สื่อสังคมออนไลน์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 15 Jan 2020 10:01:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เเฟนคลับส่งพลังโซเชียล 10 ศิลปิน K-pop ที่มีคนพูดถึงบนทวิตเตอร์มากที่สุดปี 2019 https://positioningmag.com/1260562 Wed, 15 Jan 2020 08:30:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1260562 โลกทวิตเตอร์กำลังขับเคลื่อนด้วยพลังเเฟนคลับ ด้วยบทสนทนาเกี่ยวกับ K-pop ครองสถิติใหม่ทั่วโลกกว่า 6.1 พันล้านทวีตในปี 2019 เพิ่มขึ้นถึง 15% จากปี 2018 เเละประเทศไทยก็ครองเเชมป์ทวีตถึงวงการเพลงเกาหลีมากที่สุดในโลก 

โดยเเอคเคาท์ของกลุ่มศิลปินมากความสามารถอย่าง BTS (@bts_twt) ครองตำแหน่ง ‘Golden Tweet’ ที่มีผู้กล่าวถึงบนทวิตเตอร์ถึงมากที่สุดในปีที่ผ่านมา พร้อมสร้างกระเเสที่โด่งดังไปทั่วโลก

วงการ K-pop เริ่มได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ตั้งเเต่ 25 ปีที่เเล้ว เเละไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ฮอตฮิตเเบบฉุดไม่อยู่ ไม่เพียงเเต่ในเอเชียเท่านั้นเเต่ยังขยายไปทั่วโลก จากปัจจัยหลายอย่างทั้งสื่อสังคมโซเชียล กระเเสดนตรีป็อป เเละความนิยมของศิลปินทั้งหลาย

เเละนี่คือ 10 ประเทศที่ทวีตเกี่ยวกับ K-pop มากที่สุดในปี 2019 โดยประเทศไทยครองเเชมป์อย่างลอยลำ ตามมาด้วยเจ้าถิ่นอย่างเกาหลีใต้ เเละอินโดนีเซีย สหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ ตามลำดับ

ต่อมาเป็น 10 อันดับแอคเคาท์ศิลปิน K-Pop ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดปี 2019 หนุ่มๆ BTS ขวัญใจยังคงครองตำแหน่งแชมป์ตามความคาดหมาย ตามมาด้วย EXO และ GOT7 , MONSTA X, BLACKPINK, Seventeen, แบคฮยอน EXO, NCT 127, TOMORROW x TOGETHER และ แบมแบม GOT7

ส่วน 10 เเอคเคาท์ศิลปิน K-Pop ที่เติบโตเเละมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด ปี 2019 ได้เเก่ 4 สาวจากวง Blackpink ที่มีศิลปินสาวไทย “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” เป็นหนึ่งในสมาชิก ตามมาด้วยการรวมตัวของศิลปินหนุ่มเเห่งค่าย SM อย่าง SuperM เเละกลุ่มศิลปินรุ่นน้องอย่าง TXT, Stray Kids, WayV, Ateez, X1, Itzy, AB6IX และ (G)I-dle

ด้วยพลังเเห่งเทพมักเน่ของ “จองกุก BTS” ที่เต้นเพลง “Bad Guy” ของ Billie Eilish กลายเป็นโพสต์ที่ถูกรีทวีตมากที่สุดในปี 2019 โดยคลิปดังกล่าวได้กลายเป็น “Golden Tweet” ที่มียอดรีทวิตแล้วประมาณ 1.1ล้านทวีต เเละกดชื่นชอบกว่า 2.4 ล้านครั้ง มียอดวิวกว่า 28.4 ล้านครั้ง

ในปี 2019 ทวิตเตอร์มีความพยายามที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์กับเหล่าแฟนคลับ K-pop ซึ่งเป็นฐานผู้ใช้จำนวนมหาศาลโดยพวกเขาได้สร้างสถิติใหม่ด้วยแฮชแท็ก #TwitterBestFandom ซึ่งถูกใช้ทวีตในช่วงที่มีการโหวตรางวัลประจำปี Soompi Awards ครั้งที่ 14 โดยมีผู้ใช้ทวีตไปกว่า 60 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ SuperM เป็นกลุ่มศิลปินที่การถ่ายทอดสดบน Twitter Blueroom และมีผู้ชมมากที่สุดในปี 2019 โดยมีผู้ชมมากกว่า 2 ล้านคน

เพื่อสร้างสีสันให้เเก่วงการ K-pop ให้เชื่อมกับสังคมออนไลน์มากขึ้นยิ่งไปอีก ทางทวิตเตอร์มีเเผนสร้างคอนเทนต์คุณภาพด้วยการเป็นพันธมิตรกับอีเวนต์ K-Pop ต่าง ๆ เช่น Soompi Awards, KCON และ MAMA พร้อมกับเหล่าศิลปินมากมาย เพื่อช่วยขยายอิทธิพลของวงการนี้ไปทั่วโลกต่อไปด้วย

#KpopTwitter #ThisHappened

]]>
1260562
“เบนซ์” เมืองจีนงานเข้า หลังปล่อยโฆษณาอ้างคำพูด “ทะไลลามะ” ในอินสตาแกรม https://positioningmag.com/1155959 Wed, 07 Feb 2018 07:06:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1155959 บริษัทรถหรูจากเยอรมนีในจีน ถึงกับต้องออกมาแถลงขอโทษลูกค้าและพนักงานชาวจีนหลัง อินสตาแกรมบริษัทแม่ปล่อยภาพรถ พร้อมอ้างอิงคำพูดองค์ทะไลลามะเมื่อวันจันทร์ เหตุหวั่นเกรงว่าอาจกระทบตลาดที่มียอดขายต่อปีมากกว่า 6 แสนคัน

วานนี้ (6 ก.พ.) บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศจีนได้ออกมาแสดงความขอโทษ ผ่านบัญชีเวยป๋อ 梅赛德斯奔驰 สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของจีน กรณีนำคำพูดของทะไลลามะ องค์ที่ 14 มาอ้างอิงในโฆษณาของตนเองในบัญชีอินสตาแกรม @mercedesbenz ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 12 ล้านคน เมื่อวันจันทร์ (5 ก.พ.) ที่ผ่านมา

สำหรับคำพูดดังกล่าวขององค์ทะไลลามะนั้นคือ “มองสถานการณ์จากรอบด้าน แล้วใจคุณจะเปิดกว้างขึ้น (Look at situations from all angles, and you will become more open.)” ซึ่งถูกโพสต์พร้อมกับรถเมอเซเดส-เบนซ์ สีขาว พร้อมระบุแฮชแท็ก #MondayMotivation

“เช้าวันนี้ พวกเราพบว่าบริษัทของเราได้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ประกอบด้วยรายละเอียดอันผิดพลาดในสื่อสังคมออนไลน์สากล ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงต้องกล่าวขอโทษจากใจจริง” แถลงการณ์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในจีนระบุ พร้อมกล่าวด้วยว่าทางบริษัทขอโทษชาวจีนทุกคนที่เผยแพร่ข้อมูลที่ทำร้ายจิตใจชาวจีน และต้องขอโทษต่อพนักงานชาวจีนของบริษัทด้วย

พร้อมกันนั้นยังกล่าวอีกว่า ทางบริษัทจะให้การอบรมและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรม และค่านิยมต่างๆ ของชาวจีนกับพนักงานให้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามบริษัทกลับปิดมิให้มีการแสดงความเห็นในโพสต์ดังกล่าวบนเวยป๋อ

กระนั้นกลับมีชาวจีนเข้าไปในแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวในเพจอื่นๆ เช่น ในบัญชีเวยป๋อของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส สื่อทางการของพรรคคอมมิวนิสต์โดยระบุว่า บริษัทต่างชาติไม่เข้าใจสถานการณ์ของจีน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการไม่จัดการกับมัน ขณะที่บางส่วนก็บอกว่า ทำไมเมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงออกแถลงการณ์ขอโทษเป็นภาษาจีนภาษาเดียว ทั้งยังไม่เผยแพร่แถลงการณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ภายนอกจีนเลย

ความผิดพลาดที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยดังกล่าวของบริษัทรถหรูยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี อาจลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เหมือนกรณีที่เครือโรงแรมแมริออท, สายการบินเดลต้า และบริษัทแฟชั่นอย่างซาร่า เคยโดนชาวจีนแบนจนต้องออกมาขอโทษ หลังถูกแฉว่าบริษัทต่างชาติเหล่านี้ จัดให้รายชื่อไต้หวัน และทิเบต เป็นประเทศประเทศหนึ่งบนเว็บไซต์ของตนเอง

ทั้งนี้ในปี 2560 ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถขายรถในจีนได้มากถึง 610,965 คัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 จากปี 2559 โดยยอดขายเบนซ์ในจีนเมื่อปีที่ผ่านมาถือว่าทำลายสถิติ ในการที่ตลาดในประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถขายรถเบนซ์ได้มากเกินกว่า 6 แสนคันต่อปี

สำหรับ เทนซิน เกียตโซ ทะไลลามะที่ 14 ปัจจุบันอายุ 82 ปี ถือป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต และเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2532 ทว่ารัฐบาลจีนกลับถือว่าทะไลลามะเป็นตัวตั้งตัวตีของกลุ่มเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนทิเบตออกจากจีน.

สนับสนุนข่าวโดย : mgronline.com/china/detail/9610000012646

]]>
1155959
ส่องพฤติกรรมชาวโซเชียลในตลาดเครื่องสำอาง-ของใช้ส่วนตัว ผลวิจัยชี้คนรุ่นใหม่เน้นดูแลตัวเองและห่วงสวย https://positioningmag.com/1139135 Sun, 10 Sep 2017 19:20:22 +0000 http://positioningmag.com/?p=1139135 บริษัทวิจัย โธธ โซเชียล (Thoth Zocial) นำเสนอผลงานวิจัย การใช้ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว (cosmetic and personal care industry) ประจำปี 2560 พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเน้นการโพสต์เกี่ยวกับเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวในช่วงเวลาที่หลากหลายตลอดทั้งสัปดาห์ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก

ขณะที่ในช่องทางอินสตาแกรม จะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า คือส่วนใหญ่จะเน้นโพสต์กันในวันธรรมดา โดยช่วงเวลาที่สาวๆ จะขยันโพสต์กันมากที่สุด อยู่ในช่วง 17.00-18.00 . วันจันทร์วันพฤหัสบดี เป็นช่วงเวลาใกล้เลิกงาน เป็นไปได้ว่าคุณสาวๆ อาจต้องการเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองมากที่สุด ก่อนเดินทางกลับบ้าน

5 อันดับแรกของ เครื่องสำอาง ที่ได้คะแนนโซเชียล สกอร์สูงสุดประจำปี 2560 จากการจัดอันดับของ โธธ โซเชียล ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า คิวเพรส นำมาเป็นอันดับที่ 1 มี 51 คะแนน อันดับที่ 2 เมย์เบลลีน 42 คะแนน อันดับที่ 3 อีฟ แซงต์ โรรองต์ 39 คะแนน อันดับที่ 4 บิวตี้ บุฟเฟ่ต์ ช็อป 31 คะแนน และอันดับที่ 5 อาร์ทิสตี้ 30 คะแนน

ขณะที่ 5 อันดับแรกของ ของใช้ส่วนตัว ได้แก่ อันดับที่ 1 เคลียร์ 42 คะแนน อันดับที่ 2 แพนทีน 36 คะแนน อันดับที่ 3 เฮด แอนด์ โชลเดอร์ส 35 คะแนน อันดับที่ 4 ซันซิล 34 คะแนน และอันดับที่ 5 จอห์นสัน เบบี้ 31 คะแนน

เมื่อส่องดูเวปดังอย่าง พันทิป พบว่า หัวข้อเกี่ยวกับเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว ถูกโพสต์มากถึง 647,512 กระทู้ โดยแท็ก 5 อันดับแรกที่อยู่ในความสนใจมากที่สุด ได้แก่ อันดับที่ 1 #สุขภาพกาย อันดับที่ 2 #ความงาม อันดับที่ 3 #สกินแคร์ อันดับที่ 4 #สิว และอันดับที่ 5 #คลีนิคความงาม

โดยสาวๆ ในพันทิปต่างให้นิยามความสวยความงามว่า ความสวยและเครื่องสำอางต้องไปด้วยกันถึงจะเติมเต็มความสวยที่แท้ทรูได้ และมีไม่น้อยที่แสดงความเห็นว่าการมีรูปร่างที่ดีถึงแม้โครงหน้าอาจจะไม่เลอเลิศแต่ก็ช่วยขับความสวยให้มีออร่า

คำถามที่น่าสนใจคือแล้วทำไมผู้หญิงถึงอยากสวยกันล่ะ? คำตอบที่พอเดาได้คือ นอกจากสร้างความมั่นใจให้ตัวเองแล้ว การดูดีในสายตาเพศตรงข้ามก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน กลัวแฟนรักน้อยลง กลัวถูกต่อว่าว่าอ้วน กลัวถูกล้อเลียน และสารพัดความกลัว ถ้าตัวเองยังสวยไม่พอ

ผู้หญิงเข้าไปเกาะกุมพื้นที่ในเฟซบุ๊กมากกว่าผู้ชาย 1 เท่าตัว โดยผู้หญิงขยันโพสต์เกี่ยวกับเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว 66% ส่วนผู้ชายโพสต์เพียง 34%

เมื่อศึกษาต่อไปว่า ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่เขาเสิร์ชอะไรกันในยูทูป พบว่า ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผม 5 อันดับแรกที่อยู่ในความสนใจมากที่สุดคือ ทรงผม, วิธี, ทำผม, ผมม้าหน้าเต่อ และผมสั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งหน้า 5 อันดับแรกที่ผู้บริโภคไม่ยอมพลาดก็คือ รีวิว, เมคอัพ, แป้ง, fifty shades darker (หนังภาคต่อของ fifty shades of grey-เอ๊! ยังไง?) และสอนแต่งหน้า

ของรักของหวงของคุณสาวๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่นำโด่งมาเป็นอันดับที่ 1 คือ ลิปสติก รองลงมาคือ แป้ง, รองพื้น, ครีมบำรุงและเขียนคิ้ว

โดยสีโปรดของผู้หญิง ได้แก่ สีแดง 68.4% สีน้ำตาล 20.6% และสีพีช 11%

ส่วนคุณสมบัติของของใช้ส่วนตัวที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญคือ ชุ่มชื่น 51.0% กระจ่างใส 38.8% และ นุ่มลื่น 4.3%

3 อันดับแรกของร่างกาย ที่คนสนใจดูแลมากที่สุด ได้แก่ ผิว 75% ผม 11% และ หน้า 5%

เวลาผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกเครื่องสำอางหรือของใช้ส่วนตัว 3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือ แบรนด์ 42.5% แพง 26.8% ความหอม 20.3%

เวลาพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางจะมีมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค โดยแบรนด์มักจะชอบพูดถึงโปรโมชั่นราคาและการซื้อ ขณะที่ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับอารมณ์ความชอบมากกว่า

แต่ถ้าเป็นของใช้ส่วนตัวจะมีมุมมองที่ไปด้วยกันได้มากกว่าระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่จะพูดถึงคุณสมบัติของสินค้าการแก้ปัญหาและผลลัพธ์ที่ได้

ชาวโซเชียลนิยมแท็กและค้นหากลุ่มคำในหมวดเครื่องสำอางโดยหัวข้อที่อยู่ในความสนใจมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ ความงาม, แต่งหน้า, สกินแคร์, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และแฟชั่น โดยกระทู้ที่ได้รับการแชร์มากที่สุดคือ ความงาม ความสำอาง 7,106 แชร์ แต่งหน้า 4,635 แชร์ และสกินแคร์ 4,279 แชร์

ผู้บริหารระดับสูงทางด้านดิจิทัล บริษัท เจ.วอลเตอร์ ทอมป์สัน เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจโฆษณา ชี้ว่า ทุกวันนี้กระบวนการสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณามาจาก 3 องค์ประกอบหลักคือ 1. ข้อมูลเชิงลึกจากบิ๊กดาต้า 2. ความคิดสร้างสรรค์ และ 3. เทคโนโลยี

ข้อมูลเชิงลึกจะนำไปสู่การสร้างสรรค์ไอเดียที่บรรเจิด เพราะไอเดียคือแหล่งทำเงิน เป็นหัวใจของการทำธุรกิจโฆษณา ท่ามกลางบทบาทของเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนจากสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ฉะนั้นแล้วความเคลื่อนไหวทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนสื่อสังคมออนไลน์วันนี้ มันไม่ใช่แค่การโพสต์ การกดไลค์ หรือการแชร์บอกต่อกันอีกต่อไป แต่สามารถเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

และสำหรับนักการตลาดในแวดวงเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวแล้ว การทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านหลากหลายมุมมองเล็กๆ แต่มากมายบนโลกโซเชียล ถือเป็นบิ๊กดาต้าชั้นดีที่สามารถนำมาสกัดให้เป็นหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จทางธุรกิจ

]]>
1139135
ถอดรหัส “รีเทล ฟูด” ล้วงลึกพฤติกรรมลูกค้าบนโซเชียลมีเดีย https://positioningmag.com/1138741 Wed, 06 Sep 2017 22:55:42 +0000 http://positioningmag.com/?p=1138741 สรุปตัวเลขล่าสุดของการเข้าใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทย จัดทำโดย บริษัท โธธ โซเชียล พบว่า คนไทยนิยมใช้ “เฟซบุ๊ก” มากที่สุด 47 ล้านคน  เติบโตเพิ่มขึ้น 15% รองลงมาคือ “อินสตาแกรม” 11 ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้น 41% และ “ทวิตเตอร์” มีจำนวนผู้เข้าใช้งาน 9 ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้น 70%

เฉพาะปีที่แล้ว 2559 คนไทยเราเป็นชาติที่ชอบเมาท์มอย คิดเป็นตัวเลขสูงถึง 2.5 พันล้านคำ และประมาณ 82 คน พูดไม่ยอมหยุดหายใจทุกๆ วินาที

เดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา จากการจัดอันดับประเทศที่ใช้งานเฟซบุ๊กสูงสุด 10 อันดับแรก พบว่า ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับที่ 9 มีคนใช้งาน 47 ล้านคน ชนะอังกฤษ ที่มีคนใช้งานน้อยที่สุด 42 ล้านคน แต่เรื่องที่น่ายินดีก็คือ กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะติดอันดับเมืองที่คนนิยมใช้เฟซบุ๊กมากที่สุด นอนมาเป็นอันดับที่ 1 ด้วยตัวเลข 30 ล้านคน เอาชนะที่สอง เมืองธากา (Dhaka) จากบังกลาเทศ ไปไม่เห็นฝุ่น ด้วยจำนวนผู้ใช้ 22 ล้านคน

เมื่อ โธธ โซเชียล เจาะลึกถึงภูมิทัศน์ของข้อมูลสื่อออนไลน์ในธุรกิจอาหาร (retail food industry) พบว่า พฤติกรรมของคนไทย นิยมโพสต์เฟซบุ๊กในช่วงวันธรรมดา และช่วงที่คนรู้สึกผูกพัน (engaged) กับคอนเทนต์จนอยากแชร์ต่อมากที่สุด อยู่ในช่วงเวลา 11.00 น. ก่อนมื้อเที่ยง ระหว่างวันอังคารถึงวันศุกร์

เช่นเดียวกับทวิตเตอร์ มีแนวโน้มเดียวกับเฟซบุ๊ก คือ คนไทยส่วนใหญ่ชอบทวิตในวันธรรมดา ช่วงเวลา 11.00 น. โดยเฉพาะวันอังคาร จะเป็นวันที่ป๊อปปูลาร์มากที่สุด (the most engaged period)

สำหรับอินสตาแกรม ก็ไม่ต่างกันมากนัก คือ ใช้วันธรรมดาเป็นพื้นที่สำหรับอวดรูปสวยๆ แต่ที่พิเศษกว่าเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์คือ คนไทยใช้เวลากับอินสตาแกรมในช่วงผูกพันมากกว่า โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ 11.00-12.00 ของวันธรรมดา เป็นช่วงเวลาปล่อยของ

หันมาดูเว็บดังอย่างพันทิป 5 อันดับแรกที่คนไทยชอบแท็กเกี่ยวกับอาหาร พบว่า มีหัวข้อเกี่ยวกับอาหารการกินมากถึง 647,512 หัวข้อ โดย 5 แท็กอันดับแรก ได้แก่ ร้านอาหาร, ทำอาหาร, อาหารไทย, สูตรอาหาร และอาหารคาว

จากการเก็บข้อมูลของบริษัทวิจัย Thoth Zocialในหัวข้อ “Retail Food Consumer Insight” พบว่า ผู้หญิงชอบโพสต์เกี่ยวกับอาหารการกินมากกว่าผู้ชาย ในสัดส่วน 55 : 45 และเมื่อมองในภาพรวม ทวิตเตอร์จะเป็นเครื่องมือหลักที่ทรงพลังของผู้บริโภค ที่มี share of voice มากถึง 74.8% ขณะที่เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพมากในด้าน share of engagement สูงถึง 84.9%

แนวโน้มการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร เมื่อ 5 ปีที่แล้ว คำว่า “ร้านอาหาร” จะถูกเสิร์ชมากที่สุด แต่แนวโน้มล่าสุดวันนี้ คนให้ความสนใจกับสถานที่ตั้งของร้านอาหารที่อยู่ใกล้ตัวเอง มากกว่าความอร่อย โดยคำที่ถูกค้น จะระบุพิกัดลงไปชัดเจน เช่น ร้านอาหารในเอ็มควอเทียร์ ร้านอาหารในเมกาบางนา ร้านอาหารของเว็บวงใน และร้านอาหารในย่านคลองโคน เป็นต้น

อาหาร 5 อันดับแรกที่คนโซเชียลอยากกินคือ ชาบู พิซซ่า ปิ้งย่าง ซูชิ และแซลมอน ขณะที่หมวดของหวานและเครื่องดื่ม 5 อันดับแรกที่คนอยากกินคือ เค้ก ไอติมบิงซู กาแฟ และแพนเค้ก

เปรียบเทียบแนวโน้มการค้นหาระหว่าง “บิงซู” กับ “อาหารคลีน” พบว่า นับวัน การค้นหาบิงซู จะมีมากขึ้น ขณะที่ อาหารคลีน นับวันจะได้รับความนิยมน้อยลง

จากการจัดอันดับรีวิวอาหารโดยเว็บเพจ พบว่า เมนู 9 อันดับที่อยู่ในความสนใจคือ ไอศกรีม, ของหวาน, ก๋วยเตี๋ยว, เค้ก, ซีฟูด, บะหมี่, สุขภาพ, อาหารไทย และอาหารญี่ปุ่น

ขณะที่ในฟากของผู้บริโภครีวิว พบว่า เมนู 10 อันดับที่ได้รับความสนใจคือ ชาบู, ก๋วยเตี๋ยว, ของหวาน, ลดความอ้วน, ไอศกรีม, เค้ก, ลดน้ำหนัก, ปิ้งย่าง, บะหมี่ และบิงซู

เป็นที่น่าสังเกตว่า ใน consumer review อันดับที่ 4 และ อันดับที่ 7 จะโผล่เรื่อง ลดความอ้วน และ ลดน้ำหนัก เป็นแกะดำหลงฝูงมาด้วย สันนิษฐานได้ว่า มีผู้คนไม่น้อยที่หลงใหลอาหาร แต่ก็พยายามเตือนตัวเองไปด้วยว่า อย่ากินมากนะ เดี๋ยวอ้วน เดี๋ยวไม่สวย เดี๋ยวต้องลดน้ำหนัก เป็นการต่อสู้กับจิตใจตัวเองของคนที่ชอบกินแต่ก็ห่วงสวย

อีกข้อมูลในสังคมออนไลน์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ รีวิวจากผู้บริโภค พร้อมกับแท็ก#อร่อยไปแดก ชี้ชัดว่า #อร่อยบอกต่อ ได้รับความสนใจมากที่สุด 11.64%  รองลงมาคือเซเว่นฯ ที่ได้ซีนไปเต็มๆ ในฐานะแบรนด์#รีวิวเซเว่น8.21% และ #อร่อยนะรู้ยัง 5.12%

ยิ่งเมื่อดูช่วงเวลาที่คนบนโซเชียลอยากกิน นอกจากช่วงกลางวัน และเย็น ช่วง “เที่ยงคืน” เป็นอีกช่วงที่โพสต์กันมาก แต่ไม่มีแบรนด์ไหนขายอาหารในช่วงเวลานี้ นอกจาก “เซเว่นฯ” ที่เปิดขาย 24 ชั่วโมง เมื่อข้อมูลออกมาแบบนี้ “ธุรกิจร้านอาหาร” คงต้องรับมือกับคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา อย่าง “เซเว่นฯ” เจ้าของสโลแกน “อิ่มสะดวก” ที่ทุกวันนี้กลายเป็น “รีเทล ฟูด” ไปแล้ว มีสาขาเป็นหมื่นแห่ง เข้ามาร่วมชิงเค้กอีกราย

ในยุคนี้คนชอบสั่งอาหารผ่านบริการ “ดีลิเวอรี” มากขึ้น เปิดโอกาสให้กับร้านเล็กๆ ได้ขึ้นมาแข่งขันกับร้านใหญ่

ช่วงแรกๆ คนมักเสิร์ชหา “ไลน์แมน” มาก ส่วนหนึ่งมาจากข่าว และคนยังไม่รู้ว่าไลน์แมนคืออะไร แต่ส่วนใหญ่จะคุ้นเคย “ฟู้ดแพนด้า” มากกว่า แต่เวลานี้ ไลน์ เป็นแอปที่คนนิยมสั่งมากที่สุด 2,025 คน รองลงมาคือ ฟู้ดแพนด้า 826 คน และอันดับที่ 3 อูเบอร์อีท 561 คน

เมื่อมาดูข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย จะพบว่า ไลน์แมน เป็นบริการผู้บริโภคใช้จริง และส่วนใหญ่เป็นคนเมือง ส่วนฟู้ดแพนด้ามากกว่าและถูกโพสต์ในเพจของร้านอาหารเป็นหลัก เพราะมาใช้บริการกันมาก ส่วนอูเบอร์อีทใช้วิธีโปรโมตผ่านอินฟลูเอนเซอร์ คนดัง จึงมักจะเห็นในหมู่คนดัง

ส่วนช่วงเวลาที่คนนิยมโทรสั่ง มักจะเป็นช่วงเย็นของวันพฤหัส และศุกร์ ส่วนหนึ่งเพราะรถติด แต่วันศุกร์จะมี “มื้อเที่ยง” เพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่หลายออฟฟิศมีการจัดปาร์ตี้   

ในเว็บพันทิป เวลาค้น 5 อันดับที่เป็น Top Tag เกี่ยวกับรีเทลฟูด 5 อันดับ #ร้านอาหาร #ทำอาหาร #อาหารไทย #สูตรอาหาร #อาหารคาว ตามมาด้วยอะไรบ้าง ถ้าฟูดเลย อาหารไทย บุฟเฟต์ ญี่ปุ่น ฝรั่ง

เมื่อดูคำว่า “ร้านอาหาร” จะพบว่า คำเกี่ยวเนื่อง จะมีทั้งอาหารไทย อาหารบุฟเฟต์ อาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง รวมทั้งคำว่า “ลดความอ้วน” ก็ยังถูกพูดถึง นอกจากนี้ยังพบข้อความที่ไม่เกี่ยวกับอาหาร ในหัวข้อร้านอาหาร เช่น บันทึกนักเดินทาง เที่ยวไทย คุ้มครองผู้บริโภค เจ้าของธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า จังหวัดเชียงใหม่ สะท้อนว่า คนรีวิวอาหารมักจะเป็นนักเดินทางท่องเที่ยวด้วย

Thoth Zocial สรุปถึงความสำคัญของข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ว่า บิ๊กดาต้าช่วยเปิดทางให้แบรนด์ได้เข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น และอย่าไปกลัวการใช้งานบิ๊กดาต้า เพราะมันต้องมาแน่ๆ อย่างไรก็ดี บิ๊กดาต้าไม่ได้สะสมได้เพียงข้ามคืน เพราะฉะนั้นถ้าอยากใช้งาน ต้องเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้ สุดท้ายแล้วไม่เคยมีไม้กายสิทธิ์ที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ บิ๊กดาต้าก็เช่นกัน แต่แบรนด์สามารถใช้ข้อมูลเพื่อสร้างเรื่องมหัศจรรย์ได้

]]>
1138741