ศึกวันคนโสด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 05 Feb 2018 03:12:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ศึกวันคนโสด 11.11 แคมเปญแรงหนุนอาลีบาบาโกยรายได้โตกระฉูด 56% https://positioningmag.com/1155568 Sat, 03 Feb 2018 02:04:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1155568 อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีรายได้รวม 83,028 ล้านหยวน หรือประมาณ 12,761 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 56% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน  

ส่วนปัจจัยบวกที่หนุนธุรกิจให้โตอย่างแข็งแกร่ง มาจากนวัตกรรม และบริการที่หลากหลายที่บริษัทเสนอให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค และที่สำคัญคือการบริโภคของชาวจีนยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการจัดกิจกรรมการตลาดสุดยิ่งใหญ่ในวันคนโสดหรือ 11.11 กลายเป็นมหกรรมโกยเงินถล่มทลายแบบวินาทีต่อวินาที

ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 23,332 ล้านหยวน หรือ 3,586 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้านกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอยู่ที่ 55,137 ล้านหยวน หรือ 8,480 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกระแสเงินสดที่มากมาจากธุรกิจหลัก ซึ่งก็คือค้าปลีก-ค้าส่งถึง 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทสามารถนำเงินไปลงทุนในธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ คลาวด์คอมพิวติ้ง และธุรกิจสื่อดิจิทัลเพื่อความบันเทิง เพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

เรารู้สึกตื่นเต้นกับกระแสตอบรับอย่างต่อเนื่องของธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ (New Retail) ซึ่งเกิดขึ้นภายในเทศกาล 11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล มหกรรมช้อปปิ้งประจำปีที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นอีกครั้ง” มร. แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว

ไฮไลต์ผลประกอบการอาลีบาบา กรุ๊ป ไตรมาส 3  

• รายได้หลักจากธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่งอยู่ที่ 73,244 ล้านหยวน หรือ 11,257 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

• รายได้จากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งอยู่ที่ 3,599 ล้านหยวน หรือ 553 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 104% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

• รายได้จากธุรกิจสื่อดิจิทัลและบันเทิงอยู่ที่ 5,413 ล้านหยวน หรือ 832 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

• รายได้จากกลุ่มธุรกิจเชิงนวัตกรรมอยู่ที่ 772 ล้านหยวน หรือ 119 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

• ผู้บริโภคชาวจีนมีการช้อปปิงสินค้าผ่านช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบาอย่างน้อย ครั้งต่อปี รวมทั้งสิ้น 515 ล้านคน เติบโตขึ้นถึง 27 ล้านราย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

• เดือนธันวาคมพบว่า ยอดผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเข้าถึงช่องทางค้าปลีกของบริษัทผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 580 ล้านคน สูงกว่าเดือนกันยายนถึง 31 ล้านคน 

และจากความสำเร็จด้านยอดขายมหาศาล ทำให้บริษัทขยายโปรเจกต์ต่างๆ ด้านการค้าปลีกยุคใหม่มากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ช้อปปิ้งที่หลอมรวมระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน ผ่านทางเทคโนโลยีมือถือ และเทคโนโลยีสำหรับองค์กร

อย่างไรก็ตาม จากผลประกอบการที่เติบโตสูง ยังทำให้บริษัทปรับประมาณการรายได้ในปี 2561 จะเติบโต 55-56% จากเดิมอยู่ที่ 53%.

]]>
1155568
10 ปรากฏการณ์ สะเทือนตลาดปี 2560 https://positioningmag.com/1152106 Sat, 30 Dec 2017 00:07:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1152106 ในทุกปีมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในแวดวงธุรกิจการตลาด ที่มีทั้งเรื่องราวของแบรนด์ สินค้า ที่สร้างปรากฏการณ์ตลาดจนผู้ต้องร้องว้าว! คู่แข่งต้องหันมามอง นักการตลาดต้องหยิบมาเป็นกรณีศึกษา เพื่อที่จะรียนรู้ ปรับใช้ และปรับตัวในปีต่อ ๆ ไป หากจะมองว่า กระแส หรือกิจกรรมตลาดไหนบ้างที่ “ร้อนแรง” ในปี 2560

1. ตูน Phenomenon 

ถ้าหากจะพูดถึงบุคคลแห่งปีที่ผู้คนทุกวงการต้องเกาะติด ตั้งแต่การเมือง การตลาด สังคม กีฬา สารพัดฯ ต้องยกให้คนนี้ “ตูน บอดี้สแลม” ที่ลุกมาทำโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ออกมาวิ่งจากเบตง ถึงเชียงรายระยะทาง 2,000 กว่ากิโลเมตร(กม.) เพื่อระดมทุน 700 กว่าล้านบาท ไปช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาล ผลของการทำกิจกรรมด้วยใจจริง ทำให้แบรนด์ต้องหันมาศึกษา และยกเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์ควรนำไปทำตาม ทั้งความจริงใจ มีความ Real Marketing ไม่ Fake เพราะการทำอะไรปลอมๆ ที่สุดแล้ว ก็จะกลายเป็นหอกกลับมาทิ่มแทงทำลายแบรนด์ให้พังได้

นอกจากนี้ สิ่งที่ตูนทำ ยังก่อให้เกิดคนรักทั้งประเทศ ซึ่งในเชิงการตลาด เป้าหมายสูงสุดที่แบรนด์ต้องการไปให้ถึงคือ Build Brand Love เพราะหากผู้บริโภคนรักแบรนด์ได้ จะก่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อแบรนด์นั้นเป็นแบรนด์แรก อีกทั้งหากมีใครกล่าวร้ายแบรนด์ ผู้บริโภคจะออกมาปกป้องทันที

2. ครีมหน้าเด้งของก้อย รัชวิน ที่ทุกคนถามหา 

นอกจากพี่ตูน บอดี้สแลมจะเป็นที่สนใจของทุกคน แต่จะไม่พูดถึงคนนี้ไม่ได้ “ก้อย รัชวิน” แฟนสาว ที่ร่วมออกวิ่งกับตูน ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สิ่งที่หลายคนสงสัย คือ “ใช้ผลิตภัณฑ์อะไร” ที่ยังคงสภาพผิว ใบหน้าให้สวดสดใสได้ตลอด จนมีบางแบรนด์มาเกาะกระแสขายสินค้า

ภาพจาก : facebook.com/rachwinwong

ขณะที่ก้อย บอกเพียงวิธีการดูแลผิวพรรณ ด้วยการใช้ครีมกันแดดในตอนกลางวัน หลังวิ่งเสร็จต้องลงอโลเวร่า ตบด้วยมาร์กหน้าตอนกลางคืน ส่วนก่อนเมคอัพให้สวยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จำเป็นทั้ง อายครีม มอยเจอร์ไรเซอร์ เซรั่ม ต้องลงหมด

3. ไมโลคิวบ์ ไอเทมสุดฮิต 

ที่ทุกคนควานหา การออกสินค้าใหม่มาชิมลางในตลาด การแจ้งเกิดได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ไมโลคิวบ์ จะไม่ได้เปิดตัวโดยตรงจากเจ้าของแบรนด์อย่าง “เนสท์เล่” แต่เมื่อมี “ขาหิ้ว” นำเข้ามาขาย จนโด่งดัง ก็เป็นจังหวะดีที่แบรนด์กลับมามอง เพื่อปูพรมทำการตลาด หาโอกาสใหม่ๆเอง

ความดังของไมโลคิวบ์ อย่างแรกเกิดจากตัวผลิตภัณฑ์(Product)ที่แตกต่างจากตลาดอย่างแท้จริง เพราะเวลานั้นไม่มีคู่แข่งรายใดที่ทำช็อคโกแลตมอลต์อัดเม็ดออกมาจำหน่าย ส่วนการทำตลาดแน่นอนของดีเลยทำให้ “ผู้บริโภคบอกต่อ” เป็น Word of Mouth เป็นตัวกลางที่สื่อสารให้แบรนด์ซัคเซส โดยไม่ต้องลงทุนโฆษณาใดๆ

4. ชากุหลาบ โปรดักท์จุดพลุให้ชาตรามือ 

อีกหนึ่งสินค้าที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ สำหรับ “ชาตรามือ” ที่มีสินค้าพระเอกของปีคือ “ชากุหลาบ” กลายเป็น Buzz Marketing รัวๆ เพราะใครที่ลองสินค้านี้แล้ว มีการบอกต่อกันอย่างมากในโลกออนไลน์ ถึงคุณสมบัติบางประการ และนั่นทำให้ผู้บริโภคต่อคิวซื้อสินค้ายาวเป็นหางว่าว

ชากุหลาบ ยังช่วยปลุกชีพแบรนด์ที่ดูบ้านๆ มีสินค้าจำหน่ายเป็น Kiosk เล็กๆ ตามสถานีรถไฟฟ้า หรือจุดต่างๆ จนสลัดภาพไปทำตลาด เปิดช็อปให้บริการในศูนย์การค้าสยามพารากอนอย่างสวยหรู ในโซนที่เต็มไปด้วยแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มไฮโซ

5. Louis Vuitton X Supreme สุดยอดแบรนด์ปัง 

ปีนี้ถ้าจะพูดถึงการ Collaboration แบรนด์ทรงอิทธิพลจนผู้บริโภคต้องร้องว้าวต้องยกให้แบรนด์ไฮเอนด์จากฝรั่งเศสอย่างหลุยส์ วิตตอง ที่ลุกมาร่วมมือกับแฟชั่นสตรีทแวร์ดังจากเมืองมะกัน สุพรีม ออกคอลเล็กชั่นพิเศษทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ผ้าพันคอ ฯ มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคตลาดบน

เมื่อสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าอิทธิฤทธิ์ของทั้ง แบรนด์ทำให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าไปตั้งตารอซื้อที่สยามพารากอนตั้งแต่เที่ยงคืน จนเกิดกระแสดราม่าพอสมควร เพราะสนนราคาสินค้าไม่ใช่ไก่กา แต่ราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงแสน แพงหูฉี่ยังมีสาวกไปเฝ้านั่นเอง

6. ตลาดเหล้าขาวเจ้าสัวเจริญ ถูกลูบคม โดยนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” 

วงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเมืองไทย ถูกครอบครองโดยผู้ประกอบการน้อยราย(Oligopoly) หลักๆช้าง สิงห์ ไฮเนเก้น ยิ่งไปดูเหล้าขาว มีเพียง “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ที่กินรวบส่วนแบ่งกว่า 97% และมียอดขาย 109,297 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20,420 ล้านบาท   

 แต่ปี 2560 “คู่แข่ง” ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อ เสถียร เศรษฐสิทธิ์” และผองเพื่อนแห่งคาราวบาวแดง ผ่านด่านการทำประชาพิจารณ์จนสร้างโรงงานมูลค่า 3,000 ล้านบาท นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่เหล้าขาวมีคู่แข่งรายใหญ่พอตัว

อย่างไรก็ตาม การทำตลาดเหล้าขาวไม่ง่าย เพราะขุมข่ายพลังทางการค้า เอเย่นต์ ที่ขายสินค้าของเจ้าสัวมานานมีมากมาย การจะยอมให้แบรนด์ใหม่ไปแทรกแย่งตลาดย่อมยาก ดังนั้นเกมนี้ต้องจับตาดูกันยาวๆ ว่าเสถียร์ จะฝ่าด่านอรหันต์ไปได้หรือเปล่า

7. ตู้กดเบียร์สดในร้านสะดวกซื้อ ไปไม่รอด 

การทำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย ดูจะกลายเป็น “ยาขม” สำหรับเจ้าของแบรนด์สินค้าไปซะแล้ว เพราะไม่ว่าจะลุกมาทำอะไร ก็ถูกสังคมจับจ้อง และค้านสายตาบรรดาผู้ที่ต่อต้าน ส่วนในมุมผู้บริโภค ย่อมมีทั้งปิดรับเปิดค้านสลับกัน

นี่ถือเป็นความพยายามของผู้ประกอบการ ค่ายใหญ่ “สิงห์-ช้าง” ที่ต้องการขยายตลาดเบียร์สดหรือ Craft beer ให้ใหญ่มากขึ้น เพื่อหาโอกาสการเติบโตใหม่ๆ เพราะหากยังวนเวียนเล่นแต่ตลาดลาเกอร์เบียร์ ซึ่งทุกปีอัตราการเติบโตต่ำมาก ย่อมไม่ดีต่อธุรกิจ ดังนั้นการหาน่านน้ำสีคราม(Blue Ocean)ใหม่ๆ จึงจำเป็น แต่การทดลองวางตลาดเบียร์สดในร้านสะดวกซื้อก็เกิดขึ้นสั้นๆ เพราะแรงเสียดทานจากสังคม ทำให้อวสานเบียร์สดเร็วมาก

8. ดราม่ามาร์เก็ตติ้ง เสียงติงจากผู้บริโภค 

การทำตลาดไม่ได้มีแต่เรื่องราวดีๆ แต่ที่ “ดราม่า” ก็มีให้เห็นเยอะ โดยเฉพาะเมื่อแบรนด์ออกมาทำกิจกรรมตลาดแล้วทำลายความคาดหวังของผู้บริโภคจนพังดราม่าหนักๆในปีนี้นอกจากตู้กดเบียร์สดในร้านสะดวกซื้อ สินค้าความงามก็โดน เมื่อสาวๆที่รอโปรโมชั่นแรง จาก EVEANDBOY ร้านมัลติแบรนด์ดังใจกลางสยาม ใช้กลยุทธ์ลดราคาแรงมาจูงใจผู้บริโภค จนความต้องการพุ่งปรี๊ด ต่อคิวกันยาวเหยียด แต่ปรากฎว่าสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ และยังมีบล็อกเกอร์ได้อภิสิทธิ์ช้อปปิ้งก่อนโดยไม่ต้องเข้าคิว ไหนจะบรรดาแม่ค้าแม่ขายที่รับหิ้ว แห่ไปกวาดสินค้าจนหมด สุดท้ายแบรนด์โดนด่าเละ!

แต่นั่นไม่ทำให้เจ้าของแบรนด์เข็ด เพราะตราบใดที่ยอดขายยังดี การทำตลาดแบบนี้ ยังคงถูกมาใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะล่าสุดการลดราคาของ EVEANDBOY กระแสก็ซาลงอย่างเห็นได้ชัด

ภาพจาก : facebook.com/eveandboy

ดราม่ามาร์เก็ตติ้ง ไม่ได้มีแค่นี้ เคสอื่นๆที่เกิดขึ้นล่าสุด คือกรณีการจัดกิจกรรมระดับโลก Harry Potter Christmas in the Wizarding World ที่สยามพารากอน เพราะพลังการตลาดโปรโมทงานอลังการ แต่จัดงานจริงเล็ก สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ จัดคิวไม่ดี งานนี้ห้างเลยโดนเต็ม แต่ผู้จัดงานรอดเสียงติซะงั้น

ยังท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่กำลังทำตลาดออนไลน์บน Twitter อยู่ดีๆ “แอดมิน” คนเคยร่วมงานออกไปเล่ากลยุทธ์การตลาดใหม่ๆให้สื่อรับรู้ กลายเป็นการคลุกวงในของคนทำงานกันเอง จนต้องเบรกทำตลาดบนทวิเตอร์สักพัก ทั้งที่กำลังแจ้งเกิด สุดท้ายพอกลับมาทำตลาดอีกครั้ง เลยจืดสนิท กำลังปังแต่พังเพราะดราม่าแท้ๆ

9. เคเอฟซี-GMM25 ดีลแห่งปีจาก “เจ้าสัวน้อย ฐาปน” 

ภาพนักเทคโอเวอร์คงติดตานักบริหาร “หนุ่ม ฐาปน สิริวัฒนภักดี” ทายาทคนที่ ของราชันย์น้ำเมา “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ไปเรียบร้อยแล้ว

หากพูดถึงดีลที่น่าสนใจ จาก “ฐาปน” ปีนี้ต้องยกให้การเข้าซื้อหุ้น 50% ในบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง จำกัด ที่มีธุรกิจทีวี GMM25 เอไทม์มีเดียฯ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเกิดขึ้นในนามส่วนตัว ผ่านบริษัทลงทุนอย่าง “อเดลฟอส”  ซึ่งในอนาคตจะนำมาต่อยอดธุรกิจของเครือไทยเบฟอย่างแน่นอน ในฐานะที่บริษัทมีสินค้ามากมายทำ Music Marketing และ Sport Marketing ทั้งปีมากมาย

อีกดีลคือการซื้อกิจการสาขาร้านไก่ทอดเบอร์ ของโลกอย่าง KFC กว่า 1.13 หมื่นล้านบาท กลายเป็นสปริงบอร์ดสำคัญในการขยายเข้าสู่ธุรกิจอาหาร ให้ครบวงร จากที่มีร้านอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารอาเซียน อาหารไทย ตั้งแต่ฟู้ดคอร์ทไปถึงหรูหรา(Fin Dining) แต่สิ่งที่ไทยเบฟจะได้จากการซื้อสาขาเคเอฟซี คือโนวฮาวการบริหารจัดการธุรกิจระดับโลกนั่นแอง

10. ศึกวันคนโสด สุดยอดกลยุทธ์การตลาดบนโลกออนไลน์ 

สมรภูมิค้าปลีกออนไลน์ ต้องบอกว่าแข่งขันกันเสือดลาด เพราะผู้ประกอบการทำตลาดหนักแค่ไหน ก็ยังแบกขาดทุนกันมโหฬารนั่นเอง

การทำตลาดออนไลน์ที่เขย่าวงการช้อปปิ้งสุดๆ ในปีนี้ ต้องยกให้กลยุทธ์การเปลี่ยนโจทย์วันคนโสด วันป๊อบๆของชาวจีน ให้เป็นวันช้อปปิ้งแห่งปี เพราะทั้ง LAZADA 11street Shopee  ออกแคมเปญ โปรโมชั่นเพื่อดวลศึกกันสนั่นวงการ กระตุ้นยอดขายกันเป็นวินาที จนทุบสถิติ ในไทยอาจไม่เปิดเผยตัวเลขนัก แต่เมืองจีนช้อปกันสะพัดมาก อย่างอาลีบาบา โกยยอดขายกว่า 8.6 แสนล้านบาท กันภายใน 24 ชั่วโมงแค่นั้นเอ๊ง!.

]]>
1152106
ศึกวันคนโสด 11.11 ช้อปออนไลน์สู้กันโหดยิ่งกว่าออฟไลน์ https://positioningmag.com/1146179 Fri, 10 Nov 2017 10:14:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1146179 อีกไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้เวลาเข้าวันที่ 11 เดือน 11 ที่บิ๊กธุรกิจอีคอมเมิร์ซ พลิกอารมณ์จากวันคนโสดโดดเดี่ยว กลายเป็นวันช้อปลืมโสด เมื่อยักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างเปิดศึกชิงลูกค้า ชนิดเดินตามโปรโมชั่นกันแบบไม่ต้องเหนียมอาย งานนี้ไลฟ์สดไม่พอต้องพึ่ง “ฟรีทีวี”

งานนี้มีเม็ดเงินนับล้านล้านบาทในวันเดียวเป็นเดิมพัน เพราะความสำเร็จของ “อาลีบาบา” บริษัทแม่ลาซาด้า กับ งานเซลส์เอาใจคนโสด  11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล” จัดขึ้นที่ประเทศจีนเป็นประจำทุกปี เริ่มต้นในปี 2552 โกยรายได้ประมาณ 100 ล้านหยวน หรือประมาณ 500 ล้านบาท หากคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน 5 บาทต่อ 1 หยวน ปีต่อมาก็สร้างรายได้เติบโตพุ่งแรงทุกปี อย่างปี 2555 กระโดดไปถึง 95,000 ล้านบาท

ที่พีคสุดเมื่อปีที่แล้ว มีเม็ดเงินยอดสั่งซื้อเข้ามาวันเดียวถึง 17,790 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 604,860 ล้านบาท แซงหน้ามหกรรมลดราคาชื่อดัง “แบล็ก ฟลายเดย์” ของสหรัฐฯ ไปแบบขาดลอย  เพราะเพียงแค่ 6.58 นาทีแรก ยอดช้อปสูงถึง 500 ล้านบาท หรือขายได้นาทีละประมาณ 76 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นเม็ดเงิน 3 ใน 4 ของช้อปปิ้งออนไลน์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นวันเดียว

*** “อาลีบาบา-ลาซาด้า” จัดไลฟ์ชิงนักช้อปออนไลน์

อาลีบาบา ไม่ได้ปล่อยการเติบโตของเม็ดเงินเป็นอย่างธรรมชาติ เพราะคู่แข่งเดินตามมาอย่างติด ๆ “แจ็ค หม่า” ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา จนกลายเป็นมหาเศรษฐีโลก นำกลยุทธ์ใหม่ ๆ มาใช้กับ มหกรรมช้อปปิ้งเอาใจคนโสด “11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล” ทุกปี

ทั้งการถ่ายทอดสดทางทีวี การจัดงานกาล่าดินเนอร์คืนนี้ โดยการดึงเซเลบริตี้ ดารา นักร้องดังระดับโลกมาร่วมงาน รวมถึงการดึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากระตุ้นการซื้ออย่าง AR การจับมือกับบิ๊กแบรนด์เนม และห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศจีน

ส่วนในไทย อาลีบาบา ส่ง “ลาซาด้า” แบรนด์ในเครือที่เทกโอเวอร์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว มาลงสนาม 11.11 นี้ด้วยเช่นกัน โดยใช้โมเดลเดียวกัน คือ ออนไลน์ เฟสติวัล 2017 “ช้อปทะลุจักรวาล 11.11-12.12” นำสินค้าจาก 45,000 ร้านค้ามาวางขาย ไม่ได้มีแค่ผลิตเอง ไลฟ์สดผ่านลาซาด้าทีวี lazada.co.th/tv ของตัวเองเท่านั้น แต่ครั้งนี้ลาซาด้าถึงกับทุ่มงบซื้อเวลาช่อง 3 ถ่ายทอดสดงานแบบจัดเต็ม มาร่วมสร้างสีสัน ทั้งเกม การแสดง คอนเสิร์ต แฟชั่นโชว์ ในคืนนี้ เวลา 23.00-00.30 น. มี “กันตนา” เป็นผู้ผลิตรายการ

โดยยังขนเอาดารานักแสดงที่ชาวมิลเลนเนียลชอบร่วมอีเวนต์ถ่ายทอดสดนี้ด้วย เพื่อเรียกกระแสเต็มที่ เช่น ดา เอ็นโดฟิน, เบลล่า ราณี, ดีเจเอกกี้, กาละแมร์,  ออม สุชาร์, รัศมีแข, ดีเจนุ้ย, ดีเจอาร์ต, จิ๊บ ปกฉัตร รวมทั้งมีแฟชั่นโชว์จากซุปเปอร์โมเดล เช่น ลูกเกด คริส หอวัง และนางแบบจาก The Face

ข้อมูลจาก YouGovBrandIndex ระบุว่า ลาซาด้าเป็นแบรนด์ที่ได้รับการจดจำจากกลุ่มมิลเลนเนียล คือช่วงอายุ18 – 34 ปี อยู่ในอันดับ 3 รองจาก เฟซบุ๊ก และเซเว่น อีเลฟเว่น โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะไม่ซื้อเพราะโฆษณา แต่จะซื้อหากได้รับประสบการณ์ หรือแรงบันดาลใจในแง่บวก

อาลีบาบา มีลาซาด้าในเครือเพื่อบุกนักช้อปกว่า 600 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย “อเล็กแซนดรอ บิสชินี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย มั่นใจว่า ออนไลน์ เฟสติวัล 2017 จะทำลายสถิติของปีที่แล้วที่มียอดผู้เข้าชมกว่า 3 ล้านครั้งภายใน 12 ชั่วโมงแรก และมียอดการสั่งซื้อ 3 ชิ้นทุกวินาที โดยปีนี้มีสินค้าจากร้านค้าที่เข้าร่วมในประเทศไทยกว่า 20,000 ร้านค้า และจากต่างประเทศอีกกว่า 25,000 ร้านค้า

*** “ช้อปปี้” ยิงยาวถึง 12 ธ.ค. ชิงโชคเบนซ์ ทองคำ 

คู่แข่งที่ตามมาติด ๆ คือ ช้อปปี้ ที่มีฐานให้บริการในไต้หวัน และอาเซียน ก็ประกาศตัวรุกตั้งแต่ตืนนี้เต็มที่ และยาวไปถึง 12 ธันวาคม ในเทศกาล 11.11-12.12  Shopee Super Sale ลดสะท้านออนไลน์

นอกจากโปรโมชั่น ส่วนลดสูงสุด 90% ยังอัดโปรโมชั่นชิงโชค รางวัลกว่า 10 ล้านบาท ถึงขั้นแจก รถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น CLA 200 Urban ทองคำมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และแพ็กเกจทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุน และเกาหลี

“ช้อปปี้” ค่อนข้างมั่นใจในการได้นักช้อปออนไลน์เพิ่มขึ้นในแคมเปญนี้ โดยนายเทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการช้อปปี้ กล่าวว่า แคมเปญก่อนหน้านี้ คือ 9.9 Mobile Shopping Day เป็นแคมเปญที่ได้รับความสำเร็จ โดยวัดจากจำนวนยอดออเดอร์เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า และจำนวนผู้เข้าชมแพลทฟอร์มเพิ่มขึ้นสูงถึง 5 เท่าภายในเวลา 24 ชั่วโมง

*** 11 Street เปิดศึกแจกคูปองส่วนลด 4 แสนใบ

ยักษ์ใหญ่ช้อปปิ้งออนไลน์จากเกาหลีใต้ที่เพิ่งบุกไทย เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็สู้ไม่ถอย ขอเกาะกระแส11.11 ของคู่แข่ง ด้วยแคมเปญ “11.11 Megasale”

“ฮง โชล จอน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 11 Street ประเทศไทย บอกว่าไม่เลือกเกมชิงโชค และขอเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ด้วยการแจกคูปองส่วนลด 4 แสนใบ มูลค่ารวม 72 ล้านบาท  เพราะหลังจากเปิดบริการในไทยมา สิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบคือ คูปองส่วนลด ซึ่งแคมเปญ 11.11 Megasale นี้ เป็นการลดราคาสินค้าตลอดเดือนนี้

โดยคาดว่าในเดือนนี้จะมียอดคนช้อปปิ้งมากกว่าปกติเท่าตัว หรือวันละประมาณ 5,000-6,000 คน จากปกติวันละ 3,000 คน

นอกจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะจัดแคมเปญรับ 11.11 แล้ว ยังมีแบรนด์ ไม่ยอมทิ้งโอกาส ขอเกาะกระแสช้อปออนไลน์ไปด้วย อย่างเช่น ยูนิโคล่ ที่จะเริ่มตั้งแต่ 09.00 น. ให้ส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท รวมถึงยังมีเว็บไซต์กลุ่มสินค้าไอที ก็มีการโปรโมตร่วมกระแสวันคนโสดด้วยเช่นกัน

ที่ต้องสู้กันขนาดนี้ เพราะทุกรายมองว่า เค้กอีคอมเมิร์ซไทย มูลค่า 2.8 ล้านล้านบาท อยู่ในช่วงเติบโต เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ทำให้ผู้เล่นในตลาดนี้ซึ่งล้วนแต่อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ข้ามชาติ จึงต้องทุ่มงบทำตลาด

(อ่านต่อ อีคอมเมิร์ซ เทงบหนัก https://positioningmag.com/1145034) ช่วงชิงตลาดกันชนิดไม่มีใครยอมใคร.

]]>
1146179