แม้จะมีคนพูดว่า Gen Z ‘ไม่ใช้’ อิโมจิอีกต่อไปแล้ว แต่ Tinder กลับพบว่า เกือบหนึ่งในสี่ของผู้ใช้แอปฯมีการใช้อิโมจิในประวัติส่วนตัว คือ กลุ่มผู้ใช้อายุ 18-25 ปี สะท้อนให้เห็นว่า แม้แนวโน้มการใช้อิโมจิอาจเปลี่ยนแปลงไป(เน้นล้อเลียน หรือแฝงความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ควรหลีกเลี่ยง หรือ ที่อาจถูกตีความหมายในด้านล้อเลียนมากเกินไป) แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอิโมจิยังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จากผลสำรวจภายในของ Tinder ทั่วโลก พบว่า 20% ข้อความแรกที่ส่งบนแอปฯ มักมีอิโมจิอย่างน้อยหนึ่งแบบ และเมื่อพูดถึงการใช้อิโมจิในประวัติส่วนตัว และส่งข้อความ ประเทศที่ใช้อิโมจิมากสุดในปี 2025 ได้แก่ ‘สหรัฐอเมริกา’, ‘บราซิล’, ‘เยอรมนี’, ‘ฝรั่งเศส’, ‘สเปน’ และ ‘สหราชอาณาจักร’

สำหรับในไทยอิโมจิยอดนิยมบนประวัติส่วนตัวในปี 2025 ได้แก่

– อิโมจิหน้าวิงวอน

– อิโมจิแสงวิบวับ

– อิโมจิหัวใจสีแดง

– อิโมจิหัวใจสีขาว

– อิโมจิสายรุ้ง

อิโมจิแต่ละตัวส่งสัญญาณต่างกัน

ขณะที่อิโมจิ , , และ มักพบได้บ่อยที่สุดในข้อความแรกบน Tinder ช่วยสร้างบรรยากาศสนทนาสนุกสนานและขี้เล่น แต่ก็มีอิโมจิบางรูปแบบที่ทำให้บทสนทนาจบลง หรือทำให้การสนทนาเงียบหายแบบไร้ร่องรอย

จากข้อมูลของ Tinder ระบุว่าอิโมจิบางตัวมักพบในข้อความก่อนที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะ ‘หายตัว’ หรือ ‘หยุดตอบข้อความโดยไม่บอกกล่าว’ สาเหตุที่เกิดขึ้นอาจมีการใช้ดังนี้

อิโมจิข่มอารมณ์ – รู้สึกหงุดหงิด

อิโมจิส่งจูบ – คลุมเครือ จะ Kiss? ผิวปาก? หรือยังไงกันแน่?

อิโมจินอนหลับ – สัญญาณที่บ่งบอกว่ามีคนเริ่มเบื่อ

อิโมจิไม่สบายใจ – ความรู้สึกอึดอัด มีบางอย่างเร็วเกินไป

อิโมจิหน้าวิงวอน – รู้สึกผูกพันทางอารมณ์ที่เร็วเกินไป

ข้อมูลภายในของ Tinder ระบุว่า การส่งอิโมจิ และ ในข้อความแรกสามารถลดโอกาสที่จะแลกข้อมูลติดต่อกันกับอีกฝ่ายได้เกือบครึ่ง ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายคิดเหมือนกัน อาจจะดีกว่าถ้าเก็บผักและผลไม้เหล่านี้ไว้ในลิสท์ซื้อของแทน

โดยเรื่องไม่เป็นเรื่องคราวนี้กลายเป็นเรื่องที่ถูกรีทวีตหลายหมื่นครั้งเมื่อมีผู้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับอิโมจิรูปเบอร์เกอร์ของแอปเปิล (Apple) กับอิโมจิรูปเบอร์เกอร์ของกูเกิลว่าใส่ชีสเอาไว้แตกต่างกัน โดยชีสในเบอร์เกอร์ของแอปเปิลนั้นสมจริงกว่าเพราะวางอยู่บนเนื้อบด แต่ชีสบนเบอร์เกอร์ของกูเกิลนั้นกลับผิดประหลาด เนื่องจากไปวางไว้ใต้เนื้อ

โดยโพสต์ดังกล่าวปรากฏอยู่ใน อิโมจิพีเดีย (emojipedia) ซึ่งผู้โพสต์ก็คือ โธมัส เบกเดล (Thomas Baekdal) พร้อมระบุด้วยว่า กูเกิลเป็นบริษัทเดียวที่ออกแบบอิโมจิรูปเบอร์เกอร์ในลักษณะที่วางเนื้อไว้บนชีสเช่นนี้ ซึ่งหลังจากทวีตไปนั้น เขาก็พบว่า มีผู้รักเบอร์เกอร์มากมายเข้ามาร่วมคอมเมนต์จนกลายเป็นที่สนุกสนาน และซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอกูเกิลก็ได้ออกมาบอกว่าจะหยุดทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหานี้ในวันจันทร์ พร้อมใส่รูปยิ้มด้วย

แน่นอนว่าถ้าปัญหานี้จบ สิ่งที่กูเกิลอาจสนใจแก้ไขเพิ่มเติมอาจเป็นอิโมจิรูปแก้วเบียร์นี้ ที่ก็ไม่สมจริงอีกเช่นกัน เมื่อเทียบกับอิโมจิจากค่ายแอปเปิล

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000110369

โดยอันดับที่ 1 ของอิโมจิที่มีการใช้งานมากที่สุดคือรูปคนหัวเราะจนน้ำตาไหล ซึ่งประเทศที่นิยมใช้อิโมจิตัวนี้มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอินโดนีเซีย

ส่วนอันดับที่รองลงมาคือภาพอิโมจิยิ้มจนตาเป็นรูปหัวใจ ประเทศที่นิยมใช้งานได้แก่ เม็กซิโก บราซิล

สำหรับประเทศไทย ก็ติดอันดับการใช้งานอิโมจิบนเฟซบุ๊กกับเขาเช่นกัน โดยภาพที่นิยมใช้มากที่สุดคือภาพอิโมจิยิ้มกว้างจนเห็นฟัน

อย่างไรก็ดี สำหรับเฟซบุ๊กไม่มีการเปิดเผยตัวเลขของการใช้งานมากับชาร์ตดังกล่าวด้วย

หันมาที่ทวิตเตอร์ (Twitter) ก็ได้ออกมาเปิดเผยอิโมจิที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มของตนเองเช่นกัน โดยตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือภาพหัวเราะจนน้ำตาไหลเช่นเดียวกัน

แต่สำหรับแพลตฟอร์มอย่างอินสตาแกรม ภาพอิโมจิที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือภาพหัวใจ

ส่วนทางแอปเปิล (Apple) นั้น เนื่องในวันอิโมจิ ก็ได้มีการเปิดตัวภาพอิโมจิใหม่ที่จะมาในระบบปฏิบัติการ iOS11 ที่จะเปิดตัวในช่วงใบไม้ร่วงปีนี้ด้วย ได้แก่ ภาพผู้ชายมีหนวดเครา, ภาพผู้หญิงสวมผ้าคลุมศีรษะ, ภาพหญิงกำลังให้นมลูก ภาพแซนวิช ภาพซอมบี้ ภาพทีเร็กซ์ ฯลฯ

ที่มา : http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000072880