นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ในการลงนามความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น ทั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่สากล โดยมี นายดำริ สุโขธรัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันอาหาร และศาสตราจารย์ โคดาม่า ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพัฒนาอาหารแห่งชาติประเทศญี่ปุ่น (NFRI) ร่วมลงนาม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็วๆ นี้

นายยุทธศักดิ์ สุภสร รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ในฐานะผู้บริหารศูนย์พัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลก เปิดเผยว่า จากการรายงานของผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในประเทศญี่ปุ่นและสำนักงานส่งเสริมการค้าไทย ณ กรุงโตเกียว พบว่า จากตัวเลขการขยายตัวของจำนวนและความหลากหลายของร้านอาหารไทยในประเทศญี่ปุ่น พบว่าปัจจุบันวัยรุ่นญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 80 หันมาบริโภคอาหารต่างประเทศ โดยเฉพาะอาหารไทยเป็นอาหารที่วัยรุ่นญี่ปุ่นบริโภคเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งเมนูที่ชาวญี่ปุ่นโปรดปรานและรู้จักมากที่สุด ได้แก่ ต้มยำกุ้งและยำวุ้นเส้น รองมาเป็นอาหารอิตาเลี่ยน และแมกซิกันตามลำดับ

สำหรับการเติบโตร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า โดยจำนวนของร้านอาหารไทยปัจจุบันมี 522 แห่ง จากเดิมมี 250 แห่งในปี 2546 ซึ่งร้านอาหารไทยส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในกรุงโตเกียวถึง 300 กว่าร้าน ที่เหลือก็กระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งจากการรายงานดังกล่าว ทางศูนย์พัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลก ได้ดำเนินการและพร้อมที่จะส่งเสริมประสานงานให้ความรู้เรื่องอาหารไทย อีกทั้งเร่งผลิตพ่อครัวแม่ครัวคนไทยคัดคุณภาพ เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคอาหารไทย และเพื่อต้องการให้ชาวต่างประเทศได้รับรู้และเข้าใจอาหารไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ในการลงนามความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น ทั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่สากล โดยมี นายดำริ สุโขธรัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันอาหาร และศาสตราจารย์ โคดาม่า ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพัฒนาอาหารแห่งชาติประเทศญี่ปุ่น (NFRI) ร่วมลงนาม ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็วๆ นี้

นายพิมล ศรีวิกรม์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายยุทธศักดิ์ สุภสร รองสถาบันอาหาร แถลงข่าว ทิศทางการดำเนินงานครัวไทยสู่โลก ’49 เดินหน้าขยายร้านอาหารไทย 3,000 แห่งทั่วโลก เน้นเป้าหมายสูงสุด ทวีปแอฟริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง เน้นปริมาณและคุณภาพ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ในฐานะผู้บริหารศูนย์พัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลก (กลาง) เข้าร่วมประชุมหารือร่วมกับ Mr. Sorenkuhlrein Kristiansen ผู้อำนวยการ Copenhagen Hospitality Colledge โรงเรียนสอนเชพในประเทศเดนมาร์ก (ที่ 4 จากซ้าย) โดยนำเสนอหลักสูตรการสอนอาหารไทยในโรงเรียนดังกล่าว เพื่อเป็นการยกระดับและเพิ่มทักษะให้แก่คนไทยในเดนมาร์ก พร้อมทั้งแก้ปัญหาการขาดแคลนพ่อครัวแม่ครัวร้านอาหารไทย และสอนการทำอาหารไทยที่ถูกต้องแก่คนทั่วไปที่สนใจอีกทางหนึ่งด้วย

โครงการครัวไทยสู่โลก ขานรับนโยบายรัฐบาล ร่วมบูรณาการ 3 หน่วยงาน พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานอาหารไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคการผลิต เผยแผนล่าสุดสร้างพ่อครัวแม่ครัวไทย 1,000 ราย พร้อมจัดฝึกอบรมให้เชฟทั่วโลก 10,000 ราย เตรียมรุกเปิดตลาดใหม่ในยุโรปและเอเชีย

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ในฐานะผู้บริหารศูนย์พัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลก (ศพอท.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการพัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลก โดยมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธาน และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการฯ เป็นรองประธานการประชุม ซึ่งได้มอบนโยบายการดำเนินงานโครงการครัวไทยสู่โลก ปี 2548 – 2549 แล้วนั้น

โครงการครัวไทยสู่โลก จะดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการร่วมภาคีหรือร่วมบูรณาการ กับ 3 หน่วยงานหลัก อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ บีโอไอ กระทรวงอุตสาหกรรม และบริษัท การบินไทย ฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนงาน Road map และจะประสานงานกับหน่วยงานหลักเพื่อบูรณาการแผนร่วมกัน และนำเสนอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อเดินหน้าแผนงานร่วมกันอย่างจริงจังต่อไป

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินงานดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญ คือการสร้างมาตรฐานอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกต่อไป รวมถึงเน้นเรื่องการส่งเสริมภาคการผลิตในประเทศให้ไปในทิศทางการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยผ่านกลไกสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนและสนับสนุนด้านการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยใหม่เพื่อป้อนสู่ตลาดโลก รวมถึงการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ โดยการร่วมทุน และสนับสนุนด้านการเงินผ่านธนาคารของรัฐอีกด้วย

สำหรับเป้าหมายการสร้างพ่อครัวแม่ครัวไทยมืออาชีพ คาดว่าในปี 2549 จะสามารถผลิตและสร้างพ่อครัวแม่ครัวได้จำนวนกว่า 1,000 คน เพื่อป้อนธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศ นอกจากนี้ จะจัดให้มีการอบรมและให้ความรู้เรื่องการทำอาหารไทยให้กับพ่อครัวแม่ครัวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จำนวน 10,000 คนทั่วโลก และพร้อมที่จะจัดตั้งสถาบันด้านการให้ความรู้และอบรมทักษะการทำอาหารไทยต่อไป

ส่วนเป้าหมายการขยายร้านอาหารไทยในต่างประเทศนั้น โครงการครัวไทยสู่โลก ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเปิดตลาดใหม่ทั้งยุโรปและเอเชีย ดังนี้ ประเทศอิตาลี 7 แห่ง, สาธารณรัฐประชาชนจีน 71 แห่ง, เอเชียตะวันออกกลาง 104 แห่ง, เกาหลีใต้ 26 แห่ง ,สแกนดิเนียเวีย 40 แห่ง ส่วนประเทศญี่ปุ่น 1,000 แห่งภายในระยะ 5 ปี

สำหรับร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่ได้ทำการสำรวจแล้ว (ตลาดเดิม) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 3,825 แห่ง ,อังกฤษ 879 แห่ง,เยอรมนี 793 แห่ง,ออสเตรเลีย 1,135 แห่ง และญี่ปุ่น 522 แห่ง โดยตลาดเก่านี้มีโครงการที่จะมอบตราไทยซีเล็กซ์ และพัฒนาทักษะการให้ความรู้ด้านการทำอาหาร และการผลิตพ่อครัวแม่ครัวโกอินเตอร์ รวมถึงการจัด Road Show เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความอร่อยและความปลอดภัย ให้กับอาหารไทย อีกด้วย

นอกจากนี้ ระว่างวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2548 ณ อาคาร 106 ไบเทค บางนา โครงการครัวไทยสู่โลก ได้จัดงานแสดงสินค้าอาหารไทยในงาน “ Thai Kitchen to The World 2005” เพื่อเป็นการกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานอาหารไทย อีกทั้งสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพในการผลิตสินค้าอาหาร และบริการต่างๆ ให้คนไทยเกิดทัศนคติที่ดีในการบริโภคสินค้าอาหารของประเทศไทย ซึ่งงานนี้คาดว่าจะมีผู้ผลิตและเจ้าของร้านอาหารคนไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 250 ราย และเงินสะพัดในการจัดงานไม่ต่ำว่า 500 ล้านบาท
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวเสริมท้าย

นายพิมล ศรีวิกรม์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (กลาง) ให้เกียรติเป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัว มหกรรม Thai Kitchen to the World 2005 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ก.ย.- 2 ต.ค.48 อาคาร 106 ไบเทค บางนา โดยมี ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร รองผู้อำนวยการสถาบันอาหารในฐานะผู้บริหารศูนย์พัฒนาอาหารไทย และครัวไทยสู่โลก (ขวา) และ นายเคน สตุรกเกอร์ นักแสดงในละครกุหลาบดำ ร่วมแถลงพร้อมโชว์ต้มยำกุ้ง อาหารไทยที่ได้รับความนิยม ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ณ ห้องประชุม VIP กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดา

นายยุทธศักดิ์ สุภสร รองสถาบันอาหาร ในฐานะผู้บริหารศูนย์พัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลก เปิดเผยว่า ผลสำรวจตลาดโดย Yell บริษัทที่จัดทำสมุดโทรศัพท์หน้าเหลืองของประเทศอังกฤษ ซึ่งสำรวจผู้ที่อยู่ใน 130 เขต กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พบว่า จากการขยายตัวของจำนวนและความหลากหลายของร้านอาหารในลอนดอนกำลังเป็นที่จับตามอง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเห็นได้จากผลการสำรวจตลาดครั้งล่าสุดพบว่า ร้านอาหารไทย และญี่ปุ่นมีอัตราการโตมากกว่าร้านอาหารประเภทอื่นๆ ถึง 40 เท่า โดยจำนวนของร้านอาหารไทย เพิ่มขึ้นถึง 4,325 % ,ร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2,260 %,ร้านอาหารอังกฤษเพิ่มขึ้น 1,924 % และอาหารจีนเพิ่มขึ้น 1,029%

ซึ่งจากผลสำรวจดังกล่าว ทางศูนย์พัฒนาอาหารไทยและครัวไทยสู่โลก ได้ดำเนินการและพร้อมที่จะส่งเสริม ประสานงานให้ความรู้เรื่องอาหารไทย พร้อมทั้งเร่งผลิตพ่อครัวแม่ครัวคนไทยคัดคุณภาพ เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคอาหารไทยและเพื่อต้องการให้ชาวต่างประเทศได้รับรู้และเข้าใจอาหารไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์ สุภสร รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ในฐานะผู้บริหารศูนย์พัฒนาอาหารไทย และครัวไทยสู่โลก (ซ้าย) เข้าเยี่ยมชมร้านอาหารไทยในต่างประเทศ และตรวจประเมินผลการมอบเครื่องหมาย Thai Select ที่ให้กับร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกา โดยมี นายอรุณ สัมพันธ์ทวีวัฒน์ ประธานสมาคมร้านอาหารไทยแห่งรัฐอิลลินอยส์ และเจ้าของร้าน ARUN’S แห่งรัฐชิคาโก้ (กลาง) ให้การต้อนรับ ซึ่งร้านคุณอรุณเคยได้รับเครื่องหมาย Thai Select ไปเมื่อปีที่แล้ว ณ นครชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา เมื่อเร็วๆนี้

นายยุทธศักดิ์ สุภสร รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ในฐานะผู้บริหารศูนย์พัฒนาอาหารไทย และครัวไทยสู่โลก (ศพอท.) เปิดเผยว่า จากนโยบายของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ เรื่อง ครัวไทยสู่โลก ในการเผยแพร่อาหารไทยในต่างประเทศนั้น

ล่าสุด สถาบันอาหารและครัวไทยสู่โลก ร่วมกับ สำนักงานต่างประเทศนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดงานเทศกาลอาหารไทยขึ้น เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณประชาชนจีน ณ นครเฉิงตู ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 1- 10 กรกฎาคม 2548 โดยในงานจะมีการจัดแสดง และจำหน่ายผลไม้ สินค้า และอาหารไทย

สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีน พร้อมทั้งเผยแพร่-ประชาสัมพันธ์ ศิลปวัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย และ อาหารไทยในโครงการ “ครัวไทยสู่โลก”

“โครงการครัวไทยสู่โลก ได้รับความร่วมมือจากสวนดุสิต นำพ่อครัวแม่ครัวไทยฝีมือดี ไปสาธิตการทำอาหารไทยให้ชาวต่างประเทศได้ลิ้มรส โดยอาหารคาวที่นำไปสาธิตในครั้งนี้ ได้แก่ ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ผัดไท ยำเนื้อ และ อาหารหวาน ได้แก่ ลูกชุบ ทองหยิบ ทองหยอดและฝอยทอง ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานประมาณ 5,000 คนต่อวัน ”

นอกจากกิจกรรมการสาธิตอาหารไทยในต่างแดนแล้ว ในส่วนกิจกรรมที่ทางประเทศไทยจัดในครั้งนี้ ได้แก่ การนำศิลปะการแสดงพื้นบ้าน รำไทย 4 ภาค มวยไทย นวดแผนโบราณ การจำหน่ายสินค้าOTOP การโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในประเทศไทย รวมถึงการจำหน่ายผลไม้ไทย เครื่องดื่ม และขนมไทย ซึ่งกิจกรรมต่างๆจัดขึ้น ณ บริเวณอาคาร แพนด้า มอลล์ นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน นายยุทธศักดิ์ กล่าวเสริมท้าย