ลูกค้าองค์กรธุรกิจที่อยู่ในมือออฟฟิศเมทมีมากกว่า 500,000 ราย ดูเหมือนมาก แต่เมื่อดูตลาดรวมของออฟฟิศซัพพลายกลับมีมูลค่าราว 30,000 ล้านบาทเท่านั้น การเติบโตแต่ละปีล้อไปกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 2-4%

++โรงงาน-โฮเรก้า-สถานพยาบาลแนวรบใหม่

เมื่อตลาดที่หากินอยู่กว่า 20 ปี เล็กเกินไป ทำให้บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ต้องผ่าทางตันให้กับการเติบโตของ “ออฟฟิศเมท” ด้วยการมองหาโอกาสจาก “16 อุตสาหกรรม” ที่อยู่ในประเทศไทย แล้วเลือก 3 เซ็กเตอร์มาเป็นหัวหอกใหม่นารบุกเข้าไปจับลูกค้า ดังนี้

1. ธุรกิจโรงงานและอุตสาหกรรม (Factory Supplies)

เฉพาะบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีมากกว่า 233,000 ราย และมีการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือในโรงงานคิดเป็นมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 60,000-70,000 ล้านบาท

2. กลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และบริการจัดเลี้ยง (HORECA Supplies)

มีผู้ประกอบการในตลาดที่จดทะเบียนกับรัฐกว่า 25,000 ราย แต่ตลาดกลับมีมูลค่ามหาศาล โดยปี 2558 ตลาดรวมธุรกิจอยู่ที่ 987,0000 ล้านบาท และเติบโตเป็นอัตรา 2 หลักต่อเนื่อง นับเป็น “ขุมทรัพย์” ที่ใหญ่กว่าออฟฟิศซัพพลายกว่า 30 เท่า!

3. กลุ่มลูกค้าสถานพยาบาล สถานบำบัด และคลินิกต่าง ๆ (Medical Supplies & Equipment)

เซ็กเตอร์นี้มีผู้ประกอบการกว่า 21,000 ราย และมูลค่าตลาดสินค้าเครื่องมือเครื่องใช้ในองค์กรเหล่านั้นมีมากถึงหลัก “แสนล้านบาท”

เรียกว่า 3 เซ็กเตอร์ใหม่ มีมูลค่ารวมกันทะลุหลัก “ล้านล้านบาท” ออฟฟิศเมทมองว่า ทั้ง 3 เซ็กเตอร์ การแข่งขันยังต่ำ เพราะยังไม่มีใครที่เป็นผู้เล่นทำตลาดอย่างโดดเด่ดมากนัก

“ทั้ง 3 อุตสาหกรรมเป็นตลาดที่ใหญ่มาก แต่กลับไม่มีผู้ขายหรือ Vendor เยอะมากนัก อย่างโฮเรก้า ก็มีแม็คโครของซีพี และโฮเรก้าสแควร์ของคุณเจริญ (สิริวัฒนภักดี) แล้วเราอยู่ในเครือเซ็นทรัล ก็ไม่เล็กนะ จึงขอลุยปั้นตลาด 3 แนวรบใหม่สร้างการเติบโตให้บริษัท” วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีโอแอล กล่าว

แม้ออฟฟิศเมทเพิ่งปักธงบุกตลาด 3 อุตสาหกรรม แต่ได้ลูกค้า “ตุน” ไว้แล้ว 20% จากนี้ไปสิ่งที่บริษัทต้องเดินเกมรุก คือการ “เพิ่มสินค้า” ทั้ง 3 หมวดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยกลุ่มโรงงานอุตสหากรรม เพิ่มเครื่องมือช่าง อุปกรณ์จราจรกว่า 140 แบรนด์ อัดสินค้า 10,000 ชิ้น จาก 1,000 ชิ้น เตรียมออกแค็ตตาล็อก 50,000 เล่ม นำเสนอแก่ลูกค้าไตรมาส 2

กลุ่มโฮเรก้า เพิ่มสินค้าชุดเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องชงกาแฟ เมล็ดกาฟแฟ จาน แก้ว จาก 150 แบรนด์ จำนวนไม่ต่ำกว่า 5,000 ชิ้น และกลุ่มสถานพยาบาล คลินิก เพิ่มเครื่องมือวัดความดัน อุปกรณ์ในห้องพักผู้ป่วย หูฟังแพทย์ 5,000 รายการ ขณะที่สินค้ากลุ่มออฟฟิศมีมากกว่า 30,000 ชิ้น

“เดิมเราเป็นแชมเปี้ยนออฟฟิศซัพพลาย แต่ตอนนี้ไม่พอแล้ว เพราะเราต้องการเป็นแชมเปี้ยน Business Supplies ไม่ว่าอุตสาหกรรมอะไรเราจะซัพพลายให้ลูกค้าได้หมด”

++เตรียมเปิดขายแฟรนไชส์-เน้นออมนิชาเนล

ในปี 2561 บริษัทจะเปิดร้านใหม่ 8 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 5-10 ล้านบาท การเปิดสาขาปีนี้เน้นขนาดเล็กลงเพื่อโฟกัสเปิดภายในศูนย์การค้าของเครือเซ็นทรัลเป็นหลัก ขณะที่สิ้นปี 2560 มีสาขาทั้งสิ้น 65 แห่งทั่วประเทศ และรูปแบบร้านจะมีตั้งแต่ 150 ตร.ม.อยู่ในห้างบิ๊กซีหัวหมาก, 500-600 ตร.ม. อยู่ในพลาซ่า, 1000-1,500 ตร.ม. คือสาขาสแตนด์อะโลน

ลำพังขยายเองอาจไม่ทั่วถึง ออฟฟิศเมทจึงต้องเตรียม 20 ล้านบาท เพื่อสร้างโมเดลร้านออฟฟิศเมท “รูปแบบแฟรนไชส์” เข้าทำตลาดไตรมาส 3 เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันจะเป็นการรองรับการค้าขายออมนิชาเนล

บริษัทจะใช้งบ 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบออนไลน์ หลังพบว่าองค์กรธุกิจต่าง ๆ หันมาสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวโตแรงเกือบ 50% และใน 2561 ตั้งเป้าหมายยอดขายออนไลน์ 1,800 ล้านบาท โต 40%

ปี 2561 คลังสินค้าระบบกึ่งอัตโนมัติแห่งใหม่ บนเนื้อที่ 45 ไร่ ถนนสุวินทวงศ์ ฉะเชิงเทรา จะเปิดใช้ หลังลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทในปีก่อน ภายในคลังสินค้ามีพื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) รองรับสินค้าพร้อมส่ง 5 เท่า ที่สำคัญคลังแห่งนี้มีศักยภาพในการส่งสินค้าได้ภายในวันถัดไป จากปัจจุบันใช้เวลา 2 วัน อนาคตจะพัฒนาให้ส่งได้ภายในวันเดียว (Same day) ขยายวงกว้างมากขึ้น จากจำกัดแค่ในเขตกรุงเทพฯ บางพื้นที่ และหากธุรกิจเติบโตต่อเนื่องจากการขยายลูกค้าใหม่ ๆ บริษัทยังมีเนื้อที่ 300 ไร่ เพื่อขยายคลังสินค้าเพิ่มภายใน 10 ปีด้วย

ในปี 2560 ซีโอแอลธุรกิจในพอร์ตทั้งบีทูเอส เมพ คอร์ปอเรชั่น (อี-บุ๊ก) สร้างรายได้รวมกว่า 12,000 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 500 ล้านบาท โดยออฟฟิศเมทเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้บริษัทมากถึง 7,521 ล้านบาท เติบโต 7% จากแผนธุรกิจข้างต้น บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2561 เติบโต 15%.