กรุงเทพ – 28 พฤศจิกายน 2554 – ออโตเดสก์, อิงค์ (NASDAQ: ADSK) ผู้นำซอฟต์แวร์เพื่องานออกแบบ 3D, วิศวกรรมและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ Autodesk 123D Catch และ Autodesk 123D Make Technology Preview จากบริษัทน้องใหม่ Autodesk 123D family ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ให้อิสรภาพในการจับภาพรอบตัวลงในแบบจำลอง 3D ได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้งานสร้างสรรค์แบบจำลอง 3 มิติเป็นเรื่องง่ายเข้าถึงได้สำหรับทุกคน เมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการ เทคโนโลยีใหม่นี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ออโตเดสก์มิได้หยุดยั้งต่อความพยายามในการผลักดันขอบเขตการทำงานเข้าไปสู่การผลิตส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างศักยภาพทั้งจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์และแบ่งปันกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเพื่อความสนุกสนาน, การเรียนรู้ หรือเพื่อผลกำไรเชิงธุรกิจ

แอพพลิเคชั่น Autodesk 123D Catch ก่อนหน้านี้มีชื่อว่า Project Photofly ที่วิ่งบน Autodesk Labs ซึ่งเป็นรุ่นเบต้าสาธารณะรุ่นใหม่บนคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่มีศักยภาพด้านการแปลงภาพถ่ายดิจิตอลให้เป็นรูปเสมือนจริงแบบจำลอง 3 มิติได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือกล้องดิจิตัล SLR ชั้นนำเพื่อเก็บเรื่องราวของรูปสิ่งของนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือฉากก็สามารถใช้ 123D Catch เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติได้ดั่งใจแล้ว นอกจากนี้สามารถจับภาพเพื่อสร้างรูปอวาทาร์ของตัวเองหรือฉากจากการท่องเที่ยวสุดโปรดในแบบ 3D ที่ปัจจุบันสามารถเป็นไปได้อย่างง่ายดาย แอพพลิเคชั่นนี้ยังมีความสามารถในการแชร์ในตัว ด้วยภาพยนตร์สั้นหรืออะนิเมชั่นสำหรับดูบนอุปกรณ์พกพา, Youtube และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ

การจับภาพแบบจำลอง 3D ช่วยทีมนักวิจัย Project Photofly ในการใช้ลงพื้นที่ทางโบราณคดีที่เมืองปอมเปอี ประเทศอิตาลีในการทำพวกเอกสารและการวิเคราะห์สถาปัตยกรรมของเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่ง และในที่สุดก็ทำให้เข้าใจโครงสร้างของอาคารนั้น

“แม้ว่ามาตฐานในการบันทึกทางโบราณคดีจะเชื่อถือได้ก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังทำงานด้วยความล่าช้าและระมัดระวัง” กล่าวโดย เอริค โพฮ์เลอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ “ในแต่ละปีเรามีเวลาค่อนข้างจำกัดในการจับภาพเกี่ยวกับสถานที่ทางโบราณคดีโดยทำเป็นแบบจำลอง 3D และด้วย Project Photofly เราจึงสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้นและแม่นยำมากขึ้นด้วย”

แอพพลิเคชั่น Autodesk 123D Make จัดเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี* สำหรับ Mac สามารถแปลงแบบจำลอง 3D ให้เป็นแบบฟอร์มของแบบจำลอง 2D ได้ ซึ่งสามารถนำวัสดุที่มีต้นทุนต่ำมาประกอบกันได้อย่าง เช่น กระดาษแข็ง, ไม้, ผ้า, เหล็กหรือพลาสติก เป็นต้น สามารถนำชิ้นส่วนที่ตัดแล้วมาประกอบกันสร้างเป็นลักษณะทางกายภาพของแบบจำลองดิจิตัลต้นฉบับ 123D Make ยังสามารถให้ผู้ใช้สร้างผลงานศิลปะ, เฟอร์นิเจอร์, รูปแกะสลัก หรือสร้างต้นฉบับอย่างรวดเร็วอื่นๆ ตามสั่งเพื่อดูว่าการออกแบบจะออกมาเป็นอย่างไร ออโตเดสก์พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำหน้าที่เป็นวิศวกรดิจิตอลที่สามารถช่วยให้บุคคลสร้างแบบจำลอง 3Dและสุดท้ายก็แปลงให้เป็นแบบจำลองของจริงได้ 123D Make ถูกออกแบบมาเพื่อการแสดงออกความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองหรือสำหรับผู้ใช้ที่อาจจะไม่สามารถหาสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ในผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาด จึงตัดสินใจสร้างสิ่งที่พวกเขาต้องการด้วยตัวเอง

“ผู้ที่ชื่นชอบในการทำของแบบ DIY หรือ Do It Yourself ต้องการเครื่องมือ 3D ที่ทันสมัยเพื่อสร้างโอกาสในการเป็นศิลปินและโอกาสทางเศรษฐกิจในตลาดที่เกิดขึ้นใหม่” ซามีร์ ฮันนา รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ ออโตเดสก์ กล่าว “ความมุ่งมั่นของออโตเดสก์คือการขจัดอุปสรรคในการสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่างๆ ในช่วงเวลาของการปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่นี้”

The Autodesk 123D family ประกอบด้วย Autodesk 123D เป็นเดสก์ทอป แอพพลิเคชั่น ที่ให้ผู้ใช้นำสร้างแนวความคิดให้ออกมาชีวิตด้วยการออกแบบที่แม่นยำและได้ผลงานที่มีคุณภาพสูง และ Autodesk 123D Sculpt เป็นฟรีแอพพลิเคชั่น* สำหรับการปั้นและการวาดภาพ 3Dบน iPad นวัตกรรม, นักคิด, ศิลปิน, นักวิเคราะห์ทางการเงินและผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและงานฝีมือสามารถใช้แพลตฟอร์มและอุปกรณ์ของ Autodesk 123D portfolio ได้หลากหลาย ด้วยการนำข้อมูลใส่เข้าไป ออโตเดสก์มีสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นพันธมิตรหลากหลายและมีการเชื่อมต่อกับสังคมที่จุดหมายเดียวกัน

ราคาและการจัดจำหน่าย
Autodesk 123D Make technology preview สามารถดาวน์โหลดฟรี* สำหรับ Mac ได้ที่ www.123Dapp.com/make The Autodesk 123D Catch public beta app สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ที่ www.123Dapp.com/catch

เกี่ยวกับออโตเดสก์
ออโตเดสก์ อิงก์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟท์แวร์เพื่อการออกแบบ 3D งานเอ็นจิเนียร์และเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ สำหรับอุตสาหกรรมหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการผลิต, การออกแบบและก่อสร้าง และมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2525 ที่ได้เริ่มเปิดตัวซอฟท์แวร์ AutoCAD บริษัทออโตเดสก์ได้พัฒนาซอฟท์แวร์ต่างๆออกมาต่อเนื่องเพื่อช่วยลูกค้าสัมผัสประสบการณ์จินตนาการในรูปแบบดิจิตอลก่อนที่สร้างจริง บริษัทที่ติดอันดับ Fortune 100 รวมทั้งบริษัทเจ้าของรางวัลอะเคเดมี่อะวาร์ดด้าน Best Visual Effects ทั้ง 15 บริษัท ต่างใช้ซอฟท์แวร์ออโตเดสก์ เป็นเพื่อคู่ใจในการออกแบบ วิช่วลไลซ์ และจำลองจินตนาการสร้างสรรค์เพื่อประหยัดเวลา ต้นทุน แต่ยังได้คุณภาพ นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันที่เป็นหนึ่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถอ่านได้จาก www.autodesk.com.

กรุงเทพ – 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552 – ออโตเดสก์, อิงค์ (NASDAQ: ADSK) ประกาศข่าว BMW Group ได้เซ็นสัญญากับ Autodesk Consulting เพื่อการทำออโตเมทกระบวนการแปลงข้อมูลการออกแบบมาสู่รูปแบบสินทรัพย์ที่มีมูลค่าทางการตลาด และสร้างแบบจำลองโมเดลที่เสมือนจริงถึงขีดสุดของรถยนต์ยี่ห้อ BMW, MINI และ Rolls-Royce โดยที่ออโตเดสก์จะจับมือกับแมคกีวิชั่น (Mackevision) แปลงข้อมูลการออกแบบของยานยนต์เหล่านี้ลงซอฟท์แวร์ Autodesk Maya และ Autodesk Showcase เพื่อทำอะนิเมชั่นและเรนเดอร์ข้อมูลสู่แบบจำลองโมเดลเวอร์ช่วลเสมือนถ่ายภาพมาจากของจริงได้ทันที โดยผลลัพธ์ที่ได้จะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในแคมเปญสื่อสารการตลาด ก่อนที่จะผลิตรถยนต์จริงออกมาสู่สายตาชาวโลก โดยจะนำมาใช้ในโฆษณาโทรทัศน์, โปรชัวร์ และเว็บไซต์ของบริษัท

รองประธานบริษัทออโตเดสก์ กลุ่มวิช่วลคอมมิวนิเคชั่น นายคารีม ซาลาไบ กล่าวว่า “การนำข้อมูลการออกแบบมาประยุกต์ ใช้ในงานการสื่อสารการตลาดนี้เป็นปฏิรูปเปิดศักราชใหม่ของการทำโฆษณาของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ การนำเอาซอฟท์แวร์มาสร้างภาพเวอร์ช่วลเสมือนจริงขึ้นนั้นทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สามารถทำตลาดรถรุ่นใหม่ได้โดยยังไม่มีค่า ใช้จ่ายในการผลิตรถต้นแบบ เปิดประตูให้ไอเดียใหม่ๆ พรั่งพรูออกสู่วงการนี้อีกมาก รังสรรค์ได้ทั้งรถยนต์ และงานกำกับศิลป์โฆษณาซึ่งโดยปกติงานสองส่วนนี้จะหมายถึงค่าใช้จ่ายที่สูงมากหากยังใช้วิธีการดั้งเดิมที่ต้องอาศัยภาพถ่ายจากของจริง”

ออโตเดสก์และแมคกีวิชั่นทำงานร่วมกัน โดยออโตเดสก์เป็นผู้สร้างแบบจำลองโมเดลเวอร์ช่วลกว่า 240 แบบที่จำลองงานออกแบบยานยนต์โดย BMW Group สำหรับอีก 3 ปีข้างหน้า Autodesk Consulting ให้การสนับสนุนบริการ Autodesk Creative Bridge แก่กลุ่มผู้ออกแบบเพื่อทำแผนกระบวนการขั้นตอนของการนำเอาสินทรัพย์ 3D มาสู่กระบวนการผลิตอย่างไรในกรอบต้นทุนที่ลดลง แต่ยังคงความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการทำงานอยู่เช่นเดิม ส่วนแมคกีวิชั่นรับหน้าที่ด้านการโปรเซสชุดข้อมูลการออกแบบทั้งหมด ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการทำวิช่วลไลเซชั่นของข้อมูลยานยนต์ด้วยคอมพิวเตอร์ กระบวนการทำงานทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การบริหารของทีมงานที่ปรึกษาออโตเดสก์ (Autodesk Consulting)

ซอฟท์แวร์ Showcase อันเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชั่นสำหรับการทำต้นแบบดิจิตัล (Digital Prototyping) ช่วยให้เกิดความแม่นยำ สมจริง และภาพที่ตื่นตาตื่นใจที่รังสรรค์มาจากข้อมูล 3D CAD อันเป็นต้นแบบของฟอร์ม โครงสร้าง สภาพแวดล้อมของวัตถุที่จำเป็นในการถ่ายทอดแปลงข้อมูลที่ต้องใช้ในการสื่อสารภาพออกมาให้ความรู้สึกน่านั่ง น่าขับ สื่อออกมาถึงบุคลิกของรถยนต์ประดุจถ่ายภาพจากรถยนต์จริงๆ ทั้งคัน ส่วน Autodesk Maya เป็นโซลูชั่นทรงพลังสำหรับงานทำแบบจำลองโมเดล 3D งานอะนิเมชั่น และเรนเดอร์ภาพที่สามารถดึงเอาข้อมูลการออกแบบใน CAD มาใช้ได้ให้ภาพออกมาเสมือนของจริงทุกกระเบียดนิ้ว โซลูชั่น Maya นี้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวออโตเดสก์ – กระบี่คู่กายของเหล่านักออกแบบทำงานวิช่วลไลเซชั่น อะนิเมชั่น หรือทำแบบจำลองดิจิตัลขั้นแอดว้านซ์

ปอนเดอโรซา (Ponderosa) ผู้เชี่ยวชาญการผลิตเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟหอมกรุ่น ได้รับการยกย่องจาก ออโตเดสก์ (NASDAQ: ADSK) ให้เป็น สุดยอดนักประดิษฐ์ประจำเดือน (มกราคม 2552)

ปอนเดอโรซา ใช้ซอฟท์แวร์ Autodesk Inventor ออกแบบและผลิตเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟที่ให้ greater control over ขั้นตอนละเอียดอ่อนของกระบวนการคั่ว จึงมั่นใจได้ว่าเมล็ดกาแฟทุกเมล็ดจะผ่านความร้อนที่เหมาะเจาะพอดี การทำ แบบจำลองดิจิตัล เพื่อสร้างแบบจำลอง 3D ที่แม่นยำด้วยซอฟท์แวร์ Inventor นั้นเป็นการช่วยปอนเดอร์โรซาอย่างมากในการปรับปรุงประสิทธิภาพของขั้นตอนตั้งแต่ออกแบบจนถึงการผลิต บทพิสูจน์ ได้แก่ เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟที่ทางปอนเดอร์โรซาประดิษฐ์ขึ้นมาขนาดน้ำหนัก 15 กิโลกรัมได้เป็นผลสำเร็จในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งเคยต้องใช้เวลาถึงเกือบครึ่งปี หรือ 6 เดือนทีเดียวกว่าจะสำเร็จออกมาได้

“ยังไม่เคยมีใครในวงการนี้ที่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟได้เท่าที่เราทำมาก่อนเลย” คุณบอยด์ กิลด์เนอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน บริษัทปอนเดอร์โรซากล่าวอย่างอารมณ์ดีถึงนวัตกรรมแห่งวงการเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟที่ได้รับครั้งนี้ “ปอนเดอร์โรซาคงไม่สามารถที่จะคิดประดิษฐกรรมเช่นนี้ขึ้นมาได้ง่ายๆ นักหรอก ถ้าไม่มีซอฟท์แวร์ที่เป็นเครื่องมือช่วยเราคือเจ้าตัว Inventor นี้ที่ช่วยปลดพันธนาการไอเดียออกมาสู่โลกอีกใบหนึ่ง ให้เราได้ทดลองแนวไอเดียออกแบบเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟแหวกแนวแบบต่างๆ ก่อนที่จะลงมือตัดเหล็กแม้แต่เพียงสักชิ้นเดียว”

โปรแกรมรางวัล สุดยอดนักประดิษฐ์ประจำเดือน เป็นการยกย่องส่งเสริมงานออกแบบที่สุดยอดทั้งความคิดสร้างสรรค์และความคิดก้าวหน้าเชิงวิศวกรรมของกลุ่มนักออกแบบประเภทต่างๆ โดยใช้ซอฟท์แวร์ Autodesk Inventor อันเป็นรากฐานของโซลูชั่นสำหรับการทำแบบจำลองดิจิตัลของออโตเดสก์ ซึ่งเป็นการทดลองแบบจำลองดิจิตัล 3D ของโปรดักส์ที่ออกแบบขึ้นมา ที่ใกล้เคียงของจริงที่สุดบนจอคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะสร้างโมเดลกายภาพขึ้นมา จึงลดค่าความสูญเสียของการสร้างแบบจำลองกายภาพ

เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟโดยมากใช้ ดรัม รูปทรงกระบอกหมุนรอบแกนกลิ้งเมล็ดกาแฟที่คั่วด้วยความร้อนที่ส่งผ่านตัวกระจายความร้อน แต่เครื่องคั่วของปอนเดอร์โรซานั้นมีหลายขนาดตั้งแต่คั่วเมล็ดกาแฟหนึ่งปอนด์ไปจนถึงห้าร้อยปอนด์ ดังนั้น การควบคุมองค์ประกอบให้ได้ตามข้อกำหนดในทุกขั้นตอนของการคั่ว ตั้งแต่รายละเอียดความเร็วรอบของแกนหมุนเมล็ดกาแฟ, ปริมาณอากาศหมุนเวียนในกระบอกหมุนบรรจุเมล็ดกาแฟที่พอเหมาะ แม้กระทั่งอัตราความร้อนที่ต้องปรับให้เหมาะเจาะผ่านตัวกระจายความร้อนในช่วงเวลาต่างๆ กัน และจากการที่เราสามรถควบคุมรายละเอียดองค์ประกอบได้ทุกขั้นตอนเช่นนี้ทำให้ปอนเดอร์โรซาสามารถรังสรรค์รสชาดความนุ่มละมุน หรือจะเป็นรสเข้มกลิ่นกรุ่นนุ่มลึก ให้คอกาแฟไดลือกสรรมาละเมียดลิ้นได้ไม่สิ้นสุด เคล็ดลับอยู่ที่จินตนาการไอเดียเครื่องคั่วกาแฟที่ไร้ขอบเขตนั่นเอง

การทำแบบจำลองดิจิตัลคือทางด่วนสู่ปฏิมากรรมการออกแบบ
จากการร่วมงานกับ เฮเกอร์แมน & คอมปะนี รีเซลเลอร์สุดคูลของออโตเดสก์ ปอนเดอร์โรซาค้นพบทางด่วนสู่อิรภาพแห่งการออกแบบเครื่องคั่วกาแฟของตนผ่านการทำแบบจำลองดิจิตัล ด้วยการใช้ซอฟท์แวร์ตัวช่วย Autodesk Inventor ที่มีพร้อมทั้งการขึ้นแบบจำลองบนจอคอมพิวเตอร์และ sheet metal tools ที่มารับภาระช่วยจำลองส่วนข้อมูลระหว่างขั้นตอนการผลิต อาทิ punch tool parameter และ custom bend table ที่มาในโมเดล 3D ของ sheet metal folding เสมือนของจริงทุกประการ นอกจากนี้ ซอฟท์แวร์ Inventor ยังช่วยการตรวจหาข้อบกพร่องของชิ้นส่วนระหว่างการทดสอบแบบจำลองเสมือนจริงได้ด้วย จึงเป็นการลดความสูญเสียก่อนที่จะถึงขั้นตอนการผลิตได้มากอยู่

“ซอฟท์แวร์ Inventor นั้นช่วยเนรมิตไอเดียเด็ดๆ ให้เป็นโปรดักส์สุดคูลได้ภายในพริบตา ไม่นานเหมือนเมื่อก่อน” คุณโรเบิร์ต ครอสส รองประธานอาวุโส ฝ่ายโซลูชั่นเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต กล่าวถึงข้อดีของซอฟท์แวร์ผู้ช่วยคู่ใจ Inventor จากออโตเดสก์ “เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟที่ปอรเดอร์โรซาประดิษฐ์ขึ้นนั้น ใช้ซอฟท์แวร์ Autodesk Inventor ทำให้ทีมงานออโตเดสก์ภูมิใจมากที่ได้เห็นประโยชน์ที่ผู้ใช้ได้รับ และโลกใบนี้ได้มีโอกาสสนุกสนานได้รับความสะดวกสบายจากความสามารถในการถ่ายทอดไอเดียออกมาเป็นสิ่งประดิษฐ์น่าทึ่งเช่นนี้ ทีมงานจึงพร้อมยอมใจยินดียกย่องให้เป็นผู้ชนะเลิศ สุดยอดนักประดิษฐ์ประจำเดือน (มกราคม 2552) ไปครอง”

เกี่ยวกับโปรแกรมสุดยอดนักประดิษฐ์ประจำเดือน [Autodesk Inventor of the Month]
แต่ละเดือน ออโตเดสก์คัดเลือก สุดยอดนักประดิษฐ์ จากยูสเซอร์ซอฟท์แวร์ Autodesk Inventor กว่า 800,000 รายซึ่งล้วนเป็นรากฐานของการทำแบบจำลองดิจิตัล (Digital Prototyping) ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกประจำเดือนนั้น พิจารณาจากความเป็นเลิศเชิงวิศวกรรมและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สุดขั้ว

เกี่ยวกับปอนเดอร์โรซาโรสติ้ง (เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟ)
ปอนเดอร์โรซาโรสติ้งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซานดิเอโก คาลิฟอร์เนีย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความหอมกรุ่นกลิ่นกาแฟมาตั้งแต่ปพ.ศ. 2533 สนใจข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมเว็บไซต์ www.ponderosaroasting.com

เกี่ยวกับออโตเดสก์
ออโตเดสก์, อิงค์ เป็นผู้นำโลกแห่งซอฟท์แวร์เพื่อการออกแบบ 2D และ 3D สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ การผลิต, การก่อสร้างและออกแบบอาคาร รวมทั้งมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ตั้งแต่เปิดตัวซอฟท์แวร์ AutoCAD เมื่อปีพ.ศ. 2525 ออโตเดสก์พัฒนานำเสนอโซลูชั่นเพื่อการทำแบบจำลองดิจิตัลที่ทันสมัยออกมาอย่างต่อเนื่องสู่วงการอุตสาหกรรมการออกแบบดิจิตัล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มผู้ใช้งานได้ทดสอบจินตนาการของตนก่อนที่จะทำการสร้างจริง จะเห็นได้จากบริษัทกว่า 1,000 บริษัท ที่ติดอันดับฟอร์จูน นั้นต่างวางใจใช้ออโตเดสก์เป็นเครื่องมือในการช่วยงานออกแบบสร้างสรรค์ จำลองผลงานออกแบบ และวิเคราะห์การทำงานเสมือนจริงได้ตั้งแต่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบ เพื่อเป็นการประหยัดได้ทั้งเวลาและต้นทุน เน้นการเพิ่มคุณภาพและสร้างสรรค์งานนวัตกรรม ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นต่างๆ ของออโตเดสก์ได้ที่www.autodesk.com

บริษัท ออโตเดสก์ อิงค์ (NASDAQ : ADSK) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ตัวใหม่รองรับงาน 2D และ 3D เจาะกลุ่มผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์แมคอินทอชโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการใช้งานด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์, มัลติมีเดีย และงานออกแบบต่างๆ ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวล่าสุดสำหรับเครื่องแมคอินทอช OS X ประกอบด้วย Autodesk Toxik ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์สำหรับงานคอมโพสิทระดับสูง, Autodesk Mudbox สำหรับงานสร้างและการจัดองค์ประกอบภาพวาด และ Autodesk ImageModeler ซึ่งเป็นโซลูชั่นเพื่อการสร้างแบบจำลองด้วยภาพ และในปีพ.ศ. 2552 นี้ผู้ใช้เครื่องแมคอินทอชจะได้ใช้Autodesk Maya สำหรับสร้างแบบจำลองอะนิเมชั่น และเรนเดอร์ รวมทั้ง Autodesk Stitcher เพื่อสร้างภาพพาโนรามาแสดงมุมกว้างเอาใจเหล่านักออกแบบได้ใช้กันในเวอร์ชั่นของแมคอินทอชกันแล้ว

นายสติก กรูแมน รองประธานกลุ่มการออกแบบดิจิตอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ออโตเดสก์ มีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ กล่าวว่า “เพื่อตอบรับความต้องการของคนสังคมแมคอินทอช เราจึงได้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องแมคอินทอช OS X และการผลิต พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เบิกโรงผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวนี้สู่เหล่าสาวกแมค เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้นักออกแบบได้ทำงานออกแบบส่งจินตนาการออกมาสู่ความจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

นายรอน โอกามาโต รองประธานนักพัฒนาความสัมพันธ์คอมพิวเตอร์แอปเปิ้ลทั่วโลก กล่าวว่า “แมคอินทอช OS X ลีโอพาร์ด เป็นส่วนหนึ่งของฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพด้านการออกแบบของแมคอินทอช เพื่อกระตุ้นความสนใจให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์และออกแบบที่สามารถสร้างสรรค์ทุกสิ่งทุกอย่างจาก 2D วิชวล เอฟเฟ็กต์ ไปจนถึง 3D การออกแบบเพื่อดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ยินดีมากที่ได้ทราบข่าวจากทางออโตเดสก์เรื่องการขยายบริการซอฟท์แวร์ 2D และ 3D เพื่อคอแมคอินทอช กลุ่มนักออกแบบมืออาชีพอย่างพวกเรา”

ผลิตภัณฑ์ออโตเดสก์ มีเดีย และ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ สำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอช
Autodesk Toxik 2009: อยู่ในกลุ่มซอฟท์แวร์ Maya 2009 เหมาะต่อการประสานองค์ประกอบหลากหลายเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้อิสระแก่ผู้เชี่ยวชาญด้าน 2D วิชวลเอฟเฟ็กต์ นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกในการแพร่หลายและเพิ่มสเกลภาพยนตร์ Autodesk Toxik 2009 เป็นซอฟท์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้เพื่อประสานงานองค์ประกอบเข้าด้วยกันได้ดี มีขั้นตอนการทำงานซ้ำๆ ลงตัวกับเครื่องมือใหม่ๆ สนับสนุนการผลิตงาน 3D รวมถึงการสร้างงานประเภทอื่นๆ ที่อาศัยองค์ประกอบขั้นสูง Autodesk Toxik 2009 จะมีวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2552 ราคาจำหน่ายคาดว่าจะอยู่ประมาณ 3,495 ดอลล่าร์สหรัฐ*

Autodesk Mudbox 2009: เครื่องมือประสิทธิภาพสูงใช้ในการวาดภาพ จัดองค์ประกอบ และรีทัชงานออกแบบ 3D Autodesk Mudbox 2009 ให้อิสระในการออกแบบโดยไม่ต้องกังวลในรายละเอียดด้านเทคนิค สามารถแหวกแนวคิดการออกแบบ 3D ฉีกรูปแบบเดิมๆ โดย Autodesk Mudbox 2009 จะจัดองค์ประกอบพื้นฐาน 3D ให้ และจุดชนวนเพื่อให้ต่อยอดจัดองค์ประกอบการสร้างงานได้รวดเร็วและมีอิสระในการทดลองความคิด Autodesk Mudbox 2009 สำหรับแมคอินทอช OS X จะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ราคาจำหน่าย คาดว่าจะอยู่ประมาณ 745 ดอลล่าร์สหรัฐ*

Autodesk ImageModeler 2009: ซอฟท์แวร์เพื่อการสร้างแบบจำลองด้วยภาพในการสร้างภาพ 3D จากภาพถ่าย ช่วยงานสถาปนิกและคนทำงานเอ็นเตอร์เทนเมนต์ให้ออกแบบ 3D ได้ถ่ายทอดความคิดจินตนาการได้ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด เรียนรู้ง่าย มีขั้นตอนการทำงานเพียงแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้ผลลัพธ์ภาพที่เหมือนจริง และสอดคล้องกับความเป็นจริงที่สุด เวอร์ชั่น Autodesk ImageModeler 2009 ของแมคอินทอช OS X จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2009 ราคาจำหน่ายคาดว่าจะอยู่ประมาณ 995 ดอลล่าร์สหรัฐ*

Autodesk Maya 2009: โซลูชั่นเพื่อสร้างแบบจำลอง 3D และงานอะนิเมชั่นและเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับงานสถาปัตยกรรมได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับ ผู้เชี่ยวชาญในการทำภาพยนตร์ และวีดีโอ นักพัฒนาเกมส์ มัลติมีเดีย นักออกแบบมืออาชีพ รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการสรรค์สร้างภาพดิจิตอลเสมือนจริง ภาพอะนิเมชั่นเสมือนจริง และวิชวลเอฟเฟ๊กต์ที่เหนือธรรมดา ในปัจจุบันนี้Maya 2009 เวอร์ชั่น 32 บิท วางจำหน่ายแล้วในประเทศอังกฤษ และญี่ปุ่น สามารถใช้ได้กับเครื่องแมคอินทอช OS X ราคาจำหน่ายคาดว่าจะอยู่ประมาณ 1,995 ดอลล่าร์สหรัฐ* สำหรับรุ่นมายาสมบูรณ์แบบ 2009 และ 4,995 ดอลล่าร์สหรัฐ* สำหรับรุ่นMaya Unlimited 2009

Autodesk Stitcher Unlimited 2009: ผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ตัวนี้ใช้งานง่าย ช่วยในเรื่องของการสร้างภาพพาโนรามาที่แสดงมุมกว้างถึง 360 องศา ด้วยยูสเซอร์อินเตอร์เฟซที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย รวมทั้งฟีเจอร์ช่วยในการประสานภาพต่างๆ เข้าโดยอัตโนมัติ Autodesk Stitcher Unlimited 2009 ผลิตเพื่อใช้งานเว็บ ฉากเกี่ยวกับละคร ภาพยนตร์ และการผลิตเกมส์ แผนที่สิ่งแวดล้อม สำหรับ 3D เรนเดอร์ และการพิมพ์พาโนราม่าที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการแสดงทางศิลปะ ยิ่งไปกว่านั้นAutodesk Stitcher Unlimited 2009 ใช้กับซอฟท์แวร์ Adobe Photoshop ในการตัดต่อภาพได้เนียนไร้รอยต่อ ขณะนี้สามารถใช้ได้กับเครื่องแมคอินทอช OS X ในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 350 ดอลล่าร์สหรัฐ*

*ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปแต่ละประเทศทั่วโลก

เกี่ยวกับออโตเดสก์
ออโตเดสก์ อิงค์ เป็นผู้นำระดับโลกแห่งวงการซอฟท์แวร์เพื่อการออกแบบทั้งแบบ 2D และ 3D สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมก่อสร้างและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งอุตสาหกรรมมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตั้งแต่เปิดตัวซอฟท์แวร์ AutoCAD เมื่อปีพ.ศ. 2525 เป็นต้นมา ออโตเดสก์ได้พัฒนาโซลูชั่นหลากหลายรูปแบบการใช้งานเพื่อสนับสนุนการสร้างแบบจำลองดิจิตัลที่ทันสมัยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้โซลูชั่นของออโตเดสก์สามารถสัมผัสจินตนาการแห่งงานออกแบบของตนได้เสมือนจริงมากที่สุดก่อนสร้างจริง จะเห็นได้จากบริษัทกว่า 1,000 บริษัท ที่ติดอันดับฟอร์จูน นั้นต่างวางใจใช้ออโตเดสก์เป็นเครื่องมือในการช่วยงานออกแบบสร้างสรรค์ จำลองผลงานออกแบบ และวิเคราะห์การทำงานเสมือนจริงได้ตั้งแต่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบ เพื่อเป็นการประหยัดได้ทั้งเวลาและต้นทุน เน้นการเพิ่มคุณภาพและสร้างสรรค์งานนวัตกรรม ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นต่างๆ ของออโตเดสก์ได้ที่ www.autodesk.com

ออโตเดสก์ ผู้นำด้านเทคโนโลยีซอฟท์แวร์เพื่อการออกแบบดิจิตัล เผยโฉมโซลูชั่นล่าสุดเพื่อตอกย้ำความเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมการออกแบบงาน 3D ตลอดจนแอพพลิเคชั่นประกอบการใช้งาน ในเวอร์ชั่นล่าสุดภายใต้ชื่องาน ‘Autodesk Media & Entertainment (M&E) Launch’ นอกจากนี้ สาวกออโตเดสก์ยังได้ยลโฉมซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดที่เรียกว่า Autodesk ImageModeler และ Autodesk Stitcher ซึ่งออโตเดสก์ได้ซื้อกิจการมาเมื่อเร็วๆ นี้ จุดเด่นสำคัญอีกประการของงานเปิดตัวในวันนี้ ได้แก่ การเปิดตัวซอฟต์แวร์ Autodesk Maya 2009 เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งการเฉลิมฉลองอายุครบรอบ 10 ปีที่ซอฟต์แวร์ Maya เอง ซึ่งตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมาได้รับการต้อนรับและเป็นที่นิยมในหมู่กูรูเหล่านักออกแบบในวงการด้วยดีเสมอมา

คุณฉัตรชาญ สุทธิพิศาล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ออโตเดสก์ ประเทศไทย กล่าว “ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเพื่อการประมวลผล ก่อให้เกิดสภาวะการทำงานออกแบบบนรากฐานการประสานงาน และการหลอมรวมของข้อมูลหลากหลายแขนงได้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ ในสภาพแวดล้อมการรังสรรค์ผลงานแบบ 3D นั้น เราจะเห็นได้ว่าวิธีการทำงานประเภทภาพยนตร์ เกม และงานโทรทัศน์นั้นจะก้าวเข้าสู่รูปแบบการจำลองงานออกแบบให้เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น งานในรูปแบบดิจิตัลจึงก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในแวดวงอุตสาหกรรมบันเทิง และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมทั้งการพัฒนาโปรแกรมเกม หรือการสร้างสรรค์งานโทรทัศน์ มากขึ้นทุกที และได้พัฒนาต่อมาเป็นงานที่ต้องอาศัยพึ่งพาเทคโนโลยีระดับสูงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว”

ในงานเปิดตัว Autodesk M&E นี้ ทางออโตเดสก์พร้อมพันธมิตรคู่ค้าได้ตอกย้ำถึงพลังแห่งความเป็นผู้นำของออโตเดสก์ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สอดประสานเข้าสู่กระบวนการทำงานเชิงสร้างสรรค์ ยังประโยชน์ให้กูรู ศิลปิน นักออกแบบมีอิสระในการที่จะทดลอง และนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทุกอย่างเป็นเสมือนจริงได้ในโลกของดิจิตัล

ออโตเดสก์เล็งเห็นปัจจัยหลักสามประการที่ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตรุดหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายอุตสาหกรรมมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในประเทศไทย ปัจจัยที่หนึ่ง ได้แก่ การเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตงานด้วยการใช้โซลูชั่นครบวงจร แทนการใช้ซอฟท์แวร์แยกส่วนหลากหลายประเภท ปัจจัยต่อมา ได้แก่ การมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ โทรทัศน์ และเกม ด้วยมิดเดิ้ลแวร์ และปัจจัยสุดท้าย ได้แก่ การเปิดโอกาสมหาศาลผ่านการผนวกเอาเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่น (visualization) เข้าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการออกแบบของซอฟท์แวร์ CAD จนนำไปสู่การทำงานแบบร่วมมือประสานงานกันเป็นเนื้อเดียวระหว่างอุตสาหกรรมแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมการออกแบบงานสถาปัตยกรรม และได้นำไปสู่การใช้เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นอันทรงพลังในงานออกแบบ

กล่าวได้ว่า ออโตเดสก์ เป็นผู้นำในด้านโซลูชั่นการสร้างงานกราฟฟิก 3D งานวิช่วลเอฟเฟค และยังเป็นผู้นำแห่งโซลูชั่นสมบูรณ์แบบเพื่ออุตสาหกรรมมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สำหรับนำไปใช้ในประโยชน์เพื่อการก้าวหน้าของธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ออโตเดสก์ ยังเป็นบริษัทที่ได้รับรางวัลจากสถาบันชั้นนำของโลก อาทิ รางวัล US National Television Academy Awards (สร้างสรรค์งานโทรทัศน์แห่งอเมริกา) รางวัล the Scientific and Technical Academy Award (วิทยาศาสตร์และเทคนิคัลยอดเยี่ยม) และรางวัล the Game Developer Frontline Hall of Fame Award (สร้างสรรค์เกมยอดเยี่ยม)

โซลูชั่นล่าสุดสำหรับงานด้านมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์
การที่ออโตเดสก์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้ามั่นใจในโซลูชั่นที่ตนใช้งานว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เหนือกว่าคู่แข่งได้ตลอดเวลา และโซลูชั่นที่ออโตเดสก์ได้นำมาเปิดตัวในวันนี้ ล้วนเป็นโซลูชั่นในเวอร์ชั่นล่าสุดที่เหมาะสำหรับการออกแบบงานเกม งานโทรทัศน์ และงานภาพยนตร์ ตลอดจนรองรับอุตสาหกรรมที่ต้องการโซลูชั่นสำหรับงานออกแบบที่สร้างสรรค์ออกแบบให้ได้เสมือนจริงก่อนการผลิตทั้งสิ้น

โซลูชั่นทั้งหมดนี้ประกอบด้วย
– Autodesk 3ds Max และ Autodesk 3ds Max Design modeling, animation and rendering (สร้างแบบจำลอง อะนิเมชั่น และเรนเดอร์)
– Autodesk ImageModeler image-based modeling และ photogrammetry (สร้างแบบจำลองอิงภาพ)
– Autodesk Maya modeling, animation and rendering (สร้างแบบจำลอง อะนิเมชั่น และเรนเดอร์)
– Autodesk MotionBuilder 3D character animation (จำลองอากัปกิริยาการเคลื่อนไหวของตัวละคร)
– Autodesk Mudbox digital sculpting (ประติมากรรมดิจิตัล)
– Autodesk Stitcher (สร้างภาพพาโนรามาแสดงมุมกว้าง)
– Autodesk Toxik interactive, collaborative compositing (ประสานงานหลากหลายองค์ประกอบเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน)

เกี่ยวกับออโตเดสก์
ออโตเดสก์ อิงค์ เป็นผู้นำระดับโลกแห่งวงการซอฟท์แวร์เพื่อการออกแบบทั้งแบบ 2D และ 3D สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมก่อสร้างและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งอุตสาหกรรมมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตั้งแต่เปิดตัวซอฟท์แวร์ AutoCAD เมื่อปีพ.ศ. 2525 เป็นต้นมา ออโตเดสก์ได้พัฒนาโซลูชั่นหลากหลายรูปแบบการใช้งานเพื่อสนับสนุนการสร้างแบบจำลองดิจิตัลที่ทันสมัยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้โซลูชั่นของออโตเดสก์สามารถสัมผัสจินตนาการแห่งงานออกแบบของตนได้เสมือนจริงมากที่สุดก่อนสร้างจริง จะเห็นได้จากบริษัทกว่า 1,000 บริษัท ที่ติดอันดับฟอร์จูน นั้นต่างวางใจใช้ออโตเดสก์เป็นเครื่องมือในการช่วยงานออกแบบสร้างสรรค์ จำลองผลงานออกแบบ และวิเคราะห์การทำงานเสมือนจริงได้ตั้งแต่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบ เพื่อเป็นการประหยัดได้ทั้งเวลาและต้นทุน เน้นการเพิ่มคุณภาพและสร้างสรรค์งานนวัตกรรม ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นต่างๆ ของออโตเดสก์ได้ที่www.autodesk.com

ออโตเดสก์ ประเทศไทย โดยคุณฉัตรชาญ สุทธิไพศาล ผู้จัดการประจำประเทศไทย (ซ้าย) พร้อม ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน มร. เดนิส แบรนด์ธันน์ (ขวา) เปิดตัวออโต้เดสก์ สาขาประจำประเทศไทยที่เปิดตัวมาเพื่อรองรับตลาดที่เติบโตต่อเนื่องในประเทศไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากหลายกลุ่มผู้ใช้จากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง, งานผลิตอุตสาหกรรม, งานออกแบบอุตสาหกรรม เป็นต้น ทั้งนี้ ที่สำคัญ ออโต้เดสก์ต้องการที่จะดูแลให้บริการพาร์ตเนอร์ที่เป็นกำลังสนับสนุนการขยายตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยจะสนับสนุนทางด้านการฝึกอบรมทางเทคนิค การบริการเพื่อให้บริการลูกค้าผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ และการเข้าถึงผู้ใช้ได้อย่างตรงตามประสิทธิภาพการใช้งานของโซลูชั่นเพื่อการออกแบบดิจิตัลจากออโตเดสก์

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.autodesk.com