สแน็คไข่เค็ม – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 10 Oct 2019 08:58:14 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 The Golden Duck ขนมจากสิงคโปร์บุกไทย ยังคงจับกระแสไข่เค็มฟีเวอร์ https://positioningmag.com/1249347 Wed, 09 Oct 2019 16:52:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1249347 The Golden Duck แบรนด์ขนมสัญชาติสิงคโปร์ ได้ทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ บุกตลาดขนม 4,000 ล้านบาท เตรียมขยายจุดวางจำหน่าย 200 จุดในปี 2563

ยังคงจับกระแสไข่เค็มฟีเวอร์!

ใครที่เคยไปเยือนประเทศสิงคโปร์คงจะเคยคุ้นเคยกับขนมทานเล่นรสไข่เค็มทั้งหลาย เพราะกลายเป็นขนมขึ้นชื่อ รวมถึงเป็นของฝากขึ้นชื่อเช่นเดียวกัน ใครที่ได้ไปก็ต้องหอบหิ้วกลับมาฝากที่เมืองไทย

ก่อนหน้านี้ IRVINS Salted Egg หนังปลาไข่เค็มก็ได้เข้ามาวางจำหน่ายในไทยเป็นที่เรียบร้อย เรียกว่าสามารถสร้างกระแส “ไข่เค็มฟีเวอร์” ในไทยได้เป็นอย่างดี ทำเอาหลายๆ แบรนด์ไม่ว่าจะอาหาร ขนมต่างๆ ต้องเกาะขบวนเมนูไข่เค็มไปด้วย

ล่าสุด The Golden Duck แบรนด์ขนมรสไข่เค็ม (Salted egg yolk snack) จากสิงคโปร์ ก็ได้เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เดินเกมรุกเขย่าตลาดขนมขบเคี้ยวในไทยมูลค่า 4,000 ล้านบาท

The Golden Duck ได้เปิดตัวที่สิงคโปร์เมื่อปี 2558 เป็นผู้บุกเบิกมันฝรั่งทอดกรอบรสไข่เค็ม โดยที่ปัจจุบันก้าวสู่ปีที่ 3 ได้ขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งครองใจผู้บริโภคสิงคโปร์ เช่นเดียวกับแบรนด์ขนมชื่อดังอย่าง เลย์ และพริงเกิ้ล มียอดขายดีอันดับหนึ่งของขนมขบเคี้ยวใน 7-Eleven ช่วงตรุษจีนในฮ่องกงช่วงปี 2561- 2562

จากนั้นจึงได้ต่อยอดธุรกิจ ขยายสาขาสู่ประเทศฟิลิปปินส์ จีน มาเลเซีย ไต้หวัน และประเทศไทย อีกทั้งยังมีการส่งออกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

โจนาธาน เชน ผู้ก่อตั้ง ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศและผู้บริหารผลิตภัณฑ์ และ นายคริสโตเฟอร์ หวัง ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร

โจนาธาน เชน ผู้ก่อตั้ง ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศและผู้บริหารผลิตภัณฑ์ เล่าว่า

“เมื่อประมาณต้นปี 2558 ผมเริ่มเห็นความนิยมของหนุ่มสาวชาวมิลลิเนียลกับการบริโภคขนม หรืออาหารที่มีส่วนผสมของไข่เค็มที่มากขึ้นเรื่อยๆ เลยปรึกษากับผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนว่าเราน่าจะทำอะไรเกี่ยวกับเทรนด์ไข่เค็มฟีเวอร์ที่มีอยู่ ซึ่งย้อนไปตอนนั้น เราทั้งสองคนไม่มีพื้นฐานทางธุรกิจในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวมาก่อน แต่เราก็ไม่ลังเลที่จะลองทำธุรกิจนี้”

ปูพรมจุดขาย 20 แห่ง เตรียมขยาย 200 แห่งในปีหน้า

สำหรับการบุกตลาดในประเทศไทย เป็นการมองเห็นการเติบโตของธุรกิจขนมขบเคี้ยวมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยในปี 2562 คาดการว่าตลาดจะเติบโตขึ้น 1.2% โดยผู้บริโภคในยุคนี้ต้องการนวัตกรรมแปลกใหม่ จะสร้างการเติบโตให้ตลาดได้

The Golden Duck มีวางจำหน่าย 4 รสชาติ ได้แก่ หนังปลากรอบคลุกไข่เค็ม มันฝรั่งทอดกรอบคลุกไข่เค็ม สาหร่ายเทมปุระทอดกรอบรสปูไข่เค็ม และสาหร่ายเทมปุระทอดกรอบคลุกปูผัดพริก จำหน่ายในราคา 195 บาท

ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าเน้นผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดระดับพรีเมี่ยม ได้แก่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ / ท็อปส์ มาร์เก็ต / กูร์เมต์ มาร์เก็ต และริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต (จังหวัดเชียงใหม่) มีการกระจายสินค้าได้ครอบคลุมถึง 20 สาขา แบ่งป็น 18 สาขาในกรุงเทพ และ 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่

โดยมีการตั้งเป้ายอดขาย 42 ล้านบาทภายใน 1 ปี ซึ่งเทียบเท่ากับการขายในปีแรกที่สิงคโปร์ หรือราวๆ 2 ล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ ในปัจจุบัน The Golden Duck มีสัดส่วนรายได้ 50% ในสิงคโปร์ และอีก 50% จากต่างประเทศ

]]>
1249347
สาหร่ายอย่างเดียวไม่พอ! เถ้าแก่น้อยขอ 10 ปี มุ่งสู่องค์กรนวัตกรรมอาหาร แตกไลน์ทำสแน็คไข่เค็ม “ทินเท็น” ดึง BNK48 เจาะกลุ่มโอตะ https://positioningmag.com/1224972 Sat, 13 Apr 2019 01:55:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1224972 เถ้าแก่น้อย” กำลังเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจที่ประกาศชัดเจนจะไม่จำกัดตัวอยู่ในธุรกิจขนมขบเคี้ยว” เท่านั้น แต่จะใช้เวลา 10 ปี ในการก้าวเข้าสู่ผู้ประกอบด้านนวัตกรรมอาหารหรือ innovation food company นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิต ทำให้วันนี้ของเถ้าแก่น้อยไม่ได้มีแค่สาหร่ายปรุงรส” ที่รู้จักกันดีอีกต่อไป

แผนธุรกิจใหม่ที่เราวาง มุ่งก้าวสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมอาหารให้ได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยมีเป้ารายได้ที่ 1 หมื่นล้านภายใน 5 ปี ดังเราจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์และธุรกิจตัวใหม่ๆ เข้ามาเสริม สำหรับปีนี้บริษัทมีโปรเจกต์ใหญ่ที่เตรียมจะออกหลังจากนี้อีก 2 โปรเจกต์

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN กล่าว

เขายกตัวอย่าง การซื้อลิขสิทธิ์สูตรซอสไข่เค็ม” มาจากประเทศสิงคโปร์ แล้วนำมาผสมกับสาหร่ายรวมถึงพัฒนามาเป็น “ปลาหมึกไข่เค็ม ”เถ้าแก่น้อยทินเท็น ขนมขบเคี้ยวที่นำมาวางขาย เพื่อสร้างความแตกต่างจากสแน็คปลาหมึก ที่วางขายในตลาด

เถ้าแก่น้อยใช้งบประมาณ 25 ล้านบาทในการทำตลาด ผ่านกลยุทธ์ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง โดยมี 6 สาว BNK48 ได้แก่ น้องวี น้องจูเน่ น้องฟ้อนด์ น้องมายยู น้องนิว และน้องมิวนิค มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อต้องการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มโอตะ โดยจะมีทั้งภาพยนตร์โฆษณา กิจกรรม

ที่ผ่านมาเถ้าแก่น้อยเลือกใช้ดาราชายและบอยแบนด์เป็นพรีเซ็นเตอร์มาตลอด สามารถสร้างฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งวัยรุ่นหญิง และคนวัยทำงานมาแล้ว ในปีนี้เราเลือก BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังโด่งดังมีแฟนคลับที่แข็งแกร่งมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าใหม่ ทินเท็น เพราะเชื่อว่านอกจากจะช่วยสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ และยังจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตมีส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 10% ภายใน 2 ปี

]]>
1224972