หนุมานสงครามมหาเทพ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 15 Feb 2018 05:06:15 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 หนุมานฯ แผลงฤทธิ์ดันช่อง 8 เรตติ้งละครเหนือช่อง 3 https://positioningmag.com/1156995 Wed, 14 Feb 2018 11:49:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1156995 หลังจากขับเคี่ยวกันมาตลอดหลายเดือนในการชิงคนดูละคร และซีรีส์ ช่วงไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่ม ล่าสุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่  5-8 ..) ชัดเจนมากว่า 3 ใน 4 วันนั้นช่อง 8 เอาชนะช่อง 3 ได้ เพราะพลังหนุมาน สงครามมหาเทพ 

วัดกันแบบจะจะ คือของ ช่อง 3 เลือกสล็อตเวลาบรรจุผังรายการละครเวลาประมาณ 20.15-22.45 . ออนแอร์เรื่องเดียวกัน 2 วันติดเหมือนเดิม คือ จันทร์อังคาร เรื่อง เงินปากผี  ส่วนพุธพฤหัส เรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว

ส่วนช่อง 8 ยิงยาวจันทร์พฤหัสรวดเดียว เป็นซีรีส์อินเดีย หนุมาน สงครามมหาเทพ ด้วยกลยุทธ์ออนแอร์ต่อเนื่องดึงคนดูแบ่งเป็น 2 ช่วง ตั้งแต่ไพรม์ไทม์ช่วงต้นเวลา 18.50-20.00 . คั่นด้วยข่าว 2 ทุ่ม ประมาณ 10-15 นาที แล้วออนแอร์ต่อช่วงที่ 2 ประมาณ 20.10-21.00 .

เจาะดูผลงานเฉพาะช่วงหลัง 2 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงไพรม์ไทม์นาทีทองในการคิดค่าโฆษณาได้แพงที่สุด เพราะเป็นช่วงที่มีคนดูสูงสุดของวัน ปรากฏว่า หนุมานฯ ช่วงได้เรตติ้งอันดับ 2 ชนะช่อง 3 ในจำนวน 3 วันจาก 4 วัน คือวันจันทร์ พุธ และพฤหัส ส่วนวันอังคารนั้นเงินปากผีกู้หน้าช่อง 3 ไว้ได้

ขณะที่ช่อง 3 ยังถูก เรือนเบญจพิษ ของช่องวัน แซงอย่างแรง เพราะมีเรตติ้งดีกว่าเสน่ห์นางงิ้วทั้งวันพุธที่ 7 และพฤหัสที่จนทำให้ช่อง 3 ได้เรตติ้งไปอยู่นอันดับ 4 ถึง 2 วันในกลุ่มละคร ส่วนแชมป์ละครอันดับ 1 ยังคงเป็นช่อง 7 เช่นเดิม จากเรื่องแม่อายสะอื้นในวันจันทร์อังคาร และมือปราบหยี่ยวดำ ในวันพุธ และพฤหัส

ความสำเร็จจากเรื่องหนุมานฯ ทำให้ช่อง 8 เดินเครื่องเต็มที่ในการซื้อซีรีส์อินเดียมาออนแอร์ อย่างที่ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนท่ี่แล้วว่าปีนี้ได้เตรียมงบไว้ 500 ล้านบาท ซื้อซีรีส์อินเดีย 8 เรื่องจากบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชนโดยหวังว่าจะทำให้ช่อง 8 ได้เรตติ้งอยู่ในอันดับ 3 จากปัจจุบันอยู่อันดับ 5 รองจากช่อง 7 ช่อง 3 โมโน และเวิร์คพอยท์

นั่นหมายถึงช่อง 8 ในมุมของเอเจนซี่ที่วางแผนซื้อเวลาโฆษณา จะจัดช่อง 8 เป็นอันดับแรกของช่องเทียร์ 2 เรตติ้งเกือบถึง 1 ในกลุ่มผู้ชมอายุ 4+ ทั่วประเทศ

แต่หากเป็นกลุ่มอายุ 15+ ทั่วประเทศก็เป็นอยู่ในเทียร์ 1 ที่เรตติ้งทะลุเกิน 1 เป็นช่องอันดับแทนที่เวิร์คพอยท์ในปัจจุบัน รองจากช่อง 7 และซึ่งหมายถึงการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมระดับแมส และอัตราค่าโฆษณาที่ขายแพงขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงไพรม์ไทม์ ซึ่งขณะนี้นีลเส็นได้รับข้อมูลจากช่อง 8 ได้ปรับค่าโฆษณาในช่วงไพรม์ไทม์แล้ว หลังจากช่อง 8 ประกาศตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่า เรตติ้งที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงนี้ทำให้พร้อมจะขึ้นค่าโฆษณา

ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจสายงานการวางแผนและกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด บอกว่า ช่อง 8 ได้ปรับขึ้นค่าโฆษณาในช่วงไพรม์ไทม์ ขึ้นมาเป็น 4 แสนบาทมาตั้งแต่ต้นปีนี้

การขึ้นค่าโฆษณาของช่อง 8 มาจากหลายปัจจัย ซีรีส์อินเดียหนุมาน สงครามมหาเทพ ได้รับความนิยมจากคนดู จนเรตติ้งเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับเวลาโฆษณาของช่อง 8 ส่วนหนึ่งถูกใช้โปรโมตธุรกิจความงาม ซึ่งถือเป็นธุรกิจเรือธงของอาร์เอส ทำให้ช่อง 8 จึงใช้จังหวะนี้ขึ้นค่าโฆษณา หลังจากที่ไม่ได้ขึ้นมานาน

ตัวเฮียฮ้อสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) RS เองก็ประกาศขึ้นค่าโฆษณา เพิ่ม 45% ในปีนี้ จากราคาเฉลี่ย 3 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 4.5 หมื่นบาทต่อนาที หลังจากที่เรตติ้งของช่อง 8 ติดท็อป 5 ของทีวีดิจิทัลที่ทำเรตติ้งสูงสุด ซีรีส์หนุมาน ทำเรตติ้งเฉลี่ย 2.5 ล้านคน/นาที สร้างกระแสได้ดี.

]]>
1156995
สงครามไพรม์ไทม์ 4 ช่องทีวีดิจิทัล ขย่มเรตติ้งละครช่อง 3, 7 https://positioningmag.com/1154707 Mon, 29 Jan 2018 00:15:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1154707 ต้องจับตากันชนิดตาไม่กะพริบ สำหรับทีวีดิจิทัล โดยเฉพาะช่วงเวลาไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่ม คือช่วงเวลาทองของทุกสถานี ที่หวังสร้างรายได้จากโฆษณาสูงสุด เป็นช่วงเวลาที่ช่อง 7 และช่อง 3 ผู้ประกอบการทีวีรายเก่าครองตลาดมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ทั้ง 2 ช่อง โดยเฉพาะช่อง 3 กำลังถูกท้าทายอย่างหนักจาก 4 ช่องน้องใหม่ “เวิร์คพอยท์ , โมโน, ช่อง8 , ช่องวัน” กำลังทุ่มงบ อัดฉีดรายการที่เป็นจุดแข็งของตัวเองเข้าสู้ ทำให้สถานการณ์การแข่งขัน ยิ่งดุเดือดมากขึ้น

โดยเฉพาะช่อง 3 ที่ครองเรตติ้งอันดับ 2 ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างหนักจากคู่แข่งทีวีดิจิทัล ที่กำลังไล่ล่าเรตติ้งคนดูกันอย่างหนัก อย่างล่าสุด ช่องโมโน หลังจากทำเรตติ้งแซงหน้าเวิร์คพอยท์ ขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 ก็ประกาศขอขึ้นเบอร์ 2

เท่ากับว่า ช่อง 3 ก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากไม่น้อยทีเดียว ไหนต้องรับมือกับแข่งขันอันร้อนระอุแล้ว หนำซ้ำ “ละคร” ช่วงไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่ม ในเดือนมกราคม 61 ก็ยังไม่สามารถทำเรตติ้งได้น่าพอใจ

ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ช่อง 3 เปิดด้วย ละครดราม่าร้อน ระเริงไฟ ของค่ายซิติเซ่น แคน “หน่อย บุษกร” ที่นำเอาสามี “เคน ธีรเดช“ และ ”นุ่น วรนุช” มาแสดงนำ, “เดือนประดับดาว” ของ ”โดนัส มนัสนันท์“ ที่จบไปแล้ว และต่อด้วย “เสน่ห์นางงิ้ว” ของค่ายแอ็ค อาร์ต ของธัญญา วชิรบรรจง และ ”ไข่มุก มังกรไฟ” ละครบู๊ของค่าย เป่า จิน จง “นพพล โกมารชุน”

“ระเริงไฟ” แม้ได้นักแสดงรุ่นใหญ่มาแสดง บทดราม่า เชือดเฉือน ร้อนแรง แต่ยังไม่ถูกจริตคนชมมากนัก อาจจะเพราะละครมีส่วนของความเครียดมากกว่าความบันเทิง จบไปโดยที่ได้เรตติ้งแบบไม่น่าประทับใจนัก จากข้อมูลเรตติ้งของ FB TV Digital Watch สรุปว่า ระเริงไฟ ได้เรตติ้งเฉลี่ยจากทั้งหมด 14 ตอน อยู่ที่ 2.801 เท่านั้น โดยเรตติ้งสูงสุด คือ 3.701 ในตอนจบที่แฮปปี้เอนดิ้งนั่นเอง เหมือนเป็นความเครียดที่อัดอั้นมานานและมาระเบิดแบบความสุขตามแบบฉบับละครไทยจนได้เรตติ้งพุ่งในตอนสุดท้าย

ส่วนละครวันพุธ พฤหัส เดือนประดับดาว จบลงไปตั้งแต่ 10 มกราคม ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยเพียง 2.431 และต่อมาด้วยเรื่องเสน่ห์นางงิ้ว ด้วยชื่อชั้นของค่าย แอค อาร์ต ยี่ห้อของ พงพัฒน์ วชิรบรรจง ที่กวาดรางวัลสร้างชื่อเสียงมามากมายจากเรื่อง “นาคี” เพียงแต่เรื่องนี้เป็นการกำกับโดยนักแสดงรุ่นใหญ่ “อู๋ ธนากร โปษยานนท์ “ เป็นครั้งแรก ช่อง 3 วางไว้รับเทศกาลตรุษจีนที่ค่อนข้างคาดหวังมากว่าจะสร้างเรตติ้งได้ดีแต่ปรากฏว่า หลังจากออกอากาศไปได้ 5 ตอน ได้เรตติ้งเฉลี่ยไปแค่ 1.74 ผิดมาตรฐานละครช่อง 3 เป็นอย่างมาก

ช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ ไข่มุก มังกรไฟ” ละครบู๊ ออกอากาศไปแล้ว 9 ตอน ได้เรตติ้งเฉลี่ย 2.52 ส่งผลให้เรตติ้งของละครไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่มล็อตนี้ของช่อง 3 เรตติ้งดร็อปลงทั้งหมดอย่างเห็นได้ชัด

สวนคู่แข่งช่อง 7 ที่ เปิดลอตใหม่ของปี 2561 ด้วย “แม่อายสะอื้น” ละครดราม่ารีเมก ออกอากาศไป 2 ตอนเรตติ้งอยู่ที่ 4.80 , “มือปราบเหยี่ยวดำ” ละครบู๊ สร้างจากเรื่องจริงของนายตำรวจในปฏิบัติการไล่ล่า ”ตี๋ใหญ่” จอมโจรชื่อดังในอดีต ออกอากาศไป 4 ตอนได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 5.33  และ “คุณชายไก่โต้ง” ละครคอมเมดี้ ออกอากาศไป 6 ตอน เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 5.03

แม้ว่าสถานการณ์ของช่อง 7 จะไม่หนักหนาเท่ากับช่อง 3 แต่ทั้ง 3 เรื่องของช่อง 7 ยังมีเรตติ้งไม่สูงเท่ามาตรฐานของละครช่อง 7 ที่เคยได้เฉลี่ยสูงกว่านี้ หากดูจากตัวเลขเรตติ้งเฉลี่ยของละครหลัง 2 ทุ่มของช่อง 7 ปี 2560 เคยได้สูงสุดอยู่ที่ 8.015 จากเรื่อง ”นายฮ้อยทมิฬ” และต่ำสุดคือเรื่อง ”วังนางโหง” อยู่ที่ 4.142

4 ช่องน้องใหม่-เวิร์คพอยท์ โมโน  ช่อง 8 ช่องวัน มายกแผง

เมื่อ 2 บิ๊กทีวี ช่อง 3 และช่อง 7 เรตติ้งลดลง ตรงกันข้ามกับเรตติ้งของ 4 ช่องน้องใหม่ เวิร์คพอยท์ – โมโน – ช่อง8 – ช่องวัน กำลังมาอย่างดีวันดีคืน

ที่พุ่งแรงที่สุดคือซีรีส์อินเดีย หนุมาน สงครามมหาเทพ ของช่อง 8 ที่ปูพรมเปิดตลาดซีรีส์อินเดียมาตั้งแต่ ”สีดาราม ศึกรักมหาลงกา” มาตั้งแต่ปลายปี 2558 ยาวถึงปี 2559 โดยวางผังออกอากาศเป็นสองช่วง คือไพรม์ไทม์ 19.00 และหลัง 20.00 เริ่มสร้างเรตติ้ง สร้างฐานคนดูมาก่อน จนกระทั่งมาบูมสุดๆ ที่ความน่ารักของหนุมานน้อย จนล่าสุดได้เรตติ้ง 4.499 ในวันที่ 25 มกราคม ในการออกอากาศช่วงที่ 2 หลัง 2 ทุ่ม ชนะ The Mask Singer3 รอบแชมป์เป็นของ ”หน้ากากหนอนชาเขียว” ที่ได้เรตติ้ง 3.95 แพ้เพียงละคร ”มือปราบเหยี่ยวดำ ช่อง 7 ที่ได้เรตติ้ง 5.431

ในวันเดียวกันนั้น ภาพยนตร์ต่างประเทศของโมโน “Deja Vu” ก็มีเรตติ้งอยู่ในระดับ 2.827 และละครไทย ซีรีส์ชุด ”เรือน” ของช่องวัน เรื่องที่ 3 ต่อจาก “เรือนเสน่หา และ ”เรือนร้อยรัก” จนมาเป็น “เรือนเบญจพิษ” ได้เรตติ้งดีขึ้นต่อเนื่อง ออกอากาศไป 10 ตอน เรตติ้งอยู่ที่  2.27

เมื่อ 4 ช่องน้องใหม่เรตติ้ง ”มา” พร้อมๆ กัน จึงต้องกระทบต่อช่อง 3 ที่อยู่ในอันดับ 2 อย่างเห็นได้ชัด ดูได้จากเรตติ้งในวันเดียวกันนี้ ”เสน่ห์นางงิ้ว” ช่อง 3 ได้ไปเพียง 1.803 อยู่ในอันดับ 7

ช่อง 3 วางละครล็อตใหม่ลงผัง หวัง “เงินปากผี” กระตุ้นเรตติ้ง

ช่อง 3 นั้น เมื่อเปิดเดือนแรกของปีมาด้วยเรตติ้งละครที่ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก ก็ฝากความหวังไว้กับละคร เงินปากผี ที่จะออนแอร์ในวันจันทร์ที่  29 มกราคมนี้ ละครหลัง 2 ทุ่ม ช่อง 3 เป็นละครผี สุดสยองขวัญ ที่ช่อง 3 โดยมาเสียบแทนเรื่องที่วางไว้เดิม บ่วงรักซาตาน ละครแนวโรแมนติกดราม่าสไตล์ช่อง 3 เพราะประเมินแล้วว่า ด้วยแนวของเรื่องไม่น่าแรงพอที่จะช่วยกระตุ้นเรตติ้งในช่วงวิกฤตนี้ เท่ากับเงินปากผี

โดย “เงินปากผี” เป็นละครของ ค่ายกันตนา ที่หันมารับงานละครให้กับช่อง 3 ด้วย ครั้งนี้ได้ “สตางค์ ดิษย์ลดา” ลูกสาวของ “ตุ๊กตา จิตรดา” ทายาทกันตนา เป็นผู้จัด โดยผลิตละครผี ที่เป็นซิกเนเจอร์ของค่ายกันตนา ที่เคยประสบความสำเร็จมาหลายเรื่องแล้ว

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า ช่อง 3 เตรียมวาง บุพเพสันนิวาส ละครพีเรียด สมัยพระนารายณ์ ยุคกรุงศรีอยุธยา ได้ “โป๊ป ธนวรรธน์” และ ”เบลล่า ราณี” นำแสดง มาเตรียมออนแอร์ต่อจาก ”เสน่ห์นางงิ้ว” เพื่อฟื้นเรตติ้งด้วย

โมโน VS เวิร์คพอยท์ คู่ต่อกรอันดับ 3 ท้าชิงอันดับ 2

ทางด้าน เวิร์คพอยท์ โมโน ช่อง 8 ช่องวัน คือ 4 ช่องดาวรุ่งของวงการทีวีดิจิทัลในช่วงนี้ ที่เริ่มสตาร์ทปีนี้ด้วยรายการชุดใหญ่ จัดเต็มเพื่อลุยศึกชิงเรตติ้งจาก ช่อง 7 และช่อง 3 ที่เป็น 2 ช่องหลักในอุตสาหกรรมทีวีไทยมาอย่างยาวนาน

เรตติ้งของปี 60 เวิร์คพอยท์ที่อยู่ในอันดับ 3 ได้ 1.001 เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ 0.837 ตามมาคือ โมโน ได้ 0.702 เพิ่มขึ้นจากปี  2559 ที่ได้ 0.536, ช่อง 8 อยู่ในอันดับ 5 ได้ 0.569 สูงขึ้นจากปี 2559 ที่ได้ไป 0.437 ส่วนช่องวันได้ 0.537 เพิ่มจากปี 2559 ที่อยู่ที่ 0.406

ในขณะที่เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 7 ทั้งปี 2560 อยู่ที่  2.114 แม้ว่าจะยังอยู่ในอันดับ 1 ของช่องทีวีดิจิทัลทั้งหมด แต่ก็ลดลงจาก 2.315 ของปี  2559 ส่วนของช่อง 3 เรตติ้งรวมอยู่ที่ 1.384 ลดลงจาก 1.600 ในปี 2559

ยิ่งเมื่อดูจากเรตติ้งประจำสัปดาห์ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมาแล้ว จะเห็นว่า 4 ช่องใหม่นี้ยังรักษาฐานเรตติ้งของตัวเองเริ่มเขยิบกันยกแผงใกล้เคียงกับช่อง 7 และช่อง 3 แต่ที่ใกล้สุดๆ คือ โมโนและเวิร์พอยท์ ที่ไล่กันมาติดๆ

ปีนี้โมโนประกาศทุ่มงบลงทุน 800 ล้านสำหรับการซื้อคอนเทนต์ต่างประเทศ ตั้งแต่ภาพยนตร์และซีรีส์ พร้อมกับขึ้นค่าโฆษณา จาก 2.8 หมื่นบาทต่อนาที เป็น 4 หมื่นบาทต่อนาที และพุ่งไปถึง 1 แสนบาทต่อนาทีในช่วงไพรม์ไทม์ โมโนจึงไม่รอช้าที่จะประกาศว่า พร้อมชิงอันดับ 2 จากช่อง 3 ที่ดูเหมือนกำลังอ่อนแรง

แต่การใช้คอนเทนต์ต่างประเทศ แม้จะได้คอนเทนต์แปลกใหม่ ทันสมัย แต่ก็มีข้อจำกัดในการเอามารีรันได้ตามจำนวนครั้งที่ตกลงในสัญญา หากเกินจากข้อกำหนดจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีก จึงต้องมีเงินทุนสายป่านยาวพอสมควร โมโนจึงต้องเริ่มผลิตรายการในประเทศเข้าไปเสริมผังด้วย เช่นละครไทย และรายการกีฬาบาสเกตบอลลีกในประเทศไทย

ส่วนเวิร์คพอยท์นั้น ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปรับหากลยุทธ์ ในการฟื้นเรตติ้งทั้งช่องขึ้นมาให้ได้เหมือนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 เวิร์คพอยท์เคยขยับเข้าใกล้ช่อง 3 ในอันดับ 2 มาแล้ว เพียงแต่ในครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว รายการวาไรตี้ใหม่บางรายการที่คาดหวังไว้ไม่เป็นไปตามเป้า

ล่าสุดเวิร์คพอยท์ จะนำซีรีส์อินเดีย ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์ มาลงจอในช่วงเวลา  21.30 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เริ่ม 5 ก.พ.นี้ โดยเป็นการออกอากาศต่อจากรายการวาไรตี้เกมโชว์ของเวิร์คพอยท์ในช่วงไพรม์ไทม์ ที่เริ่มมีปัญหาบางรายการไม่ปัง เรตติ้งไม่มา

สำหรับรายการวาไรตี้หลักที่สร้างเรตติ้งเป็นที่จดจำของคนดูของเวิร์คพอยท์ ยังคงเป็น The Mask Singer ที่มาถึงซีซันที่ 3 แล้ว และ I can see your voice และรายการซีรี่ส์ ”ไมค์” ทั้งหมด สร้างเรตติ้งได้ในหลัก 2 ขึ้นไป ในขณะที่บางรายการเช่น “Diva Makeover เสียงเปลี่ยนสวย” รายการร้องเพลงที่มาพร้อมกับดราม่า ได้เรตติ้งล่าสุดวันที่ 22 ม.ค.ไปเพียงแค่ 1.76

กลยุทธ์การวางผังเช่นนี้ จะช่วยตรึงผู้ชมให้อยู่กับช่องยาวนานมากเช่นในวันพุธ หลังรายการ I can see your voice จบ วันหรือ พฤหัส หลังรายการ The Mask Singer3 จะได้ต่อเนื่องกับซีรีส์อินเดียทันที ซึ่งคาดว่าจะได้เรตติ้งสูงกว่ารายการเดิมที่วางไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้รายการเดิมที่อยู่ในผังช่วงนี้ได้แก่ “อีจันสืบสยอง“, ”คนอวดผี ปี 7””เลขอวดกรรม“ และรายการรีรีน เช่น ชิงร้อยชิงล้าน , และ Diva Makeover

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เวิร์คพอยท์นำซีรีส์อินเดียมาออกอากาศ ในปี 2558 เวิร์คพอยท์เป็นทีวีดิจิทัลรายแรกที่นำเอา ”พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก” เป็นซีรีส์อินเดียชุดแรกเข้ามาสร้างตลาดผู้ชมคนไทยมาแล้ว “ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซานเดอร์” ชุดนี้ จึงเป็นหนึ่งหมัดเด็ดของเวิร์คพอยท์ ที่หวังชิงเรตติ้งจากทุกช่องกลับมา

ซีรีส์อินเดีย คอนเทนต์ใหม่มาแรงของทีวีดิจิทัล

ครั้งหนึ่งซีรีส์เกาหลี คือรายการที่ช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้วงการทีวีไทย หลายๆ ช่องต่างซื้อลิขสิทธิ์มาออกอากาศกันมากมาย แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามา การดูซีรีส์เกาหลีจึงไม่จำเป็นต้องรอดูบนทีวีอีกต่อไป สามารถเลือกรับชมช่องทางออนไลน์ หรือสดพร้อมๆ กับเกาหลีได้เลย ทำให้ต้องมองหารายการต่างประเทศอื่นๆ เท่าเข้ามาทดแทน

JKN ในฐานะผู้นำเข้าซีรีส์อินเดีย เคยบอกไว้ว่า สาเหตุ์ที่ซีรีส์อินเดียเป็นที่นิยมในประเทศไทย เพราะศิลปวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันในการนับถือศาสนาพุทธ เรื่องส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา และคนไทยยังมีความคุ้นเคยกับตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น นางสีดา พระราม หนุมาน พระศิวะ รวมเข้ากับรูปแบบการนำเสนอสมัยใหม่ มีทั้งแฟนตาซี อภินิหาร ไม่ใช่วิ่งไล่จับกันข้ามวันข้ามคืนเหมือนสมัยก่อน จึงถูกจริตคนไทย กลายเป็นซีรีส์ยอดนิยมขึ้นมา

อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ชมเริ่มเบื่อพล็อตละครไทย การทำละครรีเมก จึงหันไปหาความแปลกใหม่ และซีรีส์อินเดียก็ตอบโจทย์ในแง่ความแปลกใหม่ แต่คุ้นเคยตัวละครได้มากที่สุด

ช่อง 8 เป็นช่องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดสำหรับซีรีส์อินเดีย เริ่มปูพรมมาตั้งแต่ “สีดา ราม ศึกมหาลงกา“ ออกอากาศกันข้ามปี จากปี 2558 -2559 จนมาพีคที่สุดกับ “หนุมาน สงครามมหาเทพ” ที่เคยทำเรตติ้งชนะ “วังนางโหง” ละครหลัง 2 ทุ่มที่มีเรตติ้งเฉลี่ยต่ำสุดของปี 2560 ช่อง 7 มาแล้วในช่วงสั้นๆ ของเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

ช่องทีวีดิจิทัลทั้งหมด 5 ช่อง ที่จัดซีรีส์อินเดียลงผังในขณะนี้ เริ่มตั้งแต่กลุ่มช่อง 3 มี “นาคิน” ลงช่อง 33 และ“อโศก มหาราช” ช่อง 13 ออกอากาศช่วงเย็นทุกวันจันทร์-ศุกร์ และกำลังจะมี ”มหาภารตะ” เพิ่มในผังอีกชนิดยิงยาวตั้งแต่ 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม, ช่องไบรท์ทีวี มี ​”ศิวะ พระมหาเทพ” ออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ 3 ทุ่ม และอีก 4 เรื่องออนแอร์กันทั้งวัน และช่อง 8 ที่มีถึง 2 เรื่องคือ “หนุมาน” และ ”ลิขิตแค้นแสนรัก” ที่ออกอากาศยาวช่วงไพรม์ไทม์ในวันจันทร์-ศุกร์

สมรภูมิศึกชิงเรตติ้งครั้งนี้ น่าสนุก ลุ้น กันทุกวัน.

]]>
1154707
ล้วงลึกเรตติ้งซีรี่ส์อินเดีย “นาคิน VS หนุมาน” เทียบกันหมัดต่อหมัด https://positioningmag.com/1151604 Mon, 25 Dec 2017 07:28:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1151604 เมื่อซีรี่ส์อินเดียกำลังมาแรง สองช่องหลักอย่างช่อง 3 ดัน ”นาคิน” ซีรี่ส์ดราม่าของงูสาวที่สามารถแปลงร่างเป็นคน สู้กับ ”หนุมาน สงครามมหาเทพ” ซีรี่ส์แฟนตาซีของหนุมานทหารเอกของพระราม ของช่อง 8 วันนี้จึงขอเปิดรายละเอียดเรตติ้งของทั้งสองเรื่อง ที่ออกอากาศเวลาใกล้เคียงกันในช่วงเย็นก่อนข่าวสองทุ่ม ตั้งแต่ออกอากาศจนถึงวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา 

นาคินออกอากาศครั้งแรกเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2560 ถือเป็นซีรี่ส์อินเดียเรื่องแรกที่ออกอากาศทางช่องหลักอย่าง 33 HD ซึ่งช่อง 3 เลือกให้ลงช่วงเย็นก่อนละครไทย วันจันทร์ถึงศุกร์ หลังจากที่ได้แรงหนุนจากละคร ”นาคี” ที่เอามารีรันในช่วงเย็นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้เรตติ้งสูงถึง 6.7 ทำให้ฐานเรตติ้งละครเย็นช่อง 3 ดีขึ้นมาทันที และเป็นแรงหนุนต่อเนื่องทำให้ละครเย็นของช่องหลังจากนาคีรีรัน (ครั้งที่3) จบลง อยู่ในตัวเลขประมาณ 3-4 มาโดยตลอด

ดูเหมือนช่อง 3 จะถูกกับ ”งู” เมื่อนำเอาซีรี่ส์งูอย่างนาคิน มาลงจอเพื่อสร้างกระแสละครเกี่ยวกับ ”งู” ต่อเนื่อง แต่ในตอนแรกได้ไปเพียง 2.111 เมื่อออกอากาศได้หนึ่งเดือน ก็ส่งสัญญาณในทางบวก ด้วยผลเรตติ้งแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนช่อง 3 ตัดสินใจทำปฏิทิน ”นาคิน” ฉบับพิเศษ เอานักแสดงหลักของละครนาคีและภาพยนตร์นาคีมาถ่ายปฏิทิน เพื่อโปรโมตสร้างความต่อเนื่องกับซีรี่ส์ ”งู” ครั้งนี้ โดยภาพยนตร์นาคี เตรียมออกอากาศกลางปีหน้า รวมถึงตัดสินใจเตรียมสร้างละครนาคี ภาค 2 ต่อทันที โดยที่บรรดาผู้บริหารช่องต้องบินไปคำชะโนดไหว้ขอบคุณและขอพรพ่อปู่แม่ย่า หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน

ในขณะที่ หนุมาน สงครามมหาเทพ ออกอากาศวันจันทร์ถึงพฤหัส ได้แรงหนุนเปิดกลุ่มซีรี่ส์อินเดียจาก “สีดาราม ศึกรักมหาลงกา” มาก่อน ทำให้การออกอากาศครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ได้เรตติ้งอยู่ที่ 2.459 โดยที่เวลาออกอากาศของทั้งสองเรื่อง เหลื่อมเวลากันเล็กน้อย นาคินอออกอากาศก่อนในช่วงเวลาประมาณ 18.00-18.50 ได้เรตติ้งเฉลี่ยจนถึงวันที่  21 ธันวาคมอยู่ที่ 2.813 แต่หนุมานฯ ออกอากาศ 2 ช่วง 18.50- 20.00 และช่วงที่ 2 เวลา 20.00-21.30 มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งสองช่วงอยู่ที่ 3.151

หากเทียบการออกอากาศในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเฉพาะช่วงเย็น เรตติ้งหนุมานฯ นำหน้านาคินมาโดยตลอด แต่นาคินเริ่มแซงหน้าหนุมานฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม และตกลงไปอีก จนกระทั่งมาแซงต่อเนื่องอีกครั้งเมื่อวันที่  18 ธันวาคม จนถึง 21 ธันวาคม

จากข้อมูลของนีลเส็น นาคินตอบโจทย์ฐานคนดูของช่อง 3 เมื่อได้ฐานคนดูในเมืองมากกว่าต่างจังหวัด โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ 3.152 แต่ได้ในต่างจังหวัดแค่ 2.753 ส่วนหนุมานฯ จับกลุ่มคนดูในต่างจังหวัดมากกว่า โดยได้เรตติ้งเฉลี่ยไปที่ 3.273 และได้เรตติ้งในกรุงเทพฯ ไป 2.441

ในขณะเดียวกันนาคินซึ่งเป็นละครแนวดราม่า จับกลุ่มผู้ชมผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยได้เรตติ้งกลุ่มผู้หญิงอยู่ที่ 3.653 และผู้ชายที่ 1.933 ส่วนหนุมานฯ ละครแนวแอคชั่น แฟนตาซี จับกลุ่มผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย ได้เรตติ้งกลุ่มผู้ชมผู้ชายเฉลี่ยไปที่ 3.173 ส่วนกลุ่มผู้หญิงอยู่ที่ 3.131

ข้อมูลเรตติ้งยังบอกด้วยว่ากลุ่มวัยทีนและวัยทำงานตั้งแต่อายุ 15-29 ปี คือกลุ่มที่ดูซีรี่ส์อินเดียทั้งสองเรื่องน้อยที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมอายุ 20-24 ปี เป็นตัวเลขเรตติ้งรับชมน้อยที่สุด ส่วนผู้ชมช่วงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่นิยมดูซีรี่ส์อินเดียมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มที่มาอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่มีเรตติ้งดีที่สุดในทั้งสองเรื่อง

นี่เป็นเพียงแค่ยกเริ่มต้นของศึกชิงเรตติ้งซีรี่ส์อินเดีย ต้องดูกันยาว ๆ ไป.

]]>
1151604
ศึกชิงเรตติ้งซีรี่ส์อินเดีย “นาคิน ช่อง 3” ท้ารบ “หนุมานฯ ช่อง 8” https://positioningmag.com/1146255 Mon, 13 Nov 2017 12:15:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1146255 ซีรี่ส์อินเดียบนจอทีวีดิจิทัล กำลังมาแรง และเวลานี้ต้องยกให้กับช่อง 8 อาร์เอส ที่ปักธงสร้างเรตติ้งจากหนังอินเดียได้ก่อนใคร แต่เกมธุรกิจบันเทิงในการชิงผู้ชมจะไม่สนุกถ้าไม่มีคู่แข่งมาร่วมสนาม และขณะนี้ช่อง 8 ก็มีเบอร์ใหญ่อย่างช่อง 3 ส่งนาคินมาสู้แล้ว

อาร์เอสประสบความสำเร็จแบบเซอร์ไพรส์จากเรื่องสีดาราม ศึกรักมหาลงกาที่ออนแอร์ตั้งแต่ ม.. – ..2560 โดยออนแอร์ได้เพียงสองเดือนเรตติ้งก็มา ทะลุไป 1 กว่าเกือบจนเฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) สั่งเพิ่มเวลาออนแอร์ จาก 1 ชั่วโมงเป็น 1 ชั่วโมงครึ่ง ลากยอดชมยาว ๆ ไป จนพีคสุดในเดือน มิ.. ที่บางวันเรตติ้งทะลุไปถึง 4.2

พอเรื่องต่อมา คือ หนุมาน สงครามมหาเทพ ที่กำลังออนแอร์อยู่ ก็ลากเวลาออนแอร์นานขึ้น และข้ามช่วงเวลาจากเย็นไปจนถึงค่ำ ถึงเวลาไพรม์ไทม์หลังสองทุ่ม จนเฉลี่ยเรตติ้งทะลุ 2-3 ได้อีก

อย่างเช่นเมื่อวันที่ 1 .. 2560 หนุมาน สงครามมหาเทพได้เรตติ้งเฉลี่ยออนแอร์ทั้งสองช่วง อยู่ที่ 2.94 หากแยกเป็นช่วงแรก คือเวลา 18.50-19.55 . ทำเรตติ้งได้ 2.84 ช่วงที่สองเวลา 20.07-21.17 .ได้เรตติ้งไป 3.02 ได้เรตติ้งเหนือละครช่อง 3 อีกครั้ง ทั้งที่เป็นละครล็อตใหม่ และออนแอร์วันแรกอย่างเรื่องสายธารหัวใจได้เรตติ้ง 2.75

ขณะที่การมาวันแรกของนาคินที่ช่อง 33 หรือ 3 HD ที่ผู้บริหารเลือกปักลงผัง เวลา 18.19-19.00 .ได้เรตติ้งไป 2.11 ถ้าวัดกับเฉพาะตัวเลข ก็จัดว่าแพ้ช่อง หนุมานฯ ของอาร์เอสชัดเจน 

จริง ๆ แล้วอาร์เอสไม่ใช่เจ้าแรกที่นำซีรีส์อินเดียบุกฐานผู้ชมทีวีดิจิทัล ก่อนหน้านี้ เวิร์คพอยท์ทีวี นำเรื่องพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลกมาฉาย เมื่อปี 2558 โดยมีการจัดทำเพลงประกอบ คำร้อง โดยประภาส  ชลศรานนท์ผู้ถือหุ้นใหญ่ ผู้ก่อตั้ง และผู้บริหารของเวิร์คพอยท์ด้วย ที่ในยูทูปปัจจุบันคนดูเอ็มวีนี้แล้วกว่า 8 ล้านครั้ง แต่เวิร์คพอยท์เลือกใช้บริการซีรีส์อินเดียเพียงเรื่องเดียว และเดินแนวถนัดของตัวเองในการผลิตรายการต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากกว่า  

จากนั้นก็มีทรูโฟร์ยู นำเรื่องพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก ไปฉายอีกในปี 2559 ขณะที่กลุ่มช่อง 3 นอกจากมีนาคินแล้ว ยังมีอโศกมหาราช ที่บรรจุในผังช่วงเย็น ทางช่อง 13 แฟมิลี่ด้วย

ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิทัลทีวี กล่าวว่า คนดูตอบรับซีรี่ส์อินเดียตั้งแต่สีดารามฯ มาจนถึงหนุมานฯ เพราะอยากได้ดูอะไรใหม่ๆ หลักการเลือกเรื่องคือให้คนดูรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่มีปฏิสัมพันธ์ เช่น รู้เรื่อง หรือเคยเรียนมาก่อน คุ้นเคย อย่างเรื่องสีดารามฯ ที่เป็นเรื่องส่วนหนึ่งของรามเกียรติ์ และการผลิตที่ดี มีคุณภาพ

ถือว่าช่อง 8 เลือกได้แจ็กพ็อต และพบว่าคนดูเป็นผู้หญิง และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่ดูละครไทย พอมาเรื่องหนุมานฯ ก็ได้แฟนช่องเพิ่ม เรตติ้งดีขึ้นเรื่อยๆ และในปีหน้ามีซีรี่ส์อินเดียที่เตรียมไว้ 3 เรื่อง  ดร.องอาจกล่าวและว่าเรตติ้งดี ก็ทำให้สามารถปรับอัตราค่าโฆษณาได้อีก

สำหรับนาคินช่อง 33 เพิ่งออนแอร์ ตั้งแต่วันที่ 1 ..ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ายังต้องใช้เวลา โดยวันที่ 1 และ 2 ..ได้เรตติ้งเท่ากัน ส่วนวันศุกร์ที่ 3 ..ได้เรตติ้ง 1.59

จอนนี่ แอนโฟเนรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ และทำตลาดนาคินให้ช่องตอบคำถามที่ว่าทำไมเรตติ้งน้อยกว่าเรื่องหนุมานฯ ว่า ต้องเข้าใจ เพราะเพิ่งออนแอร์ไม่กี่วัน และยังเชื่อมั่นว่าเรตติ้งจะดีขึ้นเรื่อย ๆ

ซีรี่ส์อินเดีย ปัจจุบันมีการลงทุนสูงเฉลี่ยเรื่องละประมาณ 1,000 ล้านบาท บางเรื่องมีถึง 500-600 ตอน ปัจจุบันมีผู้ซื้อลิขสิทธิ์รายใหญ่ คือบริษัท เจเคเอ็น โกบอลมีเดีย จำกัด (มหาชนที่ซื้อจากค่ายหนังในอินเดียหลายราย และนำมาบริหารลิขสิทธิ์ขายต่อให้ช่องต่าง ๆ โดยหลักการลงทุนของแต่ละช่องแล้ว แม้ว่าการซื้อทั้งเรื่องจะมีราคาสูง แต่หากหารเฉลี่ยการลงทุนต่อตอนที่ออนแอร์ ถูกว่าผลิตละครเองประมาณ 2-3 เท่า ขณะที่ได้เรตติ้งไม่แพ้กัน.

]]>
1146255