หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเป็นสินค้าที่ขายที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ หลายแห่งถูกกว้านซื้อจนขาดตลาด ร้านขายยาในกรุงโตเกียว ระบุว่า ยอดขายหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นราว 5 เท่าตัวจากปกติ
ที่ร้านขายยาแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ช่วงที่เปิดร้าน หน้ากากอนามัยจำหน่ายหมดลงก่อนช่วงเที่ยง หลังจากนั้น หน้ากากอนามัยชุดใหม่ 50 กล่องได้ส่งมาถึงที่ร้านหลังช่วงเที่ยงได้ไม่นาน แต่ว่าถูกลูกค้ากว้านซื้อไปในทันทีที่นำออกวางจำหน่าย สินค้าบางรายการขายหมดภายในเวลาแค่ 5 นาที
พนักงานของทางร้านบอกว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นสูงมากเช่นนี้ตั้งแต่เข้าสู่วันหยุดเทศกาลตรุษจีน ทางร้านได้สำรองหน้ากากอนามัยไว้มากกว่าปกติอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทางร้านได้สั่งสินค้าเพิ่มเติมแล้ว แต่ทางผู้ผลิตแจ้งว่าสินค้าขาดเช่นกัน และไม่สามารถรับรองได้ว่าสินค้าล็อตใหม่จะส่งมาได้เมื่อไร
ผู้สื่อข่าว MGR Online ประจำประเทศญี่ปุ่น พบว่า ร้านขายยาหลายแห่งจำกัดการซื้อหน้ากากอนามัย ไม่เกินคนละ 20 ชิ้น ร้านในพื้นที่ตัวเมืองสินค้าขาดตลาด ขณะที่การสั่งซื้อทางออนไลน์ยังพอมีสินค้า แต่ว่าราคาแพงขึ้น
ด้านผู้ผลิตของญี่ปุ่นได้เพิ่มการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยูนิชาร์ม ผู้ผลิตรายใหญ่ ระบุว่า คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวตั้งแต่เดือนมกราคม ทางบริษัทได้เพิ่มการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
บริษัทหลายแห่งมีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศจีน ซึ่งขณะนี้ต้องหยุดการผลิต และคาดว่าหากกลับมาผลิตได้ในเร็ววันก็จะช่วยบรรเทาการขาดตลาดได้
ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยของญี่ปุ่นคาดว่า หากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนายังไม่คลี่คลาย จนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ การขาดแคลนหน้ากากอนามัยจะยิ่งมากขึ้น เพราะญี่ปุ่นจะเข้าสู่ช่วงที่ละอองเกสรต้นสนปลิว ซึ่งชาวญี่ปุ่นจำนวนมากก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันอาการแพ้.
]]>ทางด้านธุรกิจดีลิเวอรี ได้รับผลดีจากปัญหาดังกล่าว ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ธุรกิจการให้บริการดีลิเวอรีส่งอาหารเติบโตมากถึง 20% จากปกติที่ธุรกิจดีลิเวอรีในภาพรวมจะมีออร์เดอร์ประมาณ 5 แสนออร์เดอร์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเติบโตกว่า 2 เท่าตัว
เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีธุระหรือความจำเป็นอะไรที่ต้องออกนอกบ้าน ก็จะใช้บริการดีลิเวอรีสั่งอาหารแทน เพราะไม่ต้องการออกมาเผชิญกับปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ที่รุนแรงในเวลานี้
ทางด้าน สลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร ได้สร้างความกังวลให้กับพี่น้องประชาชนและทำให้เกิดปัญหาหน้ากาก N95 ขาดตลาดในหลายพื้นที่ ประชาชนไม่สามารถหาซื้อได้ หรืออาจต้องจ่ายเงินในราคาที่แพงกว่าปกติ
เทสโก้ โลตัส จึงได้เพิ่มปริมาณการสั่งซื้อหน้ากาก N95 เพื่อกระจายไปยังสาขาที่มีความต้องการสูงทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอีก โดยจำหน่ายในราคาเดิมและไม่มีการขึ้นราคาอย่างเด็ดขาด ซึ่งสินค้ากำลังทยอยเข้าสาขาในช่วงนี้
นอกจากนั้นยังได้เร่งจัดหาหน้ากาก N95 มาจำนวนทั้งหมด 20,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตที่มีปริมาณฝุ่นสูงสุดในกรุงเทพฯ ทั้ง 10 เขตและยังไม่มีหน้ากากสวมใส่เพื่อป้องกันฝุ่น โดยขอความร่วมมือจากประชาชนให้สิทธิ์ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับหน้ากากก่อน ทั้งผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ เด็ก และผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยจำกัดสิทธิ์ 1 ท่านต่อหน้ากาก 1 ชิ้น โดยจะแจกพร้อมกัน 13 สาขา ในวันที่ 17 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.
เทสโก้ โลตัส 13 สาขา (หน้ากากสำหรับลูกค้าสาขาละ 1,000 ชิ้น) ณ ร้านขายยาเทสโก้ (สำหรับสาขาที่มีร้านขายยา) และบริเวณจุดบริการลูกค้า (สำหรับสาขาที่ไม่มีร้านขายยา) รายชื่อสาขามีดังนี้
ขณะที่ทางบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ ก็เร่งนำสินค้าหน้ากาก N95 กระจายไปที่ร้านขายยา PURE ที่ตั้งอยู่ในบิ๊กซีทุกสาขา เพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วนและย้ำว่าขายในราคา ชิ้นละ 35 บาท ไม่ขึ้นราคา หลังจากที่สินค้าเริ่มขาดตลาด
ทางด้าน พิทักษ์ รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่ง PTG มีแผนที่จะแจกหน้ากาก N95 คาร์บอน ดับเบิ้ลวาล์ว แก่พนักงานและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันพีที ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 15,000 ชิ้นเช่นกันในช่วงนี้ เพื่อป้องกันภาวะฝุ่นละออง PM2.5 ที่เป็นอันตรายในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร.
]]>