เป็นที่ยอมรับกันว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสามารถทำรายได้หมุนเวียนในประเทศปีละเกือบแสนล้านบาท และมีผู้คนจำนวนมหาศาลที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงอาชีพพ่อครัวผู้ปรุงอาหารให้กับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวด้วย

เช่นเดียวกับประเทศอื่นที่มีจุดขายด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยก็ต้องเผชิญกับแข่งขันในการหาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว นอกจากสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน การบริการ แล้ว อาหารการกิน ก็ยังเป็นปัจจัยดึงดูดหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวไม่แพ้กัน ซึ่งปัจจุบันพ่อครัวไทยก็มีฝีมือและหลายคนก็พัฒนาตัวเองจนมาถึงระดับสูงสุดของสายงานคือตำแหน่ง Executive Chef จำนวนมากแล้ว

แต่บันไดการก้าวสู่จุดสูงสุดของวิชาชีพย่อมไม่ได้มาแบบง่ายๆ พ่อครัวที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนผ่านการฝึกฝนเคี่ยวกรำและเรียนรู้ด้วยตัวเองตลอดชีวิตการทำงาน และกิจกรรมหนึ่งที่ทุกคนให้ความสนใจคือ การประกวดแข่งขันปรุงอาหารในเวทีต่างๆ

ซึ่งปัจจุบันเวทีการแข่งขันปรุงอาหารที่นับว่าใหญ่ที่สุดประจำปีของไทยคือ งานชุมนุมผู้ประกอบการอาหาร หรือ The Culinary Gathering of Cooks and Chefs ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สมาคมพ่อครัวไทย, บริษัท แบงคอก เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (บีอีเอส) และ นิตยสาร Thailand Restaurant News

“การที่สมาคมพ่อครัวไทยร่วมมือกับบีอีเอสนั้น นับว่าเป็นผลดีอย่างมาก เพราะนอกจากเขาจะจัดงานแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านธุรกิจอาหารเป็นหลักแล้ว ผู้เข้าชมงานก็ยังสามารถมาร่วมชมการแข่งขันปรุงอาหารได้อีก ส่วนคนในสายอาชีพนี้ก็ถือว่าปีหนึ่งมาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ทดสอบฝีมือในการปรุงอาหารกันปีละครั้ง ซึ่งถือว่าการปรุงอาหารเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสีสันให้กับงาน IFHS ทุกปีได้เป็นอย่างดี และในปีนี้เป็นปีที่ 13 แล้ว งานแข่งขันของเราทุกวันนี้ก็ถือว่าได้มาตรฐานระดับสากล มีพ่อครัวชาวต่างชาติตอบรับเข้าร่วมมากขึ้นทุกปี โดยปีนี้มีจำนวนผู้เข้าแข่งขันไม่ต่ำกว่า 500 คน จากการแข่งขันทั้งสิ้น17 รายการ สำหรับรายการที่พิเศษของปีนี้คือ การแข่งขันปรุงข้าวกล้องไทย ซึ่งได้ร่วมกับมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ จัดขึ้นเพื่อโปรโมทข้าวกล้องไทย ซึ่งผู้ชนะเลิศ 3 อันดับ จะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” เชฟจำนงค์ นิรังสรรค์ นายกสมาคมพ่อครัวไทย กล่าว

นอกจากนี้การแข่งขันรายการสำคัญที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษสำหรับปีนี้คือ การแข่งขันกูเมร์ชาแลนจ์ (The Gourmet Challenge Team) ซึ่งเป็นรูปแบบของจัดอาหารบุฟเฟ่ต์แบบเย็น การแข่งขันประเภทนี้ต้องใช้ความสามารถของทีมงานค่อนข้างสูงในการสร้างสรรค์และปรุงอาหารทั้งประเภทสลัด อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารว่าง ทาปาส ซุปเย็น ของหวาน ขนมเค้ก ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายของพ่อครัวทุกคน โดยการแข่งขันรายการนี้ในเวทีประกวดพ่อครัวระดับโลกจะจัดขึ้นเป็นประจำ สำหรับการแข่งขันปีนี้มีทีมที่ตอบรับมาแล้ว 7 ประเทศ คือ ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, เกาหลี, สหรัฐอเมริกา (เท็กซัส), สวิสเซอร์แลนด์ และประเทศไทย ซึ่งพ่อครัวทีมชาติไทยรุ่นนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งแรกในรอบ 10 ปี และการเตรียมตัวแข่งขันอย่างดีคาดหวังตำแหน่งชนะเลิศไว้เลยทีเดียว

“ในการแข่งขัน เราจะเปิดกว้างให้นักศึกษาระดับอุดมศึกษาเข้าร่วมด้วย ไม่มีการจำกัดอายุผู้สมัคร เพราะเท่าที่เคยเห็นมา เด็กรุ่นใหม่จะมีความกระตือรือร้นมากกว่า พ่อครัวบางคนที่มีประสบการณ์สูงบางครั้งลงสนามแข่งขันด้วยกันยังสู้เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้เลย เพราะประมาทนึกว่าทำอยู่ทุกวัน ไม่น่าจะยากอะไร ดังนั้น การแข่งขันจึงเท่ากับเป็นทางกระตุ้นให้พ่อครัวทุกคนตื่นตัว หากไม่พัฒนาก็จะถอยหลังไปเรื่อยเพราะคนอื่นเขาเดินหน้าเสมอ” เชฟจำนงค์ กล่าวเสริม และว่า

“เท่าที่ผมได้คุยกับผู้ใหญ่ในวงการหลายคนก็ยอมรับว่าพ่อครัวและสมาคมพ่อครัวไทยก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะเราสามารถปรุงอาหารได้หลากหลายทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารชาติอื่นๆ นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังชมว่าเหมือนทานอาหารที่บ้าน นั่นแสดงว่าฝีมือการปรุงอาหารของคนไทยเป็นที่ยอมรับแม้ว่าอาหารที่ปรุงนั้นจะไม่ใช่อาหารประจำชาติก็ตาม ปัจจัยหนุนอีกอย่างคือการที่ประเทศเรามีวัตถุดิบด้านอาหารสมบูรณ์ แม้ว่าวัตถุดิบที่ใช้ในครัวต่างชาติจะไม่มีแต่เราก็มีซัพพลายเออร์ที่สามารถหามาซัพพอร์ตเราได้อย่างดี

ในฐานะนายกสมาคมพ่อครัวไทย ผมอยากฝากถึงผู้เกี่ยวข้องด้านอาหาร การโรงแรม และร้านอาหาร อยากให้ทุกคนให้ความสนใจการแข่งขันรายการนี้ ไม่ต้องกลัวว่าเมื่อส่งลูกน้องมาแข่งขันพัฒนาฝีมือจนเก่งแล้วก็จะโดนซื้อตัวไป ผมได้ยินเจ้าของร้านอาหารหลายท่านพูดอย่างนั้นเสมอ แต่ผมกลับคิดว่าหากเราพัฒนาลูกน้องให้เป็นมืออาชีพ ในขณะเดียวกันก็สร้างระบบให้ร้านอาหารของเราแข็งแกร่งไปด้วย ผมว่าธุรกิจของเราจะไปได้ไกลทีเดียว แม้ว่าลูกน้องจะไม่อยู่กับเราตลอด แต่ด้วยระบบที่มีอยู่นั้นเราจะมีตัวตายตัวแทนเสมอ นอกจากนั้นแล้ว การแข่งขันประกวดต่างๆ ยังช่วยสร้างคนรุ่นใหม่มากฝีมือเข้าสู่วงการตลอด เมื่อคนมีความรู้มีฝีมือเข้ามามากๆ บุคลากรด้านพ่อครัวก็ไม่จะขาดแคลน ท้ายที่สุดก็เป็นการช่วยพัฒนาวงการอาหารและท่องเที่ยวบ้านเราให้เติบโตทัดเทียมนานาชาติด้วย” นายกสมาคมพ่อครัวไทย กล่าวในที่สุด.

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : จารุณี ทองไพบูลย์กิจ
โทร. – 0-2991-3031-3 แฟ็กซ์ 0-2991-3066 อีเมล์ trnclub@yahoo.com

สมาคมพ่อครัวไทย
โทร. 0-2255-8446 แฟ็กซ์ 0-2255-8447 เว็บไซต์ www.thaichefs.org อีเมล์ thaichefs@yahoo.com

สมาคมพ่อครัวไทย (Thai Chefs’ Association) มีกำหนดการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 10 th WACS Asia Pacific Forum ซึ่งเป็นการประชุมประจำปี ของสมาคมเชฟโลก ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ที่เป็นสมาชิกของ WACS (World Association of Chefs Societies) โดยเชิญเชฟจากสมาคมเชฟประเทศสมาชิกกว่า 20 ประเทศ ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค มาร่วมประชุมที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 8-12 ตุลาคม 2549 ณ ห้องวิภาวดี บอลรูม โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า กรุงเทพฯ โดยมีเชฟไทยเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งถือได้ว่า เป็นการประชุมที่มีการรวมตัวของเชฟมากที่สุดในประเทศไทย เป็นเวทีให้เชฟได้มีการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นโอกาสสำคัญในการเผยแพร่ชื่อเสียง และแสดงศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักไปยังประเทศในเขตเอเชียแปซิฟิก พร้อมทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐที่ได้มีนโยบายส่งเสริมประเทศไทย ให้เป็นครัวของโลก ภายใต้ชื่อโครงการ “ครัวไทยสู่โลก” (Thai Cuisine to the World) โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานคือ

• เพื่อเป็นเวทีของการประชุมประจำปีของ WACS (World Association of Chefs Societies) โดยจัดให้มีการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลในวงการเชฟในแต่ละประเทศสมาชิก เพื่อยกระดับอาชีพพ่อครัวให้เข้าสู่มาตรฐานระดับโลก

• เพื่อสร้างโอกาสการประชาสัมพันธ์ “สมาคมพ่อครัวไทย” อาชีพ “พ่อครัวไทย” รวมถึง “อาหารไทย” สู่สากลโดยผ่านบุคคลในอาชีพเดียวกัน

• เพื่อให้ผู้เข้าประชุม เกิดความประทับใจในวัฒนธรรมไทย และความเป็นไทยในระดับสากล และช่วยประชาสัมพันธ์เผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดี ของความเป็นไทยต่อชาวต่างประเทศ

• สนับสนุนให้เกิดการใช้สินค้าไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ ที่ใช้สำหรับ การประกอบอาหารไทย เพื่อการส่งออกในประเทศของผู้เข้าร่วมประชุม โดยเป็นช่องทางการสื่อสารโดยตรงกับผู้ใช้ (Chefs)

• ผลักดันให้เกิดความประทับใจและความนิยมใน “อาหารไทย” ต่อผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อหวังผลให้นำวิธีการหรือเมนูอาหาร เผยแพร่ในทางรูปธรรม เช่น การเพิ่มเติมเมนูอาหารไทย ในโรงแรมของตัวเอง หรือการเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ตามนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก”

งานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ ห้อง President 1 โรงแรม InterContinental Bangkok โดยมีนายกสมาคมพ่อครัวไทย เชฟจำนงค์ นิรังสรรค์ ร่วมด้วย Mr. John Sloane ผู้อำนวยการสมาคมเชฟภาคพื้นเอเชีย ดร. ยุทธศักดิ์ สุภสร รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร และ นายประวิตร เปรื่องอักษร ประธานบริษัท เมกาวิซ / ฟู้ด สไตลิสท์ จำกัด ออแกไนเซอร์หลักและตัวแทนสปอนเซอร์หลักภาคเอกชนในการจัดงาน WACS ครั้งนี้ ร่วมเปิดงานต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน โดยมีผู้ดำเนินรายการคือ คุณประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี และ ดร. สุกิตติ เอื้อมหเจริญ

หัวข้อในการแถลงข่าว และการร่วมพูดคุยสนทนา จะเป็นเรื่องประวัติความเป็นมา และความสำคัญของ WACS หรือ World Association of Chefs Society รวมถึงภารกิจร่วมกันระหว่างสมาคมเชฟโลก และ สมาคมพ่อครัวไทย จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และความร่วมมือกันในอนาคต บทบาทและความสำคัญของ WACS ต่อประเทศไทยและต่อผู้ประกอบธุรกิจด้านอาหารในประเทศไทยอย่างไร รวมทั้งยังเป็นการแถลงความพร้อมของประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพ ในการจัดงานประชุมเพื่อต้อนรับเชฟนานาประเทศในครั้งนี้ โดยเชฟจำนงค์ นิรังสรรค์ได้กล่าวว่างานการประชุมในครั้งนี้ จะเป็นการนำเสนออาหารไทย ที่หลากหลายให้เชฟนานาประเทศ ได้ลิ้มรสทั้งในช่วงอาหารกลางวัน หรืออาหารว่างในแต่ละวัน ซึ่งอาจส่งผลให้เชฟในประเทศนั้นๆ สนใจ และ เพิ่มอาหารไทยเข้าไป ในเมนูร้านอาหารในโรงแรมต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ที่เชฟเหล่านี้กระจายตัวอยู่ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากทาง ดร. ยุทธศักดิ์ รองผู้อำนวยการสถาบันอาหารให้การสนับสนุงานนี้ ในฐานะตัวแทนภาครัฐอีกด้วย

WACS คืออะไร ?
WACS ย่อมาจาก World Association of Chefs’ Societies หรือสมาคมพ่อครัวโลก เป็นเครือข่ายของสมาคมเชฟทั่วโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1928 ณ กรุงปารีส โดยมีผู้เเทนของชมรม และสมาคมเชฟ 65 คน จาก 17 ประเทศ มาประชุมใหญ่กันเป็นครั้งแรก และเลือกสุดยอดเชฟในตำนานนามว่า August Escoffier เป็นประธานกิตติมศักดิ์คนแรกของสมาคม มีวัตถุประสงค์สำคัญในการก่อตั้งสมาคมคือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาวิชาชีพเชฟ ให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ปัจจุบัน WACS มีสมาชิกอย่างเป็นทางการคือ สมาคมเชฟ 72 แห่งทั่วโลก โดยมีสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 3 สมาคมจากการประชุมระดับ World Congress ครั้งที่ 31 การ ประชุมที่จัดขึ้น 2 ปีครั้ง หมุนเวียนไปใน 20 เมืองทั่วโลก ถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัต ิและจัดได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญตลอดระยะเวลา 74 ปี ที่ก่อตั้งสมาคม โครงสร้างของสมาคมประกอบไปด้วย กรรมการบริหาร (ปัจจุบันของคือ Ferdinand E. Metz ชาวอเมริกัน) มีวาระในการดำรงตำแหน่งในหน้าที่ 4 ปี ประธานสมาคม เหรัญญิกสมาคม เลขาธิการสมาคม และประธานกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้ยังมี บอร์ดบริหารที่มีหน้าที่ดูแล ในส่วนภูมิภาคในทวีปต่างๆ เช่น เอเชียแปซิฟิค ยุโรป แอฟริกา อเมริกา และคณะกรรมการเฉพาะกิจที่ทำหน้าที่ดูแลกิจกรรมพิเศษต่างๆ ของสมาคมด้วย

ภารกิจและเป้าหมาย
WACS เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด โดยมีจุดมุ่งหมาย ในการคงไว้ซึ่งมาตรฐาน และพัฒนาวงการอาหารโลก

ในการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว WACS ทำการให้ความรู้ ฝึกฝน และ พัฒนาอาชีพแก่ประเทศสมาชิก และเป็นเสมือนตัวแทน และกระบอกเสียงให้แก่บุคคล ในสายอาชีพนี้ในฐานะที่เป็นผู้มีประสบการณ์ และคลุกคลีอยู่ในวงการอาหารอย่างเต็มตัว

ทางด้านสมาคมพ่อครัวไทยนั้นมีวัตถุประสงค์ และภารกิจหลักคือการร่วมมือกับภาครัฐ และเอกชนในการเผยแพร่ผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก โดยสมาคม ได้ส่งพ่อครัวสมาชิกของสมาคม ไปร่วมกิจกรรมมา โดยตลอด สมาคมยังมีเป้าหมายในอนาคตคือ การเรียนเชิญสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำอาหาร มาร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ชื่อสมาคมพ่อครัวไทย นอกจากน ี้ยังมีการส่งเสริมอาชีพพ่อครัว ให้แก่เยาวชนและผู้ที่สนใจ พร้อมทั้ง สร้างสรรค์กิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่อสังคมต่อไป โดย ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการจัดงานในครั้งนี้ คือ

1. เกิดการพัฒนา และยกระดับอาชีพพ่อครัวให้เข้าสู่มาตรฐานระดับโลก โดยอาศัยข้อมูลที่ได้รับจากการประชุมสัมมนา และ การทำกิจกรรมร่วมกัน ระหว่างผู้เข้าร่วมงาน

2. สร้างโอกาสการประชาสัมพันธ์ “สมาคมพ่อครัวไทย” และ อาชีพ “พ่อครัวไทย” ให้เข้าสู่มาตรฐานระดับสากล

3. เกิดความประทับใจและความนิยมใน “อาหารไทย” ต่อผู้เข้าร่วมประชุม ผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ระหว่างการประชุมสัมมนา

4. เผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ตามเป้าหมายของโครงการ “ครัวไทยสู่โลก”

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
พรชัญญา เจริญธีรวงศ์
เลขานุการการประชุม 10 th WACS Asia Pacific Forum 2006 Bangkok , Thailand
Thai Chefs’ Association.
Tel 06 506 1885
Fax 02 678 1403
Email : info@wacsthailand.com

การแข่งขันทำอาหารเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยยกระดับมาตรฐานคุณภาพของอาหารไทยรวมไปถึงการพัฒนาความสามารถและศักยภาพของพ่อครัวแม่ครัวไทยอย่างต่อเนื่อง ทางสมาคมพ่อครัวไทย หรือ Thai Chef Association (TCA) ได้เข้าร่วมงาน IFHS’ 06 (The International Food & Hospitality Show 2006) งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมด้านการโรงแรม ภัตตาคาร อาหาร เบเกอรรี่ เครื่องดื่ม การบริการและการค้าปลีกนานาชาติครั้งที่ 14 จัดงานแข่งขันการทำอาหาร และการประกวด The 12th Culinary Gathering of Cooks and Chefs 2006 ขึ้นใน วันที่ 6 – 9 กันยายน 2549 ณ พลาซ่า ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ซึ่งในปีนี้ทาง TCA จะมีกิจกรรมการแข่งขันที่เป็นเทรนด์ใหม่ๆ ของการทำอาหารหลายประเภทเข้าร่วม

เชฟจำนงค์ นิรังสรรค์ นายกสมาคมพ่อครัวไทย ได้ให้ความเห็นในเรื่องของมาตรฐานเชฟไทยกับต่างประเทศว่า “ แม้ว่าสมาชิกของ TCA จะยังมีน้อย แต่ก็กล้าพูดได้ว่า เราไม่เป็นรองใครในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ซึ่งที่ผ่านมาในวงการเชฟไทยเองก็ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านอาหารรวมถึงช่วยสนับสนุนเชฟรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ในด้านต่างประเทศเราก็ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านวงการอาหารกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สมาคมเชฟมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งในปีนี้สมาคมเชฟไทยพยายามดึงเชฟจากต่างประเทศเข้ามาร่วมงานเพื่อให้การจัดงานครั้งนี้มีความเป็น International มากขึ้น ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้จะมีการประชุมพ่อครัวระดับโลก ซึ่งเราจะพูดถึง Master Chef ไทยมากขี้น เพราะใน World Chef กลุ่มสมาชิกทั้งหมด 7 – 8 ล้านคน ได้สรุปเห็นพ้องว่า ภูมิภาคเอเชียจะเป็น The Biggest Cuisine ต่อไปในอนาคต ดังนั้นทางสมาคม TCA จึงได้เร่งกระตุ้นพัฒนาวงการอาหาร ให้มีความหลากหลายไม่เพียงแต่อาหารไทย แต่ยังพัฒนาไปถึงอาหารนานาชาติ เพื่อให้เชฟไทยสามารถทำอาหารฝรั่งสู้ต่างชาติได้ ”

สำหรับการจัดการแข่งขันทำอาหารครั้งที่ 12 นี้ สมาคมพ่อครัวไทยได้จัดการแข่งขันรวมกันถึง 12 ประเภท โดยแบ่งเป็นประเภทวิจิตรศิลป์ ได้แก่ การแข่งขันแกะสลักผักและผลไม้ การแข่งขันแกะสลักน้ำแข็ง และประเภทอาหารจากกลุ่มภัตตาคาร ได้แก่ การแข่งขันทำอาหารของผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร, การแข่งขันทำอาหารไทยดั้งเดิม, การแข่งขันทำอาหารทะเลแช่แข็ง, การแข่งขันทำอาหารจากเนื้อเป็ด, การแข่งขันทำ อาหารฮอทพาสต้า, การแข่งขันทำอาหารจากไก่งวง, การแข่งขันทำอาหารเอเซีย และ การแข่งขันทำต้มยำกุ้ง

เมื่อพิจารณาจากประเภทการแข่งขันในปีนี้แล้ว จะเห็นได้ว่ามีความหลากหลายต่างจากปีที่ผ่านๆ มาอย่างมากเนื่องจากสมาคมพ่อครัวไทยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบและสินค้าซึ่งมีนวัตกรรมใหม่เข้าร่วมเวทีการแข่งขันระดับประเทศครั้งนี้อย่างหนาแน่น

อนึ่ง การร่วมมือระหว่างสมาคมพ่อครัวไทยกับบีอีเอสนั้น นับเป็นความต่อเนื่องไปถึงการสนับสนุนโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกของรัฐบาลโดยตรงด้วย โดยการแข่งขันประเภทอาหารไทยดั้งเดิม หรือ Thai Set ก็เพื่อสร้างโอกาสให้กับเชฟไทยที่ชนะประกวดการแข่งขันในงาน IFHS ได้มีโอกาสเข้าทำงานในโรงแรม ภัตตาคาร ชั้นนำ หรือมีโอกาสได้ไปทำงานที่ต่างประเทศได้มากขึ้น

“ การที่ทางสมาคมพ่อครัวไทยเข้าร่วมงานกับบีอีเอส ถือได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อวงการอาหารบ้านเรา การแข่งขันทำอาหารเปรียบเสมือนสนามประลองยุทธ์ของเชฟที่มาประชันฝีมือกัน ซึ่งในงาน IFHS นี้ถือเป็นสนามใหญ่ระดับมืออาชีพหรือเทียบเท่าระดับประเทศ เพื่อการรวมพลคนครัวในทุกโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร เข้าประลองฝีมืออย่างเต็มที่ ซึ่งได้คณะกรรมการผู้ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในวงการอาหารทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาตัดสินโดยใช้กฎระเบียบระดับสากล (International Rule ) ” เชฟจำนงค์ กล่าวเพิ่มเติม

การแข่งขัน “The 12th Culinary Gathering of Cooks & Chefs 2006” ได้รับความร่วมมือ และการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ จาก :

– แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส บจก.
– สุรพลฟู้ดส์ บมจ.
– บางกอกแร้นช์ บมจ.
– ไทย อกริ ฟู้ดส์ บมจ.
– อายิโนะโมะโต๊ะ เซลส์ (ประเทศไทย) บจก.
– ชัยทิพย์ บจก.
– USA Poultry & Egg Export Council (USAPEEC)

เรียนเชิญสื่อมวลชนทุกแขนงอีกครั้ง
เพื่อเข้าร่วมเป็นสักขีพยานการแข่งขันระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2549
และร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบรางวัลแด่ผู้ชนะเลิศการแข่งขันทุกประเภท
ในบรรยากาศสบายๆ แบบ Heavy Cocktail
วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2549 เวลา 18.00 น.
บริเวณ พลาซ่าฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์