ยอดขายสินค้า – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 03 May 2021 22:40:14 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ถุงยาง Durex ยอดพุ่ง! โตแบบ “ดับเบิล ดิจิต” หลังหลายประเทศคลายล็อกดาวน์ https://positioningmag.com/1330340 Mon, 03 May 2021 14:51:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1330340 Reckitt รายงานยอดขายไตรมาส 1/2021 ถุงยางแบรนด์ Durex เติบโต “ดับเบิล ดิจิต” ตามเทรนด์การคลายล็อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกัน แบรนด์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่าง Dettol ยังเติบโตต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้ากลุ่มยาและนมผงที่มีดีมานด์ลดลง

Reckitt Benckiser บริษัทแม่ของแบรนด์ถุงยาง Durex เปิดเผยว่า ยอดขายแบรนด์ในไตรมาส 1 ปี 2021 เติบโตได้แบบ “ดับเบิล ดิจิต” เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของโรคระบาด บริษัทระบุว่าผู้บริโภคเริ่มมีเพศสัมพันธ์กันน้อยลง เนื่องจากวิกฤตการระบาดของไวรัส ส่วนหนึ่งเกิดจาก “ความกังวล”

ในขณะที่ปีนี้ ยอดขายถุงยาง Durex กลับมาโตพุ่งเพราะการคลายล็อกดาวน์ กฎการเว้นระยะห่างทางสังคมลดลงในช่วงฤดูร้อน โดยยอดขายที่เห็นการเติบโตชัดเจนเกิดขึ้นในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และทวีปยุโรป

ไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายจะดีขึ้นเมื่อคลายล็อกดาวน์ เพราะทำให้ผู้คนกลับไปพบปะตัวต่อตัวได้เหมือนปกติ และลดความกังวลเรื่องโรคระบาดลง

(Photo : Shutterstock)

นอกจาก Durex แล้ว บริษัท Reckitt ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ/ทำความสะอาด Dettol และ Lysol ซึ่งพบว่าสินค้ากลุ่มนี้ยังมียอดขายเติบโต 21.1% เพราะผู้บริโภคยังระวังเรื่องการระบาด และนิสัยการดูแลความสะอาดเป็นเรื่องปกติมากขึ้น

แต่ Reckitt ระบุด้วยว่า เริ่มเห็นการเติบโตที่ช้าลงในกลุ่มประเทศที่การระบาดควบคุมได้หรือฉีดวัคซีนให้ประชากรแล้วเป็นจำนวนมาก เช่น จีน ประชากรจะเริ่มใช้น้ำยาล้างมือหรือใช้แอลกอฮอล์ล้างมือน้อยลง

อย่างไรก็ตาม แบรนด์กลุ่มสินค้าอื่นในเครือมียอดขายต่ำลง ได้แก่ Enfa นมผงสำหรับทารก ยอดขายไตรมาสแรกลดลง -12.3% และกลุ่มสินค้าสุขภาพ เช่น ยาแก้ปวด Nurofen ยาอมแก้เจ็บคอ Strepsils ยอดขายลดลง -16.4% คาดว่าเกิดจากผู้ป่วยโรคหวัดลดลง และผู้บริโภคมีการกักตุนสินค้ากลุ่มนี้ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว

เทรนด์ยอดขายสินค้าของ Reckitt อาจเป็นดัชนีหนึ่งที่ทำให้เราเห็นเทรนด์ภายในประเทศว่าสินค้าใดจะรุ่งหรือร่วง หากการระบาดในไทยเริ่มดีขึ้น

Source

]]>
1330340
1 ชั่วโมง 3 ล้านออเดอร์ “Lazada” เปิดสถิติชั่วโมงแรกของเทศกาล 11.11 ปีนี้เติบโต 2 เท่า https://positioningmag.com/1253205 Mon, 11 Nov 2019 10:32:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1253205 ลาซาด้า สร้างสถิติใหม่ในแคมเปญ “Lazada 11.11 Biggest One Day Sale วันเดียวได้ทุกดีล” กวาดยอดออเดอร์กว่า 3 ล้านชิ้นทั่วทั้งภูมิภาค จำนวนผู้ขาย ผู้ซื้อ รวมถึงคำสั่งซื้อทั้งหมดเติบโตมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ภายในชั่วโมงแรกของแคมเปญ

Lazada เปิดสถิติที่น่าสนใจสำหรับเทศกาลลดราคา 11.11 ปีนี้ในช่วง 1 ชั่วโมงแรก (00.00-01.00น.) วันที่ 11 พฤศจิกายน 2019 รวมทั้งภูมิภาคมียอดขายเติบโต 2 เท่า หรือคำสั่งซื้อ 3 ล้านชิ้น

สำหรับประเทศไทย แม้ว่าแอปพลิเคชั่นจะมีอาการล่มหลังเริ่มแคมเปญไปเพียง 15 นาทีจนชาวทวิตเตอร์บ่นระงมผ่านแฮชแท็ก #Lazada1111TH แต่ก็ยังสร้างยอดขายได้เช่นเคย โดยมีสถิติสินค้ายอดขายสูงสุดดังนี้

  • ประเภทสินค้าที่มียอดขายสูงสุด ได้แก่
    • มือถือ
    • ทีวี
    • สินค้าแม่และเด็ก

 

  • ประเภทสินค้าที่มีจำนวนออเดอร์สูงสุด ได้แก่
    • ชุดชั้นใน
    • ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูป
    • เสื้อผ้าแฟชั่น

  • สินค้า 3 อันดับที่มียอดขายสูงสุดบนลาซาด้า
    • ลำโพง Harman Kordon Go Play Mini
    • Apple iPhone 7 Plus 32GB
    • ทีวี TCL LED 4K 55 นิ้ว

 

]]>
1253205
จับพิรุธ Apple โชว์ผลประกอบการรายได้พุ่ง แท้จริงทำเงินสาวกเดิม ไม่ได้ลูกค้าใหม่ https://positioningmag.com/1155584 Sun, 04 Feb 2018 04:59:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1155584 สิ่งที่ทิม คุก ซีอีโอ Apple ควรกังวล คือ Apple กำลังทำมาหากินได้เฉพาะกับกลุ่มลูกค้าผู้ภักดี ?

2 กุมภาพันธ์ 2018 แอปเปิล (Apple) ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่สิ้นสุด 30 ธันวาคม 2017 แทนที่จะเปิดเผยตัวเลขยอดขายสินค้าแบบแยกประเภทเช่นทุกปี Apple หันมาชูผลงานหลักว่าจำนวนอุปกรณ์ที่กำลังถูกใช้งานทั่วโลกขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็น “1.3 พันล้านเครื่อง” แทน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักวิเคราะห์ช่วยกันจับพิรุธว่ายังมีสิ่งใดที่ Apple กำลังพยายามเลี่ยงไม่พูด ซึ่ง 1 ในความจริงที่พบคือ “ยอดขายสินค้าให้สาวก” นั้นทำเงินให้ Apple ได้มากกว่ายอดขายไอโฟนรุ่นใหม่

Apple นั้นประกาศรายได้ประจำไตรมาสที่ 8.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเป็นสถิติใหม่ พร้อมรายได้สุทธิประจำไตรมาส 3.89 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 16% นับเป็นสถิติใหม่เช่นกัน

ยอดขายในต่างประเทศถือเป็น 65% ของรายได้ประจำไตรมาส ทั้งหมดนี้ ทิม คุก (Tim Cook) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Apple กล่าวว่ารู้สึกยินดีที่จะรายงานผลประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple 

“ด้วยการเติบโตในทุกด้าน รวมถึงรายได้สูงสุดเท่าที่เคยมีมาจากผลิตภัณฑ์ iPhone ใหม่ iPhone X ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดทุกสัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน”

ทิมคุกระบุว่า Apple ยังประสบความสำเร็จกับก้าวสำคัญด้วยจำนวนอุปกรณ์ที่กำลังถูกใช้งานแตะ 1.3 พันล้านเครื่องในเดือนมกราคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% ในเวลาเพียง 2 ปี

“เป็นข้อพิสูจน์ถึงความนิยมในผลิตภัณฑ์ของเรา ความภักดีและความพึงพอใจในการใช้งานของลูกค้า” โดยทิม คุกขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยให้ Apple สร้างสถิติใหม่ของผลกำไรประจำไตรมาส ด้วยรายได้ต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 16% กระแสเงินสดอีก 28.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และได้จ่ายคืนเงินลงทุนให้แก่นักลงทุน 14.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ไอโฟนมียอดขายคงที่ราบเรียบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

สิ่งที่ Apple พูดนั้นสวยหรู แต่นักวิเคราะห์มองว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ได้มาจากจำนวนยอดขายเครื่องที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไอโฟนที่มียอดขายคงที่ราบเรียบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่มาจากการขายสินค้าให้กับผู้ใช้ไอโฟน และอุปกรณ์ Apple ทั้งไอแพด และคอมพิวเตอร์แมคอินทอช ซึ่งกำลังจะทำเงินให้ Apple มากกว่าการจำหน่ายไอโฟนเครื่องใหม่

สัญญาณที่เห็นได้ชัดว่า Apple กำลังทำมาหากินได้เฉพาะกับกลุ่มสาวกตัวเอง คือยอดขายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เสริมที่สามารถสวมใส่ได้หรือ “wearable” ทั้งหูฟัง Beats, AirPods และนาฬิกา Apple Watch ล้วนขยับตัวเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม รายได้จากกลุ่มบริการซึ่งรวม Apple Music, iCloud และ App Store นั้นต่ำกว่าการคาดการณ์ แม้จะยังมีมูลค่าสูงถึง 8.4 พันล้านเหรียญ แต่ก็เป็นตัวเลขที่ลดถอยลงจากไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับไตรมาสปัจจุบัน Apple ประเมินว่าจะทำรายได้ระหว่าง 6.0-6.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ กำไรขั้นต้นอยู่ระหว่าง 38-38.5%.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000011324

]]>
1155584