FIFA จึงให้สำนักงาน กสทช.ออกมาตรการควบคุม ไม่ให้การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก สามารถรับชมได้ในต่างประเทศ

กสทช.จึงได้เชิญบริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท ทีซี บรอดคาสติ้ง จำกัด PSI IPM (ผู้ให้บริการโครงข่ายฯ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หารือ เพื่อหาป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล 2018 รอบสุดท้าย 

โดยได้ข้อสรุป ให้เปลี่ยนแปลงรหัส (BISS KEY) ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกในทุกวันที่มีการแข่งขัน

ดังนั้น ก่อนจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล 2018 รอบสุดท้าย จะมีตัววิ่งที่หน้าจอโทรทัศน์บอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรหัส (BISS KEY) หลังจากนั้น ขอให้ประชาชน “ถอดปลั๊ก” กล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ และเสียบปลั๊กใหม่ เพื่อให้กล่องปรับปรุงรหัสอัตโนมัติ (OTA) เมื่อถึงเวลาถ่ายทอดสดประชาชนก็จะสามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตามตารางได้ตามปกติ

แต่หากไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้ ขอให้โทรแจ้งปัญหาที่ Call Center ของผู้ให้บริการกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ที่ใช้บริการอยู่ เพื่อขอรับคำแนะนำการแก้ไขทางเทคนิคเพื่อให้สามารถรับชมได้ตามปกติ

กสทช.บอกว่าสาเหตุที่ต้องการที่ต้องเข้ารหัสดังกล่าว เพื่อป้องกันกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของไทยที่อยู่ในต่างประเทศสามารถรับชมรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายได้

“เพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของ FIFA ที่ให้ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายได้เฉพาะในประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนคนไทย สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้จนจบ” ผศ.ดร. ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ กล่าว

*** เรตติ้งบอลโลกแมตช์ บราซิล แซง “บุพเพฯ“

แมตช์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เรตติ้งดีสุดคือ การแข่งขันคู่ของบราซิล ชนะคอสตาริกาที่ถ่ายทอดสดในช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน เรตติ้งสูงถึง 4.484 เฉือนเอาชนะทั้งละครและวาไรตี้ในช่วงเย็น โดยเฉพาะละครรีรัน บุพเพสันนิวาส ช่อง 3 ที่ได้เรตติ้ง 4.390 ได้เป็นครั้งแรก

โดยที่บุพเพสันนิวาส รีรัน ครองแชมป์เรตติ้งสูงสุดของช่วงเย็นต่อเนื่องมาตลอด โดยได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ในระดับ 5-6 กว่าทุกวัน เช่น วันที่ 18-21 มิถุนายน อยู่ที่ 4.640, 6.341, 5.822 และ 5.537

*** โมโนจัดหนัก Fast and Furious ภาค 1- 7 ลงสู้บอลโลก

ช่องโมโน สู้ศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยการจัดหนัก ใส่ชุดภาพยนตร์ Fast & Furious ตั้งแต่ภาค 1 ลงผังยาวถึง Fast 7 เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ในช่วงเวลาชนกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก โดยวันที่ 20 มิถุนายน จัด Fast 1 ลงผังเวลา 18.20 น. เรตติ้งอยู่ที่ 2.567 ต่อด้วย Fast 2 ในวันเดียวกัน เริ่มเวลา 20.28 น. เรตติ้งอยู่ที่ 2.552 ตรงกับแมตช์บอลโลก คู่โปรตุเกส ชนะ โมร็อกโก 1-0 แต่เรตติ้งฟุตบอลยังสูงกว่า อยู่ที่ 4.119

วันที่ 21 มิถุนายน โมโนจัดต่อเนื่อง Fast 3 เริ่มเวลา 20.15 น. เรตติ้ง 2.721 จบแล้วต่อด้วย Fast 4 ในวันเดียวกัน เรตติ้ง 2.674 เรตติ้งสูสีกับแมตช์ เดนมาร์ก 1:1 ออสเตรเลีย เรตติ้ง 2.944 วันต่อมา ศุกร์ที่ 22 มิถุนายน Fast 5 เรตติ้งพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 3.220

ส่วน Fast 6 ลงผังในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน เรตติ้ง 4.068 แซงชนะบอลโลกแมตช์ เบลเยียมชนะตูนีเซีย 5-2 เรตติ้ง 3.390 และในวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน Fast 7 เรตติ้งทะยานไปอยู่ที่ 4.727 สูงกว่าแมตช์ที่ อังกฤษถลุงปานามา 6-1 เรตติ้ง 3.327

ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องโมโนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 เหนือเวิร์คพอยท์อีกครั้ง ตอบโจทย์ได้ว่า หากมีคอนเทนต์ที่ดี ยังไงก็ยังสามารถดึงดูดผู้ชม สร้างความนิยมได้เสมอ

*** อมรินทร์ อันดับ 5, True4u – 8 และช่อง 5 ขึ้นอันดับ 11

จากการวัดเรตติ้งเฉลี่ยของช่องทีวีดิจิทัล โดยนีลเส็น ประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 18-24 มิถุนายน จากฐานผู้ชมอายุ 4+ เวลา 24 ชั่วโมง ทั้งอมรินทร์ทีวี, True4u และช่อง 5 ที่เป็น 3 ช่องหลักได้ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ เรตติ้งพุ่งขึ้นสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่มีทีวีดิจิทัลเป็นต้นมา

ช่องอมรินทร์ขึ้นมาจากอันดับที่ 7 เรตติ้งเฉลี่ย 0.413 ในสัปดาห์ที่แล้ว มาอยู่ที่อันดับ 6 เรตติ้ง 0.515 แซงหน้าช่องวัน ที่หล่นไปอยู่อันดับ 7 ตามมาติด ๆ ด้วยช่อง True4u จากอันดับ 10 เรตติ้งเฉลี่ย 0.241 ในสัปดาห์ที่แล้ว ขึ้นมาที่ 8 เรตติ้งเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.422 ในขณะที่ช่อง 5 จากอันดับ 13 เรตติ้งเฉลี่ย 0.138 ขึ้นมามากกว่าเท่าตัวอยู่ที่อันดับ 11 เรตติ้ง 0.311

อย่างไรก็ตาม การที่ทั้ง 3 ช่องถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขพิเศษ ไม่มีรายได้จากค่าโฆษณาในการถ่ายทอดสด เนื่องจากจะโฆษณาได้เฉพาะ 9 บริษัทเอกชน สปอนเซอร์ที่ลงขันแถมร่วมกัน 1,400 ล้านบาท ในการไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ แถมยังต้องยอมเสียเวลาของสถานีเพื่อถ่ายทอดสดด้วย สิ่งที่ทั้ง 3 ช่องได้รับคือสร้างการรับรู้และจดจำของผู้ชมมากขึ้น ที่หวังว่าอาจจะมีการต่อยอดสร้างฐานความนิยมได้มากขึ้นในอนาคต.

]]> 1175857 https://positioningmag.com/1175428 Fri, 22 Jun 2018 07:36:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1175428 กระแสฟุตบอลโลกในปีนี้ดูจะไม่คึกคักเท่าที่ควร ทั้งที่ไทย ในต่างประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศเจ้าภาพอย่างรัสเซียเอง ซึ่งเกิดจากปัญหาหลายอย่างที่สั่งสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของฟีฟ่าที่ตกต่ำลง ข้อจำกัดทางกฎระเบียบการถ่ายทอดสดจากค่าลิขสิทธิ์ที่แพงมหาศาลมีผลทำให้สปอนเซอร์หน้าเก่าหลายรายขอถอนตัว

กว่าฟีฟ่าจะรู้ตัวก็ต้องเร่งหาผู้สนับสนุนจนวินาทีสุดท้าย และมีผลทำให้ยอดรายได้รวมจากสปอนเซอร์ของฟุตบอลโลก 2018 ลดลง 10%  แต่อย่างไรก็ตาม แบรนด์จากทวีปอมริกาเหนือ ยังคงเล่นบทเจ้าบุญทุ่มมากที่สุด ขณะที่แบรนด์น้องใหม่จากจีนที่ถือโอกาสเข้ามาร่วมแจมในครั้งนี้ ก็มีกิจกรรมให้เห็นประปราย

มาดูกันว่าอเมริกันสไตล์ แบรนด์ไหนใช้เทคนิคอะไรทำกิจกรรมการตลาดในการเกาะติดมหกรรมกีฬาโลกในครั้งนี้กันบ้าง

*** Budweiser เตรียมแจกเบียร์ฟรีถ้าอังกฤษเป็นแชมป์

บัดไวเซอร์ (Budweiser) เป็นพันธมิตรรายแรกของ FIFA World Cup ที่สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของศึกฟุตบอลโลกถึง 9 สมัย และครั้งนี้ ได้ร่วมกับ Snapchat เพื่อสร้างเลนส์ที่จะจับเสียงของแฟนฟุตบอลและตอบสนองในแบบเรียลไทม์

โดยเปิดตัวแคมเปญในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ระหว่างการแข่งขันนัดแรกของอังกฤษกับตูนิเซีย เพื่อให้แฟนบอลใช้เลนส์พิเศษนี้อีกครั้งในวันที่ 24 มิถุนายนในระหว่างการแข่งขันนัดที่สองของอังกฤษกับปานามา และวันที่ 28 มิถุนาบนกับเบลเยียม

นอกจากนี้ยังสัญญาจะให้เบียร์ฟรีแก่ผู้ที่อายุเกิน 18 ปีที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ หากทีมชาติอังกฤษสามารถชนะฟุตบอลโลก 2018 แคมเปญนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบัดไวเซอร์ด้วย

เทคนิคของบัดไวเซอร์ก็คือ การเก็บฐานข้อมูลผู้บริโภคผู้ดื่มเบียร์ เพราะคนที่จะได้รับเบียร์ดื่มฟรีจะได้รับการแจ้งกลับให้ไปรับเบียร์จากที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ

*** McDonald’s ขออยู่ร่วมในเกมฟุตบอล

ร่วมสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1994 และทำกิจกรรมสานฝันแฟนบอลให้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การแข่งขันกีฬาฟุตบอลระดับโลกมาเป็นเวลานาน และแคมเปญสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ประกอบด้วยโฆษณา 60 วินาที เพื่อเป็นการตอกย้ำอารมณ์ความรู้สึกของแฟน ๆ และ McDonald’s ในฐานะแบรนด์ผู้สนับสนุนกีฬาลูกหนังระดับโลก

Steve Hill ผู้อำนวยการอาวุโสของ McDonald กล่าวว่า “ไม่ว่าเหตุการณ์ใดที่เกิดขึ้นระหว่างเกมฟุตบอล McDonald ก็จะอยู่กับคุณเสมอ ผ่านทางอาหารและรูปแบบการสั่งที่สะดวกสบายและรวดเร็ว เช่น McDelivery, Drive-Thru รวมทั้งการให้ความสำคัญกับอาหารเช้าของ McDonaldW

รวมทั้งยังมอบประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตให้กับเยาวชนไทยในโครงการ McDonald’s Player Escort เพื่อเป็นตัวแทนเด็กไทยจูงมือนักฟุตบอลระดับโลกลงสนามในพิธีเปิดสนามการแข่งขันฟุตบอลโลกอีกด้วย ซึ่งปีนี้น้องคนหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นคนไทยแน่นอนก็แย่งซีนจากนัดเตะในนัดเปิดสนามได้อย่างดี ด้วยการยกมือไหว้เมื่อกล้องแพนหน้า

*** Coca-Cola สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนบอลซื้อโค้ก

แคมเปญของโคคา โคลา ครั้งนี้ ทำผ่านโฆษณาทางทีวีหลายเวอร์ชั่นซึ่งรวมถึง “Stock Up” เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนบอลซื้อ Coca-Cola ที่ตนชื่นชอบก่อนการแข่งขันแต่ละครั้ง แฟน ๆ จะแสดงการกระโดด และวิ่งผ่านถนนเพื่อไปยังร้านค้าในท้องถิ่น และเครื่องจำหน่ายสินค้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับชมแข่งขัน และ “Ready For” ซึ่งจะเห็นพนักงานของ Coke พูดคุยกับขวดและเตรียมความพร้อมสำหรับประสบการณ์ที่พวกเขาจะต้องเจอในช่วงฟุตบอลโลก

อีกโฆษณาที่น่าสนใจ คือ “Uplifted Alex” เป็นการนำวิดีโอเกมมาใช้ในการสื่อสาร ที่มี Alex Hunter เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในโลกเสมือนจริง

แคมเปญนี้จะออกกระป๋องโคคา โคลารุ่นพิเศษ ที่พิมพ์ด้วยตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 9 แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังคือ “Score Packaging” คือการให้แฟน ๆ แบ่งปันการคาดเดาผลก่อนการแข่งขันแต่ละครั้งกับเพื่อน ๆ บนโซเชียลมีเดีย

*** 5 แบรนด์จีน ตบเท้าฟุตบอลโลก 2018

การจัดแคมเปญ 3 แบรนด์ใหญ่ของอเมริกา อาจช่วยทำให้เรื่องการหารายได้สปอนเซอร์ฟุตบอลโลกที่ลดลงไป 10% เป็นเรื่องที่คนไม่ได้โฟกัสและอาจจะลืมไปแล้ว

นอกจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดของแบรนด์อเมริกัน ในปีนี้ยังมีแบรนด์จีน อย่าง Wanda Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนยักษ์ใหญ่ ที่เข้ามาคว้าสิทธิ์เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเทียบเท่ากับ Adidas และ Coca-Cola หรือสปอนเซอร์ในกลุ่มฟีฟ่าพาร์ตเนอร์

ตามมาด้วยแบรนด์จากจีนที่เป็นสปอนเซอร์รองลงมาได้แก่ Vivo, Hisense, Mengniu dairy, VIVO และ Yadea

ทั้ง 5 แบรนด์นี้เลือกใช้เวทีฟุตบอลโลกนี้เป็นการตลาดในการสร้างชื่อให้กับตัวเอง แม้ทีมชาติจีนจะไม่ผ่านรอบคัดเลือกเป็น 1 ใน 32 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกด้วยซ้ำ

ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล และมีความคาดหวังว่าคอบอลทั่วโลกต้องรู้จักแบรนด์จีน มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้สปอนเซอร์จากเอเชียกลายเป็นผู้สนับสนุนฟุตบอลโลก 2018 เป็นอันดับ 2 รองจากแบรนด์จากทวีปอเมริกาเหนือ เลยทีเดียว

Sponsor of the  World Cup 2018

*** รู้จักแบรนด์จีนในฟุตบอลโลก 2018

ว่านต๋ากรุ๊ป (Wanda Group)

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่ควบความบันเทิง มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ (กว่า 500 แห่ง) สวนสนุก และ Wanda Film รวมทั้งสตูดิโอในสหรัฐฯ มีรายได้จากธุรกิจภาพยนตร์กว่า 13,000 ล้านหยวน เข้ามาเกี่ยวข้องกับกีฬาตั้งแต่ซื้อหุ้นทีมสโมสรฟุตบอล แอตเลติโกมาดริด ในลาลีกาสเปน เคยเป็นสปอนเซอร์จัดการแข่งขันให้กับสหพันธ์แบดมินตันโลก หรือ BWF และครั้งนี้เลือกลงทุนผ่านฟุตบอลโลกด้วยการเป็นฟีฟ่าพาร์ตเนอร์

ไฮเซ่นส์ (Hisense)

แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนมีแชร์อันดับ 3 ในตลาดทีวีทั่วโลก มีธุรกิจครอบคลุมทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เริ่มทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเพื่อสร้างแบรนด์มาแล้วหลายสนาม อาทิ เคยสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 เคยสนับสนุนการแข่งขันฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชั่นส์คัพ 2017 และเทนนิสออสเตรเลียนโอเพ่น ครั้งนี้ในการร่วมกับฟีฟ่าในฐานะสปอนเซอร์ ไฮเซ่นได้สิทธิ์โฆษณาในส่วนของป้ายข้างสนาม จอภาพ และสิทธิ์ในการทำตลาดทั้งในและนอกสนามแข่งขัน

วีโว่ (Vivo)

มั่นใจฟีฟ่ามากที่สุดแบรนด์หนึ่ง เพราะเซ็นสัญญาสนับสนุนฟุตบอลโลกยาว 6 ปี ทั้งในปี 2018 นี้และอีก 4 ปีข้างหน้าในปี 2022 เอาเป็นว่าแบรนด์นี้กะอยู่ยาว นอกจากสิทธิ์เรื่องป้ายในและรอบสนามเตะ วีโว่ได้สิทธิ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในการทำตลาดให้สิทธิ์ผู้โชคดีมาถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนวีโว่ในช่วงวอร์มอัพของนักเตะก่อนลงสนามด้วย ก่อนหน้าฟุตบอลโลก วีโว่เคยลงทุนสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งผ่านอินเดียนพรีเมียร์ลีก (IPL) องค์กรกีฬาที่มีอิทธิพลสูงในกลุ่มประเทศเครือจักรภพอังกฤษและอินเดียมาแล้ว ในจีนเองก็มีการสนับุน NBA China เมื่อปี 2016 รวมทั้งใช้ซูเปอร์สตาร์จาก NBA ในสหรัฐฯ อย่าง Stephen Curry มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรุ่น Xplay 6 ด้วย

บริษัทเหมิงหนิวแดรี่ (Mengniu dairy)

บริษัทค้านมรายใหญ่มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายทั่วจีนภายใต้แบรนด์ Mengniu (เหมิงหนิว) แปลว่าวัวมองโกเลีย รวมทั้งส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา แคนาดา มองโกเลีย และทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เคยสนับสนุนทีมบาสเกตบอล NBA ของสหรัฐฯ รวมทั้งกับฟีฟ่าในครั้งนี้ เพื่อหวังขยายสินค้านมหลายหลายรูปแบบสู่ตลาด ซึ่งมีทั้งนมยูเอชที โยเกิร์ต เครื่องดื่มนม ไอศกรีมนมผง นมเม็ด มีกำลังการผลิตกว่า 6.50 ล้านตันต่อปี.

ที่มา : 

• https://www.marketingweek.com
• https://mainichi.jp/english/articles/20170511/p2a/00m/0na/019000c