมนติกได้

ทั้งนี้การทำการตลาดของผู้ประกอบการ ช่วงวันวาเลนไทน์อาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การเพิ่มยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องคำนึงการสร้างความแตกต่าง การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และลูกเล่นอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเม็ดเงินการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่จดจำในวงกว้าง สะท้อนภาพลักษณ์จุดยืนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน และช่วยกระตุ้นยอดขายในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านเทศกาลอื่นๆ อาทิ ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ และวันพิเศษต่างๆ ผู้ประกอบการ และนักการตลาดควรให้ความสำคัญไม่ต่างกัน เพราะถือเป็นเทศกาลแห่งการจับจ่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในช่วงที่เศรษฐกิจไม่คึกคัก นักการตลาดก็ควรสรรหาช่องทางกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภค

]]>
1116045
มาสเตอร์การ์ดเผยขายออนไลน์ให้คนไทยต้องมี “ส่วนลด” https://positioningmag.com/1102015 Thu, 08 Sep 2016 01:45:36 +0000 http://positioningmag.com/?p=1102015 มาสเตอร์การ์ด ได้เปิดเผยถึง ผลสำรวจเกี่ยวกับการช้อปปิ้งออนไลน์ ในปี 2558 พบว่า 75.8% ของนักช้อปออนไลน์ชาวไทยมักใช้จ่ายออนไลน์แบบตามใจฉันและไม่ได้วางแผนมาก่อน เนื่องจากราคาที่ถูกกว่าหรือส่วนลดจากร้านค้าออนไลน์มากเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งรองจากประเทศฟิลิปปินส์ที่ 76.4%

โดยส่วนลดและราคาที่ถูกกว่าถือเป็นปัจจัยที่ดึงดูดให้คนหันมาช้อปออนไลน์มากที่สุดในภูมิภาคนี้ ตามด้วยการโฆษณาและโปรโมชั่น (56.2%) และสินค้าพิเศษที่มีขายเฉพาะบนเว็บไซต์เท่านั้น (48.7%)

ถึงแม้การใช้จ่ายแบบที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนจะเป็นวิธีการใช้จ่ายที่เราไม่ควรทำเป็นนิสัย แต่ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อนักธุรกิจและผู้ประกอบการรายย่อย

นอกจากนี้ ผลสำรวจดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า สำหรับคนไทยแล้ว เสื้อผ้าและเครื่องประดับ (44.7%) นับเป็นประเภทสินค้าที่สามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อแบบตามใจตัวเองได้มากที่สุด ตามด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ (34.6%) และสินค้าประเภทของเล่นและของขวัญ (31.9%)

info_master_new2

]]>
1102015
มาสเตอร์การ์ดเผยคนไทยมีความรู้ทางการเงินอยู่ในระดับกลางในเอเชีย แซงหน้าเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น https://positioningmag.com/1094917 Fri, 17 Jun 2016 11:53:25 +0000 http://positioningmag.com/?p=1094917 มาสเตอร์การ์ดได้ทำการสำรวจจากดัชนีวัดทักษะความรู้ทางการเงินล่าสุด เผยว่าประเทศไทยมีระดับความรู้ทางการเงินสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในเอเชียทั้งหมด 17 ประเทศ มีคะแนนอยู่ในระดับเดียวกันกับประเทศมาเลเซีย จีน และศรีลังกา และยังอันดับสูงกว่า 9 ประเทศ ซึ่งในนี้รวมถึงประเทศพัฒนาแล้วอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านความสามารถในการจัดทำงบประมาณ การออมเพื่อยามฉุกเฉิน และการรู้จักเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม

พัฒนาการในด้านความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทางการเงินของประเทศในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่นั้นถือว่าอยู่ในภาวะชะงักงัน โดยทั้งภูมิภาคมีคะแนนความรู้ทางการเงินตกลงหนึ่งจุดมาอยู่ที่ 64 คะแนน ซึ่งต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ได้เริ่มมีการทำสำรวจมาใน พ.ศ. 2553

ในภาพรวม เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีคะแนนไม่แตกต่างไปจากเดิม ในขณะที่คะแนนของกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่นั้นลดลงมากที่สุด โดยประเทศที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ได้แก่ เวียดนาม (58 คะแนน ลดลง 7 จุด) พม่า (60 คะแนน ลดลง 6 จุด) ฟิลิปปินส์ (62 คะแนน ลดลง 4 จุด) มาเลเซีย (67 คะแนน ลดลง 2 จุด) และอินเดีย (60 คะแนน ลดลง 2 จุด)

จอร์เจตต์ แทน หัวหน้ากลุ่มงานการสื่อสารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของมาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า การที่เราได้คะแนนความรู้ทางการเงินทั่วทั้งภูมิภาคที่ลดลงเป็นสถิติต่ำที่สุดกว่าที่เคยเป็นมาเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง และควรมีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ในส่วนของตลาดเกิดใหม่นั้น แม้ว่าช่องว่างเรื่องความแตกต่างทางเพศจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว แต่ข้อมูลจากดัชนีความรู้ทางการเงินในปีนี้กลับเผยให้เห็นว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้มีปัญหาเรื่องความรู้ทางการเงินมากที่สุด

พูดกว้างๆ ก็คือ เราต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับคนหนุ่มสาว และคนว่างงานทั้งหมดในทุกประเทศ เพื่อที่จะเพิ่มความรู้ทางการเงินโดยรวมของทั้งภูมิภาคให้สูงขึ้น ตลาดทางการเงินที่มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนสูงขึ้น ทำให้การพัฒนาความรู้ทางการเงินในหมู่ผู้บริโภคเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะในยามที่ต้องมีการตัดสินใจลงทุนในเรื่องต่างๆ อย่างสมเหตุสมผล ที่เห็นได้ชัดจากผลสำรวจในปีนี้คือ ความตั้งใจส่วนบุคคลนั้นไม่เพียงพอที่จะรับมือกับปัญหานี้ได้ ทางออกของปัญหานี้จึงอยู่ที่ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งการปฏิรูปทางภาครัฐ แนวคิดริเริ่มของชุมชน ภาคการศึกษา และผู้ให้บริการทางการเงินทั้งหลาย ร่วมกับความพยายามของแต่ละบุคคลเข้าด้วยกัน”

8_master

วิธีการวิจัย

ดัชนีวัดทักษะความรู้ทางการเงินของมาสเตอร์การ์ดในปีนี้เป็นการสำรวจครั้งที่ห้า โดยได้รับการจัดทำต่อเนื่องมาทุกปี ครั้งนี้เป็นการเก็บข้อมูลในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2558 จากผู้ถูกสำรวจจำนวน 8,718 คนที่มีอายุระหว่าง 18-64 ปี ใน 17 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินเดีย บังคลาเทศ พม่า และศรีลังกา)

2_master

1new

2new

3new

]]> 1094917