ลำโพงอัจฉริยะ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 12 Mar 2018 03:04:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ผู้บริโภคไม่โอเค เมื่อ “ลำโพงอัจฉริยะ” หัวเราะได้เอง https://positioningmag.com/1161081 Sat, 10 Mar 2018 09:00:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1161081 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่แอมะซอน (Amazon) ต้องปวดหัว เมื่อพบว่า อะเล็กซ่า (Alexa) ผู้ช่วยดิจิทัลที่บริษัทพัฒนาขึ้นนั้น อยู่ดี ๆ ก็หัวเราะขึ้นมาได้เอง โดยมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์จำนวนมากออกมาทวีตถึงความผิดปกติดังกล่าวด้วยความไม่พอใจ บางรายถึงกับเลิกใช้งานกันไปเลย

จุดเริ่มต้นของความผิดปกตินี้อาจย้อนหลังไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อ CapHandlebar มีการทวิตว่า อยู่ดี ๆ อะเล็กซ่า (Alexa) ผู้ช่วยดิจิทัลจากแอมะซอน (Amazon) ก็หัวเราะขึ้นมาเฉย ๆ ขณะที่เธออยู่ในครัวคนเดียวจนทำให้เธอรู้สึกตกใจกลัว

หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากรายงานว่า พบเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเองเช่นกัน พร้อมกับบอกว่า เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังแล้วหลอน คล้ายกับเสียงจากภาพยนตร์สยองขวัญ ซึ่งนอกจากจะหัวเราะเองได้แล้ว อะเล็กซ่า ยังเอาแต่หัวเราะ ไม่ยอมทำงานตามที่เจ้าของสั่งอีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้ใช้หลายคนเกิดความกลัวจนต้องเลิกใช้งานไปในที่สุด

ล่าสุด แอมะซอน ได้ออกมาแถลงแล้วว่า ความผิดพลาดดังกล่าวนั้น เกิดจากการฟังคำสั่งเสียงผิดพลาด และได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ทำให้ต่อจากนี้ไป หากผู้ใช้งานมีการสั่งว่า “Alexa, laugh,” หรือ “Alexa, can you laugh?” อะเล็กซ่าก็จะไม่หัวเราะตอบกลับมาแล้ว แต่จะตอบเป็นว่า “Sure, I can laugh,” จากนั้น จึงจะหัวเราะให้ฟัง

พร้อมกันนี้ แอมะซอน ยังได้บอกว่า นี่เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้น้อยมากด้วย

ทั้งนี้ ความนิยมในลำโพงอัจฉริยะ และผู้ช่วยดิจิทัลในสหรัฐอเมริกานั้น เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมี Amazon Echo และ Google Home เป็นแกนนำด้านยอดขายในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งการสำรวจของ Gallup และมหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิร์น พบว่า หนึ่งในห้าของอเมริกันชนนั้น มีการใช้งานลำโพงอัจฉริยะนี้แล้วในบ้าน 

ที่ผ่านมา มีกรณีศึกษาของการใช้งานลำโพงเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ เช่น การที่เด็กสั่งของเล่นได้เอง โดยที่พ่อแม่ไม่ยินยอม ส่งผลให้เกิดคำสั่งซื้อที่ผิดพลาด หรือกรณีที่หลายคนกังวลว่า อุปกรณ์จะคอยสอดแนมความเป็นไปในบ้านของเราได้ตลอดเวลา 

นอกจากนั้น อุปกรณ์ยังถูกใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อการโฆษณาได้อีกด้วย โดยกรณีล่าสุดที่ฮอตมาก ๆ คือ เรื่องของเบอร์เกอร์คิง ที่ใช้โฆษณาทางทีวีไปปลุกกูเกิลโฮมให้เสิร์ชหาข้อมูลของวอปเปอร์เบอร์เกอร์กันจนวุ่นวายไปหมดนั่นเอง.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000024054

]]>
1161081
จับตา ! ตลาดช้อปปิ้งด้วยเสียงจะมีมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 https://positioningmag.com/1159867 Sun, 04 Mar 2018 00:15:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1159867 บริษัทที่ปรึกษา OC&C Strategy ออกมาคาดการณ์ตลาดการช้อปปิ้งด้วยเสียงว่าอาจมีการเติบโตถึง 1,900 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022 โดยคาดการณ์ว่าตลาดดังกล่าวจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากตอนนี้ที่ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนผู้ที่ผลักดันให้เทรนด์ดังกล่าวเติบโตก็คือลำโพงอัจฉริยะอย่าง Amazon Echo และ Google Home นั่นเอง 

ทั้งนี้ แอมะซอน มีแนวโน้มจะเป็นผู้นำในตลาดดังกล่าวด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุด เหตุมาจากแอมะซอนได้เริ่มทำตลาดนี้ก่อนใคร และทำให้ตอนนี้ยอดขายของ Amazon Echo มีสูงเหนือกว่าคู่แข่ง โดยคิดเป็นอัตราการใช้งานที่ 10 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยกูเกิล โฮม (Google Home) ที่ 4 เปอร์เซ็นต์ และคอร์ทานา (Cortana) จากไมโครซอฟท์ (Microsoft) 2 เปอร์เซ็นต์

ในส่วนของพฤติกรรมการช้อปปิ้งผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ พบว่า ผู้บริโภคมักใช้มันสั่งซื้อของใชภายในบ้านที่ราคาไม่แพง ไปจนถึงเสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 

ขณะที่ชื่ออย่างแอปเปิล (Apple) นั้นดูท่าจะต้องเหนื่อยมากสักหน่อยหากต้องการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มลำโพงอัจฉริยะนี้ เนื่องจากแอปเปิลไม่สามารถส่งโฮมพ็อด (HomePod) เข้ามาในตลาดได้ทันเทศกาลช้อปปิ้งเมื่อปีที่แล้ว ทำให้โอกาสที่จะทำยอดขายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของตัวเองในชาร์ตปีนี้ต้องถูกทิ้งห่างออกไปอีก

นอกจากนั้น นักวิเคราะห์จาก OC&C ยังมองว่า Siri ผู้ช่วยดิจิตอลของแอปเปิลยังต้องได้รับการอัปเกรดความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้ตามทันผู้นำตลาดอย่างแอมะซอนและกูเกิลด้วย

จากภาพการแข่งขันทั้งหมดนี้ ตลาดการสั่งการด้วยเสียงกำลังเป็นตลาดที่มีการเติบโต ซึ่งจะนำไปสู่การช้อปปิ้งผ่านอุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวในอีกไม่นานนับจากนี้.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000021456

]]>
1159867
กลางปีนี้ได้เห็น เฟซบุ๊กเตรียมคลอด “ลำโพงอัฉริยะ” ใช้ชื่อโค้ดเนม “อะโลฮ่า-ฟิโอน่า” https://positioningmag.com/1157202 Fri, 16 Feb 2018 03:32:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157202 ภาพจากรอยเตอร์

ปล่อยให้เพื่อน ๆ ในวงการเดียวกันผลิตลำโพงอัจฉริยะไปแล้วนักต่อนัก ล่าสุดเป็นไปได้ว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) ก็อาจเปิดตัวลำโพงอัจฉริยะของตนเองที่มีโค้ดเนมว่า อะโลฮ่า (Aloha) และฟิโอน่า (Fiona) บ้างแล้วเช่นกัน

โดยผู้ที่ออกมาเผยว่า เฟซบุ๊กมีกำหนดการเปิดตัวของลำโพงอัจฉริยะนั้นคือเว็บไซต์ดิจิไทม์ส (Digitimes) ที่อ้างแหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรมว่า อุปกรณ์ของเฟซบุ๊กนั้นมาพร้อมหน้าจอขนาด 15 นิ้วจากแอลจี (LG) และอาจทำให้มันกลายเป็นคู่แข่งของแอมะซอนได้เลยทีเดียว

นอกจากดิจิไทม์สแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีสื่ออย่างบลูมเบิร์กออกมาคาดการณ์เช่นกันว่า เฟซบุ๊กอยู่ระหว่างการพัฒนาลำโพงอัจฉริยะสองรุ่น และมีผู้ช่วยดิจิตอลคล้าย ๆ กับ Siri ของแอปเปิล (Apple) คอยรับคำสั่งด้วย และ Business Insider เองก็เผยชื่อออกมาว่า มันคืออะโลฮ่านั่นเอง

มากไปกว่านั้น ซีอีโอเฟซบุ๊กอย่างมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กก็เป็นคนที่คลั่งไคล้ระบบอัจฉริยะในบ้าน ซึ่งเขาได้พัฒนาจาร์วิส (Jarvis) ขึ้นมาในฐานะผู้ช่วยส่วนบุคคล และสร้างระบบออโตเมชันให้กับบ้านของตัวเองมาแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจหากจะมีการพัฒนาระบบผู้ช่วยส่วนบุคคลสำหรับให้บริการกับผู้ใช้งานรายอื่น ๆ

นอกจากนั้น เฟซบุ๊กยังมีการขยายตัวออกไปยังอุตสาหกรรมเพลงและภาพยนตร์ เช่น การจับมือกับโซนี่ (Sony) เมื่อช่วงต้นปี หรือการพูดคุยกับมีเดียบายเออร์ ในการนำวิดีโอมาลงในแพลตฟอร์มวอทช์ (Facebook Watch) ของตนเอง ซึ่งอาจทำให้เฟซบุ๊กก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งของยูทูป (YouTube) ได้ในอนาคต โดยคอนเทนต์ทั้งหลายเหล่านี้มีส่วนช่วยให้เฟซบุ๊กสามารถนำไปให้บริการร่วมกับผู้ช่วยส่วนบุคคลและธุรกิจ Smart Speaker ในอนาคตได้เป็นอย่างดี

การเข้าสู่ตลาด Smart Speaker ของเฟซบุ๊กยังอาจทำให้ตลาดนี้ร้อนแรงมากขึ้น โดยบริษัทวิจัยตลาดอย่างคานาลีส (Canalyse) วิเคราะห์ว่า จากเดิมที่มีผู้เล่นอย่างแอมะซอน แอปเปิล กูเกิล และบริษัทสัญชาติจีนอย่างอาลีบาบา (Alibaba) การมาถึงของเฟซบุ๊กอาจทำให้ตลาดนี้เติบโตและมีสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 50 ล้านเครื่องในปี 2018 เลยทีเดียว 

โดยในฟากของแหล่งข่าวจากโรงงานผู้ผลิตระบุว่า อาจได้เห็นการเปิดตัวอุปกรณ์ดังกล่าวจากเฟซบุ๊กได้ในเดือนพฤษภาคมนี้เป็นอย่างเร็ว ซึ่งบริษัทที่รับหน้าที่ผลิตหน้าจอคือ แอลจีดิสเพลย์ (LG Displays) ส่วนตัวเครื่องเป็นบริษัทจากไต้หวันชื่อ เพกาทรอน (Pegatron) อย่างไรก็ดี ทั้งสองบริษัทต่างไม่ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมแต่อย่างใด

แต่ถ้าหากว่าอุปกรณ์ของเฟซบุ๊กมีขนาดจอ 15 นิ้วจริงตามที่สื่อรายงาน ก็เป็นไปได้ว่า เฟซบุ๊กจะกลายเป็นคู่แข่งตัวจริงเสียงจริงของแอมะซอน เอ็คโค่ (Amazon Echo) แถมยังอาจเหนือกว่าเนื่องจากหน้าจอของเฟซบุ๊กใหญ่กว่าด้วยนั่นเอง.

สนับสนุนข่าวโดย : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000016021

]]>
1157202
โฮมพ็อด ลำโพงอัจฉริยะมาแล้ว แอปเปิลให้พรีออเดอร์ศุกร์นี้ ขายจริง 9 กุมภาพันธ์ https://positioningmag.com/1154399 Wed, 24 Jan 2018 05:59:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1154399 แอปเปิล (Apple) ออกมาประกาศแล้วว่าจะเปิดตัวลำโพงอัจฉริยะโฮมพ็อด (HomePod) ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ รวมถึงเปิดให้พรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 มกราคม โดยสามประเทศแรกที่จะได้สัมผัสโฮมพ็อดก่อนใคร คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย ส่วนฝรั่งเศส และเยอรมนีนั้น คาดว่าจะเปิดตัวตามมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

จากที่เคยได้รับการคาดหมายว่า โฮมพ็อดของแอปเปิลจะเปิดตัวได้ทันเทศกาลชอปปลายปี 2017 แต่ปรากฏว่าดีเลย์จนทำให้ไม่สามารถคว้ายอดขายในช่วงนั้นได้ทัน ปล่อยให้แอมะซอน เอ็คโค่ (Amazon Echo) และกูเกิลโฮม (Google Home) แข่งกันขายไปในหลักสิบล้านเครื่อง ล่าสุด ทางแอปเปิล ได้ออกมาประกาศแล้วว่า โฮมพ็อดของตนเองนั้น พร้อมจำหน่ายแล้วที่ราคา 349 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11,000 บาท 

อย่างไรก็ตาม แอปเปิล บอกด้วยว่า แอปเปิลนั้นแข่งคนละตลาดกับสองเจ้าแรก อย่างแอมะซอน และกูเกิล ที่เน้นขายลำโพงราคาประหยัด เนื่องจากคู่แข่งของโฮมพ็อด แท้จริงแล้วเป็นกลุ่มโซโนส (Sonos) ซึ่งเป็นลำโพงอัจฉริยะระดับไฮเอนด์ต่างหาก 

ส่วนการดีเลย์ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีรายงานว่ามีผลทำให้โฮมพ็อด แตกต่างไปจากเวอร์ชันที่เคยเปิดตัวในงาน WWDC แต่อย่างใด โดยโฮมพ็อด จะยังเป็นลำโพงที่เน้นคุณภาพเสียง และเพลงดี ๆ มากกว่าจะเน้นที่ความอัจฉริยะของตัวสินค้า

แต่ที่ลืมไม่ได้ก็คือ โฮมพ็อดจะมาพร้อมผู้ช่วย Siri ด้วย รวมถึงต้องรองรับบริการ Apple Music ส่วนแอปพลิเคชันคู่แข่งอย่างสปอติฟาย (Spotify) นั้น อาจไม่สามารถให้ Siri ลงไปซัปพอร์ตได้

นอกจากนั้น ในส่วนของฟีเจอร์อย่างมัลติรูมก็จะยังไม่ซัปพอร์ต ต้องรอให้มีการอัปเดตซอฟต์แวร์ก่อน จึงจะใช้งานได้

สนับสนุนข่าวโดย : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000007502

]]>
1154399
อาลีบาบา ลุยสมาร์ทโฮม หลังขายลำโพงอัจฉริยะได้ทะลุ 1 ล้านเครื่องในเทศกาลชอปปิ้ง https://positioningmag.com/1153478 Sun, 14 Jan 2018 04:32:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1153478 อาลีบาบา (Alibaba) จับมือบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกจากเกาะไต้หวัน มีเดียเทค (MediaTek) ร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศสำหรับเทคโนโลยี IoT แล้ว โดยการพัฒนาครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งในส่วนของโปรโตคอลเพื่อบ้านอัจฉริยะ, ชิป IoT และฮาร์ดแวร์ด้าน AI ซึ่งมองว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะนำไปสู่โซลูชันบ้านอัจฉริยะสำหรับใช้งานทั้งในตลาดจีน และตลาดโลก ที่เริ่มเปิดรับเทคโนโลยีดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ 

ความร่วมมือกันครั้งนี้มีการลงนามกันอย่างเป็นทางการในงาน CES 2018 ที่สหรัฐอเมริกา และได้มีการแนะนำโซลูชัน SmartMesh ตัวใหม่ที่สามารถซัปพอร์ตการเชื่่อมต่อแบบ Many-to-Many บนเครือข่าย Bluetooth Mesh ได้ 

โซลูชันนี้พัฒนาจากโปรโตคอล IoT ชื่อ IoTConnect และใช้ร่วมกับชิปที่ทางอาลีบาบา กับมีเดียเทค พัฒนาขึ้น ซึ่งจะอนุญาตให้อุปกรณ์ IoT ในบ้านเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติกับลำโพงอัจฉริยะอย่าง ทีมอลล์ จีนี่ (Tmall Genie) ของอาลีบาบาได้เลย

การเคลื่อนไหวของอาลีบาบาในครั้งนี้ส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฮมอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยข้อมูลจากซีออน มาร์เก็ต รีเสิร์ช (Zion Market Research) บริษัทวิจัยตลาดระบุว่า มูลค่าตลาดสมาร์ทโฮมมีแนวโน้มจะก้าวขึ้นไปแตะที่ 53,450 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2022 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 14.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และเป็นตลาดที่พี่น้องตระกูลค้างคาวอย่างไป่ตู้ (Baidu) อาลีบาบา และเท็นเซนต์ (Tencent) ต่างก็เข้ามาอยู่ตลาดนี้กันครบทุกแบรนด์แล้ว

การมี IoTProtocol สำหรับฝั่งผู้บริโภค ถือได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายตัวในพอร์ทัลเดียว ซึ่งเท่ากับช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้ง การตั้งค่าพาสเวิร์ดต่าง ๆ ลงได้ ขณะที่ในฝั่งผู้ผลิต การมีโปรโตคอลขึ้นมาเป็นการเฉพาะก็เท่ากับช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบเชื่อมต่อของอุปกรณ์ เพราะมีตัวโปรโตคอลมาตรฐานแล้ว และที่สำคัญที่สุด คือ มันจะนำไปสู่การพัฒนาบ้านอัจฉริยะที่มีผู้ช่วย AI แบบที่สั่งการได้ด้วยเสียงได้อย่างเป็นระบบ

อีกหนึ่งตัวเลขที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในเทศกาลชอปปิ้งของจีนนั้น อาลีบาบา สามารถทำยอดขายทีมอลล์ จีนี่ ลำโพงอัจฉริยะได้มากกว่า 1 ล้านชิ้น เฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ ดังนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า จีนเองก็กำลังจะกลายเป็นมหาอำนาจด้านผู้ช่วยสั่งการด้วยเสียงที่น่าจับตาไม่แพ้ฝั่งสหรัฐอเมริกาที่มีแอมะซอน อเล็กซ่า (Amazon Alexa) และกูเกิล แอสซิสแทนต์ (Google Assistant) แล้วเช่นกัน.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000003988

]]>
1153478
“สมาร์ทวอชท์” เจอทางตันตลาดไม่โต ลำโพงอัจฉริยะแซงหน้า https://positioningmag.com/1151743 Tue, 26 Dec 2017 00:07:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1151743 บริษัทวิจัยตลาด อีมาร์เก็ตเตอร์ (eMarketer) ชี้ ยังไม่พบปัจจัยที่ทำให้ตลาดสมาร์ทวอชท์เติบโตในปี 2018 มากนัก โดยอาจโตเพียง 11.8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 และอาจลดอัตราการเติบโตลงเหลือเพียงเลขหลักเดียวในปี 2019

เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากสมาร์ทวอชท์นั้นยังไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วไป กลุ่มคนที่ซื้อใช้จึงมักเป็นกลุ่ม Early adopters ซึ่งอาจเป็นคนที่ชื่นชอบในเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือเป็นสาวกของแบรนด์ต่าง ๆ อีกปัญหาหนึ่งคือ ราคาของสมาร์ทวอชท์ ที่บางรุ่นราคาเท่ากับ หรือแพงกว่าสมาร์ทโฟนเสียอีก นั่นจึงทำให้ผู้บริโภคทั่วไปมองว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ

ซินดี หลิว (Cindy Liu) นักวิเคราะห์จาก eMarketer เผยว่า เหตุที่คาดการณ์ในลักษณะดังกล่าวเนื่องจากในปีนี้เป็นปีที่สมาร์ทวอชท์ มีการพัฒนาสินค้าให้มีความแปลกแหวกแนวมากขึ้น เช่น รุ่นสำหรับนักกีฬา หรือรุ่นที่ตกแต่งด้วยจิวเวลรีหรูหรา แต่การเติบโตของตลาดสมาร์ทวอชท์ก็ยังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นหมายความว่า เรื่องของการออกแบบนั้นไม่สามารถช่วยได้

โดยตลาดที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตแซงหน้าก็คือลำโพงอัจฉริยะ ที่พบว่าในช่วงเทศกาลจับจ่ายซื้อของปลายปีนี้ มียอดการซื้อพุ่งสูงมาก จึงคาดการณ์ว่า ลำโพงอัจฉริยะจะถูกเลือกเป็นของขวัญให้กับคนรักเทคโนโลยีในปีนี้มากกว่าสมาร์ทวอชท์ อีกทั้งมันยังมีราคาที่จับต้องได้อีกด้วย

ที่ผ่านมาต้องบอกว่า eMarketer คาดการณ์ผิดเกี่ยวกับตลาดสมาร์ทวอชท์ไปมากพอสมควร โดยในช่วงปลายปี 2015 บริษัทเคยคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการเติบโตของตลาดสมาร์ทวอชท์ในปี 2016 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มผู้บริโภควัยผู้ใหญ่ ขณะที่ยอดเติบโตจริงนั้นพบว่ามีเพียง 24.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

มาในปีนี้ การคาดการณ์จึงน้อยลงไปกว่าเดิมอีก เมื่อ eMarketer คาดการณ์ว่าในปี 2018 ตลาดสมาร์ทวอชท์จะเติบโตประมาณ 11.9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 

“ทุกการเติบโตที่เราเห็นจากตลาด Wearable นั้นมาจากลูกค้ากลุ่ม Early Adopters เป็นหลัก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอุปกรณ์ที่ตลาดสุขภาพและฟิตเนสต้องการมากขึ้น แต่เราก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอุปกรณ์ wearable ตัวใดจะก้าวขึ้นมาเป็นไอเท็มที่ผู้บริโภคต้องมีไว้ใช้งานเลย” ซินดี หลิวกล่าว.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000129711

]]>
1151743
คาดลำโพงอัจฉริยะจะครองส่วนแบ่งตลาด 50% ในเวลาไม่ถึง 5 ปี https://positioningmag.com/1143822 Thu, 19 Oct 2017 03:23:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1143822 มีการวิจัยจากบริษัทแอคทิเวท (Activate) พบอุปกรณ์อย่างลำโพงอัจฉริยะ (Smart Speaker) เช่น แอมะซอน เอ็คโค่ (Amazon Echo) กูเกิล โฮม (Google Home) หรือแอปเปิล โฮมพ็อด (Apple HomePod) เป็นสินค้าหมวดคอนซูเมอร์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์

ไมเคิล เจ. วูฟ (Micheal J. Wolf) ซีอีโอบริษัทแอคทิเวท ผู้เปิดเผยผลการศึกษาครั้งนี้เผยว่า ในตลาดสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์อย่างลำโพงอัจฉริยะนั้นมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ส่วนสมาร์ทโฟนตกเป็นเบอร์สอง 

โดยจากกราฟ ได้มีการคาดการณ์ว่า ลำโพงอัจฉริยะนั้นจะใช้เวลาในการเติบโตจนครองส่วนแบ่งตลาด 50% ได้ในเวลาไม่เกิน 5 ปี ในขณะที่สมาร์ทโฟน ทีวีดิจิตอล วิทยุ อินเทอร์เน็ต และคอมพิวเตอร์นั้นใช้เวลานานกว่า 5 ปีทั้งสิ้น

มากไปกว่านั้น ยอดขายที่เพิ่มขึ้นของลำโพงอัจฉริยะยังอาจนำไปสู่การใช้งานรูปแบบใหม่ ๆ เช่น นำไปใช้ร่วมกับแอปพลิเคชันส่งข้อความ เช่น วอทส์แอป (WhatsApp) ซึ่งจะช่วยให้ตลาดนี้เติบโตได้อีกมากด้วย

ทั้งนี้ ทางบริษัทได้มีการคาดการณ์ว่า ยอดขายของลำโพงอัจฉริยะจะเติบโตสูงสุดใน 2 – 3 ปีข้างหน้า และเทคโนโลยีอัจฉริยะจะเริ่มขยายขอบเขตการทำงานไปสู่อุปกรณ์ภายในบ้านอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ในห้องครัว 

โดยผู้ที่จะมาเสริมความร้อนแรงของตลาดนี้อีกหนึ่งรายก็คือ โฮมพ็อด จากแอปเปิลที่มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้ในราคา 349 เหรียญสหรัฐ กับสีให้เลือกคือสีขาวและสีสเปซเกรย์ ซึ่งแอปเปิลระบุว่าในเฟสแรกจะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลียก่อน จากนั้นค่อยเริ่มวางจำหน่ายในตลาดอื่น ๆ ต่อไปในปี 2018

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000106431

]]>
1143822
Google VS Amazon สงครามครั้งใหม่ใครจะครอง https://positioningmag.com/1143777 Wed, 18 Oct 2017 23:05:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1143777 ถ้าเป็นในอดีต คู่ชกในสังเวียน “เทคโนโลยี” คงไม่มีใครเกินการต่อสู้ระหว่างยักษ์ใหญ่ Apple VS IBM ในการช่วงชิงระบบปฏิบัติการระหว่าง Mac VS Windows ก่อนจะมาถึงยุคของสมาร์ทโฟน ที่คู่แข่งบนเวที iPhone VS Android เวลานี้ คลื่นลูกใหม่แห่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังพัดเข้ามาแล้ว นั่นคือ เวทีแข่งขันครั้งสำคัญระหว่าง Google และ Amazon

เมื่อ Google กำลังจะส่งทัพสินค้าฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ลงสู่ตลาด ซึ่งจะมีทั้งโทรศัพท์สมาร์ทโฟน Pixel ตัวใหม่, ลำโพงอัจฉริยะ Google Home และแล็ปท็อป Chrome book รุ่นใหม่ด้วย ซึ่งทั้งหมดจะมี Google Assistant ฟังก์ชันผู้ช่วยส่วนตัวของทาง Google เป็นส่วนประกอบสำคัญ

โทรศัพท์ Pixel ตัวแรกของ Google ที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน เป็นสินค้าตัวแรกที่มีฟังก์ชันผู้ช่วยที่จะคล้ายๆ กับ Siri ของทาง Apple ส่วนลำโพงอัจฉริยะ Google Home ที่เปิดตัวเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน ก็มีฟังก์ชันผู้ช่วยที่สั่งงานด้วยเสียงเป็นหลักเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น เร็วๆ นี้ฟังก์ชันผู้ช่วยอัจฉริยะยังจะมาพร้อมในแล็ปท็อป Chrome book รุ่นราคาถูกของ Google ด้วย

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Google น่าจะเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อ Alexa ของ Amazon ที่เป็นผู้บุกเบิกด้านผู้ช่วยอัจฉริยะที่สั่งงานด้วยเสียง และมีสินค้ายอดฮิตอย่าง Echo ลำโพงอัจฉริยะชื่อดัง โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน Amazon ได้เผยโฉมสินค้าตัวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Echo ใหม่ 3 รุ่น, อุปกรณ์ใหม่ๆ หลายๆ อย่าง และ Fire TV รุ่นใหม่ด้วย

ทัพใหญ่ของ Amazon

แน่นอนว่าการแข่งขันกันในสนามของ “ผู้ช่วยอัจฉริยะที่สั่งงานด้วยเสียง” นั้น เป็นแค่หนึ่งในสนามรบของ Amazon กับ Google เท่านั้น แต่ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมยังมีการแข่งขันกันในอีกหลายๆ ด้าน

ทั้ง 2 บริษัทยังเป็นคู่แข่งกันโดยตรงในตลาดของ คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) โดยทาง Amazon เพิ่งจะปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับ Chromecast ของ Google และเลือกที่จะพัฒนาระบบแอนดรอยด์สำหรับแท็บเล็ต และสำหรับ Fire TV โดยจะไม่เชื่อมไปถึงแอปสตอร์ Play ของทาง Google

ขณะที่ทาง Google ก็กำลังพยายามพัฒนาช่องทางจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ขึ้นมาแข่งขันกับ Amazon

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การแข่งขันระหว่าง Alexa และ Google Assistant น่าจะเป็นการแข่งขันโดยตรงที่เห็นได้อย่างชัดเจน และเห็นผลมากที่สุด

ภาพจาก : https://www.amazon.com/Amazon-Echo-Bluetooth-Speaker-with-WiFi-Alexa/dp/B00X4WHP5E

สำหรับ Amazon แล้ว Alexa คือสินค้าที่อาจจะเปลี่ยนแปลงบริษัทไปโดยสิ้นเชิง หาก Alexa และ Echo ไม่ประสบความสำเร็จ ทาง Amazon ก็คงกลับไปเน้นการดำเนินธุรกิจด้านค้าปลีกเต็มตัวเหมือนเดิม แต่หากรุ่งขึ้นมา ว่ากันว่า Alexa จะทำให้ Amazon เหมือนติดจรวด เพราะเชื่อกันว่าฟังก์ชันการสั่งงานด้วยเสียงของสินค้าตัวนี้ จะทำให้การสั่งของจาก Amazon สะดวกสำหรับลูกค้ามากขึ้นหลายเท่า

การเชื่อมกันโดยตรงของ Alexa และเว็บไซต์ของทาง Amazon ก็เป็นคุณสมบัติที่ทาง Google ควรจะหวาดหวั่นอยู่แล้ว เพราะปกติเมื่อผู้ใช้ต้องการซื้อสินค้า ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะนึกถึง Amazon ก่อน มากกว่าที่จะไปค้นหาสินค้าจากเสิร์ชเอนจินของ Google ทำให้ตอนนี้โฆษณาก็เริ่มไหลจาก Google ไปหา Amazon มากขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว

ปัญหาใหญ่ที่สุดของ Google ก็คือการที่บริษัทพึ่งพิงรายได้จากโฆษณาเป็นหลัก ซึ่งหาก Alexa ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้ใช้สั่งซื้อของจาก Amazon ได้ง่ายขึ้น Amazon ก็จะสามารถดึงโฆษณาไปจาก Google ได้โดยตรง ซึ่งนั่นก็เหมือนกับทัพใหญ่ของ Google จะถูกโจมตีโดยตรง

แม้ทาง Google จะไม่ได้นิ่งเฉย เพราะตอนนี้เริ่มมีการทดลองการโฆษณาทาง Google Assistant  บ้างแล้ว แต่ทาง Google ก็ยังไม่สามารถหาวิธีที่จะโฆษณาสินค้าโดยไม่รบกวนผู้ใช้มากเกินไปได้ซะที อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ที่ทาง Google ได้ทดลองโฆษณาหนัง Beauty and the Beast ของ Disney ผ่านทางลำโพง Google Home แต่ผลก็ออกมาย่ำแย่ เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ต่างบ่นกันเป็นเสียงเดียวกันว่ารำคาญโฆษณาดังกล่าว

ภาพจาก : https://9to5google.com/2017/09/27/exclusive-google-is-developing-a-higher-end-google-home-max-w-stereo-speakers/

Google ส่ง Assistant สู้ศึก Alexa

แต่แม้จะมีปัญหาหลายๆ ด้าน ให้ต้องแก้ แต่ Google ก็ยังพอจะมีความหวัง

จากความเห็นของสื่อด้าน IT มีไม่น้อยที่ยอมรับตรงๆ ว่าชอบ Google Assistant มากกว่า Alexa เพราะหลังได้ลองใช้งานแล้ว หลายคนรู้สึกว่าสินค้าของทาง Google “ฉลาด” และตอบสนองได้ดีกว่า Google Assistant สามารถให้คำตอบกับเรื่องต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นคำถามไร้สาระอย่าง “Google, สงครามฮอกวาร์ดส์ นี่เกิดขึ้นเมื่อไหร่นะ?” หรือเรื่องจริงจังอย่าง “เราจะทิ้งเครื่องดับเพลิงเก่าๆ ยังไงดี?” Google Assistant ก็ตอบได้อย่างชัดเจน

ความสามารถของ Google Assistant คือจุดแข็งของสินค้าตัวนี้ เพราะคงไม่มีใครที่จะสู้กับคลังข้อมูลมหาศาลของทาง Google ที่เก็บ และจัดระบบมานานได้ และยิ่ง Google Assistant ทำงานได้มีประสิทธิภาพเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้สินค้าประเภทเดียวกันของเจ้าอื่นรวมถึง Alexa ของ Amazon อยู่ในสายตาของผู้ใช้ที่เคยผ่านสินค้าของ Google มาแล้ว น้อยลงเรื่อยๆ

โดยคนในแวดวงธุรกิจมองว่า ณ ขณะนี้ Google เพียงต้องการตั้งรับในตลาดของ ผู้ช่วยอัจฉริยะ เท่านั้น Google พัฒนา Google Assistant ขึ้นมา และใส่เข้าไปในสินค้าของบริษัท รวมถึงอนุญาตให้ผู้ผลิตรายอื่นสามารถใช้ Google Assistant ได้ด้วย ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นการพยายาม “ขัดขา” Alexa ของ Amazon เป็นเป้าหมายสำคัญ

แต่ก็ใช่ว่า Google จะไม่ขยับเดินหน้าไปมากกว่านี้ เพราะบริษัทก็มีแผนการเชิงรุกเช่นเดียวกัน อย่างที่ล่าสุด Google ได้จับมือกับ Walmart เพื่อนำเสนอบริการสั่งสินค้าด้วยเสียง ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่ได้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Amazon แต่ก็เป็นการเริ่มต้นธุรกิจค้าปลีกของ Google และยังน่าจะช่วย “กัน” ไม่ให้ลูกค้าของทาง Google หันไปมองฝั่ง Amazon ได้บ้าง นอกจากนั้นในทางตรงกันข้ามก็อาจจะทำให้แฟนๆ ของ Amazon เริ่มแล Google มากขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา Amazon แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมที่จะผลักดัน Alexa อย่างเต็มกำลัง ขณะที่ Google ก็ต้องทั้งขัดขว้างไม่ให้คู่แข่งสำคัญอย่าง Amazon เดินหน้าได้อย่างที่วางแผนเอาไว้ และทาง Google ก็ต้องนำเสนอด้วยว่าพวกเขามีอะไรใหม่ๆ ที่จะเพิ่มเติมให้กับตลาดบ้าง

ไม่ว่าสุดท้ายสงครามครั้งนี้จะจบลงยังไง ก็น่าจะเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจสำหรับกองเชียร์ และผู้สังเกตการณ์ทุกคน


ที่มา : uk.businessinsider.com/google-pixel-2-versus-amazon-echo-and-alexa-2017-9?utm_content=buffer4ca28&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer-tiuk

]]>
1143777
กูเกิลเปิดตัวกองทัพอุปกรณ์ในตระกูล Pixel https://positioningmag.com/1142387 Thu, 05 Oct 2017 04:23:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1142387 กูเกิล (Google) เจ้าพ่อเสิร์ชเอนจิ้นเปิดตัวกองทัพอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ใหม่เพื่อทำตลาดปีนี้ จัดเต็มสมาร์ทโฟนใหม่ 2 รุ่น, แล็ปท็อปกึ่งแท็บเล็ต, หูฟังไร้สาย และลำโพงอัจฉริยะ 2 รุ่น ครั้งนี้กูเกิลเพิ่มความสามารถให้สมาร์ทโฟน Pixel รุ่นใหม่เหนือชั้นกว่ารุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นเช่น Google Home Max ลำโพงอัจฉริยะระดับท็อปถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตลาด

Pixel 2 ต่างแค่เครื่องใน

สมาร์ทโฟน Pixel 2 รุ่นใหม่มีขนาดและการออกแบบไม่ต่างจากรุ่นปีที่แล้ว รุ่นความจุ 64GB เริ่มต้นที่ 649 เหรียญสหรัฐ (ราว 21,700 บาท) ขณะที่รุ่น 128GB เริ่มต้นที่ 749 เหรียญหรือประมาณ 25,000 บาท ผู้ใช้ในสหรัฐฯสามารถสั่งซื้อที่ร้านเวอไรซอน (Verizon) และที่เพจร้านค้าของกูเกิลในขณะนี้

Pixel 2 ใหม่จะมี 3 สี ได้แก่ ขาวใส, สีดำ และสีฟ้าอ่อน โดยรุ่นสีฟ้าจะมีปุ่มสีฟ้าใสที่ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ทั้งหมดนี้ Pixel 2 มีหน้าจอขนาด 5 นิ้วเทคโนโลยี Amoled มีลำโพงด้านหน้าเครื่อง มีคุณสมบัติชื่อ “active edge” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้บางแอปพลิเคชันด้วยการบีบเครื่อง กำหนดการจัดส่งคือ 17 ตุลาคมนี้

Pixel 2 XL ใหญ่กว่าเท่านั้น

Pixel 2 XL ถูกยกเป็น Pixel 2 ที่มีหน้าจอใหญ่กว่าเป็น 6 นิ้ว คุณสมบัติทุกอย่างใน Pixel 2 XL มีไม่ต่างจาก Pixel 2 จุดต่างที่ชัดเจนคือหน้าจอเทคโนโลยี Poled ที่ดูสูงกว่าหน้าจอสมาร์ทโฟนทั่วไป แถมยังให้ความรู้สึกคล้ายกับ Samsung Galaxy S8

Pixel 2 XL มีหน้าจอแสดงผลแบบพร้อมตลอดเวลา (เช่นเดียวกับ Pixel 2) กล้องด้านหลังรูรับแสง f / 1.8 ขนาด 12.2 ล้านพิกเซล มีโหมดถ่ายภาพบุคคลแนวตั้งหรือ portrait บนกล้องด้านหน้าและด้านหลัง, ชาร์จไฟได้รวดเร็ว, กันน้ำ, และมีขอบจอที่เพรียวบางกว่า Pixel 2

Pixel 2 XL มีให้เลือกเพียงสีดำหรือขาว ราคาเริ่มต้นที่ 849 เหรียญ (ราว 28,400 บาท) สามารถสั่งจองล่วงหน้าเพื่อรับสินค้าในเดือนธันวาคม

Google Home Mini แข่งดุ

Google Home Mini เป็นสินค้าที่กูเกิลส่งมาต่อกรกับอุปกรณ์ใหม่ที่แอมะซอนเพิ่งเปิดตัวไปอย่าง Amazon Echo Dot เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลำโพงสำหรับบ้านอัจฉริยะขนาดเล็กที่มีระบบผู้ช่วยส่วนตัวอยู่ภายใน

Google Home Mini ที่เทียบได้กับ Google Home รุ่นจิ๋วที่มี Google Assistant พร้อมให้บริการ มีให้เลือกสามสีคือส้ม เท่าอ่อน และเทาเข้ม ราคา 49 เหรียญหรือราว 1,650 บาท พร้อมจำหน่ายวันที่ 19 ตุลาคม แต่เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันพุธ

Google Home Max

นี่คือรุ่นใหญ่ที่กูเกิลส่งมาตอบโจทย์ตลาดลำโพงอัจฉริยะซึ่งต้องการคุณภาพเสียงสุดยอด Google Home Max จะทำให้ระบบผู้ช่วยส่วนตัว Google Assistant สามารถให้บริการคอเพลงหูทองได้แบบไม่ติดขัด ลำโพงมีวูฟเฟอร์ขนาด 4.5 นิ้วและทวีตเตอร์หลายตัวที่ช่วยขับให้คุณภาพเสียงมีมิติ แถมยังมีพอร์ตเพื่อให้ผู้ใช้เสียบเชื่อมกับอุปกรณ์ใดก็ได้ตามต้องการ

กูเกิลคุยฟุ้งว่า Google Home Max มีประสิทธิภาพมากกว่า Google Home เดิมราว 20 เท่า กำหนดการเริ่มจำหน่ายคือเดือนธันวาคม สนนราคา 400 เหรียญ ราว 13,400 บาท

Pixelbook แล็ปท็อปล่าสุด

แล็ปท็อปรุ่นล่าสุดของกูเกิลมาในรูปลูกผสม “แล็ปท็อป-แท็บเล็ต” ที่สามารถใช้งานได้ 2 แบบในเครื่องเดียว โดย Pixelbook มาพร้อมหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วน้ำหนักประมาณ 2.2 ปอนด์ บางเฉียบเพียง 10 มิลลิเมตร

Pixelbook ใช้ระบบปฏิบัติการโครมโอเอส (Chrome OS) ที่กูเกิลพัฒนาขึ้นเอง อายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องประมาณ 10 ชั่วโมง

อุปกรณ์เสริมของ Pixelbook คือปากกา Pixelbook Pen ราคา 99 เหรียญ (3,300 บาท) ซึ่งสามารถเขียนและวาดบนหน้าจอได้ไว ปากกามีปุ่มสำหรับเรียกระบบผู้ช่วย Google Assistant ซึ่งทำให้หากผู้ใช้วาดภาพวงกลมรอบสิ่งใดบนหน้าจอขณะที่กดปุ่ม ระบบของกูเกิลจะค้นหาทันทีว่าสิ่งที่ถูกวงกลมไว้นั้นคืออะไร

Pixelbook มีราคา 999 เหรียญ (33,400 บาท) และพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว

Pixel Buds แปลภาษาเรียลไทม์

เพื่อชิงชัยกับหูฟัง AirPod ของ Apple กูเกิลส่ง Pixel Buds หูฟังไร้สายที่ทำงานร่วมกับผู้ช่วย Google Assistant ได้ มี 3 สีคือสีดำ ขาวใส และฟ้าอ่อน เหมือนกับ Pixel 2 ตัวเครื่องขายพร้อมชุดชาร์จแบตเตอรี่พกพา

คุณสมบัติสำคัญคือหูฟังไร้สายรุ่นนี้สามารถแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้ 40 ภาษา Pixel Buds มีราคา 160 เหรียญ (5,400 บาท) และจะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน

Google Clips กล้องฉลาด

Google Clips เป็นกล้องไร้สายที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อถ่ายภาพและวิดีโอโดยอัตโนมัติ ระบบจะสามารถสังเกตช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจับภาพ นอกจากนี้ ระบบจะยิ่งฉลาดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้การจับภาพทำได้ดียิ่งขึ้น

Clips มีพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB ให้มุมมองกว้าง 130 องศาและไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อถ่ายภาพ กล้องสามารถตั้งได้ด้วยตัวเอง หรือติดคลิปเพื่อยึดกับสิ่งของทั่วไป

กล้อง Clips มีค่าใช้จ่าย 249 เหรียญสหรัฐฯ (8,300 บาท) กำหนดจำหน่ายคือเร็ว ๆ นี้

Daydream View

Daydream View ไม่ทิ้ง VR

ชุดอุปกรณ์สวมศีรษะเทคโนโลยีเสมือนจริงหรือ VR ของกูเกิลอย่าง Daydream View ถูกปรับปรุงเล็กน้อยในรุ่นใหม่ มีเพิ่ม 3 สีใหม่คือเทาเข้ม เทาอ่อน และส้มเช่นเดียวกับ Google Home Mini 

แม้ว่าจะใช้วัสดุผ้าอ่อนนุ่มที่ระบายอากาศ แต่ดูเหมือนว่าวัสดุใน Daydream View รุ่นใหม่จะแตกต่างกับรุ่นเก่าเล็กน้อย ชุดเฮดเซ็ตทำงานร่วมกับ Google Pixel 2 และ Pixel, Samsung Galaxy S8, S8 Plus และ Note 8 และสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ราคา 99 เหรียญ (3,300 บาท) กำหนดการจัดส่งคือพฤศจิกายนนี้.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000101703

]]>
1142387
อาลีบาบา ลุยเปิดตัวลำโพงอัจฉริยะ ผู้ช่วยสั่งซื้อด้วยเสียง https://positioningmag.com/1131495 Mon, 03 Jul 2017 16:05:54 +0000 http://positioningmag.com/?p=1131495 ฟันธงอาลีบาบา (Alibaba) เจ้าพ่อออนไลน์จีนจะเปิดตัวลำโพงอัจฉริยะตามรอยลำโพงอย่างเอคโค (Echo) ของแอมะซอน และกูเกิลโฮม (Google Home) ในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะเป็นลำโพงที่ช่วยให้ชาวออนไลน์สามารถสั่งซื้อสินค้ากับอาลีบาบาได้ง่ายขึ้น

สื่อที่บรรยายว่า อาลีบาบากำลังเดินหน้าพัฒนาเพื่อเปิดตัวลำโพงอัจฉริยะของตัวเอง คือ ดิอินฟอร์เมชัน (The Information) โดยระบุว่า อาลีบาบาจะเปิดตัวลำโพงที่ผู้ใช้สามารถสั่งการด้วยเสียง ทำให้ผู้ใช้สามารถเอ่ยปากให้ระบบช่วยค้นหาสินค้าได้ เหมือนที่ระบบผู้ช่วยส่วนตัว “อเล็กซา” (Alexa) ที่ผู้ใช้ Amazon Echo สามารถค้นหาข้อมูลตามที่ผู้ใช้เอ่ยปากได้

Echo ลำโพงอัจฉริยะของ Amazon

ความน่าสนใจ คือ ระบบผู้ช่วยส่วนตัวของอาลีบาบา ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีมปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทในจีน จะเข้าใจเสียงพูดภาษาจีน เบื้องต้น รายงานระบุว่า อาลีบาบายังไม่มีแผนพัฒนา หรือจำหน่ายลำโพงนี้ออกนอกประเทศจีน จุดนี้ทำให้ลำโพงของอาลีบาบาไม่ใช่คู่แข่งกับ Amazon Echo หรือ Google Home โดยตรง เพราะทั้ง 2 อุปกรณ์นี้ยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้แสดงว่า อาลีบาบากำลังจะแข่งกับ “โฮมพอด” (HomePod) ลำโพงอัจฉริยะของแอปเปิล ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในธันวาคมปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าแอปเปิล จะขยายเข้าสู่ตลาดจีน เพราะมองเห็นโอกาสเติบโตมหาศาลรออยู่

นอกจากนี้ ลำโพงใหม่ของอาลีบาบา ยังอาจต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมชาติ อย่างบริษัทเจดี (JD) และไป่ตู้ (Baidu) ที่วางจำหน่ายลำโพงลักษณะนี้แล้ว ขณะที่บริษัทจีนรายใหญ่อย่างเทนเซ็นต์ (Tencent) เพิ่งเริ่มเปิดตัวระบบผู้ช่วยส่วนตัว “เสี่ยวเหว่ย” (Xiaowei) แต่ยังไม่เปิดตัวสินค้าในรูปลำโพง


ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000067629

]]>
1131495