สำนักพิมพ์ผู้จัดการ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 05 Dec 2005 00:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ผู้จัดการรายวัน” ยอดผู้อ่านพุ่ง! https://positioningmag.com/8162 Mon, 05 Dec 2005 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=8162

นีลเส็นมีเดียรีเสิร์ช ได้ทำการสำรวจจำนวนผู้อ่าน “หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน” ล่าสุด พบว่า ตัวเลขก่อนหน้านี้ คือ ช่วงเดือนเมษายน 2548 มีจำนวนผู้อ่านหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน จำนวน 82,000 คน ถึงวันนี้มียอดผู้อ่านเพิ่มขึ้นเป็น 154,000 คน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นถึง 88%

เมื่อเทียบลองมาเปรียบเทียบหนังสือพิมพ์ธุรกิจประเภทเดียวกัน 3 ฉบับ ระหว่าง ผู้จัดการรายวัน กรุงเทพธุรกิจ และโพสต์ทูเดย์ พบว่า ผู้จัดการรายวันมีอัตราการเติบโตของผู้อ่านสูงกว่าทั้งสอง โดยผู้อ่านกรุงเทพธุรกิจล่าสุดมีจำนวน 111,000 คน ลดลงจากเดิมที่มี 113,000 คน ผู้อ่านโพสต์ทูเดย์ 78,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 69,000 คน เพิ่มขึ้น 14%

จำนวนผู้อ่านผู้จัดการรายวัน แบ่งตามเพศผู้อ่าน พบว่า เป็นผู้อ่านผู้ชายจากเดิม 45,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 66,000 คนหรือเพิ่มขึ้น 47% ผู้หญิงจากเดิม 37,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 88,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 138% ระดับการศึกษาของผู้อ่าน มีการศึกษาสูงระดับปริญญามากถึง 44%

พิจารณาจากระดับรายได้ของผู้อ่าน ผู้จัดการรายวัน ผู้อ่านที่มีรายได้สูง จากจำนวน 42,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 69,000 คน หรือ เพิ่มขึ้น 65% ระดับรายได้ปานกลางจาก 22,000 คน เป็น 37,000 คน เพิ่ม 69% ระดับรายได้ต่ำ จาก 18,000 คน เป็น 48,000 คน เพิ่มขึ้น 167%

ผู้อ่านผู้จัดการรายวันที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 12-24 ปี เพิ่มขึ้นถึง 100% และอายุ 40-44 ปี เพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 125% และกลุ่มผู้อ่านที่แยกตามสาขาอาชีพ เช่น ธุรกิจส่วนตัว นักธุรกิจ พ่อค้า นักเรียน แม่บ้าน เพิ่มขึ้นทั้งหมด มีเพียงกลุ่มผู้เกษียณอายุเท่านั้นที่ลดลงบ้าง

ขณะที่ผู้อ่านผู้จัดการรายวันจะอยู่ในกรุงเทพฯ มากที่สุด 45% ปริมณฑล 18% ต่างจังหวัด 37% ส่วนกรุงเทพธุรกิจ กรุงเทพฯ 80% ปริมณฑล 20% ส่วนโพสต์ทูเดย์ ผู้อ่านในกรุงเทพฯ 69% ปริมณฑล 31%

สำหรับจำนวนพิมพ์นั้น ผู้จัดการรายวัน มียอดพิมพ์ 280,000 ฉบับ กรุงเทพธุรกิจ ยอดพิมพ์ 105,000 ฉบับ โพสต์ทูเดย์ ยอดพิมพ์ 83,000 ฉบับ บางกอกโพสต์ ยอดพิมพ์ 83,000 ฉบับ

ผลการเปรียบเทียบหนังสือพิมพ์รายวัน 3 ฉบับ

ผู้จัดการรายวัน
– ยอดผู้อ่าน เม.ย.48 82,000
– รอบล่าสุด 154,000
– อัตราการเปลี่ยนแปลง 88 %

กรุงเทพธุรกิจ
– ยอดผู้อ่าน เม.ย.48 113,000
– รอบล่าสุด 111,000
– อัตราการเปลี่ยนแปลง -2%

โพสต์ทูเดย์
– ยอดผู้อ่าน เม.ย.48 69,000
– รอบล่าสุด 78,000
– อัตราการเปลี่ยนแปลง 14%

* หน่วย:คน

]]>
8162
ซีดี ยิ่งห้าม ยิ่งแรง https://positioningmag.com/8166 Mon, 05 Dec 2005 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=8166

นอกจากเสื้อยืดสีเหลืองที่ฮิตติดกระแส วีซีดีเมืองไทยรายสัปดาห์ ตั้งแต่ชุด 1-10 ยังไม่นับรวม ซีดีคอนเทนต์อื่นๆ ภายใต้แนวคิดของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ทุกชุด คาดการณ์ว่าเผยแพร่ไปแล้วเกือบล้านแผ่นทั่วประเทศ

ล่าสุดวีซีดีเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร มีการจัดทำทั้งหมดแล้วถึง 10 ชุด มีการเผยแพร่ไปแล้วกว่าแสนแผ่น ยังไม่นับรวมการก๊อบปี้ของร้านค้าซึ่งนำไปจำหน่ายย่านคลองถม คาดถึงวันนี้ว่าน่าจะมีกว่า 5 แสนแผ่นที่ทั้งปั๊ม ทั้งก๊อปปี้ ตามความต้องการของแฟนรายการ

วิทยา ร่ำรวย บรรณาธิการสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ ผู้ดูแลการเเผยแพร่วีซีดี และซีดี ให้ข้อมูลว่า กระแสครั้งนี้ ไม่ใช่ธุรกิจที่เคยตั้งใจไว้ แต่ปรากฏการณ์ของวีซีดีเมืองไทยรายสัปดาห์ทุกแผ่น ทุกชุด รวมทั้ง ซีดีชุดอื่นๆ ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ซึ่งเคยพ่วงจำหน่ายไปพ็อกเกตบุ๊กในเครือผู้จัดการ ได้สร้างกระแสใหม่ขายเกลี้ยงแผงแบบวันต่อวันมาแล้ว ผลที่เกิดขึ้นทำให้ตัวแทนร้านจัดจำหน่าย ร้านหนังสือ ทั้งซีเอ็ด หรืออย่างบีทูเอส ของเซ็นทรัล ต้องรีบวางแผนทางการตลาดรับมือกระแสความนิยมดังกล่าว

“สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในวงการร้านหนังสือ คือ ทำให้ร้านเหล่านี้ ต้องสร้างทีมดูแลการจัดหน่ายประเภทวีซีดีและซีดีทางการเมือง หรือนอกเหนือจากซีดีเพลงทั่วๆ ไป”

ผลที่เกิดขึ้นในกระแสความนิยมช่วงนี้ วีซีดีของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ทุกชุดทั้งเมืองไทยรายสัปดาห์ รวมทั้ง ซีดีชุด “แพ้แล้วอย่างไร ชนะแล้วอย่างไร” และคอร์รัปชั่นในยุดโลกาภิวัฒน์ ปั๊มแผ่นขายแต่ละชุดไปแล้วกว่า 3 ครั้ง หรือ 15,000 แผ่น ทำลายสถิติขายดีสร้างรายได้แซงหน้าซีดีเพลงทุกชุด

“ปกติแต่ละร้านเขาให้ความสำคัญกับซีดีเพลง และไม่เคยมีซีดีประเภทอื่นที่ขายดี แต่ซีดีของเมืองไทยรายสัปดาห์ และซีดีทุกชุดของคุณสนธิ สามารถทำยอดขายที่ทำให้ร้านจำหน่ายทั้งซีเอ็ด และบีทูเอส ต้องจัดทีมมาดูแลด้านนี้”

โปรเจกต์ที่ทำต่อไปที่กำลังคลอดออกมาใหม่ ซีดีชุด “เล่าเรื่องเลี้ยงลูก” ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” กำหนดเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ เป็นการเล่าประสบการณ์ของการเลี้ยงลูกแบบภูมิปัญญาตะวันออก ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งกระแสที่ขายดิบขายดีอีกชิ้นหนึ่ง

…ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นตามกระแส แทบไม่ต้องมีมาร์เก็ตติ้ง และเมื่อกระแสที่รัฐบาลพยายามปิดกั้นสื่อ กระแสของดีมานด์หรือความต้องการยิ่งมาก คล้ายๆ กับยิ่งปิดยิ่งดัง อะไรประมาณนั้น

]]>
8166
“มหาลัย’ ลูกหนัง” ผมเรียน MBA จากการดูฟุตบอลอังกฤษ https://positioningmag.com/25530 Fri, 14 Oct 2005 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=25530

หนังสือ “มหาลัย’ ลูกหนัง” ผู้เขียนได้วิเคราะห์ถึงศาสตร์ในการบริหารทีมฟุตบอลอังกฤษ ว่ามีความเชื่อมโยงกับการบริหารธุรกิจหรือองค์กรอย่างไร ทั้งนี้เนื่องจาก การบริหารทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จจะต้องเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารบุคคล(นักเตะ) จิตวิทยาในการครองใจนักเตะของโค้ชแต่ละคน

การจัดวางผู้เล่นในตำแหน่งต่างๆ การตลาด การสร้างแบรนด์ การเงิน(สภาพคล่องของสโมสร) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีความคล้ายหรือเทียบเคียงได้กับปัจจัยในการบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จกรณีศึกษาต่างๆจากวงการฟุตบอลอังกฤษเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและมีทั้งที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว จึงสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อเป็นข้อคิด บทเรียน เพื่อในไปใช้ในชีวิตจริงได้

ผู้เขียนจึงใช้กีฬาฟุตบอลที่มีคนไทยชื่นชอบติดตามเป็นจำนวนมากและทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษา ชนชั้นแรงงาน พนักงาน ผู้บริหาร ครูบาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งนักการเมือง มาผนวกสนธิเข้ากับความรู้และประสบการณ์ผู้เขียนทั้งที่เคยเป็นพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่ และปัจจุบันเป็นผู้บริหารธุรกิจนำเข้าสินค้าคอนซูเมอร์ขนาดย่อม เพื่อแบ่งปันมุมมองและข้อคิด ให้ผู้อ่านติดตาม และเข้าใจได้ง่ายกว่าการอ่านหนังสือวิชาการทั่วไป

ภายในหนังสือจะครอบคลุมตั้งแต่เรื่องการสร้างผู้นำหรือโค้ชที่ดี กระบวนการเรียนรู้(Learning Curve) ในสนามฟุตบอล การสื่อสารภายในทีม ตำแหน่งต่างๆในทีมฟุตบอลเทียบเคียงได้กับตำแหน่งใดในองค์กร วิธีการพัฒนาบุคคลหรือผู้เล่น(Training)ในตำแหน่งต่างๆ การเล่นกับแรงกดดันของโค้ช การใช้ข่าวในการสร้างมูลค่าเพิ่มของนักเตะ การบริหารบุคคล(นักเตะ)ประเภทต่างๆ

โมเดลธุรกิจที่มหาเศรษฐีระดับโลกใช้บริหารหลังจากซื้อทีมฟุตบอล ความลับที่ซ่อนอยู่ในอัตราการพนันบอล ซึ่งหลายๆข้อคิดหรือบทเรียนที่ผู้เขียนได้ยกมาแบ่งปันก็เป็นประสบการณ์จริงที่ผู้เขียนได้เคยทดลองนำไปใช้ได้ผลในองค์กรที่ผู้เขียนบริหารอยู่

ผู้เขียนจึงอยากมีส่วนช่วยจุดชนวนความคิดให้แฟนกีฬาฟุตบอลอังกฤษได้เริ่มรู้จักสังเกต วิเคราะห์ หาเหตุผลของความเป็นไปทั้งในและนอกสนามฟุตบอล เพื่อทำให้การดูฟุตบอลเกิดความรู้ ประโยชน์ไปมากกว่าการหวังเพียงอรรถรสจากการรับชมหรือความสนุกตื่นเต้นจากการพนันเท่านั้น

ผู้เขียน : บุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทแสงชัยแอร์ ควอลิตี้ จำกัด ผู้นำเข้า และจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ และพัดลม ยี่ห้อ “ฮันนี่เวลล์” Honeywell แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
จำนวน : 118 หน้า
ราคา : 95 บาท
เจ้าของ : สำนักพิมพ์ผู้จัดการ

]]>
25530