รายได้โต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 22 Jan 2019 08:57:54 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “Netflix” รายได้โต ผู้ใช้เพิ่ม แต่ “กำไร” ลด https://positioningmag.com/1209615 Tue, 22 Jan 2019 08:42:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1209615 ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งวิดีโอยอดนิยม “เน็ตฟลิกซ์” (Netflix) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2018 ทำรายได้รวม แต่กำไรต่อหุ้นลดลง ส่งผลให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นจนมูลค่าหุ้นลดฮวบ ทั้งที่ฐานสมาชิกบริการรายเดือนเพิ่มขึ้นหลายล้านรายในช่วงปลายปี จนทะลุหลัก 139 ล้านรายก็ตาม

Netflix รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2018 เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า สมาชิก Netflix ที่เพิ่มขึ้นทำให้รายได้รวม 4,190 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 132,986 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม กำไรต่อหุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้นเป็น 30 เซ็นต์ ลดลงจาก 41 เซ็นต์ต่อหุ้น กำไรที่ลดลงตอกย้ำว่า Netflix เทเงินทุนเพื่อพัฒนาเนื้อหาจนทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้แม้จะมีรายได้มากขึ้น แต่อัตรากำไรกลับลดลงในช่วงไตรมาสปลายปี 2018

นักวิเคราะห์เชื่อว่า Netflix จะยังลงทุนเช่นนี้ต่อไป เพื่อดึงฐานสมาชิกให้เติบโตบน Netflix ต่อเนื่อง โดยสถิติล่าสุด ชี้ว่า Netflix มีสมาชิกใหม่ที่ยินยอมจ่ายเงินเพื่อชมวิดีโอกว่า 29 ล้านคนในปี 2018 ตัวเลขนี้มากกว่า 22 ล้านรายที่ทำได้ในปี 2017 การเพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้สมาชิกพรีเมียมของ Netflix มีจำนวนรวม 139 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ในจำนวนสมาชิกใหม่ 29 ล้านรายที่ Netflix เพิ่มจำนวนได้สำเร็จในปี 2018 ราว 8.84 ล้านราย เป็นสมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมชม Netflix ในช่วงไตรมาส 4 จุดนี้ Netflix ภูมิใจมาก เพราะ 8.84 ล้านราย เป็นตัวเลขที่มากกว่าไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า ซึ่ง Netflix ทำยอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 7.6 ล้านรายเท่านั้น

การเติบโตของสมาชิก Netflix ถูกมองว่าได้แรงหนุนจากคุณภาพเนื้อหาวิดีโอ ซึ่งทำให้สมาชิกมีความพึงพอใจที่ Netflix เผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณภาพตลอดช่วงไตรมาสดังกล่าว หนึ่งในซีรีส์เด่นของ Netflix ในปลายปีที่ผ่านมา คือ ซีรีส์อย่างเบิร์ดบ็อกซ์ (Bird Box) ซึ่งมีผู้ชมเกินหลัก 40 ล้านราย

ใน 8.84 ล้านรายที่เป็นสมาชิกใหม่ Netflix ช่วงปลายปี 2018 พบว่า ราว 1.5 ล้านรายเป็นผู้อาศัยในสหรัฐอเมริกา และอีก 7.3 ล้านรายเป็นผู้อาศัยในประเทศอื่น ซึ่งคาดว่าจะมีชาวไทยรวมอยู่ในกลุ่มนี้เป็นจำนวนไม่น้อย เชื่อว่า ความร้อนแรงของ Netflix จะยังดำเนินต่อไปในไตรมาสปัจจุบัน.

Source

]]>
1209615
Delete Facebook ไร้ผล? Facebook คนใช้เพิ่ม รายได้โตเกือบ 50% https://positioningmag.com/1167605 Fri, 27 Apr 2018 04:15:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1167605 ไม่ว่าใครจะทำแคมเปญลบบัญชีใช้งานเฟซบุ๊ก (Facebook) แต่เครือข่ายสังคมอันดับ 1 ก็ยังเติบโตต่อไป ล่าสุดฐานผู้ใช้งานประจำทะลุ 2,200 ล้านรายต่อเดือน เพิ่มขึ้นมากกว่า 70 ล้านรายในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา

Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ประกาศสถิติล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยจำนวนผู้เข้าสู่ระบบ Facebook อย่างน้อยเดือนละครั้งเพิ่มขึ้นราว 13% เป็น 2,200 ล้านราย (สถิติ ณ วันที่ 31 มีนาคม) จุดที่น่าสนใจคือสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 13% ต่อปีนี้เท่ากับสัดส่วนผู้ใช้บริการทุกวัน ที่เพิ่มขึ้นอีก 13% เป็น 1,450 ล้านราย เทียบเท่า 66% ของผู้ใช้ Facebook ทุกเดือน

ตัวเลขผู้ใช้ทั้งรายวันและรายเดือนของ Facebook ล้วนสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์วอลล์สตรีท แสดงว่า Facebook ยังเติบโตได้ดีในตลาดโลก แม้ว่าจะมีการรณรงค์ติดป้ายคำหรือแฮชแท็ก #Delete Facebook ก็ตาม

แต่ในตลาดทวีปอเมริกา Facebook เพิ่มผู้ใช้ได้เพียง 1 ล้านคนในสหรัฐฯ และแคนาดาช่วงไตรมาสที่ผ่านมา โดยสามารถฟื้นสถานการณ์ผู้ใช้ลดฮวบในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้ใช้ในอเมริกาเหนือหดตัวเป็นครั้งแรก

ประเด็นนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขที่ Facebook สรุปในไตรมาสที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีปมปัญหา Cambridge Analytica ที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม (ราว 2 สัปดาห์ก่อนจบไตรมาส) คาดว่ารายงานในไตรมาสถัดไปอาจจะสะท้อนผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งเรื่องการเติบโตและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้

*** เวลาใช้งาน Facebook น้อยลง

สำหรับประเด็นว่าการเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมของระบบส่งผลกระทบกับ Facebook อย่างไร คำตอบคือช่วงไตรมาสที่ผ่านมา Facebook ยอมรับว่าผู้คนใช้เวลาบน Facebook น้อยลงกว่า 50 ล้านชั่วโมง

หัวหน้าฝ่ายการเงิน เดวิด เวห์เนอร์ (David Wehner) ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดว่าชาว Facebook ใช้งานระบบน้อยลงในจุดใดบ้าง โดยบอกเพียงว่าบริษัทไม่ได้มีข้อมูลเฉพาะในเรื่องนี้ แต่ Facebook ได้เห็นการแชร์ต่อมากขึ้น และการรับชมวิดีโอแบบไร้ส่วนร่วมที่ลดลง

Wehner ชี้ว่ากฎระเบียบใหม่เรื่องความเป็นส่วนตัวของยุโรปที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ค.นี้ อาจทำให้การเติบโตของผู้ใช้งานรายวันและรายเดือนในยุโรปลดลงในไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งอาจทำให้รายได้จากการโฆษณาลดลงตามไปด้วย

ทั้งหมดนี้ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่า นักลงทุนจะเทขายหุ้น Facebook เพราะแนวโน้มเผชิญวิกฤติหลายด้าน โดยเฉพาะกรณีที่ซีอีโอ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เคยกล่าวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ว่า Facebook จะเปลี่ยนอัลกอริธึมที่กำหนดเนื้อหาในฟีดข่าวของผู้ใช้ เพื่อสนับสนุนการอัปเดตจากเพื่อนและครอบครัวที่กระตุ้นให้เกิด “ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่มีความหมาย” มากกว่าวิดีโอและบทความข่าวที่ไม่ได้พูดถึงผู้คน ความคิดนี้ถือเป็นการจัดระเบียบให้ข่าวถูกลดบทบาทลง จุดนี้มาร์กรู้ดีว่าจำนวนเวลาใช้งาน Facebook จะลดลงอย่างมาก แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อให้ Facebook มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

ในภาพรวม รายได้ของ Facebook เพิ่มขึ้น 49% เป็น 11,970 ล้านเหรียญสหรัฐ เหนือกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 11,400 ล้านเหรียญ รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 63% เป็น 4,990 ล้านเหรียญ หรือ 1.69 เหรียญต่อหุ้นซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทำได้ 1.35 เหรียญ ทั้งหมดนี้ส่งให้หุ้น Facebook เพิ่มขึ้นทันที 7%

ขณะนี้ รายได้จากโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา คิดเป็นสัดส่วนกว่า 91% ของรายได้โฆษณารวมทั้งหมดของบริษัท ถือเป็นตัวเลขที่เรียกความสนใจได้ล้นหลาม.

Source

]]>
1167605