มิสยูนิเวิร์ส – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 09 May 2025 08:08:21 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ จากไกด์ทัวร์ สู่ ‘บอส’ ผู้ทรงอิทธิพลบนเวทีนางงาม https://positioningmag.com/1521059 Fri, 09 May 2025 05:24:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1521059 ตอนนี้ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ หรือที่หลายคนรู้จักเขาในนามของ ‘บอส’ ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของวงการนางงาม เพราะนอกจากจะเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของเวที ‘มิสแกรนด์’ ที่ทลายกรอบการประกวดนางงามแบบ เดิม ๆ ยังถือสิทธิ์เวทีการประกวด ‘มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์’ (MUT) ระยะเวลารวม 25 ปี

 

รวมถึงเตรียมขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ‘บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)’ หรือ JKN เจ้าของลิขสิทธิ์ Miss Universe (มิสยูนิเวิร์ส) ด้วยการซื้อหุ้น JKN จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่า 150 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับเป็นการเข้าผูกพันสถานะเจ้าของ Miss Universe ไปโดยปริยาย และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง Executive Director or MUO บอร์ดบริหารองค์กรมิสยูนิเวิร์สอีกด้วย

 

ก่อนจะมาถึงจุดนี้ เส้นทางของณวัฒน์เป็นอย่างไร?

 

ณวัฒน์ เกิดและเติบโตที่ อ. ดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และเมื่อเรียนจบได้สมัครงานเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาเป็นไกด์นำเที่ยว และเปิดบริษัทนำเที่ยวของตัวเอง ในชื่อ ‘บริษัท โบอิ้ง ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล จำกัด’

 

จากการทำธุรกิจทัวร์ ทำให้เขามีโอกาสก้าวเข้าสู่วงการโทรทัศน์ ด้วยการเปิด ‘บริษัท ฮอลิเดย์ เทเลวิชั่น จำกัด’ ผลิตรายการมากมาย อาทิ ก่อนถึงจันทร์, เปิดเมืองแปลก, คุยแหกโค้ง ฯลฯ และได้ทำหน้าที่พิธีกรหลายรายการ เช่น รายการเมืองแปลกในต่างแดน, รายการทูไนท์โชว์ และรายการครัวคุณต๋อย ฯลฯ

 

ขณะที่จุดเริ่มต้นบนเส้นทางนางงาม เริ่มเมื่อณวัฒน์เข้ามาอยู่ช่อง 3 และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการกองประกวด ‘มิสไทยแลนด์เวิลด์’ ตั้งแต่ปี 2550-2555 ซึ่งเมื่อหมดสัญญาเขาขอซื้อลิขสิทธิ์มาบริหารเอง แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงตัดสินใจสร้างเวทีประกวดของด้วยตัวเอง นั่นก็คือ ‘มิสแกรนด์’ และตั้ง ‘บริษัท มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล จำกัด’ ขึ้นมาเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจจัดประกวดนางงามทั้งระดับในประเทศและระดับต่างประเทศ

 

เวทีแห่งนี้ ถือเป็นเวทีที่กล้าฉีกกรอบ ‘นางงาม’ แบบเดิมๆ โดยให้นางงามนำเสนอความสามารถ ความกล้าแสดงออก เป็นตัวของตัวเองแบบตรงไปตรงมา พร้อมสร้างเอกลักษณ์จนกลายเป็นไวรัลกับผ่านการแนะนำตัวเองและชื่อจังหวัดด้วยเสียงดัง ลากยาว แถมเปิดโอกาสให้เหล่านางงามแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นร้อนแรงทางสังคมและการเมืองได้บนเวทีถ่ายทอดสด

 

ไม่เพียงเท่านั้น ณวัฒน์ยังมีแนวคิดในการสร้าง ‘มูลค่า’ และ ‘เม็ดเงิน’ ให้มิสแกรนด์ไม่ใช่แค่ ‘เวทีนางงาม’ เท่านั้น ซึ่งเป้าหมายคือ การต่อยอดให้เวทีดังกล่าวสามารถหารายได้จากธุรกิจมากกว่าการประกวดและสปอนเซอร์ จึงดีไซน์ให้ภายใต้บริษัทมิสแกรนด์ฯ ทำธุรกิจหลากหลายแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

 

1.ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ (Pageant), 2.ธุรกิจพาณิชย์ (Commerce) อาทิ เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, อาหารแปรรูป เป็นต้น 3.ธุรกิจสื่อและบันเทิง (Media and X-Periences) และ 4.ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน (Talent)

 

หนึ่งความสำเร็จที่ชัดเจนจากเวทีมิสแกรนด์และฝีมือการปั้นของณวัฒน์ ก็คือ ‘อิงฟ้า วราหะ’ Miss Grand Thailand 2022 ที่นอกจากสวยยังมีความสามารถครบเครื่องไม่ว่าจะร้อง เต้น หรือการแสดง จนได้รับความนิยมกลายเป็นขวัญใจมหาชนมาถึงวันนี้

 

ด้วยความคิดที่จะต่อยอดธุรกิจให้เป็นมากกว่าเวทีประกวดนางงามแล้ว ณวัฒน์ได้นำบริษัทมิสแกรนด์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในชื่อ ‘บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  (มหาชน)’ หรือ MGI เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ด้วยราคา 4.95 บาทต่อหุ้น มีหุ้นทั้งหมด 210 ล้านหุ้น ตีมูลค่า ณ ตอนนั้นอยู่ที่ราว 1,040 ล้านบาท

 

มาดูผลประกอบการของ MGI กันบ้าง

ปี 2565 มีรายได้รวม 319.86 ล้านบาท กำไร 47.85 ล้านบาท

ปี 2566 มีรายได้รวม 617.04 ล้านบาท กำไร 119.25 ล้านบาท

ปี 2567 มีรายได้รวม 746.82 ล้านบาท กำไร 121.12 ล้านบาท

 

เส้นทางบนสายธุรกิจนางงามของณวัตน์ถูกจับตามองอีกครั้ง เมื่อประกาศคว้าสิทธิ์ประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2568 – 2572 จาก JKN ของ ‘แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ ด้วยเม็ดเงิน 180 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีข่าวคราวความขัดแย้งกันอยู่ (ต่อมา MGI แจ้งว่า ได้ถือครองสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์เพิ่มอีก 20 ปี รวมทั้งสิ้น 25 ปี)

 

และณวัฒน์ ยังเข้ารับตำแหน่ง Executive Director or MUO บอร์ดบริหารองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หลังจากที่แอน-จักรพงษ์ และ JKN ถูก ‘สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์’ (ก.ล.ต.) ลงโทษทางแพ่งกรณีเผยแพร่ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการขายธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล โดยปรับกว่า 4 ล้านบาท พร้อมห้ามแอน-จักรพงษ์ เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 56 เดือน

 

นอกจากนี้ ณวัฒน์มักจะกล้าออกมาพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ของสังคมอย่างตรงไปตรง ทำให้เขาถูกพูดถึงเสมอ และด้วยความสามารถของณวัฒน์ นอกจากธุรกิจนางงามแล้ว เขายังนั่งเป็นกรรมการบริษัทและผู้บริหารบอร์ดในหลายบริษัท อาทิ กรรมการบริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ฯลฯ

]]>
1521059
10 อันดับประเด็นร้อนแรงบนโลกโซเชียลแห่งปี 2564 “โควิด-19” ครองแชมป์ https://positioningmag.com/1369215 Thu, 30 Dec 2021 14:09:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1369215 ก้าวเข้าสู่วันสุดท้ายของปี 2564 ซึ่งเป็นอีกปีหนึ่งที่มีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นบนโลกโซเชียล ไวซ์ไซท์จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE เพื่อวิเคราะห์และจัดอันดับประเด็นที่ชาวโซเชียลพูดถึงมากที่สุด โดยเก็บข้อมูลช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม-28 ธันวาคม 2564 เรามาดูกันดีกว่าว่าระหว่าง 1 ปีที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้าง

อันดับที่ 1 สถานการณ์โควิด-19 (119,499,177 เอ็นเกจเมนต์)

สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันยังคงน่าเป็นห่วง หลังจากผ่านการล็อกดาวน์ ปิดประเทศ จนเปิดประเทศล่าสุด ก็ต้องเจอกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ‘โอมิครอน’ อีกระลอก ทำให้ปีนี้ ประเด็นโควิดมาเป็นอันดับ 1 บนโลกโซเชียล

อันดับที่ 2 ปรากฏการณ์ลิซ่าฟีเวอร์ (98,967,525 เอ็นเกจเมนต์)

เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ลลิษา มโนบาล หรือที่รู้จักกันดีในนาม ลิซ่า แบล็กพิงก์ หนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปจากประเทศเกาหลีใต้ ได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองเป็นครั้งแรกและสร้างความฮือฮาให้กับโลกออนไลน์อย่างมาก ทั้งประเด็นการเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่มียอดเข้าชมผ่านช่องทาง YouTube มากกว่า 10 ล้านครั้งภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง ทุบสถิติเดิมของเทย์เลอร์ สวิฟต์ และได้สร้างเอ็นเกจเมนต์ขึ้นในโลกออนไลน์มากกว่า 53 ล้านเอ็นเกจเมนต์ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ปล่อยเอ็มวี รวมถึง ลูกชิ้นยืนกินที่สร้างรายได้ให้ชุมชนมากมาย นั่นทำให้ลิซ่ามาเป็นอันดับที่ 2 ในปีนี้

อันดับที่ 3 การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2020/2021 (80,398,276 เอ็นเกจเมนต์)

เป็นครั้งแรกที่งานประกวด Miss Universe 2020 และ 2021 จัดขึ้นในปีเดียวกันอันเนื่องมาจาก สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งผู้ชนะทั้งสองรายการ ได้แก่ อแมนด้า ออบดัมและแอนชิลี สก๊อต-เคมมิส ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ปลุกกระแสให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับประเด็น “Real Size Beauty” หรือการภูมิใจในรูปร่างของตนเอง และมีความสุขในสิ่งที่ตัวเองเป็น

อันดับที่ 4 มหกรรมกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 (59,829,135 เอ็นเกจเมนต์)

มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติกับงานโอลิมปิกโตเกียวที่ได้เลื่อนจากปี 2563 มาจัดในปี 2564 ซึ่งหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวไทยทั้งประเทศมีความสุขท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่มีความรุนแรง คือ น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ได้คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโดนั่นเอง

อันดับที่ 5 พิมรี่พาย (54,686,116 เอ็นเกจเมนต์)

อีกหนึ่งบุคคลที่เป็นที่พูดถึงตลอดทั้งปีนี้คงหนี้ไม่พ้นพิมรี่พาย หรือ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ ทั้งประเด็นงาน CSR วันเด็กในช่วงต้นปี ที่เข้าไปติดแผงโซล่าร์เซลล์ที่หมู่บ้านชนบทในจังหวัดเชียงใหม่ ไปจนถึงปรากฏการณ์ไลฟ์ขายของ 10 นาที 100 ล้านบาท ที่เปิดขายกล่องสุ่มเครื่องสำอางกล่องละ 1 แสนบาท และมีคนสนใจสั่งซื้อกว่า 1,000 ชุด รวมถึง ประเด็นคลินิกเสริมความงามที่มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนหลายราย

อันดับที่ 6 ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว (39,427,269 เอ็นเกจเมนต์)

เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกบริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ใน ซอยกิ่งแก้ว 21 จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ทำให้ประชาชนในรัศมี 5 กิโลเมตร ต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากกลัวว่าเพลิงจะลุกลาม นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ในรอบหลายปีที่ผ่านมาและมีการพูดถึงบนโลกโซเชียลอย่างมากตลอด 24 ชั่วโมงในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมเพลิง

อันดับที่ 7 น้ำท่วม (34,989,035 เอ็นเกจเมนต์)

นอกจากพิษโควิด-19 แล้วปีนี้เรายังคงเจอกันสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ตั้งแต่เดือนตุลาคม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงหลายๆ จังหวัดในภาคกลาง, ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจากสถานการณ์ครั้งนี้ได้เกิดคลิปไวรัลจากชาวโซเชียลที่จังหวัดนครราชสีมาทำคลิปล้อเลียนโฆษณาของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์ดัง

อันดับที่ 8 ลุงพล (34,239,932 เอ็นเกจเมนต์)

สิ้นสุดคดีน้องชมพู่ ที่อยู่บนความสนใจของชาวโซเชียลมาอย่างยาวนาน การเกาะติดความคืบหน้าของคดีได้สร้างให้เกิดเรื่องราวของ “ผู้ต้องหา” ที่ถูกจับตาจากโซเชียลทุกย่างก้าวให้กลายเป็น “คนดัง” ในชั่วข้ามคืน และในที่สุดศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ออกหมายจับลุงพล หรือนายไชย์พล วิภา 3 ข้อหา ผู้ต้องหาคดี “น้องชมพู่” หนูน้อยวัย 3 ขวบ แห่งบ้านกกกอก ที่เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อันดับที่ 9 ผู้กำกับโจ้ (33,367,496 เอ็นเกจเมนต์)

ประเด็นร้อนบนโลกโซเชียลกับกรณีมาวิน ผู้ต้องสงสัยคดียาเสพเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวโดย พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ โดยสาเหตุเกิดจากการขาดอากาศหายใจ ส่งผลให้เกิดเป็น คดีดัง และถูกขุดขุ้ยจนพบว่าครอบครองรถหยนต์หรูกว่า 30 คันและพบการ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนได้ฉายา “โจ้เฟอร์รารี่”

อันดับที่ 10 น้าค่อม (33,160,272 เอ็นเกจเมนต์)

ถือเป็นอีกหนึ่งการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการบันเทิงและวงการตลกไทย กับการจากไปของนายอาคม ปรีดากุล หรือ น้าค่อม ชวนชื่น หลังพบเชื้อโควิด-19 และอาการทรุดลงเรื่อยๆ ชาวโซเชียลร่วมไว้อาลัย #น้าค่อม จนขึ้นอันดับ 1 ทวิตเตอร์ไทย

]]>
1369215
เบื้องหลังมหาอำนาจนางงาม “ฟิลิปปินส์” หยาดเหงื่อ คราบน้ำตา และความลุ่มหลงในความงาม https://positioningmag.com/1204137 Thu, 20 Dec 2018 04:05:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1204137 ภาพจาก : https://missuniverse.in.th

นอกจากความโดดเด่นของผู้เข้าประกวดแล้ว ตำแหน่ง “มิสยูนิเวิร์ส” คนที่ 2 ในรอบ 3 ปี ของฟิลิปปินส์ยังสะท้อนถึงความรุ่งเรืองของธุรกิจการประกวด และความลุ่มหลงต่อความงามในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ด้วย

ฟิลิปปินส์เคยมีตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาลเท่ากับประเทศไทย คือ 2 คนอยู่นานหลายปี จนกกระทั่ง เพีย วูร์ทซบาค สามารถรคว้าตำแหน่งมิสยูนเวิร์สมาได้ในการประกวดประจำปี 2015

และล่าสุดกับการประกวดในประเทศไทยที่ตัวแทนของฟิลิปปินส์ อย่าง แคทรีโอนา เกรย์ ที่คว้ามงกุฎไปครองได้ในท้ายที่สุด จนกลายเป็นผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์คนที่ 4 ที่ได้รับตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาลไปครอง

จนพูดได้ว่าฟิลิปปินส์ได้ขึ้นมาอยู่ในระดับ “มหาอำนาจ” แห่งวงการนางงามเท่าๆ กับประเทศหมู่ลาตินอเมริกาแล้ว

“ประกวดนางงาม” อาจจะขาลงในหลายประเทศ แต่รุ่งสุดๆ ในฟิลิปปินส์

ความสำเร็จของ ฟิลิปปินส์ บนเวทีประกวดความงามระดับโลก กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา อย่างเมื่อปี 2013 เมแกน ยัง ก็เพิ่งจะกลายเป็นผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์คนแรกที่ได้รับตำแหน่งมิสเวิลด์ในการประกวดที่ประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนั้นสาวงามของฟิลิปปินส์ก็ยังคว้าตำแหน่งสำคัญๆ เรียกว่าเข้ารอบ 10 คน 5 คน หรือ 3 คนสุดท้ายจนเป็นเรื่องชินตาของผู้ชมการประกวดไปแล้ว

ในสังคมตะวันตกการประกวดนางงามเริ่มถูกมองในมุมลบมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเวทีที่มีกรรมการมา “ให้คะแนน” สาวๆ ในชุดว่ายน้ำ เริ่มจะถูกมองว่าเป็นการปฏิบัติกับผู้หญิงเหมือนเป็นวัตถุทางเพศ จน มิสเวิลด์ ได้พยายามลบภาพดังกล่าวด้วยการยกเลิกการประกวดในรอบชุดว่ายน้ำ ส่วนเวทีใหญ่หลายๆ แห่งก็เลือกให้ผู้หญิงมามีบทบาทเป็นกรรมการมากขึ้น

แม้ภาพพจน์ของการประกวดนางงามจะเริ่มไม่สวยงามในหลายๆ ประเทศ แต่ไม่ใช่สำหรับฟิลิปปินส์ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงนิยมการประกวดนางงาม และมองว่าเวทีประชันโฉมไม่ได้เป็นเรื่องการเหยียดเพศ แต่ตรงกันข้ามชาวฟิลิปปินส์ยังเชื่อว่า “เวทีประกวดนางงาม” คือการเชิดชูสตรี และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้แสดงพลังในตัวเองออกมาด้วย

การประกวดนางงามสำหรับชาวฟิลิปปินส์ยังเป็นเรื่องของความภาคภูมิใจตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จนไปถึงความภาคภูมิใจในชาติ เมื่อสาวงามไปคว้าตำแหน่งในเวทีสำคัญระดับโลกด้วย

ธุรกิจนางงามเฟื่องฟูในฟิลิปปินส์

ความเฟื่องฟูของธุรกิจการประกวดในประเทศฟิลิปปินส์เอง ก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวทีประกวดระดับโลกให้ความสำคัญกับประเทศหมู่เกาะแห่งอาเซียนประเทศนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ กลายเป็นตลาดหลักของการธุรกิจนางงามในยุคนี้ตลาดหนึ่งไปแล้ว

การประกวดนางงามในฟิลิปปินส์นั้น จะมีขึ้นในทุกระดับ ทั้งระดับท้องถิ่น, สาวงามประจำหมูบ้าน, คนสวยประจำเมือง, การประกวดประจำเทศกาล จนไปถึงระดับชาติ จนทำให้ธุรกิจที่แวดล้อมเรื่องการประกวดทั้งหมดพลอยได้ดิบได้ดีไปด้วย

ความนิยมในการประกวดทำให้ธุรกิจการนางงามในประเทศฟิลิปปินส์ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนน่าทึ่ง จากเมื่อปี 2010 การจัดประกวดทั้งประเทศในเครือของ Binibining Pilipinas Charities Inc เคยขายตั๋วเข้าชมได้ประมาณ 1.2 ล้านใบ ในปี 2014 ยอดขายตั๋วทั้งหมดก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 4 ล้านใบ

แต่ที่ทำรายได้ให้การประกวดอย่างเป็นกอบเป็นกำอย่างแท้จริง ก็คือรายได้จากบรรดาสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนต่างๆ จากเคยได้รับการสนับสนุนรวม 2.7 ล้านเปโซ (1.6 ล้านบาท) ในปี 2010 พอถึงปี 2014 ผู้จัดงานประกวดสามารถกอบโกยเงินจากสปอนเซอร์ได้รวมกันถึง 35 ล้านเปโซ (22 ล้านบาท) และน่าจะมากขึ้นอีกในปัจจุบัน

“นางงาม” กลายเป็นหัวข้อยอดฮิตในชุมชนออนไลน์ของฟิลิปปินส์ ส่วนเว็บไซต์เกี่ยวกับการประกวดนางงามที่ชื่อว่า Missosology ที่ริเริ่มโดยชาวฟิลิปปินส์ ก็กลายเป็นชุมชนออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องนางงามที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว

ศูนย์ฝึกนางงาม ธุรกิจโดย “แฟนนางงาม” ขาดทุนไม่ว่า ขอส่งสาวงามไประดับโลก

ความคึกคักของการประกวดยังทำให้เกิดโรงเรียนฝึกนางงามขึ้นมากมายในฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะกรุงมะนิลา

โรงเรียนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีจุดเริ่มต้นมาจากความคลั่งไคล้ในการประกวดของกลุ่มแฟนนางงาม ซึ่งพวกเขายืนยันว่าไม่ได้คิดเรื่องผลกำไร แต่เพราะรักการประกวด จึงอยากส่งเสริมสาวๆ และหวังผลักดันให้ตัวแทนของฟิลิปปินส์มีศักยภาพ และไปไกลที่สุดในระดับนานาชาติ

เหมือนกับศูนย์อบรบ Kagandahang Flores ของ โรดิน กิลเบิร์ต ฟลอเรส ที่ไม่ขอเรียกโรงเรียนสอนนางงามของเขาว่าเป็น “ธุรกิจ” เพราะเขายืนยันว่าทำด้วยความรัก และไม่แสวงหากำไร เขาบอกว่าเจ้าหน้าที่หลายคนของศูนย์มีงานประจำกันอยู่แล้ว จึงต้องอาศัยฝึกสอนนางงามกันในนอกเวลางานปกติ

ส่วนสาวงามที่มาฝึกฝนบางคนก็จ่ายเงินให้กับโรงเรียน บางคนก็มาเรียนแบบฟรีๆ หากทางโรงเรียนเห็นแวว “ถ้าทำเป็นธุรกิจจริงๆ ก็คงอยู่ไม่ได้นานขนาดนี้หรอก” ฟลอเรส กล่าว โดยเขาเคยมีลูกศิษย์ที่ไปไกลถึงระดับโลกอย่าง บี โรส ซานติอาโก มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2013 และ เจมี เฮอร์เรลล์ มิสเอิร์ธ 2014 มาแล้ว

สาวงามส่วนที่ผ่านการอบรมจะได้รับการฝึกฝนทั้งการโพสท่า, การเดินบนเวที และยังได้เรียนรู้เรื่องการควบคุมน้ำหนัก, รักษารูปร่าง, แต่งหน้า รวมถึงแนะนำเรื่องการศึกษาหาความรู้ทั้งเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงประวัติศาสตร์ต่างๆ สำหรับการตอบคำถามบนเวทีด้วย

บนเวทีพวกเธออาจจะดูสวยงาม ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ในระหว่างการฝึกฝน โดยเฉพาะการฝึกเดินบนเวที หญิงสาวชาวฟิลิปปินส์เหล่านี้ต้องอดทนต่อความเมื่อยล้า และความเหน็ดเหนื่อยอยู่ในศูนย์ฝึกที่ไม่ได้ดูหรูหราฟู่ฟ่า จนกว่า “กล้ามเนื้อจะจดจำ” ท่วงท่าการเดินที่สวยงามเหมือนนางพญา เพื่อให้ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติที่สุด

เส้นทางสู่ความสำเร็จ … หนทางหลุดจากความยากจน

หากกีฬามวยและบาสเกตบอลคือสิ่งที่จะทำให้สาวๆ ชาวฟิลิปปินส์โด่งดังและร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เวทีนางงามก็คือโอกาสสำหรับสาวๆ ในฟิลิปปินส์จึงมีการประกวดเวทีน้อยใหญ่มากมาย ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านไปจนถึงจังหวัด และระดับประเทศ

จึงพูดได้ว่า ณ ปัจจุบันเวทีประชันความสวยได้กลายเป็นสะพานไปสู่ความสำเร็จของหญิงสาวในหลายๆ กลุ่มในฟิลิปปินส์

สำหรับหญิงสาวชนชั้นกลาง หรือเหล่านักศึกษาในมหาวิทยาลัย ต่างหวังว่าเวทีประกวดจะเป็นโอกาสให้พวกเธอได้เข้าวงการบันเทิง หรือวงการแฟชั่น แต่สำหรับหญิงสาวในครอบครัวชนชั้นล่างปากกัดตีนถีบ พวกเธอบางคนอาจจะหวังแค่เงินรางวัลระดับไม่กี่พันเปโซ หรือ โทรทัศน์จอ 21 ซักเครื่อง

นอกจากนั้นก็ยังมีหญิงสาวหลายคนที่ยอมรับว่ามองเวทีประกวดเป็นหนทางที่จะทำให้พวกเธอหลุดพ้นจากความยากจน เหมือน จานีเซล ลูบินา อดีตผู้เข้าประกวดมิสฟิลิปปินส์ที่มีพื้นเพเป็นคนทำความสะอาดพื้น ที่กล่าวว่าหากไม่มีการประกวดนางงาม เธอก็คงไม่มีหนทางที่จะหลุดจากวงเวียนชีวิตแบบเดิมๆ

“เวทีประกวดเดี๋ยวนี้ดีมากๆ มีความเท่าเทียมพอสมควร แม้แต่คนที่มาจากครอบครัวที่ยากจนที่สุดก็ยังมีโอกาสคว้าตำแหน่ง ในประเทศของเราเวทีนางงามจึงเป็นเรื่องของโอกาส และการแสดงพลังของผู้หญิงอย่างแท้จริง” อดีตมิสฟิลิปปินส์ จอยซ์ เบอร์ตัน-ทิทูลาร์ กล่าว

สำหรับชาวฟิลิปปินส์แล้ว “เวทีนางงาม” จึงเป็นทั้งเวทีของโอกาส เป็นความคลั่งไคล้ กับความภาคภูมิใจของประชาชนในชาติ และเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ไม่เลว จนกลายเป็นความลงตัวที่ทำให้วงการประกวดในฟิลิปปินส์รุ่งเรืองจนขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลก.

]]>
1204137