ส่งใจไปถ้ำหลวง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 19 Jul 2018 04:22:09 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 กระแสทีมหมูป่า-ถ้ำหลวงฯ ดันโซเชียลมีเดียพุ่ง กลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ระดับโลก https://positioningmag.com/1179326 Wed, 18 Jul 2018 09:08:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1179326 จากภารกิจกู้ภัยช่วยชีวิตนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าที่ติดในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนที่ผ่านมา ทำให้ทั้งคนไทยและทั่วโลกต่างเอาใจช่วยทีมงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้เกิดเป็นปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วโลก ต่อไปนี้คือตัวเลขบทสรุปส่วนหนึ่งเกี่ยวกับเทรนด์การใช้โซเชียลมีเดียกับเรื่องนี้ โดยจัดทำและเปิดเผยกับสื่อมวลชนโดย บริษัท ไวท์ไซท์ จำกัด 

  • ระยะเวลา 20 มิถุนายน – 11 กรกฎาคม 2018
  • จำนวนข้อความทั้งหมด 833,012 ข้อความ
    ข้อความ/วัน 37,864 ข้อความ
  • Engangement ทั้งหมด 238,309,331 Engagement
  • Engagement/วัน 10,832,242 Engagement

โซเชียลมีเดียยอดนิยม (วัดจากจำนวนข้อความ)

  • อันดับ 1 Twitter (420,700 ข้อความ, 45,890,8618 Engagement)
  • อันดับ 2 Facebook (254,010 ข้อความ, 154,976,981 Engagement (ได้รับ Engagement สูงที่สุด)
  • อันดับ 3 Instagram (114,487 ข้อความ, 34,837,797 Engagement)
  • อันดับ 4 YouTube (27,293 ข้อความ, 2,563,744 Engagement ไม่รวมยอด View)

เนื่องจาก Twitter เป็นสื่อที่กำลังมาแรง และมีการอัพเดตข่าวสารแบบนาทีต่อนาที และทันท่วงทีกว่าโซเชียลมีเดียอื่นๆ อีกทั้งการที่คนดังทั้งในไทยและระดับโลกต่างใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องราวของทีมหมูป่า-ถ้ำหลวงฯ เช่น อีลอน มัสก์ ที่ใช้ Twitter อย่างจริงจัง ทำให้มีการส่งข้อความผ่าน Twitter มากที่สุด ส่วน Facebook เป็นช่องทางที่ได้รับ Engagement สูงสุด เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วมีจำนวนผู้ใช้งาน Facebook มากที่สุด และผู้ใช้งานนิยมตอบโต้ด้วยการคอมเมนต์

บทสรุปเหตุการณ์เด่น ๆ ในโลกออนไลน์ ที่เกี่ยวกับทีมหมูป่า-ถ้ำหลวงฯ

จากการสำรวจไทม์ไลน์ในโลกออนไลน์ มี 4 ช่วงที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ได้แก่

ช่วงแรก คือวันที่ 25-27 มิถุนายน (ช่วงแรกที่มีการค้นหาเด็กๆ)

เป็นช่วงวันที่มีการวางแผนและขอความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ในการวางแผนช่วยทั้ง 13 ชีวิต เป็นช่วงแรกที่นักดำน้ำต่างประเทศเข้ามาช่วย จึงทำให้ในโลกออนไลน์มีการให้กำลังใจทั้งเจ้าหน้าที่ หน่วยซีลไทย, นักดำน้ำต่างประเทศ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รวมถึงเด็กๆ และโค้ชทั้ง 13 คน

สถิติช่วงนี้มีทั้งหมด 158,527 ข้อความ, 53,723,779 Engagement

ช่วงที่สอง วันที่ 2-3 กรกฎาคม (ช่วงที่พบเด็กและโค้ช)

ส่วนใหญ่สถิติที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 กรกฎาคม มาจากสำนักข่าวต่างๆ ที่มีการนำเสนอข่าวว่าจำหน้าที่พบเด็กๆ และโค้ชแล้ว ในช่วงเวลาประมาณ 22:30 น. ส่วนในวันที่ 3 กรกฎาคมนั้นเป็นการโพสต์ข้อความจากบุคคลทั่วไป ทั้งใน Twitter และการแสดงความคิดเห็นบนเพจข่าวต่างๆ ใน Facebook แสดงความดีใจและโล่งใจ ที่พบทั้ง 13 ชีวิตเสียที แถมยังคงปลอดภัยด้วย ตามมาด้วย hashtag #13ชีวิตรอดแล้ว (ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนสนใจมากที่สุด)

สถิติช่วงนี้มีทั้งหมด 192,831 ข้อความ, 51,162,217 Engagement

ช่วงที่สาม วันที่ 8 กรกฎาคม (ช่วงที่ทยอยเอาเด็กๆ และโค้ชออกจากถ้ำ)

เป็นวันแรกที่นำทีมหมูป่าชุดแรกออกมาจากถ้ำ พร้อมส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้สำเร็จ เป็นวันที่นักข่าวหลายสำนักมีการ Live หน้าโรงพยาบาลฯ (เป็นช่วงที่ Voice และ Engagement ตกลงมาก)

สถิติช่วงนี้มีทั้งหมด 62,718 ข้อความ, 14,510,179 Engagement

ช่วงที่สี่ วันที่ 10 กรกฎาคม (เป็นช่วงที่ทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำครบทั้งหมด)

ส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ โพสต์ขอบคุณเจ้าหน้าที่ นักดำนำ ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ร่วมมือกันทำภารกิจจนสำเร็จ พร้อมไวอาลัยและขอบคุณ จ่าแซม นายทหารหน่วยซีลที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับ #วีรบุรุษถ้ำหลวง และในการลำเลียงนำทั้ง13 ชีวิตออกมานั้น โค้ชเอกเป็นคนสุดท้ายที่ได้ออกมา จึงทำให้บนโลกออนไลน์ต่างชื่นชมและให้กำลังใจโค้ชเอกเป็นจำนวนมาก

สถิติในช่วงนี้มีทั้งหมด 62,233 ข้อความ, 15,379,983 Engagement

]]>
1179326
ถอดรหัส twitter@mthai แจ้งเกิดได้ ไม่ต้องอิงดราม่า https://positioningmag.com/1176903 Tue, 03 Jul 2018 04:49:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1176903 ในที่สุด การช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี ติดถ้ำหลวง ขุนเขานางนอนจังหวัดเชียงราย ก็บรรลุผลสำเร็จ เป็นที่ปลื้มปิติของคนไทยทั้งประเทศ 

รวมเป็นเวลาเกือบ 10 วัน ที่ใช้ในการค้นหา ซึ่งเป็นช่วงที่สำนักข่าวทุกแห่ง ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ต่างเกาะติดสถานการณ์เพื่อติดตามรายงานข่าวกันอย่างใกล้ชิด มีคนดู ผู้อ่านติดตามกันอย่างใกล้ชิด

ปรากฏว่า twitter@mthai  ของกลุ่มเว็บไซด์เอ็มไทย ในเครือโมโน เป็นหนึ่งในทวิตเตอร์ที่สามารถแจ้งเกิด มีผู้ติดตาม และถูกพูดถึงอย่างมาก จากการติดตาม 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีในครั้งนี้

ด้วยรูปแบบการรายงานข่าวต่อเนื่อง ด้วยข้อความสั้นๆ เน้นรายละเอียดเหตุการณ์จากสถานที่จริง ความเคลื่อนไหวของการทำงานของเจ้าหน้าที่ การส่งทีมสนับสนุน โดยมีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมาขยายความเพิ่ม แบบไม่เน้นดราม่า ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่มีดราม่าเกือบทุกวัน

ผสมกับลีลาการนำเสนอข่าวของแอดมิน ที่ระบุว่าเป็นผู้ชายอารมณ์ดีคนหนึ่ง โดยทุกครั้งที่มีการอัพเดตข่าวสาร มักจะหยอดอารมณ์คลายเครียดให้กับผู้ติดตาม

เช่น ในวันแรกๆ ที่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนระดมทีมกันมาติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์สื่อสาร แอดมินเอ็มไทย ก็รายงานว่า บันไดของทีมช่างที่มาติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตหาย ใครพบช่วยเอามาคืนด้วย พร้อมโชว์ภาพประกอบของบันไดไม้สูงที่เคยพาดอยู่ที่เสาไฟฟ้าใกล้ๆช่างที่กำลังทำงานอยู่

หลังจากโพสต์ได้ไม่นาน บรรดาผู้ติดตามก็เล่นด้วย พากันค้นหาภาพของพื้นที่ ช่วยกันตามหาบันไดกันเป็นการใหญ่ บางรายเอาไปเปรียบเทียบเหมือนการตามหาช้าง ของจาพนม ในภาพยนตร์เรื่องดัง องค์บาก ที่ทั้งเรื่องพระเอกร้องแต่ว่า ช้างกูอยู่ไหน (ฮา) แอดมินก็ยังคงรายงานข่าวต่อเนื่อง พร้อมๆ กับหยอดตลอดเวลาที่ยังไม่เจอบันไดว่า บันไดหายใครเจอแจ้งด้วยครับ

ผ่านไปไม่นาน แอดมินก็โพสต์บอกว่า ก็ได้บันไดกลับคืนมาแล้ว เป็นการจบเรื่องบันได แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือความสนุกสนาน คลายเครียดของผู้เข้าติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้ติดตามข่าวไม่รู้สึกหดหู่ หรือเครียดมากเกินไป

ความดังของแอดมินเอ็มไทย ทำเอา 7-Eleven Thailand ไม่เคยพลาดกระแสโซเชียล เกาะติดความฮอตของแอดมิน @mthai เริ่มเข้ามาร่วมชื่นชมการทำงานของ @mthai ด้วยการหยอดมุก โต้ตอบกันไปมา

ขนมจีบ ซาลาเปา ไม่เอาแล้วนะครับ อิ่มแล้ว 555 @7-Eleven ก็ตอบหยอดต่อไปว่า เป็นห่วงนะ พักผ่อนบ้างนะครับ

จนเกิดเป็นกระแส “จิ้น” ของสองหนุ่มแอดมินเพจ ที่คนติดตามตั้งให้เป็นคู่ชิบ หรือ “ชิปเปอร์” ศัพท์สาวกเกาหลีที่มาใช้แทนคำว่าคู่จิ้น จนกลายเป็นที่มาของ #เซเว่นเอ็มไทย #เว่นเอ็ม #เอ็มเว่น ในโลกทวิตเตอร์

เรียกว่าต่างฝ่ายต่างช่วยเพิ่มฐานแฟนและผู้ติดตามของแต่ละฝ่ายได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ด้วยรูปแบบการรายงานข่าวข้อเท็จจริง สั้นๆ ง่ายๆ ไม่เน้นไม่ใส่สี ช่วยหาคำตอบให้ผู้ติดตาม แต่ถ้าไม่รู้ ก็ตอบแบบชัดเจนว่าไม่รู้  พร้อมกับไปหาคำตอบให้ในภายหลัง

ทำให้ทวิตเตอร์ @mthai จากยอดผู้ติดตามไม่กี่แสน จนล่าสุดมียอดผู้ติดตามกว่า 1.1 ล้านรายแล้ว

หลังจากมีข่าวดีเจอตัวน้องๆ ทีมหมูป่าทั้ง 13 คนแล้ว แอดมินของ @mthai จึงเป็นหนึ่งในคนที่คนในโลกโซเชียลอยากเห็นหน้ามากที่สุดคนหนึ่งว่าเขาคือใคร

การแจ้งเกิดของทวิตเตอร์ mthai ถือเป็นกรณีศึกษาด้านการตลาดได้อย่างดี ในการสร้างคอนเทนต์ให้เป็นความนิยมให้กับผู้อ่าน หรือผู้บริโภค ท่ามกลางข่าวที่มีให้เลือกมากมาย

สรุปคือ ตั้งแต่การเลือกใช้ทวิตเตอร์มาใช้รายงานข่าวในครั้งนี้  ซึ่งทวิตเตอร์เป็นโซเชียลมีเดียที่เหมาะกับนำเสนอข่าวสารได้ รวดเร็ว เน้นข้อความสั้นๆ สอดคล้องกับความต้องการของคนอ่านที่ต้องการอัพเดตข่าวตลอดเวลา สั้นๆ ง่ายๆ

สองรูปแบบการนำเสนอ ที่สะท้อนถึงความจริงใจ ไม่เน้นดราม่าหรือสร้างข่าวเกินจริง มีการสื่อสารแบบสองทาง ทำให้ผู้อ่านรู้สึกใกล้ชิด สัมผัสได้ แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขัน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้อ่าน หรือผู้บริโภคยุคนี้ต้องการ แบรนด์ที่มีความจริงใจ ชัดเจน ตรงไปตรงมา.

]]>
1176903
รายการข่าว เรตติ้งพุ่งถ้วนหน้า เกาะติดช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี่ https://positioningmag.com/1176545 Sat, 30 Jun 2018 11:55:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1176545 สถานการณ์ที่คนไทยส่งใจไปถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย เอาใจช่วยทั้งทีมค้นหา และนักฟุตบอลทีมหมูป่า ทั้งโค้ชและเด็กรวม 13 คนให้ปลอดภัย ทำให้ “รายการข่าว” ของทีวีดิจิทัลทุกช่อง กลายเป็นรายการที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากที่สุด จนเรตติ้งเพิ่มขึ้นทุกช่วงเวลา

จากข้อมูลเรตติ้งของนีลเส็นของวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา รายการข่าว “ไทยรัฐนิวส์โชว์” ที่ออกอากาศในช่วงหลัง 2 ทุ่มเวลาไพรม์ไทม์ เรตติ้งขึ้นสูงถึง 3.388 เป็นอันดับ 2 ของช่วงเวลา ชนะทั้งละคร และการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่อยู่ในช่วงเดียวกัน แพ้เพียงละคร “สมิงเจ้าท่า” ของช่อง 7 ที่ได้เรตติ้ง 4.230

ในขณะที่รายการที่เรตติ้งรองลงมา คือละคร “สายรักสายสวาท” ช่องวัน ตอนจบ เรตติ้ง 2.647, ละคร “ข้ามสีทันดร” ช่อง 3 ที่มี “โป๊ป ธนวรรธน์” นำแสดง เรตติ้ง 2.475 และรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลคู่ที่โปแลนด์ชนะญี่ปุ่น 1-0 เรตติ้ง 2.020

เรตติ้งของรายการ “ไทยรัฐนิวส์โชว์” ในช่วงเวลาปกติเรตติ้งอยู่ในระดับ 1 กว่ามาโดยตลอด โดยมีคู่แข่งรายการข่าว “ทุบโต๊ะข่าว” ช่องอมรินทร์ทีวี แย่งชิงเรตติ้งกันอย่างสูสี ช่วงต้นปี ทุบโต๊ะข่าว เรตติ้งยังชนะ ไทยรัฐนิวส์โชว์ แต่ไทยรัฐนิวส์โชว์ พลิกกลับมาแซงหน้าไปได้สักพัก จากการนำเสนอข่าวหวย 30 ล้าน

เมื่อเข้าเทศกาลฟุตบอลโลก “ทุบโต๊ะข่าว” ต้องย้ายเวลาออกอากาศ เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในบางวัน และเมื่อมีเหตุการณ์ข่าวสำคัญที่ “ถ้ำหลวง” จึงทำให้ไทยรัฐนิวส์โชว์ ครองเรตติ้งสูงสุดของรายการข่าวในช่วงเวลาหลัง 2 ทุ่มอย่างเบ็ดเสร็จ

ไม่เพียงแต่ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ไทยรัฐทีวี ยังเกาะติดสถานการณ์ “13 ชีวิตติดถ้ำ” ด้วยการ รื้อผังรายการปกติ จัดรายการพิเศษทั้งวัน ถ่ายทอดสดจากถ้ำหลวง รายการ “ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิต ถ้ำหลวง เชียงราย” ตั้งแต่เช้า 10.45 น.ของวัน เป็นช่วงๆ ยาวถึง 17.30 น.เรตติ้งในช่วงบ่ายโมงสูงถึง 1.515 สูงกว่ารายการวาไรตี้ ละคร บันเทิงของทุกช่อง ยกเว้นละครรีรัน “สุดแค้น แสนรัก” ช่อง 3 เรื่องราวความแค้นของ “อีแย้ม” ที่กำลังเข้มข้น ออกอากาศในช่วงเวลา 13.58-15.42 น. เรตติ้ง 2.071

โดยรวมทั้งวัน มีรายการข่าวถึง 10 รายการของไทยรัฐทีวี ทำเรตติ้งทั้ง 10 รายการสูงกว่า 1 ทั้งหมด

ช่อง 9 เป็นอีกช่องที่รื้อผังจัดช่วงรายการข่าวพิเศษ “ส่งใจไปถ้ำหลวง” เรตติ้งช่วงหลัง 2 ทุ่ม เรตติ้งแตะถึง 1.117 ในขณะที่ช่องเนชั่นทีวี รายการข่าวข้นคนเนชั่น รอบ 2 ทุ่ม เรตติ้งก็ขึ้นมาอยู่ที่ 1.111

แม้แต่ช่องเวิร์คพอยท์ เจ้าแห่งรายการวาไรตี้เกมโชว์ รายการข่าว “บรรจงชงข่าว” ออกอากาศช่วงเวลา 17.00-18.00น. เรตติ้งยังได้สูงถึง 1.256

ในช่วงข่าวเช้า แชมป์เรตติ้งในช่วงนี้เป็นของช่อง 7 ทั้งสองรายการข่าว เช้านี้ที่หมอชิต และสนามข่าว 7 สี เรตติ้ง 2.414 และ 2.254 สูงขึ้นกว่าเท่าตัวจากเรตติ้งในช่วงก่อนหน้านี้ที่อยู่ในระดับ 1 กว่า รวมถึงรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ช่อง 3 เรตติ้งอยู่ที่ 1.295 สูงกว่าก่อนหน้านี้ที่ยังสามารถแตะในระดับ 1 ได้

ส่วน “ทุบโต๊ะข่าว” ของ พุทธ อภิวรรณ ที่ย้ายมาออกอากาศในช่วงค่ำก่อน 2 ทุ่ม ได้เรตติ้งสูงถึง 2.182 นำทุกรายการข่าวในช่วงนี้

ตามมาด้วยรายการทอล์ก “ถามตรงตรง” ของจอมขวัญ ช่องไทยรัฐ เรตติ้ง 1.762 ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ รายการ “เข้มข่าวค่ำ” ที่มีเสถียร วิริยะพรรณพงศา เป็นพิธีกรหลัก เป็นรายการที่เรตติ้งสูงสุดของช่องพีพีทีวีประจำวัน โดยมีเรตติ้งอยู่ที่ 0.849

สถานการณ์ที่ต้องตามติด ภารกิจช่วยเหลือทั้ง 13 คน สำหรับคนทั่วไป การดูทีวีอยู่บ้าน เพื่อรับทราบข่าวสาร ร่วมให้กำลังใจ พร้อมส่งความช่วยเหลืออุปกรณ์สิ่งของเมื่อมีการแจ้งข่าว จึงเป็นช่วงที่รายการข่าวทุกช่องได้รับความนิยมสูงสุดช่วงหนึ่ง ด้วยความหวังของคนไทยทั้งประเทศที่จะเห็นทั้ง 13 คนปลอดภัย.

]]>
1176545