รองเท้าผ้าใบ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 27 Feb 2020 14:29:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สายสตรีทดันรองเท้า Skechers ยอดขายพุ่ง เปลี่ยนลุคจาก “รองเท้าแม่” เป็น “รองเท้าวัยรุ่น” https://positioningmag.com/1266134 Thu, 27 Feb 2020 11:03:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1266134 Skechers สร้างชื่อมาจากการเป็นรองเท้าเดินเพื่อสุขภาพ เจาะกลุ่มคนวัยทำงานจนถึงวัยเกษียณ ทำให้ทั้งรูปลักษณ์รองเท้าและแบรนด์ในสมัยก่อนถูกมองว่าเป็น “รองเท้าแม่” แต่เมื่อ Skechers เริ่มมีงาน collab กับคาแร็กเตอร์การ์ตูนต่างๆ ทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์เปลี่ยนไปสิ้นเชิง กลายเป็น “รองเท้าวัยรุ่น” ที่ใส่แล้วสุดคูล ดึงดูดนักเรียนมัธยมถึงวัยนักศึกษาเข้ามามากขึ้น

รองเท้า Skechers เพิ่งเปิดตัวคอลเลกชั่นล่าสุด Skechers X Sailor Moon รองเท้าและเสื้อผ้าดีไซน์จากคาแร็กเตอร์การ์ตูนเซเลอร์มูน โดยรองเท้ามีทั้งแบบพื้นหนา Chunky และแบบ Classic ให้เลือก สร้างเสียงฮือฮาในหมู่แฟนคลับสาวน้อยผู้พิทักษ์ให้เร่งจองซื้อ

การบุกตลาดรองเท้าสตรีทแวร์ไม่ใช่ครั้งแรกของ Skechers โดย “ไข่มุก นิลเศรษฐี” ผู้อำนวยการ สเก็ตเชอร์ส ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2560 บริษัทแม่จากสหรัฐฯ เริ่มเปิดตัวกลุ่มสินค้าสตรีทแวร์ดีไซน์ทันสมัย โดยเฉพาะรองเท้าทรง Chunky และงาน collab ซึ่งเป็นที่นิยม

One Piece SKECHERS รองเท้าผ้าใบ วันพีช
Skechers x One Piece ที่ออกจำหน่ายเมื่อปี 2561

ส่วนประเทศไทยเริ่มทำตลาดรองเท้า collab อย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 มีคอลเลกชั่นยอดฮิตที่พลิกภาพของ Skechers อย่างคอลเลกชั่น Skechers x One Piece ที่ลอตแรกขายหมดภายใน 1 เดือน ความฮิตของรองเท้า collab ทำให้ปัจจุบันรองเท้าสตรีทแวร์แซงหน้ากลุ่มรองเท้าเพอร์ฟอร์มานซ์ มีสัดส่วนในยอดขายรวมเกิน 50% ไปแล้ว เทียบกับในอดีตมีสัดส่วนเพียง 40%

“สินค้ากลุ่มนี้ช่วยเราจับกลุ่มผู้ซื้อที่เด็กลงได้ จากเมื่อก่อนคนซื้อส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานและวัยเกษียณ เพราะเรามีรองเท้าเดิน GOwalk เป็นจุดเด่น พอมีสินค้า collab ทำให้ลูกค้าวัยเรียน ตั้งแต่เด็กมัธยม 17-18 จนถึงนักศึกษามีสัดส่วนเข้ามา 1 ใน 3 แล้ว” ไข่มุกกล่าว “ยอดขายเราโต 30% ต่อเนื่องมา 3 ปี คิดว่าปีนี้น่าจะทำได้เช่นเดิม”

รองเท้า Skechers x Sailor Moon รุ่น D’Lites Airy 2.0 รองเท้าทรง Chunky ออกแบบตามคาแร็กเตอร์เซเลอร์ทั้งห้าคน

จุดเริ่มต้นของรองเท้า collab มาจากบริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกาพบว่า รองเท้ารุ่น BOBS คอลเลกชั่นที่ร่วมกับมูลนิธิ Petco ออกแบบเป็นลายการ์ตูนสุนัขและแมวน่ารักๆ ทำยอดขายได้ดีมาก จึงต่อยอดมาเป็นงาน collab อีกหลายรุ่นตามมาและประสบความสำเร็จด้านยอดขายตามคาด

ช่วงน้ำขึ้นให้รีบตักแบบนี้ ไข่มุกกล่าวว่าปีนี้ Skechers จะมีคอลเลกชั่น collab ออกทุกไตรมาส รวม 4 คอลเลกชั่น และยังขยายสินค้ากลุ่มเสื้อผ้ามากกว่าเดิม โดยวางเป้าให้สินค้าเสื้อผ้ามีสัดส่วนเพิ่มเป็น 15-20% จากเดิมมีไม่ถึง 10% เริ่มจากคอลเลกชั่นเซเลอร์มูน นอกจากรองเท้าแล้วยังมีเสื้อยืด เสื้อสเวตเตอร์ และเสื้อฮู้ดดี้หูแมวที่น่าจะโดนใจแฟนๆ

“เมื่อก่อน Skechers ถูกมองว่าเป็น ‘รองเท้าแม่’ เพราะมักจะเห็นคนวัยแม่ใส่เดินกัน แต่ตอนนี้ young gen เขามองเราเปลี่ยนไป ด้วยสินค้าใหม่ๆ และเราลงงบการตลาด มี ก็อต-อิทธิพัทธ์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ จ้าง KOL ให้สวมใส่จำนวนมาก ทำให้แบรนด์เราดูเด็กลงไม่ใช่รองเท้าแม่แล้ว

Skechers X Sailor Moon กลุ่มสินค้าเสื้อผ้า

แม้ว่าจะได้ยอดขายจากรองเท้าสตรีทแวร์ แต่ไข่มุกกล่าวว่าแบรนด์ยังไม่ได้ทิ้งรองเท้าเพอร์ฟอร์มานซ์ งบการตลาดยังนำไปสนับสนุนกิจกรรมเดินหรือวิ่งเพื่อสุขภาพอยู่ และตัวรองเท้าสตรีทแวร์จะไม่ทิ้งคุณสมบัติพื้นนุ่ม เดินสบาย นอกจากนี้ ปีนี้ยังจะใช้รองเท้ากลุ่มเพอร์ฟอร์มานซ์ไปเจาะลูกค้าผู้ชายมากขึ้นด้วย ทั้งรองเท้าเดิน GOwalk ที่เหมาะกับผู้ชาย และรองเท้าเทรนนิ่งใส่วิ่งได้ ตอบสนองพฤติกรรมผู้ชายรักสุขภาพ

ต้องติดตามการจัดสมดุลของแบรนด์นี้ว่าจะสามารถเป็นแบรนด์ครองใจ ‘วัยรุ่น’ ไปพร้อมๆ กับครองใจ ‘มนุษย์แม่’ ที่เป็นลูกค้ากลุ่มเดิมได้หรือไม่

]]>
1266134
Nike ลงทุนครั้งใหญ่ เตรียมพัฒนารองเท้าแห่งอนาคต “ใส่ได้ไม่ต้องใช้มือ” https://positioningmag.com/1254652 Sun, 24 Nov 2019 16:19:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1254652 Photo : facebook.com/nike

Nike ประกาศลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่ล่าสุดกับบริษัท HandsFree Labs บริษัท Footwear Tech ที่จะทำให้ Nike สามารถสร้างรองเท้าผ้าใบแห่งอนาคต ซึ่งผู้สวมจะสามารถก้าวเข้าและก้าวออกจากรองเท้าได้แบบไม่ต้องเอื้อมมือไปจับให้เมื่อย แค่ฟังก็น่าสนุกแม้จะยังไม่มีภาพบอกใบ้ว่าเทคโนโลยีรองเท้าแห่งอนาคตนี้ทำงานอย่างไร รวมถึงไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการลงทุนครั้งนี้

HandsFree Labs นั้นเป็นบริษัทในรัฐยูทาห์ รายงานระบุว่าการลงทุนของ Nike ใน HandsFree Labs จะทำให้ Nike ได้สิทธิทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสามารถขยายผลสู่โซลูชัน Foot Activated Shoe Technology (F.A.S.T.) ของ HandsFree Labs ด้วย โซลูชันนี้เองที่จะทำให้ Nike เข้าใจวิธีการพัฒนารองเท้าผ้าใบที่สามารถสวมใส่ได้ง่ายกว่าเดิม เพราะไม่ต้องใช้มือจับรองเท้าหรือผูกเชือกอย่างที่เคย

การเป็นพันธมิตรกับ HandsFree Labs จะทำให้ Nike ขยายรูปแบบการใช้เทคโนโลยีใหม่ในรองเท้าเพื่อกระตุ้นฐานผู้ใช้ให้เติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำได้แน่นอนผ่านการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต

ตั้งเป้านักกีฬาทุกคน

ชัดเจนว่า Nike วางกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อรองเท้าผ้าใบนวัตกรรมนี้โดยครอบคลุมนักกีฬนาทุกประเภท ทุกเพศ และทุกวัย โดยก่อนหน้านี้ Tom Clarke ประธานฝ่ายนวัตกรรมของ Nike ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Footwear News ว่าที่ผ่านมา Nike มีแพลตฟอร์ม FlyEase เพื่อมอบประสบการณ์พร้อมเล่นกีฬาที่ดีกว่าให้กับนักกีฬาทุกคน สำหรับครั้งนี้ Nike จึงเชื่อมั่นใน HandsFree Labs ที่มีเทคโนโลยีซึ่งจะขยายโอกาสทางธุรกิจ และสามารถขจัดข้อจำกัดให้การเล่นกีฬาเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าในกลุ่มคนที่มากขึ้น

ผู้บริหาร Nike เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า “easy on-and-off” technology ซึ่งสะท้อนว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะไม่เพียงทำให้การสวมใส่รองเท้าผ้าใบทำได้ง่าย แต่ยังครอบคลุมถึงการถอดด้วย

Monte Deere ซีอีโอ HandsFree กล่าวถึงประเด็นนี้ว่าโซลูชัน F.A.S.T. กำลังเป็นเทคโนโลยีที่มีการขยายตัว คาดว่าจะสามารถยกระดับวงการอุตสาหกรรมฟุตแวร์อย่างก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของการผลิตและการใช้งาน โดยแสดงความมั่นใจว่า F.A.S.T. จะทำให้รองเท้าผ้าใบมีฐานผู้ใช้มากขึ้นอย่างเป้นรูปธรรม

เน้นตอบความต้องการผู้บริโภค

ผู้บริหาร Nike ยืนยันว่าการเป็นหุ้นส่วนนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยครั้งนี้เป็นการซื้อบริษัทเพื่อลงทุนครั้งที่ 3 ของ Nike ในเวลาไม่ถึงปี

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Nike ได้เข้าถือหุ้น 100% ของบริษัท TraceMe ซึ่งเป็นสตาร์ทอัปที่ก่อตั้งโดยกองหลัง NFL อย่าง Russell Wilson นอกจากนี้ Nike ยังซื้อบริษัท Colect ซึ่งเป็น บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มผู้บริโภค โดยผลการวิเคราะห์จะนำไปใช้ปรับฐานผลิตภัณฑ์ตามการเปลี่ยนแปลงของความต้องการในตลาด

สำหรับปีงบประมาณ 2019 รายรับที่ Nike ประกาศนั้นเพิ่มขึ้น 7% เป็น 39,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อานิสงส์จากแบรนด์ Jordan ที่ปรับภาพลักษณ์ใหม่และการขายสินค้าโดยตรงสู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ กำไรสุทธิของ Nike ยังเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีนี้ เบ็ดเสร็จคิดเป็นตัวเลขสวยงาม 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.

]]>
1254652
เข้าแถวมั้ย! ONITSUKA TIGER xGIVENCHY จับมือข้ามสายพันธ์ุ ปั้นสนีกเกอร์ ‘MONOCHROME’ ไทยขาย 133 คู่ https://positioningmag.com/1234467 Thu, 13 Jun 2019 11:55:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1234467 การ Collaboration ยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ยอดนิยม” ของแบรนด์แฟชั่นระดับลักชัวรี่ และแบรนด์สตรีทแวร์ เพื่อให้แบรนด์ดูแปลกใหม่ และเป็นการขยายฐานลูกค้าร่วมกัน

ล่าสุด เป็นการ Collaboration ระหว่าง จีวองชี่ Givenchy แบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ อายุ 92 ปี และ Onitsuka Tiger สนีกเกอร์ดังของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้เปิดเผยคอลเลคชั่นใหม่ ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างโชว์รันเวย์ในวันที่ 12 มิถุนายน ในงาน  PittiUomo

เป็นครั้งแรกของทั้งคู่ ทั้ง Onitsuka Tiger ที่ไม่เคยร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นระดับลักชัวรี่มาก่อน และถือเป็นครั้งแรกของ Givenchy เช่นกันที่ได้ร่วมงานกับผู้ผลิตสนีกเกอร์ระดับโลก

การร่วมมือข้ามสายพันธ์ุ ระหว่าง Givenchy X Onitsuka Tiger ได้ร่วมกันพัฒนา รองเท้า “ MEXICO66™ GDX” ที่มีสองสไตล์ในรูปแบบสุดคลาสสิกของรุ่น NIPPON MADE ‘MEXICO 66™’: รุ่นสีขาวล้วน พร้อมลายเส้นอันโดดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของโอนิซึกะ ไทเกอร์ ‘Onitsuka Tiger Stripe’ พร้อมด้วยตัวอักษร ‘Givenchy’ และรุ่นสีดำที่ใช้ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Givenchy ที่มีดีไซน์ของรองเท้าเป็นสีแดงและสีขาว โดยทั้งสองรุ่นจะมีลิ้นด้านหลังที่ประดับโลโก้คู่กันของ ‘Givenchy-Onitsuka Tiger’

ช็อปโอนิซึกะ ไทเกอร์ ยังได้ออกแบบ “แพ็กเกจจิ้ง” เป็นพิเศษเพื่อตอกย้ำความร่วมมือในครั้งนี้เช่นเดียวกันกับภาพของแคมเปญนี้ ที่มีการผสมผสานระหว่างภาพศิลปะญี่ปุ่นที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ และโพสที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา เพื่อเน้นย้ำกับการมาพบกันของวัฒนธรรม

รองเท้าทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายที่ช็อปโอนิซึกะ ไทเกอร์และแฟล็กชิพสโตร์ของ Givenchy ทั่วโลกในวันที่ 13 มิถุนายน หนึ่งวันหลังจากโชว์บนรันเวย์ และช็อปผ่านออนไลน์ทาง Givenchy.com และช่องทางออนไลน์ที่ได้รับการคัดเลือก

สำหรับในไทย Onitsuka Tiger x Givenchy สนีกเกอร์สำหรับผู้หญิงและผู้ชายพร้อมเป็นเจ้าของได้ในราคา 19,000 บาท วางจำหน่ายเพียงแค่ 133 คู่ ในประเทศไทย ตั้งแต่วันนี้ไปถึง 4 ก.ค. 2562 นี้ ณ ช็อปโอนิซึกะ ไทเกอร์สาขา Siam Center ชั้นG เท่านั้น  

Onitsuka Co. , Ltd. ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา เป็นบริษัทฯ ที่ก่อตั้งขึ้นเป็นแบรนด์รองเท้าสำหรับกีฬาโดย คิฮาชิโร โอนิซึกะ (Kihachiro Onitsuka) ปีนี้ครบรอบ 70 ปี

แฟนตัวยงของแบรนด์ อย่าง จีวองชี่ อาร์ทิสติคไดเร็คเตอร์ แคลร์ เวต เคลเลอร์ (Givenchy Artistic Director Clare Waiight Keller) ชื่นชอบใส่รองเท้า Onitsuka TigerMEXICO 66

แคลร์ เวต เคลเลอร์ (Clare Weight Keller) ต้องการตีความโดดเด่นของรองเท้าให้ออกมาเป็นในรูปแบบของภาพกราฟิกขาวดำ (Graphic Monochrome) และเพื่อผสมผสานสไตล์สีดำและสีขาวให้เข้ากับโชว์เสื้อผ้าบุรุษแบบสแตนด์อโลนเป็นครั้งแรกในฟลอเรนซ์ สำหรับโชว์เสื้อผ้าผู้ชายที่ PittiUomo ในฟลอเรนซ์

Givenchy ก่อตั้งขึ้นโดย อูแบร์ เดอ จีวองชี่ (Hubert de Givenchy) ในปี 1952 สร้างความสำเร็จในวงการแฟชั่นมาหลายทศวรรษ โดยได้รับการสวมใส่จากคนดังทั้งอดีตและปัจจุบัน แม้ว่าจีวองชี่จะขายสำนักออกแบบให้กับ “หลยุส์ วิตตอง” แต่จีวองชี่ยังคงความโรแมนติกความคลาสสิกด้วยวิธีการที่ทันสมัยของอาร์ทิสติคไดเร็คเตอร์ชาวอังกฤษ แคลร์ เวตเคลเลอร์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งในปี 2017 เพื่อออกแบบคอลเลคชั่น Haute Couture และคอลเลคชั่น Ready-to-Wear ทั้งหมด สำหรับของผู้ชายและผู้หญิง และด้วยโชว์ครั้งแรกของเธอ ได้สร้างเอกลักษณ์ใหม่สำหรับเฮาส์ของจิวองชี่ตามแนวคิดแสงสว่างในความมืด

ในพิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกนมาร์เคิล หรือ ‘ดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์’ (Duchess of Sussex) ได้สวมชุดแต่งงานของ Givenchy Haute Couture ซึ่งมีแคลร์ เวต เคลเลอร์ อาร์ทิสต์ไดเร็คเตอร์ของแบรนด์เป็นผู้ออกแบบให้.

]]>
1234467
ตลอดชีพไปเลย! Adidas Originals เซ็นสัญญา “Stan Smith” ชั่วชีวิต https://positioningmag.com/1202060 Tue, 11 Dec 2018 04:59:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1202060 นี่คือ Lifetime Deal ประวัติศาสตร์ของ Adidas Originals ที่เซ็นสัญญากับ Stan Smith แบบดูแลกันทั้งชีวิต ทั้งคู่เตรียมโปรโมตความร่วมมือผ่านแฮชแท็ก #StanSmithForever ซึ่งเชื่อว่าจะเสริมภาพความเป็นอมตะสุดคลาสสิกให้รองเท้าผ้าใบของ Adidas อีกเท่าตัว

Stan Smith นั้นเป็นนักเทนนิสในตำนานซึ่งจรดปากกาเซ็นสัญญากับ Adidas Originals มาตั้งแต่ปี 1973 (.. 2516) การเซ็นสัญญาครั้งนั้นเกิดขึ้นเพื่อโปรโมตรองเท้าเทนนิสที่นำหนังสีขาวมาตัดเย็บคู่กับแถบสีเขียวบริเวณข้อเท้า ตกแต่งด้วย 3 แถบด้านข้างจนเป็นเอกลักษณ์ของรองเท้ารุ่นนี้ ตามประวัติพบว่าก่อนหน้าที่จะเป็น Stan Smith รองเท้ารุ่นนี้เคยถูกโปรโมตโดยนักเทนนิสชาวฝรั่งเศสชื่อ Robert Haillet ตั้งแต่ปี 1965 (.. 2508) แต่หลังจาก Haillet แขวนไม้แร็กเก็ต Adidas ก็ลงนามกับ Stan Smith แทนในรูปดีล 5 ปี

Stan Smith: Some People Think I’m a Shoe ADIDAS ORIGINALS / STAN SMITH

ดีลนี้ถูกต่ออายุเรื่อยมาจนตัวรองเท้าโดดเด่นมากในสังคมคนรุ่นใหม่ กระทั่งปี 2005 ตำนานเทนนิสอย่าง Stan Smith จึงได้รับค่าส่วนแบ่งจากการขายรองเท้ารุ่นนี้ทุกคู่ ซึ่งเป็นผลจากที่ตัวแทนของคุณลุง Stan Smith เปิดการเจรจาขอเพิ่มส่วนแบ่งจาก Adidas

***ชีวิตเปลี่ยนเมื่อขึ้นรันเวย์

จุดเปลี่ยนของรองเท้ารุ่น Stan Smith ในโลกยุคใหม่คือปี 2011 เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นยุคทองที่รองเท้า Stan Smith เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในโลกแฟชั่น เวลานั้น Phoebe Philo อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ใหญ่อย่าง Celine สวมรองเท้าผ้าใบขึ้นเดินบนรันเวย์ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะเปลี่ยนจุดยืนหรือ reposition สินค้ากลุ่มรองเท้าผ้าใบที่ก่อนหน้านี้วางจำหน่ายเฉพาะที่ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาเป็นส่วนใหญ่

Stan SmithSTAN SMITH ARCHIVE

ส่วนของรองเท้ารุ่น Stan Smith ต้นสังกัดอย่าง Adidas ตัดสินใจหยุดการผลิตไปในปีช่วง 2012-2013 และนำมาปัดฝุ่นเปิดตลาดอีกครั้งในปี 2014 ปัจจุบันรองเท้า Stan Smith แจ้งเกิดหลายรุ่นหลากสีและกลายเป็นหนึ่งในรองเท้าผ้าใบที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ Adidas 

Stan SmithSTAN SMITH ARCHIVE

ข้อมูลจาก Torben Schumacher ผู้จัดการทั่วไปของ Adidas Originals บอกว่าดีลร่วมมือกับ Stan Smith ในการเป็นพันธมิตรร่วมกันตลอดชีพนี้แสดงถึง commitment ที่ Adidas มุ่งมั่นต่อสินค้ากลุ่มนี้ โดยย้ำว่า Stan Smith ถือเป็นหนึ่งในรองเท้าสไตล์คลาสสิกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของ Adidas เนื่องจากการออกแบบที่เหนือกาลเวลา ทำให้รองเท้ารุ่นนี้ได้รับความนิยมหลายชั่วอายุคน เชื่อว่าความนิยมนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกหลายปี

Stan Smith: Some People Think I’m a ShoeADIDAS ARCHIVE

การเป็นพันธมิตรครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก Stan Smith เปิดตัวหนังสือชื่อ “Stan Smith: Some People Think I’m a Shoe!” ซึ่ง Stan Smith ล้อเลียนตัวเองว่าหลายคนเข้าใจว่าชื่อ Stan Smith คือชื่อรองเท้า หนังสือดังกล่าวถูกเปิดตัวเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อฉลองความสำเร็จของรองเท้าผ้าใบ Best-Selling ของ Adidas

ในหนังสือนี้ แชมป์ Grand Slam ชายเดี่ยว 2 สมัยบอกว่าไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะเป็นที่รู้จักนอกวงการกีฬา เห็นได้ชัดจากวัยรุ่นหลายคนที่ไม่ทราบว่า Stan Smith เป็นนักเทนนิส แต่วัยรุ่นกลุ่มนี้ชื่นชอบรองเท้า ความร่วมมือกับ Adidas จึงทำให้ Stan Smith แจ้งเกิดในโลกที่ต่างไป แถมยังสร้างวัฒนธรรมใหม่ในรูปแบบที่ไม่มีแบรนด์ไหนทำได้

Stan SmithSTAN SMITH ARCHIVE
Stan SmithJUERGEN TELLER

คนดังแห่เซ็นสัญญาตลอดชีพ

ไม่ใช่ Adidas รายเดียวที่ทำสัญญาตลอดชีพกับนักกีฬาดัง คู่แข่งอย่าง Nike ก็ประกาศเซ็นสัญญากับนักกีฬาดาวรุ่งอย่าง LeBron James แบบตลอดชีพเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ Grant Hill ก็เพิ่งเซ็นสัญญาตลอดชีพกับ Fila ด้วย

สิ่งที่ Adidas ทำขณะนี้คือการเฉลิมฉลองดีลกับ Stan Smith ด้วยการเปิดตัวรองเท้าผ้าใบที่มีชื่อรุ่นว่า #StanSmithForever ซึ่งจะย้อนกลับไปใช้การออกแบบดั้งเดิมของ Stan Smith รุ่นแรก กำหนดการเปิดตลาดคือ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เรียกเสียงคึกคักจากแฟน Adidas ได้มากทีเดียว.

ที่มา :

]]>
1202060