จากการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้สายการบินไม่สามารถนำเครื่องบิน 140 ลำบินขึ้นให้บริการได้ตามปกติตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้ลดฮวบกว่า 80% เเต่ยังคงมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เเม้จะมีการสั่งพักงานพนักงานไปเเล้วกว่า 2 หมื่นคนก็ตาม
ด้วยเหตุที่ขาดรายได้เป็นเวลานานเช่นนี้ ทำให้บริษัทไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลา อีกทั้งยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล
“เรากำลังเผชิญวิกฤติที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ 100 ปีของเรา” Anko van der Werff ซีโอของ Avianca ระบุ
ก่อนที่จะเกิดวิกฤต COVID-19 ผลประกอบการของสายการบิน Avianca ก็ไม่ค่อยดีนัก ด้วยหนี้สินมหาศาล โดยในปี 2019 สายการบินมีหนี้สินกว่า 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.34 แสนล้านบาท) เเละพยายามปรับโครงสร้างหนี้มาหลายปีเเต่เมื่อมาเจอ COVID-19 ที่ทำให้ต้องหยุดบินทั้งหมดก็เหมือนเป็นตัวเร่งให้สถานการณ์เเย่ลงไปจนถึงจุดต่ำสุด
การยื่นล้มละลายของ Avianca Airlines ครั้งนี้ เเม้จะมีปัญหาสะสมยาวนาน เเต่ก็สะท้อนถึงความท้าทายของธุรกิจสายการบินที่ไม่สามารถพึ่งพาการช่วยเหลือของรัฐหรือไม่ได้รับการช่วยเหลือที่เร็วพอ อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินยังคงหวังว่ารัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือ
Avianca ก่อตั้งเมื่อปี 1919 เป็นสายการบินที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเก่าเเก่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก KLM สายการบินเเห่งชาติของเนเธอร์เเลนด์
โดยสายการบินได้ยื่นล้มละลายภายใต้บทบัญญัติที่ 11 (Chapter 11) ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการยื่นขอล้มละลายเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้ เเละยืนยันว่าจะยังคงให้บริการด้านการบินต่อ ขณะที่มีการปรับโครงสร้างหนี้
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่าหากสถานการณ์ถึงขั้นเลวร้ายจนไม่สามารถปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ Avianca จะเป็นสายการบินใหญ่ของโลกรายเเรกที่ต้องสูญหายไปเพราะ COVID-19
ในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 สายการบิน Avianca เคยยื่นล้มละลายมาเเล้ว เเต่ตอนนั้นได้รับการช่วยเหลือจากมหาเศรษฐีน้ำมัน German Efromovich เข้ามาพลิกฟื้นธุรกิจ
เเม้ว่าสายการบินจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การบริการของเขา เเต่ก็ไม่อาจจัดการหนี้สินได้ทำให้ปีที่เเล้ว Efromovich ถูกโหวตให้พ้นจากตำแหน่งบริหาร นำทีมปลดโดย United Airlines Holdings อย่างไรก็ตาม เขายังคงถือหุ้นใหญ่ในสายการบิน โดย United Airlines Holdings คาดว่าจะสูญเงินกู้ยืมที่ให้ Avianca สูงถึง 700 ล้านเหรียญสหรัฐ
Efromovich ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจยื่นขอล้มละลายและไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งนี้
การระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา ทำให้อุตสาหกรรมการบินต้องสะเทือน เนื่องจากรัฐบาลในหลายประเทศได้ออกมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้มีข้อจำกัดในการเดินทางโดยสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศระบุว่า การเดินทางทางอากาศทั่วโลกลดลงกว่า 90% สายการบินลาตินอเมริกาคาดการณ์ว่ารายได้ปีนี้จะลดลง 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.8 แสนล้านบาท) นับว่าเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมสายการบิน
]]>
แบรนด์ค้าปลีกของเล่นยักษ์ใหญ่ Toys R Us กำลังพิจารณาปิดร้าน 100-200 สาขาตามรายงานของ Bloomberg ถือเป็นการปรับแผนครั้งใหญ่หลังจาก Toys R Us ยื่นคำร้องขอล้มละลายในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้าน Toys R Us ฮ่องกงและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังยิ้มได้ พร้อมยกให้ตุ๊กตา LOL Surprise เป็นสินค้ายอดฮิตปีนี้ซึ่งทำให้ของเล่นเกี่ยวกับ Star Wars ตกกระป๋อง
สื่อใหญ่อย่าง Bloomberg อ้างแหล่งข่าววงในว่า Toys R Us กำลังพิจารณาปิดร้านค้าปลีกราว 100 ถึง 200 แห่งในสหรัฐฯ เนื่องจากยอดขายสินค้ากลุ่มของเล่นในช่วงเทศกาลหยุดยาวปลายปีที่ลดลง 15% (เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) อย่างไรก็ตาม รายงานของ Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ ซึ่งยังไม่มีการยืนยันใดอย่างเป็นทางการ
เบื้องต้น โฆษกหญิง Amy von Walter แห่ง Toys R Us ให้ความเห็นกับรายงานที่เกิดขึ้นว่าเป็นการ “คาดเดา” เท่านั้น โดยยืนยันว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทแล้ว แถมยังทิ้งท้ายว่าตัวเลขคาดเดานี้มีแนวโน้มไม่เป็นความจริง
สำหรับ Toys R Us นั้นยื่นฟ้องล้มละลายในเดือนกันยายน โดยหากมีการปิดร้านค้า 200 ร้านจริง จะเท่ากับการปิดร้านประมาณ 22% ของฐานร้านค้าทั้งหมดที่มีในสหรัฐฯ
ในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ มีข่าวเรื่องปิดสาขา Jo Hall ซีอีโอ Toys R Us ภูมิภาคจีนแผ่นดินใหญ่และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยกับสำนักข่าว South China Morning Post ว่าตุ๊กตา LOL Surprise คือสินค้าที่ขายดีที่สุดของ Toys R Us ในภูมิภาคนี้ ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ของขวัญเด็กหญิงกลายเป็นแชมป์ที่ทำเงินแซงหน้าของขวัญเด็กชาย
ผู้บริหาร Toys R Us อาเซียนระบุว่า แม้ Star Wars จะเป็นกระแสมาแรงเพราะการฉายภาพยนตร์ตอนใหม่ แต่เด็กหญิงกลับควักเงินซื้อตุ๊กตามากกว่ากลุ่มหุ่นยนต์ในปีนี้ โดยที่ผ่านมา Toys R Us มีร้านสาขามากกว่า 15 แห่งในฮ่องกง และอีก 6 ร้านที่เป็น pop-up store หรือร้านชั่วคราวที่ตั้งขึ้นตามโอกาส
ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ Toys R Us ในเอเชียจะดูดี เพราะคำให้สัมภาษณ์ของ Hall ชี้ว่าบริษัทสามารถทำยอดขายได้ดีในช่วงเวลาอื่นนอกจากคริสต์มาสหรือเทศกาลจับจ่ายปลายปี โดยเทศกาลสำคัญอย่างตรุษจีน หรือวันเด็ก รวมถึงช่วงวันหยุดปิดเทอมของเด็กน้อย ล้วนกระตุ้นยอดขายให้ Toys R Us ได้
สำหรับ LOL Surprise นั้นเป็นตุ๊กตาจิ๋วที่เด็กน้อยสามารถแกะกล่องไปลุ้นไป ว่าภายในกล่องจะได้รับไอเท็มใดในแต่ละชั้น ตัวตุ๊กตามีความพิเศษ สามารถพ่นน้ำได้ ร้องไห้ ปัสสาวะ และบางตัวเปลี่ยนสีได้ด้วย แน่นอนว่าประเทศไทยมีจำหน่ายสินค้าเลียนแบบในราคาต่ำกว่า 100 บาท
อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่าปีนี้คือปีแรกที่ Toys R Us เอเชียจำหน่ายของเล่นเด็กหญิงได้มากกว่าของเล่นเด็กชายหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Toys R Us พยายามแสดงจุดยืนเรื่องการไม่แบ่งแยกเพศบนของเล่น โดยช่วงปี 2015 เจ้าพ่อค้าปลีกของเล่นประกาศว่าจะแบ่งประเภทของเล่นจากแบรนด์ อายุ และโปรโมชันเท่านั้น จะไม่มีการแบ่งประเภทในร้าน แคตตาล็อก หรือเว็บไซต์ด้วยเพศอีกต่อไป
การประกาศครั้งนั้นเกิดขึ้นเพราะเสียงประท้วงเรื่องฉลากบนกล่องของเล่นที่ทำให้ปิดกั้นความสนใจจากเด็กหญิง เช่น ของเล่นกลุ่มรถไฟ ตัวต่อเลโก้ หรือชุดเครื่องมือก่อสร้าง รวมถึงตุ๊กตุ่นไดโนเสาร์ จนทำให้เด็กหญิงหันไปเล่นแต่ตุ๊กตา.
ที่มา :
]]>