ถ้าพูดถึงเวิร์คพอยท์ในยุคก่อนทีวีดิจิทัล ใคร ๆ ก็นึกถึงปัญญา นิรันดร์กุล กับประโยคและลีลาเสียงที่คุ้นเคย ที่ว่า “ถูกต้องนะคร้าบบบบ” และ 3 ช่า กับ “หม่ำ เท่ง โหน่ง” ที่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมแมสทั่วประเทศ 

ในยุคนี้เมื่อพูดถึงเวิร์คพอยท์ หลายคนก็นึกถึงรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ที่กลายเป็นรายกาสร้างจุดพีคให้ช่องเวิร์คพอยท์ ขยายฐานผู้ชมสู่กลุ่มใหม่ โดยเฉพาะคนเมือง และคนทำงานมากขึ้น 

แต่เพียงช่วง 13 เดือนที่ผ่านมา เวิร์คพอยท์ลุยผลิตและออนแอร์ ตอนนี้เดินทางมาถึงซีซั่น 3 ที่ออนแอร์แล้ว 14 ตอน นับตั้งแต่ 7 ก.ย.-21 ธ.ค. 2560 เฉลี่ยเรตติ้งยังไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ โดยค่าเฉลี่ย 13 ตอนตั้งแต่ 7 ก.ย.-14 ธ.ค.อยู่ที่ 3.683

จนเมื่อคืนที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา The Mask Singer 3 ทำเรตติ้งที่วัดจากกลุ่มอายุ 4 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ทำได้  2.748 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เรตติ้งต่ำกว่า 3 ของซีซั่นนี้ ทำให้ค่าเฉลี่ย 14 ตอนลดลงอีกเล็กน้อย ไปอยู่ที่ 3.617 

ถ้าย้อนไปดูตัวเลขเรตติ้ง The Mask Singer ซีซั่นแรก เฉลี่ยทั้งซีซั่นที่แบ่งช่วงออนแอร์เป็นสองช่วง (20.05-22.00 และ 22.15-23.00 น.) ตั้งแต่ถึง 6 ต.ค. 2559-30 มี.ค.2560 ได้ 7.135 โดยเรตติ้งไปสัมผัส 2.169 ช่วงหลังปีใหม่ คือเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2560 แต่ซีซั่น 2 จัดว่าพีค เรตติ้งวันที่ได้ต่ำสุด ก็ยังจัดว่ามีเรตติ้งสูงในช่วงออนแอร์ช่วงสอง คือทำได้ถึง 4.045 ในวันสงกรานต์วันที่ 13 เม.ย. 2560 

ตลอดทั้งซีซั่น 2 ที่ออนแอร์ ช่วง 6 เม.ย. 2560-17 ส.ค. 2560 ได้เรตติ้งเฉลี่ยสูงกว่าซีซั่นแรกโดยทำได้ไปถึง 7.311 ออนแอร์วันแรกได้ 6.891 วันสุดท้ายได้ 6.573 วันที่พีคสุดคือวันที่ 20 เม.ย. ได้ไป 9.383 

สำหรับซีซั่น 3 นี้ ออนแอร์ช่วงประมาณ 20.15-22.30 น.นี้ เริ่มวันแรก 7 ก.ย. 2560 ได้เรตติ้ง 3.952 ตอนที่สูงสุดจากที่ออนแอร์มาแล้ว 14 ตอน คือตอนที่ 6 วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาได้ 4.412 ส่วน 14 ตอนที่ผ่านมาได้เรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศ 3.617

ถ้าเจาะดูรายละเอียดกลุ่มคนดูเป็นกลุ่มไหนกันบ้าง 

พบว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้เรตติ้ง 6.070 มากกว่าต่างจังหวัดที่มีเรตติ้ง 3.196 และแน่นอนเป็นหญิง 3.892 ซึ่งมากกว่ากลุ่มผู้ชายที่มีเรตติ้ง 3.328

รายการนี้ถือได้ว่ามีกลุ่มผู้ชมวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ 10-29 ปี พอสมควร แต่กลุ่มอายุที่ดูสูงสุดคือ 35-39 ปี 30-34 ปี และ 40-44 ปี เป็นกลุ่มที่ดูกันสูงสุด ได้เรตติ้ง 4.427, 4.249 และ 4.083 ในกลุ่มเด็ก วัยรุ่นถือว่าตัวเลขดีน่าพอใจ เพราะการสร้างคาแร็กเตอร์คนท่ีเข้าแข่งขันด้วยหน้ากาก และการ์ตูนทำให้เด็ก ๆ ชอบ ส่วนกลุ่มเริ่มทำงาน ได้เรตติ้งต่ำสุด แต่กลุ่มนี้ดูในออนไลน์ และดูย้อนหลังกันจำนวนมาก

สำหรับซีซั่น 3 ที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยยังน้อยกว่า 2 ซีซั่นที่ผ่านมา ในมุมของนักสร้างสรรค์รายการนั้นมองว่า เพราะการออนแอร์แต่ละซีซั่นติด ๆ กันจนเกินไป ถ้าเป็นปีละ 2 ซีซั่นอาจได้เรตติ้งดีกว่า เพราะคนรอคอย

“ช่วงแรกที่กระแสแรงจบ 30 มี.ค. ออนแอร์ต่อซีซั่น 2 ในสัปดาห์ต่อมา ถือว่ายังพอได้ผลในเชิงเรตติ้ง เพราะคนดูยังรู้สึกว่าเป็นของใหม่อยู่ แต่พอจบซีซั่น 2 ประมาณ  3 สัปดาห์ก็ต่อด้วยซีซั่น 3 ทันที คนดูอาจรู้สึกว่าติด ๆ กันเกินไป และรูปแบบเดิม เปิดหน้ากากจำนวนมาก จนมากเกินไป ทำให้เคยชิน”

อย่างไรก็ตาม ในมุมของการทำธุรกิจอาจจะเป็นแนวทางที่ถูก เพราะเริ่มทำรายได้ตามกระแสที่ยังแรง จะเห็นได้ว่าเวิร์คพอยท์ขายโฆษณาได้เต็มทั้ง 3 ซีซั่น โดยเฉพาะซีซั่น 2 และ 3 ที่ขายโฆษณาได้เต็ม

การแข่งขันแต่ละซีซั่น จะแบ่งเป็น 4 รอบ รอบแรกผู้เข้าแข่งขันร่วมโชว์ 16 คน 16 หน้ากาก แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ถูกเลือกกลุ่มละ 2 คนเพื่อเข้ารอบต่อไป วันนี้ (28 ธ.ค.) ในซีซั่น 3 เดินทางมาถึงรอบที่ 3 คือ Group Final จะเลือกผู้ชนะของกลุ่ม C เป็นการแข่งขันของหน้ากากมงกุฎเพชร และหน้ากากนางอาย.