ศรีอโยธยา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 23 Sep 2017 04:39:59 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ทรู “ลุย” สู้ศึกตลาดละคร หลังเจอบทเรียนราคาแพงจาก ”เจ้าเวหา” https://positioningmag.com/1140836 Sat, 23 Sep 2017 04:33:19 +0000 http://positioningmag.com/?p=1140836 ช่อง True4U ของกลุ่มทรู นับเป็นอีกช่องทีวีดิจิทัล ที่มีความพร้อมเรื่องของ “เงินทุน” โดยที่ผ่านมาได้พยายามในการเข้าชิงชัย ในการผลิตคอนเท้นท์ “ละคร” แต่กลับกลับต้องผิดหวัง  จาก“ละคร” ฟอร์มยักษ์ “เจ้าเวหา” ละครชุดสามภาค ฝั่งน้ำจรดฝั่งฟ้า, พิชิตแดนใจ และผู้ครองฟ้า จนกลายเป็น “บทเรียน” สำคัญ สำหรับการเริ่มต้นของ ช่องทีวีน้องใหม่

เวลานั้นได้ผู้จัดและนักแสดงชื่อดัง อย่าง “อั้ม”อธิชาติ ชุมนานนท์, นุ่น”วรนุช ภิรมย์ภัคดี ,  แอนดริว เกร็กสัน, “แพนเค้ก”เขมนิจ จามิกรณ์, “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ผลดี และ”ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน่  มาร่วมงาน

แต่แล้วโปรเจกต์นี้ ออกอากาศได้เพียงภาคแรกภาคเดียว ได้เรตติ้ง 1.0 ก็ถือว่าสูงสุดแล้ว  จากนั้นก็ลดลง เพราะเนื้อเรื่องไม่โดนใจ  แถมภาคแรกยังเกิดเรื่องราวฟ้องร้องกันระหว่าง ”นัท มีเรีย” ผู้จัดป้ายแดง และนักแสดง จนคดีก็ยังไม่สิ้นสุด ทำให้ละครซีรีส์นี้ต้องจบลงแค่ภาคแรก ไม่มีภาคต่อตามมา

พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย ทรู คอร์ป ยอมรับว่ากรณีโปรเจกต์เจ้าเวหา คือ “บทเรียน” ที่ ”ผิดพลาด” ครั้งสำคัญของทรู ที่ต้องหมดเงินไปกับโปรเจกส์นี้ถึง 50 ล้านบาท  และพับโครงการทั้งหมดที่เกี่ยวเจ้าเวหาหมดแล้ว

“เรายอมรับในส่วนที่พลาด แต่เราก็ได้บทเรียน ที่ดี จากความพลาดของเราในช่วงต้นของทำดิจิทัลทีวี ด้วยความที่เป็นช่อง ไม่เคยมีประสบการณ์ทำรายการทีวี และผลิตละครมาก่อน ที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์ ก็อยู่ในฐานะผู้ซื้อรายการเป็นหลัก จึงถือว่าเราออกจุดสตาร์ทเราเริ่มช้ากว่าคนอื่น ซึ่งส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในทีวีกันมาก่อนหน้านี้แล้ว”

เมื่อลงรายละเอียด จะพบว่า สิ่งที่เป็นจุดอ่อน คือ production   และ script หรือบทละคร ที่ต้องได้รับการพัฒนาต่อไป

แต่ถ้ามองแง่ดี ละคร “เจ้าเวหา” ที่สามารถนำนางเอกพระเอกชื่อดัง ต่างช่องเข้ามาเล่นด้วยกันได้ เป็นครั้งแรก ก็ถือว่า ประสบความสำเร็จในแง่การตลาด ทำให้คนรู้จักช่องน้องใหม่  สร้างให้เกิดเป็นกระแส talk of the town ขึ้นได้ ตั้งแต่เริ่มต้น

นอกจากนี้ ยังทำให้ภาพของกลุ่มทรูเด่นชัดขึ้น ในแง่บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการทำ marketing ผลิตภัณฑ์ จากการนำผลิตภัณฑ์และทุกช่องทางที่กลุ่มทรู มาใช้ในการโปรโมทละคร ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของกลุ่มทรู ที่ไม่ได้เป็นแค่เป็นบริษัทด้านโทรคมนาคม แต่ได้ขยายมาสู่ธุรกิจคอนเทนต์อย่างเต็มตัว

นอกจากนี้ ถึงแม้ละครเรื่องนี้จะไม่”เปรี้ยง”ในตลาดไทย แต่ก็สามารถขายลิขสิทธิ์ละครเรื่องนี้ไปในตลาดภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค มีรายได้กลับมาจนครอบคลุมต้นทุนที่ลงทุนไปทั้งหมด แถมยังมีบางประเทศอย่างเวียดนาม ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์เรื่องที่จะนำไปผลิตใหม่อีกด้วย

ทรู จึงไม่ถอดใจจาก “ละคร” แถมครั้งนี้ นอกจากวางให้เป็นช่องของคนเมืองแล้ว ยังปูทางไปสู่งานระดับ “อินเตอร์” มากขึ้นในอนาคต  ด้วยการหันมาร่วมมือกับ ซีเจ อีแอนด์เอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจบันเทิงจากเกาหลีใต้ ตั้งบริษัทร่วมทุนกัน ทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์เพื่อร่วมผลิตและจำหน่ายรายการโทรทัศน์แบบครบวงจร โดยตั้งเป้าขยายธุรกิจของบริษัทร่วมทุนนี้สู่ภูมิภาคเอเชีย อาทิ รายการโทรทัศน์, โอทีที ดิจิตอล แพลตฟอร์ม, การจัดอีเวนต์และเฟสติวัล ภายในปี 2563 เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตรายการและบุคลากรทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังสู่ระดับสากล

พีรธนบอกว่า การร่วมมือกับซีเจ ทำให้ทรู เรียนรู้ประสบการณ์จากเกาหลี เป็น knowledge transfer เพราะซีเจ คือผู้ผลิตซีรีย์เกาหลีดังๆ อย่างเช่น descendent of the sun หรือ รายการเกมส์โชว์อย่าง The mask singer

“ที่เกาหลีใต้ คนเขียนคือคนสำคัญที่สุด ดารานักแสดงดังๆทุกคน เวลาจะตัดสินใจว่าจะเล่นละครหรือหนังเรื่องอะไร จะดูว่าคนเขียนบทคือใคร ซึ่งทรูก็หวังจะเดินรอยตามซีเจ โดยจะพัฒนาให้ไทยเป็นแบบเกาหลีให้ได้ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มโปรเจกต์ละครใหม่แล้ว

แม้พีรธน จะไม่เปิดเผยว่ารายละเอียดของละครเรื่องใหม่ แต่ก็หลุดมาในโลกโซเชียลแล้วว่า  ทรูฟอร์ยูจะนำเอาเรื่อง “Oh my ghost“ ซีรี่ส์เกาหลีชื่อดังมาทำละครในแบบละครไทย โดยได้ดาราดังอย่าง เป้ อารักษ์ และหนูนา หนึ่งธิดา เป็นพระนางในเรื่องนี้

ละคร ที่เกิดจากการร่วมมือกับ ซีเจ อีแอนด์เอ็ม คอร์ปอเรชั่น จะออนแอร์ในปีหน้า  โดยที่ ช่องทรูฟอร์ยู ยังคงถูกวางให้เป็น ช่องสำหรับคนเมือง

เรายืนยันว่า ทรูวิชั่น จะยังคงทำละครต่อไป ให้คอยดูในปีต่อไป จะมีละครดีๆ ออกมาต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา

แต่ที่แน่ๆ ในปีนี้ทรูทุ่มทุนให้กับภาพยนตร์ซีรี่ส์อิงประวัติศาสตร์ “ศรีอโยธยา” ซึ่งจะออนแอร์ในวันที่ 5 ธันวาคม เป็นการเปิดศักราชใหม่ของช่องทรู ที่จะนำเสนอผ่านทุกสื่อของเครือ หลังจากนั้นทุกคนก็จะเห็นละครฟอร์มใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง

พีรธน บอกว่า ในปีหน้าทรูจะออกสตาร์ทอีกครั้ง กับผังรายการเต็มเหยียดชนิดไม่มี “ช่องว่าง” แล้ว เขายังการันตีด้วยว่า “ภายในปีหน้าทรู จะต้องกลับขึ้นมาเป็น Top 5 ของดิจิทัลทีวี และเป็น Top 3 ภายในปีถัดไป

ศรีอโยธยา
]]>
1140836
เล็กๆ ไม่ ใหญ่ไหญ่ๆ ทำ! ทรู ควัก 150 ล้าน ผุดซีรี่ส์ “ศรีอโยธยา” ใช้การตลาด “รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส” ปลุกกระแส https://positioningmag.com/1139920 Sat, 16 Sep 2017 00:30:57 +0000 http://positioningmag.com/?p=1139920 เมื่อ “ค่ายทรูฟอร์ยู” หันมามาผลิตละครอีกครั้ง ก็เลือกนำภาพยนตร์ซีรี่ส์อิงประวัติศาสตร์ “ศรีอโยธยา” เรื่องราวของพระมหากษัติย์ไทยในยุคสมัชอยุธยากับการปกป้องแผ่นดินไทยมาผลิต โดยมีกำหนดออนแอร์ในวันที่ 5 ธันวาคม ใช้งบลงทุนมากกว่า 150 ล้านบาท

พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น บอกว่า ทรูเริ่มโครงการนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยได้หม่อมน้อย หรือ หม่อมหลวงพันธ์เทวนพ เทวกุล ซึ่งเคยมีผลงานละครเรื่องสี่แผ่นดิน มาเป็นทั้งผู้กำกับ และเขียนบทประพันธ์ ผ่านการตีความประวัติศาสตร์แบบใหม่

ส่วนทรู ได้นำบทประพันธ์ของซีรีส์เรื่องนี้ มาตีความ ด้านการตลาด” ผ่านการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า เพื่อสื่อให้ผู้คนเข้าใจเรื่องราวและตัวละคร และยังเป็นจุดขายทางการตลาด  เพราะถือว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ของการทำการตลาดภาพยนตร์  โดยใช้ประโยชน์จากช่องทางต่างๆของทรู และพันธมิตรมาร่วมกันโปรโมท

นินา ฐานทองธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านคอนเทนต์และมีเดีย กลุ่มทรู อธิบายเพิ่มเติมว่า ประสาทสัมผัสแรก “รูป” คือภาพที่สื่อถึงเรื่องราวในเรื่อง  อย่าง เครื่องแต่งกายของนักแสดงในเรื่อง จะศึกษาวิจัยออกแบบใหม่ทั้งหมด ใช้ทีมคอสตูมถึง 3 ชุดเพื่อดูแลเครื่องแต่งกายชนชั้นสูง เครื่องแต่งกายขุนนาง ประชาชน และเครื่องแต่งกายสมัยปัจจุบัน

ในแง่สัมผัสที่สอง “รส”  เนื่องจากช่วงปลายสมัยอยุธยา เป็นช่วงที่การค้าของอยุธยารุ่งเรืองมาก เป็นเมืองท่าทางการค้าในสมัยโบราณ มีตั้งยุโรป แขก อินเดีย จีน ญี่ปุ่นเข้ามาทำการค้า เปรียบเสมือน “นิวยอร์ค” ในสมัยนี้ มีการแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้าระหว่างประเทศอย่างคึกคัก

กาแฟ เป็นสินค้าที่ชนชั้นสูงเริ่มนิยมดื่มกัน เป็นสินค้านำเข้าที่ราคาแพง ดังนั้น กาแฟ จึงตอบโจทย์ในเรื่องของ “รสสัมผัส” ได้ชัดเจนที่สุด

ทรู จึงได้ไปจับมือกับ Class Café  ร้านกาแฟยอดนิยมในอีสาน เจ้าของฉายา “สตาร์บัคอีสาน” มาเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยคิดรสชาติกาแฟสูตรพิเศษโดยเฉพาะ ได้รสชาติกาแฟให้ตามชื่อคาแรคเตอร์ตัวละครที่แตกต่างกัน 8 รสชาติ เช่น The Noble, The Prince, The Princess, The Knight, The King , The Queen, The Angle , และ The Empress  วางขายที่ Class café ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน และออกงานอีเวนท์

สัมผัสที่สาม คือ กลิ่น ตามท้องเรื่องคือกลิ่นดอกไม้โบราณ ดอกแก้ว ได้ร่วมกับ Hann เจ้าของผลิตภัณฑ์สปา ที่ผลิตจากธรรมชาติของไทยชื่อดัง ในการผลิดน้ำหอม กลิ่นดอกแก้ว หรือ jasmine rose ขึ้นมาให้เป็นพิเศษ

สัมผัสที่สี่ เสียง ได้จัดทำเพลง “โยเดีย” ชื่อเรียกอยุธยาโดยชาวต่างชาติ เป็นดนตรีในสไตล์ร่วมสมัย Contemporary ที่ผสมผสานวัฒนธรรมในยุคสมัยโบราณและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน

สุดท้าย ”สัมผัส” เป็นรูปแบบการจัดอีเวนท์ที่จะให้ลูกค้าทรูและผู้ชมกลุ่มพิเศษเข้ามารับรู้ประสบการณ์สัมผัสทั้งห้าของ”ศรีอโยธยา” เป็นการโหมโรงก่อนที่ภาพยนตร์ซีรี่ส์เรื่องนี้จะออนแอร์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 5 ธันวาคมปีนี้

นอกจากนี้ ทรูมีแผนที่จะนำเรื่อง ศรีอโยธยา ไปขายในตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ทรูยังไม่เคยเข้าไปมาก่อน เพราะยังไม่มีคอนเทนต์ที่เหมาะสม

“ศรีอโยธยา เป็นเรื่องแรก ที่มีความชัดเจนมาก ว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่โดนใจชาวยุโรป เพราะนำเสนอความเป็นตะวันออกที่เด่นชัดมาก เทรนต์ตอนนี้ความเป็นตะวันออกกำลังมาแรกในตลาดยุโรป จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี  ชื่อเสียงของหม่อมน้อย ที่เป็นที่รู้จักในตลาดหนังยุโรปและอเมริกา จะช่วยทำให้การรุกเข้าตลาดเหล่านี้ เป็นไปได้โดยง่ายมากขึ้น“ พีรธนกล่าว

เดิมตลาดคอนเทนต์ของทรู ที่ใหญ่ที่สุดคือ ตลาดประเทศจีน ซึ่งได้ฐานสนับสนุนจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทางกลุ่มได้เล็งการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกามานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีคอนเทนต์ที่ตรงจุดเท่านั้นเอง

พีรธนบอกว่า แม้ว่าจะใช้งบประมาณสูง ถึง 150 ล้าน ออกอากาศ 24 ตอน ตอนละ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น เท่ากับว่าใช้งบประมาณการลงทุนต่อตอนสูงถึง 6.25 ล้านบาท อาจเรียกได้ว่าสูงสุดในการผลิตละครหนึ่งตอนของไทยเลยทีเดียว

แต่ทรูเชื่อว่า ทุกอย่างที่ลงทุนไปนั้นคุ้มค่า เพราะนอกจากจะมีรายได้จากการขายคอนเทนต์ในต่างประเทศแล้ว ยังตอบโจทย์ convergence ของกลุ่ม จะออกอากาศทุกช่องทางในกลุ่มทรูและซีพี ทั้งในช่องติจิทัลฟรีทีวี ช่องในทรูวิชั่นส์ ทางออนไลน์ แอปพลิเคชั่นส์ มือถือ และโซเชียลมีเดียทุกสื่อ รวมถึงช่องทางจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ เช่นใน 7-11 และร้านเชสเตอร์กริลล์งทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังช่วยโปรโมทอีกด้วย.

]]>
1139920