รถตู้ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 21 Feb 2025 08:37:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ฮุนได’ เตรียมเปิดตัวรถใหม่ 6 รุ่น วางเป้าเติบโต 10% แตะ 4,100 คัน พร้อมช่วยละลายภาพจำ ‘แบรนด์รถตู้’ https://positioningmag.com/1511865 Fri, 21 Feb 2025 08:10:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1511865 ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างมากในตลาด รถยนต์ เนื่องจากการมาของแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่จาก จีน แต่แบรนด์สัญชาติเกาหลีใต้อย่าง ฮุนได (Hyundai) ก็สู้ยิบตา โดยเตรียมออกรถใหม่ถึง 6 รุ่นในปีนี้ พร้อมวางเป้าเติบโต 10% ทำยอดแตะ 4,100 คัน

เตรียมเปิดตัวรถใหม่ 6 รุ่น

วัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ฮุนไดลดลง -27% อยู่ที่ 3,780 คัน โดยสัดส่วน 55-60% เป็นรถตู้ H1 และ Staria 

สำหรับแผนของฮุนไดในปีนี้ จะเปิดตัวรถใหม่อย่างน้อย 6 รุ่น โดยเริ่มจากเปิดตัว IONIQ 5 N Line และจะเปิดตัวเพิ่มอีก 2 รุ่น ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ มอเตอร์โชว์ 2025 (Motor Show 2025) และในช่วง กลางปี จะเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 3 รุ่น โดยทั้ง 6 รุ่นที่จะเปิดตัวมีทั้งรถสันดาป (ICE) รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) และ รถยนต์ไฮบริด (HEV)

ในส่วนของเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย หรือ ดีลเลอร์ ปัจจุบัน ฮุนไดมีทั้งหมด 36 แห่ง โดยรวมทั้งดีลเลอร์ฮุนได และ IONIQ ที่มีจำนวน 20 แห่ง ซึ่งเติบโตจาก 8 แห่งในปีที่ผ่านมา โดยปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนดีลเลอร์เพิ่มขึ้นอีก 3-4 แห่ง รวมเป็น 40 แห่ง และในอนาคตมีแผนจะให้ทุกดีลเลอร์สามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าได้

“เพราะดีลเลอร์ฮุนไดเขามี Khow how ในการดูแลรถไฟฟ้ากันอยู่แล้ว ดังนั้น จากนี้คงจะหาดีเลอร์เพิ่มได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือ เราต้องการโชว์รูมที่สวยหน่อย ซึ่งหลายคนอาจยังไม่พร้อมลงทุนในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ แต่เราก็มีงบช่วยประมาณ 50% ถ้าจะรีโนเวต”

ปักเป้า 4,100 คัน พร้อมละลายภาพจำแบรนด์รถตู้

วัลลภ อธิบายว่า ที่ปีนี้ฮุนไดเปิดตัวรถถึง 6 รุ่น ถือเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้ถึงเป้าหมาย 4,100 คัน หรือเติบโต +10% เนื่องจากที่ผ่านมา ฮุนไดเปิดตัวรถใหม่น้อย และรถที่ขายได้คือ รถตู้ ทำให้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็น กลุ่มครอบครัวที่ลูกเริ่มโต

ดังนั้น การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ มากขึ้น นอกจากจะเป็นการสร้างสีสันให้กับแบรนด์แล้ว ยังช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอายุน้อยลง และมีตัวเลือกให้ได้ลองสัมผัสกับแบรนด์ฮุนไดง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่ายอดขายครึ่งหนึ่งในปีนี้คาดว่าจะยังคงเป็น รถตู้ 

“เราต้องมองทุกมุมว่าเรามีโอกาสตรงไหน ที่คู่แข่งเราทำไม่ได้ แต่ปัญหาคือ ในอดีตเรายึดติดกับรถตู้ ทำให้ภาพแบรนด์เลยดูแก่ ดังนั้น โจทย์คือต้องทำภาพแบรนด์ให้ทันสมัยขึ้น ผ่านการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ มากขึ้น และอนาคตสัดส่วนยอดขายรถตู้จะค่อย ๆ ลดลง เพราะระยะยาวตลาดรถตู้ในไทยน่าจะอยู่ไม่เกิน 4,000 คัน”

โรงงานพร้อมต้นปีหน้า ผลิตได้ 5,000 คัน

หลังบริษัทได้เข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 เต็มรูปแบบ บริษัทก็เดินหน้าจัดตั้ง บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เพื่อเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ของฮุนไดโดยลงทุนไป 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มการผลิตในช่วงต้นปี 2026 ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 5,000 คัน/ปี/กะการทำงาน

“ถ้าทำงานเพิ่ม 2 กะ จะสามารถผลิตได้สูงสุด 10,000 คัน/ปี แต่ตอนนี้เราโฟกัสที่ผลิตใช้ในประเทศก่อน ไม่ได้มองถึงการส่งออก เพราะมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”

ปีก่อนเหนื่อย ปีนี้ก็เหนื่อย

สำหรับภาพรวมตลาดในปีนี้ คาดว่าตลาดจะหดตัวประมาณ -5% คิดเป็นจำนวนประมาณ 5.7 แสนคัน เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยบวกจากภายนอกในตอนนี้ ส่วน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะมียอดขายอยู่ 7-8 หมื่นคัน ทั้งนี้ทั้งนั้น อาจขึ้นอยู่กับผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา ซึ่งอาจดันยอดให้เติบโตกว่านี้

“ปีที่ผ่านมาตลาดหดตัวประมาณ 27% ถือว่าเหนื่อยทุกค่าย เพราะทุบราคากันหมด โดยยอดขายเราก็หดตัวใกล้เคียงตลาด ปีนี้มองว่ายังต้องช่วยเหลือตัวเองต่อไป เพราะยังไม่เห็นปัจจัยบวก โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมาตลาดหดตัว -7%”

สำหรับปัญหา หนี้เสีย ตอบยากว่า ดีขึ้น หรือไม่ เพราะภาครัฐมีมาตรการ คุณสู้เราช่วย ขณะที่ภาพรวมการอนุมัติสินเชื่อยานยนต์ในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 60% ขณะที่อัตราของฮุนไดอยู่ที่ 80% ซึ่งถือว่าดีกว่าตลาด แต่เมื่อเทียบกับอดีต ถือว่าลดลง จากเดิมที่อยู่ 95%

“ตอนนี้เราบอกไม่ได้ว่า NPL ดีขึ้นไหม แต่เราก็ต้องช่วยตัวเองไปก่อน เช่นออกโปรผ่อน 0% นาน 84 เดือน ซึ่งลูกค้าค่อนข้างดี ทำให้แบงก์กล้าปล่อย”

]]>
1511865
จากคู่แข่งมาเป็นคู่ค้า โฟล์กสวาเกนจับมือฟอร์ดร่วมผลิตรถกระบะ-รถตู้ ป้อนตลาดปี 65 คาดปี 66 ฟันกำไร https://positioningmag.com/1208460 Wed, 16 Jan 2019 05:07:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1208460 อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งในยุคที่อุตสาหกรรมรถยนต์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คู่แข่งจาก 2 ค่ายรถยนต์ โฟล์กสวาเกน ประกาศจับมือ ฟอร์ด เพื่อเป็นพันธมิตรในการพัฒนารถกระบะและรถตู้ร่วมกัน 

ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่ได้ตกลงเซ็นสัญญาข้อตกลงเบื้องต้นเมื่อกลางปีที่แล้ว และมาบรรลุข้อตกลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ม.ค. โดยทั้งคู่จะร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรม ไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการถือครองหุ้นของทั้งสองบริษัทแต่อย่างใด

ฟอร์ดและโฟล์กสวาเกน เริ่มผลิตรถกระบะขนาดกลางเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วโลกในปี 2565 และรถตู้เชิงพาณิชย์สำหรับตลาดยุโรปในลำดับถัดไป โดยการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการผลิต คาดว่าจะสร้างผลกำไรตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

ดร. เฮอร์เบิร์ท ไดส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โฟล์กสวาเกน และ มร.จิม แฮคเก็ตประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าวว่า โฟล์กสวาเกนกรุ๊ปและฟอร์ดมอเตอร์ ยังได้มองหาโอกาสและศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตรถไร้คนขับ การสัญจรอัจฉริยะ และรถยนต์ไฟฟ้าโดยพิจารณาโครงการพัฒนารถยนต์ในรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกัน ซึ่งทีมงานจะเริ่มศึกษาในรายละเอียดในระยะเวลาอันใกล้นี้

ความร่วมมือดังกล่าว จะมีการบริหารจัดการโดยคณะกรรมการร่วม ซึ่งนำโดยแฮคเก็ตและไดส์ รวมถึงผู้บริหารระดับอาวุโสจากทั้งสองบริษัทอีกหลายคน

ความร่วมมือในรถตู้เชิงพาณิชย์และรถกระบะ

ฟอร์ดและโฟล์กสวาเกนมีธุรกิจในรถตู้เชิงพาณิชย์ และรถกระบะในหลายตลาดทั่วโลก เช่น ฟอร์ด ทรานซิท และฟอร์ด เรนเจอร์ เช่นเดียวกับโฟล์กสวาเกนที่มี ทรานสปอร์เตอร์ แคคดี้ และแอมารอก   

ยอดขายสะสมของรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กของทั้งสองบริษัทในปี 2561 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคันทั่วโลก

โดยความต้องการรถกระบะขนาดกลางและรถตู้เชิงพาณิชย์ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถแบ่งปันต้นทุนที่ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์

ฟอร์ดจะออกแบบและผลิตรถกระบะขนาดกลางให้กับทั้งสองบริษัท ซึ่งคาดว่าจะออกสู่ตลาดได้โดยเร็วที่สุดในปี 2565 โดยฟอร์ดจะพัฒนารถตู้เชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับลูกค้าในตลาดยุโรป ส่วนโฟล์กสวาเกนก็มุ่งมั่นในการพัฒนารถตู้ขนาดเล็กสำหรับขับขี่ในเมือง

การจับมือเป็นพันธมิตรกันในอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่หลายค่ายได้ร่วมมือพัฒนาไปก่อนหน้าแล้ว เช่นในเดือนตุลาคม ฮอนด้า ไปลงทุน 2,500 ล้านดอลลาร์ ใน Cruise ผู้พัฒนารถไร้คนขับและบริษัทลูกของ GM แลกกับถือครองหุ้น 5.7% ส่วน โตโยต้าและมาสด้า ก็จะเปิดโรงงานร่วมงานในเมืองฮันท์สวิลล์ รัฐแอละแบมา ทางภาคใต้ของสหรัฐฯ ในปี 2021.

]]>
1208460