หลังจากเมื่อต้นปีนี้ กลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้สร้างมหาปรากฏการณ์เคาต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และได้รับการกล่าวถึงไปทั่วโลก นำเสนอที่สุดแห่งมหกรรมความบันเทิง นำโดย ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ศิลปินระดับโลกสัญชาติไทย ทุบสถิติผู้ชมกว่า 30 ล้านคนผ่านการถ่ายทอดสด และมียอดผู้ชมทั่วโลกกว่า 100 ล้านวิว
สยามพิวรรธน์ยังคงยืนหนึ่งสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกอีกครั้งในการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ระดับโลก ครองแชมป์จุดเช็คอินอันดับหนึ่งของสงกรานต์ในประเทศไทย สร้างสถิติใหม่ของ Social Trend ในทุกแพลตฟอร์ม สร้างสุดยอดประสบการณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมภาพลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก
คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี ประธานคณะอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ สาขาด้านการท่องเที่ยว กล่าวว่า “ตั้งแต่ที่มีการจัดงาน Countdown ปีใหม่ที่ไอคอนสยาม และมีการประชาสัมพันธ์งานอีเวนต์ออกไปตามช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศและสื่อต่างชาติ สามารถช่วยสร้างทราฟฟิกให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี จนทำให้เมืองไทยกลายเป็น World City นอกเหนือจาก ปารีส ลอนดอน และโตเกียว สะท้อนให้เห็นถึงเมืองท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัย และสงกรานต์ปีนี้ ไอคอนสยามก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้จำนวนนักท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้น 10.73% ผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างชัดเจน โดยเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นการแสดงออกถึงความเป็นไทยในทุกมิติ สร้างจุดหมายปลายทางให้ทุกคนรับรู้ว่า Songkran as a Destination เป็นการปักหมุดให้โลกเห็นถึงประเพณีอันดีงามของไทย อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนกรุงเทพมหานครอีกครั้งอย่างสง่างาม”
นาวาโทปริญญา รักวาทิน นายกสมาคมการค้าธุรกิจการค้าในแม่น้ำเจ้าพระยา กล่าวว่า “การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปี 2568 บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวและชุมชนต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างความคึกคักให้กับธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานเทศกาลสงกรานต์ระดับโลก “ICONSIAM THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION 2025” ที่ไอคอนสยามจัดขึ้นนั้น ได้สร้างกระแสที่ดีมากและส่งผลประโยชน์ในวงกว้างต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวโดยรอบแม่น้ำ อีกทั้งยังได้ช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร เรือประเภทต่างๆ ของภาคการท่องเที่ยวทางน้ำ ที่ต่างก็คึกคักและได้รับแรงกระเพื่อมมหาศาล กิจกรรมครั้งนี้สร้างรายได้ และเพิ่มยอดจองโรงแรมจากช่วงเวลาปกติ เป็นที่ยอมรับได้ว่าวันนี้ ไอคอนสยาม ไม่เพียงแต่เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว หมุดหมายสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกต่างต้องการมาเยี่ยมเยือน ทำให้ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวไทยและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่างก็ได้รับประโยชน์ไปด้วยกันอย่างแท้จริง”
ทางสมาคมการค้าฯ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาครัฐที่กำกับดูแลในการสนับสนุน และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ในแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งนี้ ได้มีกิจกรรมในทุกเทศกาลต่างๆ ต่อเนื่องทุกปี เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวไทย ไปยังนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้ได้รับทราบ และกำหนดเป็นเป้าหมายในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของพวกเราต่อไป”
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า “ช่วงสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลสำคัญของประเทศไทยที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวและหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยเทศกาลสงกรานต์ระดับโลกที่จัดขึ้น ณ ไอคอนสยาม ในปีนี้ ถือเป็นการตอกย้ำภาพความสำเร็จอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงเทศกาล countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 ให้กับโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยรอบให้กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง มียอดจองโรงแรมล่วงหน้า ช่วยสร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเห็นได้ชัด กล่าวได้ว่าไอคอนสยามมีส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดและสร้างมนต์เสน่ห์ และสีสันให้กับประเพณีไทย และกระตุ้นให้เกิดการจองห้องพัก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”
ไอคอนสยาม ประสบความสำเร็จท้วมท้นและเป็น No.1 Global Experiential Destination of Songkran Celebration 2025 ทุบสถิติ Social Trend บนออนไลน์ ได้รับการพูดถึงมากที่สุด และมีเอนเกจสูงถึง 534,215 Engagement จากข้อมูลของบริษัทไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการข้อมูลโซเชียลมีเดียชั้นนำ ยอด view บน TikTok Official Account ICONSIAM สูงถึง 165 M. views ยอด Engagement บน TikTok Official Account สูงถึง 10M+ Engagement อันดับ 1 Trend X 4 ครั้งตลอดการจัดงาน ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ยอดเช็คอิน ‘จุดเล่นน้ำ’ สูงสุดตลอดช่วงสงกรานต์ 2568
พร้อมกันนี้ กลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบด้วย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในงาน “ONESIAM Summersive” ที่ดึงดูดผู้เข้าร่วมกว่า 1.75 ล้านคน
สยามพารากอน โกลบอลเดสติเนชั่นใจกลางกรุงเทพฯ เป็นไฮไลต์ที่มอบความสุข ประสบการณ์แปลกใหม่และแตกต่าง จัดงาน Siam Paragon Summersive : Happiness in Full Bloom ครั้งแรกของการนำสวนดอกไม้เหนือจินตนาการ Garden of Joy สร้างประสบการณ์ Multi-Sensory มิติใหม่ของความสุขที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัส
สยามเซ็นเตอร์ เนรมิตพื้นที่ของเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ให้เป็นสนามเด็กเล่นที่เต็มไปด้วยพลังไอเดียสร้างสรรค์ในงาน “Siam Center Summersive The Summer Playground”
สยามดิสคัฟเวอรี่ จัดงาน “Siam Discovery Summersive The Summer Exploratorium” ก้าวสู่โลกแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และแรงบันดาลใจอันไร้ขีดจำกัด ภายใต้คอนเซ็ปท์ Spring Awakening – A Teaser To Summer พร้อมไฮไลต์ประสบการณ์ใหม่จากแบรนด์ระดับโลกAlexander Wang ฉลองครบรอบ 20 ปี เป็นที่แรกในโลก
สำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยในระหว่างวันที่ 6-12 เมษายน 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 666,180 คน เพิ่มขึ้น 10.73% เฉลี่ยวันละ 95,169 คน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10.7 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 516,589 ล้านบาท ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ และฟื้นความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย
ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกลุ่มสยามพิวรรธน์ในการสร้าง “Global Experiential Destination” ด้วยการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกคือการนำประเทศไทยไปชนะบนเวทีโลก สร้างความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่โดดเด่นเพื่อตอกย้ำให้กรุงเทพมหานครเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวโลก พร้อมเดินหน้าเป้าหมายนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคน และสร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านล้านบาทในปีนี้
]]>สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ ตอกย้ำผู้นำความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลก ร่วมสนับสนุนการจัดงาน Bangkok Design Week 2025 (BKKDW2025) จัดโชว์เคสผลงานศิลปินและนักออกแบบทั้งชาวไทยและระดับโลก รวมทั้งกิจกรรมมากมายในพื้นที่ศูนย์การค้าที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม สร้างปรากฏการณ์งานอาร์ตและดีไซน์ ที่สะท้อนการเป็นขุมพลังความคิดสร้างสรรค์ (Creative Powerhouse) บุกเบิกการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่เหนือระดับและแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือน ร่วมส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของโลก
ชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารกลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์ มุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ (Be Amazed), ได้รับแรงบันดาลใจ (Be Inspired) และเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติวงการ (Be Revolutionary) มาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย เราเป็นศูนย์การค้าแรกที่เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้ศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันและ เป็นผู้บุกเบิกประสบการณ์ใหม่ที่ผสานศิลปะ วัฒนธรรม นวัตกรรม และสุนทรียศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างการเข้าถึงที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน
ศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์เป็นศูนย์รวมของความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ โดยได้ร่วมงานกับศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก ดีไซเนอร์ และศิลปินรุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานระดับโลกภายในศูนย์การค้า นอกจากนี้ เรายังส่งเสริมให้เกิดคอมมูนิตี้ของผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาไปสู่ Art Community ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย”
ในปี 2568 สยามพิวรรธน์ร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA พร้อมพันธมิตร เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงาน Bangkok Design Week 2025 หรือเทศกาลออกแบบกรุงเทพฯ 2568 ภายใต้ธีม “Design Up+Rising: ออกแบบพร้อมบวก+” ในวันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสยามพิวรรธน์ เปิดพื้นที่ให้กับศิลปินชาวไทยนักออกแบบรุ่นใหม่ และศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้แสดงศักยภาพ ทั้งย่านสยาม คือ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และย่านคลองสาน ไอคอนสยามโดยมีกิจกรรมสำคัญดังนี้
ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอกย้ำผู้นำในการสร้างประสบการณ์ Art in Mall แห่งแรกที่ใหญ่ที่สุด ด้วยการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ งานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีพ และกิจกรรม จับมือองค์กรพันธมิตร คัดสรรงานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ
Bangkok Design Week 2025 จัดขึ้นในพื้นที่ย่านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ที่จะพาทุกคนร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติ ผ่านงานศิลปะ และการออกแบบจากแนวคิดการผสมผสาน Art & Culture ของศิลปินไทยและต่างชาติ ติดตามรายละเอียดการจัดแสดงในพื้นที่ศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ ผ่านช่องทาง FB Page Siam Piwat และ ศูนย์การค้าในเครือได้ที่ https://www.siampiwat.com/assets/bangkokdesignweek2025 หรือสแกน QR Code ด้านล่าง
สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ตอกย้ำผู้นำโกลบอลเดสติเนชั่นอันดับ 1 ของไทย ล่าสุด ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาชนะรางวัล Asia’s Most Innovative Shopping Experience จากงานประกาศรางวัลของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค Cathay Members’ Choice Awards 2024 ซึ่งเป็นผลมาจากคะแนนโหวตสูงสุดของสมาชิกสายการบินคาเธ่ย์จากทั่วโลก เพื่อยกย่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นในการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
ความสำเร็จของไอคอนสยามในครั้งนี้ นับเป็นบทพิสูจน์ถึงจุดยืนถึงสถานะอันโดดเด่นในฐานะแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์กลางแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับนวัตกรรมอันล้ำสมัย ซึ่งเป็น DNA ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ มุ่งบุกเบิกแนวคิดใหม่ในการพัฒนาโครงการ เพื่อนำเสนอที่สุดแห่งความเป็นไทยหลอมรวมกับสิ่งที่ดีที่สุดจากทั่วโลก จนได้รับการยกย่องอย่างสูงสุด สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมแก่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทุกมุมโลก จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับสากลที่ครองใจผู้คนอย่างแท้จริง
Cathay Members’ Choice Awards เป็นรางวัลที่ยกย่องให้กับสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ช้อปปิ้งที่มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยครอบคลุม 30 รางวัลใน 6 สาขาที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นการเสนอชื่อจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม จากนั้นเป็นการเปิดให้สมาชิกทั่วโลกร่วมกันโหวต
กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ มุ่งสร้างประสบการณ์เหนือระดับและความแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ ซึ่งสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เป็นหนึ่งในพันธมิตรสายการบินชั้นนำระดับโลกที่สยามพิวรรธน์ได้ร่วมสร้างสรรค์การบริการพิเศษและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายให้แก่สมาชิก ONESIAM SuperApp และสายการบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตอกย้ำผู้นำอันดับหนึ่งในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ดึงดูดผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติปีละกว่า 100 ล้านคน อย่างต่อเนื่อง
กลุ่มสยามพิวรรธน์และศูนย์การค้าในเครือ ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ที่ต้องมาเยือนจากสถาบันต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด สยามพิวรรธน์ติดอันดับ People’s Choice Award – Top 10 Developers ในงานประกาศรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards 2024 สุดยอดผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย รางวัลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีมาอย่างยาวนานที่สุด มอบให้กับบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นและมีผลงานเป็นที่ยอมรับ ทั้งในด้านการออกแบบและการพัฒนาโครงการที่ดีที่สุดของประเทศไทย
ความสำเร็จเหล่านี้ ล้วนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของสยามพิวรรธน์ในการเป็นผู้พัฒนาโครงการระดับโลก ด้วยการผนึกกำลังร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรชั้นนำทั่วโลกในการสร้างสรรค์ออกแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความงดงามทางศิลปะกับนวัตกรรมที่ล้ำสมัยได้อย่างครบมิติ สร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่และแตกต่างจากโครงการอื่นๆ พร้อมทั้งมุ่งยกระดับความเจริญรุ่งเรืองในพื้นที่โดยรอบศูนย์การค้า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
]]>บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างสองผู้นำแห่งวงการค้าปลีกระดับโลก ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่นชั้นนำของไทย กับ ไซม่อน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการระดับโลกที่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้ง ไดน์นิ่ง ความบันเทิง และโครงการมิกซ์ยูส จากสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการลงทุนขยาย “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งที่ 2 ของประเทศไทย โดยปักธงใจกลางจังหวัดภูเก็ตเมืองแห่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวแห่งใหม่แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ช่วยส่งเสริมและเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย โดยตั้งเป้าเปิด “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ภูเก็ต” ภายในปี 2569
บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเปิด “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” แห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2563 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนกรุงเทพ-ชลุบรีสายใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 7) ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเป็นการนำประสบการณ์พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตอย่างแท้จริงสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวเท่านั้น ประกอบด้วยร้านค้าที่นำเสนอแบรนด์มากกว่า 300 แบรนด์ ทั้งร้านค้าลักชัวรี่แบรนด์ แบรนด์ของดีไซเนอร์ที่เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมสูงสุด รวมถึงแบรนด์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล และแบรนด์ไทยต่างๆ โดยมีไฮไลท์แบรนด์ที่มีเฉพาะที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น อาทิ Balenciaga, Burberry, Versace, Marc Jacobs, Karl Lagerfeld, Rebecca Minkoff, Longchamp, Boss, Montblanc, Swiss Watch Gallery, Fred Perry, Nike United SPO, Pomelo, Siam Takashimaya เป็นต้น นับเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งที่สำคัญอีกแห่งของประเทศไทย ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
โดยผลประกอบการของ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” ในปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องโดยตลอด และปัจจุบันอัตราการเช่าพื้นที่ของโครงการเต็ม 100%
จากความสำเร็จอย่างสูงและการมีวิสัยทัศน์เดียวกันของสยามพิวรรธน์และไซม่อน บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก จึงตัดสินใจเดินหน้าขยายการลงทุนเปิดโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของทัวร์ริสต์อันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งใน Global Destination ของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลก และเป็น location จุดหมายสำคัญที่กลุ่มผู้ประกอบการทั้งผู้เช่าเดิมในโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” และผู้เช่าใหม่จำนวนมากต่างแสดงความต้องการและให้ข้อเสนอแนะให้บริษัทฯ ลงทุนขยายโครงการใหม่
โดยโครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต ภูเก็ต” จะถูกรังสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์พิเศษที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสําหรับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยคํานึงถึงการตอบสนองความต้องการในปัจจุบันและรองรับการเติบโตของภูเก็ตในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้า
สำหรับโลเคชั่นของ โครงการ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดภูเก็ต มุ่งรองรับการเติบโตของเมืองที่มีการขยายตัวทุกทิศทาง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตต่อปีไม่ต่ำกว่า 15 ล้านคน รวมถึงคนไทยในพื้นที่และชาวต่างชาติที่มาพำนักอยู่เป็นระยะเวลานาน (Expat) มีกำลังซื้อสูง โดยพบว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวในภูเก็ตอยู่ในระดับค่อนข้างสูงคือ 8,355 บาทต่อคนต่อวัน
สำหรับศักยภาพความพร้อมด้านกำลังซื้อของจังหวัดภูเก็ต สามารถสะท้อนจากจำนวนห้างค้าปลีกที่มีมากถึง 14 แห่ง และไฮเปอร์มาร์เก็ตอีก 19 แห่ง รวมถึงโรงเรียนนานาชาติที่มีมากถึง 15 แห่ง นอกจากนี้ภูเก็ตยังมีจุดแข็งในด้านความสะดวกสบายในการเดินทางทั้งรถสาธารณะที่หลากหลายพร้อมให้บริการ รวมถึงถนน และทางหลวงที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีสนามบินที่สามารถรองรับผู้โดยสารทั้งได้ถึง 20 ล้านคนต่อปี และโครงการสนามบินนานาชาติอันดามัน จ.พังงา ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ส่งผลให้วันนี้จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพเต็มที่ในการรองรับการลงทุนใหม่ๆ และนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก
บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด เป็นการผนึกกำลังระหว่างสองผู้นำแห่งวงการค้าปลีก ที่จะสามารถนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่อันน่าตื่นเต้นเร้าใจให้กับวงการค้าปลีกภูเก็ตอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และสร้างจุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทยอีกด้วย
]]>หากพูดถึงจุดหมายปลายทางแบบลักซ์ซูรี่ที่ดีที่สุดในเอเชีย กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ได้รับการกล่าวถึงในฐานะผู้พัฒนา Luxury destination ที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน และไอคอนสยาม ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการระดับ Global Destination ที่มีความโดดเด่นเป็นหมุดหมายของลักซ์ซูรี่แบรนด์ชั้นนำที่ครบครันและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
สยามพารากอนและไอคอนสยาม ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากแบรนด์ดังระดับโลก ต่างทยอยเปิดแฟล็กชิพสโตร์ คอนเซ็ปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 หลายแบรนด์ได้เลือกเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและมีแบรนด์ที่ Exclusive เฉพาะที่สยามพารากอนและไอคอนสยามเท่านั้น
สยามพารากอน
ไอคอนสยาม
สยามพารากอน และไอคอนสยาม ได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลก สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเวิลด์คลาสอีเวนต์ยิ่งใหญ่ และเปิด Pop-up Store จัดโชว์เคสพิเศษและนำเสนอสินค้าลิมิเต็ดคอลเลคชั่นพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีการเปิด Pop-up Store จากแบรนด์ต่างๆ ที่หมุนเวียนกันมาสร้างความตื่นตาตื่นใจตอบโจทย์ประสบการณ์แรกเหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า
สยามพารากอน
ไอคอนสยาม
สยามพิวรรธน์ พร้อมเดินหน้าบุกเบิกนิยามใหม่ New World Luxury เพื่อสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ใหม่ๆ และเติมเต็มประสบการณ์ลักซ์ซูรี่ที่เหนือความคาดหมายและสมบูรณ์แบบที่สุดให้กับทุกคน ยกระดับประเทศไทยเป็นหมุดหมายตลาดลักซ์ซูรี่ ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
]]>สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ยกระดับการสร้างประสบการณ์งานอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลกไปอีกขั้น เสริมแกร่งทุกพื้นที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ พร้อมจับมือกับพันธมิตรในประเทศและทั่วโลก ร่วมรังสรรค์สุดยอดกิจกรรมและอีเวนต์ระดับโลกกว่า 1,300 งานในปี 2567 โดยในครึ่งปีแรกจัดเต็มอีเวนต์ไปแล้วกว่า 500 งาน และล่าสุดได้ปรับโฉม PARAGON HALL ปักหมุดศูนย์กลางของสถานที่จัดงานอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจ MICE ร่วมขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการจัดงานอีเวนต์ระดับโลก ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย
สยามพารากอน เดินหน้าทรานสฟอร์มแลนด์มาร์กระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ยกระดับ “PARAGON HALL” บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ Extraordinary Eventainment มุ่งนำเสนออัศจรรย์ประสบการณ์อีเวนต์และความบันเทิงระดับโลกให้กับผู้มาเยือนอย่างเหนือความคาดหมาย สามารถรองรับทุก Function การจัดงานอีเวนต์ พร้อมด้วยการยกระดับ Venue มาตรฐานระดับโลกให้เป็นต้นแบบสถานที่จัดงาน Carbon Neutral Venue แห่งแรกของไทย อีกทั้งยังผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจอุตสาหกรรม MICE เอนเตอร์เทนเม้นต์ รังสรรค์ Special Event และการแสดงระดับชั้นนำของโลกอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งความบันเทิง อาทิ ปรากฏการณ์บันเทิงยิ่งใหญ่กับศิลปินเกาหลี BABYMONSTER FAN GREETING EVENT เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง, งานแฟนมีทศิลปินเกาหลี TEN NCT บอยแบนด์ระดับโลก , แฟชั่นอีเวนต์และแฟชั่นโชว์จากแบรนด์ไทยที่ยิ่งใหญ่และแบรนด์ชั้นนำระดับโลก,ทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน E-sport อีกทั้ง HALL สามารถปรับขนาดพื้นที่ได้ตามความต้องการ จึงเอื้ออำนวยสำหรับการจัดงานแต่งงานหรือปาร์ตี้สังสรรค์ในรูปแบบต่างๆ ได้อีกด้วย
ONESIAM โกลบอลเดสติเนชั่นที่ผสานศักยภาพของ 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ส่งมอบประสบการณ์แปลกใหม่บนพื้นที่จัดงานอีเวนต์รวมกันกว่า 4,800 ตร.ม. พร้อมกิจกรรมความบันเทิงที่เป็นไอคอนิคอีเวนต์ ร่วมกับศิลปินระดับโลกมากมายที่กลายเป็น Talk of the Town อาทิ การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน Siam Paragon Golden Prosperous Chinese New Year 2024 ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนจำนวนมาก งานฉลองมหาสงกรานต์ที่ได้นำเอาวัฒนธรรมของไทยรวมเข้ากับล็อบสเตอร์ อินสตอลเลชั่นอาร์ตโดยศิลปินระดับโลก ฟิลิป โคลแบร์ ในงาน “Songkran Lobster Wonderland by Philip Colbert” และ มหกรรมไพรด์อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ จับมือกับเวิลด์คาแรคเตอร์ Teletubbies จัดงาน Siam Center X Teletubbies Big Hugs Big Love ฉลองความสำเร็จที่ประเทศไทยมีกฏหมายสมรสเท่าเทียม และการเปิดตัว Teletubbies Cafe แห่งแรกในเอเชีย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมงานหลายแสนคน ในปี 2567 กลุ่ม ONESIAM คาดว่าจะมีการจัดงานอีเวนต์และความบันเทิงกว่า 500 งาน รวมทั้งงานปรากฏการณ์แฟชั่นแห่งปี BIFW Bangkok International Fashion Week ในเดือนตุลาคม ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสนับสนุนยังก์ไทยดีไซเนอร์สู่วงการแฟชั่นโลก และกิจกรรมที่เป็นเทรนด์ในกระแส โดยการจับมือ ป๊อบ มาร์ท เนรมิตรพื้นที่ป๊อบอัพสโตร์เต็มรูปแบบแห่งแรกในไทย ที่สยามเซ็นเตอร์
ด้านสยามดิสคัฟเวอร์รี่ ขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Young Generation มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าแฟชั่นอย่าง Club 21 ที่เป็น Multi-label Store รวบรวมแบรนด์ยอดนิยมจากทั่วทุกมุมโลกเยอะที่สุดมากกว่า 50 แบรนด์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของแฟชั่นนิสต้า การนำเสนอ K-Culture สุดฮอตมาสู่ประเทศไทย ด้วยการเปิด Carlyn Popup Boutique จนสร้างกระแสต่อคิวพรีออเดอร์และเป็นสินค้าสุดฮอต รวมทั้งแฟชั่นยอดนิยมที่ไอดอลเกาหลีสวมใส่ซึ่งได้เปิดเป็นที่แรกในประเทศไทย ทั้ง Mardi Mercredi , EMIS ทำให้สามารถสร้างทราฟฟิกของกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาในศูนย์ฯ ได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการปรับโฉมใหม่โซน Flavor Lab ที่ชั้น 3 พื้นที่ราว 2,500 ตร.ม. เมื่อปี 2566 ให้เป็นโซเชียลคอมมูนิตี้และร้านอาหารสุดฮอต นอกจากนี้ สยามดิสคัฟเวอรี่ ยังสร้างสรรค์กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ งานเปิดต้นคริสต์มาสอัพไซเคิลจากพลาสติก ซึ่งเป็นกิจกรรมรักษ์โลกที่ทำมากว่า 15 ปี ตอกย้ำการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืนมาอย่างยาวนาน
อีกหนึ่งพื้นที่ไฮไลต์ คือ SCBX Next Tech เทคคอมมูนิตี้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต ซึ่งเป็นการจับมือกับ SCBX เปิดพื้นที่สำหรับผู้สนใจเทคโนโลยี เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ร่วมอัพเดทความรู้และประสบการณ์บน ชั้น 4 สยามพารากอน ซี่งมีการจัดกิจกรรมอัดแน่นแทบทุกวันตลอดปีตั้งแต่เปิดดำเนินการในเดือนตุลาคม 2566 และ True5G PRO HUB พื้นที่สร้างสรรรค์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสยามพิวรรธน์และ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ทรู และกันตนา กรุ๊ป ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ทั้งสายเกมเมอร์ สายไลฟ์สไตล์สุดป๊อป และสายพัฒนาความรู้ รวมทั้ง Legend Heroes Sports พื้นที่คอมมูนิตี้ที่รวมประสบการณ์ความตื่นเต้นของเกมกีฬาชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ที่มาเปิดสาขาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายในมีเกมให้เลือกมากมายถึง 13 เกม ที่ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่
นอกจากนี้ สยามพารากอน หนึ่งใน Luxury Destination ระดับโลกที่นำเสนอสินค้าแบรนด์หรูที่ครบครันมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย เดินหน้าสร้างปรากฎการณ์แรกในหลายรูปแบบให้ทุกคนสัมผัสกับกับกิจกรรมต่างๆ ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย ทั้งการเปิดพื้นที่สำหรับการเปิด Pop-up Store และจัดแสดงนิทรรศการของแบรนด์ดังระดับโลกอย่างต่อเนื่องตลอดปี
ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยกระดับการจัดงานเทศกาลไทยสู่เวทีสากล โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดศูนย์การค้าครั้งแรก มีจำนวนอีเวนต์มากกว่า 3,500 งาน จากทั้งพันธมิตรและLuxury แบรนด์ชั้นนำต่างๆ มาสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น คอลเลคชั่นพิเศษ ร้านป๊อปอัพ และได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลกมากมายมาจัดแสดงนิทรรศการที่จัดขึ้นเฉพาะที่ไอคอนสยาม อาทิ ‘HERMES IN THE MAKING’ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีอีเวนต์ไฮไลต์ที่สร้างปรากฏการณ์สะกดสายตาชาวโลกที่ทุกคนทั่วโลกให้การยอมรับ อาทิ Amazing Thailand Countdown งานเคานต์ดาวน์สุดยิ่งใหญ่ที่เป็นเหมือนไอคอนิกอีเวนต์ระดับโลกประจำปี ที่ถูกถ่ายทอดสดไปยังสื่อต่างประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีงานไอคอนิก อีเวนต์ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมประเพณีของไทยยกระดับสู่ระดับโลก อาทิ งาน THAICONIC Songkran Celebration ไอคอนสยามมหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ 2567 ซึ่งปีนี้จัดกิจกรรมยาวติดต่อกันถึง 12 วันเต็ม ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากจนกลายเป็นเทศกาลมหาสงกรานต์เฟสติวัลระดับโลก และเทศกาลงานลอยกระทง ICONSIAM THAICONIC Loy Krathong ในปีนี้จัดในธีม “สายธารมรดกไทย สานหัวใจไทยทุกเจน” ที่สามารถชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย นำประเพณีสำคัญขึ้นแท่นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมแห่งยูเนสโกได้อีกด้วย โดยในปีนี้ ไอคอนสยาม จะมีกิจกรรมอีเวนต์มากมายตลอดทั้งปีกว่า 350 งาน เพื่อตอบโจทย์การเป็นหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ทรู ไอคอน ฮอลล์ (TRUE ICON HALL) เป็นอีกสถานที่จัดประชุมและงานแสดงระดับ World Class สามารถมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ 180 องศาเพียงแห่งเดียวในประเทศ ด้วยขนาดพื้นที่ 12,000 ตร.ม. รวมทั้งพื้นที่ Suralai ด้านหน้าฮอลล์ ขนาด 1,000 ตร.ม. เป็นอีกสถานที่ที่เพียบพร้อมสามารถจัดงานได้ครบครันที่สุด ปัจจุบันมีงานที่จัดขึ้นมาแล้วทั้งหมด 350 งาน นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการในปี 2562 โดยมีอีเวนต์สำคัญระดับโลกมากมาย อาทิ APEC Women & the Economy Forum , งานกาล่าดินเนอร์ของ ICCA Congress เป็นต้น และไฮไลต์ที่ได้เกิดขึ้นปีนี้ ได้แก่ งาน Lisa Fan Meet Up , Guitar Mag ซึ่งประเดิมด้วยยอดจองในปีนี้กว่า 90% ไปแล้ว สะท้อนความสำเร็จของการสร้างปรากฎการณ์ความบันเทิงและกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างที่ดีที่สุด พร้อมช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยให้เติบโตได้อย่างสวยงาม
ศักยภาพของพื้นที่ Extraordinary Space ในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในไทย ทำให้กลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้รับการยกย่องจากวงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สยามพิวรรธน์ได้รับรางวัล Developer of the Year – Thailand จากเวที Real Estate Asia Awards 2024 ประเทศสิงคโปร์ ขณะที่ไอคอนสยามและสยามพารากอน ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Top Tourist Destination จากหลายสถาบัน อาทิ Retail in Asia และ Cleverthai.com สื่อไลฟ์สไตล์จากมาเลเซีย และล่าสุดสยามพารากอนและสยามเซ็นเตอร์ ยังคว้ารางวัล “Traveler’s Choice Award 2024” จาก Tripadvisor เว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกอีกด้วย เหล่านี้ล้วนสะท้อนศักยภาพของสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาโกลบอลเดสติเนชั่นอันดับ 1 ด้วยการเป็นสถานที่ที่มอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายไม่มีวันสิ้นสุด เติมเต็มการใช้ชีวิตที่หลากหลายของทุกเจนเนอเรชั่นมาอย่างยาวนาน พร้อมขับเคลื่อนมุ่งสู่ความสำเร็จบนเวทีโลกและสร้างความภาคภูมิใจในฐานะตัวแทนประเทศไทยที่เป็นจุดหมายปลายระดับโลกที่แท้จริง
]]>กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม ไอซีเอส และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ผนึกกำลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรทางการท่องเที่ยว 12 กลุ่มภาคอุตสาหกรรม ขยายโกลบอลอีโคซิสเท็ม จัดแคมเปญ “ONESIAM TOURIST GRAND GIVEAWAY” กระตุ้นการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษและสิทธิประโยชน์ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยรวมมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท วันนี้ – 30 กันยายน 2567
นางธนวรรณ อรรคลีพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดนักท่องเที่ยว บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าต่างๆ ในกลุ่มสยามพิวรรธน์ล้วนเป็นโกบอลเดสติเนชั่น ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติปักหมุดเป็นสถานที่ยอดนิยมแห่งหนึ่งที่ต้องมาเยือนและยังเป็นสถานที่อันดับหนึ่งในใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง มีนักท่องเที่ยวต่างชาติข้ามาช้อปปิ้งและสนุกสนานกับเวิลด์คลาสเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และแม็กเน็ตที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในสยามพารากอนวันละประมาณ 150,000 – 200,000 คน สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่วันละประมาณ 100,000 – 120,000 คน ไอคอนสยามและไอซีเอส 140,000-160,000 คน สยามพรีเมียมเอาท์เล็ตราว 8,000-10,000 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 60:40 ปัจจุบันนักเที่ยวที่เข้ามาช้อปปิ้งในศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์มีมาจากทั่วโลก ซึ่ง 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, อินเดีย และ อินโดนีเซีย
“เพื่อสนับสนุนและผลักดันนโยบายภาครัฐที่ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศรวม 3.5 ล้านล้านบาท และเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคนในปีนี้ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปถึงจำนวน 40 ล้านคน ศูนย์การค้ากลุ่มสยามพิวรรธน์ได้จัดแคมเปญ “ONESIAM TOURIST GRAND GIVEAWAY” โดยผนึกกำลังกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรในภาคการท่องเที่ยวมากกว่า 40 องค์กร ครอบคลุม 12 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ สายการบิน, โรงแรม, คมนาคม, ร้านอาหาร, บริการทางการเงิน, สปา, และอื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวในทุกมิติ รวมสิทธิประโยชน์และของรางวัลร่วม 1 แสนรางวัล รวมมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท”
พันธมิตรภาคการท่องเที่ยว 12 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์, บริษัท แอร์ ชาร์เตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด, อัลฟาอิซ ไทย ทราเวล , อาลีเพย์,สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต, บริษัท แอดซ์ เจ้าพระยา จำกัด, โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ,โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท, โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ, บลู บาย อลัง ดูคาส, บางกอกแอร์เวย์ส, โบลท์, คาลิปโซ่ คาบาเร่ต์, เรือเจ้าพระยาทัวร์ริสท์โบ๊ท, โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ, โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ, บริษัท ชาร์จสปอต (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท เอเลเฟ่นท์ โกโก จำกัด, เดียร์ทัมมี่ ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์มาร์เก็ต, เฟรเซอร์ สวีท สุขุมวิท กรุงเทพมหานคร, ห้าม้าโอสถ,บริษัท จีบี ลีโมซีน จำกัด, แกร็บ, สนามมวยราชดำเนิน, ไลน์แมน, โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ, โรงแรมม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์, มูน วาฬ ซันเซ็ท แอนด์ ซีวิว บาร์ , แปดอัฐ, โรงพยาบาลพระรามเก้า, พิพิธภัณฑ์ริบลีส์พัทยา, โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน, ซีไลฟ์ แบงคอก, โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ, โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ, โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพ, โรงแรมเดอะ สลิล ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ, ทัวร์มาสเตอร์, ยูเนี่ยนเพย์ , สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน และวีแชทเพย์ เป็นต้น
โดยสยามพิวรรธน์ได้พัฒนา Tourist Web App ที่นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิกบัตร ONESIAM Tourist Card บัตรที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับสิทธิพิเศษจากร้านค้าผู้เช่าศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์กว่า 300 ร้านค้า เพื่อร่วมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบคุ้มค่า อาทิ ส่วนลดสุดเอ็กคลูซีฟ หรือได้รับสิทธิ์เข้าใช้บริการ Tourist Lounge และเพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับผู้สมัครบัตร ONESIAM Tourist card ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2567 – 30 ก.ย.2567 สยามพิวรรธน์ ร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศร่วมกันจัดทำแคมเปญ “ONESIAM TOURIST GRAND GIVEAWAY” มอบของรางวัลสุดพิเศษให้กับผู้สมัครบัตร ONESIAM Tourist card ได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างเหนือระดับในทุกมิติ ไม่ว่าการช้อปปิ้ง การรับประทานอาหาร การพักผ่อน และความเพลิดเพลิน เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่ศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ และ เดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย อาทิ สยามกิฟท์การ์ดมูลค่า 3,000 บาท, ตั๋วเครื่องบินจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, ที่พักจากโรงแรมเดอะ สลิล ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ, บัตรของขวัญจิบชายามบ่าย Afternoon tea จากโรงแรม สยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพและโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพ เป็นต้น
“เราเชื่อมั่นว่าแคมเปญ “ONESIAM TOURIST GRAND GIVEAWAY” ในครั้งนี้ จะเป็นการมอบประสบการณ์อย่างเหนือระดับที่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และจะช่วยผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในช่วงครึ่งปีหลังศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์เตรียมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษด้วยกิจกรรมระดับเวิลด์คลาสและร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ตอกย้ำจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างแน่นอน ” นางธนวรรณ กล่าวปิดท้าย
]]>ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด Luxury Retail ที่ครองความเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงที่สุดในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจากยอดการใช้จ่ายที่เติบโตสูง ด้วยการเพิ่มศักยภาพและยกระดับ Luxury CRM สำหรับลูกค้าสมาชิก (Membership) ในรูปแบบใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Global citizen พร้อมกับการเปิดตัว JAI by ONESIAM ลักซ์ซูรี่คลับระดับโลกรูปแบบใหม่ ก้าวข้ามขอบเขตเดิมๆ ออกไปสู่การสร้างเน็ตเวิร์คกับสมาชิกหนุ่มสาวระดับแถวหน้าจากหลากหลายวงการในเอเชีย ตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียมในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่หาไม่ได้จากที่อื่น
นางธณพร ตันติยานนท์ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์เป็นผู้พัฒนาโกลบอลเดสติเนชั่นที่มีฐานลูกค้าที่ทรงพลังในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง หรือกลุ่ม High Net Worth (HNW) เราประสบความสำเร็จด้วยยอดเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการใช้จ่ายของลูกค้าที่เป็นสมาชิก ONESIAM ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 30% ของฐานลูกค้าปัจจุบัน เราพร้อมที่จะยกระดับบริการลูกค้าในแบบ VVIP ด้วยการมอบสิทธิพิเศษใหม่ๆ และประสบการณ์เหนือระดับที่หาซื้อไม่ได้ เนื่องจากเรามีสินค้าและบริการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มและครบครันมากที่สุดทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ และด้วยการเปิดตัว ONESIAM SuperApp แอปพลิเคชั่นเดียวที่สามารถตอบโจทย์ลักซ์ซูรี่ไลฟ์สไตล์ การสร้างสรรค์ประสบการณ์ลูกค้าโดยใช้ข้อมูล หรือ data-driven CRM ทำให้เราเข้าใจความต้องการลูกค้าอย่างลึกซึ้งสามารถนำเสนอบริการแบบ Personalized ที่เยี่ยมยอด อีกทั้งการสร้างประสบการณ์ลักซ์ซูรี่ในรูปแบบใหม่ และงานอีเวนต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าได้สินค้าคอลเลคชั่นพิเศษก่อนใคร รวมทั้งสิทธิพิเศษ อาทิ การให้ ONESIAM Coin สิทธิประโยชน์จากการซื้อสินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ทุกร้าน”
ความแข็งแกร่งเหล่านี้ทำให้สยามพิวรรธน์มีความพร้อมที่จะยกระดับการสร้างประสบการณ์ Luxury Community ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการส่ง JAI by ONESIAM ลักซ์ซูรี่ไลฟ์สไตล์คลับระดับโลก เพื่อตอบความต้องการมากกว่าการเข้าถึงสินค้า แต่รวมถึงการเข้าถึงคอมมูนิตี้ใหม่ๆ ที่นำเสนอประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น และโอกาสที่จะร่วมสร้างสรรค์โลกของลักซ์ซูรี่ในอนาคต
นางสาวโมโมริ ฮิราบายาชิ Business Development บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “JAI by ONESIAM เป็นคอมมูนิตี้หนึ่งเดียวที่บุกเบิกการสร้างประสบการณ์ลักซ์ซูรี่ไลฟ์สไตล์ ของบรรดาผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ที่ไปไกลกว่าความลักซ์ซูรี่ เพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์ร่วมกัน (Co-creation) ระหว่างสมาชิกร่วมก่อตั้งอย่างเช่น ผู้นำด้านเทคโนโลยีจากฮ่องกง จนถึงผู้นำอุตสาหกรรมแฟชั่นจากเอเชีย และยุโรป และพันธมิตรระดับโลก ที่จะมากำหนดนิยามใหม่ของอนาคต ด้วยการจับมือกันรวมพลังสร้างนวัตกรรมใหม่ สปิริตของการผสานความร่วมมือเป็นหัวใจสำคัญของ JAI เมื่อสมาชิกและพันธมิตรเชื่อมโยง ร่วมมือ และสร้างสรรค์ ประสบการณ์อันน่าจดจำร่วมกัน จะทำให้สามารถก้าวข้ามความธรรมดา และมุ่งสู่ประสบการณ์ลักซ์ซูรี่เหนือระดับที่แตกต่างไม่เหมือนใคร”
1.การสร้างคอมมูนิตี้ของผู้มีวิสัยทัศน์จากหลากหลายอุตสาหกรรมและประสบการณ์ มารวมตัวกันด้วยความชื่นชอบในนวัตกรรมที่เหมือนกัน มีแรงขับเคลื่อนที่จะสร้างสรรค์ มองหาโอกาสใหม่ๆ ที่ไร้พรมแดน กิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟจะถูกจัดขึ้นในทุกเดือน เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ของสมาชิกที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน และเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ความรู้กับผู้บริหารระดับสูง ซีอีโอจากองค์กรชั้นนำ หรือผู้มีวิสัยทัศน์ในสายอาชีพต่างๆ อีกด้วย ในช่วงเวลาที่ผ่านมา JAI เชื่อมโยงคอมมูนิตี้ผ่านกิจกรรม อาทิ งาน JAI Hong Kong Art Basel Week ซึ่งจัดที่ฮ่องกงเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2567 หรือ การจัดงานร่วมกับ Blaq Lyte และ PLEASURES แบรนด์สตรีทแฟชั่นจากลอสแอนเจลิสหรือการจัดงานล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาร่วมกับ Hashed ที่ได้รวบรวมผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลกมาที่ประเทศไทย
2.บุกเบิกความลักซ์ซูรี่ในยุคใหม่โดยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อมอบข้อเสนอพิเศษให้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่ตอบความต้องการของสมาชิก พร้อมทั้งการมอบสิทธิพิเศษที่คัดสรรจากสยามพิวรรธน์และพันธมิตร ด้วยการเข้าชมงานอีเวนต์แบบ Exclusive สิทธิประโยชน์เหนือระดับในรูปแบบต่างๆ อาทิ งาน JAI Art Nite ที่ เดอะสแตนดาร์ด กรุงเทพมหานครและสิทธิพิเศษจากสยามพิวรรธน์ ด้วยบริการผู้ช่วยส่วนตัว บริการต้อนรับที่สนามบิน รถลีมูซีน ห้องรับรองพิเศษ VIP Lounges ที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม บริการจองร้านอาหาร และ Concierge service
JAI by ONESIAM มีการจัดอีเวนต์ 2-3 ครั้งทุกเดือนทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองต่างๆ ในเอเชีย เพื่อสร้าง passion และแรงบันดาลใจ ให้ทุกวันเป็นวันพิเศษเหนือธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ ความบันเทิง อาหาร และแฟชั่น สำหรับโลกของลักซ์ซูรี่ สมาชิก JAI จะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครจากสิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟในการเข้าชมคอลเลคชั่นพิเศษ ผลงานระดับมาสเตอร์พีสที่ไม่ได้เปิดใครเข้าชม และโอกาสที่จะได้พูดคุยกับเจ้าของแบรนด์ รวมทั้งสิทธิที่จะได้บัตรเข้าชมการแข่งขัน F1 Singapore Grand Prix ที่สิงคโปร์ หรือทัวร์นาเม้นท์กอล์ฟของมืออาชีพ ไปจนถึงงานปาร์ตี้แบบมีสไตล์
3.ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในระดับโลก โดยดึงศักยภาพจากพันธมิตรระดับโลก มาสร้างโอกาสที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ความร่วมมือกับแบรนด์และองค์กรชั้นนำทั่วโลกทำให้ JAI ขยายการเข้าถึงและทำให้เกิดการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตไปอย่างกว้างไกล คอมมูนิตี้ระดับโลกนี้เชื่อม global citizen จากหลากหลายวงการ ตั้งแต่ภาคธุรกิจ เทคโนโลยี การเงิน บริการ แฟชั่น และศิลปะ กิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้นในเมืองสำคัญๆ ปัจจุบัน มีสมาชิกที่เข้าร่วมจากประเทศต่างๆ อาทิ แคนาดา ฝรั่งเศส ฮ่องกง ฮังการี สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สวีเดน สหรัฐอเมริกา และไทย
JAI ได้ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในวงการลักซ์ซูรี่ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก ยกระดับการใช้ชีวิตสุดหรู สร้างประสบการณ์เหนือระดับที่หาไม่ได้จากที่อื่น สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ JAI by ONESIAM เชื่อมโยงกับคอมมูนิตี้ของผู้มีวิสัยทัศน์ ที่มุ่งมั่นในการสร้างสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับ ติดตาม JAI by ONESIAM ผ่านทางอินสตาแกรม @jaibyonesiam หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.jaibyonesiam.com
]]>กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ คว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติ ระดับนานาชาติ จากเวที Real Estate Asia Awards 2024 ประเทศสิงคโปร์ นำโดยสยามพิวรรธน์ได้รับรางวัล Developer of the Year – Thailand, ไอคอนสยาม ได้รับรางวัล Mixed-use development of the Year – Thailand และสยามพารากอน ได้รับรางวัล Innovation Hub Development of the Year – Thailand ตอกย้ำความสำเร็จของผู้นำในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก ที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาภูมิทัศน์เมืองในกรุงเทพมหานคร มีส่วนร่วมสร้างสรรค์อัตลักษณ์เมืองที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาเยือน
สยามพิวรรธน์ – Developer of the Year – Thailand รางวัลสะท้อนความเป็นที่สุดของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ที่นำความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก จนทำให้เกิดการพัฒนาด้านภูมิทัศน์ของวงการค้าปลีกในประเทศไทย ส่งเสริมวัฒนธรรมและภาคการท่องเที่ยวไทยให้โดดเด่นบนเวทีโลก อีกทั้งการนำนวัตกรรมและการบริหารงานที่ยอดเยี่ยมทำให้สยามพิวรรธน์เป็นผู้บุกเบิกการสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายที่พิเศษและแตกต่าง สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือนจากทั่วโลก
ไอคอนสยาม – Mixed-use development of the Year – Thailand รางวัลสะท้อนความยอดเยี่ยมของการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นอภิมหาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกและโครงการที่พักอาศัยระดับเวิล์ดคลาส ไอคอนสยามนำเสนออัตลักษณ์ของความเป็นไทย นำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก จนเป็นแลนด์มาร์กของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางห้ามพลาดของนักเดินทางจากทั่วโลก
สยามพารากอน – Innovation Hub Development of the Year – Thailand รางวัลสุดยอดผู้พัฒนาศูนย์นวัตกรรมแห่งปี จากความร่วมมือกับพันธมิตร SCBX พัฒนาพื้นที่ Next Tech เทคคอมมูนิตี้เพื่อการเรียนรู้แห่งโลกอนาคต เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ตั้งแต่เปิดดำเนินการในเดือนตุลาคม 2022 Next Tech กลายเป็นเทคคอมมูนิตี้ ที่มีการจัดงานเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ แทบทุกวันตลอดปี
ทั้ง 3 รางวัลดังกล่าว จึงเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ที่มุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ร่วมกันสร้างสรรค์ (Co-creation) และการสร้างคุณค่าร่วมกัน พัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาเมืองและนวัตกรรมใหม่ๆ ในประเทศไทย
]]>กลุ่มสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่นอันดับ 1 ของไทย อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เป็นหนึ่งในองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลาย และความเท่าเทียมมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ที่ “สยามเซ็นเตอร์” ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของทุกความหลากหลาย พร้อมมอบโอกาสให้แก่ทุกคนในฐานะเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ หรือ Ideaopolis ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา สยามเซ็นเตอร์สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเวทีแจ้งเกิดผู้มีความสามารถในวงการแฟชั่น ตั้งแต่ยังก์ดีไซเนอร์ไปจนถึงแบรนด์ไทยระดับแถวหน้าของวงการ และแบรนด์ระดับตำนานที่เติบโตโดดเด่นในเวทีโลก ขณะเดียวกันสยามเซ็นเตอร์สนับสนุนงานเฉลิมฉลองในเดือนแห่งความภาคภูมิใจ หรือ Pride Month ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งงาน Bangkok Pride Festival 2024 ที่จัดโดย บางกอกไพรด์และกรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นมหกรรมไพรด์อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ ที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมงานหลายแสนคน
สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์การค้ามาตรฐานสากลแห่งแรกของประเทศไทย ที่ครองใจคนไทยและนักท่องเที่ยวมาทุกยุคทุกสมัย และบรรดาร้านค้าชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศล้วนเปิดสาขาแรกที่สยามเซ็นเตอร์ และยังเป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่นที่ล้ำสมัยอยู่เสมอ เป็นสถานที่ในดวงใจของบรรดานักออกแบบดีไซเนอร์ที่ใฝ่ฝันอยากมาเปิดร้านภายในบ้านหลังใหญ่ของไทยดีไซเนอร์แห่งนี้ สยามเซ็นเตอร์ได้มอบโอกาสให้แก่ นิสิต นักศึกษา นักออกแบบรุ่นใหม่ ทุกเพศสภาพ ได้เวทีในการนำเสนอพลังสร้างสรรค์ โดยการแข่งขันประกวดยังก์ดีไซเนอร์ พร้อมผลักดันให้ก้าวสู่ธุรกิจแฟชั่น และร่วมพัฒนาแบรนด์ เพื่อให้ยืนหยัดในวงการแฟชั่นทั้งไทยและระดับโลก แน่นอนว่าวงการแฟชั่นเป็นศูนย์รวมของคอมมูนิตี้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งดีไซเนอร์ สไตลิสต์ เมคอัพอาร์ทิส ช่างทำผม นักออกแบบ ออแกไนเซอร์ และอาชีพอื่นๆ อีกมากมาย สยามเซ็นเตอร์จึงเป็นเสมือนเพื่อนสนิทของเหล่า LGBTQ+ มาอย่างยาวนาน
ล้ำเทรนด์ หรือ Ideaopolis ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา สยามเซ็นเตอร์สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเวทีแจ้งเกิดผู้มีความสามารถในวงการแฟชั่น ตั้งแต่ยังก์ดีไซเนอร์ไปจนถึงแบรนด์ไทยระดับแถวหน้าของวงการ และแบรนด์ระดับตำนานที่เติบโตโดดเด่นในเวทีโลก ขณะเดียวกันสยามเซ็นเตอร์สนับสนุนงานเฉลิมฉลองในเดือนแห่งความภาคภูมิใจ หรือ Pride Month ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งงาน Bangkok Pride Festival 2024 ที่จัดโดย บางกอกไพรด์และกรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นมหกรรมไพรด์อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ ที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมงานหลายแสนคน
ไทยดีไซเนอร์ที่ได้ร่วมก้าวเดินและรันวงการแฟชั่นไทยร่วมกับสยามเซ็นเตอร์ มีมากมาย อาทิ AB-Normal, Anatomie, Baking Soda, Curated by Ek Thongprasert, Flynow, Frank Garcon, Friday27Nov, Good Mixer, Greyhound, House of PB, ICONICS, Kanapot, Kloset, Leisure Project, Milin, P.Mith, Painkiller, Playhound by Greyhound, Q design and Play, Rotsaniyom, Senada, Shaka Leisure, Theatre, Tube Gallery, Wonder และอีกมากมาย ที่เปิดในร้าน Absolute Siam Store และ The Wonder Room ไทยดีไซเนอร์เหล่านี้ นับเป็นผู้มีความสำคัญต่อวงการแฟชั่นไทย นำเสนอพลังความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวไทยและคนทั่วโลก เป็น Soft Power ที่สร้างเม็ดเงินในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยจนเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้แก่ประเทศ มีไทยดีไซเนอร์หลากหลายแบรนด์ที่เปิดร้านในสยามเซ็นเตอร์มาอย่างยาวนาน ขณะเดียวกันอีกหลายแบรนด์ได้ขยับขยายธุรกิจ แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผูกพันและความภาคภูมิใจที่สยามเซ็นเตอร์มีให้ต่อไทยดีไซเนอร์ไทยทุกแบรนด์มาโดยตลอด
ปัจจุบันสยามเซ็นเตอร์ยังครองความเป็นศูนย์กลางแฟชั่นและนำเสนอเทรนด์สุดล้ำแห่งยุคสมัย นำเสนอแฟชั่นที่ตอบสนองสไตล์และคอมมูนิตี้ที่แตกต่าง รวมทั้งร้าน Absolute Siam ศูนย์รวมงานสร้างสรรค์สินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และของที่ระลึก นำเสนอสินค้าที่แตกต่างมีจำหน่ายเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์เพียงแห่งเดียว สร้างสรรค์ครีเอทด้วยดีไซน์แปลกใหม่จากการร่วมคอลลาบอเรชั่นระหว่างแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง เป็นสินค้า Exclusive แบบไม่เคยมีมาก่อน
ด้วยจุดยืนที่มุ่งมั่นและสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (Diversity, Equality & Inclusion) มาโดยตลอด โดยสยามเซ็นเตอร์เป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ร่วมกับสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) องค์กรระดับโลกที่ดำเนินงานเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คนตามหลักธรรมาภิบาลในทุกด้าน และได้ทำงานร่วมกันมาโดยตลอดทุกศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ซึ่งเป็นการออกแบบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการบริการต่างๆ เพื่อคนทั้งมวล
ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีสำคัญที่ประเทศไทยจะมีกฏหมายสมรสเท่าเทียม นับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มสยามพิวรรธน์จึงผนึกกำลังกับองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ สนับสนุนการจัดงาน Bangkok Pride Festival 2024 ในหลากหลายมิติ ภายใต้แคมเปญ “The Celebration: Right to Love” ตลอดทั้งเดือนมิถุนายน นี้
โดยสยามเซ็นเตอร์ ร่วมสร้างไฮไลท์ที่ดึงดูดสายตาคนทั่วโลก โดยการนำเวิลด์คาแรกเตอร์ระดับโลก “Teletubbies” มาร่วมเป็น Pride Ambassador และจัดงาน Siam Center x Teletubbies Experience Space และงาน Wacoal X Teletubbies Café ซึ่งเป็น Teletubbies Café แห่งแรกในเอเชีย สร้างความฮือฮาและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ขณะที่ สยามพารากอน ได้เปิดพื้นที่ ให้กับ บางกอกไพรด์ และ กรุงเทพมหานคร จัดงาน Bangkok Pride Forum 2024 เวทีสำคัญที่บุคคลและผู้แทนองค์กรที่ทำงานและเกี่ยวข้องกับด้านสิทธิ LGBTQ+ และสตรีทั้งไทยและต่างประเทศ มาร่วมเสวนาและให้ความรู้กว่า 30 หัวข้อ และ Drag Bangkok Festival 2024 เทศกาลแดร็กสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกในไทยและเอเชียโดยร่วมมือพันธมิตร คือ เยลโล่ แชนแนล และ องค์กรบางกอกไพรด์ ถือเป็นมิติใหม่ของการสร้างปรากฏการณ์ที่ให้ทั้งสาระและความสนุกสนาน ด้านไอคอนสยามและไอซีเอส จัดแคมเปญ “ICONSIAM Pride Out Loud เฉิดฉายหัวใจภาคภูมิ” เพื่อยกย่องและเชิดชูคุณค่าที่อยู่ในตัวตนของเพศที่หลากหลายในทุกอาชีพ โดยจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน
สยามพิวรรธน์ ยังสร้างกิมมิกใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยการเปิดตัวน้ำดื่มวันสยาม Pride Edition ที่เป็น Limited Edition ดีไซน์ใหม่ด้วยสีลวดลายของกระป๋องเป็น 6 สีสันสดใส ตามธงสีรุ้ง ที่มาพร้อมแนวคิดขับเคลื่อนสังคมบริโภคยั่งยืนด้วยบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มจากอะลูมิเนียมสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ 100% สอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste และการขับเคลื่อนสู่องค์กรขยะเป็นศูนย์
ทั้งหมดนี้สะท้อนความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ ผู้สร้าง Global Destination ของไทย ที่มุ่งมั่นนำเสนอไอคอนิคอีเวนต์ยิ่งใหญ่ สร้างประวัติศาสตร์และปรากฏการณ์ใหม่ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมร่วมสนับสนุนอย่างแข็งขันและผลักดันให้ประเทศไทยฉายศักยภาพมุ่งสู่เป้าหมายในการจัด Bangkok WorldPride 2030
]]>