มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ พร้อมใจแสดงความจงรักดีภักดี ฉลองวาระอันเป็นมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปี พ.ศ. 2549 ที่กำลังจะมาถึง โดยจัดทำโครงการสายข้อมือ “เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว” เพื่อนำรายได้จากการบริจาคทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย

การจัดทำโครงการสายข้อมือ “เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนชาวไทยทุกคนได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ผ่านการรับบริจาคเงินจากโครงการสายข้อมือ “เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว” ทั้งนี้รายได้ทั้งหมดจากการรับบริจาค และจากการประมูลสายข้อมือที่มีหมายเลขสวยกำกับจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

นายวิชัย รักศรีอักษร ประธานกรรมการ มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “โครงการสายข้อมือ “เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว” นี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ร่วมใจกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปีหน้า โดยสายข้อมือที่จัดทำขึ้นผลิตจากซิลิโคนอย่างดี เป็นสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายนอกมีการสลักอักษรสองภาษา คือภาษาไทย “เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว” และภาษาอังกฤษ “Long Live The King” มีจำนวนจำกัดเพียง 1 ล้านเส้น เพื่อขอรับบริจาคเส้นละ 100 บาท”

“โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากพันธมิตรอย่างธนาคารไทยพาณิชย จำกัด (มหาชน) ที่ช่วยเป็นช่องทางสำหรับการรับบริจาคเงินทั่วประเทศ และบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่ช่วยส่งข้อความประชาสัมพันธ์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปยังประชาชนผู้ใช้บริการกว่า 15 ล้านคน”

ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ว่า “ธนาคารจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ร่วมโครงการสายข้อมือ “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” และร่วมเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ในวโรกาสที่จะทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยธนาคารได้ให้การสนับสนุนด้วยการใช้เครือข่ายสาขาของธนาคารเป็นช่องทางรับบริจาค ซึ่งธนาคารมีความพร้อมที่จะให้บริการในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของสาขาที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศถึง 630 สาขา ทั้งในเขตกรุงเทพ 271 สาขา และในภูมิภาค 359 สาขา ด้วยสาขารูปแบบใหม่ที่สะดวกสบาย รวมถึงประสิทธิภาพของระบบและเจ้าหน้าที่ในส่วนบริการลูกค้า ที่จะสามารถ รองรับการอำนวยความสะดวกในการรับบริจาคครั้งนี้ ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่บริเวณไหนของประเทศ ในเมือง ชานเมือง หรือในห้างสรรพสินค้า ธนาคารจึงขอเชิญชวนลูกค้า และประชาชนชาวไทยได้ร่วมเทิดพระเกียรติด้วยการใส่สายข้อมือ เพื่อแสดงออกซึ่งพลังและศรัทธาของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสนี้ด้วย”

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความยินดีที่มีส่วนร่วมกับทางมูลนิธิ คิง เพาเวอร์ ในการร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการส่งข้อความประชาสัมพันธ์ (SMS) ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังประชาชนทั่วประเทศที่เป็นผู้ใช้บริการในเครือข่ายของเอไอเอส จีเอสเอ็ม และเอไอเอส วัน-ทู-คอล! ซึ่งมีอยู่กว่า 15 ล้านเลขหมาย เพื่อเชิญชวนให้ผู้ใช้บริการเอไอเอสได้ร่วมถวายความจงรักภักดีแด่ในหลวงของเราอีกทางหนึ่ง”

นายวิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “อยากจะขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่านร่วมใจสวมสายข้อมือ “เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว” ในวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างพร้อมเพรียงกัน”

สายข้อมือ “เรา รัก พระเจ้าอยู่หัว” จัดทำเป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีสองขนาด คือ ขนาดปกติ เส้นผ่านศูนย์กลาง 57 มม. และขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 64 มม. ทุกเส้นจะสลักหมายเลขกำกับไว้ตั้งแต่หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 1,000,000 โดยสายข้อมือที่มีหมายเลขสวยจะถูกนำมาจัดประมูลทางโทรศัพท์ในวันอังคารที่ 18 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุม ชั้น 27 อาคารสยามทาวเวอร์

สำหรับท่านที่สนใจสามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา และ ที่ร้านคิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ ดิวตี้ ฟรี ชั้น 7 เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า (เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2677-8899