ละครมาราธอน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 02 Jan 2019 08:23:10 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ศึกละครใหม่ VS ละครรีรัน มาราธอนส่งท้ายปี 61 แบบไหน ฟันเรตติ้งมากกว่ากัน https://positioningmag.com/1205615 Fri, 28 Dec 2018 04:27:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1205615 เข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สำหรับปีนี้กลายเป็นปีแรกที่หลายๆช่องงัดกลยุทธ์ละครมาราธอนมาจัดใส่ในช่วงปลายปี เพื่อรับสถานการณ์รื่นเริง งบโฆษณาหด อีกทั้งยังได้ลดต้นทุนช่องได้อีกด้วย จัดมากันหมดตั้งแต่ช่อง 3, ช่อง 8 และช่องวัน ขาประจำ “มาราธอน”

ช่อง 3 เริ่มต้นแต่ไก่โห่ก่อนทุกช่อง แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำเอากลุ่มแฟนละครช่อง 3 มีอึ้งกับกลยุทธ์ละครรีรันกันพอสมควร โดยเริ่มตั้งแต่ 18 ธันวาคม ด้วยละคร “ลิขิตรัก The Crown Princess” วางไว้ในช่วงละครหลังข่าว และ “อังกอร์” ตั้งแต่ 20 ธันวาคมในช่วงละครเย็น

แม้ช่อง 3 ไม่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุการวางละครรีรันในรูปแบบมาราธอนก่อนใคร แต่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์อธิบายว่า เป็นรูปแบบหนึ่งของการลดต้นทุนครั้งใหญ่ปลายปี ที่มีการคาดการณ์ว่า ผลประกอบการช่อง 3 ปีนี้ทั้งปี จะขาดทุนเป็นปีแรก

ในขณะที่ช่อง 7 ยังคงโชว์ความสตรอง ยืนหนึ่ง ด้วยการจัดละครใหม่ลงทุกช่วงเหมือนเดิม ได้ใจกลุ่มผู้ชมทีวียกใหญ่

สำหรับช่อง 8 นั้น เป็นครั้งแรกที่จัดละครมาราธอน ที่มาลงในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี โดยส่ง “สาปกระสือ” ละครไทยที่แรงที่สุดของช่องในปีนี้ มารีรันสร้างความต่อเนื่องละครไทยให้กับฐานผู้ชมช่อง ก่อนจะไปเริ่มใหม่ในต้นปีหน้า

ช่องวัน ช่องต้นตำรับ “มาราธอน” จัดละครรีรันมาราธอนถึง 4 เรื่อง แบ่งเป็น 1 เรื่องที่จบไปแล้ว “พรหมไม่ได้ลิขิต” และ 3 เรื่องที่กำลังออกอากาศ “สงครามนักปั้น, นางสาวไม่จำกัดนามสกุล และ หน้ากากแก้ว” ยิงยาวตั้งแต่ 25 ธันวาคม 2561 จนถึง 3 มกราคม 2562

เรตติ้งละครมาราธอนช่วงสัปดาห์แรกของช่อง 3 นั้น “ลิขิตรัก The Crown Princess” เปิดตัว 6 ตอนแรกเรตติ้งสวิงไปมาตามสถานะความแข็งแรงของคู่แข่งด้วย โดยได้เรตติ้ง 2.439, 2.531, 2.531 พอมาเจอละครบู๊สนั่น “จ้าวสมิง” ช่อง 7 ในช่วงปลายสัปดาห์ เรตติ้งเผ่นลงมาอยู่ที่ 1.825, 1.628 และ 1.709 และมารีบาวน์อีกครั้งในช่วงวันทำงาน 24- 26 ธันวาคม ด้วยเรตติ้ง 2.582, 2.820 และ 2.655 โดยยังรักษาพื้นที่ฐานที่มั่นในกรุงเทพฯ ไว้ได้ จากตัวเลขเรตติ้งในพื้นที่กรุงเทพฯ กลับคืนมาแข็งแรงเหมือนเดิม

แม้จะแพ้ช่อง 7 แทบไม่เห็นฝุ่น แต่ก็ยังมีเรตติ้งมากกว่าละครใหม่ของช่องวันในช่วงเดียวกันอย่าง “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล”

สำหรับ “ลิขิตรัก” มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 4.740 จากการออกอากาศครั้งแรก การนำมารีรันได้เรตติ้งเฉลี่ยเกินครึ่งของรอบแรก จึงยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังเป็นตัวเลขเรตติ้งระดับเดียวกับละครใหม่ที่ออกอากาศในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย

ในสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ เมื่อทั้งช่องวันและช่อง 8 จัดละครรีรันลงยกแผง ละครใหม่ช่อง 7 โดยเฉพาะละครเย็น “พ่อตาปืนโต ตอนหลานข้าใครอย่าแตะ” จึงทำเรตติ้งทิ้งห่างทุกช่อง แต่ละครหลังข่าวช่อง 7 ที่กำลังออกอากาศอยู่ เรตติ้งไม่เสถียร มี “จ้าวสมิง” ที่โกยเรตติ้งเป็นกอบเป็นกำเป็นหลักเท่านั้น

“อังกอร์” ละครรีรันช่วงเย็นของช่อง 3 เป็นอีกเรื่องที่นับว่าแน่พอสมควร จากเรตติ้งเฉลี่ยในการออกอากาศครั้งแรกที่ 5.311 มาออกอากาศในช่วงละครเย็น ชนกับละคร “พ่อตาปืนโต ตอน หลานข้าใครอย่าแตะ” จากช่อง 7 ก็ยังสามารถทำเรตติ้งขึ้นมาเรื่อยๆ อยู่ที่ 2.514 , 2.452 , 2.903, 3.290 และ 3.611

สำหรับช่องวัน เลือกเรื่อง “พรหมไม่ได้ลิขิต” ที่เพิ่งจบลงไป มาเปิดตัวมาราธอน แม้ละครดังแต่เพิ่งจบลงไปไม่นาน เรตติ้งรีรันรอบนี้จึงยังไม่สูงมากนัก เปิดตัวด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 1.442 , 1.519 และ 1.153

ส่วน “สงครามนักปั้น” ช่องวัน ที่กำลังออกอากาศอยู่ มาเริ่มรีรันตอนที่ออกอากาศไปแล้ว เรตติ้งอยู่ที่ 0.935, 0.777 และ 0.841

ในขณะที่ “สาปประสือ” ช่อง 8 เปิดตัวช่วงรีรัน ยาวต่อเนื่องจากช่วงเย็นและหลังข่าว ด้วยตอนแรก 0.713 และตอนที่ 2 ได้ 0.579

ช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี นอกเหนือจากละครไทยที่จัดมารีรันกันยาวๆ แล้ว คอนเทนต์ที่ออกอากาศในช่วงนี้ของช่องต่างๆ ยังมีรูปแบบรายการรวมมิตร รวมเรื่องตอนที่ได้รับความนิยม หรือจัดหนังทั้งไทยและต่างประเทศมาออนแอร์เป็นช่วงยาวๆ ตามงบและกลยุทธ์ของแต่ละสถานี ในช่วงเทศกาล ที่คาดว่าจะเป็นช่วงที่มีผู้ชมทีวีน้อยที่สุดช่วงหนึ่ง.

]]>
1205615
ละครมาราธอน กลยุทธ์ยอดฮิต เรียกเรตติ้ง ลดต้นทุน วันหยุดยาว ช่อง 3 – ช่อง 8 เอาด้วย ชิงคนดูช่วงปีใหม่ https://positioningmag.com/1203824 Tue, 18 Dec 2018 23:28:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1203824 ละครมาราธอน หรือ การจัดละครมาออกอากาศใหม่แบบยาวต่อเนื่อง กำลังกลายเป็นกลยุทธ์ ที่ “ทีวีดิจิทัล” นิยมทำกัน เพื่อเรียกเรตติ้งคนดูให้อยู่กับช่อง และเป็นส่วนหนึ่งของการประหยัดต้นทุน หรือ save cost ในช่วงที่วงการทีวีดิจิทัลต้องเผชิญหน้ากับสภาวะเศรษฐกิจไปแล้ว

คอนเซ็ปต์ละครรีรัน เป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จมากจากประเทศเกาหลี ที่มีการจัดช่วงละครรีรันบ่อยครั้ง เพื่อโปรโมตละครที่กำลังออกอากาศ ส่วนในประเทศไทยนั้น “ช่องวัน” เป็นช่องแรกที่นำกลยุทธ์นี้มาใช้ ส่วนมากเป็นการนำละครใหม่ที่กำลังออกอากาศ มาออนแอร์แบบมาราธอนต่อเนื่องทั้งวันโดยเน้นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ซึ่งได้ผลช่วยสร้างเรตติ้งให้กับละครที่กำลังออกอากาศดีไปด้วย

ช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ช่องวันเตรียมจัดช่วงละครมาราธอนเช่นกัน ที่รอการระบุเวลา และเรื่องที่ออกอากาศ

งานนี้ ไม่ใช่แค่ช่องวัน แต่ยังรวมไปถึงช่อง 3 ประกาศผังละครในช่วงละครเย็น และละครไพรม์ไทม์ของช่วงครึ่งหลังเดือนธันวาคมนี้ว่า จะเป็นเทศกาลละครรีรัน ส่งความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้งหมด

ช่อง 3 เริ่มมาราธอนยาว 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี

ช่อง 3 เลือกละครที่ได้รับความนิยมและมีเรตติ้งสูง 2 เรื่องสำหรับการรีรัน โดยเริ่มวางละครรักโรแมนติก “ลิขิตรัก The Crown Princess” ละครที่มีคู่ขวัญตัวท็อปของช่อง “ณเดชน์-ญาญ่า” แสดงนำคู่กัน มาจัดลงยาวตั้งแต่ 18-30 ธันวาคม ที่ช่อง 3 ระบุว่า เป็นการรีรันแบบฉบับของ Master Edition

รวมทั้งละครบู๊สนั่น “อังกอร์” ของค่ายอาหลอง จูเนียร์ ละครม้ามืด ที่ทำเรตติ้งสูงสุดอันดับ 3 ของช่อง 3 ในปีนี้ มาจัดลงในช่วงละครเย็น เริ่มตั้งแต่ 20 ธันวาคม – 1 มกราคม 2562 โดยเฉพาะวันที่ 31 ธันวาคม และ 1 มกราคมนั้น เป็นการออนแอร์ต่อเนื่องไปถึงช่วงหลังข่าวที่เป็นช่วงไพรม์ไทม์

เบื้องหลัง Save Cost ครั้งใหญ่

แม้ว่าช่อง 3 ยิงทีเซอร์ระบุการยิงยาวละครมาราธอนช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายว่า เป็นช่วงเทศกาลส่งความสุข แต่เหตุผลที่แท้จริงแล้ว คือการลดต้นทุนขนานใหญ่ของช่องส่งท้ายปีนั่นเอง

ปกติการลงทุนละครแต่ละเรื่องใช้งบไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งในหนึ่งสัปดาห์จะมีละครใหม่ออนแอร์ทั้งหมด 4 เรื่อง เป็นละครเย็น 1 เรื่อง และละครหลังข่าว 3 เรื่อง สำหรับวันจันทร์-อังคาร, พุธ-พฤหัส และศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ รวม 3 เรื่องต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท

ในขณะที่ภาพรวมงบโฆษณาในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี เป็นที่รับรู้กันว่าเป็นช่วงเดือนเทศกาลวันหยุดปลายปี การใช้จ่ายงบโฆษณาจะเป็นช่วงที่บรรดาบริษัท และเอเจนซี่ เทงบโฆษณาลงน้อยที่สุด เนื่องจากเชื่อว่าเป็นช่วงที่คนเดินทาง รับชมทีวีน้อยลง

ที่ผ่านมาหลายๆ ช่องใช้วิธีการจัดรายการพิเศษ หรือจัดหนังต่างประเทศ และรายการรีรันรวมมิตรเข้ามาเพื่อลดต้นทุน แต่ก็มักจะทำในช่วงสั้นๆ ของเทศกาลวันหยุด

เมื่อดูจากแนวโน้มทิศทางผลประกอบการของบีอีซี เวิลด์ หรือกลุ่มช่อง 3 ใน 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่ายังขาดทุนอยู่ที่ -70.26 ล้านบาท หากไม่มีระบบการจัดการบริหารลดต้นทุนที่ดีในไตรมาสที่ 4 แล้ว เชื่อว่าภาพรวมผลประกอบการของปีนี้ทั้งปี ก็คงต้องขาดทุนอย่างแน่นอน

ผลประกอบการของกลุ่มช่อง 3 มีการขาดทุนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 4/2560 และต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2 /2561 โดยที่ไตรมาส 3/2461 มีกำไรแต่ก็น้อยมาก โดยมีกำไรอยู่เพียง 78.3 ล้านบาท

ดังนั้นการนำละครที่ออกอากาศในปีนี้มารีรัน จึงเป็นการตอบสนองมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหญ่ของช่องนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เสียชื่อเครดิตช่องใหญ่ เมื่อนำละครมารีรันอีกครั้งจึงจำเป็นต้องมีความพิเศษ แตกต่างจากตอนที่ออกอากาศไปแล้ว

จากปากคำของผู้จัด “แอน ทองประสม” กับละคร “ลิขิตรัก” นั้น ระบุว่า “ลิขิตรัก” ที่นำมาออกอากาศใหม่นี้ จะมีทั้งหมด 13 ตอนจากเดิม 12 ตอน โดยจะมีตอนที่ไม่เคยออกอากาศมาก่อนแทรกในช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไป โดยเฉพาะการเสริมฉากฟินๆ ของคู่ “ณเดชน์-ญาญ่า” ที่ขณะนี้เปิดตัวในฐานะคู่รักอย่างเป็นทางการไปแล้ว

ส่วน “อังกอร์” นั้น ก็มีความเคลื่อนไหวจากบรรดาไอจีของนักแสดง เหมือนกับมีการถ่ายเพิ่มเติมในตอนพิเศษด้วยเช่นกัน

ช่อง 8 เอาบ้าง รีรันละคร “สาปกระสือ” ละครแรงแห่งปีของช่อง

ช่อง 8 ของกลุ่มอาร์เอส เป็นช่องที่มีคอนเทนต์หลักๆ คือ ข่าว, ซีรีส์อินเดีย, มวยไทย และละครไทย โดยละครไทยถือเป็นคอนเทนต์ที่มาแรงที่สุดของปีนี้ของช่อง 8 มาแทนที่ซีรีส์อินเดียที่ลดความร้อนแรงลดไปมาก

ละครไทยของช่อง 8 จัดวางไว้ในช่วงละครเย็น เพื่อไม่ชนกับละครแรงของช่องใหญ่ในช่วงหลังข่าว 2 ทุ่ม ซึ่งได้เปิดตลาดชุดละครไทยในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ไว้นานแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก จนในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ช่อง 8 เริ่มชุดละครไทยในวันจันทร์-พฤหัส ด้วยเรื่อง “พยัคฆา” เริ่มสร้างกระแสคนติดตามได้มากขึ้น โดยเฉพาะจากฐานผู้ชมในต่างจังหวัด ที่เป็นฐานหลักของผู้ชมละครช่อง 8 จนกระทั่งมาจุดติดด้วยเรื่อง “สาปกระสือ” ที่ได้ “น้ำตาล- ชาลิตา ส่วนเสน่ห์” Miss Universe Thailand ปี 2016 มาแสดงละครเป็นครั้งแรก

“สาปกระสือ” กลายเป็นละครที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของช่อง 8 ในปีนี้ ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยจากการออกอากาศครั้งแรก 24 ก.ย. – 12 พ.ย. อยู่ที่ 2.136 เป็นรายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่องในช่วงครึ่งปีหลัง แซงหน้าซีรีส์อินเดียที่กำลังออกอากาศอยู่ทั้งหมด

เมื่อถึงช่วงเทศกาลปลายปี ช่อง 8 จึงเอาบ้าง เมื่อละคร “ซิ่นลายหงส์” จะจบลงในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ จึงจัดละครมาราธอน ยิงยาวตั้งแต่ 25 ธ.ค. 61 – 2 ม.ค. 62 ในช่วงละครเย็น ก่อนจะเริ่มละครชุดใหม่ในหลังปีใหม่

เช่นเดียวกับทีวีดิจิทัลช่องอื่นๆ ผลประกอบการของอาร์เอส ไตรมาส 3/2561 ในส่วนธุรกิจทีวีดิจิทัลลดลงเช่นเดียวกับช่องอื่นๆ โดยในไตรมาส 3/2561 อาร์เอสมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมของไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ 837.3 ล้านบาท ลดลง 15.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 12.3% จากไตรมาส 2 ของปีนี้ มีกำไรอยู่ที่ 106.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวของปีที่แล้ว 13.9% และลดลงถึง 36.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้

อาร์เอสชี้แจงว่า สาเหตุที่รายได้และกำไรลดลง เป็นผลมาจากการลดลงของงบโฆษณาผ่านสื่อทีวีในไตรมาส 3 ลดลงต่อเนื่องทุกเดือน โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา งบโฆษณารวมลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งช่อง 8 ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ทำให้รายได้ส่วนนี้อยู่ที่ 300 ล้านบาท ลดลง 35.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากค่าโฆษณาที่ 463.1 ล้านบาท แต่โดยรวมที่กำไรเป็นผลจากธุรกิจ Home Shopping

การจัดละครมาราธอนในช่วงปลายปีของอาร์เอส จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดต้นทุน และสร้างการรับรู้ตลาดละครไทยของช่อง 8 ที่จะมีการขยายตลาดละครใหม่ในช่วงเย็นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ในปีหน้า เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวเลยทีเดียว.

]]>
1203824
จัดทีไร ได้ผล ละครมาราธอน ช่องวัน ดันละคร “เนตรนาคิน” เรตติ้งแรง เตรียมส่งต่อ “พรหมไม่ได้ลิขิต” บี้-เอสเธอร์ https://positioningmag.com/1193593 Fri, 19 Oct 2018 07:00:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1193593 ได้ผลทุกครั้งที่ช่องวันงัดกลยุทธ์ “ละครมาราธอน” ที่เป็นการนำละครที่กำลังออกอากาศมาจัดลงผังช่วงวันหยุดยาว คราวนี้เป็นคิวของละคร “เนตรนาคิน” ที่ช่องวัน จัดลงผังช่วงวันหยุด 13-15 ตุลาคมที่ผ่านมา

“เนตรนาคิน” ละครเรื่องที่ได้เรตติ้งสูงสุดของช่องวันในช่วงนี้ เป็นละครดราม่า แฟนตาซี ได้ ซูซี่- สุษิรา หรือ “แม่มะลิ” จากละคร “บุพเพสันนิวาส” ช่อง 3 ที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระ มารับบทเด่นในช่องวันเป็นครั้งแรก

เรตติ้งเปิดตัวอยู่ที่ 1.647 เป็นเรตติ้งที่ต่ำที่สุดของเรื่องนี้ เรตติ้งค่อนข้างสวิง ขึ้นๆ ลงๆ มาโดยตลอด จากการออนแอร์ 4 วันรวด จันทร์-พฤหัส เรตติ้งในช่วงวันจันทร์-อังคาร ที่มีละคร “บาปรัก” ออนแอร์ต่อ จะสูงกว่าช่วงวันพุธ-พฤหัส

เมื่อจัดลงช่วงละครมาราธอนวันหยุดที่ผ่านมา ออกอากาศตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนที่ 14 เรตติ้งไม่หวือหวามาก มาสูงสุดในตอนที่ 14 ด้วยเรตติ้ง 1.276 ก่อนที่จะเข้าช่วงออกอากาศสด ได้เรตติ้งขึ้นมาถึง 2.523 ในวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม และมาสูงสุดที่ 2.725 ในวันอังคารที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะช่วยส่งเรตติ้งตอนที่เหลือ ที่จะจบลงวันที่ 23 ตุลาคมนี้ เพื่อส่งไม้ต่อให้กับละครชุดใหม่ “พรหมไม่ได้ลิขิต”

“พรหมไม่ได้ลิขิต” ละครที่จับคู่ บี้ – สุกฤษฎิ์ และ เอสเธอร์ – สุปรีย์ลีลา มาแสดงด้วยกัน หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากละครเรื่อง “พรหมลิขิต” ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยประมาณ 3 สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของช่องวันในปี 2560 เป็นรองเพียง “ราชินีหมอลำ” ทำให้ช่องวันรีบจัดการส่งเรื่องต่อไปให้ทั้งคู่ทันที ด้วยเรื่องที่มีชื่อสอดคล้องกัน เป็นละครใหม่ที่ช่องวันหวังไว้เป็นหมัดเด็ดของช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ช่วงเวลาที่ออกอากาศละครมาราธอน ในวันหยุด ยังช่วยส่งให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา 8-14 ตุลาคม 2561 อยู่ที่ 0.558 สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.541 เล็กน้อย อยู่ในอันดับ 5 สามสัปดาห์ติดต่อกันแล้ว

]]>
1193593