สมาคมไทยรับสร้างบ้าน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 15 Dec 2010 00:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2553 และทิศทางเติบโตปี 2554 https://positioningmag.com/53736 Wed, 15 Dec 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=53736

ปี 2552 นับเป็นปีที่ปริมาณ “บ้านสร้างเอง” ประเภทบ้านเดี่ยวพักอาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลถดถอยลงต่ำที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้านี้ โดยจากตัวเลขพบว่าปริมาณรวมลดลงจากปี 2551 เฉลี่ยประมาณ 15% หรือลดลงจาก 21,181 หน่วยเหลือเพียง 18,135 หน่วย แต่มาในปี 2553 นี้ ปริมาณ “บ้านสร้างเอง” คาดว่าจะสามารถพลิกกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหรือประมาณ 4-5% แม้ว่าสัดส่วนการเติบโตจะไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้เป็นเพราะยังมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดปี ได้แก่ 1) ผลจากเศรษฐกิจยังชะลอตัวต่อเนื่องมาจากปี 52 ในช่วงไตรมาสแรก 2) ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ชะลอตัวจากเหตุการณ์ปะทะกันจากการชุมนุมช่วงไตรมาสสอง และ 3) ประการสุดท้ายเศรษฐกิจประเทศไทยเริ่มส่งสัญญาณเข้าสู่ในช่วงถดถอยจากผลกระทบค่าเงินบาทแข็งตัวในช่วงสองไตรมาสสุดท้าย ทั้งสามปัจจัยดังกล่าวถือเป็นตัวฉุดให้บ้านสร้างเองในปีนี้เติบโตแบบชะลอตัว และจากปริมาณบ้านสร้างเองดังกล่าวได้สะท้อนถึงภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้าน โดยที่กลุ่มผู้ประกอบการ “รับสร้างบ้าน” มีแชร์ส่วนแบ่งคิดเป็นประมาณ 17-18% ของปริมาณบ้านสร้างเองทั้งหมด

อย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาสสามหรือครึ่งหลังปี 2553 นั้น แรงกระตุ้นจากกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านที่แข่งขันอยู่ในตลาด สามารถเรียกกำลังซื้อให้กลับคืนมาได้ระดับหนึ่ง และสามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดรับสร้างบ้านในปีนี้ ให้เติบโตจากปีก่อนประมาณ 5-6 % คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 8,300-8,400 ล้านบาทเศษ ในขณะเดียวกันตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ ซึ่งมีบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำบางรายขยายสาขาออกไป ทั้งในรูปแบบลงทุนขยายสาขาเองและการขยายในลักษณะเครือข่ายหรือแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน พบว่ามีแชร์ยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงสะท้อนได้ว่าตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดมีโอกาสเติบโตในอนาคต และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ หันมาสนใจและเตรียมรุกขยายตลาดต่างจังหวัดในปี 2554 เพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ

มองแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านปี 54
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) ประเมินสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านปี 2554 มีแนวโน้มเติบโต แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยอาจกลับมาชะลอตัว ปัจจัยและเหตุผลสำคัญเป็นเพราะ 1.วัฏจักรการตลาดรับสร้างบ้านกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีก่อน 2.ผู้ประกอบการรายเดิมมีการปรับตัวเอง โดยมุ่งขยายสู่ตลาดต่างจังหวัดพื้นที่ใหม่และกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 3.พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมากู้ยืมหรือใช้สินเชื่อธนาคารมากขึ้นจากเดิมที่นิยมออมเงินเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่เท่านั้น และ 4.การเข้ามาของคู่แข่งขันรายใหม่และเป็นรายใหญ่ที่มีศักยภาพสูง ทั้งนี้จากปัจจัยดังที่กล่าวมา คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านมีการสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคและแข่งขันกันคึกคักมากขึ้น

ทั้งนี้สมาคมฯ ประเมินสถานการณ์ว่าทิศทางการแข่งขันในปี 2554 การแข่งขันตัดราคาของผู้ประกอบการจะถูกนำมาใช้น้อยลง เนื่องเพราะความกังวลของที่มีต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่จะมีการปรับขึ้น โดยมีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการจะเปลี่ยนมาเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีก่อสร้างแทน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กแข่งขันยากขึ้น โดยเฉพาะรายที่เงินทุนน้อยหรือไม่สามารถปรับตัวเอง ให้ทันกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีก่อสร้างหรือขาดการพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อให้มีมาตรฐานเป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภคเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด โดยเฉพาะเมื่อรายใหม่อย่างเช่น เอสซีจี ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่หันมาขยายไลน์ธุรกิจรับสร้างบ้าน และกลุ่มธุรกิจในเครืออัมรินทร์พริ้นติ้ง ที่ประกาศขอชิงแชร์ตลาดรับสร้างบ้านต้นปี 54 จะกดดันให้ตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแข่งขันรุนแรงขึ้นไปอีก แต่ในทางกลับกันก็ย่อมจะทำให้มูลค่าตลาดรวมเติบโตตาม ด้วยพลังของการกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคของผู้มาใหม่ นอกจากนี้เชื่อว่ายังมีกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอีกหลายราย สนใจและจะขยายไลน์เข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านเช่นกัน ทั้งนี้เพราะมองเห็นโอกาสการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าตัวเอง

มองย้อนกับไปเพียง 7-8 ปีก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการที่แข่งขันกันอยู่ในตลาดทราบกันดีว่ากลุ่มผู้บริโภค ที่เลือกใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้าน ส่วนใหญ่นิยมออมเงินให้ครบก่อนจะตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่ เคยมีการประเมินกันว่าผู้บริโภคสร้างบ้านด้วยเงินสดมีสัดส่วนประมาณ 70-80% และสัดส่วนกู้ยืมธนาคารมีเพียง 20-30% เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการผลสำรวจพบว่า พฤติกรรมดังกล่าวและทัศนคติที่ผู้บริโภค มีต่อการกู้ยืมหรือขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่กับสถาบันการเงินได้เปลี่ยนไป เหตุผลสำคัญเป็นเพราะ 1.มองว่าการออมเงินจนครบกับราคาค่าก่อสร้างบ้านอาจไม่แตกต่างกันเมื่อเปรียบเทียบกับราคาบ้านที่แพงขึ้นทุกปี 2.การกู้ยืมเงินเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ทำให้ได้บ้านอยู่อาศัยเร็วขึ้นและคุ้มค่ากว่าเมื่อเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยที่จ่ายให้ธนาคาร 3.เพราะการกู้ยืมเงินกับธนาคารในปัจจุบันมีความสะดวกมากขึ้น ระยะเวลาผ่อนชำระก็ยืดเวลาได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคใช้บริการกับบริษัทสร้างบ้านชั้นนำที่ธนาคารเชื่อถือ

จากพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านดังกล่าว เชื่อว่ามีส่วนสำคัญที่จะส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านเติบโตเป็นไปในทิศทางเดียวกับบ้านจัดสรร ที่ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะขอกู้ยืมหรือขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อให้มีบ้านหรือที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น หากสัดส่วนผู้บริโภคกลุ่มตลาดรับสร้างบ้านหันมาขอกู้ยืมสร้างบ้านเพิ่มเป็น 70% ดังผลสำรวจที่พบ อาจมีความเป็นไปได้ที่ตลาดรับสร้างบ้านจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ฉะนั้นผู้ประกอบการควรหันมาศึกษาและร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารฯ ให้มีความน่าสนใจและอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านที่เติบโตในปีหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

ชี้สถานการณ์แข่งขันและการปรับตัว
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) และผู้บริหารระดับสูง เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ที่เป็นรายใหญ่ ซึ่งเปี่ยมด้วยศักยภาพเงินทุนและขีดความสามารถทั้งในด้านการผลิตและการตลาด รวมถึงในส่วนของรายใหม่ที่เป็นรายเล็กและเลือกจับคู่ธุรกิจกับรายเดิม ในรูปแบบการซื้อแฟรนไชส์รับสร้างบ้านไปเปิดดำเนินธุรกิจในท้องถิ่นตัวเอง ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการรายเดิมในตลาดรับสร้างบ้าน ต้องพึงตระหนักและต้องเร่งปรับตัวโดยเร็ว โดยเฉพาะรายเล็กรายกลางที่ยังขาดความพร้อมและเป็นแค่มือสมัครเล่น ทั้งที่แข่งขันอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด มิฉะนั้นอาจไม่สามารถต้านแรงเสียดทานและแข่งขันได้อีกต่อไป เพราะจากนี้ไปเวทีแข่งขันของตลาดรับสร้างบ้านจะเหลือพื้นที่เฉพาะรับสร้างบ้านมืออาชีพเท่านั้น นอกจากนี้ การปรับตัวของผู้ประกอบการรายเดิมที่เริ่มหันมาขยายสาขาออกไปยังภูมิภาคต่างๆ พบว่าการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์เริ่มเป็นที่สนใจของบริษัทชั้นนำหลายราย โดยต่างกำลังเร่งศึกษาแนวทางดังกล่าว เพื่อจะนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการขยายตลาดเหมือนอย่างเช่นแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ บุกเบิกนำหน้าไปก่อน

สำหรับปี 2554 ในส่วนของสมาคมฯ นั้นจะได้มีการนำผลสำรวจและผลการศึกษาที่ได้จัดทำไว้ มาเผยแพร่และทำความเข้าใจกับสมาชิกสมาคมฯ ทั้งนี้เพื่อชี้ให้เห็นภาพการแข่งขันของรายใหญ่ที่จะเข้ามาใหม่ ซึ่งสมาชิกเองก็ได้มีการพัฒนาขีดความสามารถและปรับตัวเองมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งในด้านการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการให้เป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค พร้อมจะแข่งขันกับทั้งรายเดิมและรายใหญ่ที่มาใหม่ อีกทั้งสมาคมฯ ยังผลักดันให้สมาชิกมีการจับมือกับพันธมิตรธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เพื่อหาทางลดต้นทุนด้วยการวางแผนผลิตและเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อวัสดุในลักษณะซื้อร่วมกันเพื่อให้เกิดจำนวนมากพอ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นไปตามทิศทางที่สมาคมฯ ชี้แนะแนวทางไว้ ในอนาคตสมาคมฯ ยังมีแนวคิดที่จะผลักดันให้สมาชิกขยายการลงทุนออกไปยังประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียน เช่น สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา เวียดนาม เป็นต้น โดยขณะนี้สมาคมฯ อยู่ระหว่างศึกษาลู่ทางและกฎหมายของแต่ละประเทศที่สนใจไว้ล่วงหน้า หากเมื่อใดที่สมาชิกมีความพร้อมสมาคมฯ ก็พร้อมจะสนับสนุนทันที

]]>
53736
จัดตั้งสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) รวมกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศ https://positioningmag.com/53290 Wed, 06 Oct 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=53290

จัดตั้งสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Constructions Association: THCA) เพื่อยกระดับภาพรวมและผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการสมัยแรก หวังเป็น “เวทีกลาง” ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านมืออาชีพ และกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างที่ยังไม่มีสังกัดหรือเวทีแสดงเป็นของตัวเอง เพื่อร่วมมือกันและขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ร่วมกันทั้งในส่วนผู้ประกอบการและฝ่ายผู้บริโภค ชูนโยบายจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้บริโภค กรณีเกิดข้อขัดแย้งหรือตกลงกันไม่ได้กับสมาชิก โดยสมาคมฯ จะเป็นตัวกลางเข้าไปแก้ไขเพื่อลดข้อพิพาท ในด้านนโยบายการยกระดับผู้ประกอบการ จะมุ่งเน้นกิจกรรมเชิงสัมมนาทางวิชาการ เพื่อให้ความรู้ทั้งฝ่ายผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมถึงการสนับสนุนสินค้าและการสร้างบ้านประหยัดพลังงานเพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภคที่ยั่งยืน

สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Constructions Association: THCA) สมาคมเพื่อยกระดับภาพรวมและผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศ ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมฯ สมัยแรกเรียบร้อยแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานราชการ กลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มผู้บริโภค เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านของกลุ่มสมาชิกให้มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ โดยจะมุ่งเน้นเปิดรับสมาชิกจากทั่วประเทศ พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการได้มีการขยายธุรกิจและมีการบริการอย่างมีมาตรฐาน เป็นที่น่าเชื่อถือของผู้บริโภคในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันสมาชิกของสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) มาจากกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างจากทั่วประเทศ ไม่เฉพาะแต่ในกรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น นับเป็นจุดแข็งของการเชื่อมโยงเครือข่ายสมาชิกที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มสมาชิกวัสดุก่อสร้างอย่างแท้จริง

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) กล่าวว่า “ทางสมาคมมีนโยบายที่จะผลักดันผู้ประกอบการหรือบริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ามาเป็นสมาชิก รวมถึงผู้ประกอบการที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านรายใหม่ ให้เปลี่ยนทัศนคติในการแข่งขันจากเดิมที่เน้นการแข่งขันเพื่อเอาชนะคู่แข่งรายอื่น มาเป็นการมุ่งเน้นแข่งขันกับตัวเองเป็นหลัก เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจตนเองโดยยึดเอาผู้บริโภคเป็นแกนหลัก ทั้งนี้ผู้ประกอบการควรมุ่งตอบสนองความต้องการให้ดีที่สุด พร้อมๆ กับควรมีการตรวจสอบและควบคุมดูแลผู้ประกอบการด้วยกันเอง เพื่อมิให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการบางราย รวมถึงสร้างกลไกลการแข่งขันให้เกิดความยุติธรรมและหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายและกฎระเบียบของบ้านเมือง นอกจากนี้ทางสมาคมยังจะช่วยส่งเสริมให้สมาชิกและผู้ประกอบการควรดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมอย่างจริงจัง โดยจะเป็นเสมือนตัวกลางในการเชื่อมต่อผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน และกลุ่มวัสดุก่อสร้างให้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างจริงจัง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค”

“ที่ผ่านมาผู้บริโภคมักถูกเอารัดเอาเปรียบ ทั้งในกรณีของการสร้างบ้านแต่ไม่ได้บ้าน และสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงสร้างบ้านไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ทางสมาคมฯ จึงมีแนวคิดจะจัดตั้ง “กองทุนเพื่อการช่วยเหลือผู้บริโภค กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือขัดแย้งกัน” โดยในระยะแรกจะให้ความช่วยเหลือเฉพาะผู้บริโภคที่สร้างบ้านกับสมาชิกสมาคมฯ เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคและแน่ใจได้ว่าหากสร้างบ้านกับสมาชิกจะได้รับการดูแลจากสมาคมฯ ในการเป็นตัวกลางประสานงานเรียกร้องความถูกต้อง ซึ่งผู้บริโภคสามารถโทรศัพท์หรือเข้ามาปรึกษากับทางสมาคมได้ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือถูกเอารัด เอาเปรียบในเรื่องดังกล่าว และในระยะต่อไป จะขยายความช่วยเหลือไปยังผู้บริโภคทั่วไปในลักษณะให้ความช่วยเหลือฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบการขี้ฉ้อ” นายสิทธิพรกล่าวเพิ่มเติม

สำหรับทิศทางการทำกิจกรรมของสมาคม จะไม่เน้นไปที่การจัดงานแฟร์ หรือการออกบู๊ท แต่จะมุ่งไปที่การจัดงานสัมมนาในหัวข้อต่างๆ ที่มีประโยชน์กับผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมถึงกลุ่มสมาชิก โดยจะจัดกิจกรรมการสัมมนาครั้งแรกช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ในหัวข้อ “เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ธุรกิจรับสร้างบ้าน…ได้หรือเสีย” ซึ่งการสัมมนาดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอข้อมูลจากตัวแทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ กรมเจรจาการค้า การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากนักวิชาการ นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จในแต่ละสาขา ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน และผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง ในเรื่องผลกระทบที่เกิดจากการเปิดเสรีทางการค้าและการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ทางสมาคมฯ มองไว้ว่าการจัดงานสัมมนาในลักษณะนี้ ประโยชน์จะตกเป็นของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคทั้งสิ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสมาคมเป็นที่น่าชื่อถือไปด้วย

นอกจากนี้ทางสมาคมยังมีนโยบายในการส่งเสริมการเลือกใช้วัสดุ และการสร้างบ้านประหยัดพลังงานให้แก่กลุ่มสมาชิกรับสร้างบ้านและกลุ่มผู้บริโภค เพราะเชื่อว่าปัจจุบันบ้านประหยัดพลังงานเป็นที่ต้องการไม่เฉพาะในตลาดรับสร้างบ้านประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดรับสร้างบ้านทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าวัสดุและนวัตกรรมการก่อสร้างบ้านประหยัดพลังงานจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงในตลาดรับสร้างบ้าน แต่ทางสมาคมจะทำการผลักดันในเรื่องของราคาการใช้วัสดุและการสร้างบ้านดังกล่าวให้สมเหตุสมผล เพราะเชื่อว่าจะเป็นผลดีในระยะยาวต่อผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายระยะยาวในการอยู่อาศัย ความแข็งแรงทนทาน และยังสามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้

]]>
53290